เยาวชนทั้งหลาย จงระลึกถึงพระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่เสียแต่บัดนี้
เยาวชนทั้งหลาย จงระลึกถึงพระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่เสียแต่บัดนี้
“บัดนี้ จงระลึกถึงพระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่ของเจ้าในช่วงวัยหนุ่มของเจ้า.”—ผู้ป. 12:1, ล.ม.
1. พระยะโฮวาทรงแสดงความเชื่อมั่นอย่างไรในตัวเยาวชนที่นมัสการพระองค์?
พระยะโฮวาทรงถือว่าเยาวชนคริสเตียนมีค่าอย่างยิ่งและทำให้สดชื่นเหมือนหยดน้ำค้าง. ที่จริง พระองค์ทรงบอกล่วงหน้าว่าในวันที่พระบุตรของพระองค์ “ทรงนำทัพ” ชายหนุ่มและหญิงสาวจะ “เสนอตัวด้วยความเต็มใจ” เพื่อรับใช้พระคริสต์. (เพลง. 110:3, ล.ม.) คำพยากรณ์นั้นกำลังสำเร็จเป็นจริงอยู่ในเวลานี้ที่ผู้คนทั่วไปไม่สนใจพระเจ้า, หมกมุ่นอยู่กับตัวเองและการหาเงิน, และไม่เชื่อฟัง. ถึงกระนั้น พระยะโฮวาทรงทราบว่าเยาวชนที่นมัสการพระองค์จะประพฤติต่างออกไป. พระองค์ทรงเชื่อมั่นจริง ๆ ในตัวคุณซึ่งเป็นคนหนุ่มสาว!
2. การระลึกถึงพระยะโฮวาหมายรวมถึงอะไรบ้าง?
2 ขอให้นึกถึงความยินดีที่พระเจ้าคงต้องมีเมื่อพระองค์ทรงเห็นว่าเยาวชนทั้งหลายระลึกถึงพระองค์ในฐานะพระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่. (ผู้ป. 12:1) แน่ล่ะ การระลึกถึงพระยะโฮวาไม่ได้หมายถึงแค่นึกถึงพระองค์. การระลึกถึงพระยะโฮวาหมายถึงการลงมือปฏิบัติ—ทำสิ่งที่พระองค์ทรงพอพระทัย ให้กฎหมายและหลักการของพระองค์ชี้นำเราในชีวิตแต่ละวัน. การระลึกถึงพระยะโฮวายังหมายถึงการไว้วางใจพระองค์ โดยรู้ว่าพระองค์ทรงห่วงใยสวัสดิภาพของเราอย่างแท้จริง. (เพลง. 37:3; ยซา. 48:17, 18) คุณมีความรู้สึกต่อพระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่อย่างนั้นไหม?
“จงวางใจในพระยะโฮวาด้วยสุดใจของเจ้า”
3, 4. พระเยซูทรงแสดงให้เห็นอย่างไรว่าพระองค์ทรงไว้วางใจพระยะโฮวา และเหตุใดจึงสำคัญที่จะไว้วางใจพระยะโฮวาในทุกวันนี้?
3 แน่นอน ผู้ที่เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุดในการไว้วางใจพระเจ้าก็คือพระเยซูคริสต์. พระองค์ทรงดำเนินชีวิตสอดคล้องกับถ้อยคำที่สุภาษิต 3:5, 6 ที่ว่า “จงวางใจในพระยะโฮวาด้วยสุดใจของเจ้า, อย่าพึ่งในความเข้าใจของตนเอง. จงรับพระองค์ให้เข้าส่วนในทางทั้งหลายของเจ้า, และพระองค์จะชี้ทางเดินของเจ้าให้แจ่มแจ้ง.” หลังจากพระเยซูรับบัพติสมาได้ไม่นาน ซาตานก็เข้ามาหาพระองค์ พยายามล่อใจพระองค์ให้ยอมรับอำนาจและสง่าราศีทางโลก. (ลูกา 4:3-13) พระเยซูไม่หลงกล. พระองค์ทรงทราบว่า “ทรัพย์สมบัติและเกียรติศักดิ์และชีวิต” ที่แท้จริงนั้นเป็นผลที่เกิดจาก “การถ่อมใจลงและความยำเกรงพระยะโฮวา.”—สุภา. 22:4.
