ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

มุ่งหน้าไปสู่โลกใหม่ของพระเจ้า

มุ่งหน้าไปสู่โลกใหม่ของพระเจ้า

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

มุ่ง​หน้า​ไป​สู่​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า

เล่า​โดย แจ็ก แพรมเบิร์ก

นอก​เมือง​อาร์บูกา ซึ่ง​เป็น​เมือง​เล็ก ๆ สวย​ดั่ง​ภาพ​วาด​ใน​สวีเดน​ตอน​กลาง ที่​นั่น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มี​สำนักงาน​สาขา พร้อม​ด้วย​อาสา​สมัคร​แปด​สิบ​กว่า​คน. นี่​เป็น​บ้าน​ของ​เรา ผม​และ การิน​ภรรยา​อยู่​และ​ทำ​งาน​ที่​นี่. เรา​สอง​คน​มา​อยู่​ที่​นี่​ได้​อย่าง​ไร?

ปลาย​ศตวรรษ​ที่ 19 เด็ก​สาว​ชาว​สวีเดน​วัย 15 ปี​คน​หนึ่ง​ได้​อพยพ​ไป​ยัง​ประเทศ​สหรัฐ. ณ ที่​พักพิง​คน​เข้า​เมือง​ใน​นคร​นิวยอร์ก เธอ​ได้​พบ​กะลาสี​ชาว​สวีเดน. ต่อ​มา​เขา​ก็​รัก​กัน, แต่งงาน, และ​ให้​กำเนิด​ลูก​ชาย​คน​หนึ่ง​คือ​ผม​นี่​แหละ. ผม​เกิด​ใน​เขต​บรองซ์ รัฐ​นิวยอร์ก สหรัฐ​อเมริกา เมื่อ​ปี 1916 ใน​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 1.

ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น เรา​ย้าย​ไป​ที่​บรุกลิน ห่าง​จาก​เบเธล​ใน​บรุกลิน​ไฮตส์​เพียง​สอง​สาม​ช่วง​ตึก. พ่อ​เล่า​ให้​ผม​ฟัง​ภาย​หลัง​ว่า​ท่าน​เคย​พา​ผม​ไป​แล่น​เรือใบ​จำลอง​ใกล้​สะพาน​บรุกลิน ซึ่ง​จาก​มุม​นี้​จะ​มอง​เห็น​สำนักงาน​ใหญ่​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ได้​ถนัด. ตอน​นั้น​ผม​ไม่​นึก​เลย​ว่า​กิจกรรม​ต่าง ๆ ใน​สำนักงาน​แห่ง​นี้​จะ​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​ชีวิต​ผม.

สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 1 ได้​ยุติ​ใน​ปี 1918 และ​การ​พิฆาต​เข่น​ฆ่า​อย่าง​ไร้​จุด​หมาย​ใน​ยุโรป​ก็​จบ​สิ้น. ทหาร​ที่​เดิน​ทาง​กลับ​บ้าน​ต้อง​เจอ​ศึก​หนัก​แบบ​ใหม่ ซึ่ง​ได้​แก่​การ​ว่าง​งาน และ​ความ​ยาก​จน​ข้นแค้น. พ่อ​คิด​ว่า​ดี​ที่​สุด​ที่​จะ​กลับ​สวีเดน พวก​เรา​จึง​อพยพ​กลับ​ใน​ปี 1923. ผล​สุด​ท้าย​เรา​ได้​ตั้ง​หลัก​แหล่ง​ใน​หมู่​บ้าน​เอริกสตาด​ใกล้ ๆ สถานี​รถไฟ​ใน​เขต​ดาลสแลนด์. ที่​นั่น​พ่อ​เริ่ม​ทำ​ธุรกิจ​จัด​ตั้ง​โรง​กลึง ผม​เติบโต​และ​เข้า​โรง​เรียน​ใน​เมือง​นี้.

การ​หว่าน​เมล็ด​ลง​ไป

ธุรกิจ​ของ​พ่อ​ไม่​สู้​จะ​ดี​นัก. ดัง​นั้น​ใน​ช่วง​ต้น​ทศวรรษ 1930 พ่อ​กลับ​ไป​เป็น​กะลาสี​ตาม​เดิม. พ่อ​ละ​พวก​เรา​ให้​อยู่​กัน​ตาม​ลำพัง แม่​ห่วง​กังวล​หลาย​เรื่อง ส่วน​ผม​เอง​ก็​ต้อง​ดู​แล​โรง​งาน. วัน​หนึ่ง​แม่​ได้​ไป​เยี่ยม​ลุง​ยูฮัน พี่​เขย​ของ​แม่. เนื่อง​จาก​แม่​หมกมุ่น​คิด​กังวล​เกี่ยว​กับ​สถานการณ์​ของ​โลก แม่​ได้​ถาม​ลุง​ว่า “ยูฮัน สภาพการณ์​ของ​โลก​จะ​เป็น​อย่าง​นี้​เสมอ​ไป​หรือ?”

