ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คำสอนของพระเยซูส่งเสริมความสุขอย่างไร?

คำสอนของพระเยซูส่งเสริมความสุขอย่างไร?

คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู​ส่ง​เสริม​ความ​สุข​อย่าง​ไร?

“[พระ​เยซู] เสด็จ​ขึ้น​ภูเขา . . . เหล่า​สาวก​ก็​มา​หา​พระองค์ พระองค์​จึง​สอน​พวก​เขา.”—มัด. 5:1, 2.

1, 2. (ก) พระ​เยซู​ตรัส​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​ใน​สภาพการณ์​แบบ​ใด? (ข) พระ​เยซู​ทรง​เริ่ม​คำ​บรรยาย​อย่าง​ไร?

ตอน​นั้น​เป็น​สากล​ศักราช 31. พระ​เยซู​ทรง​หยุด​การ​ประกาศ​ใน​แคว้น​แกลิลี​เอา​ไว้​ก่อน​เพื่อ​เข้า​ร่วม​การ​ฉลอง​ปัศคา​ใน​กรุง​เยรูซาเลม. (โย. 5:1) เมื่อ​กลับ​มา​ที่​แกลิลี พระองค์​ทรง​อธิษฐาน​ตลอด​คืน​เพื่อ​ขอ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระเจ้า​ใน​การ​เลือก​อัครสาวก 12 คน. วัน​ถัด​มา ฝูง​ชน​พา​กัน​มา​รวม​ตัว​กัน​ขณะ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​รักษา​คน​เจ็บ​ป่วย. พระองค์​ทรง​นั่ง​ลง​ที่​ไหล่​เขา​ท่ามกลาง​เหล่า​สาวก​และ​คน​อื่น ๆ แล้ว​สอน​พวก​เขา.—มัด. 4:23–5:2; ลูกา 6:12-19.

2 พระ​เยซู​ทรง​เริ่ม​คำ​บรรยาย—คำ​เทศน์​บน​ภูเขา—โดย​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ความ​สุข​เกิด​จาก​การ​มี​สาย​สัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​พระเจ้า. (อ่าน​มัดธาย 5:1-12.) ความ​สุข​คือ “ความ​สบาย, ความ​สำราญ, ความ​ปราศจาก​โรค.” ความ​สุข​เก้า​ประการ​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​เน้น​เหตุ​ผล​ที่​คริสเตียน​มี​ความ​สุข และ​คำ​ตรัส​ดัง​กล่าว​เป็น​ประโยชน์​ใน​ทุก​วัน​นี้​เช่น​เดียว​กับ​เมื่อ​เกือบ 2,000 ปี​ที่​แล้ว. ต่อ​ไป​นี้ ให้​เรา​พิจารณา​คำ​ตรัส​เหล่า​นั้น​ที​ละ​อย่าง.

“ผู้​ที่​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ”

3. การ​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​หมาย​ถึง​อะไร?

3 “ผู้​ที่​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ก็​มี​ความ​สุข เพราะ​ราชอาณาจักร​สวรรค์​เป็น​ของ​เขา.” (มัด. 5:3) “คน​ที่​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ” ตระหนัก​ว่า​เขา​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​การ​ชี้​นำ​และ​ความ​เมตตา​จาก​พระเจ้า.

4, 5. (ก) เหตุ​ใด​คน​ที่​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​จึง​มี​ความ​สุข? (ข) เรา​จะ​สนอง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ได้​โดย​วิธี​ใด?

4 คน​ที่​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​มี​ความ​สุข “เพราะ​ราชอาณาจักร​สวรรค์​เป็น​ของ​เขา.” การ​ยอม​รับ​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​มาซีฮา​เปิด​โอกาส​ให้​เหล่า​สาวก​รุ่น​แรก​ของ​พระองค์​ได้​ร่วม​ปกครอง​กับ​พระองค์​ใน​ราชอาณาจักร​สวรรค์​ของ​พระเจ้า. (ลูกา 22:28-30) ไม่​ว่า​เรา​เอง​เป็น​ส่วน​ตัว​มี​ความ​หวัง​จะ​เป็น​รัชทายาท​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์​ใน​สวรรค์​หรือ​เรา​คอย​ท่า​จะ​มี​ชีวิต​นิรันดร์​ใน​อุทยาน​บน​แผ่นดิน​โลก​ภาย​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​ราชอาณาจักร เรา​สามารถ​มี​ความ​สุข​ถ้า​เรา​สำนึก​จริง ๆ ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา​และ​สำนึก​เต็ม​ที่​ว่า​เรา​ต้อง​พึ่ง​อาศัย​พระเจ้า.