4 โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยความโลภและความเห็นแก่ตัว. ในบรรยากาศแบบนี้ นับว่าสุขุมที่จะทำตามแบบอย่างของพระเยซู. ขอให้จำไว้ด้วยว่าซาตานจะทำทุกสิ่งที่มันทำได้เพื่อลวงผู้รับใช้ของพระยะโฮวาให้ออกนอกทางแคบที่นำไปถึงชีวิต. มันอยากเห็นทุกคนเดินในทางกว้างที่นำไปสู่ความพินาศ. อย่าถูกมันหลอก! แทนที่จะเป็นอย่างนั้น จงตั้งใจแน่วแน่ว่าจะระลึกถึงพระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่. จงไว้วางใจพระองค์อย่างเต็มที่ และยึด “ชีวิตแท้” ไว้ให้มั่น ซึ่งจะมาในเร็ววันอย่างแน่นอน.—1 ติโม. 6:19.
เยาวชน จงมีปัญญา!
5. คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับอนาคตของโลกนี้?
5 เยาวชนที่ระลึกถึงพระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่ถือได้ว่ามีปัญญาเกินวัย. (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 119:99, 100.) เนื่องจากพวกเขามีทัศนะของพระเจ้า พวกเขาจึงตระหนักชัดว่าความหวังต่าง ๆ ที่โลกเสนอให้นั้นจริง ๆ แล้วริบหรี่ขนาดไหน. แม้ว่าเพิ่งเห็นโลกมาได้ไม่นานนัก ไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกคุณที่เป็นเยาวชนคงได้สังเกตเห็นแล้วว่ามีความกลัวและความวิตกกังวลมากขึ้น. หากคุณยังเรียนอยู่ คุณคงได้ยินเกี่ยวกับภาวะมลพิษ, ภาวะโลกร้อน, การทำลายป่า, และปัญหาอื่นที่คล้าย ๆ กัน. ผู้คนรู้สึกเป็นห่วงกันมากเกี่ยวกับแนวโน้มเหล่านี้ แต่มีเพียงพยานพระยะโฮวาเท่านั้นที่เข้าใจอย่างแท้จริงว่าเหตุการณ์เหล่านี้เป็นสัญญาณที่ชี้ว่าโลกของซาตานกำลังใกล้จะถึงอวสานแล้ว.—วิ. 11:18.
6. เยาวชนบางคนถูกหลอกอย่างไร?
6 น่าเศร้า เยาวชนบางคนที่เป็นผู้รับใช้พระเจ้าไม่ระวังตัวและทำให้เขามองข้ามข้อเท็จจริงที่ว่าโลกนี้เหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว. (2 เป. 3:3, 4) คนอื่น ๆ ถูกล่อใจให้ทำบาปร้ายแรงจากการคบหาสมาคมที่ไม่ดีและสื่อลามก. (สุภา. 13:20) คงจะเป็นเรื่องน่าเศร้าสักเพียงไรถ้าเราสูญเสียความโปรดปรานจากพระเจ้าในขณะนี้ซึ่งใกล้จะถึงอวสานอยู่แล้ว! แทนที่จะเป็นอย่างนั้น จงเรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับชาวอิสราเอลในปี 1473 ก่อนสากลศักราช เมื่อพวกเขาตั้งค่ายพัก ณ ที่ราบโมอาบขณะจวนจะเข้าสู่แผ่นดินที่ทรงสัญญาอยู่แล้ว. มีอะไรเกิดขึ้นที่นั่น?
