แสวงหาจุดมุ่งหมายที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย
แสวงหาจุดมุ่งหมายที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย
“จงให้ทุกสิ่งที่หายใจสรรเสริญพระเจ้า.”—บทเพลงสรรเสริญ 150:6, ฉบับแปลใหม่.
1. จงพรรณนาว่าชายหนุ่มคนหนึ่งแสวงหาจุดมุ่งหมายในชีวิตอย่างไร.
“ผมเรียนหมอเพราะผมอยากใช้ชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้คน. ผมยังคิดด้วยว่าเกียรติยศและผลตอบแทนทางการเงินของการเป็นหมอคงจะทำให้ผมมีความสุข” ซุง จิน ซึ่งเติบโตขึ้นมาในประเทศเกาหลีกล่าว. * “แต่เมื่อผมได้มาตระหนักว่าหมอสามารถช่วยคนได้น้อยสักเพียงไร ผมรู้สึกผิดหวัง. หลังจากนั้น ผมเลยเปลี่ยนไปเรียนศิลปะ แต่งานสร้างสรรค์ทางศิลปะของผมทำประโยชน์ให้คนอื่นน้อยมาก และผมรู้สึกว่าตัวเองเห็นแก่ตัว. ผมหันไปทำงานสอนและไม่ช้าก็พบว่าผมทำได้แค่ถ่ายทอดข้อเท็จจริง แต่ไม่สามารถให้การชี้แนะที่นำไปสู่ความสุขแท้.” เช่นเดียวกับหลาย ๆ คน ซุง จิน กำลังแสวงหาจุดมุ่งหมายที่ทำให้ชีวิตมีความหมาย.
2. (ก) การมีจุดมุ่งหมายในชีวิตหมายความเช่นไร? (ข) เรารู้ได้อย่างไรว่าพระผู้สร้างทรงมีจุดมุ่งหมายในการให้เรามีชีวิตอยู่ที่นี่?
2 การมีจุดมุ่งหมายแท้ในชีวิตหมายถึงการมีเหตุผลสำหรับการมีชีวิตอยู่, มีเป้าหมายชัดเจนในชีวิต, และมีเป้าหมายหลักที่เราจะทุ่มเทความพยายามของเรา. มนุษย์สามารถมีจุดมุ่งหมายเช่นนั้นได้จริง ๆ ไหม? ได้! ข้อเท็จจริงที่ว่าเราถูกสร้างให้มีเชาวน์ปัญญา, สติรู้สึกผิดชอบ, และความสามารถในการหาเหตุผลแสดงว่าพระผู้สร้างทรงมีจุดมุ่งหมายที่ดีในการให้เราอยู่ที่นี่. ดังนั้น ตามเหตุผลแล้ว เราสามารถพบและบรรลุจุดมุ่งหมายแท้ได้เฉพาะแต่เมื่อเราดำเนินชีวิตประสานกับพระประสงค์ของพระผู้สร้าง.
3. พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับมนุษย์หมายรวมถึงอะไรบ้าง?
3 คัมภีร์ไบเบิลเปิดเผยว่าพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับเราหมายรวมถึงหลายสิ่ง. ตัวอย่างเช่น การที่เราถูกสร้างอย่างน่าพิศวงนั้นแสดงให้เห็นถึงความรักอันไม่เห็นแก่ตัวของพระเจ้าอย่างแท้จริง. (บทเพลงสรรเสริญ 40:5; 139:14) ด้วยเหตุนั้น การดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้าหมายถึงการรักผู้อื่นอย่างไม่เห็นแก่ตัวเช่นเดียวกับพระเจ้า. (1 โยฮัน 4:7-11) การดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้ายังหมายถึงการปฏิบัติตามพระบัญชาของพระเจ้าด้วย ซึ่งช่วยเราให้ดำเนินชีวิตสอดคล้องกับพระประสงค์อันเปี่ยมด้วยความรักของพระองค์.—ท่านผู้ประกาศ 12:13; 1 โยฮัน 5:3.
4. (ก) จำเป็นต้องมีอะไรเพื่อจะมีจุดมุ่งหมายแท้ในชีวิต? (ข) จุดมุ่งหมายสูงสุดที่คนเราจะสามารถมีได้คืออะไร?