ลุง​ตอบ​ว่า “ไม่​หรอก รูธ.” เขา​กล่าว​ถึง​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​ที่​จะ​ยุติ​ความ​ชั่ว​ร้าย​และ​นำ​การ​ปกครอง​อัน​ชอบธรรม​มา​สู่​แผ่นดิน​โลก​โดย​ทาง​ราชอาณาจักร โดย​มี​พระ​เยซู​บริหาร​การ​ปกครอง​ฐานะ​พระ​มหา​กษัตริย์. (ยะซายา 9:6, 7; ดานิเอล 2:44, ล.ม.) เขา​อธิบาย​ว่า​ราชอาณาจักร​ที่​พระ​เยซู​สอน​เรา​ให้​อธิษฐาน​ขอ​นั้น​เป็น​การ​ปกครอง​หรือ​รัฐบาล​ที่​ชอบธรรม ซึ่ง​จะ​ทำ​ให้​แผ่นดิน​โลก​กลาย​เป็น​อุทยาน.—มัดธาย 6:9, 10; วิวรณ์ 21:3, 4.

แม่​รู้สึก​ประทับใจ​คำ​สัญญา​หลาย​เรื่อง​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ทันที. ท่าน​มุ่ง​หน้า​กลับ​บ้าน กล่าว​ขอบคุณ​พระเจ้า​ไป​ตลอด​ทาง. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผม​และ​พ่อ​ต่าง​ก็​ไม่​ชอบ​การ​ที่​แม่​เริ่ม​สนใจ​ทาง​ศาสนา. ประมาณ​ช่วง​นี้​คือ​กลาง​ทศวรรษ 1930 ผม​ย้าย​ไป​ที่​เมือง​ทรอลล์ฮัดทัน ทาง​ภาค​ตะวัน​ตก​ของ​สวีเดน ผม​ได้​งาน​ทำ​ที่​โรง​งาน​ขนาด​ใหญ่. ต่อ​มา แม่​กับ​พ่อ​ซึ่ง​เพิ่ง​เลิก​การ​ใช้​ชีวิต​ใน​ทะเล​ก็​พา​กัน​ย้าย​มา​อยู่​กับ​ผม. ดัง​นั้น​ครอบครัว​ของ​เรา​จึง​ได้​อยู่​ร่วม​กัน​อีก​ครั้ง​หนึ่ง.

เนื่อง​จาก​มี​ความ​ปรารถนา​จะ​เรียน​รู้​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า แม่​จึง​สืบ​หา​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ละแวก​ใกล้​เคียง. สมัย​นั้น พยาน​ฯ จัด​การ​ประชุม​ภาย​ใน​บ้าน อย่าง​ที่​คริสเตียน​สมัย​แรก​เคย​กระทำ. (ฟิเลโมน 1, 2) วัน​หนึ่ง ถึง​คราว​ที่​แม่​จะ​ใช้​บ้าน​ของ​เรา​เป็น​ที่​ประชุม. ด้วย​ความ​รู้สึก​กังวล แม่​ได้​ขอ​อนุญาต​พ่อ​ว่า​จะ​ยินยอม​ให้​แม่​เชิญ​ชวน​เพื่อน ๆ มา​ประชุม​ที่​บ้าน​ได้​หรือ​ไม่. พ่อ​ตอบ​ว่า “เพื่อน​ของ​คุณ​ก็​เหมือน​เพื่อน​ของ​ผม.”

ดัง​นั้น เรา​ได้​เปิด​บ้าน​ต้อนรับ​ผู้​คน. พอ​คน​เดิน​เข้า​ประตู ผม​ก็​ออก​ไป. แต่​ใน​คราว​ต่อ​มา ผม​ตัดสิน​ใจ​อยู่​บ้าน​เมื่อ​มี​คน​มา​ร่วม​ประชุม. การ​เป็น​มิตร​ไมตรี​อย่าง​อบอุ่น​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา, และ​การ​มอง​สิ่ง​ต่าง ๆ ตาม​ความ​เป็น​จริง, การ​หา​เหตุ​ผล​อย่าง​ง่าย ๆ ได้​ขจัด​อคติ​ทุก​อย่าง​ที่​ผม​มี​อยู่​ใน​ใจ. เมล็ด​ที่​หว่าน​ไว้​เริ่ม​งอก​ขึ้น​แล้ว​ใน​หัวใจ​ของ​ผม นั่น​คือ​ความ​หวัง​สำหรับ​อนาคต.

