ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

มุ่งไปสู่แสงสว่าง

มุ่งไปสู่แสงสว่าง

มุ่ง​ไป​สู่​แสง​สว่าง

ประภาคาร​ช่วย​ชีวิต​ผู้​คน​มา​แล้ว​นับ​ไม่​ถ้วน. แต่​สำหรับ​นัก​เดิน​ทาง​ที่​เหน็ด​เหนื่อย แสง​สว่าง​ที่​เห็น​แต่​ไกล​ไม่​ได้​เป็น​แค่​เครื่อง​เตือน​ให้​รู้​ว่า​มี​แนว​หิน​โสโครก​ที่​เป็น​อันตราย​เท่า​นั้น แต่​ยัง​บอก​ให้​รู้​ด้วย​ว่า​ใกล้​จะ​ถึง​จุด​หมาย​ปลาย​ทาง​แล้ว. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน คริสเตียน​ใน​ทุก​วัน​นี้​กำลัง​ใกล้​จะ​ถึง​จุด​สิ้น​สุด​ของ​การ​เดิน​ทาง​อัน​ยาว​ไกล​ซึ่ง​พา​พวก​เขา​ผ่าน​โลก​ที่​มืดมน​และ​อันตราย​ต่อ​ความ​เชื่อ. ใน​คัมภีร์​ไบเบิล มนุษยชาติ​โดย​ทั่ว​ไป—ซึ่ง​เหินห่าง​จาก​พระเจ้า—ถูก​เปรียบ​เหมือน​กับ “ทะเล​บ้า, เพราะ​มัน​อยู่​สงบ​ไม่​ได้, และ​น้ำ​ทะเล​ก็​เป็น​คลื่น​ขุ่น​และ​โสโครก.” (ยะซายา 57:20) ประชาชน​ของ​พระเจ้า​อยู่​ท่ามกลาง​สภาพ​แวด​ล้อม​เช่น​นั้น. กระนั้น พวก​เขา​มี​ความ​หวัง​อัน​สดใส​เรื่อง​ความ​รอด​ซึ่ง​เป็น​เหมือน​แสง​สว่าง​โดย​นัย​ที่​ไว้​ใจ​ได้. (มีคา 7:8) เป็น​เพราะ​พระ​ยะโฮวา​และ​พระ​คำ​ของ​พระองค์​ที่​จารึก​ไว้ จึง​มี “แสง​สว่าง​ส่อง​มา​สำหรับ​คน​ชอบธรรม, และ​ความ​ยินดี​สำหรับ​คน​ที่​มี​ใจ​ซื่อ​ตรง.”—บทเพลง​สรรเสริญ 97:11. *

แต่​คริสเตียน​บาง​คน​ได้​ปล่อย​ให้​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เขว​มา​ล่อ​ลวง​เขา​ให้​หันเห​ไป​จาก​แสง​สว่าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​จน​ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​เขา​อับปาง​ลง ซึ่ง​สิ่ง​เหล่า​นั้น​อาจ​เปรียบ​ได้​กับ​หิน​โสโครก เช่น วัตถุ​นิยม, การ​ผิด​ศีลธรรม, หรือ​กระทั่ง​การ​ออก​หาก. ใช่​แล้ว เช่น​เดียว​กับ​ใน​ศตวรรษ​แรก บาง​คน​ใน​ทุก​วัน​นี้​ได้ “เสีย​ความ​เชื่อ​นั้น​เหมือน​เรือ​อับปาง.” (1 ติโมเธียว 1:19; 2 เปโตร 2:13-15, 20-22) โลก​ใหม่​อาจ​เปรียบ​ได้​กับ​ท่า​เรือ​ที่​เรา​กำลัง​มุ่ง​หน้า​ไป​หา. เนื่อง​จาก​โลก​ใหม่​ใกล้​จะ​ถึง​อยู่​แล้ว การ​สูญ​เสีย​ความ​โปรดปราน​จาก​พระ​ยะโฮวา​จึง​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​เศร้า​เสีย​จริง ๆ!

