ชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลก—ความหวังที่พระเจ้าประทาน
ชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลก—ความหวังที่พระเจ้าประทาน
“สิ่งทรงสร้างตกอยู่ใต้อำนาจความไร้ประโยชน์ . . . โดยให้มีความหวังด้วย.” —โรม 8:20
1, 2. (ก) เหตุใดความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลกจึงสำคัญสำหรับเรา? (ข) เหตุใดผู้คนมากมายจึงสงสัยในเรื่องชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลก?
คุณอาจนึกถึงความยินดีเมื่อคุณได้เรียนรู้เป็นครั้งแรกว่าอีกไม่นานผู้คนจะไม่ต้องแก่และตายอีกต่อไป แต่จะมีชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลก. (โย. 17:3; วิ. 21:3, 4) คุณคงยินดีที่ได้บอกความหวังนี้ในพระคัมภีร์กับคนอื่น ๆ. ที่จริง ความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของข่าวดีที่เราประกาศ. ความหวังนี้ส่งผลกระทบต่อทัศนะที่เรามีต่อชีวิต.
2 ส่วนใหญ่แล้ว ศาสนาต่าง ๆ ของคริสต์ศาสนจักรไม่สนใจความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลก. ในขณะที่คัมภีร์ไบเบิลสอนว่าไม่มีส่วนใดของตัวเราที่มีชีวิตอยู่ต่อไปหลังจากเราตาย คริสตจักรส่วนใหญ่สอนหลักคำสอนที่ไม่เป็นไปตามหลักพระคัมภีร์ที่ว่า คนเรามีส่วนที่เป็นอมตะซึ่งมีชีวิตต่อไปหลังจากคนเราตายและดำรงอยู่ต่อไปในแดนวิญญาณ. (ยเอศ. 18:20) ด้วยเหตุนั้น หลายคนจึงสงสัยว่าเป็นไปได้หรือที่คนเราจะมีชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลก. ดังนั้น เราอาจถามว่าคัมภีร์ไบเบิลสนับสนุนความหวังนี้จริง ๆ หรือ? ถ้าอย่างนั้น พระเจ้าทรงเปิดเผยเรื่องนี้กับมนุษย์เป็นครั้งแรกเมื่อไร?
“ตกอยู่ใต้อำนาจความไร้ประโยชน์ . . . โดยให้มีความหวังด้วย”
3. พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับมนุษย์เห็นได้ชัดอย่างไรนับตั้งแต่ตอนเริ่มต้นของประวัติศาสตร์มนุษย์?
3 พระยะโฮวาทรงแสดงพระประสงค์ของพระองค์สำหรับมนุษยชาติไว้อย่างชัดเจนตั้งแต่ตอนเริ่มต้นของประวัติศาสตร์มนุษย์. พระเจ้าทรงระบุไว้ชัดเลยว่าอาดามจะมีชีวิตนิรันดร์ถ้าเขาเชื่อฟัง. (เย. 2:9, 17; 3:22) ไม่ต้องสงสัยเลยว่าลูกหลานคนแรก ๆ ของอาดามคงรู้ว่ามนุษย์เราสูญเสียความสมบูรณ์ไปแล้ว เพราะมีหลักฐานที่เห็นได้ด้วยตายืนยันในเรื่องนี้. ทางเข้าสวนเอเดนถูกปิด และผู้คนก็เริ่มแก่และตาย. (เย. 3:23, 24) เมื่อเวลาผ่านไป ช่วงชีวิตของมนุษย์ก็ลดลงเรื่อย ๆ. อาดามมีชีวิตอยู่นานถึง 930 ปี. เซมผู้รอดชีวิตจากน้ำท่วมโลกมีชีวิตเพียงแค่ 600 ปี และอาร์พัคชัดบุตรชายของเขามีชีวิต 438 ปี. เทราห์ บิดาของอับราฮามมีชีวิต 205 ปี. ช่วงชีวิตของอับราฮามคือ 175 ปี, ของยิศฮาคบุตรชาย 180 ปี, และของยาโคบ 147 ปี. (เย. 5:5; 11:10-13, 32; 25:7; 35:28; 47:28) หลายคนคงต้องตระหนักว่าการที่คนเราอายุน้อยลงเรื่อย ๆ อย่างนี้แสดงว่าความหวังที่จะมีชีวิตนิรันดร์สูญสิ้นไปแล้ว! พวกเขามีเหตุผลที่จะหวังได้ไหมว่าจะมีการฟื้นฟูชีวิตนิรันดร์ขึ้นใหม่?
