ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

บทความที่หายไปของจอห์น มิลตัน

บทความที่หายไปของจอห์น มิลตัน

บทความ​ที่​หาย​ไป​ของ​จอห์น มิลตัน

มี​นัก​เขียน​น้อย​คน​ที่​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​โลก​รอบ​ตัว​ได้​มาก​เท่า​กับ​จอห์น มิลตัน ผู้​ประพันธ์​บท​กวี​มหา​กาพย์​เรื่อง อุทยาน​ที่​สูญ​เสีย​ไป (ภาษา​อังกฤษ). ตาม​คำ​กล่าว​ของ​นัก​เขียน​ชีวประวัติ​คน​หนึ่ง มิลตัน “มี​คน​รักใคร่​มาก​มาย, มี​คน​เกลียด​อยู่​บ้าง, แต่​มี​น้อย​คน​ที่​ไม่​รู้​จัก​เขา.” จวบ​จน​ทุก​วัน​นี้ วรรณกรรม​และ​วัฒนธรรม​อังกฤษ​เป็น​หนี้​ผล​งาน​ของ​เขา​อยู่​มาก​ที​เดียว.

ทำไม​จอห์น มิลตัน​จึง​มี​อิทธิพล​มาก​ขนาด​นั้น? อะไร​ทำ​ให้​ผล​งาน​ชิ้น​สุด​ท้าย​ของ​เขา​ที่​ชื่อ​ว่า​ด้วย​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน (ภาษา​อังกฤษ) เป็น​ที่​ถกเถียง​อย่าง​มาก​จน​ไม่​ได้​ตี​พิมพ์​เป็น​เวลา 150 ปี?

ชีวิต​วัย​เยาว์​ของ​เขา

จอห์น มิลตัน เกิด​ใน​ครอบครัว​ของ​ผู้​มี​อัน​จะ​กิน​ใน​กรุง​ลอนดอน ใน​ปี 1608. มิลตัน​เล่า​ว่า “บิดา​ของ​ข้าพเจ้า​เตรียม​ข้าพเจ้า​ไว้​ตั้ง​แต่​ยัง​เล็ก​เพื่อ​จะ​ให้​เล่า​เรียน​ด้าน​วรรณ​ศิลป์ ซึ่ง​ข้าพเจ้า​เอง​ก็​สนใจ​เป็น​อย่าง​มาก ถึง​ขนาด​ที่​ตั้ง​แต่​อายุ​สิบ​สอง​ขวบ ข้าพเจ้า​แทบ​ไม่​เคย​ได้​เข้า​นอน​ก่อน​เที่ยง​คืน​เลย.” มิลตัน​เรียน​เก่ง​มาก​และ​ได้​รับ​ปริญญา​โท​จาก​เคมบริดจ์​ใน​ปี 1632. หลัง​จาก​นั้น เขา​ก็​อ่าน​หนังสือ​ประวัติศาสตร์​และ​วรรณกรรม​กรีก​และ​โรมัน​ต่อ​มา​เรื่อย ๆ.

มิลตัน​ต้องการ​จะ​เป็น​กวี แต่​อังกฤษ​ใน​สมัย​นั้น​กำลัง​อยู่​ใน​ช่วง​ที่​ปั่นป่วน​วุ่นวาย​เนื่อง​จาก​การ​ปฏิวัติ. รัฐสภา​ซึ่ง​นำ​โดย​โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ ได้​แต่ง​ตั้ง​ศาล​หนึ่ง​ขึ้น​ซึ่ง​ตัดสิน​สำเร็จ​โทษ​กษัตริย์​ชาลส์​ที่ 1 ใน​ปี 1649. โดย​ใช้​บท​กวี​ที่​ดึงดูด​ใจ มิลตัน​ปก​ป้อง​การ​กระทำ​ดัง​กล่าว​และ​ได้​กลาย​เป็น​โฆษก​ให้​กับ​รัฐบาล​ของ​ครอมเวลล์. ที่​จริง ก่อน​ที่​จะ​มี​ชื่อเสียง​ฐานะ​กวี จอห์น มิลตัน​ก็​โด่งดัง​อยู่​แล้ว​เนื่อง​จาก​ใบ​ปลิว​ที่​เขา​เขียน​เกี่ยว​กับ​การ​เมือง​และ​ศีลธรรม.