ออก​ทะเล

ผม​คง​จะ​มี​เลือด​น้ำ​เค็ม​ใน​ตัว​ซึ่ง​ได้​จาก​พ่อ ผม​จึง​ออก​ทะเล​เช่น​กัน. นอก​จาก​นั้น ผม​เริ่ม​ตระหนัก​ถึง​ความ​ต้องการ​จะ​เข้า​ใกล้​พระเจ้า​ด้วย. ครา​ใด​เรือ​เข้า​เทียบ​ท่า ผม​พยายาม​จะ​ติด​ต่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ทุก​ครั้ง. ที่​เมือง​อัมสเตอร์ดัม ประเทศ​เนเธอร์แลนด์ ผม​ได้​ไป​ที่​ทำ​การ​ไปรษณีย์​ถาม​หา​ที่​อยู่​ของ​พวก​เขา. หลัง​จาก​สอบ​ถาม​ที่​อยู่​ได้​แล้ว ผม​มุ่ง​ไป​ตาม​ที่​อยู่​ทันที. เด็ก​หญิง​วัย​สิบ​ขวบ​ได้​ออก​มา​เปิด​ประตู​ต้อนรับ​ผม​ด้วย​ท่าที​เป็น​มิตร. ผม​เป็น​คน​แปลก​หน้า กระนั้น ทันใด​นั้น​เอง ผม​มี​ความ​รู้สึก​อยาก​ผูก​มิตร​กับ​เธอ​รวม​ไป​ถึง​ครอบครัว​ของ​เธอ​ด้วย นั่น​เป็น​ประสบการณ์​ที่​ผม​ได้​รู้​จัก​ภราดรภาพ​นานา​ชาติ​ที่​น่า​พิศวง!

ถึง​แม้​เรา​ไม่​ได้​พูด​ภาษา​เดียว​กัน ครั้น​ครอบครัว​นั้น​ดึง​ปฏิทิน​พร้อม​ทั้ง​กำหนด​เวลา​การ​เดิน​รถไฟ​ออก​มา​ดู และ​เริ่ม​เขียน​แผนที่ ผม​ก็​เข้าใจ​ได้​ว่า​จะ​มี​การ​ประชุม​ใหญ่​ใน​เมือง​ฮาร์เลม​ซึ่ง​อยู่​ไม่​ไกล. ผม​ไป​ที่​นั่น แม้น​ไม่​สามารถ​เข้าใจ​แม้​แต่​คำ​เดียว แต่​ผม​ชอบ​การ​ประชุม​ครั้ง​นั้น. เมื่อ​ผม​เห็น​เหล่า​พยาน​ฯ ยื่น​ใบ​ปลิว​เชิญ​ฟัง​การ​บรรยาย​สาธารณะ​ใน​วัน​อาทิตย์ ผม​เกิด​แรง​บันดาล​ใจ​อยาก​จะ​มี​ส่วน​ร่วม. ดัง​นั้น ผม​ตาม​เก็บ​ใบ​ปลิว​ที่​คน​เขา​ทิ้ง​แล้ว​และ​แจก​ต่อ​ให้​คน​อื่น​อีก.

ครั้ง​หนึ่ง เรา​เทียบ​ท่า​ใน​กรุง​บัวโนส​ไอเรส อาร์เจนตินา, และ​ที่​นั่น​ผม​สืบ​หา​จน​พบ​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ข้าง​ใน​เป็น​ห้อง​ทำ​งาน​และ​ห้อง​พัสดุ. ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​นั่ง​ถัก​นิตติ้ง​อยู่​ที่​โต๊ะ​เขียน​หนังสือ มี​เด็ก​เล็ก ๆ คง​จะ​เป็น​ลูก​สาว​กำลัง​เล่น​ตุ๊กตา. ตอน​นั้น​ดึก​แล้ว และ​ชาย​คน​หนึ่ง​ก็​หยิบ​หนังสือ​บาง​เล่ม​จาก​ชั้น มี​หนังสือ​การ​ทรง​สร้าง ภาษา​สวีเดน​ด้วย. เมื่อ​เห็น​สี​หน้า​พวก​เขา​มี​ความ​สุข ยิ้ม​แย้ม​แจ่ม​ใส ผม​รู้​เลย​ว่า​ผม​อยาก​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