4. เหตุใดมนุษย์ที่ซื่อสัตย์ในสมัยโบราณจึงเชื่อได้ว่าพระเจ้าจะนำพระพรต่าง ๆ ที่อาดามทำให้สูญเสียไปกลับคืนมา?
4 พระคำของพระเจ้ากล่าวว่า “สิ่งทรงสร้าง [มนุษย์] ตกอยู่ใต้อำนาจความไร้ประโยชน์ . . . โดยให้มีความหวังด้วย.” (โรม 8:20) ความหวังอะไร? คำพยากรณ์แรกสุดในคัมภีร์ไบเบิลชี้ไปยัง “เผ่าพันธุ์” ที่จะ ‘ทำให้หัวของงูฟกช้ำ.’ (อ่านเยเนซิศ 3:1-5, 15) สำหรับมนุษย์ที่ซื่อสัตย์ คำสัญญาเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์นั้นให้ความหวังว่าพระเจ้าจะไม่ทิ้งพระประสงค์ของพระองค์สำหรับมนุษย์. คำสัญญานั้นทำให้มนุษย์อย่างเฮเบลและโนอาห์มีเหตุผลที่จะเชื่อได้ว่าพระเจ้าจะนำพระพรต่าง ๆ ที่อาดามทำให้สูญเสียไปกลับคืนมา. ผู้ซื่อสัตย์เหล่านั้นอาจตระหนักว่า ‘การทำให้ส้นเท้าของเผ่าพันธุ์นั้นฟกช้ำ’ จะเกี่ยวข้องกับการหลั่งโลหิต.—เย. 4:4; 8:20; ฮีบรู 11:4
5. อะไรแสดงว่าอับราฮามมีความเชื่อในเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย?
ฮีบรู 11:17) เหตุใดท่านจึงเต็มใจทำอย่างนี้? (อ่านฮีบรู 11:19) ท่านมีความเชื่อในเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย! อับราฮามมีเหตุผลที่จะเชื่อเรื่องนี้. ที่จริง พระยะโฮวาได้คืนความสามารถในการมีบุตรแก่อับราฮามและทรงทำให้ท่านกับซาราห์ภรรยาของท่านสามารถให้กำเนิดบุตรทั้ง ๆ ที่ทั้งสองชราแล้ว. (เย. 18:10-14; 21:1-3; โรม 4:19-21) อับราฮามยังได้คำรับรองจากพระยะโฮวาด้วย. พระเจ้าตรัสกับท่านว่า “กุมารยิศฮาคนี้จะสืบเชื้อวงศ์ของเจ้าไว้.” (เย. 21:12) ด้วยเหตุนั้น อับราฮามมีเหตุผลหนักแน่นที่จะคาดหมายว่าพระเจ้าจะทรงปลุกยิศฮาคให้เป็นขึ้นจากตาย.
5 ขอให้พิจารณาอับราฮาม. เมื่อถูกลองใจ ‘การตัดสินใจของอับราฮามก็เสมือนว่าได้ถวายยิศฮาคบุตรชายคนเดียวเป็นเครื่องบูชาไปแล้ว.’ (6, 7. (ก) พระยะโฮวาทรงทำสัญญาอะไรกับอับราฮาม? (ข) คำสัญญาของพระยะโฮวาที่ทำกับอับราฮามให้ความหวังแก่มนุษยชาติอย่างไร?