5 ไม่​ใช่​ทุก​คน​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ เพราะ​หลาย​คน​ขาด​ความ​เชื่อ​และ​ไม่​เห็น​ค่า​สิ่ง​ศักดิ์สิทธิ์. (2 เทส. 3:1, 2; ฮีบรู 12:16) มี​หลาย​วิธี​ที่​เรา​จะ​สนอง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ ซึ่ง​ก็​รวม​ถึง​การ​ขยัน​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล, การ​ร่วม​ใน​งาน​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก​อย่าง​กระตือรือร้น, และ​การ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​คริสเตียน​เป็น​ประจำ.—มัด. 28:19, 20; ฮีบรู 10:23-25.

ผู้​ที่​โศก​เศร้า “มี​ความ​สุข”

6. “ผู้​ที่​โศก​เศร้า” คือ​ใคร และ​เหตุ​ใด​พวก​เขา​จึง “มี​ความ​สุข”?

6 “ผู้​ที่​โศก​เศร้า​ก็​มี​ความ​สุข เพราะ​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​ปลอบโยน.” (มัด. 5:4) “ผู้​ที่​โศก​เศร้า” คือ​คน​ประเภท​เดียว​กับ “คน​ที่​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ.” พวก​เขา​ไม่​โศก​เศร้า​แบบ​คน​ที่​ชอบ​บ่น​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ของ​ตน​เอง. พวก​เขา​โศก​เศร้า​เพราะ​สภาพ​ผิด​บาป​ของ​ตน​เอง​และ​สภาพการณ์​ที่​มี​อยู่​ซึ่ง​สืบ​เนื่อง​มา​จาก​ความ​ไม่​สมบูรณ์​ของ​มนุษย์. เหตุ​ใด​คน​ที่​โศก​เศร้า​เช่น​นั้น​จึง “มี​ความ​สุข”? เพราะ​พวก​เขา​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​และ​พระ​คริสต์​และ​ได้​รับ​การ​ปลอบโยน​จาก​การ​มี​สาย​สัมพันธ์​ที่​ดี​กับ​พระ​ยะโฮวา.—โย. 3:36.

7. เรา​ควร​รู้สึก​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​โลก​ของ​ซาตาน?

7 เรา​เอง​โศก​เศร้า​เพราะ​ความ​ไม่​ชอบธรรม​ที่​มี​อยู่​ดาษ​ดื่น​ใน​โลก​ของ​ซาตาน​ไหม? เรา​รู้สึก​อย่าง​ไร​จริง ๆ ต่อ​สิ่ง​ที่​โลก​นี้​เสนอ​ให้? อัครสาวก​โยฮัน​เขียน​ว่า “ทุก​สิ่ง​ใน​โลก ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ความ​ปรารถนา​ทาง​กาย ความ​ปรารถนา​ทาง​ตา หรือ​การ​โอ้อวด​ทรัพย์​สมบัติ ไม่​ได้​มา​จาก​พระ​บิดา.” (1 โย. 2:16) แต่​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​ถ้า​เรา​รู้สึก​ว่า​สภาพ​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​เรา​กำลัง​ถูก​เซาะกร่อน​จาก “น้ำใจ​ของ​โลก” อัน​ได้​แก่​พลัง​ผลัก​ดัน​ที่​ครอบ​งำ​สังคม​มนุษย์​ที่​เหินห่าง​จาก​พระเจ้า? ถ้า​อย่าง​นั้น ก็​ขอ​ให้​เรา​อธิษฐาน​อย่าง​แรง​กล้า, ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า, และ​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​ผู้​ปกครอง. เมื่อ​เรา​ใกล้​ชิด​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น เรา​ก็​จะ “ได้​รับ​การ​ปลอบโยน” ไม่​ว่า​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เรา​เป็น​ทุกข์​จะ​เป็น​อะไร​ก็​ตาม.—1 โค. 2:12; เพลง. 119:52, ล.ม.; ยโก. 5:14, 15.

