จงช่วยพวกเขาให้รีบกลับมา!
จงช่วยพวกเขาให้รีบกลับมา!
“พวกข้าพเจ้าจะไปหาผู้ใดเล่า? พระองค์ทรงมีถ้อยคำที่ให้ชีวิตนิรันดร์.”—โย. 6:68.
1. เปโตรกล่าวอะไรเมื่อสาวกหลายคนละทิ้งพระเยซู?
ครั้งหนึ่งสาวกหลายคนของพระเยซูคริสต์ที่ไม่ยอมรับคำสอนอย่างหนึ่งของพระองค์ละทิ้งพระองค์ไป. พระองค์ทรงถามเหล่าอัครสาวกว่า “พวกเจ้าไม่อยากไปด้วยหรือ?” เปโตรตอบว่า “พระองค์เจ้าข้า พวกข้าพเจ้าจะไปหาผู้ใดเล่า? พระองค์ทรงมีถ้อยคำที่ให้ชีวิตนิรันดร์.” (โย. 6:51-69) ไม่มีที่อื่นให้ไปอีกแล้ว. ศาสนายิวในสมัยนั้นไม่มี “ถ้อยคำที่ให้ชีวิตนิรันดร์” และเป็นเรื่องแน่นอนว่าจะหาถ้อยคำแบบนั้นในปัจจุบันจากบาบิโลนใหญ่ จักรวรรดิโลกแห่งศาสนาเท็จ ก็ไม่มีเช่นกัน. สำหรับใครก็ตามที่หลงหายไปจากฝูงแกะของพระเจ้าแต่อยากเป็นที่พอพระทัยพระยะโฮวา “เวลานี้เป็นเวลาที่ควรจะตื่นจากหลับได้แล้ว” และกลับสู่คอก.—โรม 13:11.
2. ควรจำอะไรไว้เกี่ยวกับเรื่องที่เป็นความลับหรือเรื่องการตัดสินความ?
2 พระยะโฮวาทรงแสดงความห่วงใยต่อชาติอิสราเอลซึ่งเป็นแกะที่หลงหาย. (อ่านยะเอศเคล 34:15, 16.) คล้ายกัน ผู้ปกครองคริสเตียนมีความปรารถนาและมีหน้าที่ช่วยคนที่เป็นเหมือนแกะซึ่งหลงหายไป. หากพวกเขามอบหมายผู้ประกาศคนหนึ่งให้ไปนำการศึกษากับพี่น้องที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณซึ่งต้องการได้รับความช่วยเหลือ ผู้นำการศึกษาควรทำอะไรถ้าเขารู้ว่าพี่น้องคนนั้นได้ทำผิดร้ายแรง? แทนที่จะให้คำแนะนำในเรื่องการตัดสินความหรือเรื่องที่เป็นความลับ ผู้ประกาศคนนั้นควรแนะนำให้เขาไปพูดกับผู้ปกครอง. หากเขาไม่ทำตามที่แนะนำ ผู้ประกาศควรแจ้งเรื่องนั้นแก่ผู้ปกครองเอง.—เลวี. 5:1; กลา. 6:1.
3. ชายซึ่งมีแกะ 100 ตัวแสดงปฏิกิริยาอย่างไรเมื่อพบแกะตัวหนึ่งที่หายไป?
ลูกา 15:4-7) เรามีความยินดีคล้าย ๆ กันเมื่อคนที่หลงหายไปจากฝูงแกะของพระเจ้ากลับมา. โดยถูกกระตุ้นจากความรัก ผู้ปกครองและสมาชิกคนอื่น ๆ ของประชาคมคงได้ไปเยี่ยมพี่น้องที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณ. พวกเขาก็เช่นเดียวกันต้องการเห็นคนนั้นกลับสู่คอก และได้รับการสนับสนุน, การปกป้อง, และพระพรของพระเจ้า. (บัญ. 33:27; เพลง. 91:14; สุภา. 10:22) หากพวกเขามีโอกาสช่วยบางคนให้กลับสู่ประชาคม พวกเขาจะทำอะไรได้บ้าง?