6 เนื่องจากอับราฮามมีความเชื่อที่โดดเด่น พระยะโฮวาจึงทรงทำสัญญากับท่านในเรื่องลูกหลานหรือ “พงศ์พันธุ์” ของท่าน. (อ่านเยเนซิศ 22:18) ในที่สุดก็มีการเปิดเผยว่า “พงศ์พันธุ์” [“ผู้สืบเชื้อสาย,” ล.ม.] อันดับแรกคือพระเยซูคริสต์. (กลา. 3:16) พระยะโฮวาทรงบอกอับราฮามว่า “พงศ์พันธุ์” ของท่านจะมีมากมาย “ดุจดวงดาวบนฟ้า, และดุจเม็ดทรายที่ฝั่งมหาสมุทร” ซึ่งอับราฮามไม่รู้ว่าจะมีจำนวนเท่าไร. (เย. 22:17) แต่ต่อมา มีการเปิดเผยให้ทราบจำนวนดังกล่าว. พระเยซูคริสต์และชน 144,000 คนที่จะปกครองกับพระองค์ในราชอาณาจักรประกอบกันเป็น “พงศ์พันธุ์” นั้น. (กลา. 3:29; วิ. 7:4; 14:1) โดยทางราชอาณาจักรมาซีฮานี้ “ชนทุกชาติทั่วโลกจะได้พร.”
7 อับราฮามไม่มีทางเข้าใจได้เลยถึงความหมายที่ครบถ้วนของสัญญาที่พระยะโฮวาทรงทำกับท่าน. อย่างไรก็ตาม คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “เขาคอยท่าเมืองที่มีฐานรากแท้.” (ฮีบรู 11:10) เมืองนั้นก็คือราชอาณาจักรของพระเจ้า. เพื่อจะรับพระพรต่าง ๆ ภายใต้การปกครองของราชอาณาจักรนั้น อับราฮามจะต้องมีชีวิตอีกครั้ง. ชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลกจะเป็นไปได้สำหรับท่านโดยการกลับเป็นขึ้นจากตาย. และชีวิตนิรันดร์จะเป็นไปได้สำหรับคนที่รอดชีวิตผ่านอาร์มาเก็ดดอนหรือคนที่จะถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตาย.—วิ. 7:9, 14; 20:12-14
“พระวิญญาณกระตุ้นข้าพเจ้าให้กล่าวถ้อยคำนั้นออกมา”
8, 9. เหตุใดหนังสือโยบจึงไม่ได้เป็นเพียงบันทึกเกี่ยวกับการทดสอบมนุษย์คนหนึ่ง?
8 ชายคนหนึ่งซึ่งชื่อว่าโยบมีชีวิตอยู่ในช่วงเวลาระหว่างโยเซฟเหลนของอับราฮามกับผู้พยากรณ์โมเซ. หนังสือโยบในคัมภีร์ไบเบิล ซึ่งน่าจะเขียนโดยโมเซ อธิบายเหตุผลที่พระยะโฮวาทรงยอมให้โยบประสบความทุกข์และเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับท่านว่าในที่สุดเป็นอย่างไร. อย่างไรก็ตาม หนังสือโยบไม่ได้เป็นเพียงบันทึกเกี่ยวกับการทดสอบมนุษย์คนหนึ่ง; หนังสือนี้เน้นประเด็นสำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตที่มีเชาวน์ปัญญาทั้งสิ้น. หนังสือนี้ให้ความเข้าใจที่ลึกซึ้งถึงความชอบธรรมของพระยะโฮวาในการใช้อำนาจปกครองของพระองค์ และเปิดเผยว่าความซื่อสัตย์มั่นคงและความหวังเรื่องชีวิตของผู้รับใช้ของพระเจ้าทุกคนบนแผ่นดินโลกเกี่ยวข้องกับประเด็นที่ถูกยกขึ้นมาในสวนเอเดน. แม้โยบไม่เข้าใจประเด็นนี้ ท่านไม่ปล่อยให้เพื่อนสามคนชักนำท่านให้คิดว่าท่านไม่ได้รักษาความซื่อสัตย์มั่นคง. (โยบ 27:5) เรื่องนี้น่าจะเสริมความเชื่อของเราและช่วยเราให้ตระหนักว่าเราสามารถรักษาความซื่อสัตย์มั่นคงและสนับสนุนสิทธิการปกครองของพระยะโฮวา.
