พระยะโฮวาทรงดูแลผู้รับใช้ที่สูงอายุด้วยความอ่อนละมุน
พระยะโฮวาทรงดูแลผู้รับใช้ที่สูงอายุด้วยความอ่อนละมุน
“พระเจ้าไม่ทรงอธรรม พระองค์จึงไม่ทรงลืมการงานของพวกท่านและ ความรักที่พวกท่านแสดงต่อพระนามของพระองค์.”—ฮีบรู 6:10.
1, 2. (ก) เมื่อเห็นคนผมหงอกขาว คุณอาจนึกถึงอะไร? (ข) พระยะโฮวาทรงมีทัศนะอย่างไรต่อคริสเตียนสูงอายุ?
เมื่อคุณเห็นผู้สูงอายุในประชาคมที่มีผมขาว คุณนึกถึงเรื่องราวในหนังสือดานิเอลไหม? ในนิมิตที่พระยะโฮวาพระเจ้าประทานแก่ดานิเอล พระองค์ทรงให้ภาพพระองค์เองว่าทรงมีพระเกศาขาว. ดานิเอลเขียนว่า “ข้าพเจ้าเฝ้าดูจนมีพระที่นั่งมาตั้งลงหลายพระที่, และผู้ทรงพระชนม์แต่เบื้องบรรพ์ทรงประทับลง, ฉลองพระองค์ขาวดังหิมะ, และพระเกศาเหมือนขนแกะอย่างขาวหมดจด.”—ดานิ. 7:9.
2 ขนแกะในสภาพตามธรรมชาติมักมีสีขาวนวล. ด้วยเหตุนั้น พระเกศาขาวและสมญา “ผู้ทรงพระชนม์แต่เบื้องบรรพ์” จึงดึงความสนใจเราไปที่พระชนมายุและพระสติปัญญาอันยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ซึ่งทั้งสองประการนี้สมควรได้รับความนับถืออย่างสุดซึ้งจากเรา. ถ้าอย่างนั้น พระยะโฮวาผู้ทรงพระชนม์แต่เบื้องบรรพ์ทรงมีทัศนะอย่างไรต่อชายหญิงผู้ซื่อสัตย์ที่สูงอายุ? พระคำของพระเจ้ากล่าวว่า “ผมหงอกบนศีรษะเป็นเหมือนมงกุฎแห่งสง่าราศีถ้าใจอยู่ในที่ชอบธรรม.” (สุภา. 16:31) ดังนั้น ถ้าคริสเตียนที่ซื่อสัตย์คนใดมีผมหงอกขาว ลักษณะภายนอกที่แสดงถึงความอาวุโสเช่นนั้นงดงามในสายพระเนตรพระเจ้า. คุณมีทัศนะต่อพี่น้องที่สูงอายุเหมือนกับพระยะโฮวาไหม?
เหตุใดพวกเขาจึงมีค่าอย่างยิ่ง?
3. เหตุใดเพื่อนร่วมความเชื่อที่สูงอายุจึงมีค่าอย่างยิ่งสำหรับเรา?
3 ในบรรดาผู้รับใช้ที่สูงอายุซึ่งเป็นที่รักของพระเจ้าดังกล่าว มีสมาชิกคณะกรรมการปกครองของพยานพระยะโฮวา, ผู้ดูแลเดินทางและอดีตผู้ดูแลเดินทาง, ไพโอเนียร์ที่กระตือรือร้น, และผู้ประกาศราชอาณาจักรที่อายุมากแล้วซึ่งรับใช้อย่างซื่อสัตย์ในประชาคมของเรา. คุณอาจรู้จักบางคนที่ประกาศข่าวดีอย่างกระตือรือร้นมาหลายสิบปี และคนที่เป็นตัวอย่างที่ดีซึ่งเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่อายุน้อยกว่าและมีอิทธิพลต่อชีวิตของพวกเขา. เพื่อนร่วมความเชื่อที่สูงอายุบางคนได้ทำหน้าที่รับผิดชอบอย่างหนักและอดทนการข่มเหงเพื่อเห็นแก่ข่าวดี. พระยะโฮวาและ “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม” เห็นคุณค่าพวกเขาอย่างยิ่งที่ได้ช่วยงานราชอาณาจักรทั้งในอดีตและในเวลานี้.—มัด. 24:45.