หลัง​จาก​ระบอบ​กษัตริย์​ได้​รับ​การ​ฟื้นฟู​ด้วย​การ​ราชาภิเษก​กษัตริย์​ชาลส์​ที่ 2 ใน​ปี 1660 ความ​สัมพันธ์​ของ​เขา​กับ​ครอมเวลล์​ก็​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​เขา​ตก​อยู่​ใน​อันตราย. มิลตัน​หนี​ไป​หลบ​ซ่อน และ​เป็น​เพราะ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​เพื่อน​ฝูง​ที่​มี​อิทธิพล​เท่า​นั้น​ที่​ทำ​ให้​เขา​รอด​พ้น​ความ​ตาย​มา​ได้. ตลอด​เวลา​ดัง​กล่าว เขา​ยัง​คง​รักษา​ความ​สนใจ​ใน​ศาสนา​ไว้​เสมอ.

“มาตรฐาน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล”

มิลตัน​เขียน​อธิบาย​เรื่อง​ความ​สนใจ​ที่​เขา​มี​ต่อ​ศาสนา​ใน​ช่วง​เริ่ม​ต้น​ไว้​ดัง​นี้: “ข้าพเจ้า​เริ่ม​จาก​การ​ทุ่มเท​ตัว​กับ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​พันธสัญญา​เดิม​และ​พันธสัญญา​ใหม่​ใน​ภาษา​เดิม​ตั้ง​แต่​เป็น​เด็ก.” มิลตัน​ถือ​ว่า​พระ​คัมภีร์​บริสุทธิ์​เป็น​คู่มือ​ที่​เชื่อถือ​ได้​เพียง​แหล่ง​เดียว​ใน​เรื่อง​ศีลธรรม​และ​ศาสนา. อย่าง​ไร​ก็​ตาม เมื่อ​ได้​ศึกษา​งาน​เขียน​ทาง​เทววิทยา​ซึ่ง​เป็น​ที่​ยอม​รับ​กัน​ใน​สมัย​นั้น เขา​ก็​ผิด​หวัง​อย่าง​สิ้นเชิง. เขา​ได้​เขียน​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ว่า “ข้าพเจ้า​คิด​ว่า​ข้าพเจ้า​ไม่​อาจ​จะ​ฝาก​ความ​เชื่อ​หรือ​ความ​หวัง​ใน​เรื่อง​ความ​รอด​ไว้​กับ​แหล่ง​ชี้​แนะ​เหล่า​นั้น​ได้.” ด้วย​ความ​มุ่ง​มั่น​ที่​จะ​เทียบ​ดู​ความ​เชื่อ​ของ​ตน “กับ​มาตรฐาน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล” อย่าง​เคร่งครัด มิลตัน​จึง​เริ่ม​ทำ​รายการ​ข้อ​คัมภีร์​ที่​เขา​คิด​ว่า​สำคัญ​และ​จัด​เป็น​หมวด​หมู่​ตาม​หัวเรื่อง​ทั่ว ๆ ไป แล้ว​นำ​ข้อ​พระ​คัมภีร์​ใน​รายการ​เหล่า​นี้​ไป​ใช้​อ้างอิง.

