การช่วยให้พ้นจากกับดักของพรานดักนก
การช่วยให้พ้นจากกับดักของพรานดักนก
“[พระยะโฮวา] พระองค์จะทรงช่วยท่านให้พ้นจากกับดักของพรานดักนก.” —บทเพลงสรรเสริญ 91:3, ล.ม.
1. “พรานดักนก” คือใคร และเหตุใดผู้นี้จึงเป็นอันตราย?
คริสเตียนแท้ทุกคนเผชิญกับผู้ล่า ซึ่งเป็นบุคคลที่มีเชาวน์ปัญญาเหนือมนุษย์และมีเล่ห์เหลี่ยม. บทเพลงสรรเสริญ 91:3 (ล.ม.) เรียกผู้ล่านี้ว่าเป็น “พรานดักนก.” ศัตรูผู้นี้คือใคร? ตั้งแต่ฉบับ 1 มิถุนายน 1883 วารสารฉบับนี้ได้ระบุศัตรูนี้ว่าไม่ใช่ใครอื่นนอกจากซาตานพญามาร. ปรปักษ์ที่น่าเกรงขามนี้พยายามอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมเพื่อชักนำประชาชนของพระยะโฮวาไปผิดทางและดักจับพวกเขาเหมือนพรานที่พยายามดักจับนก.
2. เหตุใดจึงเปรียบเทียบซาตานว่าเป็นพรานดักนก?
2 ในสมัยโบราณมีการดักจับนกเพื่อฟังเสียงร้องเพลงอันไพเราะ, เพื่อใช้ขนนกที่สวยงาม, รวมทั้งเพื่อเป็นอาหารและเครื่องบูชา. อย่างไรก็ตาม โดยธรรมชาตินกเป็นสัตว์ที่ระวังตัวและตื่นตกใจง่ายจึงยากที่จะดักจับ. ดังนั้น พรานดักนกในสมัยคัมภีร์ไบเบิลจึงศึกษาอย่างละเอียดก่อนว่านกชนิดที่เขาต้องการดักจับนั้นมีลักษณะและนิสัยอย่างไร. จากนั้น เขาจึงคิดวิธีที่แยบยลเพื่อดักจับนก. การที่คัมภีร์ไบเบิลเปรียบเทียบวิธีการของซาตานว่าเหมือนกับของพรานดักนก นั่นช่วยเราให้เข้าใจวิธีการต่าง ๆ ของซาตาน. พญามารศึกษาเราแต่ละคน. มันสังเกตนิสัยและบุคลิกลักษณะของเราและวางกับดักที่ซ่อนเร้นเพื่อพยายามจับเราทั้งเป็น. (2 ติโมเธียว 2:26) การถูกซาตานจับจะหมายถึงความหายนะทางฝ่ายวิญญาณและอาจทำให้เราถูกทำลายในที่สุด. ดังนั้น เพื่อป้องกันตัวเอง เราต้องรู้อุบายหลากหลายของ “พรานดักนก.”
3, 4. กลยุทธ์ของซาตานเหมือนกับของสิงโตอย่างไร? และเหมือนของงูเห่าอย่างไร?
3 โดยใช้ภาพเปรียบเทียบที่ทำให้เห็นชัด ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญยังเปรียบกลวิธีต่าง ๆ ของซาตานว่าเป็นเหมือนวิธีการของสิงโตหนุ่มหรือของงูเห่า. (บทเพลงสรรเสริญ 91:13) เช่นเดียวกับสิงโต บางครั้งซาตานโจมตีอย่างเปิดเผยซึ่ง ๆ หน้าโดยใช้การข่มเหงหรือการออกกฎหมายต่อต้านประชาชนของพระยะโฮวา. (บทเพลงสรรเสริญ 94:20) การโจมตีแบบสิงโตเช่นนั้นอาจทำให้ไม่กี่คนละทิ้งพระยะโฮวาไป. อย่างไรก็ตาม บ่อยครั้งมากที่การโจมตีอย่างโจ่งแจ้งส่งผลในทางตรงกันข้าม และยังผลทำให้ประชาชนของพระเจ้าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน. แต่การโจมตีของซาตานที่แยบยลกว่าและเหมือนงูเห่านั้นเป็นอย่างไร?