จง​หลีก​เลี่ยง ‘การ​เสีย​ความ​เชื่อ​เหมือน​เรือ​อับปาง’

หลาย​ศตวรรษ​ก่อน เรือ​ที่​ท่อง​ไป​ทั่ว​ท้อง​ทะเล​อัน​กว้าง​ไกล​อาจ​อับปาง​เมื่อ​ใกล้​จะ​ถึง​ท่า. บ่อย​ครั้ง ช่วง​ที่​อันตราย​ที่​สุด​ของ​การ​เดิน​ทาง​คือ​ช่วง​ที่​เรือ​ใกล้​จะ​ถึง​ฝั่ง. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน สำหรับ​หลาย​คน​แล้ว ช่วง​ที่​อันตราย​ที่​สุด​ใน​ประวัติศาสตร์​มนุษย์​คือ​ช่วง “สมัย​สุด​ท้าย” ของ​ระบบ​นี้. คัมภีร์​ไบเบิล​พรรณนา​อย่าง​ถูก​ต้อง​ว่า​สมัย​สุด​ท้าย​นี้ “ยาก​ที่​จะ​รับมือ​ได้” โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​สำหรับ​คริสเตียน​ที่​อุทิศ​ตัว​แล้ว.—2 ติโมเธียว 3:1-5, ล.ม.

เหตุ​ใด​สมัย​สุด​ท้าย​นี้​จึง​มี​ความ​ยุ่งยาก​ลำบาก​เหลือ​เกิน? เอา​ล่ะ ใน​การ​ทำ​สงคราม​กับ​ประชาชน​ของ​พระเจ้า ซาตาน​รู้​ว่า “เวลา​ของ​มัน​มี​น้อย.” ฉะนั้น มัน​จึง​พยายาม​เพิ่ม​ความ​รุนแรง​ให้​กับ​การ​รณรงค์​อัน​ชั่ว​ช้า​ของ​มัน​เพื่อ​ทำ​ให้​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา​อับปาง​ลง. (วิวรณ์ 12:12, 17) กระนั้น เรา​ไม่​ขาด​การ​ช่วยเหลือ​และ​การ​ชี้​นำ. พระ​ยะโฮวา​ยัง​คง​เป็น​ที่​คุ้ม​ภัย​สำหรับ​คน​ที่​เอา​ใจ​ใส่​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระองค์. (2 ซามูเอล 22:31) พระองค์​ประทาน​ตัว​อย่าง​ที่​เป็น​คำ​เตือน​ซึ่ง​เปิดโปง​แผนการ​ชั่ว​อัน​ล้ำ​ลึก​ของ​ซาตาน. ตอน​นี้ ให้​เรา​มา​ทบทวน​สอง​ตัว​อย่าง​ดัง​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ชาติ​อิสราเอล​ใน​ช่วง​ที่​พวก​เขา​ใกล้​จะ​ถึง​แผ่นดิน​ตาม​คำ​สัญญา.—1 โกรินโธ 10:11; 2 โกรินโธ 2:11.

ใกล้​แผ่นดิน​ตาม​คำ​สัญญา

เนื่อง​จาก​มี​โมเซ​เป็น​ผู้​นำ ชาว​อิสราเอล​จึง​สามารถ​หนี​ออก​จาก​อียิปต์​ได้. ไม่​นาน พวก​เขา​ก็​เข้า​มา​ใกล้​พรม​แดน​ด้าน​ใต้​ของ​แผ่นดิน​ตาม​คำ​สัญญา. แล้ว​โมเซ​ได้​ส่ง​ชาย 12 คน​ไป​สอดแนม​แผ่นดิน​นั้น. คน​สอดแนม​สิบ​คน​ที่​ขาด​ความ​เชื่อ​ได้​กลับ​มา​รายงาน​ใน​แง่​ลบ​โดย​กล่าว​ว่า ชาว​อิสราเอล​จะ​ไม่​สามารถ​ต่อ​สู้​กับ​ชาว​คะนาอัน​ได้​สำเร็จ​เพราะ​พวก​เขา​มี “รูป​ร่าง​โต​ใหญ่​นัก” และ​มี​กองทัพ​ที่​เข้มแข็ง. ข่าว​นี้​ส่ง​ผล​ต่อ​พวก​อิสราเอล​อย่าง​ไร? บันทึก​ใน​พระ​คัมภีร์​บอก​เรา​ว่า พวก​เขา​เริ่ม​บ่น​ต่อ​ว่า​โมเซ​และ​อาโรน​ว่า “เหตุ​ไฉน​พระ​ยะโฮวา​ได้​พา​เรา​ออก​จาก​ประเทศ​นั้น​มา​ให้​ล้ม​ตาย​ด้วย​คม​กระบี่, แล​ลูก​เมีย​ของ​เรา​เป็น​ทาส​เชลย​เขา​เล่า. . . . ให้​เรา​ทั้ง​หลาย​ตั้ง​คน​หนึ่ง​เป็น​นาย​ขึ้น, แล​ให้​เรา​ทั้ง​หลาย​กลับ​ไป​ยัง​ประเทศ​เมือง​อายฆุบโต.”—อาฤธโม 13:1, 2, 28-32; 14:1-4.