ปัจจุบัน จอห์น มิลตัน เป็น​ที่​รู้​จัก​มาก​ที่​สุด​จาก​บท​ประพันธ์​เรื่อง​อุทยาน​ที่​สูญ​เสีย​ไป ซึ่ง​เป็น​บท​กวี​ที่​เล่า​เรื่อง​ราว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​การ​สูญ​เสีย​ความ​สมบูรณ์​ของ​มนุษย์. (เยเนซิศ บท​ที่ 3) งาน​ประพันธ์​ดัง​กล่าว​ซึ่ง​ตี​พิมพ์​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​ปี 1667 เป็น​ผล​งาน​หลัก​ที่​สร้าง​ชื่อ​ให้​กับ​มิลตัน โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​กลุ่ม​ประเทศ​ที่​พูด​ภาษา​อังกฤษ. หลัง​จาก​นั้น เขา​ได้​พิมพ์​ภาค​ต่อ​ที่​ชื่อ​ว่า​อุทยาน​ที่​ได้​กลับ​คืน​มา (ภาษา​อังกฤษ). บท​กวี​เหล่า​นี้​พูด​ถึง​พระ​ประสงค์​แรก​เดิม​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​มนุษย์ คือ​ให้​พวก​เขา​มี​ชีวิต​ที่​สมบูรณ์​อยู่​ใน​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก และ​ยัง​ชี้​ว่า​พระเจ้า​จะ​ฟื้นฟู​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก​โดย​ทาง​พระ​คริสต์. ตัว​อย่าง​เช่น ใน​อุทยาน​ที่​สูญ​เสีย​ไป อัครทูตสวรรค์​มิคาเอล​บอก​ล่วง​หน้า​ถึง​เวลา​ที่​พระ​คริสต์​จะ “ตอบ​แทน​แก่​ผู้​ซื่อ​สัตย์ และ​รับ​พวก​เขา​เข้า​สู่​ความ​สุข​ไม่​รู้​สิ้น​สุด ไม่​ว่า​จะ​ใน​สวรรค์​หรือ​บน​แผ่นดิน​โลก เพราะ​ใน​เวลา​นั้น​ทั่ว​ทั้ง​แผ่นดิน​โลก​จะ​เป็น​อุทยาน จะ​เป็น​ที่​ที่​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​เอเดน​มาก และ​เป็น​สมัย​ที่​มี​ความ​สุข​กว่า​มาก.”

ว่า​ด้วย​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน

เป็น​เวลา​หลาย​ปี​ที่​มิลตัน​ต้องการ​จะ​เขียน​หนังสือ​ที่​พูด​ถึง​ชีวิต​และ​หลัก​คำ​สอน​ของ​คริสเตียน​โดย​ละเอียด. แม้​ว่า​เมื่อ​ถึง​ปี 1652 เขา​จะ​มี​ดวง​ตา​ที่​บอด​สนิท แต่​เขา​ก็​พยายาม​อย่าง​หนัก​เพื่อ​จะ​เขียน​หนังสือ​เล่ม​นี้​ด้วย​การ​ช่วยเหลือ​ของ​เลขานุการ​หลาย​คน จน​กระทั่ง​เสีย​ชีวิต​ใน​ปี 1674. มิลตัน​ตั้ง​ชื่อ​ผล​งาน​ชิ้น​สุด​ท้าย​ของ​เขา​ว่า บทความ​ว่า​ด้วย​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน​ซึ่ง​รวบ​รวม​จาก​พระ​คัมภีร์​บริสุทธิ์​เพียง​แหล่ง​เดียว. ใน​คำนำ​เขา​เขียน​ว่า “นัก​ประพันธ์​หลาย​คน​ที่​เคย​เขียน​เรื่อง​นี้ . . . เพียง​แต่​ยก​ข้อ​คัมภีร์​ทั้ง​หมด​ที่​พวก​เขา​ใช้​สอน​มา​ไว้​ที่​ช่อง​ว่าง​ริม​หน้า โดย​อ้าง​ถึง​บท​และ​ข้อ​เพียง​สั้น ๆ. แต่​ข้าพเจ้า​ได้​พยายาม​บรรจุ​ข้อ​ความ​จาก​ทุก​ส่วน​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ไว้​จน​เต็ม​หน้า​กระดาษ กระทั่ง​ล้น​ขอบ​กระดาษ​ด้วย​ซ้ำ.” เป็น​อย่าง​ที่​มิลตัน​บอก​จริง ๆ บทความ​ว่า​ด้วย​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน ได้​อ้าง​ถึง​หรือ​ยก​ข้อ​คัมภีร์​มา​กล่าว​มาก​กว่า 9,000 ครั้ง.

