การช่วยให้รอดโดยราชอาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้แล้ว!
การช่วยให้รอดโดยราชอาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้แล้ว!
“ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด. ขอให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ บนแผ่นดินโลกเช่นเดียวกับในสวรรค์.”—มัด. 6:10.
1. คำสอนหลักของพระเยซูคืออะไร?
เมื่อพระเยซูคริสต์ประทานคำเทศน์บนภูเขา พระองค์ประทานคำอธิษฐานแบบอย่างซึ่งสรุปคำสอนหลักของพระองค์ด้วย. พระองค์ทรงสอนเหล่าสาวกให้อธิษฐานถึงพระเจ้าว่า “ขอให้ราชอาณาจักรของพระองค์มาเถิด. ขอให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จบนแผ่นดินโลกเช่นเดียวกับในสวรรค์.” (มัด. 6:9-13) พระเยซู “ทรงเดินทางไปตามเมืองและตามหมู่บ้านเพื่อประกาศเผยแพร่ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้า.” (ลูกา 8:1) พระคริสต์ทรงกระตุ้นเหล่าสาวกว่า “จงแสวงหาราชอาณาจักรและความชอบธรรมของพระองค์ก่อนเสมอไป.” (มัด. 6:33) ขณะที่คุณศึกษาบทความนี้ ขอให้มองหาวิธีที่จะใช้ความรู้จากบทความนี้ในงานรับใช้ของคุณ. ตัวอย่างเช่น ขอให้พิจารณาวิธีที่คุณอาจตอบคำถามต่อไปนี้: ข่าวสารราชอาณาจักรสำคัญเพียงไร? มนุษยชาติจำเป็นต้องได้รับการช่วยให้รอดจากอะไร? และราชอาณาจักรของพระเจ้าจะช่วยให้รอดอย่างไร?
2. ข่าวสารเรื่องราชอาณาจักรสำคัญเพียงไร?
2 พระเยซูทรงบอกล่วงหน้าว่า “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรจะได้รับการประกาศไปทั่วแผ่นดินโลกที่มีคนอาศัยอยู่เพื่อให้พยานหลักฐานแก่ทุกชาติ แล้วอวสานจะมาถึง.” (มัด. 24:14) ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้ามีความสำคัญอย่างยิ่ง. ไม่ต้องสงสัยเลยว่าข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรเป็นข่าวสารที่สำคัญที่สุดในโลก! ในประชาคมของพยานพระยะโฮวากว่า 100,000 ประชาคมทั่วโลก ผู้รับใช้ของพระเจ้าประมาณเจ็ดล้านคนเข้าร่วมในงานประกาศที่ไม่มีงานใดจะเทียบได้ โดยบอกคนอื่น ๆ ว่าราชอาณาจักรได้รับการสถาปนาแล้ว. การสถาปนาราชอาณาจักรนี้เป็นข่าวดีเพราะนั่นหมายถึงว่าพระเจ้าได้ตั้งรัฐบาลหนึ่งขึ้นในสวรรค์เพื่อจะควบคุมดูแลกิจการต่าง ๆ บนแผ่นดินโลกอย่างเต็มที่. ภายใต้การปกครองของราชอาณาจักรนี้ พระทัยของพระยะโฮวาจะสำเร็จบนแผ่นดินโลกเช่นเดียวกับในสวรรค์.
3, 4. จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อพระทัยประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จบนแผ่นดินโลก?
3 จะเกิดอะไรขึ้นกับมนุษยชาติเมื่อพระทัยประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จบนแผ่นดินโลก? พระยะโฮวาจะ “ทรงเช็ดน้ำตาทุกหยดจากตาพวกเขา ความตายจะไม่มีอีกเลย ความโศกเศร้าหรือเสียงร้องไห้เสียใจหรือความเจ็บปวดจะไม่มีอีกเลย.” (วิ. 21:4) ผู้คนจะไม่เจ็บป่วยหรือตายเพราะบาปและความไม่สมบูรณ์ที่สืบทอดมาถึงพวกเขา. คนตายที่อยู่ในความทรงจำของพระเจ้าจะมีโอกาสมีชีวิตตลอดไป เพราะคัมภีร์ไบเบิลสัญญาว่า “ทั้งคนชอบธรรมและคนไม่ชอบธรรมจะกลับเป็นขึ้นจากตาย.” (กิจ. 24:15) จะไม่มีสงคราม, ความเจ็บป่วย, หรือความหิวโหยอีกต่อไป และแผ่นดินโลกจะถูกเปลี่ยนเป็นอุทยาน. แม้แต่สัตว์ที่ในเวลานี้เป็นอันตรายก็จะอยู่อย่างสงบกับมนุษย์ และสัตว์อื่น ๆ.—เพลง. 46:9; 72:16; ยซา. 11:6-9; 33:24; ลูกา 23:43.
