ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

จงตื่นตัวที่จะให้คำชมเชย

จงตื่นตัวที่จะให้คำชมเชย

จง​ตื่น​ตัว​ที่​จะ​ให้​คำ​ชมเชย

คุณ​เคย​ได้​ยิน​ใคร​บ่น​ไหม​ว่า​นาย​จ้าง​ของ​เขา​ไม่​ค่อย​ชมเชย​เขา​เลย? บาง​ที​คุณ​เอง​เคย​บ่น​อย่าง​นั้น​ด้วย​ไหม? หรือ​ถ้า​คุณ​ยัง​เป็น​หนุ่ม​สาว คุณ​เคย​บ่น​อย่าง​นี้​เกี่ยว​กับ​พ่อ​แม่​หรือ​ครู​อาจารย์​ไหม?

บาง​ครั้ง​การ​บ่น​ใน​ทำนอง​นี้​อาจ​มี​เหตุ​ผล. แต่​ตาม​ความ​เห็น​ของ​ชาว​เยอรมัน​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ให้​การ​อบรม​ด้าน​การ​สร้าง​แรง​จูง​ใจ เมื่อ​พนักงาน​คน​หนึ่ง​บ่น สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เขา​ไม่​พอ​ใจ​ไม่​ใช่​เพราะ​เขา​ไม่​ได้​รับ​คำ​ชมเชย แต่​เป็น​เพราะ​เขา​ไม่​ได้​รับ​ความ​สนใจ​เป็น​ส่วน​ตัว​จาก​นาย​จ้าง. ไม่​ว่า​จะ​อย่าง​ไร​ก็​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​มี​บาง​อย่าง​ขาด​หาย​ไป. ทั้ง​การ​ชมเชย​และ​ความ​รู้สึก​ว่า​ได้​รับ​ความ​สนใจ​เป็น​ส่วน​ตัว​เป็น​สิ่ง​สำคัญ หาก​เรา​ต้องการ​มี​สัมพันธภาพ​ที่​น่า​พอ​ใจ​กับ​คน​อื่น ๆ.

ใน​เรื่อง​การ​นมัสการ​ก็​เช่น​กัน. ประชาคม​คริสเตียน​จำ​ต้อง​โดด​เด่น​ใน​เรื่อง​การ​ให้​คำ​ชมเชย, ความ​อบอุ่น, และ​ความ​สนใจ​เป็น​ส่วน​ตัว​ต่อ​กัน​และ​กัน. สมาชิก​ใน​ประชาคม​จะ​ทำ​ให้​เกิด​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​ดี​เช่น​นั้น​และ​รักษา​ไว้​ได้​โดย​ทำ​ตาม​คำ​ชี้​แนะ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​ว่า​ประชาคม​ของ​เรา​จะ​รัก​กัน​มาก​เพียง​ไร ก็​ยัง​มี​สิ่ง​ที่​จะ​ปรับ​ปรุง​ได้​เสมอ. โดย​คำนึง​ถึง​เรื่อง​นี้ ให้​เรา​พิจารณา​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​เยี่ยม​สาม​ตัว​อย่าง​ใน​เรื่อง​การ​ชมเชย คือ​อะลีฮู ผู้​รับใช้​พระเจ้า​ก่อน​ยุค​คริสเตียน, อัครสาวก​เปาโล, และ​พระ​เยซู​คริสต์​เอง.