ระหว่าง​การ​เดิน​ทาง​กลับ​บ้าน เรือ​ของ​เรา​ได้​แวะ​รับ​ลูกเรือ​จาก​เครื่องบิน​ทหาร​แคนาดา​ซึ่ง​ตก​นอก​ชายฝั่ง​ของ​เกาะ​นิวฟันด์แลนด์. หลัง​จาก​นั้น​ไม่​กี่​วัน เมื่อ​ใกล้​จะ​ถึง​สกอตแลนด์ เรือ​ราช​นาวี​อังกฤษ​ลำ​หนึ่ง​ได้​ยึด​เรือ​ของ​เรา และ​นำ​พวก​เรา​ขึ้น​ไป​ตรวจ​ที่​เคิร์กวอลล์​บน​หมู่​เกาะ​ออร์กนี. สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 เพิ่ง​เริ่ม​ขึ้น และ​กองทัพ​นาซี​ของ​ฮิตเลอร์​ได้​รุกราน​โปแลนด์​ใน​เดือน​กันยายน ปี 1939. ไม่​กี่​วัน​หลัง​จาก​นั้น พวก​เรา​ได้​รับ​อิสระ​และ​เดิน​ทาง​กลับ​สวีเดน​อย่าง​ปลอด​ภัย.

การ​กลับ​บ้าน​ไม่​เพียง​แต่​ทำ​ให้​ผม​ได้​มา​อยู่​ที่​บ้าน​เท่า​นั้น แต่​ตอน​นี้​ผม​สามารถ​เอา​ใจ​ใส่​สัมพันธภาพ​ของ​ผม​กับ​พระเจ้า​ด้วย. ตอน​นี้​ผม​ต้องการ​อย่าง​แท้​จริง​ที่​จะ​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​แห่ง​ประชาชน​ของ​พระเจ้า​และ​ไม่​ประสงค์​จะ​ละเลย​การ​ประชุม​ร่วม​กัน. (ฮีบรู 10:24, 25) ผม​สุข​ใจ​เมื่อ​นึก​ถึง​สมัย​ที่​เป็น​กะลาสี ผม​ได้​ให้​คำ​พยาน​แก่​ลูกเรือ​คน​อื่น ๆ เสมอ และ​ผม​ทราบ​ว่า​มี​ลูกเรือ​คน​หนึ่ง​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ เหมือน​กัน.

รูป​แบบ​พิเศษ​เกี่ยว​กับ​การ​รับใช้

ต้น​ปี 1940 ผม​ไป​เยี่ยม​ชม​สำนักงาน​สาขา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​สตอกโฮล์ม. ผู้​ให้​การ​ต้อนรับ​ผม​คือ​ยูฮัน เอช. อีเนอโรต ผู้​รับใช้​สาขา​ใน​สวีเดน​เวลา​นั้น. เมื่อ​ผม​บอก​เขา​ว่า​อยาก​ร่วม​งาน​เผยแพร่​ประเภท​เต็ม​เวลา​ฐานะ​ไพโอเนียร์. เขา​จ้อง​หน้า​ผม​และ​ถาม​ว่า “คุณ​เชื่อ​ไหม​ว่า​นี่​คือ​องค์การ​ของ​พระเจ้า?”

“เชื่อ​ครับ” ผม​ตอบ​เขา. คำ​ตอบ​นี้​นำ​ผม​ก้าว​ไป​ถึง​ขั้น​รับ​บัพติสมา​เมื่อ​วัน​ที่ 22 มิถุนายน 1940 แล้ว​ผม​เริ่ม​รับใช้​ที่​สำนักงาน​สาขา​ท่ามกลาง​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​น่า​อยู่​พร้อม​กับ​เพื่อน​ร่วม​งาน​ซึ่ง​เป็น​แบบ​อย่าง​อัน​ดี. เรา​ใช้​เวลา​วัน​สุด​สัปดาห์​ประกาศ​เผยแพร่. ใน​ช่วง​ฤดู​ร้อน เรา​มัก​จะ​ขี่​จักรยาน​ไป​ยัง​ที่​ห่าง​ไกล​และ​ออก​ทำ​งาน​เผยแพร่​ใน​วัน​สุด​สัปดาห์ ตก​กลางคืน​เรา​ซุก​ตัว​หลับ​ใน​กอง​ฟาง.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ส่วน​ใหญ่​เรา​ไป​ประกาศ​ตาม​บ้าน ทั้ง​ใน​กรุง​สตอกโฮล์ม​และ​รอบ​นอก. คราว​หนึ่ง ใน​ห้อง​ใต้​ถุน​ตึก​ผม​ไป​เจอ​ชาย​ผู้​หนึ่ง​กำลัง​ซ่อม​หม้อ​ต้ม​น้ำ​อย่าง​รีบ​เร่ง. เมื่อ​เห็น​เช่น​นั้น​ผม​ถลก​แขน​เสื้อ​ขึ้น​และ​เข้า​ไป​ช่วย. เมื่อ​อุด​รอย​รั่ว​แล้ว ชาย​ผู้​นั้น​มอง​หน้า​ผม​ด้วย​ความ​ขอบคุณ​และ​พูด​ว่า “ผม​คิด​ว่า​คุณ​คง​มา​เพื่อ​จุด​ประสงค์​อีก​อย่าง​หนึ่ง. ให้​เรา​ขึ้น​ไป​ล้าง​มือ​ชั้น​บน​แล้ว​ดื่ม​กาแฟ​ด้วย​กัน​สัก​ถ้วย.” เมื่อ​ล้าง​มือ​เรียบร้อย​แล้ว ระหว่าง​ดื่ม​กาแฟ ผม​ได้​ให้​คำ​พยาน​แก่​เขา. ใน​ที่​สุด เขา​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