4 ด้วยพระพรอันยอดเยี่ยมเช่นนั้นซึ่งเป็นผลจากการปกครองของราชอาณาจักร จึงไม่แปลกที่คำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลกล่าวถึงชีวิตในเวลานั้นด้วยถ้อยคำที่น่าชื่นใจดังนี้: “คนทั้งหลายที่มีใจถ่อมลงจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก, และเขาจะชื่นชมยินดีด้วยความสงบสุขอันบริบูรณ์.” แต่จะว่าอย่างไรสำหรับคนที่ทำให้เกิดปัญหายุ่งยาก? พระคัมภีร์บอกล่วงหน้าว่า “ยังอีกหน่อยหนึ่ง, คนชั่วจะไม่มี.” แต่ “เหล่าคนที่คอยท่าพระยะโฮวาอยู่ เขาจะได้แผ่นดินเป็นมฤดก.”—เพลง. 37:9-11.
5. จะเกิดอะไรขึ้นกับระบบปัจจุบัน?
5 เพื่อทั้งหมดนี้จะเกิดขึ้นได้ ระบบปัจจุบัน พร้อมกับองค์ประกอบทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล, ศาสนา, และระบบการค้าที่ขัดแย้งกัน จะต้องถูกขจัดออกไป. และนั่นแหละคือสิ่งที่รัฐบาลซึ่งปกครองจากสวรรค์จะทำ. ผู้พยากรณ์ดานิเอลได้รับการดลใจให้บอกล่วงหน้าว่า “ในสมัยเมื่อกษัตริย์เหล่านั้นกำลังเสวยราชย์อยู่, พระเจ้าแห่งสรวงสวรรค์จะทรงตั้งอาณาจักรอันหนึ่งขึ้น [ในสวรรค์], ซึ่งจะไม่มีวันทำลายเสียได้, หรือผู้ใดจะชิงเอาอาณาจักรนี้ไปก็หาได้ไม่; แต่อาณาจักรนี้จะทำลายอาณาจักรอื่น ๆ [ในปัจจุบัน] ลงให้ย่อยยับและเผาผลาญเสียสิ้น, และอาณาจักรนี้จะดำรงอยู่เป็นนิจ.” (ดานิ. 2:44) แล้วราชอาณาจักรของพระเจ้า—รัฐบาลใหม่ซึ่งปกครองจากสวรรค์—จะปกครองเหนือสังคมมนุษย์ใหม่บนแผ่นดินโลก. จะมี “ฟ้าสวรรค์ใหม่และแผ่นดินโลกใหม่ . . . ซึ่งที่นั่นจะมีความชอบธรรมอยู่จริง.”—2 เป. 3:13.
มีความจำเป็นต้องได้รับการช่วยให้รอดมากขึ้นในเวลานี้
6. คัมภีร์ไบเบิลพรรณนาความเลวร้ายของโลกชั่วนี้อย่างไร?