3 บทความที่แล้วกล่าวถึงตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูเรื่องชายคนหนึ่งที่มีแกะ 100 ตัว. เมื่อแกะตัวหนึ่งหายไปจากคอก เขาก็ละแกะ 99 ตัวไว้แล้วไปเสาะหาแกะที่หายไป. ชายผู้นี้ยินดีสักเพียงไรเมื่อเขาพบแกะตัวนั้น! (4. มีอะไรที่อาจจะสังเกตได้จากกาลาเทีย 6:2, 5?
4 บางทีพวกเขาสามารถสนับสนุนคนนั้นให้กลับสู่ประชาคมโดยบอกเขาอย่างกรุณาว่าพระยะโฮวาทรงรักแกะของพระองค์ และทรงประสงค์เพียงแค่ให้เราทำสิ่งที่เราทำได้เท่านั้น. สิ่งที่พระองค์ประสงค์ให้เราทำรวมถึงการศึกษาพระคัมภีร์, การเข้าร่วมการประชุมคริสเตียน, และการประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักร. อาจเหมาะที่จะอ่านกาลาเทีย 6:2, 5 และกล่าวว่าคริสเตียนสามารถช่วยแบกภาระหนักของกันและกัน แต่ว่า “แต่ละคนจะต้องแบกภาระของตนเอง” ในส่วนที่เป็นหน้าที่รับผิดชอบต่อพระยะโฮวา. ไม่มีใครสามารถซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าแทนเราได้.
“ความวิตกกังวลกับชีวิต” เป็นสาเหตุไหม?
5, 6. (ก) เหตุใดจึงสำคัญที่เราจะตั้งใจฟังเมื่อเพื่อนร่วมความเชื่อซึ่งเลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณแสดงความรู้สึกของเขา? (ข) คุณอาจช่วยคนที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณได้โดยวิธีใดให้เห็นว่าการเลิกคบหากับประชาชนของพระเจ้าทำให้เกิดผลเสียหายต่อเขา?
5 เพื่อจะรู้วิธีช่วยเพื่อนร่วมความเชื่อที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณ ผู้ปกครองและผู้ประกาศที่อาวุโสฝ่ายวิญญาณคนอื่น ๆ ต้องตั้งใจฟังเมื่อพี่น้องคนนั้นแสดงความรู้สึกของเขา. สมมุติว่าคุณเป็นผู้ปกครองที่ไปเยี่ยมคู่สมรสที่หายหน้าไปจากประชาคมเพราะ “ความวิตกกังวลกับชีวิต.” (ลูกา 21:34) ปัญหาด้านการเงินหรือความรับผิดชอบในครอบครัวที่เพิ่มขึ้นอาจทำให้ทั้งสองค่อย ๆ เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณ. เขาอาจคิดว่าเขาจำเป็นต้องพักบ้าง แต่คุณอาจชี้ให้เห็นว่าการแยกตัวอยู่ต่างหากไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น. (อ่านสุภาษิต 18:1.) คุณอาจถามเขาอย่างผ่อนหนักผ่อนเบาว่า “คุณมีความสุขมากขึ้นหรือเปล่าตั้งแต่เลิกไปประชุม? ชีวิตครอบครัวคุณดีขึ้นไหม? คุณยังคงมีความยินดีที่เกิดจากการหมายพึ่งพระยะโฮวาอยู่ไหม?”—นเฮม. 8:10.
