ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เหตุผลที่ความชั่วยังคงมีอยู่

เหตุผลที่ความชั่วยังคงมีอยู่

เหตุ​ผล​ที่​ความ​ชั่ว​ยัง​คง​มี​อยู่

คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “พระ​ยะโฮวา [พระเจ้า] ทรง​สัตย์​ซื่อ [“ชอบธรรม,” ล.ม.] ใน​บรรดา​มรคา​ของ​พระองค์.” (บทเพลง​สรรเสริญ 145:17; วิวรณ์ 15:3) ผู้​พยากรณ์​โมเซ​ประกาศ​เกี่ยว​กับ​พระองค์​ว่า “กิจการ​ของ​พระองค์​สมบูรณ์​พร้อม เพราะ​ทาง​ทั้ง​ปวง​ของ​พระองค์​ยุติธรรม. พระเจ้า​แห่ง​ความ​ซื่อ​สัตย์ ซึ่ง​กับ​พระองค์​นั้น​ไม่​มี​ความ​อยุติธรรม; พระองค์​ทรง​ชอบธรรม​และ​ซื่อ​ตรง.” (พระ​บัญญัติ 32:4, ล.ม.) ยาโกโบ 5:11 (ล.ม.) กล่าว​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ทรง​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​รักใคร่​อัน​อ่อน​ละมุน​และ​เมตตา.” พระเจ้า​ไม่​อาจ​เป็น​ต้น​เหตุ​ของ​ความ​ชั่ว​และ​พระองค์​ไม่​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ชั่ว.

สาวก​ยาโกโบ​ได้​เขียน​ว่า “เมื่อ​ถูก​ทดสอบ อย่า​ให้​ใคร​บอก​ว่า ‘พระเจ้า​ทรง​ทดสอบ​ข้าพเจ้า.’ เพราะ​ไม่​มี​ใคร​ทดสอบ​พระเจ้า​ด้วย​สิ่ง​ชั่ว​ได้ และ​พระองค์​ไม่​ทรง​ทดสอบ​ผู้​ใด​ด้วย​สิ่ง​ชั่ว​เลย.” (ยาโกโบ 1:13, ล.ม.) พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​มิ​ได้​ทดลอง​ผู้​คน​ด้วย​ความ​ชั่ว​หรือ​ล่อ​ลวง​พวก​เขา​ให้​ทำ​สิ่ง​ที่​ชั่ว​ร้าย. ถ้า​เช่น​นั้น ใคร​เป็น​ต้น​เหตุ​ของ​ความ​ชั่ว​และ​ความ​ทุกข์​ที่​เกิด​จาก​ความ​ชั่ว​นั้น?

ใคร​ที่​เป็น​ต้น​เหตุ?

ยาโกโบ​ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า​ส่วน​หนึ่ง​มนุษย์​ต้อง​รับผิดชอบ​ใน​เรื่อง​ความ​ชั่ว. ท่าน​กล่าว​ว่า “ทุก​คน​ถูก​ทดสอบ​โดย​ที่​ความ​ปรารถนา​ของ​เขา​เอง​ชัก​นำ​และ​ล่อ​ใจ​เขา. ครั้น​เมื่อ​ความ​ปรารถนา​ปฏิสนธิ​แล้ว ความ​ปรารถนา​นั้น​จึง​ทำ​ให้​เกิด​บาป; แล้ว​เมื่อ​มี​การ​ทำ​บาป บาป​นั้น​จึง​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ตาย.” (ยาโกโบ 1:14, 15, ล.ม.) ผู้​คน​อาจ​ปฏิบัติ​ตาม​ความ​ปรารถนา​ที่​ไม่​เหมาะ​สม​ของ​ตน. ขอ​พิจารณา​ผล​กระทบ​ของ​บาป​ที่​มนุษย์​สืบ​ทอด​มา​ด้วย​เช่น​กัน. อำนาจ​ชักจูง​ของ​บาป​อาจ​ทำ​ให้​ความ​ปรารถนา​ที่​ผิด​รุนแรง​ขึ้น​และ​ก่อ​ผล​เสียหาย​จริง ๆ. (โรม 7:21-23) ที่​จริง บาป​ที่​สืบ​ทอด​มา​ได้ “ครอบ​งำ” มนุษยชาติ ทำ​ให้​มนุษย์​เป็น​ทาส​การ​กระทำ​ที่​ชั่ว​ร้าย​ซึ่ง​ก่อ​ให้​เกิด​ความ​ทุกข์​เป็น​อัน​มาก. (โรม 5:21) ยิ่ง​กว่า​นั้น คน​ชั่ว​อาจ​ชักจูง​คน​อื่น ๆ ให้​กลาย​เป็น​คน​เลว​ทราม​ได้.—สุภาษิต 1:10-16.