ถึง​แม้​สวีเดน​ประกาศ​ตัว​เป็น​กลาง กระนั้น สงคราม​ก็​ยัง​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​ชาว​สวีเดน​อยู่​ดี. ชาย​วัย​ฉกรรจ์​จำนวน​มาก​ขึ้น​ถูก​เรียก​เข้า​ประจำการ รวม​ถึง​ตัว​ผม​ด้วย. ครั้น​ผม​ปฏิเสธ​การ​ฝึก​ทหาร ผม​ถูก​จำ​คุก​ชั่ว​ระยะ​สั้น ๆ หลาย​ครั้ง. ที​หลัง ผม​ถูก​ตัดสิน​ให้​ไป​อยู่​ใน​ค่าย​แรงงาน. เหล่า​พยาน​ฯ วัย​หนุ่ม​มัก​จะ​ถูก​นำ​ตัว​ไป​ให้​การ​ต่อ​หน้า​ผู้​พิพากษา​และ​พวก​เรา​สามารถ​ให้​คำ​พยาน​ซึ่ง​เป็น​การ​ประกาศ​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. การ​นี้​เป็น​จริง​ตาม​คำ​พยากรณ์​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “เจ้า​จะ​ถูก​เอา​ตัว​ไป​อยู่​ต่อ​หน้า​ผู้​ว่า​ราชการ​และ​กษัตริย์​เพราะ​เรา เพื่อ​บอก​พวก​เขา​และ​ชน​ต่าง​ชาติ​ให้​รู้​ความ​จริง.”—มัดธาย 10:18.

ชีวิต​ผม​เปลี่ยน

ปี 1945 สงคราม​ใน​ยุโรป​สงบ​ลง. ใน​ช่วง​ท้าย ๆ ของ​ปี​นั้น​นาทาน เอช. นอรร์ ซึ่ง​ตอน​นั้น​เป็น​ผู้​นำ​หน้า​งาน​ประกาศ​ที่​ทำ​อยู่​ทั่ว​โลก​ได้​เดิน​ทาง​จาก​บรุกลิน​พร้อม​กับ​มิลตัน เฮนเชล เลขานุการ​ส่วน​ตัว​มา​เยี่ยม​พวก​เรา. การ​เยี่ยม​ครั้ง​นั้น​ปรากฏ​ว่า​มี​ความ​สำคัญ​อย่าง​ยิ่ง​ต่อ​การ​จัด​ระเบียบ​ใหม่​ด้าน​งาน​ประกาศ​ที่​สวีเดน—และ​ต่อ​ตัว​ผม​เอง​ด้วย. เมื่อ​ผม​ได้​ยิน​ว่า​มี​ความ​เป็น​ไป​ได้​ที่​จะ​เข้า​เรียน​ใน​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด ผม​ยื่น​ใบ​สมัคร​ทันที.