พวกเขาล้มเมื่อใกล้จะถึงเส้นชัย
7, 8. (ก) ซาตานใช้กลยุทธ์อะไร ณ ที่ราบโมอาบ? (ข) ซาตานใช้กลยุทธ์อะไรในทุกวันนี้?
7 ในตอนนั้น เห็นได้ชัดว่าซาตานพยายามกีดกันชาวอิสราเอลไม่ให้รับมรดกที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้กับพวกเขา. หลังจากที่มันพยายามให้ผู้พยากรณ์บีละอัมแช่งชาวอิสราเอลแต่ไม่สำเร็จ ซาตานใช้กลยุทธ์ที่แยบยลกว่า; มันพยายามทำให้พวกเขาไม่สมควรจะได้รับความโปรดปรานจากพระยะโฮวา. พวกผู้หญิงชาวโมอาบที่ยั่วยวนล่อลวงพวกเขา และคราวนี้พญามารประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง. หลายคนเริ่มมีความสัมพันธ์ที่ผิดศีลธรรมกับเหล่าบุตรสาวของชาวโมอาบและก้มกราบบาอัล (บาละ) แห่งเปโอร์! แม้ว่ามรดกอันล้ำค่าอันได้แก่แผ่นดินที่ทรงสัญญาอยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่มีชาวอิสราเอลประมาณ 24,000 คนที่กลับต้องเสียชีวิต. ช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าสักเพียงไร!—อาฤ. 25:1-3, 9, ฉบับแปลใหม่.
8 ปัจจุบัน เราจวนจะได้เข้าแผ่นดินตามคำทรงสัญญาที่ดีกว่ามาก ซึ่งก็คือระบบใหม่. ซาตานยังคงใช้กลยุทธ์เดิม ๆ ที่มันชอบ โดยใช้การผิดศีลธรรมทางเพศเพื่อทำให้ประชาชนของพระเจ้าเสื่อมเสีย. มาตรฐานศีลธรรมในโลกนี้ตกต่ำอย่างมากถึงขนาดที่การผิดประเวณีถือเป็นเรื่องธรรมดาและการรักร่วมเพศถือว่าเป็นเพียงทางเลือกส่วนตัวอย่างหนึ่ง. คริสเตียนคนหนึ่งกล่าวว่า “มีเพียงแค่ที่บ้านและที่หอประชุมราชอาณาจักรเท่านั้นที่ลูก ๆ ของดิฉันจะเรียนรู้ได้ว่าการรักร่วมเพศและเพศสัมพันธ์นอกสายสมรสเป็นเรื่องชั่วร้ายในสายพระเนตรพระเจ้า.”
9. อะไรอาจเกิดขึ้นในช่วง “วัยหนุ่มสาว” และคนหนุ่มสาวอาจรับมือกับเรื่องนี้ได้โดยวิธีใด?
9 คนหนุ่มสาวที่ระลึกถึงพระผู้สร้างรู้ว่าความสัมพันธ์อันใกล้ชิดทางเพศเป็นของประทานศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและการให้กำเนิดบุตรหลาน. ดังนั้น พวกเขาตระหนักว่าคนเราควรมีความสัมพันธ์กันทางเพศตามวิธีที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้เท่านั้น นั่นคือกับคู่สมรส. (ฮีบรู 13:4) อย่าง ไรก็ตาม ในช่วง “วัยหนุ่มสาว”—ช่วงที่ความรู้สึกทางเพศแรงกล้าและอาจทำให้วิจารณญาณเสียไป—อาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรักษาความบริสุทธิ์สะอาด. (1 โค. 7:36) คุณอาจทำอะไรได้เมื่อความคิดที่ไม่ถูกต้องผุดขึ้นมา? จงอธิษฐานอย่างจริงจังขอพระยะโฮวาช่วยให้เพ่งความคิดไปที่สิ่งดีงาม. พระยะโฮวาทรงฟังคนที่หมายพึ่งพระองค์อย่างจริงใจเสมอ. (อ่านลูกา 11:9-13.) การสนทนาที่เสริมสร้างอาจช่วยเปลี่ยนทิศทางความคิดได้ด้วย.
