โยบเชิดชูพระนามพระยะโฮวา
โยบเชิดชูพระนามพระยะโฮวา
“จงสรรเสริญพระนามของพระยะโฮวาเถิด.”—โยบ 1:21
1. ดูเหมือนว่าใครเป็นคนเขียนหนังสือโยบ และเขียนเมื่อไร?
โมเซอายุได้ประมาณ 40 ปีตอนที่ท่านหนีจากอียิปต์เพื่อหลบให้พ้นความกริ้วของฟาโรห์ ไปอาศัยในแผ่นดินมิดยาน. (กิจ. 7:23) ระหว่างที่อาศัยในดินแดนนั้น ท่านอาจได้ยินเรื่องการทดสอบที่เกิดขึ้นกับโยบ ซึ่งอาศัยในเมืองอูดที่อยู่ใกล้ ๆ กัน. หลายปีต่อมา เมื่อโมเซและชาติอิสราเอลมาอยู่ใกล้ ๆ กับเมืองอูดในช่วงท้าย ๆ ของการเดินทางในถิ่นทุรกันดาร โมเซอาจได้รับทราบเรื่องราวในช่วงบั้นปลายชีวิตของโยบ. ตามเรื่องราวที่เล่าสืบปากกันมาในหมู่ชาวยิว โมเซเขียนหนังสือโยบช่วงใดช่วงหนึ่งหลังจากที่โยบเสียชีวิตแล้ว.
2. หนังสือโยบให้กำลังใจผู้รับใช้ของพระยะโฮวาในสมัยปัจจุบันอย่างไร?
2 หนังสือโยบเสริมความเชื่อของผู้รับใช้พระเจ้าในสมัยปัจจุบัน. โดยวิธีใด? เรื่องราวในหนังสือนี้ช่วยเราให้เข้าใจเหตุการณ์ที่สำคัญมากซึ่งเกิดขึ้นในสวรรค์ และเน้นประเด็นที่สำคัญเหนือประเด็นอื่นใดเกี่ยวกับสิทธิปกครองของพระเจ้าเหนือสิ่งทรงสร้างทั้งสิ้น. บันทึกในหนังสือโยบยังช่วยเราเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นด้วยว่าการรักษาความซื่อสัตย์มั่นคงหมายรวมถึงอะไร และช่วยเราให้เข้าใจว่าทำไมบางครั้งพระยะโฮวาทรงยอมให้ผู้รับใช้ของพระองค์ทนทุกข์. นอกจากนั้น หนังสือโยบยังระบุตัวซาตานพญามารว่าเป็นศัตรูตัวสำคัญของพระยะโฮวาและเป็นศัตรูของมนุษย์ทั้งสิ้น. หนังสือนี้ยังแสดงด้วยว่ามนุษย์ไม่สมบูรณ์อย่างโยบสามารถรักษาความภักดีต่อพระยะโฮวาได้แม้ว่าถูกทดสอบอย่างรุนแรง. ให้เรามาพิจารณาเหตุการณ์บางอย่างที่มีบอกไว้ในหนังสือโยบ.
โยบถูกซาตานทดสอบ
3. เรารู้อะไรบ้างเกี่ยวกับโยบ และเหตุใดซาตานจึงมุ่งโจมตีท่าน?
3 โยบเป็นคนมั่งคั่งและมีอิทธิพล และเป็นหัวหน้าครอบครัวที่มีศีลธรรมดี. ดูเหมือนว่าท่านเป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ได้รับความนับถืออย่างสูง และพร้อมจะช่วยเหลือคนจน. ที่สำคัญที่สุด โยบเกรงกลัวพระเจ้า. มีคำพรรณนาว่าโยบเป็นคน “ดีรอบคอบและชอบธรรม, เป็นผู้ยำเกรงพระเจ้าและหลบหลีกจากความชั่ว.” การที่โยบตกเป็นเป้าโจมตีของซาตานพญามารนั้นไม่ใช่เพราะความมั่งคั่งและอิทธิพลของท่าน แต่เป็นเพราะท่านเลื่อมใสในพระเจ้า.—โยบ 1:1; 29:7-16; 31:1
4. ความซื่อสัตย์มั่นคงคืออะไร?