4. เหตุใดเราควรนับถือคริสเตียนที่สูงอายุและอธิษฐานเพื่อพวกเขา?
4 ผู้รับใช้คนอื่น ๆ ของพระยะโฮวาพระเจ้าสมควรแสดงความขอบคุณและความนับถือต่อผู้สูงอายุที่ซื่อสัตย์อย่างที่กล่าวไปแล้ว. ที่จริง พระบัญญัติของพระเจ้าที่พระองค์ประทานโดยทางโมเซแสดงให้เห็นว่าการคำนึงถึงและความนับถือผู้สูงอายุเกี่ยวข้องกับความเกรงกลัวพระยะโฮวา. (เลวี. 19:32) เราควรอธิษฐานเป็นประจำเพื่อผู้ซื่อสัตย์เหล่านี้และขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับการงานที่พวกเขาทำด้วยความรัก. อัครสาวกเปาโลอธิษฐานเพื่อเพื่อนร่วมงานที่ท่านรัก ทั้งผู้เยาว์และผู้สูงอายุ.—อ่าน 1 เทสซาโลนิเก 1:2, 3.
5. เราจะได้รับประโยชน์จากการคบหากับผู้สูงอายุที่นมัสการพระยะโฮวาได้อย่างไร?
5 นอกจากนั้น ทุกคนในประชาคมสามารถได้รับประโยชน์จากการคบหากับคริสเตียนที่สูงอายุ. โดยการศึกษา, การสังเกต, และประสบการณ์ ผู้สูงอายุที่นมัสการพระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ได้สะสมความรู้อันล้ำค่า. พวกเขาได้เรียนรู้ที่จะอดทนและแสดงความเห็นอกเห็นใจ และการถ่ายทอดสิ่งที่พวกเขาได้เรียนรู้แก่คนรุ่นหลังก็ทำให้พวกเขาอิ่มใจยินดีอย่างยิ่ง. (เพลง. 71:18) พวกคุณที่มีอายุน้อยกว่า จงฉลาดและตักตวงความรู้จากแหล่งนี้เหมือนตักน้ำจากบ่อลึก.—สุภา. 20:5.
6. คุณจะแสดงให้ผู้สูงอายุทราบได้อย่างไรว่าคุณเห็นค่าพวกเขาอย่างแท้จริง?
6 คุณบอกให้ผู้สูงอายุทราบไหมว่าคุณถือว่าพวกเขามีค่ามากเหมือนกับที่พระยะโฮวาทรงถือว่าพวกเขามีค่า? วิธีหนึ่งที่จะทำอย่างนั้นได้ก็คือ โดยบอกผู้สูงอายุว่าคุณรักพวกเขามากขนาดไหนเพราะความซื่อสัตย์ของพวกเขา และความคิดเห็นของพวกเขามีค่าเพียงไรสำหรับคุณ. นอกจากนั้น โดยลงมือทำตามสิ่งที่คุณได้เรียนรู้จากพวกเขา นั่นย่อมแสดงว่าคุณนับถือพวกเขาอย่างแท้จริง. คริสเตียนที่อายุมากแล้วหลายคนยังจำได้ดีถึงคำแนะนำที่ได้รับจากผู้สูงอายุที่ซื่อสัตย์ และตระหนักว่าการทำตามคำแนะนำนั้นให้ประโยชน์แก่พวกเขาอย่างไรตลอดชีวิต.จงแสดงความห่วงใยในภาคปฏิบัติ
7. พระยะโฮวาทรงมอบความรับผิดชอบให้ใครเป็นอันดับแรกในการดูแลผู้สูงอายุ?