เยเนซิศ 1:26; 2:15) แต่เราจำเป็นต้องทำอะไรเพื่อจะรู้สึกมีความสุข, มั่นคง, และสงบใจ? เช่นเดียวกับเด็กที่จำเป็นต้องรับรู้ว่าบิดามารดาอยู่ใกล้ ๆ จึงจะรู้สึกมีความสุขและมั่นคงปลอดภัย เราจำเป็นต้องมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพระบิดาของเราผู้อยู่ในสวรรค์เพื่อจะพบความหมายและจุดมุ่งหมายแท้ในชีวิต. (เฮ็บราย 12:9) พระเจ้าทรงทำให้สายสัมพันธ์เช่นนั้นกับพระองค์เป็นไปได้โดยทรงอนุญาตให้เราเข้าใกล้พระองค์และโดยทรงสดับคำอธิษฐานของเรา. (ยาโกโบ 4:8; 1 โยฮัน 5:14, 15) หากเรา “ดำเนินกับพระเจ้า” ด้วยความเชื่อและได้มาเป็นมิตรกับพระองค์ เราสามารถทำให้พระบิดาของเราผู้อยู่ในสวรรค์ยินดีและทำให้พระองค์ได้รับคำสรรเสริญ. (เยเนซิศ 6:9; สุภาษิต 23:15, 16; ยาโกโบ 2:23) นั่นเป็นจุดมุ่งหมายสูงสุดที่คนเราจะสามารถมีได้. ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญเขียนว่า “จงให้ทุกสิ่งที่หายใจสรรเสริญพระเจ้า.”—บทเพลงสรรเสริญ 150:6, ฉบับแปลใหม่.
4 พระเจ้ายังทรงมีพระประสงค์ให้มนุษย์มีชีวิตอย่างมีความสุขและมีสันติสุขต่อกันและกับสิ่งทรงสร้างอื่น ๆ ทั้งหมดด้วย. (จุดมุ่งหมายในชีวิตของคุณคืออะไร?
5. เหตุใดการให้ผลประโยชน์ด้านวัตถุมาเป็นอันดับแรกจึงไม่ฉลาด?
5 ส่วนหนึ่งที่เป็นพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับเราก็คือให้เราเอาใจใส่ดูแลตัวเองและครอบครัวของเราอย่างดี. นี่หมายรวมถึงการดูแลความจำเป็นทั้งด้านร่างกายและด้านวิญญาณ. แต่เพื่อจะทำอย่างนั้นได้ต้องมีความสมดุล เพื่อเรื่องต่าง ๆ ทางโลกจะไม่บดบังสิ่งฝ่ายวิญญาณซึ่งสำคัญกว่า. (มัดธาย 4:4; 6:33) น่าเสียดาย ผู้คนจำนวนมากเน้นเฉพาะการได้มาซึ่งสิ่งต่าง ๆ ฝ่ายวัตถุเป็นเรื่องสำคัญในชีวิตตน. ทว่า การพยายามสนองความจำเป็นทุกอย่างของเราเฉพาะแต่สิ่งฝ่ายวัตถุเป็นเรื่องไม่ฉลาด. การสำรวจชีวิตของบรรดาเศรษฐีในเอเชียเมื่อเร็ว ๆ นี้เผยให้เห็นว่าพวกเขาหลายคน “รู้สึกไม่มั่นคงและวิตกกังวล แม้ว่าพวกเขามีสถานภาพที่ดีทางสังคมและความรู้สึกว่าประสบความสำเร็จอันสืบเนื่องมาจากความมั่งคั่งของตน.”—ท่านผู้ประกาศ 5:11.
6. พระเยซูทรงให้คำแนะนำอะไรแก่คนที่มุ่งแสวงหาความมั่งคั่งร่ำรวย?