4 ส่วนคำนำของหนังสือโยบพรรณนาถึงการประชุมในสวรรค์ซึ่งเหล่าทูตสวรรค์ได้มาเข้าเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระยะโฮวา. ซาตานก็มาอยู่ที่นั่นด้วย และมันกล่าวหาโยบ. (อ่านโยบ 1:6-11) แม้ซาตานเอ่ยถึงทรัพย์สมบัติของโยบ มันมุ่งสนใจจะตั้งข้อสงสัยในเรื่องความซื่อสัตย์มั่นคงของโยบ. คำ “ความซื่อสัตย์มั่นคง” สื่อแนวคิดเกี่ยวกับความซื่อตรง, ไม่มีที่ติ, ชอบธรรม, และไม่มีข้อบกพร่อง. ตามที่ใช้ในคัมภีร์ไบเบิล ความซื่อสัตย์มั่นคงของมนุษย์บ่งบอกถึงความเลื่อมใสในพระยะโฮวาอย่างเต็มที่.
5. ซาตานอ้างอะไรเกี่ยวกับโยบ?
5 ซาตานอ้างว่าโยบนมัสการพระเจ้าเพราะความเห็นแก่ตัว ไม่ใช่เพราะความซื่อสัตย์มั่นคง. ซาตานกล่าวหาว่าโยบจะภักดีต่อพระยะโฮวาตราบเท่าที่พระเจ้ายังประทานบำเหน็จและทรงปกป้องท่านเท่านั้น. เพื่อตอบข้อกล่าวหาของซาตาน พระยะโฮวาทรงยอมให้ซาตานโจมตีชายที่ซื่อสัตย์ผู้นี้. ผลก็คือ ภายในวันเดียว โยบก็ได้ข่าวว่าฝูงปศุสัตว์ของท่านถูกปล้นหรือถูกทำลาย, คนรับใช้ถูกฆ่า, และลูกทั้งสิบคนเสียชีวิต. (โยบ 1:13-19) โยบสูญเสียความซื่อสัตย์มั่นคงเพราะการโจมตีของซาตานไหม? บันทึกซึ่งมีขึ้นโดยการดลใจพรรณนาปฏิกิริยาของโยบต่อเหตุร้ายที่ท่านประสบว่า “พระยะโฮวาได้ทรงประทานให้, และพระยะโฮวาได้ทรงเรียกกลับคืนไปอีก. จงสรรเสริญพระนามของพระยะโฮวาเถิด.”—โยบ 1:21
6. (ก) เกิดอะไรขึ้นระหว่างที่มีการประชุมอีกครั้งหนึ่งในสวรรค์? (ข) ซาตานนึกถึงใครเมื่อมันตั้งข้อสงสัยในเรื่องความซื่อสัตย์มั่นคงของโยบต่อพระยะโฮวา?
โยบ 2:1-8) แต่การทดสอบที่โยบประสบยังไม่จบแค่นั้น.
6 ต่อมา มีการประชุมกันอีกครั้งหนึ่งในสวรรค์. ซาตานก็กล่าวหาโยบอีก โดยกล่าวว่า “หนังแทนหนัง จริงละ, คนย่อมสละอะไร ๆ ทุกสิ่งได้, เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนชีวิตของตนให้คงอยู่. แต่ถ้าหากบัดนี้พระองค์จะยื่นพระหัตถ์ออกแตะต้องให้เป็นอันตรายแก่กะดูกและเลือดเนื้อของเขานั้น, เขาจะเลิกนับถือพระองค์ทีเดียว.” ขอให้สังเกตว่าข้อกล่าวหาของซาตานครอบคลุมไปถึงคนอื่น ๆ ด้วย. ด้วยการกล่าวว่า “คนย่อมสละอะไร ๆ ทุกสิ่งได้, เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนชีวิตของตนให้คงอยู่” พญามารตั้งข้อสงสัยไม่เพียงแค่ความซื่อสัตย์มั่นคงของโยบเท่านั้น แต่ของ “คน” ใดก็ตามที่นมัสการพระยะโฮวาด้วย. หลังจากนั้น พระเจ้าทรงยอมให้ซาตานทำให้โยบเป็นโรคร้ายที่เจ็บปวด. (บทเรียนที่ได้จากการพิจารณาจุดยืนของโยบ
7. ภรรยาของโยบและผู้มาเยือนกดดันโยบอย่างไร?