ถึง​แม้​ว่า​ก่อน​หน้า​นี้​มิลตัน​ไม่​เคย​ลังเล​ที่​จะ​แสดง​ทัศนะ​ของ​ตน แต่​เขา​ก็​ยัง​ไม่​ตี​พิมพ์​บทความ​นี้​เสีย​ที. เพราะ​เหตุ​ใด? เหตุ​ผล​หนึ่ง​คือ เขา​ทราบ​ว่า​คำ​อธิบาย​ข้อ​คัมภีร์​ใน​บทความ​ของ​เขา​แตกต่าง​มาก​จาก​คำ​สอน​ของ​โบสถ์​ซึ่ง​เป็น​ที่​ยอม​รับ​กัน. นอก​จาก​นั้น เมื่อ​มี​การ​ฟื้นฟู​ระบอบ​กษัตริย์​แล้ว มิลตัน​ก็​ไม่​เป็น​ที่​นิยม​ชม​ชอบ​ของ​รัฐบาล​อีก​ต่อ​ไป. ฉะนั้น จึง​เป็น​ไป​ได้​ว่า​เขา​กำลัง​รอ​เวลา​ที่​สงบ​กว่า​นี้. ไม่​ว่า​จะ​อย่าง​ไร หลัง​จาก​ที่​มิลตัน​เสีย​ชีวิต​ลง เลขานุการ​ของ​เขา​ก็​ได้​นำ​ต้น​ฉบับ​ภาษา​ละติน​ไป​ให้​สำนัก​พิมพ์​แห่ง​หนึ่ง แต่​สำนัก​พิมพ์​นั้น​ปฏิเสธ​ที่​จะ​ตี​พิมพ์. รัฐมนตรี​คน​หนึ่ง​ของ​อังกฤษ​ใน​เวลา​นั้น​ได้​ยึด​สำเนา​ต้น​ฉบับ​ไป​เก็บ​ไว้. เวลา​ผ่าน​ไป​ศตวรรษ​ครึ่ง​ก่อน​จะ​มี​การ​ค้น​พบ​บทความ​ของ​มิลตัน.

ใน​ปี 1823 เสมียน​ของ​ที่​เก็บ​เอกสาร​นั้น​ได้​พบ​ห่อ​กระดาษ​ที่​มี​ต้น​ฉบับ​ของ​กวี​ชื่อ​ดัง​ผู้​นี้​เข้า​โดย​บังเอิญ. ผู้​ปกครอง​อังกฤษ​ใน​สมัย​นั้น​คือ​กษัตริย์​จอร์จ​ที่ 4 ได้​มี​ราชโองการ​ให้​แปล​ผล​งาน​ดัง​กล่าว​ซึ่ง​เป็น​ภาษา​ละติน​และ​เผยแพร่​แก่​สาธารณชน. เมื่อ​ต้น​ฉบับ​ดัง​กล่าว​ได้​รับ​การ​ตี​พิมพ์​เป็น​ภาษา​อังกฤษ​ใน​สอง​ปี​ถัด​มา ก็​เกิด​การ​โต้​แย้ง​กัน​อย่าง​ดุเดือด​ใน​แวดวง​เทววิทยา​และ​วรรณกรรม. บิชอป​คน​หนึ่ง​ประกาศ​ใน​ทันที​ว่า​ต้น​ฉบับ​ดัง​กล่าว​เป็น​ฉบับ​ปลอม โดย​ไม่​ยอม​เชื่อ​ว่า​มิลตัน ผู้​ที่​คน​มาก​มาย​ถือ​ว่า​เป็น​กวี​ด้าน​ศาสนา​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​ของ​อังกฤษ​จะ​ปฏิเสธ​หลัก​คำ​สอน​ของ​คริสตจักร​ที่​ถือ​กัน​ว่า​ศักดิ์สิทธิ์​ได้​อย่าง​หนักแน่น​ถึง​เพียง​นี้. เนื่อง​จาก​เล็ง​เห็น​แล้ว​ว่า​จะ​ต้อง​เกิด​เหตุ​การณ์​เช่น​นี้​และ​เพื่อ​เป็น​การ​ยืน​ยัน​ว่า​มิลตัน​คือ​ผู้​เขียน​จริง ๆ ผู้​แปล​จึง​ได้​เพิ่ม​หมายเหตุ​ท้าย​หน้า​ซึ่ง​ให้​ราย​ละเอียด​ข้อ​ความ 500 แห่ง​ที่​ตรง​กัน​ระหว่าง​บทความ​ว่า​ด้วย​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน​กับ​อุทยาน​ที่​สูญ​เสีย​ไป. *