แต่​ตัวการ​สำคัญ​ของ​ความ​ชั่ว​คือ​ซาตาน​พญา​มาร. มัน​ได้​ทำ​ให้​ความ​ชั่ว​เกิด​ขึ้น​ใน​โลก. พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​เรียก​ซาตาน​ว่า “ตัว​ชั่ว​ร้าย” และ “ผู้​ครอง​โลก” หรือ​สังคม​มนุษย์​ที่​ไม่​ชอบธรรม. มนุษยชาติ​โดย​ทั่ว​ไป​เชื่อ​ฟัง​ซาตาน​โดย​ทำ​ตาม​การ​ยุยง​ของ​มัน​ที่​ให้​ละเลย​แนว​ทาง​ที่​ดี​ของ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. (มัดธาย 6:13, ล.ม.; โยฮัน 14:30; 1 โยฮัน 2:15-17) 1 โยฮัน 5:19 กล่าว​ว่า “มนุษย์​โลก​ทั้ง​สิ้น​ทอด​ตัว​จม​อยู่​ใน​มาร​ร้าย.” ที่​จริง ซาตาน​และ​เหล่า​ทูตสวรรค์​บริวาร​ของ​มัน​กำลัง “ชัก​นำ​ทั้ง​โลก​ให้​หลง​ผิด” มี​แต่​ก่อ​ให้​เกิด “วิบัติ” เท่า​นั้น. (วิวรณ์ 12:9, 12, ล.ม.) ด้วย​เหตุ​นี้ ต้อง​ถือ​ว่า​ความ​ผิด​ส่วน​ใหญ่​ใน​เรื่อง​ความ​ชั่ว​นั้น​เกิด​จาก​ซาตาน​พญา​มาร​โดย​ตรง.

ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:11 (ล.ม.) เผย​ให้​เห็น​สาเหตุ​อีก​ประการ​หนึ่ง​ของ​ความ​ลำบาก​หรือ​ความ​ทุกข์​ว่า “วาระ​และ​เหตุ​การณ์​ที่​ไม่​ได้​คาด​ล่วง​หน้า​ย่อม​บังเกิด​แก่ [เรา] ทุก​คน.” พระ​เยซู​คริสต์​ได้​ตรัส​ถึง​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ที่​น่า​เศร้า​เกี่ยว​กับ 18 คน​ที่​ถูก​หอ​รบ​พัง​ทับ​ตาย. (ลูกา 13:4) พวก​เขา​ประสบ​ความ​หายนะ​ดัง​กล่าว​เนื่อง​จาก​บังเอิญ​ไป​อยู่​ตรง​นั้น​พอ​ดี. เหตุ​การณ์​คล้าย​กัน​เกิด​ขึ้น​ใน​ทุก​วัน​นี้. ตัว​อย่าง​เช่น อิฐ​อาจ​หลุด​จาก​มือ​ช่าง​ก่อ​ที่​ทำ​งาน​อยู่​บน​ยอด​ตึก​แล้ว​หล่น​ลง​มา​โดน​คน​ที่​เดิน​อยู่. ควร​ตำหนิ​พระเจ้า​ไหม? ไม่. นี่​เป็น​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​โดย​ไม่​มี​ใคร​วาง​แผน​และ​ไม่​มี​ใคร​คาด​ล่วง​หน้า. บ่อย​ครั้ง​อาจ​กล่าว​ได้​เช่น​เดียว​กัน​เมื่อ​เกิด​ความ​เจ็บ​ป่วย​ขึ้น​ใน​ครอบครัว​หรือ​การ​เสีย​ชีวิต​โดย​กะทันหัน​ของ​หัวหน้า​ครอบครัว​ทิ้ง​คน​ข้าง​หลัง​ไว้​ให้​เป็น​ลูก​กำพร้า​และ​แม่​ม่าย.