ปี​ต่อ​มา ผม​ได้​นั่ง​ใน​ห้อง​เรียน​ของ​โรง​เรียน สมัย​นั้น​อยู่​ใกล้​เซาท์แลนซิง รัฐ​นิวยอร์ก. ใน​ระหว่าง​ที่​เรียน​หลัก​สูตร​ห้า​เดือน ผม​ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​ซึ่ง​ทำ​ให้​ผม​หยั่ง​รู้​ค่า​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​องค์การ​ของ​พระเจ้า​มาก​ยิ่ง​ขึ้น. ผม​ได้​เรียน​รู้​ว่า​คน​เหล่า​นั้น​ที่​นำ​หน้า​ใน​การ​เผยแพร่​ทั่ว​โลก​นั้น​ล้วน​แต่​มี​ไมตรี​จิต​และ​คำนึง​ถึง​ผู้​อื่น. พวก​เขา​ทำ​งาน​กับ​พวก​เรา​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง. (มัดธาย 24:14) แม้​การ​นี้​ไม่​ได้​ทำ​ให้​ผม​ประหลาด​ใจ แต่​ผม​ปีติ​ยินดี​ที่​ได้​เห็น​ด้วย​ตา​ตัว​เอง.

ใน​ที่​สุด​ก็​ถึง​วัน​ที่ 9 กุมภาพันธ์ 1947 วัน​จบ​หลัก​สูตร​ของ​นัก​เรียน​รุ่น​ที่​แปด​ของ​โรง​เรียน​กิเลียด. บราเดอร์​นอรร์​ประกาศ​ชื่อ​ประเทศ​ที่​นัก​เรียน​จะ​ถูก​ส่ง​ไป. พอ​มา​ถึง​ชื่อ​ผม ท่าน​ประกาศ​ว่า “บราเดอร์​แพ​รม​เบิร์ก​จะ​กลับ​ไป​รับใช้​พี่​น้อง​ที่​สวีเดน.” ผม​ต้อง​ยอม​รับ​ว่า​ผม​ไม่​ค่อย​จะ​ตื่นเต้น​มาก​นัก​กับ​การ​กลับ​บ้าน.

รับมือ​งาน​มอบหมาย​ที่​ยาก

เมื่อ​ผม​กลับ​สวีเดน ผม​ได้​เรียน​งาน​ใหม่ ซึ่ง​ได้​เริ่ม​ขึ้น​แล้ว​ใน​หลาย​ประเทศ​ทั่ว​โลก นั่น​คือ​งาน​ภาค. ผม​ถูก​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ดู​แล​ภาค​คน​แรก​ใน​สวีเดน และ​หน้า​ที่​มอบหมาย​ของ​ผม​คือ​ดู​แล​งาน​ภาค​ทั่ว​ประเทศ. ผม​เตรียม​การ​และ​จัด​ระเบียบ​การ​ดู​แล​ซึ่ง​ต่อ​มา​เรียก​กัน​ว่า​การ​ประชุม​หมวด ซึ่ง​จัด​ขึ้น​ใน​เมือง​ใหญ่​และ​เมือง​เล็ก​ทั่ว​สวีเดน. เนื่อง​จาก​เรา​ไม่​เคย​จัด​เตรียม​การ​ประชุม​อย่าง​นี้​มา​ก่อน จึง​ไม่​ค่อย​มี​คำ​แนะ​นำ. ผม​กับ​บราเดอร์​อีเนอโรต​ได้​นั่ง​ลง​และ​ร่วม​คิด​ร่วม​จัด​เตรียม​ระเบียบ​วาระ​การ​ประชุม​ให้​ดี​ที่​สุด​เท่า​ที่​ทำ​ได้. ผม​กังวล​จน​ตัว​สั่น​เมื่อ​รับ​มอบ​หน้า​ที่​นี้ และ​ได้​ทูล​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​หลาย​ครั้ง. ผม​มี​สิทธิ​พิเศษ​ทำ​งาน​ภาค​เป็น​เวลา 15 ปี.

สมัย​นั้น​การ​จะ​หา​สถาน​ที่​อัน​เหมาะ​สม​สำหรับ​การ​ประชุม​ใหญ่​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย. เรา​จึง​ต้อง​ใช้​สถาน​ลีลาศ​หรือ​โรง​เรือน​ที่​มี​สภาพ​คล้าย ๆ กัน ซึ่ง​บ่อย​ครั้ง​เครื่อง​ทำ​ความ​ร้อน​ใช้​งาน​ไม่​ได้​หรือ​บาง​ที​ก็​ได้​อาคาร​เก่า ๆ ขาด​การ​บำรุง​รักษา. การ​ประชุม​หมวด​ครั้ง​หนึ่ง​ใน​รอ​กิโอ ประเทศ​ฟินแลนด์​เป็น​ตัว​อย่าง. ห้อง​ประชุม​ก็​คือ​ศาลา​ประชาคม​ที่​ถูก​ปล่อย​ทิ้ง​ร้าง​ไว้​ระยะ​หนึ่ง. เกิด​พายุ​หิมะ​ข้าง​นอก อุณหภูมิ​ต่ำ​กว่า -20 องศา​เซลเซียส. พวก​เรา​จึง​เริ่ม​ก่อ​ไฟ​บน​เตา​ใหญ่​สอง​เตา​ซึ่ง​ดัด​แปลง​มา​จาก​ถัง​น้ำมัน. แต่​หา​รู้​ไม่​ว่า​นก​ได้​ทำ​รัง​อยู่​ภาย​ใน​ปล่อง​ไฟ. ควัน​ตลบ​ทั่ว​ทั้ง​ห้อง​ประชุม​ที​เดียว! กระนั้น แม้​จะ​แสบ​ตา ทุก​คน​ก็​ยัง​คง​นั่ง​กับ​ที่ ห่อ​ตัว​ด้วย​เสื้อ​คลุม​ยาว​ถึง​เข่า. การ​ประชุม​ครั้ง​นั้น​เป็น​เหตุ​การณ์​ที่​น่า​จด​จำเป็น​พิเศษ.