“คน​ที่​จิตใจ​อ่อนโยน” ช่าง​มี​ความ​สุข​สัก​เพียง​ไร!

8, 9. การ​เป็น​คน​ที่​จิตใจ​อ่อนโยน​หมาย​ถึง​อะไร และ​เหตุ​ใด​คน​ที่​จิตใจ​อ่อนโยน​จึง​มี​ความ​สุข?

8 “คน​ที่​จิตใจ​อ่อนโยน​ก็​มี​ความ​สุข เพราะ​เขา​จะ​ได้​รับ​แผ่นดิน​โลก​เป็น​มรดก.” (มัด. 5:5) “จิตใจ​ที่​อ่อนโยน” หรือ​ความ​อ่อนน้อม​ไม่​ใช่​ลักษณะ​ที่​แสดง​ถึง​ความ​อ่อนแอ​หรือ​ความ​สุภาพ​แบบ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด. (1 ติโม. 6:11) ถ้า​เรา​มี​จิตใจ​อ่อนโยน เรา​จะ​แสดง​ความ​อ่อนน้อม​โดย​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระ​ยะโฮวา​และ​ยอม​รับ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระองค์. จิตใจ​อ่อนโยน​ยัง​จะ​เห็น​ได้​ชัด​ด้วย​จาก​วิธี​ที่​เรา​ปฏิบัติ​ต่อ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​และ​คน​อื่น ๆ. ความ​อ่อนน้อม​เช่น​นั้น​สอดคล้อง​กับ​คำ​แนะ​นำ​ของ​อัครสาวก​เปาโล.—อ่าน​โรม 12:17-19.

9 เหตุ​ใด​คน​ที่​จิตใจ​อ่อนโยน​จึง​มี​ความ​สุข? ตาม​ที่​พระ​เยซู​ผู้​มี​จิตใจ​อ่อนโยน​ตรัส​ไว้ เพราะ “เขา​จะ​ได้​รับ​แผ่นดิน​โลก​เป็น​มรดก.” พระ​เยซู​ทรง​เป็น​บุคคล​หลัก​ที่​จะ​ได้​รับ​แผ่นดิน​โลก​เป็น​มรดก. (เพลง. 2:8; มัด. 11:29; ฮีบรู 2:8, 9) อย่าง​ไร​ก็​ตาม “ผู้​รับ​มรดก​ร่วม​กับ​พระ​คริสต์” ที่​จิตใจ​อ่อนโยน​ก็​ได้​รับ​แผ่นดิน​โลก​เป็น​มรดก​ด้วย. (โรม 8:16, 17) ใน​อาณา​เขต​ทาง​แผ่นดิน​โลก​ของ​ราชอาณาจักร​ของ​พระ​เยซู คน​อื่น ๆ อีก​เป็น​จำนวน​มาก​ที่​อ่อนน้อม​จะ​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์.—เพลง. 37:10, 11.

10. การ​ขาด​ความ​อ่อนโยน​อาจ​มี​ผล​กระทบ​อย่าง​ไร​ต่อ​สิทธิ​พิเศษ​ใน​การ​รับใช้​และ​สาย​สัมพันธ์​ของ​เรา​กับ​คน​อื่น ๆ?

10 เช่น​เดียว​กับ​พระ​เยซู เรา​ควร​มี​จิตใจ​อ่อนโยน. แต่​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​ถ้า​เรา​มี​แนว​โน้ม​เป็น​คน​ก้าวร้าว​ชอบ​โต้​เถียง? ทัศนคติ​ที่​ก้าวร้าว​และ​ไม่​เป็น​มิตร​เช่น​นั้น​อาจ​ทำ​ให้​คน​อื่น​หลบ​เลี่ยง​เรา. ถ้า​เรา​เป็น​พี่​น้อง​ชาย​ที่​ปรารถนา​จะ​รับ​เอา​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ใน​ประชาคม นิสัย​แบบ​นี้​ทำ​ให้​เรา​ขาด​คุณสมบัติ. (1 ติโม. 3:1, 3) เปาโล​บอก​ทิทุส​ให้​คอย​เตือน​คริสเตียน​ที่​เกาะ​ครีต​ว่า “อย่า​เป็น​คน​ชอบ​ทะเลาะ​วิวาท ให้​มี​เหตุ​ผล แสดง​ความ​อ่อนโยน​ต่อ​ทุก​คน​ให้​มาก ๆ.” (ทิทุส 3:1, 2) ความ​อ่อนโยน​เช่น​นั้น​นับ​เป็น​พระ​พร​จริง ๆ สำหรับ​คน​อื่น ๆ!