4 พญามารใช้เชาวน์ปัญญาเหนือมนุษย์เพื่อลงมือโจมตีแบบซ่อนเร้นและทำให้ถึงตายเช่นเดียวกับการแอบซุ่มโจมตีของงูพิษ. โดยวิธีนี้ มันประสบผลสำเร็จในการทำให้จิตใจของประชาชนของพระเจ้าบางคนเป็นพิษ โดยล่อลวงพวกเขาให้ทำตามความประสงค์ของมันแทนที่จะทำตามพระประสงค์ของพระยะโฮวา พร้อมด้วยผลตามมาที่น่าเศร้า. น่าดีใจที่เรารู้อุบายของซาตาน. (2 โกรินโธ 2:11) ตอนนี้ขอให้เราพิจารณากับดักที่ทำให้ถึงตายสี่อย่างที่ “พรานดักนก” ใช้.
การกลัวมนุษย์
5. เหตุใด “การกลัวมนุษย์” จึงเป็นกับดักที่ใช้ได้ผลดีมาก?
5 “พรานดักนก” เข้าใจความปรารถนาตามธรรมดาของมนุษย์ที่อยากได้การยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบจากคนอื่น ๆ. คริสเตียนใช่ว่าจะไร้ความรู้สึกจนไม่สนใจความคิดและความรู้สึกของคนอื่นที่อยู่รอบข้าง. เนื่องจากรู้เรื่องนี้ พญามารจึงฉวยประโยชน์จากความกังวลของพวกเขาที่ว่าผู้คนคิดอย่างไรเกี่ยวกับตัวเขา. ยกตัวอย่าง มันทำให้ประชาชนของพระเจ้าบางคนสูญเสียความสมดุลโดยใช้ “การกลัวมนุษย์” เป็นกับดัก. (สุภาษิต 29:25, ล.ม.) ถ้าเพราะการกลัวมนุษย์ ผู้รับใช้ของพระเจ้าเข้าร่วมกับคนอื่นในการทำสิ่งที่พระยะโฮวาทรงห้ามหรือละเลยจากการทำสิ่งที่พระ คำของพระเจ้าบัญชา เขาก็ติดกับดักของ “พรานดักนก.”—ยะเอศเคล 33:8; ยาโกโบ 4:17.
6. ตัวอย่างอะไรที่แสดงให้เห็นวิธีที่เยาวชนอาจติดกับของ “พรานดักนก”?
6 ยกตัวอย่าง เยาวชนคนหนึ่งอาจยอมจำนนต่อความกดดันจากเพื่อนที่โรงเรียนให้สูบบุหรี่. เขาอาจไม่เคยคิดที่จะสูบบุหรี่เลยเมื่อเขาไปโรงเรียนในวันนั้น. กระนั้น ในไม่ช้าเขาก็ทำสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพและทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย. (2 โกรินโธ 7:1) เขาถูกล่อใจอย่างไร? บางทีเขาอาจจะเข้าไปพัวพันอยู่ในกลุ่มเพื่อนไม่ดีและกลัวไม่เป็นที่ยอมรับจากพวกเขา. เยาวชนทั้งหลาย อย่ายอมให้ “พรานดักนก” ล่อใจและทำให้คุณติดกับ! เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับทั้งเป็น จงระวังที่จะไม่ประนีประนอมแม้แต่ในเรื่องเล็กน้อย. จงเอาใจใส่คำเตือนจากคัมภีร์ไบเบิลที่ให้หลีกเลี่ยงการคบหาสมาคมที่ไม่ดี.—1 โกรินโธ 15:33.
7. ซาตานอาจทำให้บิดามารดาบางคนสูญเสียความสมดุลฝ่ายวิญญาณอย่างไร?