ดัง​นั้น เห็น​ได้​ชัด​ว่า​พระเจ้า​ไม่​ได้​เป็น​ต้น​เหตุ​ของ​ความ​ชั่ว; ทั้ง​พระองค์​ก็​ไม่​ได้​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ทุกข์. ตรง​กัน​ข้าม พระ​ยะโฮวา​มี​พระ​ประสงค์​ที่​จะ​กำจัด​ความ​ชั่ว​และ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ชั่ว. (สุภาษิต 2:22) ที่​จริง พระองค์​จะ​ทรง​กระทำ​มาก​กว่า​นั้น​อีก. พระ​คัมภีร์​แจ้ง​ว่า​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​โดย​ทาง​พระ​คริสต์​คือ “เพื่อ​จะ​ได้​ทรง​ทำลาย​กิจการ​ของ​มาร​เสีย.” (1 โยฮัน 3:8) ครั้น​แล้ว​ระบบ​ปัจจุบัน​ที่​มี​พื้น​ฐาน​อยู่​บน​ความ​โลภ, ความ​เกลียด​ชัง, และ​การ​กระทำ​ที่​ชั่ว​ร้าย​จะ​ผ่าน​พ้น​ไป. พระเจ้า​ยัง​จะ “ทรง​เช็ด​น้ำตา​ทุก ๆ หยด​จาก​ตา​ของ [ทุก​คน]” ด้วย​ซ้ำ โดย​วิธี​นี้​จึง​ทำ​ให้​ความ​ทุกข์​สิ้น​สุด​ลง. (วิวรณ์ 21:4) แต่​คุณ​อาจ​ถาม​ว่า ‘ทำไม​พระเจ้า​ไม่​ทรง​ทำ​เช่น​นี้​เสีย​ที? เหตุ​ใด​พระองค์​ทรง​ยอม​ให้​ความ​ชั่ว​และ​ความ​ทุกข์​มี​อยู่​จน​กระทั่ง​สมัย​ของ​เรา?’ จะ​พบ​คำ​ตอบ​สำหรับ​คำ​ถาม​เหล่า​นี้​ใน​บันทึก​เรื่อง​ราว​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​เกี่ยว​กับ​อาดาม​และ​ฮาวา.

มี​การ​ยก​ประเด็น​สำคัญ​ขึ้น​มา

เหตุ​ผล​ที่​พระเจ้า​ได้​ทรง​ยอม​ให้​ความ​ชั่ว​มี​อยู่​จน​กระทั่ง​สมัย​ของ​เรา​นั้น​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เหตุ​การณ์​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​ช่วง​ต้น ๆ ประวัติศาสตร์​ของ​มนุษย์. เหตุ​การณ์​ที่​ได้​เกิด​ขึ้น​ย้อน​ไป​ใน​ตอน​นั้น​ได้​ก่อ​ประเด็น​สำคัญ​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​พระ​ผู้​สร้าง​เอง—เป็น​ปัญหา​ที่​ไม่​อาจ​จัด​การ​ให้​เรียบร้อย​ได้​อย่าง​ง่าย​ดาย​โดย​ทันที. ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​อย่าง​ใกล้​ชิด​ถึง​สิ่ง​ที่​ได้​เกิด​ขึ้น.

พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทรง​สร้าง​ชาย​หญิง​คู่​แรก​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์​และ​ทรง​ให้​เขา​ทั้ง​สอง​อยู่​ใน​อุทยาน. เขา​ทั้ง​สอง​ได้​รับ​ของ​ประทาน​ที่​ทำ​ให้​เขา​ต่าง​จาก​สัตว์ นั่น​คือ​ของ​ประทาน​เกี่ยว​กับ​เจตจำนง​เสรี. (เยเนซิศ 1:28; 2:15, 19) ใน​ฐานะ​บุคคล​ที่​ถูก​สร้าง​ให้​มี​ความ​สามารถ​ที่​จะ​เลือก​ระหว่าง​สิ่ง​ที่​ถูก​กับ​สิ่ง​ที่​ผิด อาดาม​และ​ฮาวา​สามารถ​ใช้​เชาวน์​ปัญญา​ของ​ตน​ใน​การ​เลือก​ที่​จะ​รัก, รับใช้, และ​เชื่อ​ฟัง​พระ​ผู้​สร้าง​ของ​เขา. หรือ​ว่า​เขา​อาจ​เลือก​แนว​ทาง​อิสระ​ไม่​ขึ้น​กับ​พระเจ้า​และ​ขัด​ขืน​พระองค์​โดย​เจตนา.

เพื่อ​ให้​อาดาม​และ​ฮาวา​มี​โอกาส​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​พระองค์ พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้​ได้​ทรง​ตั้ง​ข้อ​ห้าม​อย่าง​หนึ่ง​ไว้​สำหรับ​พวก​เขา. พระองค์​ทรง​บัญชา​อาดาม​ว่า “บรรดา​ผลไม้​ทุก​อย่าง​ใน​สวน​นี้​เจ้า​กิน​ได้​ทั้ง​หมด; เว้น​แต่​ต้น​ไม้​ที่​ให้​รู้​ความ​ดี​และ​ชั่ว​ผล​ของ​ต้น​นั้น​เจ้า​อย่า​กิน​เป็น​อัน​ขาด; ถ้า​เจ้า​ขืน​กิน​ใน​วัน​ใด, เจ้า​จะ​ตาย​ใน​วัน​นั้น​เป็น​แน่.” (เยเนซิศ 2:16, 17) เพื่อ​ได้​รับ​ความ​พอ​พระทัย​จาก​พระเจ้า​อยู่​ต่อ​ไป เพื่อ​ประโยชน์​ของ​เขา​เอง​และ​ของ​ครอบครัว​ที่​จะ​เกิด​มา​ใน​อนาคต อาดาม​และ​ฮาวา​จะ​ต้อง​ละ​เว้น​จาก​การ​รับประทาน​ผลไม้​จาก​ต้น​หนึ่ง​โดย​เฉพาะ. พวก​เขา​ทำ​ตาม​พระ​บัญชา​นั้น​ไหม?

คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​เรา​ถึง​เหตุ​การณ์​ที่​ได้​เกิด​ขึ้น. โดย​ใช้​งู​เป็น​กระบอก​เสียง​ของ​มัน ซาตาน​พญา​มาร​ได้​เข้า​ไป​หา​ฮาวา​แล้ว​พูด​ว่า “จริง​หรือ​ที่​พระเจ้า​ตรัส​ห้าม​ว่า, ‘เจ้า​อย่า​กิน​ผลไม้​ทุก​อย่าง​ใน​สวน​นี้’?” เมื่อ​ฮาวา​กล่าว​ซ้ำ​พระ​บัญชา​ของ​พระเจ้า ซาตาน​บอก​เธอ​ว่า “เจ้า​จะ​ไม่​ตาย​จริง​ดอก: เพราะ​พระเจ้า​ทรง​ทราบ​อยู่​ว่า, เจ้า​กิน​ผลไม้​นั้น​เข้า​ไป​วัน​ใด, ตา​ของ​เจ้า​จะ​สว่าง​ขึ้น​ใน​วัน​นั้น; แล้ว​เจ้า​จะ​เป็น​เหมือน​พระ, จะ​รู้​จัก​ความ​ดี​และ​ชั่ว.” ฉะนั้น ต้น​ไม้​นี้​ดู​เหมือน​น่า​ปรารถนา​สำหรับ​ฮาวา​จริง ๆ จน​เธอ “เก็บ​ผลไม้​นั้น​มา​กิน​เข้า​ไป.” เรื่อง​ราว​บอก​ต่อ​ไป​ว่า “แล้ว [เธอ] ส่ง​ให้​สามี​กิน​ด้วย​กัน.” (เยเนซิศ 3:1-6) ด้วย​เหตุ​นี้ ทั้ง​อาดาม​และ​ฮาวา​ต่าง​ก็​ใช้​เจตจำนง​เสรี​ของ​ตน​อย่าง​ผิด ๆ และ​ได้​ทำ​บาป​โดย​ไม่​เชื่อ​ฟัง​พระเจ้า.