7 พระเจ้าทรงมอบความรับผิดชอบในอันดับแรกให้แก่ครอบครัวของผู้สูงอายุในการเลี้ยงดูพวกเขา. (อ่าน 1 ติ-โมเธียว 5:4, 8.) พระยะโฮวาทรงพอพระทัยเมื่อครอบครัวทำตามพันธะหน้าที่ของตนต่อญาติผู้ใหญ่ที่สูงอายุ และโดยวิธีนั้นแสดงว่าพวกเขาห่วงใยผู้สูงอายุเช่นเดียวกับที่พระองค์ทรงห่วงใย. พระเจ้าทรงสนับสนุนครอบครัวเหล่านี้และทรงอวยพรความพยายามของพวกเขาและการเสียสละทั้งหลายของพวกเขา. *
8. เหตุใดประชาคมควรแสดงความห่วงใยต่อคริสเตียนที่สูงอายุ?
8 คล้ายกัน พระยะโฮวาทรงพอพระทัยเมื่อประชาคมท้องถิ่นช่วยเหลือผู้สูงอายุที่ซื่อสัตย์ซึ่งขัดสน แต่ไม่มีสมาชิกครอบครัวที่มีความเชื่อหรือเต็มใจจะให้การดูแลพวกเขา. (1 ติโม. 5:3, 5, 9, 10) โดยทำอย่างนั้น ประชาคมแสดงว่าพวกเขามี “ความเห็นอกเห็นใจกัน มีความรักใคร่ฉันพี่น้อง ความเอ็นดูสงสาร” ผู้สูงอายุ. (1 เป. 3:8) เปาโลแสดงให้เห็นความห่วงใยของประชาคมต่อสมาชิกที่สูงอายุเมื่อท่านชี้ว่า ถ้าอวัยวะหนึ่งของร่างกายคนเราทุกข์ “อวัยวะทั้งหมดก็ทุกข์ด้วย.” (1 โค. 12:26) การลงมือทำจริง ๆ ด้วยความเมตตาสงสารเพื่อช่วยผู้สูงอายุแสดงให้เห็นหลักการที่อยู่เบื้องหลังคำแนะนำของเปาโลที่ว่า “จงช่วยแบก ภาระหนักของกันและกันต่อ ๆ ไป เมื่อทำอย่างนี้จะทำให้บัญญัติของพระคริสต์สำเร็จ.”—กลา. 6:2.
9. อายุที่มากขึ้นอาจก่อให้เกิดภาระหนักอะไรได้บ้าง?
9 ผู้สูงอายุแบกภาระหนักอะไรบ้าง? หลายคนเหนื่อยง่าย. พวกเขาอาจรู้สึกว่าแม้แต่การทำเรื่องธรรมดา ๆ—เช่น การไปหาหมอ, การจ่ายค่าน้ำค่าไฟ, การทำความสะอาดบ้าน, การทำอาหาร—ก็กลายเป็นเรื่องที่ยากเกินความสามารถของเขา. เนื่องจากความอยากอาหารและความกระหายมักลดน้อยลงตามวัย พวกเขาอาจคิดว่าไม่จำเป็นต้องกินอาหารหรือดื่มน้ำมากเท่าที่ควร. อาจเป็นอย่างนั้นด้วยในเรื่องการกินอาหารฝ่ายวิญญาณ. หูที่เริ่มตึงและตาที่ฝ้าฟางอาจทำให้การอ่านหนังสือและการฟังระเบียบวาระการประชุมเป็นเรื่องลำบาก และแม้แต่แค่การเตรียมตัวไปประชุมคริสเตียนก็อาจทำให้พวกเขาเหนื่อย. ถ้าอย่างนั้น คนอื่น ๆ จะทำอะไรได้เพื่อผู้สูงอายุเหล่านี้?
วิธีที่คุณสามารถช่วย
10. ผู้ปกครองอาจทำอะไรเพื่อจะแน่ใจว่าผู้สูงอายุได้รับความช่วยเหลือตามความจำเป็นของพวกเขาจริง ๆ?