คำ​แนะ​นำ​ที่​สุภาพ​และ​ให้​ความ​นับถือ

อะลีฮู ซึ่ง​ดู​เหมือน​ว่า​เป็น​ญาติ​ห่าง ๆ ของ​อับราฮาม มี​ส่วน​สำคัญ​มาก​ที​เดียว​ใน​การ​ช่วย​โยบ​ให้​มี​ทัศนะ​ที่​สมดุล​ใน​เรื่อง​สัมพันธภาพ​ของ​ท่าน​กับ​พระเจ้า. อะลีฮู​เป็น​คน​ที่​สุภาพ​และ​ให้​ความ​นับถือ​ผู้​อื่น. เขา​อด​ทน​คอย​จน​ถึง​คราว​ที่​ตน​จะ​พูด. และ​ขณะ​ที่​เพื่อน ๆ จอม​ปลอม​ของ​โยบ​พูด​ถึง​แต่​ข้อ​ผิด​พลาด​ของ​ท่าน อะลีฮู​กลับ​ให้​คำ​แนะ​นำ​และ​ไม่​รอ​ช้า​ที่​จะ​ให้​คำ​ชมเชย​แก่​โยบ​เพราะ​แนว​ทาง​ชีวิต​ที่​ซื่อ​ตรง​ของ​ท่าน. เขา​ทำ​เช่น​นั้น​อย่าง​อบอุ่น​และ​ด้วย​ความ​รู้สึก​สนใจ​เป็น​ส่วน​ตัว​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด​เสมือน​เป็น​เพื่อน โดย​เรียก​ชื่อ​ท่าน​ระหว่าง​การ​สนทนา​ซึ่ง​ต่าง​จาก​คน​อื่น ๆ. เขา​ขอร้อง​อย่าง​สุภาพ​ว่า “ท่าน​โยบ​เจ้าข้า, ข้า​ฯ ขอ​วิงวอน​ให้​ท่าน​ฟัง​คำ​กล่าว​ของ​ข้า​ฯ, และ​สดับ​ฟัง​คำ​พูด​ของ​ข้า​ฯ ให้​ตลอด.” เขา​แสดง​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​โยบ​ด้วย​ความ​นับถือ และ​ยอม​รับ​ว่า “นี่​แหละ, เฉพาะ​พระ​พักตร์​ของ​พระเจ้า, ข้า​ฯ ก็​เป็น​เช่น​เดียว​กัน​กับ​ท่าน; ข้า​ฯ ก็​ถูก​ทรง​สร้าง​มา​ด้วย​ดิน​ดุจ​กัน.” แล้ว​เขา​ก็​กล่าว​ชม​ท่าน​โยบ​ว่า “ถ้า​ท่าน​มี​อะไร​จะ​โต้​ตอบ​ข้าพเจ้า​ก็​พูด​มา​เถิด เพราะ​ข้าพเจ้า​ชื่น​ชอบ​ที่​ท่าน​เป็น​คน​ชอบธรรม.”—โยบ 33:1, 6, 32, ล.ม.

การ​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​อื่น​อย่าง​สุภาพ​และ​อย่าง​ที่​แสดง​ความ​นับถือ ใน​แง่​หนึ่ง​ก็​เหมือน​เป็น​การ​ชมเชย​พวก​เขา. แท้​จริง​แล้ว เรา​กำลัง​บอก​เขา​ว่า ‘ฉัน​ถือ​ว่า​คุณ​คู่​ควร​ที่​จะ​ได้​รับ​ความ​สนใจ​จาก​ฉัน​และ​คู่​ควร​ที่​จะ​ได้​รับ​การ​ปฏิบัติ​ด้วย​ความ​นับถือ.’ โดย​วิธี​นี้ เรา​จะ​ถ่ายทอด​ความ​รู้สึก​อบอุ่น​และ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เรา​สนใจ​เขา​เป็น​ส่วน​ตัว.

การ​เป็น​คน​สุภาพ​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​การ​ทำ​ตาม​หลัก​จรรยา​มารยาท​ที่​ดี​เท่า​นั้น. เพื่อ​จะ​เข้า​ถึง​หัวใจ​ผู้​อื่น ความ​สุภาพ​ของ​เรา​ต้อง​เป็น​แบบ​ที่​จริง​ใจ​และ​มา​จาก​หัวใจ. จะ​ต้อง​เป็น​ความ​สุภาพ​ที่​แสดง​ออก​ถึง​ความ​สนใจ​อย่าง​แท้​จริง​และ​ความ​รัก.