7 ในช่วงแรก ภรรยาของโยบประสบความทุกข์เจ็บปวดจากเหตุร้ายต่าง ๆ ร่วมกันกับสามี. การสูญเสียบุตรและความมั่งคั่งของครอบครัวคงต้องทำให้เธอตกตะลึงและเป็นทุกข์อย่างมาก. เธอคงต้องรู้สึกเจ็บปวดใจเมื่อเห็นสามีทนทุกข์ด้วยโรคที่ทำให้ทรมาน. เธอบอกโยบว่า “ท่านยังจงรักภักดีต่อพระเจ้าอยู่หรือ? จงแช่งด่าพระเจ้า; ถึงจะตายก็ตายเถิด!” จากนั้น ก็มีผู้ชายสามคนมาหา—อะลีฟาศ, บิลดัด, และโซฟาร์—ซึ่งทำทีเป็นว่ามาเพื่อปลอบโยนโยบ. แทนที่จะทำอย่างนั้น พวกเขากลับชักเหตุผลอย่างผิด ๆ และแสดงตนเป็น “ผู้เล้าโลมอันร้ายกาจ.” ตัวอย่างเช่น บิลดัดอ้างว่าลูก ๆ ของโยบได้ทำอะไรบางอย่างที่ผิดและสมควรแล้วที่ประสบเหตุร้าย. อะลีฟาศพูดเป็นนัย ๆ ว่าความทุกข์ที่โยบประสบนั้นเป็นการลงโทษสำหรับบาปที่ท่านเคยทำในอดีต. เขาถึงกับตั้งข้อสงสัยว่าคนที่รักษาความซื่อสัตย์มั่นคงมีคุณค่าสำหรับพระเจ้าหรือไม่! (โยบ 2:9, 11; 4:8; 8:4; 16:2; 22:2, 3) โยบรักษาความซื่อสัตย์มั่นคงทั้ง ๆ ที่ถูกกดดันอย่างหนักเช่นนั้น. จริงอยู่ ท่านทำผิดพลาดเมื่อท่าน “อ้างตัวว่าเป็นฝ่ายถูกยิ่งกว่าพระเจ้า.” (โยบ 32:2) ถึงกระนั้น ท่านยังคงรักษาความซื่อสัตย์ตลอดเวลาที่เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดนั้น.
8. อะลีฮูเป็นตัวอย่างที่ดีเช่นไรสำหรับคนที่ให้คำแนะนำในปัจจุบัน?
8 ถัดมา เราอ่านเรื่องของอะลีฮูซึ่งได้มาเยี่ยมโยบด้วย. ก่อนจะพูดอะไร อะลีฮูฟังคำพูดที่โยบกับเพื่อนทั้งสามคนโต้แย้งกัน. แม้ว่าอายุน้อยกว่าอีกสี่คน แต่อะลีฮูแสดงให้เห็นว่ามีปัญญามากกว่า. ท่านพูดกับโยบอย่างเห็นอกเห็นใจโดยเรียกชื่อโยบ. อะลีฮูชมเชยโยบในเรื่องแนวทางชีวิตที่ซื่อตรง. แต่ท่านยังกล่าวด้วยว่าโยบเน้นมากเกินไปในการพยายามพิสูจน์ว่าท่านเองไม่มีความผิด. จากนั้น อะลีฮูก็ช่วยโยบให้มั่นใจว่าการรับใช้พระเจ้าอย่างซื่อสัตย์นั้นคุ้มค่าเสมอ. (อ่านโยบ 36:1, 11) ช่างเป็นตัวอย่างที่ดีจริง ๆ สำหรับคนที่จำเป็นต้องแนะนำผู้อื่นในปัจจุบัน! อะลีฮูแสดงความอดทน ตั้งใจฟัง ชมเชยในเรื่องที่จะชมได้ และให้คำแนะนำที่เสริมสร้าง.—โยบ 32:6; 33:32
9. พระยะโฮวาทรงช่วยโยบอย่างไร?