จงเลือกเป้าหมายอย่างสุขุม!
10. เราควรหลีกเลี่ยงความคิดที่ไม่ดีเช่นไร และเราอาจถามตัวเองอย่างไร?
10 เหตุผลหนึ่งที่หนุ่มสาวจำนวนมากในโลกไม่มีความยับยั้งชั่งใจและดำเนินชีวิตเพื่อความเพลิดเพลินทางเนื้อหนังก็คือ พวกเขาไม่ได้รับ “การแนะนำสั่งสอน”—ไม่ได้รับการชี้นำจากพระเจ้าหรือไม่มีความหวังที่มั่นใจได้ในเรื่องอนาคต. (สุภา. 29:18) พวกเขาเป็นเหมือนกับชาวอิสราเอลที่ไม่เชื่อฟังพระเจ้าในสมัยยะซายา ซึ่งดำเนินชีวิตเพื่อ “ความร่าเริงและยินดี . . . กินเนื้อสัตว์, และดื่มเหล้าองุ่น.” (ยซา. 22:13) แทนที่จะอิจฉาคนแบบนั้น คุณน่าจะใคร่ครวญถึงความหวังอันล้ำค่าที่พระยะโฮวาจะประทานแก่ผู้ที่ภักดีต่อพระองค์มิใช่หรือ? หากคุณเป็นเยาวชนที่รับใช้พระเจ้า คุณคอยท่าโลกใหม่อย่างกระตือรือร้นไหม? คุณพยายามอย่างเต็มที่ไหมเพื่อจะ “ดำเนินชีวิต . . . อย่างมีสติ . . . ขณะที่ [คุณ] คอยท่าความหวังที่น่ายินดี” ซึ่งพระยะโฮวาทรงสัญญาไว้กับคุณ? (ทิทุส 2:12, 13) คำตอบของคุณจะมีผลต่อเป้าหมายและการจัดลำดับสิ่งที่สำคัญกว่าที่คุณตั้งไว้สำหรับตัวเอง.
11. เหตุใดเยาวชนคริสเตียนที่ยังเรียนในโรงเรียนควรขยันเรียน?
11 โลกต้องการให้เยาวชนมุ่งใช้กำลังวังชาไปกับเป้าหมายทางโลก. แน่นอน เยาวชนที่ยังเรียนในโรงเรียนควรขยันเรียนเพื่อจะได้รับการศึกษาพื้นฐานที่ดี. คุณควรจำไว้ว่า เป้าหมายของคุณไม่ควรเป็นเพียงเพื่อจะสามารถหางานที่เหมาะสม แต่เพื่อจะเป็นประโยชน์ต่อประชาคมและเป็นผู้ประกาศราชอาณาจักรที่เกิดผลด้วย. เพื่อจะบรรลุเป้าหมายนั้น คุณต้องสามารถสื่อความได้ดี, คิดอย่างมีเหตุผล, และชี้แจงเหตุผลกับผู้อื่นด้วยใจเย็น ๆ และแสดงความนับถือ. อย่างไรก็ตาม เยาวชนที่ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลและพยายามใช้หลักการของพระคัมภีร์ในชีวิตได้รับการศึกษาที่ดีที่สุดเท่าที่จะหาได้และได้วางพื้นฐานที่ดีไว้สำหรับอนาคตที่ประสบความสำเร็จและยั่งยืนถาวร.—อ่านบทเพลงสรรเสริญ 1:1-3. *
12. ครอบครัวคริสเตียนควรเลียนแบบตัวอย่างอะไร?