10 ในหลายประชาคม ผู้สูงอายุกำลังได้รับการดูแลอย่างที่น่าเลียนแบบ. พี่น้องที่เปี่ยมด้วยความรักช่วยผู้สูงอายุซื้อของ, ทำอาหาร, และทำความสะอาด. พวกเขาช่วยผู้สูงอายุในการศึกษา, เตรียมตัวเพื่อเข้าร่วมการประชุม, และมีส่วนในการประกาศอย่างสม่ำเสมอต่อ ๆ ไป. พยานฯที่อายุน้อยกว่าไปเป็นเพื่อนด้วยกันกับผู้สูงอายุและช่วยไปรับไปส่งพวกเขา. หากผู้สูงอายุออกนอกบ้านไม่ได้ พวกเขาสามารถฟังการประชุมได้โดยทางโทรศัพท์หรือเทปบันทึกเสียงที่พี่น้องอัดให้. เมื่อไรก็ตามที่เป็นไปได้ ผู้ปกครองจะจัดการเพื่อให้ผู้สูงอายุในประชาคมได้รับการดูแลตามความจำเป็นของแต่ละคน. *
11. จงเล่าถึงวิธีที่ครอบครัวหนึ่งได้ให้ความช่วยเหลือแก่พี่น้องชายสูงอายุคนหนึ่ง.
11 คริสเตียนแต่ละคนก็สามารถแสดงน้ำใจรับรองแขกและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ได้เช่นกัน. หลังจากภรรยาของพี่น้องชายที่สูงอายุคนหนึ่งเสียชีวิต เขาก็ไม่มีเงินพอจ่ายค่าเช่าบ้านเพราะไม่ได้รับเงินบำนาญของเธออีกต่อไป. เขาและภรรยาเคยศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีพ่อ, แม่, และลูกสาววัยรุ่นสองคน และครอบครัวนี้มีบ้านหลังใหญ่. พวกเขายกห้องให้พี่น้องชายคนนี้อยู่สองห้อง. เป็นเวลา 15 ปีที่ครอบครัวนี้กับพี่น้องสูงอายุคนนี้รับประทานอาหารด้วยกัน, หัวเราะด้วยกัน, และแสดงความรักใคร่กันฉันพี่น้อง. แต่ละคนในครอบครัวนี้ที่มีอายุน้อยกว่าได้เรียนรู้อย่างมากจากความเชื่อและประสบการณ์มากมายของเขา และเขาก็ได้รับประโยชน์จากการคบหาที่น่ายินดี. พี่น้องสูงอายุคนนี้อยู่กับครอบครัวนี้จนกระทั่งเสียชีวิตเมื่ออายุได้ 89 ปี. ครอบครัวนี้ยังคงขอบพระคุณพระเจ้าสำหรับพระพรหลายประการที่พวกเขาได้รับจากการคบหากับเขา. พวกเขาไม่ “ขาดบำเหน็จ” จากการได้ให้ความช่วยเหลือเพื่อนผู้รับใช้ที่เป็นสาวกของพระเยซูคริสต์ด้วยกัน.—มัด. 10:42. *
12. คุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อแสดงว่าคุณคำนึงถึงพี่น้องที่อายุมากแล้ว?
12 คุณอาจไม่อยู่ในฐานะที่จะช่วยพี่น้องสูงอายุได้อย่างที่ครอบครัวนี้ทำ แต่คุณอาจช่วยผู้สูงอายุให้เข้าร่วมการประชุมและออกไปประกาศได้. นอกจากนั้น คุณอาจเชิญผู้สูงอายุมาที่บ้านของคุณและอาจชวนพวกเขาไปด้วยกันเมื่อคุณไปเที่ยวใกล้ ๆ. คุณสามารถไปเยี่ยมพวกเขา โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาป่วยหรือไปไหนมาไหนไม่ได้. นอกจากนี้ คุณสามารถปฏิบัติต่อพวกเขาให้สมกับฐานะของพวกเขาที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ซึ่งก็ควรจะเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว. ตราบเท่าที่พวกเขายังคงมีความสามารถด้านความคิด ควรให้คริสเตียนผู้สูงอายุมีส่วนร่วมในการตัดสินใจทุกเรื่องที่มีผลกระทบต่อพวกเขา. แม้แต่คนที่สูญเสียความสามารถด้านความคิดไปมากก็ยังสามารถรับรู้ได้ว่าคนอื่นปฏิบัติต่อเขาอย่างนับถือและให้เกียรติหรือไม่.