ลอง​นึก​ภาพ​ดู​สิ! ประชาชน​กลุ่ม​เดียว​กัน​นี้​แหละ​ที่​ได้​เห็น​พระ​ยะโฮวา​ทำ​ให้​ประเทศ​อียิปต์​อัน​เกรียง​ไกร—มหาอำนาจ​โลก​ใน​สมัย​นั้น—ต้อง​ยอม​ศิโรราบ​เนื่อง​จาก​ภัย​พิบัติ​สิบ​ประการ​และ​การ​อัศจรรย์​อัน​น่า​ครั่นคร้าม​ใน​ทะเล​แดง. แผ่นดิน​ที่​สัญญา​ไว้​ก็​อยู่​ตรง​หน้า​พวก​เขา​นั่น​เอง ดัง​นั้น พวก​เขา​ก็​แค่​มุ่ง​หน้า​ไป​ยัง​แผ่นดิน​นั้น เหมือน​เรือ​ที่​มุ่ง​หน้า​ไป​สู่​แสง​สว่าง​ที่​เป็น​จุด​หมาย​ปลาย​ทาง. กระนั้น พวก​เขา​รู้สึก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​มี​ความ​สามารถ​ที่​จะ​ล้ม​ล้าง​อาณาจักร​เล็ก​อาณาจักร​น้อย​ที่​แตก​แยก​กัน​ของ​คะนาอัน​ได้. ท่าที​ที่​ขาด​ความ​เชื่อ​คง​ต้อง​ทำ​ให้​พระเจ้า​และ​ยะโฮซูอะ​กับ​คาเลบ​ซึ่ง​เป็น​คน​สอดแนม​ที่​กล้า​หาญ​สอง​คน​ที่​รู้สึก​ว่า​ชาว​คะนาอัน​เป็น​เหมือน “อาหาร​ของ [ชาว​อิสราเอล]” รู้สึก​ผิด​หวัง​สัก​เพียง​ไร! คน​สอดแนม​ทั้ง​สอง​ได้​เดิน​สำรวจ​ทั่ว​แผ่นดิน​คะนาอัน​และ​เห็น​ด้วย​ตา​ตน​เอง​มา​แล้ว. เมื่อ​ประชาชน​ไม่​ได้​เข้า​ไป​ใน​แผ่นดิน​ตาม​คำ​สัญญา ยะโฮซูอะ​กับ​คาเลบ​จึง​ต้อง​เดิน​ทาง​รอน​แรม​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​ต่อ​ไป​หลาย​สิบ​ปี​ด้วย แต่​พวก​เขา​ไม่​ได้​เสีย​ชีวิต​เหมือน​กับ​พวก​ที่​ขาด​ความ​เชื่อ​เหล่า​นั้น. ที่​จริง ยะโฮซูอะ​กับ​คาเลบ​ได้​ช่วย​นำ​ชาว​อิสราเอล​รุ่น​ถัด​ไป​ออก​จาก​ถิ่น​ทุรกันดาร​และ​มุ่ง​หน้า​ไป​สู่​แผ่นดิน​ตาม​คำ​สัญญา. (อาฤธโม 14:9, 30) ช่วง​ที่​ใกล้​จะ​ถึง​แผ่นดิน​นั้น​ครั้ง​ที่​สอง ชาว​อิสราเอล​เผชิญ​บท​ทดสอบ​ที่​ต่าง​ไป​จาก​เดิม. พวก​เขา​จะ​รับมือ​อย่าง​ไร?