6 เมื่อซาตาน, อาดาม, และฮาวาขืนอำนาจพระเจ้าโดยต้องการตัดสินใจเองว่าอะไรถูกอะไรผิด ครอบครัวมนุษย์จึงเริ่มเดินในแนวทางที่นำไปสู่ความหายนะ. อีก 1,600 กว่าปีต่อมา ก่อนน้ำท่วมโลก “มนุษย์กระทำความชั่วมากทวีขึ้นบนแผ่นดินและทรงเห็นว่าความคิดนึกในใจของเขาล้วนเป็นความชั่วเสมอไป.” (เย. 6:5) และหลังจากนั้นประมาณ 1,300 ปี โซโลมอนพบว่าสภาพการณ์เลวร้ายมากจนท่านเขียนไว้ว่า “ข้าพเจ้าแสดงความยินดีว่าคนตายที่ตายไปแล้วมีโชคดีกว่าคนเป็นที่ยังเป็นอยู่ เออคนที่ยังไม่เป็นมาที่ไม่เห็นการชั่วที่อุบัติขึ้นภายใต้ดวงอาทิตย์ก็ยิ่งดีกว่าคนทั้งสองจำพวกนั้น.” (ผู้ป. 4:2, 3, ฉบับแปลใหม่) หลังจากนั้นอีกประมาณ 3,000 ปีก็มาถึงสมัยของเราซึ่งความชั่วร้ายยังคงรุ่งเรืองเติบโตอย่างต่อเนื่อง.
7. เหตุใดในเวลานี้จึงมีความจำเป็นต้องได้รับการช่วยให้รอดจากพระเจ้ามากยิ่งกว่าเวลาใด ๆ?
7 ในขณะที่เป็นความจริงว่าความชั่วร้ายมีอยู่นานแล้ว แต่ในเวลานี้มีความจำเป็นมากยิ่งกว่าสมัยใด ๆ ในเรื่องการช่วยให้รอดโดยราชอาณาจักรของพระเจ้า. สภาพการณ์ในช่วง 100 ปีที่ผ่านไปเลวร้ายยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา และยังคงเสื่อมลงไปเรื่อย ๆ. ตัวอย่างเช่น สถาบันเวิลด์วอตช์บท 9 ในหนังสือคัมภีร์ไบเบิลสอนอะไรจริงๆ?
รายงานว่า “เมื่อเทียบกันแล้ว จำนวนคนที่ตกเป็นเหยื่อสงครามในศตวรรษ [ที่ 20] มีมากถึงสามเท่าของจำนวนคนที่ตกเป็นเหยื่อสงครามนับตั้งแต่ปีที่หนึ่งสากลศักราชจนถึงปี 1899.” นับตั้งแต่ปี 1914 มากกว่า 100 ล้านคนเสียชีวิตในสงครามต่าง ๆ! สารานุกรมฉบับหนึ่งประมาณว่ามีคนตายในสงครามโลกครั้งที่ 2 ถึง 60 ล้านคน. ปัจจุบัน เนื่องจากมีบางชาติที่สะสมอาวุธนิวเคลียร์ มนุษย์มีความสามารถจะทำลายล้างประชากรโลกส่วนใหญ่ได้. และแม้ว่ามีความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และการแพทย์ ความหิวโหยยังคงคร่าชีวิตเด็กประมาณห้าล้านคนในทุก ๆ ปี.—โปรดดู8. ตลอดหลายพันปีที่มนุษย์ปกครองพิสูจน์ให้เห็นอะไรอย่างไม่มีข้อสงสัย?
8 ความพยายามของมนุษย์ไม่ประสบความสำเร็จในการยับยั้งความชั่วร้าย. สถาบันต่าง ๆ ทางการเมือง, การค้า, และศาสนาของโลกนี้ไม่เคยประสบความสำเร็จในการตอบสนองความจำเป็นพื้นฐานของมนุษย์ในเรื่องสันติภาพ, ความรุ่งเรือง, และสุขภาพ. แทนที่จะแก้ปัญหาใหญ่ ๆ ที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ สถาบันเหล่านี้กลับทำให้มีปัญหามากขึ้น. แน่นอน ตลอดหลายพันปีแห่งการปกครองของมนุษย์พิสูจน์ให้เห็นแล้วถึงความสัตย์จริงของถ้อยคำที่ว่า “ทางที่มนุษย์จะไปนั้นไม่ได้อยู่ในตัวของตัว, ไม่ใช่ที่มนุษย์ซึ่งดำเนินนั้นจะได้กำหนดก้าวของตัวได้.” (ยิระ. 10:23) และ “มนุษย์ใช้อำนาจเหนือมนุษย์อย่างที่ก่อผลเสียหายแก่เขา.” (ผู้ป. 8:9, ล.ม.) นอกจากนั้น “สิ่งทรงสร้างทั้งปวงล้วนคร่ำครวญด้วยกันและเจ็บปวดด้วยกัน.”—โรม 8:22.