9 หลังจากที่ผู้ปลอบโยนจอมปลอมทั้งสามพูดจบแล้ว “เอลีฮูบุตรชายของบาราเคลเชื้อสายของบุซ [ก็] ตอบ.” อะไรกระตุ้นให้เขาพูด? เขากล่าวว่า “พระวิญญาณกระตุ้นข้าพเจ้าให้กล่าวถ้อยคำนั้นออกมา.” (โยบ 32:5, 6, 18, ล.ม.) แม้สิ่งที่เอลีฮูพูดโดยได้รับการดลใจสำเร็จเป็นจริงเมื่อพระยะโฮวาทรงช่วยโยบกลับคืนสู่สภาพเดิม แต่คำพูดของเขายังมีความหมายต่อคนอื่น ๆ ด้วย. คำพูดของเขาทำให้ผู้รักษาความซื่อสัตย์มั่นคงทุกคนมีความหวัง.
10. มีอะไรที่แสดงว่าบางครั้งข่าวสารของพระยะโฮวาที่มีไปถึงคนคนหนึ่งใช้ได้กับมนุษย์โดยทั่วไปด้วย?
10 บางครั้งข่าวสารของพระยะโฮวาที่มีไปถึงคนคนหนึ่งสามารถใช้ได้กับมนุษย์โดยทั่วไปด้วย. เรื่องนี้เห็นได้จากดานิ. 4:10-27) แม้ว่าความฝันนั้นสำเร็จเป็นจริงกับนะบูคัดเนซัร แต่ก็ชี้ถึงสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่ามาก. ความฝันนี้ชี้ว่าพระเจ้าจะทรงแสดงอีกครั้งหนึ่งว่าพระองค์มีสิทธิปกครองเหนือแผ่นดินโลกโดยทางอาณาจักรในเชื้อวงศ์ของกษัตริย์ดาวิดหลังจากที่เวลาผ่านไป 2,520 ปี โดยนับตั้งแต่ปี 607 ก่อนสากลศักราช. * และก็เป็นเช่นนั้นจริงเมื่อพระองค์ทรงแต่งตั้งพระเยซูคริสต์เป็นกษัตริย์ในสวรรค์ในปี 1914. ขอลองคิดดูก็แล้วกันว่าในไม่ช้าการปกครองแห่งราชอาณาจักรจะทำให้ความหวังของมนุษย์ที่เชื่อฟังสำเร็จเป็นจริงอย่างไร!
คำพยากรณ์ของดานิเอลเรื่องความฝันของนะบูคัดเนซัรกษัตริย์บาบิโลนซึ่งเกี่ยวกับการโค่นต้นไม้มหึมาต้นหนึ่ง. (“อย่าให้เขาลงไปอยู่ในหลุมนั้นเลย”
11. คำพูดของเอลีฮูแสดงให้เห็นอะไรเกี่ยวกับพระเจ้า?
11 เพื่อตอบคำถามโยบ เอลีฮูพูดถึง “เทวทูตองค์หนึ่งมายังเขาเป็นผู้แถลงการณ์, คือองค์หนึ่งในพันองค์นั้น, เพื่อจะบรรยายให้เขาเห็นหนทางที่ถูก.” จะเป็นอย่างไรถ้าเทวทูตองค์นี้ “ได้อธิษฐานต่อพระเจ้า, และพระองค์ก็ทรงพระเมตตาแก่เขา”? เอลีฮูกล่าวว่า “แล้วท่าน [พระเจ้า] ก็ทรงเมตตาแก่เขาตรัสว่า, ‘อย่าให้เขาลงไปอยู่ในหลุมนั้นเลย, เรามีค่าไถ่มาให้แล้ว. เนื้อของเขาก็จะกลับเปล่งปลั่งยิ่งกว่าเนื้อของเด็ก, และความหนุ่มแน่นของเขาก็จะกลับคืนมา.’ ” (โยบ 33:23-26) คำพูดดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าพระเจ้าทรงเต็มพระทัยจะรับ “ค่าไถ่” ที่ช่วยปิดคลุมบาปของคนที่กลับใจ.—โยบ 33:24
12. คำพูดของเอลีฮูให้ความหวังอะไรแก่มนุษย์โดยทั่วไป?