12 ในประเทศอิสราเอล การที่บิดามารดาให้การศึกษาแก่บุตรเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง. การศึกษาดังกล่าวครอบคลุมแทบจะทุกแง่มุมในชีวิต โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งฝ่ายวิญญาณ. (บัญ. 6:6, 7) ด้วยเหตุนั้น เยาวชนชาวอิสราเอลที่ฟังบิดามารดาและผู้เฒ่าผู้แก่คนอื่น ๆ ที่เกรงกลัวพระเจ้าจึงได้รับไม่เพียงความรู้ แต่ยังได้รับสติปัญญา, ความหยั่งเห็นเข้าใจ, ความเข้าใจ, และความสามารถในการคิด—คุณลักษณะที่หาได้ยากซึ่งการศึกษาจากพระเจ้าสามารถให้ได้. (สุภา. 1:2-4; 2:1-5, 11-15) ครอบครัวคริสเตียนในทุกวันนี้ควรเอาใจใส่แบบเดียวกันนั้นต่อการศึกษา.
จงฟังคนที่รักคุณ
13. เยาวชนบางคนได้รับคำแนะนำแบบไหน และเหตุใดพวกเขาควรระมัดระวัง?
13 เยาวชนได้รับคำแนะนำจากคนทุกชนิด—รวมทั้งจากอาจารย์ที่ปรึกษาในโรงเรียนซึ่งมักจะให้คำแนะนำแก่นักเรียนเฉพาะวิธีประสบความสำเร็จทางโลก. ขอให้คุณประเมินค่าคำแนะนำเหล่านั้นให้ดี ๆ โดยยึดหลักจากพระคำของพระเจ้าและอาหารฝ่ายวิญญาณที่ชนชั้นทาสสัตย์ซื่อและสุขุมจัดเตรียมให้และอธิษฐานขอการชี้นำจากพระเจ้า. คุณได้เรียนรู้จากการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลว่าคนอายุน้อยและขาดประสบการณ์เป็นเป้าหมายหลักของซาตาน. ตัวอย่างเย. 3:1-6.
เช่น ในสวนเอเดน ฮาวาซึ่งยังขาดประสบการณ์เชื่อซาตานที่เป็นผู้แปลกหน้าซึ่งไม่ได้แสดงอะไรให้เห็นแม้แต่น้อยว่ามีความรักต่อเธอ. ผลจะแตกต่างไปสักเพียงไรหากเธอเชื่อฟังพระยะโฮวาผู้ได้พิสูจน์ให้เห็นความรักที่มีต่อเธอในหลาย ๆ ทาง!—14. เหตุใดเราควรฟังทั้งพระยะโฮวาและบิดามารดาที่มีความเชื่อ?
14 พระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่ทรงรักคุณด้วย และพระองค์ทรงรักคุณด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์อย่างแท้จริง. พระองค์ทรงประสงค์ให้คุณมีความสุขตลอดไป ไม่ใช่แค่ในตอนนี้! ดังนั้น พระองค์ตรัสกับคุณและทุกคนที่นมัสการพระองค์อย่างอ่อนโยนแบบบิดาที่รักและห่วงใยว่า “ทางนี้แหละ; เดินไปเถอะ.” (ยซา. 30:21) ถ้าบิดามารดาของคุณมีความเชื่อและรักพระยะโฮวาอย่างแท้จริง ถือได้ว่าคุณได้รับพระพรเป็นพิเศษ. จงฟังคำแนะนำของท่านด้วยความนับถือเมื่อตั้งเป้าหมายและจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่าง ๆ. (สุภา. 1:8, 9) ที่จริง ท่านอยากให้คุณได้รับชีวิตซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่ากว่ามากเมื่อเทียบกับความร่ำรวยหรือเกียรติยศชื่อเสียงในโลกนี้.—มัด. 16:26.
15, 16. (ก) เราสามารถเชื่อมั่นเช่นไรในพระยะโฮวา? (ข) เราได้บทเรียนสำคัญอะไรจากประสบการณ์ของบารุค?