กษัตริย์​บาลาค​ชาว​โมอาบ​พยายาม​สาป​แช่ง​ชาว​อิสราเอล​โดย​ใช้​บีละอาม​ซึ่ง​เป็น​ผู้​พยากรณ์​เท็จ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม พระ​ยะโฮวา​ทำลาย​แผนการ​นี้​โดย​ทำ​ให้​บีละอาม​อวย​พร​ชาว​อิสราเอล​แทน​ที่​จะ​แช่ง​สาป. (อาฤธโม 22:1-7; 24:10) โดย​ไม่​ยอม​แพ้ บีละอาม​คิด​แผน​ชั่ว​อีก​แผน​หนึ่ง​โดย​ทำ​ให้​ประชาชน​ของ​พระเจ้า​ไม่​มี​คุณสมบัติ​ที่​จะ​เข้า​ไป​ใน​แผ่นดิน​ตาม​คำ​สัญญา. แผน​นั้น​คือ​อะไร? โดย​การ​ล่อ​ลวง​พวก​เขา​ให้​ทำ​ผิด​ศีลธรรม​และ​นมัสการ​บาละ. แม้​แผนการ​นี้​จะ​ไม่​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ทั้ง​หมด​เช่น​เดียว​กัน แต่​ก็​ทำ​ให้​ชาว​อิสราเอล 24,000 คน​ถูก​ล่อ​ลวง​ให้​ทำ​ผิด. คน​พวก​นี้​ทำ​ผิด​ศีลธรรม​กับ​หญิง​ชาว​โมอาบ​และ​เข้า​ร่วม​นมัสการ​บาละ​แห่ง​เปโอร์.—อาฤธโม 25:1-9.

คิด​ดู​ก็​แล้ว​กัน! ชาว​อิสราเอล​หลาย​คน​ใน​กลุ่ม​เดียว​กัน​นี้​ได้​เห็น​พระ​ยะโฮวา​นำ​พวก​เขา​ผ่าน “ป่า​ใหญ่​อัน​เป็น​ที่​น่า​กลัว” อย่าง​ปลอด​ภัย. (พระ​บัญญัติ 1:19) กระนั้น ขณะ​อยู่​ใกล้​แผ่นดิน​ที่​จะ​ได้​รับ​เป็น​มรดก ประชาชน​ของ​พระเจ้า 24,000 คน​กลับ​ยอม​พ่าย​แพ้​ต่อ​ความ​ปรารถนา​ของ​เนื้อหนัง​และ​เสีย​ชีวิต​ด้วย​พระ​หัตถ์​ของ​พระ​ยะโฮวา. นับ​ว่า​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ให้​คำ​เตือน​เสีย​จริง ๆ สำหรับ​ผู้​รับใช้​พระเจ้า​ใน​ทุก​วัน​นี้​ขณะ​ที่​พวก​เขา​ใกล้​จะ​ได้​รับ​มรดก​ที่​ยอด​เยี่ยม​กว่า​นั้น​มาก!

ใน​ความ​พยายาม​ครั้ง​สุด​ท้าย​ที่​จะ​ขัด​ขวาง​ไม่​ให้​ผู้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​สมัย​ปัจจุบัน​ได้​รับ​บำเหน็จ​รางวัล ซาตาน​ไม่​จำเป็น​ต้อง​ใช้​กลยุทธ์​ใหม่. ใน​กลยุทธ์​ซึ่ง​เตือน​เรา​ให้​นึก​ถึง​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​ชาว​อิสราเอล​ตอน​ที่​จะ​เข้า​สู่​แผ่นดิน​ตาม​คำ​สัญญา​ใน​ครั้ง​แรก บ่อย​ครั้ง​ซาตาน​พยายาม​สร้าง​ความ​หวาด​กลัว​และ​ความ​สงสัย ไม่​ว่า​จะ​โดย​การ​ข่มขู่, การ​ข่มเหง, หรือ​การ​เยาะเย้ย. คริสเตียน​บาง​คน​พ่าย​แพ้​ต่อ​ความ​กลัว​เช่น​นั้น. (มัดธาย 13:20, 21) อีก​แผนการ​หนึ่ง​ที่​ใช้​ได้​ผล​ทุก​ยุค​ทุก​สมัย​ก็​คือ​การ​ทำ​ให้​เกิด​ความ​เสื่อม​ทราม​ทาง​ศีลธรรม. บาง​ครั้ง​บาง​คราว คน​ที่​ลักลอบ​เข้า​มา​ใน​ประชาคม​คริสเตียน​ได้​พยายาม​บ่อน​ทำลาย​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​อ่อนแอ​และ​คน​ที่​ไม่​ได้​ดำเนิน​ด้วย​ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​แสง​สว่าง​ของ​พระเจ้า.—ยูดา 8, 12-16.