คุณ​ตระหนัก​ถึง​ความ​ร้ายแรง​ของ​สิ่ง​ที่​ได้​เกิด​ขึ้น​ไหม? พญา​มาร​กล่าว​แย้ง​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ได้​ตรัส​แก่​อาดาม. คำ​พูด​ของ​ซาตาน​บอก​เป็น​นัย​ว่า​อาดาม​และ​ฮาวา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ให้​พระ​ยะโฮวา​ตัดสิน​ว่า​อะไร​ดี​อะไร​ชั่ว​สำหรับ​เขา. ดัง​นั้น ประเด็น​ที่​ซาตาน​ยก​ขึ้น​มา​จึง​ทำ​ให้​เกิด​ความ​สงสัย​ต่อ​ความ​ถูก​ต้อง​ชอบธรรม​แห่ง​การ​ปกครอง​ของ​พระ​ยะโฮวา​เหนือ​มนุษย์. ฉะนั้น ประเด็น​สำคัญ​ที่​สุด​ที่​ซาตาน​ยก​ขึ้น​มา​คือ พระ​ยะโฮวา​มี​สิทธิ​ที่​จะ​ปกครอง​มนุษยชาติ​ไหม? พระเจ้า​องค์​เที่ยง​แท้​ได้​ตอบ​การ​ท้าทาย​พระ​บรม​เดชานุภาพ​ของ​พระองค์​โดย​วิธี​ใด?

ต้อง​ใช้​เวลา​นาน​พอ​เพื่อ​จัด​การ​ประเด็น

พระ​ยะโฮวา​ทรง​มี​อำนาจ​ที่​จะ​ทำลาย​กบฏ​ทั้ง​สาม คือ​ซาตาน, อาดาม, และ​ฮาวา. พระเจ้า​ทรง​มี​กำลัง​อำนาจ​มาก​กว่า​พวก​เขา​อย่าง​ไม่​มี​ใคร​โต้​แย้ง​ได้. แต่​ซาตาน​ไม่​ได้​สงสัย​อำนาจ​ของ​พระเจ้า. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น มัน​สงสัย​สิทธิ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​จะ​ปกครอง. ประเด็น​นี้​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ทั้ง​สิ้น​ที่​มี​เจตจำนง​เสรี. พวก​เขา​ต้อง​เข้าใจ​ว่า เจตจำนง​เสรี​ซึ่ง​พระเจ้า​ประทาน​ให้​นั้น​ต้อง​ใช้​อย่าง​เหมาะ​สม—ภาย​ใน​ขอบ​เขต​ของ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระเจ้า ทาง​ด้าน​ร่าง​กาย, ศีลธรรม, และ​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. มิ​ฉะนั้น จะ​เกิด​ผล​เสียหาย เช่น​เดียว​กับ​ที่​การ​บาดเจ็บ​จะ​เกิด​ขึ้น​แน่ ๆ ถ้า​คน​หนึ่ง​กระโดด​จาก​หลังคา​ตึก​ที่​สูง​โดย​ไม่​คำนึง​ถึง​กฎ​แรง​โน้มถ่วง. (ฆะลาเตีย 6:7, 8) สิ่ง​ทรง​สร้าง​ที่​มี​เชาวน์​ปัญญา​ทั้ง​สิ้น​สามารถ​ได้​รับ​ประโยชน์​จาก​การ​สังเกต​ด้วย​ตัว​เอง​ถึง​ผล​ไม่​ดี​จาก​การ​เลือก​แนว​ทาง​ที่​ไม่​ขึ้น​กับ​พระเจ้า. เรื่อง​นี้​ต้อง​ใช้​เวลา.

ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​ต้อง​ใช้​เวลา​เพื่อ​ยุติ​ประเด็น​บาง​อย่าง​อาจ​ยก​ตัว​อย่าง​ได้​ทำนอง​นี้: สมมุติ​ว่า​บิดา​ของ​ครอบครัว​หนึ่ง​ท้า​บิดา​ของ​อีก​ครอบครัว​หนึ่ง​ให้​มา​แข่ง​กัน​เพื่อ​จะ​พิสูจน์​ว่า​ใคร​แข็งแรง​กว่า​กัน. ปัญหา​นี้​ตัดสิน​ได้​โดย​เร็ว. อาจ​ประลอง​กำลัง​กัน​โดย​การ​ยก​หิน. ใคร​ที่​ยก​หิน​หนัก​ที่​สุด​ได้​ก็​จะ​เป็น​คน​ที่​แข็งแรง​กว่า. แต่​สมมุติ​ว่า​เป็น​การ​แข่ง​กัน​เพื่อ​ดู​ว่า​บิดา​คน​ไหน​รัก​บุตร​ชาย​หญิง​ของ​ตน​อย่าง​แท้​จริง​และ​บุตร​จะ​รัก​ตอบ​หรือ​ไม่. หรือ​ว่า​ถ้า​การ​แข่ง​นั้น​ทำ​ให้​เกิด​คำ​ถาม​ว่า​บิดา​คน​ไหน​ปฏิบัติ​ต่อ​ครอบครัว​ของ​ตน​ใน​วิธี​ดี​ที่​สุด​ล่ะ? ทั้ง​การ​แสดง​กำลัง​หรือ​เพียง​แค่​คำ​พูด​คง​จะ​ไม่​พอ. เพื่อ​จะ​ยุติ​ประเด็น​ทั้ง​สอง​นี้ จะ​ต้อง​ให้​เวลา​ผ่าน​ไป​เพื่อ​ผู้​คน​จะ​สังเกต​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​การ​กระทำ​ของ​บิดา​ทั้ง​สอง แล้ว​จึง​ตัดสิน​ได้​ด้วย​ตัว​เอง​ว่า​บิดา​คน​ไหน​ดี​กว่า.

เวลา​ที่​ผ่าน​ไป​เผย​ให้​เห็น​อะไร?

เวลา​ผ่าน​ไป​ราว ๆ 6,000 ปี ตั้ง​แต่​ซาตาน​ได้​ตั้ง​ข้อ​สงสัย​ใน​สิทธิ​ของ​พระเจ้า​ที่​จะ​ปกครอง. ประวัติศาสตร์​ได้​เผย​ให้​เห็น​อะไร? ขอ​พิจารณา​ข้อ​กล่าวหา​ของ​ซาตาน​สอง​แง่​มุม​ที่​มี​ต่อ​พระเจ้า. ซาตาน​อาจ​หาญ​บอก​ฮาวา​ว่า “เจ้า​จะ​ไม่​ตาย​จริง​ดอก.” (เยเนซิศ 3:4) โดย​กล่าว​ว่า​อาดาม​และ​ฮาวา​จะ​ไม่​ตาย​หาก​เขา​รับประทาน​ผลไม้​ต้อง​ห้าม ที่​แท้​แล้ว​ซาตาน​เรียก​พระ​ยะโฮวา​ว่า​เป็น​ผู้​พูด​มุสา. ช่าง​เป็น​ข้อ​กล่าวหา​ที่​ร้ายแรง​เสีย​จริง ๆ! หาก​พระเจ้า​ไม่​ได้​ตรัส​ความ​จริง​ใน​เรื่อง​นี้​แล้ว จะ​ไว้​วางใจ​พระองค์​ใน​เรื่อง​อื่น​ได้​อย่าง​ไร? อย่าง​ไร​ก็​ดี เวลา​ที่​ผ่าน​ไป​เผย​ให้​เห็น​อะไร?