ความ​เชื่อ​ของ​มิลตัน

ใน​ยุค​ของ​มิลตัน อังกฤษ​ได้​รับ​เอา​การ​ปฏิรูป​โปรเตสแตนต์​เข้า​มา และ​ได้​ตัด​ความ​สัมพันธ์​กับ​คริสตจักร​โรมัน​คาทอลิก. ชาว​โปรเตสแตนต์​โดย​ทั่ว​ไป​เชื่อ​ว่า​อำนาจ​ใน​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​กับ​ความ​เชื่อ​และ​ศีลธรรม​มา​จาก​พระ​คัมภีร์​บริสุทธิ์​เท่า​นั้น ไม่​ใช่​จาก​โปป. แต่​ใน​บทความ​ว่า​ด้วย​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน มิลตัน​ได้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​คำ​สอน​และ​กิจ​ปฏิบัติ​หลาย​อย่าง​ของ​โปรเตสแตนต์​ก็​ไม่​สอดคล้อง​กับ​พระ​คัมภีร์​เช่น​กัน. โดย​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​พื้น​ฐาน เขา​ได้​ปฏิเสธ​หลัก​คำ​สอน​เรื่อง​พรหมลิขิต​ของ​จอห์น แคลวิน​และ​สนับสนุน​ความ​เชื่อ​เรื่อง​เจตจำนง​เสรี. เขา​ส่ง​เสริม​การ​ใช้​พระ​นาม​ยะโฮวา​ของ​พระเจ้า​ด้วย​ความ​นับถือ โดย​ใช้​พระ​นาม​นี้​บ่อย ๆ ใน​งาน​เขียน​ของ​ตน​เอง

มิลตัน​ใช้​พระ​คัมภีร์​เพื่อ​โต้​แย้ง​ว่า​จิตวิญญาณ​มนุษย์​ตาย​ได้. เมื่อ​ให้​ความ​เห็น​เกี่ยว​กับ​เยเนซิศ 2:7 เขา​เขียน​ว่า “เมื่อ​มนุษย์​ถูก​สร้าง​อย่าง​นั้น​แล้ว พระ​คัมภีร์​ได้​กล่าว​ว่า ใน​ที่​สุด: มนุษย์​จึง​เกิด​เป็น​จิตต์​วิญญาณ​มี​ชีวิต​อยู่. . . . เขา​ไม่​ได้​มี​สอง​ร่าง​หรือ​แยก​ร่าง​ได้ ไม่​ใช่​อย่าง​ที่​คิด​กัน​ทั่ว​ไป​ว่า​เขา​ถูก​สร้าง​ขึ้น​และ​ประกอบ​ด้วย​สอง​ส่วน​ที่​แตกต่าง​กัน​และ​แยก​จาก​กัน คือ​จิตวิญญาณ​และ​ร่าง​กาย. ตรง​กัน​ข้าม ตัว​มนุษย์​ทุก​ส่วน​คือ​จิตวิญญาณ และ​จิตวิญญาณ​ก็​คือ​มนุษย์.” แล้ว​มิลตัน​ก็​ตั้ง​คำ​ถาม​ว่า “ทุก​ส่วน​ของ​มนุษย์​ตาย หรือ​ว่า​เฉพาะ​ร่าง​กาย​เท่า​นั้น?” หลัง​จาก​ยก​ข้อ​ความ​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​มาก​มาย​เพื่อ​แสดง​ว่า​ทุก​ส่วน​ของ​มนุษย์​ตาย เขา​ก็​เสริม​ว่า “แต่​คำ​อธิบาย​ที่​น่า​เชื่อถือ​ที่​สุด​เท่า​ที่​ข้าพเจ้า​จะ​อ้าง​ได้​ซึ่ง​ให้​หลักฐาน​ว่า​จิตวิญญาณ​ตาย ก็​คือ​คำ​อธิบาย​ของ​พระเจ้า​เอง ที่​ยะเอศ[เคล 18]:20 จิตวิญญาณ​ที่​กระทำ​บาป, จิตวิญญาณ​นั้น​จะ​ตาย.” มิลตัน​ยัง​ได้​ยก​ข้อ​คัมภีร์ เช่น ลูกา 20:37 และ โยฮัน 11:25 เพื่อ​แสดง​ว่า​ความ​หวัง​ของ​มนุษย์​ที่​ตาย​ไป​แล้ว​คือ​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​ใน​อนาคต..