12 เอลีฮูคงไม่เข้าใจอย่างเต็มที่ในเรื่องความหมายของค่าไถ่ เช่นเดียวกับที่ผู้พยากรณ์หลายคนไม่เข้าใจอย่างครบถ้วนในทุกเรื่องที่พวกเขาเขียน. (ดานิ. 12:8; 1 เป. 1:10-12) ถึงกระนั้น คำพูดของเอลีฮูแสดงให้เห็นถึงความหวังที่ว่าสักวันหนึ่งพระเจ้าจะทรงยอมรับค่าไถ่และปลดเปลื้องมนุษย์ให้พ้นจากความแก่ชราและความตาย. คำพูดของเอลีฮูให้ความหวังอันยอดเยี่ยมที่จะมีชีวิตนิรันดร์. หนังสือโยบยังแสดงให้เห็นด้วยว่าจะมีการกลับเป็นขึ้นจากตาย.—โยบ 14:14, 15
13. คำพูดของเอลีฮูยังคงมีความหมายอย่างไรสำหรับคริสเตียน?
13 ปัจจุบัน คำพูดของเอลีฮูยังคงมีความหมายสำหรับคริสเตียนหลายล้านคนที่มีความหวังจะรอดชีวิตผ่านพินาศกรรมของระบบปัจจุบันนี้. บรรดาผู้สูงอายุที่เป็นผู้รอดชีวิตจะได้ความกระชุ่มกระชวยแบบหนุ่มสาวกลับคืนมา. (วิ. 7:9, 10, 14-17) นอกจากนั้น ความหวังที่จะเห็นคนที่ถูกปลุก ให้เป็นขึ้นจากตายกลับคืนสู่วัยหนุ่มสาวก็ยังคงทำให้เหล่าผู้ซื่อสัตย์ยินดี. แน่นอน ทั้งชีวิตอมตะในสวรรค์สำหรับคริสเตียนผู้ถูกเจิมและชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลกสำหรับ “แกะอื่น” ของพระเยซูต่างก็ขึ้นอยู่กับการแสดงความเชื่อในเครื่องบูชาไถ่ของพระคริสต์.—โย. 10:16; โรม 6:23
ความตายถูกทำลายให้สาบสูญ
14. อะไรแสดงว่าชาวอิสราเอลจำเป็นต้องได้รับการปลดปล่อยให้พ้นจากการถูกพระบัญญัติของโมเซกล่าวโทษเพื่อจะมีความหวังในเรื่องชีวิตนิรันดร์?
14 ลูกหลานของอับราฮามกลายเป็นชาติที่เป็นเอกราชเมื่อพวกเขามีสายสัมพันธ์กับพระเจ้าตามสัญญาที่พระองค์ทรงทำกับพวกเขา. เมื่อประทานพระบัญญัติแก่พวกเขา พระยะโฮวาตรัสว่า “เจ้าทั้งหลายจงประพฤติตามข้อกำหนดและกฎหมายของเรา ถ้าคนใดทำเช่นนั้น เขาจะมีชีวิต เนื่องด้วยข้อกำหนดและกฎหมายเหล่านั้น.” (เลวี. 18:5, ล.ม.) แต่เนื่องจากพวกเขาไม่สามารถทำตามมาตรฐานอันสมบูรณ์ของพระบัญญัติ ชาวอิสราเอลจึงถูกพระบัญญัติกล่าวโทษและจำเป็นต้องได้รับการปลดปล่อยให้พ้นจากการกล่าวโทษนั้นโดยอาศัยสิ่งที่ใหญ่กว่าพระบัญญัติของโมเซ.—อ่านกาลาเทีย 3:13
15. พระพรอะไรในอนาคตที่ดาวิดได้รับการดลใจให้เขียนถึง?
15 หลังจากโมเซ พระยะโฮวาทรงดลใจให้ผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลคนอื่น ๆ ให้กล่าวถึงความหวังเรื่องชีวิตนิรันดร์. (เพลง. 21:4; 37:29) ตัวอย่างเช่น ดาวิดผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญลงท้ายเพลงสรรเสริญบทหนึ่งเกี่ยวกับความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของผู้นมัสการแท้ที่ซีโอนโดยกล่าวว่า “พระยะโฮวาได้ทรงประทานพระพรที่นั่น, ให้ชีวิตอันเจริญเป็นนิตย์.”—เพลง. 133:3
16. พระยะโฮวาทรงสัญญาอะไรทางยะซายาห์เกี่ยวกับอนาคตที่จะมีไปทั่ว “พื้นพิภพโลก”?