เขา​หิว​กระหาย “ความ​ชอบธรรม”

11-13. (ก) ความ​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​หมาย​ถึง​อะไร? (ข) คน​ที่​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม “อิ่ม​หนำ” อย่าง​ไร?

11 “ผู้​ที่​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​ก็​มี​ความ​สุข เพราะ​เขา​จะ​ได้​อิ่ม​หนำ.” (มัด. 5:6) “ความ​ชอบธรรม” ที่​อยู่​ใน​ความ​คิด​ของ​พระ​เยซู​เป็น​คุณลักษณะ​ใน​การ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ด้วย​การ​ปฏิบัติ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​และ​พระ​บัญชา​ของ​พระเจ้า. ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​กล่าว​ว่า​ท่าน “รู้สึก​ปวด​ร้าว​เพราะ​ปรารถนา” คำ​ตัดสิน​อัน​ชอบธรรม​ของ​พระเจ้า. (เพลง. 119:20, ล.ม.) เรา​ถือ​ว่า​ความ​ชอบธรรม​มี​ค่า​สูง​ยิ่ง​ถึง​ขนาด​ที่​เรา​หิว​กระหาย​คุณลักษณะ​นี้​ไหม?

12 พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​คน​ที่​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​จะ​มี​ความ​สุข​เพราะ​เขา​จะ “อิ่ม​หนำ” หรือ​ได้​รับ​การ​สนอง​อย่าง​เต็ม​ที่. เรื่อง​นี้​เป็น​ไป​ได้​หลัง​จาก​วัน​เพนเทคอสต์ ส.ศ. 33 เพราะ​ตอน​นั้น​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา​เริ่ม “แสดง​ให้​โลก​เห็น​ชัด​แจ้ง​ใน​เรื่อง . . . ความ​ชอบธรรม.” (โย. 16:8) โดย​ทาง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ พระเจ้า​ทรง​ดล​ใจ​หลาย​คน​ให้​รวบ​รวม​และ​จัด​ทำ​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก ซึ่ง​เป็น​ประโยชน์​อย่าง​ยิ่ง​เพื่อ “การ​ตี​สอน​ด้วย​ความ​ชอบธรรม.” (2 ติโม. 3:16) พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ยัง​ช่วย​เรา​ให้​สามารถ “สวม​บุคลิกภาพ​ใหม่​ที่​ถูก​สร้าง​ขึ้น​ตาม​ที่​พระเจ้า​ทรง​ประสงค์ ซึ่ง​ประกอบ​ด้วย​ความ​ชอบธรรม . . . ที่​แท้​จริง.” (เอเฟ. 4:24) การ​รู้​ว่า​คน​ที่​กลับ​ใจ​และ​ขอ​อภัยโทษ​บาป​ของ​ตน​โดย​อาศัย​เครื่อง​บูชา​ไถ่​ของ​พระ​เยซู​สามารถ​ได้​ฐานะ​ที่​ชอบธรรม​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระเจ้า​นั้น​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​สบาย​ใจ​มิ​ใช่​หรือ?—อ่าน​โรม 3:23, 24.