วิธี​ให้​คำ​ชมเชย​อย่าง​มี​ศิลปะ

อัครสาวก​เปาโล​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​มี​ศิลปะ​มี​ผล​ดี​อย่าง​ไร​เมื่อ​ให้​คำ​ชมเชย​ผู้​อื่น. ตัว​อย่าง​เช่น ขณะ​กำลัง​ประกาศ​อยู่​ใน​เอเธนส์​ระหว่าง​การ​เดิน​ทาง​ฐานะ​มิชชันนารี​รอบ​ที่​สอง ท่าน​ได้​กล่าว​ปก​ป้อง​ศาสนา​คริสเตียน​ต่อ​หน้า​นัก​ปรัชญา​ชาว​กรีก​บาง​คน. ขอ​ให้​สังเกต​ว่า​ท่าน​ทำ​งาน​มอบหมาย​ที่​ยาก​นี้​อย่าง​มี​ศิลปะ​อย่าง​ไร. “นัก​ปราชญ์​บาง​คน​ใน​พวก​เอปีกูเรียว​และ​ใน​พวก​ซะโตอิก​ได้​มา​พบ​กับ​ท่าน. บาง​คน​กล่าว​ว่า, ‘คน​เก็บ​เดน​ความ​รู้​เล็ก ๆ น้อย ๆ อย่าง​นี้​จะ​ใคร่​มา​พูด​อะไร​ให้​เรา​ฟัง​อีก​เล่า.’ บาง​คน​กล่าว​ว่า, ‘ดู​เหมือน​เขา​เป็น​คน​นำ​พระ​ต่าง​ประเทศ​เข้า​มา.’ ” (กิจการ 17:18) แม้​จะ​มี​คน​พูด​เช่น​นั้น แต่​เปาโล​ก็​ยัง​รักษา​ท่าที​ที่​สงบ และ​ตอบ​ว่า “พวก​ท่าน​ชาว​เอเธนส์​ทั้ง​หลาย จาก​สิ่ง​ทั้ง​ปวง ข้าพเจ้า​เห็น​ว่า พวก​ท่าน​ดู​เหมือน​เกรง​กลัว​เหล่า​เทพเจ้า​ยิ่ง​กว่า​คน​อื่น.” แทน​ที่​เปาโล​จะ​ตำหนิ​ที่​พวก​เขา​ไหว้​รูป​เคารพ ท่าน​กลับ​ชมเชย​ที่​พวก​เขา​เป็น​คน​เลื่อมใส​ศาสนา.—กิจการ 17:22, ล.ม.

เปาโล​เป็น​คน​เสแสร้ง​ไหม? เปล่า​เลย. ท่าน​ทราบ​ว่า​ไม่​ใช่​หน้า​ที่​ของ​ท่าน​ที่​จะ​ตัดสิน​ผู้​ฟัง​ของ​ท่าน ท่าน​ทราบ​ดี​ว่า​ตัว​ท่าน​เอง​ก็​เคย​ไม่​รู้​จัก​ความ​จริง​มา​ก่อน. งาน​ที่​ท่าน​ได้​รับ​มอบหมาย​คือ​การ​เสนอ​ข่าวสาร​จาก​พระเจ้า ไม่​ใช่​ตัดสิน​ผู้​อื่น. จาก​ประสบการณ์​ของ​ท่าน ท่าน​ทราบ​สิ่ง​เดียว​กับ​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​หลาย​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​ได้​ทราบ นั่น​คือ ใน​ที่​สุด​บาง​คน​ซึ่ง​เคย​ปก​ป้อง​ศาสนา​เท็จ​อย่าง​จริง​ใจ​ก็​กลาย​มา​เป็น​ผู้​ปก​ป้อง​ศาสนา​แท้​ที่​แข็งขัน​ที่​สุด.