6 การใคร่ครวญคำถามเช่นนั้นอาจช่วยคนที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณเห็นว่า เพราะเขาไม่ได้คบหากับประชาคมสภาพฝ่ายวิญญาณของเขาจึงย่ำแย่และความสุขก็หดหาย. (มัด. 5:3; ฮีบรู 10:24, 25) อาจเป็นไปได้ที่จะช่วยเขาตระหนักว่าการที่เขาไม่ประกาศข่าวดีทำให้เขาขาด ความยินดี. (มัด. 28:19, 20) ถ้าอย่างนั้น แนวทางอันสุขุมที่เขาควรทำคืออะไร?
7. เราอาจสนับสนุนคนที่หลงหายไปจากประชาคมให้ทำอะไร?
7 พระเยซูตรัสว่า “จงระวังตัวให้ดีเพื่อว่าใจของเจ้าจะไม่หมกมุ่นอยู่กับการกินมากเกินไป การดื่มจัด และความวิตกกังวลกับชีวิต . . . ฉะนั้น จงเฝ้าระวังและทูลวิงวอนอยู่เสมอเพื่อเจ้าทั้งหลายจะหนีพ้นสิ่งทั้งปวงนี้ซึ่งจะต้องเกิดขึ้น.” (ลูกา 21:34-36) เราสามารถสนับสนุนคนที่หลงหายไปจากประชาคมแต่ต้องการกลับมามีความสุขเหมือนเดิมอีกครั้งให้อธิษฐานขอพระวิญญาณบริสุทธิ์และความช่วยเหลือจากพระเจ้า แล้วก็ลงมือทำสอดคล้องกับคำอธิษฐานของเขา.—ลูกา 11:13.
พวกเขาสะดุดไหม?
8, 9. ผู้ปกครองอาจช่วยคนที่สะดุดให้หาเหตุผลอย่างไร?
8 เนื่องจากมนุษย์เราไม่สมบูรณ์ จึงอาจเกิดข้อขัดแย้งด้านบุคลิกภาพ และนั่นอาจทำให้บางคนสะดุด. บางคนสะดุดเมื่อคนที่ได้รับความนับถือในประชาคมทำบางสิ่งที่ขัดกับหลักการในคัมภีร์ไบเบิล. ถ้าคนที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณสะดุดแบบนี้ ผู้ปกครองที่ไปเยี่ยมอาจชี้ว่าพระยะโฮวาไม่ได้ทำให้ใครสะดุด. ในเมื่อเป็นอย่างนั้น ทำไมจึงไปตัดความสัมพันธ์กับพระเจ้าและกับประชาชนของพระองค์ล่ะ? แทนที่จะทำอย่างนั้น คนเราควรรับใช้พระเจ้าต่อไป ด้วยความมั่นใจว่า “ผู้พิพากษาทั้งโลก” ทรงรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นและจะจัดการเรื่องต่าง ๆ ในวิธีที่เหมาะสมมิใช่หรือ? (เย. 18:25; โกโล. 3:23-25) ถ้าใครคนหนึ่งเดินสะดุดและล้มลง เขาคงไม่จงใจนอนอยู่อย่างนั้นโดยไม่พยายามลุกขึ้น.
9 ผู้ปกครองอาจพยายามช่วยคนเหล่านั้นให้กลับมาโดยพูดว่า เมื่อเวลาผ่านไปบางคนพบว่าสิ่งที่เคยทำให้เขาสะดุดไม่ใช่เรื่องสำคัญจริง ๆ อีกต่อไป. ที่จริง สิ่งที่ทำให้เขาสะดุดนั้นอาจไม่มีอีกต่อไปแล้ว. ถ้าคนนั้นสะดุดเพราะเขาถูกตีสอน การใคร่ครวญพร้อมกับการอธิษฐานอาจทำให้เขาได้ข้อสรุปว่าอย่างน้อยเขาเองก็มีความผิดอยู่บ้าง และไม่ควรปล่อยให้การตีสอนนั้นทำให้เขาสะดุด.—เพลง. 119:165; ฮีบรู 12:5-13.
เป็นเพราะมีปัญหากับคำสอนบางอย่างไหม?