การ​แนะ​นำ​วิธี​จัด​การ​ประชุม​หมวด​สาม​วัน​ยัง​รวม​ถึง​คำ​แนะ​นำ​ใน​การ​เตรียม​อาหาร​เพื่อ​ผู้​ที่​มา​ใน​การ​ประชุม​ด้วย. ที​แรก เรา​ไม่​มี​เครื่อง​ใช้​ไม้​สอย​และ​ขาด​ประสบการณ์​ด้าน​การ​จัด​งาน​ใหญ่​ทำนอง​นี้. แต่​เรา​มี​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ที่​ถนัด​ทำ​อาหาร​ได้​อาสา​ทำ​งาน​ที่​ยาก​นี้​ด้วย​ความ​เต็ม​ใจ. หนึ่ง​วัน​ก่อน​การ​ประชุม​เริ่ม คุณ​อาจ​เห็น​พวก​เขา​ต่าง​ก็​ก้ม​หน้า​ก้ม​ตา​ปอก​มันฝรั่ง เวลา​เดียว​กัน​ก็​เล่า​ประสบการณ์​สู่​กัน​ฟัง​ด้วย​ความ​สนุก​เพลิดเพลิน. มิตรภาพ​ยั่งยืน​ของ​หลาย​คน​ได้​เริ่ม​ขึ้น​ใน​โอกาส​เช่น​นั้น​ขณะ​ที่​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​ขันแข็ง​ทำ​งาน​ร่วม​กัน.

วิธี​โฆษณา​การ​ประชุม​หมวด​ด้วย​การ​เดิน​พร้อม​กับ​มี​แผ่น​ป้าย​ประกบ​หน้า​หลัง​เป็น​อีก​ลักษณะ​หนึ่ง​ของ​งาน​ที่​เรา​ทำ​สมัย​นั้น. เรา​เดิน​เรียง​แถว​ผ่าน​เมือง​หรือ​หมู่​บ้าน เชิญ​ชวน​ผู้​คน​ใน​บ้าน​ไป​ฟัง​การ​บรรยาย​สาธารณะ. ผู้​คน​โดย​ทั่ว​ไป​ส่วน​มาก​เป็น​คน​ใจ​ดี​และ​แสดง​ความ​นับถือ. ครั้ง​หนึ่ง​บน​ท้องถนน​ใน​เมือง​ฟินสปัง คน​งาน​จำนวน​มาก​เพิ่ง​เดิน​ออก​มา​จาก​โรง​งาน. ทันใด​นั้น​เอง ชาย​ผู้​หนึ่ง​ตะโกน​ขึ้น​ว่า “นี่​แน่ะ​พรรค​พวก คน​กลุ่ม​นี้​แหละ​ที่​ฮิตเลอร์​ปราบ​ไม่​ได้!”