สำหรับ​คน​ที่​ตื่น​ตัว​และ​เป็น​ผู้​ใหญ่​ฝ่าย​วิญญาณ การ​ที่​โลก​ตก​เข้า​สู่​การ​เสื่อม​ศีลธรรม​อย่าง​รวด​เร็ว​เป็น​หลักฐาน​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ซาตาน​กำลัง​จน​ตรอก. ใช่​แล้ว ซาตาน​รู้​ว่า​ใน​ไม่​ช้า มัน​จะ​แตะ​ต้อง​ผู้​รับใช้​ที่​ภักดี​ของ​พระเจ้า​ไม่​ได้​อีก​แล้ว. ดัง​นั้น แน่นอน​ว่า​นี่​เป็น​เวลา​ที่​เรา​จะ​ต้อง​ตื่น​ตัว​ฝ่าย​วิญญาณ​อยู่​เสมอ​เพื่อ​ระแวด​ระวัง​ต่อ​ความ​พยายาม​ของ​ซาตาน.

สิ่ง​ที่​ช่วย​ให้​รักษา​ความ​ตื่น​ตัว​ฝ่าย​วิญญาณ

อัครสาวก​เปโตร​กล่าว​ว่า คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า​เปรียบ​เหมือน “แสง​ตะเกียง​ส่อง​สว่าง​เข้า​ไป​ใน​ที่​มืด” เพราะ​พระ​คำ​นั้น​ช่วย​คริสเตียน​ให้​เห็น​และ​เข้าใจ​ความ​สำเร็จ​แห่ง​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า. (2 เปโตร 1:19-21) คน​ที่​พัฒนา​ความ​รัก​ต่อ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​ให้​พระ​คำ​นั้น​ชี้​นำ​ชีวิต​ของ​ตน​เรื่อย​ไป พบ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ชี้​ทาง​เดิน​ของ​เขา​ให้​ตรง​ไป. (สุภาษิต 3:5, 6) คน​ที่​สำนึก​บุญคุณ​เช่น​นั้น​จะ “โห่​ร้อง​ด้วย​ความ​ชื่นชม​ยินดี​เพราะ​สภาพ​หัวใจ​ที่​ดี” เนื่อง​ด้วย​มี​ความ​หวัง​เต็ม​เปี่ยม ใน​ขณะ​ที่​คน​ที่​ไม่​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา​หรือ​ออก​ไป​จาก​แนว​ทาง​ของ​พระองค์​ใน​ที่​สุด​ก็​จะ “หัวใจ​ปวด​ร้าว ”และ “ใจ​แตก​สลาย.” (ยะซายา 65:13, 14, ล.ม.) ฉะนั้น โดย​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง​และ​การ​นำ​สิ่ง​ที่​เรา​เรียน​รู้​ไป​ใช้ เรา​จะ​สามารถ​เอา​ใจ​จดจ่อ​อยู่​เสมอ​กับ​ความ​หวัง​อัน​แน่นอน​ของ​เรา แทน​ที่​จะ​รู้สึก​พึง​พอ​ใจ​กับ​สิ่ง​ต่าง ๆ ใน​ระบบ​นี้​แต่​เพียง​ชั่ว​คราว.