พระยะโฮวาจะไม่ทรงลืมการงานของคุณ
13. เหตุใดจึงเป็นเรื่องสำคัญที่เราจะคำนึงถึงความรู้สึกของคริสเตียนที่สูงอายุ?
13 การคำนึงถึงความรู้สึกของผู้สูงอายุนับว่าสำคัญ. เป็น
เรื่องธรรมดาที่ผู้สูงอายุจะรู้สึกหงุดหงิดรำคาญใจที่เขาไม่สามารถทำอะไร ๆ ได้เหมือนที่เคยทำได้เมื่ออายุยังไม่มากและสุขภาพยังดีอยู่. ตัวอย่างเช่น พี่น้องหญิงคนหนึ่งซึ่งรับใช้พระยะโฮวาอย่างขันแข็งมาประมาณ 50 ปีแล้วและเคยรับใช้เป็นไพโอเนียร์ประจำตอนนี้เป็นโรคอย่างหนึ่งที่ทำให้อ่อนเพลียและเข้าร่วมการประชุมได้ลำบากมาก. เมื่อเธอเทียบงานรับใช้ที่เมื่อก่อนเคยทำได้กับข้อจำกัดต่าง ๆ ในปัจจุบัน เธอก็เริ่มร้องไห้. เธอนั่งก้มหน้าและพูดทั้งน้ำตาว่า “ดิฉันทำอะไร ๆ ไม่ไหวแล้ว.”14. ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาที่อายุมากแล้วได้รับกำลังใจอย่างไรจากบทเพลงสรรเสริญ?
14 ถ้าคุณเป็นผู้สูงอายุ คุณเคยรู้สึกเจ็บปวดใจอย่างนั้นไหม? หรือมีบางครั้งไหมที่คุณรู้สึกว่าพระยะโฮวาอาจละทิ้งคุณเสียแล้ว? ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญอาจรู้สึกคล้าย ๆ กันนั้นในช่วงบั้นปลายชีวิต เพราะท่านวิงวอนพระยะโฮวาว่า “เวลาชราแล้วขออย่าทรงสลัดข้าพเจ้าเสีย; เมื่อกำลังของข้าพเจ้าถอยขออย่าทรงละทิ้งข้าพเจ้าเสียเลย. . . . ข้าแต่พระเจ้า, แม้ว่าข้าพเจ้าชราผมหงอกแล้ว, ขออย่าทรงละทิ้งข้าพเจ้า.” (เพลง. 71:9, 18) แน่นอน พระยะโฮวาไม่ละทิ้งผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญ และพระองค์จะไม่ละทิ้งคุณ. ในเพลงสรรเสริญอีกบทหนึ่ง ดาวิดแสดงความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงสนับสนุนท่าน. (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 68:19.) คุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าหากคุณเป็นคริสเตียนสูงอายุที่ซื่อสัตย์ พระยะโฮวาจะทรงอยู่กับคุณและจะค้ำจุนคุณเสมอในแต่ละวัน.
15. อะไรอาจช่วยผู้สูงอายุให้รักษาทัศนะในแง่บวก?