6 พระเยซูตรัสถึง “การล่อลวงแห่งทรัพย์สมบัติ.” (มาระโก 4:19) ทรัพย์สมบัติล่อลวงอย่างไร? ทรัพย์สมบัติดูเหมือนว่าน่าจะทำให้คนเรามีความสุข แต่จริง ๆ แล้วไม่เป็นอย่างนั้น. กษัตริย์ซะโลโมผู้ฉลาดสุขุมให้ข้อสังเกตไว้ว่า “คนที่รักเงินไม่มีวันรู้จักพอ.” (ท่านผู้ประกาศ 5:10, เดอะ นิว อิงลิช ไบเบิล) แต่เป็นไปได้ไหมที่จะมุ่งติดตามเป้าหมายฝ่ายวัตถุและขณะเดียวกันก็รับใช้พระเจ้าสิ้นสุดชีวิต? เป็นไปไม่ได้. พระเยซูทรงอธิบายว่า “ไม่มีคนใดปรนนิบัตินายสองนายได้ เพราะว่าจะชังนายข้างหนึ่งและจะรักนายอีกข้างหนึ่ง, หรือจะนับถือนายฝ่ายหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกฝ่ายหนึ่ง. ท่านจะปฏิบัติพระเจ้าและจะปฏิบัติเงินทองด้วยก็ไม่ได้.” พระเยซูทรงกระตุ้นเหล่าสาวกว่าอย่าสะสมทรัพย์สมบัติไว้บนแผ่นดินโลก แต่ให้สะสม “ทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์” กล่าวคือ ให้สร้างชื่อเสียงที่ดีกับพระเจ้าผู้ “ทรงทราบก่อนเมื่อท่านยังไม่ได้ขอ.”—มัดธาย 6:8, 19-25.
7. เราจะ “ยึดชีวิตแท้ไว้ให้มั่น” ได้โดยวิธีใด?
7 เมื่อเขียนถึงติโมเธียวเพื่อนร่วมงานของท่าน อัครสาวกเปาโลให้คำแนะนำอย่างหนักแน่นในเรื่องนี้. ท่านบอกติโมเธียวว่า “จงสั่งคนที่มั่งมี . . . อย่าฝากความหวังไว้กับทรัพย์สมบัติที่ไม่ยั่งยืน แต่ให้ฝากไว้กับพระเจ้าผู้ทรงโปรดให้เรามีทุกสิ่งอย่างอุดมเพื่อให้เราชื่นชมยินดี . . . ให้เป็นคนใจกว้าง พร้อมจะแบ่งปัน การทำอย่างนี้เป็นการสะสมทรัพย์ที่คงทนไว้เป็นฐานรากอันดีสำหรับอนาคต เพื่อพวกเขาจะได้ยึดชีวิตแท้ไว้ให้มั่น.”—1 ติโมเธียว 6:17-19, ล.ม.
“ชีวิตแท้” คืออะไร?
8. (ก) เหตุใดผู้คนมากมายบากบั่นพยายามจะมั่งคั่งร่ำรวยและมีชื่อเสียง? (ข) คนที่พยายามทำเช่นนั้นไม่เข้าใจในเรื่องใด?
8 สำหรับคนส่วนใหญ่ วลี “ชีวิตแท้” ทำให้นึกถึงภาพของความหรูหราและความพอใจยินดี. นิตยสารข่าวฉบับหนึ่งของเอเชียให้ข้อสังเกตดังนี้: “คนที่ดูภาพยนตร์หรือโทรทัศน์เรียนรู้ที่จะอยากได้สิ่งที่เขาเห็น ฝันอยากมีสิ่งที่เขาอาจมีได้.” ผู้คนมากมายตั้งเป้าหมายในชีวิตที่จะเป็นคนร่ำรวยและมีชื่อเสียง. หลายคนยอมเสียสละวัยหนุ่มสาว, 1 โกรินโธ 2:12; เอเฟโซ 2:2) ไม่แปลกที่ผู้คนมากมายในทุกวันนี้ไม่มีความสุข!—สุภาษิต 18:11; 23:4, 5.
สุขภาพ, ชีวิตครอบครัว, และค่านิยมฝ่ายวิญญาณเพื่อมุ่งแสวงหาสิ่งเหล่านี้. มีน้อยคนที่หยุดเพื่อจะคิดว่าภาพลักษณ์ดังกล่าวที่อยู่ในสื่อต่าง ๆ เป็นเพียงภาพสะท้อน “วิญญาณของโลก”—แบบแผนอันเด่นชัดของแนวคิดที่มีอิทธิพลต่อผู้คนส่วนใหญ่ในโลกที่มีหลายพันล้านคน และกระตุ้นพวกเขาให้ทำตรงกันข้ามกับพระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับเรา. (9. มนุษย์ไม่มีทางทำอะไรให้สำเร็จลุล่วง และเพราะเหตุใด?