10, 11. การหาเหตุผลแบบใดที่อาจได้ผลในการพยายามช่วยคนที่มีความเข้าใจต่างออกไปในเรื่องคำสอนของคัมภีร์ไบเบิล?
10 บางคนอาจออกไปจากฝูงแกะของพระเจ้าเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับคำสอนบางอย่างในพระคัมภีร์. ชาวอิสราเอลที่เป็นอิสระจากการเป็นทาสของชาวอียิปต์ “ลืมพระราชกิจของ [พระเจ้า]” ที่ทรงทำเพื่อพวกเขา และ “ไม่ได้คอยฟังคำเตือนสติของพระองค์.” (เพลง. 106:13) อาจเป็นประโยชน์ที่จะเตือนพี่น้องที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณให้นึกถึงข้อเท็จจริงที่ว่า “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม” กำลังจ่ายแจกอาหารฝ่ายวิญญาณที่ดีเยี่ยม. (มัด. 24:45) นั่นคือวิธีที่เขาเรียนรู้ความจริงในตอนแรก. ดังนั้น เขาน่าจะตั้งใจดำเนินในความจริงอีกครั้งหนึ่งมิใช่หรือ?—2 โย. 4.
11 เมื่อพยายามช่วยคนที่หลงหายไปจากฝูงแกะของพระเจ้า ผู้ปกครองอาจอ้างถึงเหล่าสาวกที่ละทิ้งพระเยซูเนื่องจากไม่ยอมรับคำสอนอย่างหนึ่งของพระองค์. (โย. 6:53, 66) ด้วยการตัดขาดสายสัมพันธ์กับพระคริสต์และกับสาวกที่ซื่อสัตย์ของพระองค์ พวกเขาสูญเสียความสำนึกขอบคุณต่อสิ่งฝ่ายวิญญาณและขาดความยินดี. คนที่เลิกคบหากับประชาคมคริสเตียนได้พบแหล่งอื่นที่มีอาหารฝ่ายวิญญาณอย่างบริบูรณ์ไหม? ไม่ เพราะไม่มีที่อย่างนั้นนอกประชาคมคริสเตียน!
เป็นเพราะทำผิดไหม?
12, 13. ถ้าคนที่หลงหายไปจากฝูงแกะของพระเจ้ายอมรับว่าเขาได้ทำผิดร้ายแรง อาจช่วยเขาได้โดยวิธีใด?
12 บางคนเลิกมาประชุมและเลิกประกาศเพราะเขาทำผิดร้ายแรง. เขาอาจคิดว่าถ้าสารภาพความผิดกับผู้ปกครอง เขาจะถูกตัดสัมพันธ์. แต่ที่จริงเขาจะไม่ถูกขับออกจากประชาคมถ้าเขาเลิกทำผิดหลักการพระคัมภีร์และกลับใจอย่างแท้จริง. (2 โค. 7:10, 11) แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เขาจะได้รับการต้อนรับเมื่อกลับมา และผู้ปกครองจะให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่เขา.
13 ถ้าคุณเป็นผู้ประกาศที่อาวุโสฝ่ายวิญญาณซึ่งได้รับมอบหมายให้ช่วยคนที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณ คุณควรทำอะไรถ้าเขาบอกคุณว่าเขาได้ทำอะไรบางอย่างที่เลวีติโก 5:1, ล.ม. *) ผู้ปกครองรู้วิธีที่จะช่วยคนที่ปรารถนาจะกลับมาและดำเนินชีวิตสอดคล้องกับพระทัยประสงค์ของพระเจ้า. อาจจำเป็นต้องตีสอนเขาด้วยความรัก. (ฮีบรู 12:7-11) ถ้าคนนั้นยอมรับว่าเขาได้ทำผิดต่อพระเจ้า, เลิกทำผิด, และกลับใจอย่างแท้จริง ผู้ปกครองก็จะช่วยเขาให้ได้รับการอภัยจากพระยะโฮวา.—ยซา. 1:18; 55:7; ยโก. 5:13-16.