9. คริสเตียนแท้คาดหมายจะเห็นสภาพเช่นไรใน “สมัยสุดท้าย” นี้?
9 คัมภีร์ไบเบิลบอกล่วงหน้าถึงสมัยของเราว่า “ในสมัยสุดท้ายจะเกิดวิกฤตกาลซึ่งยากจะรับมือได้.” หลังจากพรรณนาสภาพของสมัยสุดท้ายที่อยู่ภายใต้การปกครองของมนุษย์แล้ว คำพยากรณ์ข้อนี้กล่าวว่า “คนชั่วและคนหลอกลวงจะกำเริบชั่วร้ายยิ่งขึ้น.” (อ่าน 2 ติโมเธียว 3:1-5, 13.) นั่นคือสิ่งที่คริสเตียนคาดหมายอยู่แล้ว เพราะ “โลกทั้งโลกอยู่ในอำนาจตัวชั่วร้าย” คือซาตาน. (1 โย. 5:19) อย่างไรก็ตาม มีข่าวดีว่าพระเจ้าจะทรงช่วยคนที่รักพระองค์ให้รอดในอีกไม่ช้า. พวกเขาจะได้รับการช่วยให้รอดจากโลกนี้ซึ่งกำลังเลวร้ายยิ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว.
ผู้เดียวที่วางใจได้ในเรื่องการช่วยให้รอด
10. เหตุใดพระยะโฮวาทรงเป็นผู้เดียวที่วางใจได้ในเรื่องการช่วยให้รอด?
10 เมื่อคุณประกาศข่าวดี จงชี้ให้เห็นว่าพระยะโฮวาทรงเป็นผู้เดียวที่วางใจได้ในเรื่องการช่วยให้รอด. พระองค์ทรงเป็นผู้เดียวที่มีฤทธิ์อำนาจและพระประสงค์จะช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ให้รอดพ้นจากสภาพเลวร้ายทุกอย่าง. (กิจ. 4:24, 31; วิ. 4:11) เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะช่วยประชาชนของพระองค์ให้รอดและทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จเสมอ เพราะพระองค์ทรงปฏิญาณไว้แล้วว่า “แท้จริงเราได้กะโครงการไว้อย่างไร, ก็จะเป็นไปดังนั้น.” ถ้อยคำของพระองค์ “จะไม่ได้กลับมายัง [พระองค์] โดยไร้ผล.”—อ่านยะซายา 14:24, 25; 55:10, 11.
11, 12. พระเจ้าทรงรับรองอะไรกับผู้รับใช้ของพระองค์?
11 พระยะโฮวาทรงรับรองว่าพระองค์จะช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ให้รอดเมื่อพระองค์พิพากษาลงโทษคนชั่ว. เมื่อทรงส่งผู้พยากรณ์ยิระมะยาให้กล่าวอย่างกล้าหาญแก่คนที่ทำบาปร้ายแรง พระเจ้าตรัสว่า “อย่ากลัวหน้าเขา.” เพราะเหตุใด? เพราะ “เราอยู่ด้วยเจ้าเพื่อจะช่วยเจ้าให้พ้นได้.” (ยิระ. 1:8) คล้ายกัน เมื่อพระยะโฮวาจวนจะทำลายเมืองโซโดมและโกโมร์ราห์ที่ชั่วช้า พระองค์ทรงส่งทูตสวรรค์สององค์ให้มาพาโลตและครอบครัวไปอยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย. “แล้วพระเจ้าทรงให้กำมะถันและไฟ . . . ลงมาบนเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์.”—เย. 19:15, 24, 25, ฉบับแปลใหม่.