9 จะว่าอย่างไรสำหรับคนที่ทำงานหนักอย่างไม่เห็นแก่ตัวเพื่อสวัสดิภาพของผู้อื่น พยายามขจัดความหิวโหย, ความเจ็บป่วย, และความอยุติธรรม? ความพยายามที่น่ายกย่องและเสียสละตนของพวกเขาบ่อยครั้งก่อผลที่ดีมาก. กระนั้น แม้พยายามอย่างดีที่สุดแล้ว พวกเขาจะไม่มีทางเปลี่ยนระบบนี้ให้เป็นระบบที่ดีและยุติธรรมได้. เพราะเหตุใด? เพราะในความเป็นจริงแล้ว “โลกทั้งโลกอยู่ในอำนาจตัวชั่วร้าย” คือซาตาน และมันไม่ต้องการให้โลกนี้เปลี่ยน.—1 โยฮัน 5:19, ล.ม.
10. ชนผู้ซื่อสัตย์จะมี “ชีวิตแท้” เมื่อไร?
10 ช่างน่าเศร้าสักเพียงไรหากคนเราไม่มีความหวังไกลไปกว่าชีวิตแบบในโลกปัจจุบันนี้! เปาโลเขียนว่า “ถ้าแม้เราทั้งหลายมีความไว้ใจในพระคริสต์ได้แต่ในชีวิตนี้เท่านั้น, เราก็เป็นพวกที่น่าสังเวชที่สุดในหมู่คนทั้งปวง.” ทัศนคติที่ว่า “ให้เรากินและดื่มเถิด, เพราะว่าพรุ่งนี้เราก็จะตาย” เป็นทัศนคติของคนที่เชื่อว่าชีวิตมีอยู่เพียงแค่นี้. (1 โกรินโธ 15:19, 32) แต่จริง ๆ แล้วมีอนาคต อันได้แก่ “ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ที่เราคอยท่าอยู่ตามคำสัญญาของ [พระเจ้า] ซึ่งที่นั่นจะมีความชอบธรรมอยู่จริง.” (2 เปโตร 3:13, ล.ม.) เมื่อถึงเวลานั้น คริสเตียนก็จะสามารถมี “ชีวิตแท้” อันได้แก่ “ชีวิตนิรันดร์” ในสภาพสมบูรณ์ ในสวรรค์หรือภายใต้การปกครองด้วยความรักของราชอาณาจักร รัฐบาลของพระเจ้า!—1 ติโมเธียว 6:12.
11. เหตุใดการทำงานเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าจึงเป็นงานที่มีความหมาย?
11 เฉพาะราชอาณาจักรของพระเจ้าเท่านั้นที่จะประสบความสำเร็จอย่างครบถ้วนในการแก้ปัญหาของมนุษยชาติ. ด้วยเหตุนั้น การลงมือลงแรงเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์แห่งราชอาณาจักรของพระเจ้าจึงเป็นความพยายามที่มีความหมายที่สุดเท่าที่ใคร ๆ จะสามารถทำได้. (โยฮัน 4:34) ขณะที่เราร่วมในงานนั้น เราสามารถมีสายสัมพันธ์อันล้ำค่ากับ พระบิดาของเราผู้อยู่ในสวรรค์. เรายังมีความยินดีจากการรับใช้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องฝ่ายวิญญาณหลายล้านคน ซึ่งติดตามเป้าหมายในชีวิตอย่างเดียวกัน.
เสียสละอย่างถูกต้อง
12. จงเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างชีวิตในระบบปัจจุบันกับ “ชีวิตแท้.”
12 คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า โลกในปัจจุบันนี้ “กับความใคร่ของโลกกำลังผ่านพ้นไป.” ไม่มีส่วนใดในโลกของซาตาน รวมทั้งชื่อเสียงและความมั่งคั่ง จะได้รับการยกเว้นไม่ถูกทำลาย “แต่ผู้ที่ประพฤติตามพระทัยของพระเจ้าคงจะตั้งอยู่เป็นนิตย์.” (1 โยฮัน 2:15-17) ตรงกันข้ามกับความมั่งคั่งที่ไม่จิรัง, เกียรติยศชั่วครู่ชั่วยาม, และความเพลิดเพลินอันผิวเผินของระบบปัจจุบัน “ชีวิตแท้”—ชีวิตนิรันดร์ภายใต้ราชอาณาจักรของพระเจ้า—เป็นสิ่งถาวรและควรค่าที่เราจะเสียสละ หากว่าเราเสียสละอย่างถูกต้อง.
13. คู่สมรสคู่หนึ่งเสียสละแบบที่ถูกต้องอย่างไร?