เป็นความผิดร้ายแรง? ดังได้กล่าวไปแล้ว แทนที่จะเข้าไปยุ่งกับเรื่องนั้น จงแนะนำให้เขาเข้าหาผู้ปกครอง. ถ้าเขาไม่ยอมทำ คุณก็จะแสดงความเป็นห่วงชื่อเสียงของพระยะโฮวาและสวัสดิภาพฝ่ายวิญญาณของประชาคมด้วยการทำตามคำแนะนำของพระเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้. (อ่านยินดีเมื่อบุตรชายกลับมา
14. จงเล่าตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูเรื่องบุตรสุรุ่ยสุร่ายโดยใช้สำนวนของคุณเอง.
14 เมื่อพยายามช่วยแกะที่หลงหาย คนที่ได้รับมอบหมายให้ช่วยอาจกล่าวถึงตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูดังบันทึกไว้ที่ลูกา 15:11-24. ในตัวอย่างเปรียบเทียบนั้น ชายหนุ่มคนหนึ่งผลาญเงินมรดกที่ได้มาด้วยการใช้ชีวิตอย่างเหลวไหล. ในที่สุดเขาก็เริ่มรู้สึกเกลียดการใช้ชีวิตอย่างเสเพลของตัวเอง. ท้องของเขาว่างเปล่า เขาจึงคิดถึงบ้านและตัดสินใจว่าจะกลับบ้าน! ขณะเขายังอยู่แต่ไกล เมื่อบิดาเห็นเขาก็วิ่งไปหา กอดและจูบเขาอย่างนุ่มนวลด้วยความยินดีอย่างยิ่ง. การใคร่ครวญตัวอย่างเปรียบเทียบนี้อาจกระตุ้นคนที่ห่างหายไปจากฝูงแกะของพระเจ้าให้กลับสู่คอก. เนื่องจากในไม่ช้าระบบนี้จะถูกทำลาย เขาควรรีบ ‘กลับบ้าน.’
15. เหตุใดบางคนจึงห่างหายไปจากประชาคม?
15 คนที่ห่างหายไปจากประชาคมส่วนใหญ่แล้วไม่เหมือนบุตรสุรุ่ยสุร่ายเสียทีเดียว. บางคนค่อย ๆ ห่างไปทีละน้อย แบบเดียวกับเรือที่ค่อย ๆ ลอยห่างจากฝั่งอย่างช้า ๆ. บางคนเริ่มวิตกกังวลมากเกินไปด้วยเรื่องต่าง ๆ จนละเลยสิ่งฝ่ายวิญญาณ. ส่วนคนอื่น ๆ สะดุดบางคนที่สมทบกับประชาคม หรือทิ้งประชาคมไปเพราะไม่เห็นด้วยกับคำสอนบางอย่างในพระคัมภีร์. บางคนทำสิ่งที่ขัดกับหลักการในพระคัมภีร์. อย่างไรก็ตาม คำแนะนำที่ให้ไว้ในแต่ละกรณีอาจช่วยคุณให้ช่วยคนที่ทิ้งประชาคมเนื่องด้วยเหตุผลเหล่านี้หรือเหตุผลอื่น ๆ ให้กลับมาก่อนจะสายเกินไป.
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะหลานชาย!”
16-18. (ก) ผู้ปกครองคนหนึ่งได้ช่วยพี่น้องชายที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณไปหลายปีโดยวิธีใด? (ข) เหตุใดพี่น้องชายคนนี้เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณ เขาได้รับความช่วยเหลืออย่างไร และเขาได้รับการต้อนรับอย่างไรจากประชาคม?