13 ถ้า​เรา​มี​ความ​หวัง​ทาง​แผ่นดิน​โลก ความ​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม​จะ​ได้​รับ​การ​สนอง​อย่าง​เต็ม​ที่​เมื่อ​เรา​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์​และ​อยู่​ใน​สภาพ​แวด​ล้อม​ที่​ชอบธรรม​บน​แผ่นดิน​โลก. ระหว่าง​ที่​รอ​อยู่​นี้ ให้​เรา​ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​สอดคล้อง​กับ​มาตรฐาน​ของ​พระ​ยะโฮวา. พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “จง​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​และ​ความ​ชอบธรรม​ของ [พระเจ้า] ก่อน​เสมอ​ไป.” (มัด. 6:33) การ​ทำ​อย่าง​นั้น​จะ​ทำ​ให้​เรา​มี​งาน​ของ​พระเจ้า​เต็ม​มือ​และ​หัวใจ​เรา​จะ​เปี่ยม​ด้วย​ความ​สุข​แท้.—1 โค. 15:58.

เหตุ​ใด “คน​ที่​เมตตา” จึง​มี​ความ​สุข?

14, 15. เรา​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​ได้​โดย​วิธี​ใด และ​เหตุ​ใด “คน​ที่​เมตตา” จึง​มี​ความ​สุข?

14 “คน​ที่​เมตตา​ก็​มี​ความ​สุข เพราะ​เขา​จะ​ได้​รับ​ความ​เมตตา.” (มัด. 5:7) “คน​ที่​เมตตา” ได้​รับ​การ​กระตุ้น​จาก​ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​และ​ความ​สงสาร​ที่​เขา​มี​ต่อ​ผู้​อื่น. พระ​เยซู​ทรง​ทำ​การ​อัศจรรย์​เพื่อ​ช่วย​บรรเทา​ทุกข์​ของ​หลาย​คน​เพราะ​พระองค์​ทรง​สงสาร​พวก​เขา. (มัด. 14:14) ใน​เรื่อง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ตัดสิน ความ​เมตตา​ปรากฏ​ชัด​เมื่อ​คน​เรา​ให้​อภัย​คน​ที่​ทำ​ผิด​ต่อ​เขา เช่น​เดียว​กับ​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เมตตา​ให้​อภัย​คน​ที่​กลับ​ใจ. (เอ็ก. 34:6, 7; เพลง. 103:10) เรา​สามารถ​แสดง​ความ​เมตตา​ด้วย​วิธี​นี้ รวม​ถึง​ด้วย​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ​ที่​กรุณา​ซึ่ง​ช่วย​บรรเทา​ทุกข์​แก่​ผู้​ด้อย​โอกาส. วิธี​หนึ่ง​ที่​ดี​ใน​การ​แสดง​ความ​เมตตา​คือ​การ​บอก​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​คน​อื่น ๆ. เพราะ​ถูก​กระตุ้น​จาก​ความ​สงสาร​ฝูง​ชน พระ​เยซู “ทรง​สอน​พวก​เขา​หลาย​เรื่อง.”—มโก. 6:34.

15 เรา​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​เห็น​ด้วย​กับ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า “คน​ที่​เมตตา​ก็​มี​ความ​สุข เพราะ​เขา​จะ​ได้​รับ​ความ​เมตตา.” หาก​เรา​ปฏิบัติ​ต่อ​คน​อื่น​ด้วย​ความ​เมตตา พวก​เขา​ก็​มัก​จะ​ปฏิบัติ​อย่าง​เดียว​กัน​ต่อ​เรา. เรา​อาจ​พบ​ว่า​ความ​เมตตา​ที่​เรา​แสดง​ต่อ​คน​อื่น ๆ ช่วย​เรา​ให้​ได้​รับ​การ​ยก​เว้น​โทษ​จาก​พระเจ้า​เมื่อ​พระองค์​ทรง​พิพากษา​เรา. (ยโก. 2:13) การ​ให้​อภัย​บาป​และ​ชีวิต​นิรันดร์​มี​ให้​เฉพาะ​คน​ที่​เมตตา​เท่า​นั้น.—มัด. 6:15.

เหตุ​ใด “คน​ที่​ใจ​บริสุทธิ์” จึง​มี​ความ​สุข?

16. การ​มี“ใจ​บริสุทธิ์” หมาย​ถึง​อะไร และ​คน​ที่​มี​คุณลักษณะ​นี้ “เห็น​พระเจ้า” อย่าง​ไร?