อาดาม​และ​ฮาวา​ต้อง​ประสบ​ความ​ป่วย​ไข้, ความ​เจ็บ​ปวด, ความ​ชรา, และ​ก็​ความ​ตาย​ใน​ที่​สุด. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “รวม​อายุ​อาดาม​ได้​เก้า​ร้อย​สาม​สิบ​ปี​จึง​ตาย.” (เยเนซิศ 3:19; 5:5) และ​มรดก​อัน​น่า​เศร้า​นี้​ได้​ตก​ทอด​จาก​อาดาม​มา​สู่​มวล​มนุษยชาติ. (โรม 5:12) เวลา​ที่​ผ่าน​ไป​ได้​พิสูจน์​ว่า​ซาตาน​เป็น “ผู้​พูด​มุสา​และ​เป็น​พ่อ​ของ​การ​พูด​มุสา” และ​เผย​ให้​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น “พระเจ้า​แห่ง​ความ​สัตย์​จริง.”—โยฮัน 8:44, ล.ม.; บทเพลง​สรรเสริญ 31:5.

ซาตาน​ยัง​บอก​ฮาวา​ด้วย​ว่า “พระเจ้า​ทรง​ทราบ​อยู่​ว่า, เจ้า​กิน​ผลไม้​นั้น​เข้า​ไป​วัน​ใด, ตา​ของ​เจ้า​จะ​สว่าง​ขึ้น​ใน​วัน​นั้น; แล้ว​เจ้า [ทั้ง​ฮาวา​และ​อาดาม] จะ​เป็น​เหมือน​พระ, จะ​รู้​จัก​ความ​ดี​และ​ชั่ว.” (เยเนซิศ 3:4, 5) ด้วย​คำ​พูด​ที่​มี​เล่ห์​เหลี่ยม​ดัง​กล่าว ซาตาน​ได้​เสนอ​โอกาส​อัน​เป็น​การ​หลอก​ลวง​แก่​มนุษย์​ที่​จะ​ปกครอง​ตัว​เอง. ด้วย​จุด​มุ่ง​หมาย​จะ​นำ​พวก​เขา​ไป​ผิด​ทาง ซาตาน​ได้​บอก​เป็น​นัย​ว่า​มนุษย์​จะ​มี​ชีวิต​ที่​ดี​กว่า​หาก​ไม่​พึ่ง​อาศัย​พระเจ้า. เรื่อง​นี้​ปรากฏ​ว่า​เป็น​ความ​จริง​ไหม?

ตลอด​ประวัติศาสตร์ จักรวรรดิ​ต่าง ๆ ได้​เรือง​อำนาจ​แล้ว​ก็​ล่ม​สลาย​ไป. ได้​มี​การ​ทดลอง​การ​ปกครอง​ทุก​รูป​แบบ​ของ​มนุษย์​เท่า​ที่​จะ​คิด​ออก​ได้. อย่าง​ไร​ก็​ดี หลาย​ครั้ง​หลาย​หน เหตุ​การณ์​ต่าง ๆ ที่​น่า​สยดสยอง​ได้​เกิด​ขึ้น​กับ​ครอบครัว​มนุษย์. ผู้​เขียน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​ได้​สรุป​ไว้​อย่าง​ฉลาด​สุขุม​ประมาณ 3,000 ปี​มา​แล้ว​ว่า “มนุษย์​ใช้​อำนาจ​เหนือ​มนุษย์​อย่าง​ที่​ก่อ​ผล​เสียหาย​แก่​เขา.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 8:9, ล.ม.) ผู้​พยากรณ์​ยิระมะยา​ได้​เขียน​ว่า “ไม่​ใช่​ที่​มนุษย์​ซึ่ง​ดำเนิน​นั้น​จะ​ได้​กำหนด​ก้าว​ของ​ตัว​ได้.” (ยิระมะยา 10:23) แม้​แต่​ความ​สำเร็จ​ทาง​ด้าน​วิทยาศาสตร์​และ​เทคโนโลยี​ใน​ไม่​กี่​ปี​มา​นี้​ก็​มิ​ได้​ลบ​ล้าง​ความ​จริง​ของ​ถ้อย​คำ​ดัง​กล่าว. เวลา​ที่​ผ่าน​ไป​มี​แต่​พิสูจน์​ว่า​ข้อ​สังเกต​เหล่า​นี้​เป็น​ความ​จริง.