7 บิดามารดาคริสเตียนที่สำนึกในหน้าที่ถือว่าความรับผิดชอบของเขาตามหลักพระคัมภีร์ที่จะจัดหาสิ่งฝ่ายวัตถุให้ครอบครัวนั้นสำคัญมาก. (1 ติโมเธียว 5:8) อย่างไรก็ตาม ซาตานมีเป้าหมายที่จะทำให้คริสเตียนสูญเสียความสมดุลในเรื่องนี้. คริสเตียนบางคนอาจขาดการประชุมเป็นนิสัยเนื่องจากยอมจำนนต่อความกดดันจากนายจ้างที่ให้ทำงานล่วงเวลา. พวกเขาอาจไม่กล้าขอลาหยุดงานเพื่อเข้าร่วมการประชุมภาคทุกวาระในการนมัสการพระยะโฮวาร่วมกับพี่น้องของเขา. การป้องกันกับดักนี้คือให้ “วางใจในพระยะโฮวา.” (สุภาษิต 3:5, 6) นอกจากนั้น การจดจำไว้ว่าเราทุกคนเป็นสมาชิกแห่งครัวเรือนของพระยะโฮวาและที่พระองค์สัญญาว่าจะดูแลเราจะช่วยเราให้รักษาความสมดุล. บิดามารดาทั้งหลาย คุณเชื่อไหมว่าไม่ทางใดก็ทางหนึ่งพระยะโฮวาจะดูแลคุณและครอบครัวของคุณเมื่อคุณทำตามพระทัยประสงค์ของพระองค์? หรือว่า พญามารจะจับคุณทั้งเป็นและชักจูงคุณให้ทำตามความประสงค์ของมันเพราะการกลัวมนุษย์ไหม? เราวิงวอนให้คุณพิจารณาคำถามดังกล่าวพร้อมด้วยการอธิษฐาน.
กับดักของการนิยมวัตถุ
8. ซาตานใช้การล่อใจจากวัตถุนิยมในวิธีใด?
8 ซาตานใช้การล่อใจจากวัตถุนิยมเพื่อดักจับเราด้วย. บ่อยครั้งระบบการค้าของโลกนี้ส่งเสริมแผนรวยลัดที่อาจถึงกับทำให้ประชาชนของพระเจ้าบางคนหลงกล. บางครั้ง คนเราอาจถูกเร่งเร้าดังนี้: “จงทำงานหนัก. เมื่อคุณมีฐานะที่มั่นคง คุณก็ไม่ต้องทำงานหนักอีกและคุณจะเพลิดเพลินกับชีวิต. คุณอาจเป็นไพโอเนียร์ได้ด้วยซ้ำ.” คำพูดดังกล่าวอาจมาจากบางคนในประชาคมที่มีการหาเหตุผลที่ไม่สมดุลซึ่งฉวยประโยชน์ด้านการเงินจากการคบหากับพี่น้องในประชาคมคริสเตียน. จงคิดให้รอบคอบเมื่อได้รับคำเร่งเร้าเช่นนั้น. การคิดเช่นนั้นสะท้อนความคิดของชายเศรษฐี “โง่” ในอุปมาของพระเยซูมิใช่หรือ?—ลูกา 12:16-21.
9. เพราะเหตุใดคริสเตียนบางคนจึงอาจติดกับโดยการปรารถนาสิ่งต่าง ๆ?
9 ซาตานทำให้ระบบชั่วของมันดำเนินไปในวิธีที่โน้มน้าวผู้คนให้ปรารถนาอยากได้สิ่งต่าง ๆ. ในที่สุดความปรารถนาเช่นนั้นอาจรุกล้ำเข้ามาในชีวิตคริสเตียน, ปกคลุมพระคำของพระเจ้าและทำให้ “ไม่เกิดผล.” (มาระโก 4:19) คัมภีร์ ไบเบิลสนับสนุนเราให้อิ่มใจกับเครื่องอุปโภคบริโภคและที่อยู่อาศัย. (1 ติโมเธียว 6:8) อย่างไรก็ตาม หลายคนติดกับของ “พรานดักนก” เนื่องจากพวกเขาไม่ได้ใช้คำแนะนำนั้น. อาจเป็นได้ไหมว่าความทะนงตัวทำให้เขารู้สึกว่าต้องติดตามรูปแบบชีวิตบางอย่าง? ตัวเราเองเป็นเช่นไร? ความปรารถนาจะเป็นเจ้าของสิ่งต่าง ๆ ทำให้เราผลักผลประโยชน์แห่งการนมัสการแท้ไปอยู่ในอันดับรองไหม? (ฮาฆี 1:2-8) น่าเศร้า ในช่วงที่เศรษฐกิจฝืดเคือง บางคนยอมสละสิ่งฝ่ายวิญญาณเพื่อรักษารูปแบบชีวิตที่เขาคุ้นเคย. ทัศนะแบบนิยมวัตถุเช่นนั้นทำให้ “พรานดักนก” ยินดี!