16 “คน​ที่​ใจ​บริสุทธิ์​ก็​มี​ความ​สุข เพราะ​เขา​จะ​เห็น​พระเจ้า.” (มัด. 5:8) ถ้า​เรา​มี “ใจ​บริสุทธิ์” ความ​รัก, ความ​ปรารถนา, และ​แรง​กระตุ้น​ของ​เรา​จะ​บริสุทธิ์. เรา​จะ​แสดง “ความ​รัก​อย่าง​บริสุทธิ์​ใจ.” (1 ติโม. 1:5) เนื่อง​จาก​เรา​สะอาด​ภาย​ใน เรา​จะ “เห็น​พระเจ้า.” นี่​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​เรา​จะ​เห็น​พระ​ยะโฮวา​จริง ๆ เพราะ “ไม่​มี​มนุษย์​ผู้​ใด​ที่​ได้​เห็น​หน้า​ของ [พระเจ้า] แล้ว​และ​ยัง​จะ​มี​ชีวิต​อยู่​ได้.” (เอ็ก. 33:20) แต่​เนื่อง​จาก​พระ​เยซู​ทรง​สะท้อน​บุคลิกภาพ​ของ​พระเจ้า​อย่าง​สมบูรณ์​แบบ พระองค์​จึง​สามารถ​ตรัส​ว่า “ผู้​ที่​ได้​เห็น​เรา​ก็​ได้​เห็น​พระ​บิดา​ด้วย.” (โย. 14:7-9) ใน​ฐานะ​ผู้​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​บน​แผ่นดิน​โลก เรา​สามารถ “เห็น​พระเจ้า” ด้วย​การ​สังเกต​ดู​ว่า​พระองค์​ทรง​ทำ​อะไร​เพื่อ​ประโยชน์​ของ​เรา. (โยบ 42:5) สำหรับ​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม การ​เห็น​พระเจ้า​ถึง​จุด​สุด​ยอด​เมื่อ​พวก​เขา​ถูก​ปลุก​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​สู่​ชีวิต​ที่​เป็น​กาย​วิญญาณ​และ​ได้​เห็น​พระ​บิดา​ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์​จริง ๆ.— 1 โย. 3:2.

17. การ​มี​ใจ​บริสุทธิ์​จะ​ส่ง​ผล​อย่าง​ไร​ต่อ​เรา?

17 เนื่อง​จาก​คน​ที่​ใจ​บริสุทธิ์​จะ​สะอาด​ด้าน​ศีลธรรม​และ​ฝ่าย​วิญญาณ เขา​จึง​ไม่​หมกมุ่น​ครุ่น​คิด​เรื่อง​ที่​ไม่​สะอาด​ใน​สาย​พระ​เนตร​พระ​ยะโฮวา. (1 โคร. 28:9; ยซา. 52:11) หาก​เรา​เป็น​คน​ที่​ใจ​บริสุทธิ์ สิ่ง​ที่​เรา​พูด​และ​ทำ​จะ​บริสุทธิ์ และ​การ​รับใช้​ที่​เรา​ถวาย​พระ​ยะโฮวา​จะ​ไม่​เป็น​แบบ​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด​เลย.

“ผู้​ที่​สร้าง​สันติ” ได้​มา​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า

18, 19. “ผู้​ที่​สร้าง​สันติ” ประพฤติ​ตัว​อย่าง​ไร?

18 “ผู้​ที่​สร้าง​สันติ​ก็​มี​ความ​สุข เพราะ​เขา​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า ‘บุตร​ของ​พระเจ้า.’ ” (มัด. 5:9) ใคร​เป็น “ผู้​ที่​สร้าง​สันติ” ดู​ได้​จาก​สิ่ง​ที่​เขา​ทำ​และ​สิ่ง​ที่​เขา​จะ​ไม่​ทำ. ถ้า​เรา​เป็น​คน​แบบ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​คิด​และ​ตรัส​ถึง เรา​จะ​รัก​สันติ​และ​ไม่ “ทำ​การ​ชั่ว​ตอบ​แทน​การ​ชั่ว​ต่อ​ผู้​ใด.” ตรง​กัน​ข้าม เรา ‘พยายาม​ทำ​ดี​ต่อ​คน​อื่น​เสมอ.’—1 เทส. 5:15.