12 แม้แต่ในขอบเขตทั่วทั้งโลก พระยะโฮวาทรงสามารถช่วยคนที่ทำตามพระทัยประสงค์ของพระองค์ให้รอดได้. เมื่อพระองค์ทรงทำลายโลกชั่วในสมัยโบราณด้วยน้ำท่วมใหญ่ พระองค์ “ทรงคุ้มครองโนอาห์ผู้ประกาศความชอบธรรมกับคนอื่นอีกเจ็ดคนให้ปลอดภัย.” (2 เป. 2:5) พระยะโฮวาจะทรงช่วยคนซื่อตรงให้รอดอีกครั้งหนึ่งเมื่อพระองค์ทรงทำลายโลกชั่วในสมัยปัจจุบัน. พระคำของพระองค์จึงกล่าวว่า “จงแสวงหาพระยะโฮวา เจ้าผู้มีใจอ่อนน้อมทั้งปวงบนแผ่นดินโลก . . . จงแสวงหาความชอบธรรม แสวงหาความอ่อนน้อม. ชะรอยเจ้าอาจถูกกำบังไว้ในวันแห่งความ พิโรธของพระยะโฮวา.” (ซฟัน. 2:3, ล.ม.) ผลจากการทำลายในขอบเขตทั่วทั้งโลกเช่นนั้นก็คือ “คนตรงจะได้พำนักอยู่ในแผ่นดิน . . . แต่คนบาปหยาบช้าจะถูกตัดให้สิ้นศูนย์จากแผ่นดิน.”—สุภา. 2:21, 22.
13. ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาที่ได้เสียชีวิตไปแล้วจะได้รับการช่วยให้รอดอย่างไร?
13 อย่างไรก็ตาม ผู้รับใช้ของพระเจ้าหลายคนได้เสียชีวิตไปแล้วเนื่องด้วยความเจ็บป่วย, การข่มเหง, และสาเหตุอื่น ๆ. (มัด. 24:9) ถ้าอย่างนั้น คนเหล่านี้ทั้งหมดจะได้รับการช่วยให้รอดอย่างไร? ดังกล่าวไปแล้วก่อนหน้านี้ “คนชอบธรรม . . . จะกลับเป็นขึ้นจากตาย.” (กิจ. 24:15) เรารู้สึกสบายใจสักเพียงไรที่รู้ว่าไม่มีสิ่งใดจะสามารถขัดขวางพระยะโฮวาไว้จากการช่วยผู้รับใช้ของพระองค์ให้รอด!
รัฐบาลที่เที่ยงธรรม
14. เหตุใดเราจึงเชื่อมั่นว่าราชอาณาจักรของพระเจ้าเป็นรัฐบาลที่เที่ยงธรรม?
14 ในงานรับใช้ คุณสามารถอธิบายได้ว่าราชอาณาจักรของพระยะโฮวาซึ่งอยู่ในสวรรค์เป็นรัฐบาลที่เที่ยงธรรม. ราชอาณาจักรเป็นรัฐบาลที่เที่ยงธรรมจริง ๆ เพราะราชอาณาจักรนี้สะท้อนให้เห็นคุณลักษณะต่าง ๆ อันน่าพิศวงของพระเจ้า เช่น ความยุติธรรม, ความชอบธรรม, และความรัก. (บัญ. 32:4; 1 โย. 4:8) พระเจ้าทรงมอบราชอาณาจักรนี้ไว้กับพระเยซูคริสต์ผู้มีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดที่จะปกครองแผ่นดินโลก. นอกจากนี้ เป็นพระประสงค์ของพระยะโฮวาด้วยที่ให้มีการเลือกคริสเตียนผู้ถูกเจิม 144,000 คนจากแผ่นดินโลกและปลุกพวกเขาให้มีชีวิตในสวรรค์เป็นรัชทายาทร่วมกับพระคริสต์เพื่อจะปกครองโลก.—วิ. 14:1-5.
15. จงบอกความแตกต่างระหว่างการปกครองของราชอาณาจักรของพระเจ้ากับการปกครองของมนุษย์.