กับดักของความบันเทิงที่เสื่อมทราม
10. คริสเตียนแต่ละคนควรตรวจสอบตัวเองเช่นไร?
10 กลวิธีอีกอย่างหนึ่งของ “พรานดักนก” คือการเซาะกร่อนความรู้สึกตามธรรมชาติของผู้คนเกี่ยวกับสิ่งที่ดีและไม่ดี. ทัศนะคติคล้าย ๆ กันกับที่พบในเมืองโซโดมและโกโมร์ราห์มีอิทธิพลอย่างสูงในอุตสาหกรรมบันเทิง. แม้กระทั่งรายงานข่าวทางโทรทัศน์และในนิตยสารต่าง ๆ ก็เน้นเรื่องความรุนแรงและมีเรื่องและภาพที่สนองความสนใจอันน่าตื่นตกใจในเรื่องเพศ. ความบันเทิงส่วนใหญ่ที่ปรากฏในสื่อทำให้ความสามารถของผู้คนที่จะ “แยกออกว่าอะไรถูกอะไรผิด” ลดน้อยลง. (เฮ็บราย 5:14, ล.ม.) อย่างไรก็ตาม จงนึกถึงคำตรัสของพระยะโฮวาที่ผ่านทางผู้พยากรณ์ยะซายาที่ว่า “วิบัติแก่คนที่เห็นชั่วเป็นดี, และเห็นดีเป็นชั่ว!” (ยะซายา 5:20) “พรานดักนก” ก่อความเสียหายต่อความคิดของคุณด้วยความบันเทิงที่เสื่อมทรามดังกล่าวโดยไม่รู้ตัวไหม? การตรวจสอบตัวเองเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง.—2 โกรินโธ 13:5.
11. วารสารนี้เคยให้คำเตือนเช่นไรเกี่ยวกับละครชุดทางทีวี?
11 เกือบ 25 ปีมาแล้วที่วารสารหอสังเกตการณ์ ให้คำเตือนด้วยความรักแก่ครัวเรือนแห่งผู้นมัสการแท้ของพระเจ้าเกี่ยวกับละครชุดทางทีวี. * มีการให้ความเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่แฝงเร้นของละครชุดอันเป็นที่นิยมดังนี้: “การแสวงหาความรักถูกนำมาใช้อ้างเหตุผลสนับสนุนการประพฤติแบบใด ๆ ก็ได้. ตัวอย่างเช่น หญิงสาวคนหนึ่งตั้งครรภ์โดยไม่ได้สมรสบอกกับเพื่อนว่า: ‘แต่ฉันรักวิกเตอร์. ฉันไม่สนใจอะไรทั้งนั้น. . . . การมีลูกกับเขาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับฉัน!’ เสียงดนตรีประกอบเบา ๆ ทำให้ยากที่จะถือว่าการกระทำของเธอนั้นเลวร้าย. คุณก็ชอบวิกเตอร์เหมือนกัน. คุณรู้สึกเห็นอกเห็นใจเด็กสาวคนนั้น. คุณ ‘เข้าใจ’ พวกเขา. ผู้ชมคนหนึ่งซึ่งได้มาสำนึกภายหลังกล่าวว่า ‘เป็นเรื่องน่าประหลาดใจที่คุณสามารถหาข้อแก้ตัวได้. เราก็รู้ว่าการทำผิดศีลธรรมนั้นไม่ดี. . . . แต่ดิฉันได้มาตระหนักว่าทางด้านจิตใจแล้วดิฉันเห็นใจเขา.’ ”
12. มีข้อเท็จจริงอะไรบ้างที่บ่งชี้ว่าเป็นการเหมาะสมที่จะให้คำเตือนเกี่ยวกับรายการทีวีบางรายการในปัจจุบัน?