วิธี​ของ​เปาโล​ใช้​ได้​ผล และ​ก่อ​ผล​ที่​ดี​เยี่ยม. “มี​ลาง​คน​ติด​ตาม​เปาโล​ไป​และ​ได้​เชื่อถือ ใน​คน​เหล่า​นั้น​มี​ดิโอนุเซียว​ผู้​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​กรรมการ​ของ​ศาลา​กลาง​บน​เขา​อาเรียว​กับ​หญิง​คน​หนึ่ง​ชื่อ​ดะมารี และ​คน​อื่น ๆ ด้วย.” (กิจการ 17:34) ช่าง​ฉลาด​สุขุม​เพียง​ไร​ที่​เปาโล​ชมเชย​ชาว​เอเธนส์​สำหรับ​ความ​เชื่อ​ที่​จริง​ใจ​ของ​พวก​เขา แม้​จะ​เป็น​ความ​เชื่อ​แบบ​ผิด ๆ แทน​ที่​จะ​ตำหนิ​ที่​พวก​เขา​ขาด​ความ​รู้​ถ่องแท้! บ่อย​ครั้ง​คน​ที่​ถูก​นำ​ไป​ผิด​ทาง​เพราะ​ข้อมูล​ผิด ๆ เป็น​คน​ที่​มี​หัวใจ​ดี.

เมื่อ​เปาโล​ถูก​เรียก​ไป​ให้​การ​ต่อ​หน้า​เฮโรด​อะฆะริปา​ที่ 2 ท่าน​ก็​ใช้​วิธี​ที่​มี​ศิลปะ​เช่น​กัน. เป็น​ที่​รู้​กัน​ดี​ว่า​เฮโรด​มี​สัมพันธ์​สวาท​กับ​เบระนิเก​พระ​ขนิษฐา​ของ​ตน​เอง ซึ่ง​เป็น​สิ่ง​ที่​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ตำหนิ​อย่าง​ชัดเจน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เปาโล​ไม่​ได้​พูด​ติเตียน​เขา​แม้​แต่​คำ​เดียว. แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น ท่าน​หา​ทาง​ชมเชย​เฮโรด​ใน​เรื่อง​ที่​เห็น​ว่า​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​ชม. “ท่าน​กษัตริย์​อะฆะริปา​เจ้าข้า, ข้าพเจ้า​ถือ​ว่า​เป็น​ลาภ​ใหญ่​ที่​ได้​โอกาส​แก้​คดี​ต่อ​พักตร์​ท่าน​วัน​นี้ ใน​เรื่อง​ข้อ​คดี​ทั้ง​ปวง​ซึ่ง​พวก​ยูดาย​ฟ้อง​หา​ข้าพเจ้า​นั้น เพราะ​ท่าน​มี​ความ​รู้​ชำนาญ​ใน​บรรดา​ขนบธรรมเนียม​และ​ปัญหา​ต่าง ๆ ของ​พวก​ยูดาย​โดย​ถ้วนถี่​แล้ว.”—กิจการ 26:1-3.

นับ​ว่า​ฉลาด​สุขุม​เพียง​ไร​ที่​เรา​จะ​ใช้​วิธี​ที่​มี​ศิลปะ​คล้าย ๆ กัน​เมื่อ​เรา​ติด​ต่อ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​คน​อื่น! การ​ชมเชย​เพื่อน​บ้าน, เพื่อน​นัก​เรียน, หรือ​เพื่อน​ร่วม​งาน​สามารถ​ส่ง​เสริม​ความ​สัมพันธ์​ที่​สงบ​สุข​และ​เสริม​สร้าง​ลักษณะ​นิสัย​ที่​ดี. โดย​เข้า​ถึง​หัวใจ​ด้วย​การ​ให้​คำ​ชมเชย​อย่าง​ที่​เขา​สม​ควร​ได้​รับ บาง​ครั้ง​เรา​อาจ​กระตุ้น​คน​ที่​จริง​ใจ​ซึ่ง​เคย​หา​เหตุ​ผล​อย่าง​ผิด ๆ และ​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​ถูก​ต้อง ให้​หัน​มา​ทำ​สิ่ง​ที่​ประสาน​กับ​ความ​รู้​ที่​ถูก​ต้อง​ได้.