13 ขอให้พิจารณาเฮนรีและซูซาน. ทั้งสองมีความเชื่อเต็มเปี่ยมในคำสัญญาของพระเจ้าว่าทุกคนที่จัดให้ราชอาณาจักรมาเป็นอันดับแรกในชีวิตจะได้รับความช่วยเหลือจากพระเจ้า. (มัดธาย 6:33) ด้วยเหตุนั้น ทั้งสองเลือกอาศัยในบ้านที่ราคาไม่แพงเพื่อจะได้ไม่ต้องทำงานหาเงินทั้งสองคน และสามารถใช้เวลาได้มากกว่าในการทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณกับลูกสาวทั้งสองคนของเขา. (เฮ็บราย 13:15, 16) เพื่อนผู้ปรารถนาดีคนหนึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมเขาเลือกอย่างนี้. เธอบอกกับซูซานว่า “นี่เพื่อนรัก ถ้าเธออยากอยู่บ้านที่ดีกว่านี้ เธอก็เพียงแต่ต้องเสียสละอะไรบางอย่างเท่านั้นเอง.” แต่เฮนรีและซูซานรู้ว่าการจัดให้พระยะโฮวาเป็นอันดับแรก “มีคำสัญญาสำหรับชีวิตปัจจุบันนี้และชีวิตในอนาคต.” (1 ติโมเธียว 4:8; ติโต 2:12) ลูกสาวของเขาเติบโตขึ้นเป็นผู้เผยแพร่เต็มเวลาที่มีใจแรงกล้า. ในฐานะครอบครัว พวกเขาไม่รู้สึกว่าขาดสิ่งใดเลย; แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พวกเขาได้รับประโยชน์อย่างใหญ่หลวงจากการจัดให้ “ชีวิตแท้” เป็นเป้าหมายในชีวิต.—ฟิลิปปอย 3:8; 1 ติโมเธียว 6:6-8.
อย่า ‘ใช้ประโยชน์จากโลกนี้อย่างเต็มที่’
14. การลืมเป้าหมายที่แท้จริงของเราอาจนำไปสู่ผลที่น่าเศร้าอะไร?
14 อย่างไรก็ตาม นับว่าอันตรายจริง ๆ หากเราหลงลืมเป้าหมายที่แท้จริงของเราและไม่ได้ยึดมั่นอยู่กับ “ชีวิตแท้.” เราเสี่ยงที่จะ “ถูกความวิตกกังวล ทรัพย์สมบัติ และความสนุกสนานของชีวิตนี้ชักนำ.” (ลูกา 8:14, ล.ม.) ความปรารถนาที่ไม่มีการควบคุมและ “ความกระวนกระวายในเรื่องรายได้เลี้ยงชีพ” อาจนำเราเข้าไปพัวพันกับระบบนี้มากเกินไปได้. (ลูกา 21:34, ล.ม., อ้างอิง [ภาษาอังกฤษ]) น่าเศร้า บางคนได้เข้าไปหมกมุ่นอยู่กับธุรกิจที่แข่งขันกันอย่างบ้าคลั่งในโลกปัจจุบันและถูก “ชักนำให้หลงจากความเชื่อและได้ทิ่มแทงตัวเองทั่วทั้งตัวด้วยสิ่งที่ก่อความทุกข์มากมาย” ถึงกับสูญเสียสายสัมพันธ์อันล้ำค่าที่มีกับพระยะโฮวา. การไม่ได้ “ยึดมั่นอยู่กับชีวิตนิรันดร์” ทำให้สูญเสียอย่างใหญ่หลวงสักเพียงไร!—1 ติโมเธียว 6:9, 10, 12, ล.ม.; สุภาษิต 28:20.
15. ครอบครัวหนึ่งได้รับประโยชน์อย่างไรจากการ ‘ไม่ใช้ประโยชน์จากโลกนี้อย่างเต็มที่’?