19 เพื่อ​จะ​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​บรรดา​ผู้​ที่​สร้าง​สันติ เรา​ต้อง​ส่ง​เสริม​สันติ​สุข​อย่าง​ขันแข็ง. ผู้​สร้าง​สันติ​ไม่​ทำ​สิ่ง​ใด​ก็​ตาม​ที่ “กระทำ​ให้​มิตร​สนิท​แตก​แยก​กัน.” (สุภา. 16:28) ใน​ฐานะ​ผู้​ที่​สร้าง​สันติ เรา​ลง​มือ​ทำ​ใน​แง่​บวก​เพื่อ “พยายาม​มี​สันติ​สุข​กับ​คน​ทั้ง​ปวง.”—ฮีบรู 12:14.

20. ตอน​นี้​ใคร​เป็น “บุตร​ของ​พระเจ้า” และ​จะ​มี​ใคร​อีก​ซึ่ง​ใน​ที่​สุด​จะ​กลาย​เป็น​บุตร​หลาน​ของ​พระเจ้า​ด้วย?

20 คน​ที่​สร้าง​สันติ​มี​ความ​สุข​เพราะ “เขา​จะ​ได้​ชื่อ​ว่า ‘บุตร​ของ​พระเจ้า.’ ” พระ​ยะโฮวา​ทรง​รับ​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​ซื่อ​สัตย์​ไว้​แล้ว​ให้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ใน​ครอบครัว​ของ​พระองค์ และ​พวก​เขา​เป็น “บุตร​ของ​พระเจ้า.” พวก​เขา​มี​สาย​สัมพันธ์​อัน​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​ใน​ฐานะ​บุตร​อยู่​แล้ว​เพราะ​พวก​เขา​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​คริสต์​และ​นมัสการ “พระเจ้า​แห่ง​ความ​รัก​และ​สันติ​สุข” อย่าง​สุด​หัวใจ. (2 โค. 13:11; โย. 1:12) จะ​ว่า​อย่าง​ไร​สำหรับ​ผู้​รัก​สันติ​ที่​เป็น “แกะ​อื่น” ของ​พระ​เยซู? พวก​เขา​จะ​มี​พระ​เยซู​เป็น “พระ​บิดา​องค์​ถาวร” ใน​ช่วง​รัชสมัย​พัน​ปี แต่​เมื่อ​สิ้น​สุด​พัน​ปี​พระองค์​จะ​ยอม​อยู่​ใต้​อำนาจ​พระ​ยะโฮวา​และ​พวก​เขา​จะ​กลาย​เป็น​บุตร​ของ​พระเจ้า​ใน​ความ​หมาย​ที่​ครบ​ถ้วน.—โย. 10:16; ยซา. 9:6; โรม 8:21; 1 โค. 15:27, 28.

21. เรา​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ถ้า​เรา “ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​การ​ทรง​นำ​จาก​พระ​วิญญาณ”?

21 ถ้า​เรา “ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​การ​ทรง​นำ​จาก​พระ​วิญญาณ” คน​อื่น​ก็​จะ​เห็น​ได้​ไม่​ยาก​ว่า​ความ​รัก​สันติ​เป็น​คุณลักษณะ​อย่าง​หนึ่ง​ของ​เรา. เรา​จะ​ไม่ “ยั่ว​ยุ​ให้​มี​การ​แข่งขัน​ชิง​ดี​กัน” หรือ “ยั่ว​โทสะ​กัน.” (กลา. 5:22-26, ฉบับ R​73) แทน​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น เรา​พยายาม “อยู่​อย่าง​สันติ​กับ​คน​ทั้ง​ปวง.”—โรม 12:18.

มี​ความ​สุข​แม้​ถูก​ข่มเหง!

22-24. (ก) คน​ที่​ถูก​ข่มเหง​เพราะ​เห็น​แก่​ความ​ชอบธรรม​มี​ความ​สุข​เพราะ​อะไร? (ข) เรา​จะ​พิจารณา​อะไร​ใน​บทความ​ศึกษา​สอง​เรื่อง​ถัด​ไป?