12 ตั้งแต่มีการพิมพ์บทความดังกล่าว รายการแบบนี้ที่ทำให้หัวใจเสื่อมเสียมีให้ดูมากขึ้น. ในหลายแห่ง มีการออกอากาศรายการเช่นนั้นตลอด 24 ชั่วโมง. ผู้ชาย, ผู้หญิง,
และวัยรุ่นหลายคนรับความบันเทิงเช่นนั้นลงในจิตใจและหัวใจของตนเป็นประจำ. กระนั้น เราต้องไม่หลอกตัวเองด้วยการหาเหตุผลผิด ๆ. คงเป็นการผิดที่จะหาเหตุผลว่าความบันเทิงที่เสื่อมศีลธรรมไม่ได้เลวร้ายไปกว่าสิ่งที่เห็นในชีวิตจริง. คริสเตียนจะหาข้อแก้ตัวได้จริง ๆ ไหมสำหรับการเลือกที่จะรับเอาความบันเทิงจากคนประเภทที่เขาไม่เคยคิดจะเชิญเข้าบ้าน?13, 14. บางคนกล่าวอย่างไรถึงวิธีที่เขาได้รับประโยชน์จากคำเตือนเกี่ยวกับทีวี?
13 หลายคนได้รับประโยชน์เมื่อเอาใจใส่คำเตือนนั้นที่มาจาก “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม.” (มัดธาย 24:45-47, ล.ม.) หลังจากอ่านคำแนะนำที่ตรงไปตรงมาและอาศัยพระคัมภีร์เป็นหลัก บางคนเขียนมาเล่าว่าบทความเหล่านั้นส่งผลกระทบต่อเขาเองอย่างไร. * ผู้หญิงคนหนึ่งสารภาพว่า “เป็นเวลาถึง 13 ปีที่ดิฉันติดละครชุดทางทีวี. ดิฉันเคยคิดว่าเป็นการปลอดภัยดีอยู่แล้ว เพียงแต่ถ้าดิฉันเข้าร่วมการประชุมคริสเตียนและออกประกาศบ้างเป็นครั้งคราว. แต่ดิฉันได้รับเอาทัศนะของโลกจากละครชุดทางทีวีที่ว่า ถ้าสามีปฏิบัติไม่ดีต่อคุณหรือคุณรู้สึกว่าไม่ได้รับความรักจากเขา ก็มีเหตุอันควรที่จะเล่นชู้—โดยถือว่าเขาเป็นต้นเหตุ. และดังนั้น เมื่อดิฉันรู้สึกว่า ‘มีเหตุอันควร’ ดิฉันจึงได้ประพฤติชั่วและได้ทำบาปต่อพระยะโฮวาและต่อคู่สมรส.” ผู้หญิงคนนี้ถูกตัดสัมพันธ์. ในที่สุด เธอสำนึกผิด, กลับใจ, และถูกรับกลับสู่ฐานะเดิม. บทความที่เตือนเกี่ยวกับละครชุดทางทีวีทำให้เธอมีกำลังที่จะปฏิเสธความบันเทิงที่พระยะโฮวาทรงเกลียดชัง.—อาโมศ 5:14, 15.
14 ผู้อ่านอีกคนหนึ่งซึ่งชีวิตของเธอได้รับผลกระทบกล่าวว่า “ดิฉันร้องไห้เมื่ออ่านบทความนี้เนื่องจากดิฉันพบว่าหัวใจของดิฉันไม่ได้ครบถ้วนต่อพระยะโฮวาอีกต่อไป. ดิฉันสัญญากับพระเจ้าของดิฉันว่าจะไม่เป็นทาสของละครชุดอีกต่อไป.” หลังจากแสดงความหยั่งรู้ค่าบทความนั้น สตรีคริสเตียนคนหนึ่งยอมรับว่าเธอติดละครชุดและเขียนบอกว่า “ดิฉันสงสัยว่า . . . สัมพันธภาพระหว่างดิฉันกับพระยะโฮวาอาจได้รับผลกระทบหรือเปล่า. ฉันจะเป็นมิตรกับตัวละครและในขณะเดียวกันก็เป็นมิตรกับพระยะโฮวาได้อย่างไร?” ถ้าเมื่อ 25 ปีก่อนรายการทีวีเช่นนั้นทำให้หัวใจเสื่อมเสียได้ แล้วในทุกวันนี้ล่ะผลกระทบของมันจะเป็นเช่นไร? (2 ติโมเธียว 3:13) เราต้องรู้ทันกับดักของซาตานในเรื่องความบันเทิงที่เสื่อมทรามทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นละครชุดทางทีวี, วิดีโอเกมที่รุนแรง, หรือมิวสิกวิดีโอที่ผิดศีลธรรม.