โยบ 38:1; 40:4; 42:6-10, ฉบับ R73
9 ในที่สุด โยบก็ได้ต้อนรับผู้มาเยือนที่น่าเกรงขามอย่างแท้จริง! บันทึกบอกว่า “พระเจ้าทรงตอบโยบออกมาจากพายุ.” โดยที่ทรงตั้งคำถามหลายข้ออย่างต่อเนื่อง พระยะโฮวาทรงช่วยโยบอย่างกรุณาแต่ก็หนักแน่นให้แก้ไขความคิดของท่าน. โยบเต็มใจยอมรับการว่ากล่าวแก้ไขนั้น โดยยอมรับว่า “ข้าพระองค์นี้ก็กระจิริด . . . ข้าพระองค์จึง . . . กลับใจอยู่ในผงคลีและขี้เถ้า.” หลังจากพระยะโฮวาตรัสกับโยบแล้ว พระองค์ก็ทรงว่ากล่าวเพื่อนสามคนนั้นเพราะพวกเขาไม่ได้พูด “อย่างที่ถูก.” โยบต้องอธิษฐานเพื่อพวกเขา. แล้ว “พระเจ้าทรงให้โยบกลับสู่สภาพดีเมื่อท่านอธิษฐานเผื่อสหายของท่าน และพระเจ้าประทานให้โยบมีมากเป็นสองเท่าของที่มีอยู่ก่อน.”—เรารักพระยะโฮวาลึกซึ้งขนาดไหน?
10. เหตุใดพระยะโฮวาไม่ทรงเพิกเฉยหรือทำลายซาตาน?
10 พระยะโฮวาทรงเป็นพระผู้สร้างเอกภพและเป็นองค์บรมมหิศรของสิ่งทรงสร้างทั้งสิ้น. ทำไมพระองค์ไม่เพียงแค่ทำเฉยต่อข้อกล่าวหาของพญามาร? พระเจ้าทรงทราบว่าไม่ว่าพระองค์จะเพิกเฉยหรือทำลายมันก็จะไม่สามารถแก้ประเด็นที่มันตั้งขึ้น. พญามารอ้างว่าโยบ ซึ่งเป็นผู้รับใช้ที่โดดเด่นคนหนึ่งของพระยะโฮวา จะไม่รักษาความภักดีถ้าท่านสูญเสียทรัพย์สมบัติ. โยบรักษาความภักดีแม้ว่าถูกทดสอบอย่างนั้น. จากนั้น ซาตานอ้างว่ามนุษย์ไม่ว่าใครก็จะหันหลังให้พระเจ้าถ้าเขาต้องทนทุกข์ทางกาย. โยบทนทุกข์ แต่ท่านไม่สูญเสียความซื่อสัตย์มั่นคง. ดังนั้น ซาตานถูกพิสูจน์ว่าเป็นผู้พูดมุสาในกรณีของชายผู้นี้ที่ซื่อสัตย์แม้ว่าเป็นมนุษย์ไม่สมบูรณ์. แล้วจะว่าอย่างไรสำหรับผู้นมัสการคนอื่น ๆ ของพระเจ้า?
11. พระเยซูทรงให้คำตอบที่ครบถ้วนแก่ข้อท้าทายของซาตานอย่างไร?