คุณ​จะ​ทำ​ประการ​ใด?

เวลา​ที่​พระเจ้า​ทรง​ยอม​ให้​ความ​ชั่ว​มี​อยู่​ได้​พิสูจน์​ว่า​ซาตาน​เป็น​ฝ่าย​ผิด​ใน​ประเด็น​เกี่ยว​กับ​สิทธิ​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​จะ​ปกครอง. พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทรง​เป็น​องค์​บรม​มหิศร​แห่ง​เอกภพ​อย่าง​แท้​จริง. พระองค์​มี​สิทธิ​ที่​จะ​ปกครอง​เหนือ​สรรพสิ่ง​ทรง​สร้าง และ​วิธี​การ​ปกครอง​ของ​พระองค์​ดี​ที่​สุด. โดย​ยอม​รับ​ความ​เป็น​จริง​ใน​เรื่อง​นี้ บรรดา​ผู้​ที่​มี​ชีวิต​อยู่​ใน​สวรรค์​ซึ่ง​ได้​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​พระเจ้า​มา​ยาว​นาน​ได้​ประกาศ​ว่า “พระ​ยะโฮวา พระเจ้า​ของ​พวก​ข้าพเจ้า พระองค์​ทรง​คู่​ควร​จะ​ได้​รับ​เกียรติยศ ความ​นับถือ และ​อำนาจ เพราะ​พระองค์​ทรง​สร้าง​ทุก​สิ่ง สิ่ง​เหล่า​นั้น​ดำรง​อยู่​และ​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ตาม​ที่​พระองค์​ทรง​ประสงค์.”—วิวรณ์ 4:11, ล.ม.

คุณ​คิด​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​ประเด็น​เรื่อง​การ​ปกครอง​ของ​พระเจ้า? คุณ​เห็น​ด้วย​ไหม​ว่า​พระเจ้า​ทรง​คู่​ควร​จะ​ปกครอง​คุณ? หาก​คุณ​เห็น​ด้วย คุณ​ต้อง​ยอม​รับ​สิทธิ​ใน​การ​ปกครอง​ของ​พระ​ยะโฮวา. คุณ​สามารถ​ทำ​เช่น​นี้​ได้​โดย​นำ​ความ​จริง​อัน​ยอด​เยี่ยม​และ​คำ​แนะ​นำ​ที่​พบ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล พระ​คำ​ของ​พระองค์​มา​ใช้​ใน​ทุก​แง่​มุม​ของ​ชีวิต​คุณ. “พระเจ้า​ทรง​เป็น​ความ​รัก” ทั้ง​กฎหมาย​และ​พระ​บัญชา​ของ​พระองค์​เกิด​จาก​ความ​รัก​ที่​พระองค์​มี​ต่อ​สิ่ง​ทรง​สร้าง. (1 โยฮัน 4:8) พระ​ยะโฮวา​มิ​ได้​กีด​กัน​ใคร ๆ ใน​พวก​เรา​ไว้​จาก​สิ่ง​ใด ๆ ที่​เป็น​ประโยชน์. ดัง​นั้น คุณ​สามารถ​ใส่​ใจ​คำ​แนะ​นำ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ว่า “จง​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​สุด​ใจ​ของ​เจ้า, อย่า​พึ่ง​ใน​ความ​เข้าใจ​ของ​ตน​เอง: จง​รับ​พระองค์​ให้​เข้า​ส่วน​ใน​ทาง​ทั้ง​หลาย​ของ​เจ้า, และ​พระองค์​จะ​ชี้​ทาง​เดิน​ของ​เจ้า​ให้​แจ่ม​แจ้ง.”—สุภาษิต 3:5, 6.

[ภาพ​หน้า 7]

คุณ​สามารถ​เลือก​การ​ปกครอง​ของ​พระเจ้า​ได้​โดย​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​นำ​คำ​สั่ง​สอน​ของ​พระ​คัมภีร์​มา​ใช้​ใน​ชีวิต​คุณ

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 4]

© Jeroen Oerlemans/Panos Pictures