เหตุ​การณ์​ครั้ง​สำคัญ​ใน​ชีวิต​ของ​ผม

ชีวิต​ผม​ใน​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​ได้​เปลี่ยน​ไป​ไม่​นาน​หลัง​จาก​ผม​พบ​กา​ริน เธอ​เป็น​หญิง​สาว​ที่​น่า​รัก. เรา​สอง​คน​ได้​รับ​เชิญ​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ใน​เดือน​กรกฎาคม 1953 ณ สนาม​กีฬา​แยงกี นคร​นิวยอร์ก. วัน​จันทร์​ที่ 20 ใน​ช่วง​พัก​กลางวัน มิลตัน เฮนเชล​จัด​การ​แต่งงาน​ให้​เรา. ไม่​ใช่​เหตุ​การณ์​ธรรมดา​ที่​อาจ​เกิด​ขึ้น​ใน​สนาม​กีฬา​แยงกี สนาม​เบส​บอล​ที่​โด่งดัง. ภาย​หลัง​การ​เดิน​ทาง​รับใช้​ด้วย​กัน​กระทั่ง​ถึง​ปี 1962 ผม​กับ​กา​ริน​ก็​ได้​รับ​เชิญ​ไป​รับใช้​ที่​เบเธล​ใน​สวีเดน. ตอน​แรก ผม​ทำ​งาน​แผนก​วารสาร. เนื่อง​จาก​ผม​เคย​เรียน​เป็น​ช่าง​เครื่อง ใน​เวลา​ต่อ​มา​ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​งาน​ดู​แล​ด้าน​แท่น​พิมพ์​และ​เครื่องจักร​ที่​สาขา. ส่วน​กา​ริน​ทำ​งาน​หลาย​ปี​ใน​แผนก​ซัก​รีด. ตอน​นี้​เธอ​ทำ​งาน​พิสูจน์​อักษร​มา​หลาย​ปี​แล้ว.

ช่าง​เป็น​ชีวิต​ที่​มี​ความ​สุข​เสีย​นี่​กระไร​ที่​เรา​ได้​พาน​พบ​เหตุ​การณ์​สำคัญ​และ​น่า​ตื่นเต้น​เนื่อง​จาก​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​มา​นาน​กว่า 54 ปี​ฐานะ​เป็น​คู่! จริง ๆ แล้ว พระ​ยะโฮวา​ทรง​สำแดง​ความ​โปรดปราน​แก่​องค์การ​ของ​พระองค์​ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย​ผู้​รับใช้​ที่​ขยัน​ขันแข็ง. ย้อน​ไป​ใน​ปี 1940 ตอน​ที่​ผม​เริ่ม​รับใช้​ที่​สำนักงาน​สาขา ประเทศ​สวีเดน​มี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เพียง 1,500 คน. แต่​เวลา​นี้​มี​มาก​กว่า 22,000 คน. การ​เจริญ​เติบโต​ยิ่ง​เพิ่ม​มาก​ขึ้น​ใน​ภูมิภาค​อื่น ๆ ของ​โลก ดัง​นั้น ทั่ว​ทั้ง​โลก​เวลา​นี้​มี​พยาน​ฯ มาก​กว่า​หก​ล้าน​ห้า​แสน​คน.

พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​สนับสนุน​งาน​ของ​เรา ราว​กับ​ว่า​ทำ​ให้​ใบ​เรือ​ของ​เรา​ได้​รับ​ลม​เต็ม​ที่. ด้วย​การ​รักษา​ความ​เชื่อ​ให้​มั่นคง ถึง​แม้​เรา​เพ่ง​มอง​คลื่น​มนุษย์​ที่​ไม่​สงบ​นิ่ง แต่​เรา​ก็​ไม่​ตื่น​ตระหนก. เมื่อ​มอง​ตรง​ไป​ข้าง​หน้า เรา​เห็น​โลก​ใหม่​ของ​พระเจ้า​อย่าง​ชัดเจน. ผม​กับ​กา​ริน​ขอบคุณ​พระเจ้า​สำหรับ​คุณ​ความ​ดี​ทุก​ประการ​ของ​พระองค์ และ​ทุก ๆ วัน​เรา​อธิษฐาน​ขอ​กำลัง​เพื่อ​คง​ไว้​ซึ่ง​ความ​ซื่อ​สัตย์​ภักดี​ต่อ ๆ ไป​จน​ใน​ที่​สุด​เรา​บรรลุ​จุด​หมาย​ของ​เรา นั่น​คือ​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​พระเจ้า​และ​ชีวิต​นิรันดร์!—มัดธาย 24:13.

[ภาพ​หน้า 12]

ผม​นั่ง​บน​ตัก​แม่

[ภาพ​หน้า 13]

ที่​ที่​พ่อ​กับ​ผม​เคย​แล่น​เรือ​จำลอง​ใน​ช่วง​ต้น​ทศวรรษ 1920

[ภาพ​หน้า 15]

กับ​เฮอร์มัน เฮนเชล (บิดา​ของ​มิลตัน เฮนเชล) ที่​โรง​เรียน​กิเลียด ปี 1946

[ภาพ​หน้า 16]

เรา​แต่งงาน​ที่​สนาม​กีฬา​แยงกี​เมื่อ​วัน​ที่ 20 กรกฎาคม 1953