15 เปาโลแนะนำว่า “ให้คนที่ใช้ประโยชน์จากโลกนี้เป็นเหมือนคนที่ไม่ใช้อย่างเต็มที่.” (1 โกรินโธ 7:31, ล.ม.) คีทและบอนนีจำข้อนี้ได้ขึ้นใจ. คีทเล่าว่า “ผมได้มาเป็นพยานพระยะโฮวาเมื่อผมเรียนจบทันตแพทย์พอดี. มีเรื่องหนึ่งที่ผมต้องเลือก. ผมสามารถรับคนไข้มาก ๆ และมีรายได้สูง แต่การทำอย่างนั้นขัดขวางการรับใช้และการนมัสการพระเจ้าของเรา. ผมได้เลือกจำกัดจำนวนคนไข้เพื่อจะมีเวลามากขึ้นในการดูแลสวัสดิภาพฝ่ายวิญญาณและด้านอารมณ์ของครอบครัว ซึ่งในที่สุดเรามีลูกสาวทั้งหมดห้าคน. แม้ว่านาน ๆ ทีเราจึงจะมีเงินเพื่อจุดประสงค์พิเศษ แต่เราเรียนรู้ที่จะประหยัด และเรามีสิ่งจำเป็นอยู่เสมอ. ครอบครัวเราใกล้ชิดสนิทสนมกัน อบอุ่น และอิ่มใจยินดี. ในที่สุด พวกเราทั้งหมดเข้าสู่งานรับใช้เต็มเวลา. ตอนนี้ ลูกสาวเราแต่งงานกันหมดแล้ว และสามคนมีลูก. ครอบครัวของลูก ๆ เราก็มีความสุขด้วยเช่นกัน เพราะพวกเขาจัดให้พระประสงค์ของพระยะโฮวามาเป็นอันดับแรกเสมอ.”
จัดให้พระประสงค์ของพระเจ้ามาเป็นอันดับแรกในชีวิต
16, 17. คัมภีร์ไบเบิลให้ตัวอย่างอะไรบ้างของคนที่มีความสามารถ และผู้คนระลึกถึงบุคคลเหล่านั้นในฐานะใด?
16 คัมภีร์ไบเบิลให้ตัวอย่างคนที่ดำเนินชีวิตตามพระประสงค์ของพระเจ้าและคนที่ไม่ได้ดำเนินชีวิตอย่างนั้น. บทเรียนจากตัวอย่างเช่นนั้นใช้ได้กับคนทุกวัย, ทุกวัฒนธรรม, และทุกสภาพการณ์. (โรม 15:4; 1 โกรินโธ 10:6, 11) นิมโรดสร้างเมืองใหญ่ขึ้นหลายเมือง แต่การสร้างนั้นเป็นการต่อต้านพระยะโฮวา. (เยเนซิศ 10:8-12, ล.ม.) อย่างไรก็ตาม มีคนอื่นหลายคนที่เป็นตัวอย่างที่ดี. ตัวอย่างเช่น โมเซไม่ได้ถือเอาสถานภาพในฐานะชนชั้นสูงของอียิปต์เป็นเป้าหมายในชีวิตของท่าน. แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ท่านถือว่าสิทธิพิเศษฝ่ายวิญญาณที่ท่านได้รับ “เป็นสิ่งมีค่ายิ่งกว่าทรัพย์สมบัติในอียิปต์.” (เฮ็บราย 11:26, ล.ม.) นายแพทย์ลูกาคงได้ช่วยเปาโล และคนอื่น ๆ ในเรื่องความเจ็บไข้ได้ป่วย. แต่ลูกามีส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในฐานะผู้เผยแพร่และผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิล. และสำหรับเปาโลนั้น ท่านไม่ได้เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านพระบัญญัติ แต่ในฐานะมิชชันนารี “อัครสาวกมายังพวกต่างประเทศ.”—โรม 11:13.