การ​อธิษฐาน​ก็​เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ด้วย​เพื่อ​รักษา​ความ​ตื่น​ตัว​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ. เมื่อ​พูด​เกี่ยว​กับ​อวสาน​ของ​ระบบ​นี้ พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ฉะนั้น จง​เฝ้า​ระวัง​และ​ทูล​วิงวอน​อยู่​เสมอ​เพื่อ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​หนี​พ้น​สิ่ง​ทั้ง​ปวง​นี้​ซึ่ง​จะ​ต้อง​เกิด​ขึ้น​และ​ยืน​อยู่​ต่อ​หน้า​บุตร​มนุษย์​ได้.” (ลูกา 21:34-36) สังเกต​ว่า​พระ​เยซู​ใช้​คำ​ว่า “ทูล​วิงวอน” ซึ่ง​เป็น​การ​อธิษฐาน​ใน​ลักษณะ​ที่​เอา​จริง​เอา​จัง​อย่าง​ยิ่ง. พระ​เยซู​รู้​ว่า​ชีวิต​นิรันดร์​เผชิญ​ความ​เสี่ยง​ใน​ยุค​วิกฤติ​นี้. คำ​อธิษฐาน​ของ​คุณ​สะท้อน​ถึง​ความ​ปรารถนา​อัน​แรง​กล้า​ที่​จะ​ตื่น​ตัว​ฝ่าย​วิญญาณ​อยู่​เสมอ​ไหม?

ขอ​เรา​อย่า​ลืม​ว่า ช่วง​ที่​อันตราย​ที่​สุด​ของ​การ​เดิน​ทาง​เพื่อ​จะ​รับ​มรดก​ของ​เรา​อาจ​เป็น​ช่วง​สุด​ท้าย​ของ​การ​เดิน​ทาง. ด้วย​เหตุ​นั้น จึง​เป็น​เรื่อง​สำคัญ​สัก​เพียง​ไร​ที่​เรา​จะ​ไม่​ละ​สายตา​จาก​แสง​สว่าง​ซึ่ง​จะ​นำ​เรา​ไป​สู่​ความ​รอด.

จง​ตื่น​ตัว​ต่อ​แสง​สว่าง​ปลอม

ย้อน​กลับ​ไป​ใน​สมัย​ที่​ใช้​เรือใบ มี​อันตราย​อย่าง​ยิ่ง​ที่​เกิด​จาก​คน​ชั่ว​ที่​อาศัย​คืน​เดือน​มืด​เมื่อ​กะลาสี​เรือ​มอง​ไม่​เห็น​ชายฝั่ง. พวก​โจร​จะ​จุด​ไฟ​ไว้​ตาม​แนว​ชายฝั่ง​ที่​เป็น​อันตราย​เพื่อ​หลอก​ให้​กัปตัน​เรือ​เปลี่ยน​เส้น​ทาง. คน​ที่​ถูก​หลอก​อาจ​ประสบ​เหตุ​เรือ​จม, สินค้า​ถูก​ปล้น, และ​ถูก​ฆ่า.

ใน​ทำนอง​เดียว​กัน ซาตาน “ทูต​แห่ง​ความ​สว่าง” จอม​หลอก​ลวง ต้องการ​ทำลาย​สัมพันธภาพ​ที่​ประชาชน​ของ​พระเจ้า​มี​กับ​พระองค์. พญา​มาร​อาจ​ใช้ “อัครสาวก​เท็จ” และ “คน​รับใช้​ของ​ความ​ชอบธรรม” ที่​ออก​หาก ใน​การ​ล่อ​ลวง​คน​ที่​ไม่​ระวัง​ตัว. (2 โกรินโธ 11:13-15) แต่​เช่น​เดียว​กับ​กัปตัน​และ​ลูกเรือ​ที่​มี​ประสบการณ์​ซึ่ง​ตื่น​ตัว​ไม่​หลง​กล​แสง​สว่าง​ปลอม คริสเตียน​ที่ “ได้​ฝึก​ใช้​วิจารณญาณ​เพื่อ​จะ​แยก​ออก​ว่า​อะไร​ถูก​อะไร​ผิด” จะ​ไม่​ถูก​ชัก​นำ​ให้​หลง​ไป​กับ​คน​ที่​ส่ง​เสริม​คำ​สอน​เท็จ​และ​หลัก​ปรัชญา​ที่​สร้าง​ความ​เสียหาย.—เฮ็บราย 5:14, ล.ม.; วิวรณ์ 2:2.