ตัว​อย่าง​อัน​สมบูรณ์​ของ​พระ​เยซู​ใน​การ​ให้​คำ​ชมเชย

พระ​เยซู​ทรง​ให้​คำ​ชมเชย. ตัว​อย่าง​เช่น หลัง​จาก​พระองค์​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์​และ​เสด็จ​สู่​สวรรค์​แล้ว พระองค์​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระเจ้า​ให้​ตรัส​กับ​ประชาคม​ทั้ง​เจ็ด​ใน​เอเชีย​น้อย​ผ่าน​ทาง​อัครสาวก​โยฮัน. พระองค์​ให้​คำ​ชมเชย​แก่​ผู้​ที่​สม​ควร​ได้​รับ​เสมอ. เมื่อ​ตรัส​กับ​ประชาคม​เอเฟโซส์, เปอร์กาโมส์, และ​ทิอาทิรา พระองค์​ทรง​ใช้​คำ​พูด​อย่าง​นี้: “เรา​รู้​จัก​กิจการ​ของ​เจ้า​กับ​ทั้ง​การ​เหน็ด​เหนื่อย​และ​ความ​เพียร​ของ​เจ้า, และ​ซึ่ง​เจ้า​ทน​ต่อ​ทุรชน​เหล่า​นั้น​ไม่​ได้,” “เรา​รู้​ว่า​เจ้า​ถือ​นาม​ของ​เรา​ไว้​มั่น. หา​ได้​ปฏิเสธ​ความ​เชื่อ​ใน​เรา​ไม่,” และ “เรา​รู้​จัก​กิจการ​ของ​เจ้า​กับ​ความ​รัก​และ​ความ​เชื่อ​และ​การ​ปรนนิบัติ​กับ​ความ​เพียร, และ​รู้​ว่า​การ​เบื้อง​ปลาย​ของ​เจ้า​ก็​มาก​กว่า​การ​เบื้อง​ต้น.” แม้​แต่​ประชาคม​ซาร์ดิส​ซึ่ง​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​คำ​แนะ​นำ​อย่าง​หนักแน่น พระ​เยซู​ก็​ทรง​สังเกต​ดู​เป็น​ราย​บุคคล​ว่า​มี​ใคร​คู่​ควร​กับ​คำ​ชมเชย​บ้าง ดัง​ที่​ตรัส​ว่า “แต่​มี​พวก​เจ้า​บาง​คน​ใน​เมือง​ซาร์ดิส​ที่​ไม่​ได้​ทำ​เสื้อ​คลุม​ของ​ตน​ให้​มี​มลทิน และ​พวก​เขา​จะ​เดิน​ไป​กับ​เรา​โดย​สวม​เสื้อ​คลุม​สี​ขาว เพราะ​พวก​เขา​คู่​ควร​จะ​ทำ​เช่น​นั้น.” (วิวรณ์ 2:2, 13, 19; 3:4, ล.ม.) พระ​เยซู​ทรง​วาง​แบบ​อย่าง​ที่​ดี​เยี่ยม​จริง ๆ!

เพื่อ​จะ​เลียน​แบบ​พระ​เยซู เรา​ไม่​ควร​กล่าว​โทษ​คน​ทั้ง​กลุ่ม​เนื่อง​จาก​ความ​ผิด​พลาด​ของ​บาง​คน หรือ​ให้​แต่​คำ​แนะ​นำ​ตาม​ที่​จำเป็น​โดย​ไม่​ให้​คำ​ชมเชย​อย่าง​เหมาะ​สม. อย่าง​ไร​ก็​ตาม นับ​ว่า​ดี​ที่​จะ​จำ​ไว้​เสมอ​ว่า หาก​เรา​ให้​คำ​ชม​เฉพาะ​เมื่อ​เรา​ต้องการ​จะ​ให้​คำ​แนะ​นำ​เท่า​นั้น บาง​ครั้ง​คำ​ชม​ของ​เรา​อาจ​ไม่​ได้​รับ​การ​ใส่​ใจ. จง​ให้​คำ​ชมเชย​อย่าง​ไม่​อั้น​เมื่อ​ไร​ก็​ตาม​ที่​เป็น​ไป​ได้! แล้ว​เมื่อ​มี​ความ​จำเป็น​ต้อง​ให้​คำ​แนะ​นำ​ใน​โอกาส​อื่น คำ​แนะ​นำ​นั้น​ก็​จะ​ได้​รับ​การ​ตอบรับ​ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ​ยิ่ง​ขึ้น.