11 อันที่จริง ผู้รับใช้ของพระเจ้าแต่ละคนที่รักษาความซื่อสัตย์มั่นคงไม่ว่าซาตานจะโจมตีเขาอย่างไรต่างก็แสดงให้เห็นว่า ในกรณีของตัวเขาเอง คำกล่าวหาของศัตรูที่ไร้ความปรานีผู้นี้ไม่เป็นความจริง. พระเยซูทรงมายังแผ่นดินโลกและทรงให้คำตอบอย่างครบถ้วนแก่ข้อท้าทายของซาตาน. พระเยซูทรงเป็นมนุษย์สมบูรณ์ เช่นเดียวกับอาดาม บิดาคนแรกของมนุษย์. การที่พระเยซูทรงซื่อสัตย์จนกระทั่งสิ้นพระชนม์แสดงให้เห็นอย่างไม่มีข้อโต้แย้งได้ว่าซาตานเป็นผู้พูดมุสาและคำกล่าวหาของมันไม่เป็นความจริง.—วิ. 12:10
12. ผู้รับใช้แต่ละคนของพระยะโฮวามีโอกาสและมีความรับผิดชอบอะไร?
12 อย่างไรก็ตาม ซาตานทดสอบผู้นมัสการพระยะโฮวาอยู่ตลอด. เราแต่ละคนมีโอกาสและมีความรับผิดชอบที่จะแสดงให้เห็นโดยความภักดีของเราเองว่าเรารับใช้พระยะโฮวาเพราะเรารักพระองค์—ไม่ใช่ด้วยเหตุผลที่เห็นแก่ตัว. เรามองความรับผิดชอบนั้นอย่างไร? เรามองว่าเป็นสิทธิพิเศษที่จะภักดีต่อพระยะโฮวา. นอกจากนั้น เรายังได้รับกำลังใจด้วยที่รู้ว่าพระยะโฮวาทรงเสริมกำลังเราให้อดทน และเช่นเดียวกับในกรณีของโยบ พระองค์ทรงกำหนดขอบเขตไว้ไม่ให้เราเผชิญการทดสอบเกินจะรับไหว.—1 โค. 10:13
ซาตาน—ศัตรูผู้ท้าทายและผู้ออกหาก
13. หนังสือโยบเปิดเผยรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับซาตาน?
13 พระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูบอกรายละเอียดเกี่ยวกับการกระทำที่น่าอับอายของซาตานเมื่อมันท้าทายพระยะโฮวาและนำมนุษย์ให้หลงทาง. ในพระคัมภีร์คริสเตียนภาคภาษากรีก เราพบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการที่ซาตานต่อต้านพระยะโฮวา เช่น ในหนังสือวิวรณ์ซึ่งบอกเราให้ทราบว่าในไม่ช้าการปกครองของพระยะโฮวาจะได้รับการพิสูจน์โยบ 1:12, ฉบับ R73; 2:7
ว่าถูกต้องเที่ยงธรรมและซาตานจะถูกทำลายในที่สุด. หนังสือโยบทำให้เรารู้มากขึ้นเกี่ยวกับแนวทางที่ขืนอำนาจของซาตาน. เมื่อซาตานเข้าร่วมการประชุมในสวรรค์ มันไม่ได้เข้าร่วมโดยมีจุดมุ่งหมายจะสรรเสริญพระยะโฮวา. พญามารมีเจตคติมุ่งร้ายและมีเป้าหมายที่ชั่วร้าย. หลังจากมันกล่าวหาโยบและได้รับอนุญาตให้ทดสอบโยบได้ “ซาตานจึงออกไปจากพระพักตร์ของพระเจ้า.”—14. ซาตานแสดงให้เห็นว่ามันมีเจตคติอย่างไรต่อโยบ?