22 “ผู้​ที่​ถูก​ข่มเหง​เพราะ​เห็น​แก่​ความ​ชอบธรรม​ก็​มี​ความ​สุข เพราะ​ราชอาณาจักร​สวรรค์​เป็น​ของ​เขา.” (มัด. 5:10) เพื่อ​ขยาย​จุด​นี้ พระ​เยซู​ตรัส​อีก​ว่า “เจ้า​ทั้ง​หลาย​มี​ความ​สุข​เมื่อ​ผู้​คน​ติเตียน​และ​ข่มเหง​พวก​เจ้า​และ​พูด​มุสา​เรื่อง​ชั่ว​ร้าย​สารพัด​อย่าง​ต่อ​ต้าน​พวก​เจ้า​เพราะ​เรา. จง​ปลาบปลื้ม​ยินดี​เพราะ​บำเหน็จ​ของ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​มี​มาก​มาย​ใน​สวรรค์ ด้วย​ว่า​พวก​เขา​ก็​ได้​ข่มเหง​เหล่า​ผู้​พยากรณ์​ที่​อยู่​ก่อน​พวก​เจ้า​อย่าง​นั้น​แหละ.”มัด. 5:11, 12.

23 เช่น​เดียว​กับ​ผู้​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า​ใน​สมัย​โบราณ คริสเตียน​คาด​หมาย​ว่า​พวก​เขา​จะ​ถูก​ติเตียน, ข่มเหง, และ​มุสา​เรื่อง​ชั่ว​ร้าย—ทั้ง​หมด​นี้ “เพราะ​เห็น​แก่​ความ​ชอบธรรม.” แต่​โดย​อด​ทน​การ​ทดสอบ​เช่น​นั้น​และ​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์ เรา​อิ่ม​ใจ​ที่​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​พอ​พระทัย​และ​ทำ​ให้​พระองค์​ได้​รับ​เกียรติ. (1 เป. 2:19-21) ปัญหา​ที่​เรา​ทน​อยู่​ไม่​อาจ​บั่น​ทอน​ความ​ยินดี​ของ​เรา​ใน​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ใน​เวลา​นี้​หรือ​ใน​อนาคต. ปัญหา​เหล่า​นั้น​ไม่​อาจ​ลด​ทอน​ความ​สุข​ที่​จะ​ได้​ร่วม​ปกครอง​กับ​พระ​คริสต์​ใน​ราชอาณาจักร​สวรรค์​หรือ​ความ​ยินดี​ที่​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์​ใน​ฐานะ​ราษฎร​บน​แผ่นดิน​โลก​ของ​รัฐบาล​นั้น. พระ​พร​เช่น​นั้น​เป็น​หลักฐาน​แสดง​ถึง​ความ​โปรดปราน, ความ​เมตตา, และ​ความ​เอื้อเฟื้อ​ของ​พระเจ้า.

24 ยัง​มี​อีก​หลาย​สิ่ง​ที่​จะ​เรียน​รู้​ได้​จาก​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา. จะ​มี​การ​พิจารณา​บทเรียน​หลาย​อย่าง​ใน​บทความ​ศึกษา​สอง​เรื่อง​ถัด​ไป. ให้​เรา​พิจารณา​ดู​ว่า​เรา​จะ​ใช้​คำ​สอน​เหล่า​นั้น​ของ​พระ​เยซู​คริสต์​อย่าง​ไร.

คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร?

• เหตุ​ใด “ผู้​ที่​สำนึก​ถึง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ” จึง​มี​ความ​สุข?

• อะไร​ทำ​ให้ “คน​ที่​จิตใจ​อ่อนโยน” มี​ความ​สุข?

• เหตุ​ใด​คริสเตียน​มี​ความ​สุข​แม้​ถูก​ข่มเหง?

• คุณ​ประทับใจ​ความ​สุข​ประการ​ใด​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 7]

ความ​สุข​เก้า​ประการ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​เน้น​เป็น​ประโยชน์​ใน​ปัจจุบัน​เช่น​เดียว​กับ​ใน​สมัย​ของ​พระองค์

[ภาพ​หน้า 8]

วิธี​ที่​ดี​วิธี​หนึ่ง​ใน​การ​แสดง​ความ​เมตตา​คือ​การ​บอก​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​คน​อื่น ๆ