15 ทุกสิ่งที่พวกคุณซึ่งเป็นพยานพระยะโฮวาผู้สูงอายุได้ทำในอดีตและที่กำลังทำอยู่ในเวลานี้เพื่อถวายเกียรติแด่พระเจ้านั้นอยู่ในความคิดของพระองค์เสมอ. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “พระเจ้าไม่ทรงอธรรม พระองค์จึงไม่ทรงลืมการงานของพวกท่านและความรักที่พวกท่านแสดงต่อพระนามของพระองค์.” (ฮีบรู 6:10) ด้วยเหตุนั้น จงพยายามต้านทานความคิดในแง่ลบซึ่งเป็นความคิดผิด ๆ ที่ว่า เนื่องจากอายุมากแล้วคุณไม่เป็นประโยชน์สำหรับพระยะโฮวาอีกต่อไป. ขอให้พยายามเลิกคิดในแง่ลบซึ่งมีแต่จะทำให้คุณหดหู่ และเปลี่ยนมาคิดในแง่บวก. ขอให้ชื่นชมกับพระพรที่คุณมีในตอนนี้และชื่นชมกับความหวังในเรื่องอนาคต! เรามี “ความหวังใจที่เบื้องปลาย” ที่ดีที่สุด และพระผู้สร้างของเราทรงรับรองเราเกี่ยวกับสิ่งเหล่านี้. (ยิระ. 29:11, 12; กิจ. 17:31; 1 ติโม. 6:19) ขอให้ใคร่ครวญถึงความหวังของคุณ, พยายามทำให้หัวใจและจิตใจกระชุ่มกระชวยอยู่เสมอ, และอย่าประเมินคุณค่าของคุณที่มีต่อประชาคมต่ำเกินไป! *
16. เหตุใดพี่น้องที่สูงอายุคนนี้จึงคิดว่าเขาควรเลิกรับใช้เป็นผู้ปกครอง แต่คณะผู้ปกครองหนุนใจเขาอย่างไร?
16 ขอให้พิจารณากรณีของโยฮาน ซึ่งเมื่ออายุได้ 80 ปีต้องใช้เวลาทั้งหมดดูแลซานนี * ภรรยาซึ่งรับใช้พระเจ้าอย่างซื่อสัตย์ที่ในตอนนี้ป่วยอยู่. พี่น้องหญิงผลัดเวรกันมาดูแลซานนี เพื่อโยฮานจะสามารถไปร่วมการประชุมและไปประกาศได้. แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้เอง โยฮานรู้สึกว่าเขาเกือบจะทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว และคิดว่าเขาไม่ควรรับใช้เป็นผู้ปกครองในประชาคมอีกต่อไป. เขาถามด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า “มีประโยชน์อะไรที่ผมจะรับใช้เป็นผู้ปกครองต่อไป? ผมทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ในประชาคมไม่ได้แล้ว.” เพื่อนผู้ปกครองให้ความมั่นใจกับเขาว่าประสบการณ์และความสามารถในการตัดสินของเขาเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อประชาคม. พวกเขากระตุ้นโยฮานให้รับใช้เป็นผู้ปกครองต่อไป แม้ว่าเขาจะทำหน้าที่ต่าง ๆ ได้ไม่มาก. เมื่อได้รับการหนุนใจมากอย่างนั้น โยฮานรับใช้เป็นผู้ปกครองต่อไป ซึ่งก็เป็นพระพรสำหรับประชาคม.
พระยะโฮวาทรงใฝ่พระทัยอย่างแท้จริง
17. คัมภีร์ไบเบิลให้คำรับรองอะไรแก่คริสเตียนที่สูงอายุ?
17 พระคัมภีร์แสดงชัดเจนว่าผู้สูงอายุสามารถเกิดผลฝ่ายวิญญาณแม้ว่ามีปัญหาที่สืบเนื่องจากวัยชรา. ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญประกาศว่า “เขาถูกปลูกไว้ในวิหารของพระยะโฮวา . . . เมื่อผู้นั้นแก่แล้วยังจะเกิดผล; จะประกอบไปด้วยน้ำเลี้ยงและยังเขียวสดอยู่.” (เพลง. 92:13, 14) อัครสาวกเปาโล ซึ่งตัวท่านเองอาจรับมือกับปัญหาเรื่องสุขภาพด้วย ‘ไม่ท้อถอย แม้ว่าสภาพภายนอกของท่านทรุดโทรมลงเรื่อย ๆ.’—อ่าน 2 โครินท์ 4:16-18.
18. เหตุใดเพื่อนร่วมความเชื่อที่สูงอายุและผู้ให้การดูแลเอาใจใส่จำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่น ๆ?