14 ดังนั้น หนังสือโยบระบุว่าซาตานเป็นศัตรูผู้ไร้ความปรานีของมนุษย์ทั้งสิ้น. ช่วงเวลานับตั้งแต่การประชุมในสวรรค์ตามที่กล่าวในโยบ 1:6 จนกระทั่งถึงการประชุมตามที่พรรณนาในโยบ 2:1 นานเท่าไรไม่มีการระบุไว้ แต่นั่นเป็นช่วงเวลาที่โยบถูกทดสอบอย่างโหดร้าย. ความซื่อสัตย์ของโยบทำให้พระยะโฮวาสามารถตรัสกับซาตานว่า “[โยบ] ก็ยังคงเป็นคนซื่อสัตย์มั่นคงอยู่, ถึงแม้ว่าเจ้าได้ชักชวนให้เราเป็นปฏิปักษ์ทำให้เขาสิ้นเนื้อประดาตัวโดยหาความผิดมิได้.” แต่ซาตานไม่ยอมรับว่าคำกล่าวอ้างของมันไม่เป็นความจริง. ตรงกันข้าม มันเรียกร้องให้มีการทดสอบโยบอย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง. ด้วยเหตุนั้น พญามารทดสอบโยบทั้งในยามที่ท่านรุ่งเรืองและในยามที่ท่านสิ้นเนื้อประดาตัว. เห็นได้ชัด ซาตานไม่มีความเมตตาสงสารต่อคนจนหรือคนที่ตกเป็นเหยื่อของภัยพิบัติ. มันเกลียดคนที่ซื่อสัตย์มั่นคง. (โยบ 2:3-5) อย่างไรก็ตาม ความซื่อสัตย์ของโยบแสดงให้เห็นว่าซาตานเป็นผู้พูดมุสา.
15. ผู้ออกหากในสมัยปัจจุบันมีอะไรที่เหมือนกันกับซาตาน?
15 ซาตานเป็นผู้แรกที่ออกหาก. พวกออกหากในสมัยปัจจุบันมีนิสัยคล้าย ๆ กับพญามาร. จิตใจของพวกเขาอาจเสื่อมทรามเพราะมีเจตคติที่ชอบวิพากษ์วิจารณ์บางคนในประชาคม, คริสเตียนผู้ปกครอง, หรือคณะกรรมการปกครอง. ผู้ออกหากบางคนต่อต้านการใช้พระนามพระยะโฮวา. พวกเขาไม่สนใจในเรื่องการเรียนรู้เกี่ยวกับพระยะโฮวาหรือการรับใช้พระองค์. เช่นเดียวกับซาตานพ่อของพวกเขา ผู้ออกหากมุ่งทำลายความเชื่อของคนที่ซื่อสัตย์มั่นคง. (โย. 8:44) นั่นคือเหตุผลที่ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาหลีกเลี่ยงไม่ติดต่อเกี่ยวข้องทุกทางกับคนพวกนี้!—2 โย. 10, 11
โยบเชิดชูพระนามพระยะโฮวา
16. โยบแสดงให้เห็นว่าท่านมีเจตคติอย่างไรต่อพระยะโฮวา?
16 โยบใช้พระนามพระยะโฮวาและสรรเสริญพระนามนี้. แม้แต่เมื่อเป็นทุกข์โศกเศร้าเพราะข่าวการตายของลูก ๆ โยบก็ไม่ได้กล่าวโทษพระเจ้าเลย. แม้โยบเข้าใจผิดว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับท่านมาจากพระเจ้า ท่านก็ยังเชิดชูพระนามพระยะโฮวา. ในตอนท้าย ๆ โยบได้กล่าวถ้อยคำซึ่งเป็นสุภาษิตว่า “ดูเถิด, ความยำเกรงพระยะโฮวานั่นแหละคือปัญญา; และการที่ละทิ้งการชั่วนั่นแหละคือความรู้.”—โยบ 28:28
17. อะไรช่วยโยบให้รักษาความซื่อสัตย์มั่นคง?