อะไร​กระตุ้น​ให้​เกิด​ปฏิกิริยา​ที่​รุนแรง​ที่​สุด​ต่อ​บทความ​ว่า​ด้วย​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน? สิ่ง​นั้น​ก็​คือ หลักฐาน​ที่​เรียบ​ง่าย​แต่​มี​พลัง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​มิลตัน​ใช้​เพื่อ​พิสูจน์​ว่า​พระ​คริสต์ พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า ทรง​มี​ฐานะ​ต่ำ​กว่า​พระเจ้า พระ​บิดา. หลัง​จาก​ยก โยฮัน 17:3 กับ โยฮัน 20:17 ขึ้น​มา​แล้ว มิลตัน​ก็​ถาม​ว่า “ถ้า​พระ​บิดา​เป็น​พระเจ้า​ของ​พระ​คริสต์​และ​พระเจ้า​ของ​เรา และ​ถ้า​พระเจ้า​มี​องค์​เดียว​เท่า​นั้น ใคร​จะ​เป็น​พระเจ้า​ได้​นอก​จาก​พระ​บิดา?”

นอก​จาก​นั้น มิลตัน​ชี้​ว่า “พระ​บุตร​เอง​และ​อัครสาวก​ของ​พระองค์​ก็​ยอม​รับ​ใน​ทุก​สิ่ง​ที่​พูด​และ​เขียน​ว่า พระ​บิดา​ทรง​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​พระ​บุตร​ใน​ทุก​ด้าน.” (โยฮัน 14:28) “ที่​จริง พระ​คริสต์​เอง​ได้​ตรัส​ที่ มัด. 26:39 ว่า โอ​พระ​บิดา​ของ​ข้าพเจ้า, ถ้า​เป็น​ได้​ขอ​ให้​จอก​นี้​เลื่อน​พ้น​ไป​จาก​ข้าพเจ้า​เถิด แต่​อย่าง​ไร​ก็​ดี​อย่า​ให้​เป็น​ไป​ตาม​ใจ​ปรารถนา​ของ​ข้าพเจ้า, แต่​ให้​เป็น​ไป​ตาม​พระทัย​ของ​พระองค์. . . . ถ้า​พระองค์​เอง​เป็น​พระเจ้า​จริง ๆ ทำไม​จึง​ทรง​อธิษฐาน​ถึง​พระ​บิดา​เท่า​นั้น​แทน​ที่​จะ​อธิษฐาน​ถึง​พระองค์​เอง? ถ้า​พระองค์​ทรง​เป็น​ทั้ง​มนุษย์​และ​พระเจ้า​องค์​สูง​สุด ทำไม​พระองค์​จึง​อธิษฐาน​ขอ​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​อำนาจ​ของ​พระองค์​เอง​อยู่​แล้ว? . . . เนื่อง​จาก​พระ​บุตร​ทรง​ยกย่อง​และ​ให้​ความ​เคารพ​แด่​พระ​บิดา​แต่​องค์​เดียว พระองค์​จึง​สอน​เรา​ให้​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน.”