กับดักของความขัดแย้งส่วนตัว
15. บางคนถูกพญามารจับทั้งเป็นอย่างไร?
15 ซาตานใช้ความขัดแย้งส่วนตัวเป็นกับดักเพื่อทำให้ประชาชนของพระยะโฮวาแตกแยกกัน. เราอาจติดกับดักนี้ได้ไม่ว่าเราจะมีสิทธิพิเศษแห่งงานรับใช้แบบใดก็ตาม. บางคนถูกพญามารจับทั้งเป็นเนื่องจากพวกเขายอมให้ความขัดแย้งส่วนตัวต่อกันมาทำลายสันติสุขและเอกภาพและความรุ่งเรืองฝ่ายวิญญาณอันมหัศจรรย์ที่พระยะโฮวาทรงทำให้เกิดขึ้น.—บทเพลงสรรเสริญ 133:1-3.
16. ซาตานใช้ความพยายามอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมอย่างไรเพื่อทำลายเอกภาพของเรา?
วิวรณ์ 11:7-13) นับแต่นั้นมา มันทำงานอย่างมีเล่ห์เหลี่ยมเพื่อทำลายเอกภาพของเรา. เมื่อเรายอมให้ความขัดแย้งส่วนตัวต่อกันมาทำลายเอกภาพ เราก็เปิดโอกาสให้ “พรานดักนก.” โดยวิธีนี้ เราอาจขัดขวางพระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่ให้หลั่งไหลเต็มที่ในชีวิตส่วนตัวของเรารวมทั้งในประชาคมด้วย. ถ้าสิ่งนี้เกิดขึ้น ซาตานคงดีใจเพราะหากสันติสุขและเอกภาพในประชาคมถูกทำลายย่อมส่งผลเสียต่องานประกาศ.—เอเฟโซ 4:27, 30-32.
16 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ซาตานพยายามทำลายองค์การของพระยะโฮวาในส่วนที่อยู่บนแผ่นดินโลกโดยการโจมตีซึ่ง ๆ หน้า แต่มันล้มเหลว. (17. อะไรจะช่วยผู้ที่มีความขัดแย้งส่วนตัวต่อกันแก้ปัญหาได้?
17 คุณจะทำอะไรได้บ้างถ้าคุณมีความขัดแย้งส่วนตัวกับเพื่อนคริสเตียน? ต้องยอมรับว่าสภาพการณ์แต่ละอย่างนั้นไม่เหมือนกัน. อย่างไรก็ตาม แม้อาจจะมีเหตุผลมากมายที่ทำให้เกิดปัญหา แต่ไม่มีเหตุผลที่ความขัดแย้งส่วนตัวจะคงอยู่ต่อไปโดยไม่ได้รับการแก้ไข. (มัดธาย 5:23, 24; 18:15-17) คำแนะนำในพระคำของพระเจ้ามีขึ้นโดยการดลใจและสมบูรณ์พร้อม. เมื่อนำไปใช้ หลักการในคัมภีร์ไบเบิลไม่เคยผิดพลาด. หลักการเหล่านั้นก่อผลดีเสมอ!
18. เหตุใดการเลียนแบบพระยะโฮวาจึงช่วยเราแก้ความขัดแย้งส่วนตัวต่อกันได้?