15 การปกครองของพระเยซูและชน 144,000 คนจะต่างจากการปกครองของมนุษย์ไม่สมบูรณ์มากทีเดียว! ผู้ปกครองในโลกนี้บ่อยครั้งโหดร้ายและนำราษฎรเข้าสู่สงคราม ทำให้หลายล้านคนถูกฆ่า. จึงไม่แปลกที่พระคัมภีร์แนะนำเราว่าอย่าวางใจมนุษย์ “ที่ช่วยให้รอดไม่ได้”! (เพลง. 146:3) แต่พระคริสต์จะทรงปกครองอย่างที่เปี่ยมด้วยความรักจริง ๆ! พระเยซูตรัสว่า “เจ้าทั้งหลายที่ตรากตรำและมีภาระมากจงมาหาเราเถิด แล้วเราจะทำให้เจ้าทั้งหลายสดชื่น. จงรับแอกของเราแบกไว้และเรียนจากเรา เพราะเราเป็นคนอ่อนโยนและถ่อมใจ แล้วเจ้าทั้งหลายจะสดชื่น. เพราะแอกของเราพอเหมาะและภาระของเราก็เบา.”—มัด. 11:28-30.
สมัยสุดท้ายใกล้จะสิ้นสุดแล้ว!
16. สมัยสุดท้ายนี้จะจบลงอย่างไร?
16 โลกนี้อยู่ในสมัยสุดท้ายหรือ “ช่วงสุดท้ายของยุค” แล้วนับตั้งแต่ปี 1914. (มัด. 24:3) อีกไม่นานหลังจากนี้ สิ่งที่พระเยซูทรงเรียกว่า “ความทุกข์ลำบากใหญ่” จะเกิดขึ้น. (อ่านมัดธาย 24:21.) ความทุกข์ลำบากที่ไม่มีอะไรเทียบได้จะทำให้โลกทั้งสิ้นของซาตานถึงที่สิ้นสุด. แต่ความทุกข์ลำบากใหญ่นั้นจะเริ่มต้นอย่างไร และจบลงอย่างไร?
17. คัมภีร์ไบเบิลระบุอะไรเกี่ยวกับการเริ่มต้นของความทุกข์ลำบากใหญ่?
17 ความทุกข์ลำบากใหญ่จะเริ่มต้นอย่างกะทันหัน. “เมื่อไรพวกเขาพูดว่า ‘สงบสุขและปลอดภัยแล้ว!’ ” เมื่อนั้น “วันของพระยะโฮวา” จะมาอย่างไม่ทันคาดคิด. (อ่าน 1 เทสซาโลนิเก 5:2, 3.) ความทุกข์ลำบากใหญ่จะเริ่มต้นเมื่อชาติ ต่าง ๆ คิดว่าพวกเขาเกือบจะแก้ปัญหาใหญ่ ๆ บางอย่างได้แล้ว. การทำลายล้าง “บาบิโลนใหญ่” จักรภพโลกแห่งศาสนาเท็จ จะทำให้โลกตกตะลึง. กษัตริย์ทั้งหลายและคนอื่น ๆ จะงุนงงเมื่อบาบิโลนใหญ่ถูกพิพากษาลงโทษ.—วิ. 17:1-6, 18; 18:9, 10, 15, 16, 19.
18. พระยะโฮวาทรงแสดงปฏิกิริยาอย่างไรต่อการที่ซาตานโจมตีประชาชนของพระองค์?
18 เมื่อถึงจุดวิกฤติ จะมี “สัญญาณบอกเหตุที่ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และดวงดาว” และ “สัญญาณบอกเหตุการณ์เกี่ยวกับบุตรมนุษย์จะปรากฏในท้องฟ้า.” ถึงตอนนั้นเราก็จะสามารถ ‘ยืดตัวตรงเพราะเราใกล้จะได้รับการช่วยให้รอดแล้ว.’ (ลูกา 21:25-28; มัด. 24:29, 30) ซาตานหรือโกกจะยกทัพมาต่อสู้ประชาชนของพระเจ้า. แต่พระยะโฮวาตรัสถึงผู้ที่โจมตีผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ว่า “ผู้ใดแตะต้องเจ้าก็แตะต้องนัยน์ตาเรา.” (ซคา. 2:8, ล.ม.) ด้วยเหตุนั้น ความพยายามของซาตานที่จะทำลายพวกเขาจะไม่สำเร็จ. เพราะเหตุใด? เพราะพระยะโฮวาองค์บรมมหิศรจะทรงตอบโต้ทันทีเพื่อช่วยผู้รับใช้ของพระองค์.—ยเอศ. 38:9, 18.