ข้อ​บกพร่อง​ของ​มิลตัน

จอห์น มิลตัน​แสวง​หา​ความ​จริง. แต่​เขา​ก็​ยัง​มี​ข้อ​บกพร่อง​เช่น​เดียว​กับ​มนุษย์​ทั้ง​หลาย และ​ทัศนะ​บาง​อย่าง​ของ​เขา​ก็​ได้​รับ​อิทธิพล​มา​จาก​ประสบการณ์​ที่​เลว​ร้าย​ใน​ชีวิต. ตัว​อย่าง​เช่น หลัง​จาก​แต่งงาน​ได้​ไม่​นาน เจ้าสาว​ของ​เขา​ซึ่ง​เป็น​ลูก​สาว​เจ้าของ​ที่​ดิน​ราย​ใหญ่​ใน​ชนบท​ซึ่ง​สนับสนุน​ระบอบ​กษัตริย์ ก็​ทิ้ง​เขา​กลับ​ไป​หา​ครอบครัว​ประมาณ​สาม​ปี. ระหว่าง​นั้น มิลตัน​ได้​เขียน​ใบ​ปลิว​เพื่อ​พิสูจน์​ว่า​การ​หย่าร้าง​เป็น​เรื่อง​ชอบธรรม ไม่​เพียง​ใน​กรณี​ที่​คู่​สมรส​ไม่​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​กัน ซึ่ง​เป็น​เหตุ​ผล​เดียว​ตาม​มาตรฐาน​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ตั้ง​ไว้ แต่​ยัง​รวม​ถึง​ใน​กรณี​ที่​คู่​สมรส​เข้า​กัน​ไม่​ได้​อีก​ด้วย. (มัดธาย 19:9) มิลตัน​ได้​สนับสนุน​ความ​คิด​ดัง​กล่าว​ใน​บทความ​ว่า​ด้วย​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน​ด้วย.

แม้​ว่า​มิลตัน​จะ​มี​ข้อ​บกพร่อง แต่​บทความ​ว่า​ด้วย​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน​ก็​เสนอ​ทัศนะ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​เรื่อง​คำ​สอน​ที่​สำคัญ​หลาย​เรื่อง​ได้​อย่าง​มี​พลัง. จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้ บทความ​ของ​เขา​ก็​ยัง​ทำ​ให้​ผู้​ที่​อ่าน​ต้อง​เทียบ​ดู​ความ​เชื่อ​ของ​ตน​เอง​กับ​มาตรฐาน​ที่​สมบูรณ์​ใน​พระ​คัมภีร์​บริสุทธิ์.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 14 บทความ​ว่า​ด้วย​หลัก​คำ​สอน​คริสเตียน ที่​แปล​ใหม่​และ​ตี​พิมพ์​โดย​มหาวิทยาลัย​เยล​ใน​ปี 1973 แปล​ได้​ใกล้​เคียง​กับ​ต้น​ฉบับ​ภาษา​ละติน​ของ​มิลตัน​ยิ่ง​ขึ้น​อีก.

[ภาพ​หน้า 11]

มิลตัน​เป็น​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​กระตือรือร้น

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Courtesy of The Early Modern Web at Oxford

[ภาพ​หน้า 12]

บท​กวี “อุทยาน​ที่​สูญ​เสีย​ไป” คือ​ผล​งาน​ที่​สร้าง​ชื่อ​ให้​กับ​มิลตัน

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Courtesy of The Early Modern Web at Oxford

[ภาพ​หน้า 12]

ผล​งาน​ชิ้น​สุด​ท้าย​ของ​มิลตัน​สาบสูญ​ไป​ประมาณ 150 ปี

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Image courtesy of Rare Books and Special Collections, Thomas Cooper Library, University of South Carolina

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 11]

Image courtesy of Rare Books and Special Collections, Thomas Cooper Library, University of South Carolina