ผู้​ปกครอง​ที่​ให้​คำ​ชมเชย​อย่าง​เหมาะ​สม

คอร์เนเลีย สตรี​คริสเตียน​ซึ่ง​ปัจจุบัน​รับใช้​อยู่​ที่​สำนักงาน​สาขา​แห่ง​หนึ่ง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ยุโรป จำ​ได้​ว่า​เมื่อ​ต้น​ทศวรรษ 1970 ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​ที่​มา​เยี่ยม​ถาม​เธอ​ว่า​การ​ศึกษา​ส่วน​ตัว​และ​การ​อ่าน​วารสาร​ของ​เธอ​เป็น​อย่าง​ไร​บ้าง. เธอ​บอก​ว่า “ดิฉัน​รู้สึก​อาย​อยู่​เหมือน​กัน.” แต่​เธอ​ก็​ยอม​รับ​กับ​เขา​ว่า​เธอ​ไม่​สามารถ​จะ​อ่าน​เรื่อง​ที่​ลง​ใน​วารสาร​ได้​ทุก​บทความ. เธอ​เล่า​ว่า “แทน​ที่​จะ​ตำหนิ​ดิฉัน เขา​กลับ​ชมเชย​ที่​ดิฉัน​อ่าน​ได้​มาก​เท่า​ที่​ทำ​อยู่. คำ​ชม​ของ​เขา​ทำ​ให้​ดิฉัน​รู้สึก​มี​กำลังใจ​มาก และ​นับ​แต่​นั้น​ดิฉัน​ก็​ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​จะ​อ่าน​ให้​ครบ​ทุก​บทความ.”

เรย์ ซึ่ง​รับใช้​อยู่​ที่​สำนักงาน​สาขา​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ยุโรป​นึก​ถึง​ตอน​ที่​เขา​เป็น​ไพโอเนียร์​วัน​แรก. ผู้​ดู​แล​ผู้​เป็น​ประธาน​ของ​ประชาคม​ซึ่ง​ทำ​งาน​เต็ม​เวลา​และ​ต้อง​ดู​แล​ครอบครัว อีก​ทั้ง​มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​หลาย​อย่าง​ใน​ประชาคม เข้า​มา​หอ​ประชุม​ใน​เย็น​วัน​นั้น​และ​ตรง​เข้า​มา​หา​เรย์​แล้ว​ถาม​ว่า “การ​เป็น​ไพโอเนียร์​วัน​แรก​เป็น​อย่าง​ไร​บ้าง?” ตอน​นี้ เวลา​ผ่าน​มา​เกือบ 60 ปี​แล้ว แต่​เรย์​ก็​ยัง​ไม่​ลืม​ความ​ใส่​ใจ​ที่​ผู้​ปกครอง​คน​นี้​มี​ต่อ​เขา.