18 มีตัวอย่างมากมายในสมัยปัจจุบันที่พิสูจน์ว่าผู้สูงอายุยังสามารถ “เกิดผล.” แต่ปัญหายุ่งยากจากความเจ็บป่วยและวัยชราอาจทำให้กังวลใจได้ แม้แต่คนที่มีสมาชิกครอบครัวที่พร้อมจะทำตามพันธะหน้าที่ในการเอาใจใส่และช่วยเหลือผู้สูงอายุ. ผู้ให้การดูแลเอาใจใส่เองก็อาจรู้สึกหมดแรงด้วย. ประชาคมมีสิทธิพิเศษและหน้าที่รับผิดชอบที่จะแสดงความรักในภาคปฏิบัติเพื่อช่วยผู้สูงอายุและคนที่ดูแลเอาใจใส่พวกเขา. (กลา. 6:10) การให้ความช่วยเหลือเช่นนั้นก็เหมือนกับว่าเราไม่ได้ทำแค่บอกคนเหล่านั้นว่า “จงไปอย่างมีความสุข ขอให้ร่างกายอบอุ่นและอิ่มหนำเถิด” แต่ไม่ได้ลงมือทำอะไรเพื่อช่วยเขา.—ยโก. 2:15-17.
19. เหตุใดคริสเตียนสูงอายุที่ซื่อสัตย์สามารถมองอนาคตด้วยความมั่นใจ?
19 อายุที่มากขึ้นอาจเป็นเหตุให้กิจกรรมต่าง ๆ ของคริสเตียนเปลี่ยนไปไม่มากก็น้อย แต่เวลาไม่ได้ลดทอนความรักของพระยะโฮวาที่มีต่อผู้รับใช้ที่ภักดีต่อพระองค์ซึ่งอายุมากแล้ว. ตรงกันข้าม คริสเตียนที่ซื่อสัตย์เหล่านี้ทุกคนมีค่ายิ่งในสายพระเนตรพระองค์ และพระองค์จะไม่มีวันละทิ้งพวกเขา. (เพลง. 37:28; ยซา. 46:4) พระยะโฮวาจะทรงค้ำจุนและชี้นำพวกเขาเสมอไปตลอดช่วงวัยชรา.—เพลง. 48:14.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 6 โปรดดูบทความ “ผู้สูงอายุ—พระพรสำหรับคนที่อายุน้อยกว่า” ในหอสังเกตการณ์ ฉบับ 1 มิถุนายน 2007.
^ วรรค 7 โปรดดูบท 15 “การให้เกียรติบิดามารดาผู้สูงอายุ” ในหนังสือ เคล็ดลับสำหรับความสุขในครอบครัว.
^ วรรค 10 ในบางประเทศ การช่วยเหลือดังกล่าวอาจรวมถึงการช่วยผู้สูงอายุให้ได้รับสวัสดิการจากรัฐบาล. โปรดดูบทความ “พระเจ้าทรงใฝ่พระทัยผู้สูงอายุ” ในหอสังเกตการณ์ ฉบับ 1 มิถุนายน 2006.
^ วรรค 11 โปรดดูบทความ “พระยะโฮวาทรงใฝ่พระทัยพวกเราเสมอ” ในหอสังเกตการณ์ ฉบับ 1 กันยายน 2003.
^ วรรค 15 โปรดดูบทความ “ความสง่างามของการมีผมหงอก” ในหอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 มีนาคม 1993.
^ วรรค 16 ชื่อสมมุติ.
คุณจะตอบอย่างไร?
• เหตุใดคุณจึงถือว่าคริสเตียนสูงอายุที่ซื่อสัตย์มีค่าอย่างยิ่ง?
• เราจะแสดงความห่วงใยต่อเพื่อนผู้นมัสการที่สูงอายุได้โดยวิธีใด?
• อะไรอาจช่วยผู้รับใช้พระยะโฮวาที่สูงอายุให้มีทัศนะในแง่บวกได้?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 18]
สมาชิกของประชาคมเห็นคุณค่าผู้สูงอายุอย่างยิ่ง