18 พระยะโฮวาทรง “พร้อมที่จะทรงยกความผิด” และพระองค์ทรงมี “การอภัยโทษ.” (บทเพลงสรรเสริญ 86:5; 130:4) เราแสดงให้เห็นว่าเราเป็นบุตรที่รักของพระยะโฮวาเมื่อเราเลียนแบบพระองค์. (เอเฟโซ 5:1) เราทุกคนเป็นคนบาปและจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องได้รับการให้อภัยจากพระยะโฮวา. ดังนั้น เราต้องระวังให้ดีถ้ารู้สึกว่าเรามีแนวโน้มจะไม่ให้อภัยคนใดคนหนึ่ง. เราอาจเป็นเหมือนทาสในอุทาหรณ์ของพระเยซูที่ไม่ยอมยกหนี้ให้เพื่อนทาสซึ่งเป็นหนี้จำนวนน้อยกว่ามากเมื่อเทียบกับหนี้ที่นายของเขาได้ยกให้. เมื่อนายทราบเรื่องนี้ เขาจึงสั่งให้จำคุกทาสที่ไม่ยอมยกหนี้. พระเยซูทรงสรุปอุทาหรณ์เรื่องนี้โดยตรัสว่า “พระบิดาของเราผู้สถิตในสวรรค์จะทรงปฏิบัติกับเจ้าทั้งหลายอย่างนั้นแหละถ้าพวกเจ้าแต่ละคนไม่อภัยให้พี่น้องจากใจจริง.” (มัดธาย 18:21-35, ล.ม.) การใคร่ครวญอุทาหรณ์นี้และไตร่ตรองว่ากี่ครั้งแล้วที่พระยะโฮวาทรงให้อภัยเราอย่างใจกว้างจะช่วยเราอย่างแน่นอนเมื่อเราพยายามจัดการกับความขัดแย้งส่วนตัวที่มีกับพี่น้อง!—บทเพลงสรรเสริญ 19:14.
ปลอดภัยใน “ที่อันลับแห่งผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด”
19, 20. ในยุคที่อันตรายนี้ เราควรมอง “ที่อันลับ” และ “ร่มเงา” ของพระยะโฮวาอย่างไร?
19 เรากำลังอยู่ในยุคที่อันตราย. ซาตานคงจะทำลายเราทุกคนอย่างแน่นอนถ้าเราไม่ได้รับการปกป้องด้วยความรักจากพระยะโฮวา. ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงการติดกับของ “พรานดักนก” เราต้องรักษาตัวให้อยู่ในที่แห่งการปกป้องโดยนัย “อาศัยอยู่ในที่อันลับแห่งผู้ใหญ่ยิ่งสูงสุด” และจะได้ “ที่อยู่อาศัยภายใต้ร่มเงาของผู้ทรงฤทธานุภาพทุกประการ.”—บทเพลงสรรเสริญ 91:1, ล.ม.
20 ขอเรามองว่าข้อเตือนใจและการชี้นำของพระยะโฮวาเป็นเครื่องปกป้องเสมอ ไม่ใช่เป็นข้อจำกัด. เราทุกคนเผชิญกับผู้ล่าที่มีเชาวน์ปัญญาเหนือมนุษย์. หากไม่ได้รับการช่วยเหลือด้วยความรักจากพระยะโฮวา คงไม่มีใครหนีพ้นจากการติดกับได้. (บทเพลงสรรเสริญ 124:7, 8) ดังนั้น ขอเราอธิษฐานให้พระยะโฮวาช่วยเราให้รอดพ้นจากกับดักของ “พรานดักนก”!—มัดธาย 6:13.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 11 วารสารหอสังเกตการณ์ ฉบับ 1 กรกฎาคม 1983 หน้า 3-9.
^ วรรค 13 วารสารหอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 มิถุนายน 1984 หน้า 27-28.
คุณจำได้ไหม?
• เหตุใด “การกลัวมนุษย์” จึงเป็นกับดักที่ทำให้ถึงตาย?
• พญามารใช้การล่อใจจากวัตถุนิยมอย่างไร?
• ซาตานดักจับบางคนด้วยกับดักของความบันเทิงที่เสื่อมทรามอย่างไร?
• พญามารใช้กับดักอะไรเพื่อทำลายเอกภาพของเรา?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 27]
บางคนติดกับเนื่องด้วย “การกลัวมนุษย์”
[ภาพหน้า 28]
คุณแสวงหาความบันเทิงจากสิ่งที่พระยะโฮวาทรงเกลียดไหม?
[ภาพหน้า 29]
คุณจะทำอะไรได้บ้างถ้าคุณมีความขัดแย้งส่วนตัวกับเพื่อนคริสเตียน?