16 ผู้ปกครองคริสเตียนคนหนึ่งกล่าวว่า “คณะผู้ปกครองในประชาคมเราพยายามเยี่ยมพี่น้องที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณ. ผมนึกถึงพี่น้องชายคนหนึ่งที่ผมเคยนำการศึกษาและช่วยให้เขาได้เรียนความจริง. เขาเลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณไปประมาณ 25 ปีและพบกับเรื่องที่ยุ่งยากลำบาก
มาก ผมจึงชี้ให้เขาเห็นว่าการใช้หลักการในคัมภีร์ไบเบิลสามารถช่วยเขาอย่างไร. หลังจากนั้นระยะหนึ่ง เขาเริ่มมาประชุมและตอบรับการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นส่วนตัวเพื่อเสริมความตั้งใจที่เขาจะกลับมาหาประชาคม.”17 เหตุใดพี่น้องชายคนนี้จึงเลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณ? เขายอมรับว่า “ผมเริ่มสนใจสิ่งฝ่ายโลกมากกว่าสิ่งฝ่ายวิญญาณ. แล้วผมก็เลิกศึกษา, เลิกประกาศ, และเลิกเข้าร่วมการประชุม. พอมารู้ตัวอีกที ผมก็ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของประชาคมคริสเตียนเสียแล้ว. แต่ผมได้รับความช่วยเหลือให้กลับมาเพราะผู้ปกครองแสดงความสนใจเป็นส่วนตัวอย่างจริงใจต่อผม.” ปัญหาของพี่น้องคนนี้เริ่มลดน้อยลงหลังจากที่เขาตอบรับการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล. เขากล่าวว่า “ผมรู้แล้วว่าสิ่งที่ขาดหายไปในชีวิตผมก็คือความรักและการชี้นำของพระยะโฮวาและองค์การของพระองค์.”
18 พี่น้องชายคนนี้ได้รับการต้อนรับอย่างไรในประชาคม? เขากล่าวว่า “ผมรู้สึกเหมือนกับบุตรสุรุ่ยสุร่ายที่พระเยซูคริสต์ตรัสถึง. ที่จริง พี่น้องหญิงสูงอายุคนหนึ่งที่เคยเห็นผมในประชาคมเมื่อ 30 ปีที่แล้วและยังแข็งแรงดีฝ่ายวิญญาณพูดกับผมว่า ‘ยินดีต้อนรับกลับบ้านนะหลานชาย!’ คำพูดนั้นประทับใจผมอย่างยิ่ง. ผมรู้สึกเหมือนกลับมาอยู่บ้านแล้วจริง ๆ. และผมอยากแสดงความขอบคุณจากใจจริงสำหรับความรัก, ความอบอุ่น, ความอดทน, และความสนใจที่ผู้ปกครองคนนั้นและพี่น้องทั้งประชาคมแสดงต่อผม. ความรักของพวกเขาต่อพระยะโฮวาและต่อเพื่อนบ้านช่วยผมได้มากเลยให้กลับมาหาประชาคม.”
กระตุ้นพวกเขาให้ลงมือทำทันที
19, 20. (ก) คุณจะสนับสนุนคนที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณให้กลับสู่ประชาคมโดยเร็วได้โดยวิธีใด? (ข) คุณจะแสดงให้เขาเห็นได้โดยวิธีใดว่าพระเจ้าไม่ทรงคาดหมายมากเกินไปจากเรา?
19 เรามีชีวิตอยู่ในสมัยสุดท้าย และใกล้จะถึงอวสานของระบบปัจจุบันแล้ว. ดังนั้น จงสนับสนุนคนที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณให้เข้าร่วมการประชุมคริสเตียน. กระตุ้นพวกเขาให้เริ่มเข้าร่วมการประชุมทันที. เตือนพวกเขาว่าซาตานกำลังพยายามทำลายสายสัมพันธ์ของเขากับพระเจ้าและทำให้พวกเขาคิดว่าการทิ้งการนมัสการแท้เป็นการปลดภาระหนักในชีวิต. คุณสามารถยืนยันกับพวกเขาให้มั่นใจว่าการเป็นสาวกที่ซื่อสัตย์ของพระเยซูเท่านั้นที่จะทำให้พวกเขาสดชื่นอย่างแท้จริงได้.—อ่านมัดธาย 11:28-30.