19. เหตุใดเราจึงเชื่อมั่นได้ว่ากองกำลังพิพากษาลงโทษของพระเจ้าจะทำลายระบบของซาตาน?
19 เมื่อพระเจ้าทรงยื่นพระหัตถ์ออกต่อสู้ชาติทั้งหลาย ‘พวกเขาจะได้รู้ว่า พระองค์คือยะโฮวา.’ (ยเอศ. 36:23) พระองค์จะส่งกองกำลังพิพากษาลงโทษ—เหล่ากายวิญญาณในสวรรค์มากมายซึ่งนำโดยพระเยซูคริสต์—ให้ทำลายระบบที่เหลือบนแผ่นดินโลกของซาตาน. (วิ. 19:11-19) เมื่อเราจำได้ว่ามีโอกาสหนึ่งที่ทูตสวรรค์เพียงองค์เดียวประหารศัตรูของพระเจ้า “หนึ่งแสนแปดหมื่นห้าพันคน” ภายในคืนเดียว เราจึงเชื่อมั่นได้ว่ากองทัพจากสวรรค์จะทำลายระบบทั้งสิ้นของซาตานบนแผ่นดินโลกจนไม่เหลือร่องรอยเมื่อความทุกข์ลำบากใหญ่ถึงจุดสุดยอดในอาร์มาเก็ดดอน. (2 กษัต. 19:35, ฉบับแปลใหม่; วิ. 16:14, 16) ซาตานและปิศาจบริวารของมันจะถูกคุมขังในขุมลึกเป็นเวลาหนึ่งพันปี. ในที่สุด พวกมันจะถูกทำลาย.—วิ. 20:1-3.
20. พระยะโฮวาจะทรงทำอะไรให้สำเร็จโดยทางราชอาณาจักร?
20 เนื่องด้วยเหตุนี้ ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกจะสะอาดปราศจากความชั่ว และมนุษย์ที่ชอบธรรมจะอาศัยอยู่บนโลกนี้ตลอดไป. เมื่อถึงตอนนั้น พระยะโฮวาจะพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดองค์ยิ่งใหญ่. (เพลง. 145:20) โดยทางราชอาณาจักร พระองค์จะพิสูจน์ว่าอำนาจปกครองของพระองค์ชอบธรรม, ทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์, และทำให้พระประสงค์อันยิ่งใหญ่ของพระองค์สำหรับแผ่นดินโลกนี้สำเร็จ. ขอให้คุณชื่นชมยินดีกับงานรับใช้ของคุณขณะที่คุณประกาศข่าวดีนี้และช่วยคนที่ “เต็มใจตอบรับความจริงซึ่งทำให้ได้ชีวิตนิรันดร์” ให้ตระหนักว่าการช่วยให้รอดโดยราชอาณาจักรของพระเจ้ามาใกล้แล้ว!—กิจ. 13:48.
คุณจำได้ไหม?
• พระเยซูทรงเน้นความสำคัญของราชอาณาจักรอย่างไร?
• เหตุใดจึงมีความจำเป็นต้องมีการช่วยให้รอดในสมัยนี้มากยิ่งกว่าแต่ก่อน?
• เราสามารถคาดหมายได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรระหว่างความทุกข์ลำบากใหญ่?
• พระยะโฮวาทรงพิสูจน์ให้เห็นอย่างไรว่าพระองค์ทรงเป็นพระผู้ช่วยให้รอดองค์ยิ่งใหญ่?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 12, 13]
พระคำของพระเจ้าบอกล่วงหน้าถึงงานประกาศทั่วโลกในสมัยของเราซึ่งไม่มีงานใดจะเทียบได้
[ภาพหน้า 15]
เช่นเดียวกับที่พระยะโฮวาทรงช่วยโนอาห์และครอบครัวให้รอด พระองค์จะทรงช่วยเราให้รอดได้เช่นกัน
[ภาพหน้า 16]
พระยะโฮวา “จะทรงเช็ดน้ำตาทุกหยด . . . ความตายจะไม่มีอีกเลย.”—วิ. 21:4