15 คนที่ระลึกถึงพระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่ดำเนินชีวิตอย่างเรียบง่ายเสมอ โดยเชื่อมั่นว่าพระยะโฮวาจะ “ไม่มีวัน” ละทิ้งพวกเขา “และไม่มีวัน” ทอดทิ้งพวกเขา. (อ่านฮีบรู 13:5.) เนื่องจากทัศนคติที่ดีแบบนี้ตรงกันข้ามกับแนวคิดของโลก เราจึงต้องระวังไม่ปล่อยให้น้ำใจของโลกมีอิทธิพลเหนือเรา. (เอเฟ. 2:2) ในเรื่องนี้ ขอให้พิจารณาตัวอย่างของบารุค เลขานุการของยิระมะยา ซึ่งมีชีวิตในช่วงสุดท้ายที่ยากเข็ญของกรุงเยรูซาเลมก่อนกรุงนี้จะถูกทำลายในปี 607 ก่อนสากลศักราช.
16 อาจเป็นได้ว่าบารุคต้องการมีชีวิตที่ดีขึ้นด้านวัตถุ. พระยะโฮวาทรงสังเกตเห็นอย่างนี้และทรงเตือนบารุคด้วยความกรุณาว่าอย่าแสวงหา “ของใหญ่” สำหรับตัว. บารุคพิสูจน์ตัวว่าเป็นคนถ่อมและฉลาดสุขุม เพราะเขาเชื่อฟังพระยะโฮวาและรอดชีวิตจากความพินาศที่เกิดกับกรุงเยรูซาเลม. (ยิระ. 45:2-5) ในทางตรงกันข้าม ผู้คนในสมัยเดียวกับบารุคที่แสวงหา “ของใหญ่” อันได้แก่วัตถุเงินทองและผลักให้การนมัสการพระยะโฮวาไปอยู่ในอันดับรองในไม่ช้าก็สูญเสียสิ่งเหล่านั้นทั้งหมดด้วยน้ำมือของชาวแคลเดีย (บาบิโลน). ผู้คนมากมายเสียชีวิตด้วย. (2 โคร. 36:15-18) ประสบการณ์ของบารุคช่วยเราให้เห็นว่าความสัมพันธ์ที่ดีกับพระเจ้าสำคัญกว่าความมั่งคั่งและชื่อเสียงในโลกนี้มาก.
จงดูตัวอย่างที่ดี
17. เหตุใดพระเยซู, เปาโล, และติโมเธียวเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับผู้รับใช้ของพระยะโฮวาในทุกวันนี้?
17 เพื่อช่วยเราดำเนินในทางสู่ชีวิต พระคำของพระเจ้ามีเรื่องราวของหลายคนที่เป็นแบบอย่างที่ดี. ตัวอย่างเช่น พระเยซูทรงเป็นมนุษย์ที่มีพรสวรรค์ยอดเยี่ยมที่สุดยิ่งกว่าใคร ๆ กระนั้น พระองค์ทรงมุ่งเน้นสิ่งที่จะช่วยผู้คนตลอดไป นั่นคือ “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักร.” (ลูกา 4:43) เพื่อจะให้สิ่งดีที่สุดแด่พระยะโฮวา อัครสาวกเปาโลทิ้งงานอาชีพที่มีรายได้สูงและใช้เวลาและพลังงานที่มีในการประกาศข่าวดี. ติโมเธียว “บุตรแท้ในความเชื่อ” เลียนแบบอย่าง ที่ดีของเปาโล. (1 ติโม. 1:2) พระเยซู, เปาโล, และติโมเธียวเสียใจไหมที่เลือกดำเนินชีวิตอย่างนั้น? ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นเลย! ที่จริง เปาโลกล่าวว่าท่านถือว่าสิ่งที่โลกเสนอให้เป็น “เศษขยะ” เมื่อเทียบกับสิทธิพิเศษที่ได้รับใช้พระเจ้า.—ฟิลิป. 3:8-11.
18. พี่น้องหนุ่มคนหนึ่งเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองครั้งใหญ่เช่นไร และเหตุใดเขาไม่เสียใจที่ทำอย่างนั้น?