17 ผู้คนระลึกถึงดาวิด ในอันดับแรก ไม่ใช่ในฐานะแม่ทัพหรือนักดนตรีนักประพันธ์ แต่ในฐานะ ‘บุรุษผู้เป็นที่ชอบพระทัยพระเจ้า.’ (1 ซามูเอล 13:14) เรารู้จักดานิเอลไม่ใช่เพราะฐานะขุนนางในราชสำนักของบาบิโลน แต่เพราะงานรับใช้ในฐานะผู้พยากรณ์ที่ภักดีของพระยะโฮวา; เอศเธระไม่ได้เป็นที่รู้จักเพราะเป็นราชินีแห่งเปอร์เซีย แต่เพราะเป็นแบบอย่างในเรื่องความกล้าหาญและความเชื่อ; เปโตร, อันดะเรอา, ยาโกโบ, และโยฮันไม่ได้เป็นที่รู้จักเพราะเป็นชาวประมงที่ประสบความสำเร็จ แต่เพราะเป็นอัครสาวกของพระเยซู. และตัวอย่างที่ดีที่สุด พระเยซูเองทรงได้รับความนับถือจากเราไม่ใช่เพราะทรงเป็น “ช่างไม้” แต่เพราะทรงเป็น “พระคริสต์.” (มาระโก 6:3; มัดธาย 16:16) บุคคลเหล่านี้ทั้งหมดเข้าใจดีว่า ไม่ว่าเขามีความสามารถ, สินทรัพย์, หรือฐานะตำแหน่งเช่นไรก็ตาม จุดรวมในชีวิตของเขาต้องอยู่ที่การรับใช้พระเจ้า ไม่ใช่งานอาชีพฝ่ายโลก. พวกเขารู้ว่าเป้าหมายที่สูงส่งที่สุดและให้ผลตอบแทนสูงสุดที่เขาอาจมีได้คือการเป็นคนของพระเจ้า.
18. คริสเตียนหนุ่มคนหนึ่งตัดสินใจใช้ชีวิตอย่างไร และในที่สุดเขาตระหนักเช่นไร?
18 ซุง จิน ซึ่งกล่าวถึงในตอนต้นก็ได้มาเข้าใจอย่างนี้ด้วย. เขาอธิบายว่า “แทนที่จะอุทิศแรงกายทั้งหมดของผมให้แก่การแพทย์, ศิลปะ, หรือการสอนวิชาการทางโลก ผมตั้งใจจะใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับการอุทิศตัวแด่พระเจ้า. ตอนนี้ผมรับใช้ในที่ซึ่งมีความจำเป็นต้องมีครูสอนคัมภีร์ไบเบิลมากกว่า ช่วยผู้คนให้มาอยู่บนเส้นทางสู่ชีวิตนิรันดร์. ผมเคยคิดว่าการเป็นผู้รับใช้เต็มเวลาคงไม่ใช่เรื่องที่ท้าทายความสามารถมากพอสำหรับผม. แต่ตอนนี้ผมมีชีวิตที่ท้าทายยิ่งกว่าแต่ก่อน เพราะผมต้องพยายามปรับปรุงบุคลิกภาพและความสามารถเพื่อจะทำงานกับผู้คนที่มีวัฒนธรรมต่างออกไป. ผมเห็นว่าการทำให้พระประสงค์ของพระยะโฮวาเป็นเป้าหมายของเราเป็นวิถีชีวิตเพียงอย่างเดียวที่มีความหมาย.”
19. เราจะพบจุดมุ่งหมายแท้ในชีวิตได้อย่างไร?
19 ในฐานะคริสเตียน เราได้รับพระพรโดยได้รับความรู้ที่ช่วยชีวิตและมีความหวังที่จะรอดชีวิต. (โยฮัน 17:3) ดังนั้น ขอให้เราอย่าได้ “รับพระกรุณาอันใหญ่หลวงของพระเจ้าแล้วพลาดจุดมุ่งหมายของพระกรุณานั้น.” (2 โกรินโธ 6:1, ล.ม.) แทนที่จะเป็นอย่างนั้น ให้เราใช้วันเวลาอันมีค่าในชีวิตสรรเสริญพระยะโฮวา. ให้เราแพร่กระจายความรู้ที่นำความสุขแท้มาให้ในเวลานี้และนำไปสู่ชีวิตนิรันดร์. เมื่อทำอย่างนั้น เราจะประสบกับความจริงตามคำตรัสของพระเยซู ที่ว่า “การให้เป็นเหตุให้มีความสุขยิ่งกว่าการรับ.” (กิจการ 20:35) และเราจะพบจุดมุ่งหมายแท้ในชีวิต.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 1 บางชื่อในบทความนี้เป็นชื่อสมมุติ.
คุณอธิบายได้ไหม?
• จุดมุ่งหมายสูงสุดที่เราสามารถมีได้ในชีวิตคืออะไร?
• เหตุใดการดำเนินชีวิตเพื่อสิ่งฝ่ายวัตถุจึงไม่ฉลาด?
• “ชีวิตแท้” ที่พระเจ้าทรงสัญญาคืออะไร?
• เราจะใช้ชีวิตของเราตามพระประสงค์ของพระเจ้าได้อย่างไร?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 18]
คริสเตียนจำเป็นต้องเสียสละอย่างถูกต้อง