สอง​ตัว​อย่าง​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า สิ่ง​ซึ่ง​ก่อ​ผล​ที่​น่า​ทึ่ง คือ​คำ​พูด​ที่​แสดง​ความ​หยั่ง​รู้​ค่า​ต่อ​สิ่ง​ที่​คน​อื่น​ทำ ซึ่ง​เป็น​คำ​พูด​ที่​จริง​ใจ​และ​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก ไม่​ใช่​คำ​พูด​แบบ​อัตโนมัติ หรือ​คำ​ยกยอปอปั้น​ที่​ไร้​ความ​หมาย. ใน​ประชาคม​คริสเตียน เรา​มี​เหตุ​ผล​มาก​มาย​ที่​จะ​ชมเชย​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา. เรา​อาจ​ชมเชย​ที่​พวก​เขา​มี​ความ​ปรารถนา​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา, ให้​ความ​คิด​เห็น​ที่​เตรียม​อย่าง​ดี, ก้าว​หน้า​ใน​การ​เอา​ชนะ​ความ​ตื่น​กลัว​เมื่อ​ต้อง​ขึ้น​บรรยาย​หรือ​ทำ​ส่วน​บน​เวที, มี​ใจ​แรง​กล้า​ใน​งาน​ประกาศ​และ​สั่ง​สอน, และ​พยายาม​ให้​ความ​สำคัญ​กับ​ผล​ประโยชน์​ของ​ราชอาณาจักร​และ​เป้าหมาย​ฝ่าย​วิญญาณ​เป็น​อันดับ​แรก. เมื่อ​เรา​ให้​คำ​ชมเชย​แก่​ผู้​อื่น เรา​ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน​มาก​มาย. การ​ทำ​เช่น​นั้น​ทำ​ให้​เรา​มี​ความ​สุข​และ​ช่วย​ให้​เรา​มอง​สิ่ง​ต่าง ๆ ใน​แง่​ดี.—กิจการ 20:​35.

ผู้​ปกครอง​ของ​ประชาคม​ควร​ชมเชย​ประชาคม​สำหรับ​การ​งาน​ที่​ได้​ทำ​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง. และ​เมื่อ​จำเป็น​ต้อง​ให้​คำ​แนะ​นำ พวก​เขา​จะ​ให้​ด้วย​ความ​รัก. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง พวก​เขา​หลีก​เลี่ยง​การ​เป็น​ห่วง​มาก​เกิน​ไป​ว่า​จะ​ต้อง​ทำ​ทุก​สิ่ง​ให้​สมบูรณ์​พร้อม​จน​มอง​ว่า​สิ่ง​ใด​ก็​ตาม​ที่​ไม่​สมบูรณ์​พร้อม​เป็น​ความ​บกพร่อง​ร้ายแรง.

ผู้​ปกครอง​คริสเตียน​ที่​เลียน​แบบ​ความ​กรุณา​อย่าง​ที่​แสดง​ความ​นับถือ​และ​ความ​รัก​ของ​อะลีฮู, วิธี​ที่​มี​ศิลปะ​ซึ่ง​เปาโล​ใช้, และ​ความ​ห่วงใย​ด้วย​ความ​รัก​ของ​พระ​เยซู​จะ​เป็น​แหล่ง​แห่ง​การ​หนุน​ใจ​แท้​แก่​พวก​พี่​น้อง. การ​ชมเชย​จะ​หนุน​ใจ​คน​อื่น​ให้​แสดง​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ออก​มา​มาก​ขึ้น และ​จะ​ทำ​ให้​มี​ความ​สัมพันธ์​ที่​มี​ความ​สุข​และ​ราบรื่น​ระหว่าง​กัน. เมื่อ​พระ​เยซู​ทรง​รับ​บัพติสมา พระองค์​คง​ต้อง​มี​ความ​ยินดี​มาก​เพียง​ไร​เมื่อ​ได้​ยิน​พระ​บิดา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​ตรัส​ชมเชย​พระองค์​ว่า “ท่าน​เป็น​บุตร​ที่​รัก​ของ​เรา, เรา​ชอบ​ใจ​ท่าน​มาก”! (มาระโก 1:11) ขอ​ให้​เรา​ทำ​ให้​ใจ​ของ​พี่​น้อง​มี​ความ​ยินดี​ด้วย​คำ​พูด​ชมเชย​ที่​จริง​ใจ​และ​มี​ความ​หมาย​ของ​เรา.

[ภาพ​หน้า 15]

วิธี​ที่​มี​ศิลปะ​ทำ​ให้​เปาโล​ได้​รับ​ผล​ดี วิธี​นี้​จึง​อาจ​ให้​ผล​ดี​แก่​เรา​เช่น​กัน

[ภาพ​หน้า 16]

คำ​ชมเชย​ที่​อบอุ่น​และ​จริง​ใจ​อาจ​ก่อ​ผล​ที่​น่า​ทึ่ง