18 เยาวชนคริสเตียนหลายคนในทุกวันนี้เลียนแบบความเชื่อของพระเยซู, เปาโล, และติโมเธียว. ตัวอย่างเช่น พี่น้องหนุ่มคนหนึ่งซึ่งเคยทำงานที่มีรายได้งามเขียนมาเล่าดังนี้: “เนื่องจากผมดำเนินชีวิตโดยอาศัยหลักการในคัมภีร์ไบเบิล ไม่นานนักผมก็ได้เลื่อนตำแหน่ง. แม้ว่าได้ผลประโยชน์ด้านการเงินมาก แต่ผมรู้สึกว่ากำลังวิ่งไล่ตามลม. เมื่อผมเข้าพบคณะกรรมการบริหารของบริษัทและบอกว่าผมต้องการลาออกเพื่อไปทำงานรับใช้เต็มเวลา พวกเขารีบยื่นข้อเสนอทางการเงินให้อย่างเต็มที่ โดยหวังว่าผมจะอยู่ทำงานต่อ. แต่ผมตัดสินใจแน่วแน่แล้ว. หลายคนไม่เข้าใจว่าทำไมผมจึงทิ้งงานที่มีรายได้ดีเพื่อไปทำงานรับใช้เต็มเวลา. คำตอบก็คือ ผมต้องการจริง ๆ ที่จะดำเนินชีวิตให้สมกับที่ได้อุทิศตัวแด่พระเจ้า. เนื่องจากตอนนี้ผมใช้ชีวิตในการรับใช้พระเจ้าเป็นหลัก ผมมีความสุขและความอิ่มใจมากอย่างที่ชื่อเสียงหรือเงินทองไม่อาจให้ได้.”
19. เยาวชนได้รับการสนับสนุนให้เลือกอย่างสุขุมเช่นไร?
19 ทั่วโลก มีเยาวชนจำนวนมากที่เลือกอย่างสุขุมคล้าย ๆ กันนั้น. ดังนั้น เยาวชนทั้งหลาย เมื่อคุณใคร่ครวญถึงอนาคตของตัวเอง จงคำนึงถึงวันของพระยะโฮวาอยู่เสมอ. (2 เป. 3:11, 12) อย่าอิจฉาคนที่กำลังตักตวงผลประโยชน์จากโลกนี้อย่างเต็มที่. แทนที่จะอิจฉา จงฟังคนที่รักคุณอย่างแท้จริง. การส่ำสม ‘ทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์’ เป็นการลงทุนที่มั่นคงที่สุดเท่าที่คุณจะทำได้และเป็นการลงทุนเพียงอย่างเดียวที่ให้ผลประโยชน์ถาวร. (มัด. 6:19, 20; อ่าน 1 โยฮัน 2:15-17.) เพราะฉะนั้น จงระลึกถึงพระผู้สร้างองค์ยิ่งใหญ่. เมื่อคุณทำอย่างนั้น พระยะโฮวาจะทรงอวยพรคุณ.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 11 เกี่ยวกับการศึกษาขั้นสูงและงานอาชีพ โปรดดูหอสังเกตการณ์ ฉบับ 1 ตุลาคม 2005 หน้า 26-31.
คุณจำได้ไหม?
• เราจะแสดงอย่างไรว่าเราไว้วางใจพระเจ้า?
• การศึกษาที่ดีที่สุดคือการศึกษาแบบใด?
• เราได้บทเรียนอะไรจากบารุค?
• ใครบ้างเป็นแบบอย่างที่ดี และเพราะเหตุใด?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 13]
พระยะโฮวาทรงจัดเตรียมการศึกษาที่ดีที่สุดให้
[ภาพหน้า 15]
บารุคฟังพระยะโฮวาและรอดชีวิตจากพินาศกรรมที่เกิดกับกรุงเยรูซาเลม. คุณสามารถเรียนอะไรได้จากตัวอย่างนี้?