นัก​เดิน​เรือ​จะ​มี​บัญชี​ราย​ชื่อ​ประภาคาร​ที่​อยู่​ตาม​เส้น​ทาง​เดิน​เรือ​ที่​เขา​ใช้. ราย​ชื่อ​นั้น​จะ​บอก​ลักษณะ​ของ​ประภาคาร​แต่​ละ​แห่ง รวม​ถึง​วิธี​ส่ง​สัญญาณ​เฉพาะ​ของ​ประภาคาร​นั้น ๆ. สารานุกรม เดอะ เวิลด์ บุ๊ก ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า “นัก​เดิน​เรือ​รู้​ว่า​ประภาคาร​ที่​เขา​มอง​เห็น​คือ​ประภาคาร​ใด ซึ่ง​ทำ​ให้​เขา​ทราบ​ว่า​ตอน​นี้​อยู่​ที่​ไหน​โดย​การ​สังเกต​ลักษณะ​ของ​ประภาคาร​และ​การ​เทียบ​กับ​ราย​ชื่อ.” ทำนอง​เดียว​กัน พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ช่วย​คน​ที่​มี​หัวใจ​สุจริต​ให้​สังเกต​ออก​ว่า​อย่าง​ไหน​คือ​การ​นมัสการ​แท้​และ​ใคร​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​การ​นมัสการ​นั้น โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​สมัย​สุด​ท้าย​นี้​ที่​พระ​ยะโฮวา​ได้​ยก​การ​นมัสการ​แท้​ขึ้น​สูง​เหนือ​ศาสนา​เท็จ. (ยะซายา 2:2, 3; มาลาคี 3:18) เพื่อ​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​นมัสการ​แท้​กับ​การ​นมัสการ​เท็จ​แตกต่าง​กัน​อย่าง​ชัด​แจ้ง ยะซายา 60:2, 3 กล่าว​ว่า “ความ​มืด​จะ​แผ่​ปิด​โลก​ไว้​มิด, และ​ความ​มืด​ทึบ​จะ​คลุม​ประชาชน​ไว้; แต่​ส่วน​เจ้า, พระ​ยะโฮวา​จะ​ส่อง​แสง​ให้, และ​ให้​สง่า​ราศี​ของ​พระองค์​จับ​ปรากฏ​อยู่​บน​เจ้า; ประชาชาติ​จะ​ดำเนิน​ตาม​แสง​สว่าง​ของ​เจ้า, และ​กษัตริย์​ทั้ง​หลาย​จะ​ดำเนิน​ตาม​แสง​สว่าง​อัน​จ้า​ของ​เจ้า.”

ขณะ​ที่​ผู้​คน​นับ​ล้าน​จาก​ทุก​ชาติ​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​โดย​แสง​สว่าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ต่อ ๆ ไป พวก​เขา​จะ​ไม่​สูญ​เสีย​ความ​เชื่อ​ใน​ช่วง​สุด​ท้าย​ของ​การ​เดิน​ทาง. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น พวก​เขา​จะ​เดิน​ทาง​อย่าง​ปลอด​ภัย​ผ่าน​ช่วง​เวลา​ที่​เหลือ​อยู่​ของ​ระบบ​นี้​และ​เข้า​สู่​ที่​อาศัย​อัน​สงบ​สุข​และ​ปลอด​ภัย​ใน​โลก​ใหม่.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 2 พระ​คัมภีร์​ใช้​คำ “แสง​สว่าง” หลาย​ครั้ง​ใน​แง่​สัญลักษณ์​หรือ​ไม่​ก็​ใน​ความ​หมาย​เป็น​นัย. ตัว​อย่าง​เช่น คัมภีร์​ไบเบิล​เชื่อม​โยง​พระเจ้า​กับ​แสง​สว่าง. (บทเพลง​สรรเสริญ 104:1, 2; 1 โยฮัน 1:5) ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า​และ​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เปรียบ​เหมือน​แสง​สว่าง. (ยะซายา 2:3-5; 2 โกรินโธ 4:6) ช่วง​ที่​พระ​เยซู​รับใช้​บน​แผ่นดิน​โลก พระองค์​เป็น​แสง​สว่าง. (โยฮัน 8:12; 9:5; 12:35) และ​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ได้​รับ​พระ​บัญชา​ให้​ส่อง​ความ​สว่าง​ของ​ตน​ออก​ไป.—มัดธาย 5:14, 16.

[ภาพ​หน้า 15]

เช่น​เดียว​กับ​นัก​เดิน​เรือ คริสเตียน​จะ​ระวัง​ไม่​ให้​ถูก​หลอก​โดย​แสง​สว่าง​ปลอม