17 อะไรช่วยโยบให้รักษาความซื่อสัตย์มั่นคง? เห็นได้ชัด ก่อนเหตุการณ์เลวร้ายทั้งหลายจะเกิดขึ้น ท่านได้พัฒนาโยบ 27:5, ฉบับ R73) โยบพัฒนาสายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดอย่างนี้โดยวิธีใด? ไม่ต้องสงสัย ท่านเห็นความสำคัญของเรื่องราวที่ท่านได้ยินเกี่ยวกับวิธีที่พระเจ้าทรงปฏิบัติต่ออับราฮาม, ยิศฮาค, และยาโคบ ซึ่งเป็นญาติห่าง ๆ ของท่าน. และด้วยการสังเกตสิ่งต่าง ๆ ที่พระเจ้าสร้าง โยบสามารถเข้าใจคุณลักษณะหลายประการของพระยะโฮวา.—อ่านโยบ 12:7-9, 13, 16
สายสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระยะโฮวาอยู่แล้ว. แม้เราไม่มีหลักฐานว่าท่านรู้เรื่องที่ซาตานท้าทายพระยะโฮวา โยบตั้งใจแน่วแน่ว่าจะรักษาความภักดี. ท่านกล่าวว่า “ข้าจะไม่ทิ้งความสัตย์จริงของข้าจนข้าตาย.” (18. (ก) โยบแสดงถึงความเลื่อมใสในพระยะโฮวาอย่างไร? (ข) เราจะเลียนแบบตัวอย่างที่ดีของโยบได้โดยวิธีใด?
18 สิ่งที่โยบได้เรียนรู้ทำให้ท่านปรารถนาจะเป็นที่พอพระทัยพระยะโฮวา. ท่านถวายเครื่องบูชาเป็นประจำเผื่อไว้ในกรณีที่สมาชิกครอบครัวท่านอาจทำบางสิ่งที่ไม่เป็นที่พอพระทัยพระเจ้าหรือ “แช่งพระเจ้าอยู่ในใจของเขา.” (โยบ 1:5, ฉบับ R73) แม้แต่เมื่อถูกทดสอบอย่างรุนแรง โยบยังคงพูดถึงพระยะโฮวาในแง่ดี. (โยบ 10:12) ช่างเป็นตัวอย่างที่ดีจริง ๆ! เราเองก็ต้องรับเอาความรู้ถ่องแท้เกี่ยวกับพระยะโฮวาและพระประสงค์ของพระองค์เป็นประจำ. เรารักษากิจวัตรที่ดีในกิจกรรมต่าง ๆ ฝ่ายวิญญาณ เช่น การศึกษา, การเข้าร่วมการประชุม, การอธิษฐาน, และการประกาศข่าวดี. นอกจากนั้น เราทำทุกสิ่งที่เราทำได้เพื่อบอกให้คนอื่นรู้จักพระนามพระยะโฮวา. และเช่นเดียวกับที่ความซื่อสัตย์มั่นคงของโยบทำให้พระยะโฮวาพอพระทัย ความซื่อสัตย์มั่นคงของผู้รับใช้พระเจ้าในปัจจุบันก็ทำให้พระทัยของพระยะโฮวายินดีด้วยเช่นกัน. จะมีการพิจารณาเรื่องนี้ในบทความถัดไป.
คุณจำได้ไหม?
• เหตุใดโยบจึงดึงดูดความสนใจของซาตานพญามาร?
• โยบอดทนการทดสอบอะไรบ้าง และท่านแสดงปฏิกิริยาอย่างไร?
• อะไรจะช่วยเราให้รักษาความซื่อสัตย์มั่นคงเช่นเดียวกับโยบ?
• เรารู้อะไรเกี่ยวกับซาตานจากหนังสือโยบ?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 4]
เรื่องราวเกี่ยวกับโยบทำให้เราตระหนักถึงประเด็นสำคัญในเรื่องสิทธิปกครองของพระเจ้าเหนือสิ่งทรงสร้างทั้งสิ้น
[ภาพหน้า 6]
ความซื่อสัตย์มั่นคงของคุณอาจถูกทดสอบในสถานการณ์เช่นไรบ้าง?