20 จงพูดกับคนที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณให้ระลึกว่าพระเจ้าทรงคาดหมายให้เราทำสิ่งที่เราทำได้. เมื่อมาเรียพี่สาวของลาซะโรถูกวิพากษ์วิจารณ์ที่เธอชโลมพระเยซูด้วยน้ำมันหอมราคาแพงก่อนพระองค์จะสิ้นพระชนม์ไม่นาน พระองค์ตรัสว่า “ปล่อยให้นางทำเถิด. . . . นางทำสิ่งที่นางทำได้.” (มโก. 14:6-8) พระเยซูทรงชมเชยหญิงม่ายยากจนที่ได้บริจาคเงินเพียงน้อยนิดที่พระวิหาร. นางก็ทำสิ่งที่นางทำได้เช่นกัน. (ลูกา 21:1-4) พวกเราส่วนใหญ่สามารถเข้าร่วมการประชุมคริสเตียนและร่วมในงานประกาศเรื่องราชอาณาจักร. ด้วยความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา หลายคนที่ในตอนนี้เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณจะสามารถทำอย่างเดียวกันนี้.
21, 22. คุณสามารถช่วยคนที่กลับมาหาพระยะโฮวาให้มั่นใจในเรื่องใด?
21 หากคนที่เป็นเหมือนแกะซึ่งหลงหายไปรู้สึกไม่กล้าสู้หน้าพี่น้อง คุณอาจชวนให้เขานึกถึงความยินดีที่เกิดขึ้นเมื่อบุตรสุรุ่ยสุร่ายกลับบ้าน. คนที่กลับมาหาประชาคมก่อให้เกิดความยินดีคล้าย ๆ กัน. จงสนับสนุนพวกเขาให้ทำทันทีในการต่อสู้พญามารและเข้ามาใกล้ชิดกับพระเจ้า.—ยโก. 4:7, 8.
22 มีการต้อนรับด้วยความยินดีคอยอยู่สำหรับคนที่จะกลับมาหาพระยะโฮวา. (ทุกข์. 3:40) ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ประสบการณ์ที่พวกเขาเคยรับใช้พระเจ้าในอดีตทำให้พวกเขามีความยินดีอย่างยิ่ง. พระพรมากมายในอนาคตคอยอยู่สำหรับคนที่กลับมาหาประชาคมโดยไม่รีรอ!
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 13 เลวีติโก 5:1 (ล.ม.): “ในกรณีที่คนหนึ่งทำบาปโดยที่เขาได้ยินคนแช่งด่าต่อหน้าธารกำนัล และเขาเป็นพยานหรือได้เห็นหรือได้ทราบเรื่องนั้นแล้วไม่รายงาน เขาต้องให้การสำหรับความผิดของเขา.”
คุณจะตอบอย่างไร?
• คุณอาจช่วยคริสเตียนที่สะดุดและเลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณได้อย่างไร?
• การหาเหตุผลเช่นไรอาจช่วยบางคนที่ทิ้งฝูงแกะของพระเจ้าไปเพราะทัศนะส่วนตัวของเขาเกี่ยวกับคำสอนบางอย่าง?
• อาจช่วยคนที่ยังลังเลให้กลับมาหาประชาคมโดยวิธีใด?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 13]
จงตั้งใจฟังเมื่อเพื่อนร่วมความเชื่อที่เลิกทำกิจกรรมฝ่ายวิญญาณแสดงความรู้สึกของเขา
[ภาพหน้า 15]
การใคร่ครวญตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูเรื่องบุตรสุรุ่ยสุร่ายอาจกระตุ้นบางคนให้กลับมาหาประชาคม