16 พระยะโฮวาทรงดลใจยะซายาห์ให้พยากรณ์เกี่ยวกับชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลก. (อ่านยะซายา 25:7, 8) เช่นเดียวกับผ้าคลุมหน้าที่ทำให้หายใจไม่ออก บาปและความตายก็เป็นเหมือนกับภาระหนักที่ทำให้มนุษย์เป็นทุกข์เดือดร้อน. พระยะโฮวาทรงรับรองกับประชาชนของพระองค์ว่าบาปและความตายจะถูกขจัดให้สาบสูญไปจาก “พื้นพิภพโลก.”
17. บทบาทอะไรของพระมาซีฮาตามคำพยากรณ์ที่เปิดทางให้มนุษย์สามารถมีชีวิตนิรันดร์?
17 ขอให้พิจารณาด้วยเกี่ยวกับขั้นตอนที่กำหนดไว้ในพระบัญญัติของโมเซในเรื่องแพะรับบาป. ปีละครั้ง ในวันไถ่โทษ มหาปุโรหิตจะ ‘เอามือทั้งสองวางบนหัวแพะที่มีชีวิตนั้นและกล่าวคำสารภาพบรรดาบาปของคนอิสราเอลให้ตกเลวี. 16:7-10, 21, 22, ฉบับ R73) ยะซายาห์บอกล่วงหน้าถึงการมาของพระมาซีฮาผู้จะมีบทบาทคล้าย ๆ กันและแบกรับ “ความเจ็บปวด” และ “ความผิดบาปของคนทั้งหลาย” และโดยวิธีนั้นจึงเปิดทางให้มนุษย์สามารถมีชีวิตนิรันดร์.—อ่านยะซายา 53:4-6, 12
ลงบนหัวแพะนั้น และแพะนั้นจะบรรทุกมลทินทั้งหมดไปยังที่เปลี่ยว.’ (18, 19. มีการเน้นความหวังอะไรที่ยะซายา 26:19 และดานิเอล 12:13?
18 โดยทางยะซายาห์ พระยะโฮวาทรงบอกประชาชนชาวอิสราเอลว่า “พวกเจ้าที่ตายไปแล้วจะมีชีวิตอีก. ศพของพวกข้าพเจ้า พวกเขาจะเป็นขึ้น. จงตื่นขึ้นและเปล่งเสียงร้องด้วยความยินดี พวกเจ้าที่อยู่ในผงคลี! เพราะน้ำค้างของเจ้าจะเป็นเหมือนน้ำค้างบนต้นแมลโลว์ และแผ่นดินโลกจะปล่อยคนตายที่ทำอะไรไม่ได้เหล่านั้นออกมา.” (ยซา. 26:19, ล.ม.) พระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูแสดงไว้อย่างชัดเจนว่ามีความหวังที่คนเราจะกลับเป็นขึ้นจากตายและมีชีวิตบนแผ่นดินโลก. ตัวอย่างเช่น เมื่อดานิเอลอายุเกือบ 100 ปี พระยะโฮวาทรงรับรองกับท่านว่า “ท่านจะพักผ่อน แต่ท่านจะลุกขึ้นเพื่อจะได้ส่วนของท่านเมื่อสิ้นสุดวันเหล่านั้น.”—ดานิ. 12:13, ล.ม.
19 เพราะมาร์ทามีความหวังในเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย เธอจึงพูดกับพระเยซูเกี่ยวกับน้องชายได้ว่า “ข้าพเจ้ารู้ว่าเขาจะถูกปลุกให้เป็นขึ้นจากตายในวันสุดท้าย.” (โย. 11:24) คำสอนของพระเยซูและข้อเขียนที่มีขึ้นโดยการดลใจของเหล่าสาวกของพระองค์ทำให้ความหวังนี้เปลี่ยนไปไหม? ชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลกยังคงเป็นความหวังที่พระยะโฮวาประทานแก่มนุษยชาติอยู่ไหม? เราจะพิจารณาคำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ในบทความถัดไป.
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 10 โปรดดูหนังสือจงเอาใจใส่คำพยากรณ์ของดานิเอล! บท 6.
คุณอธิบายได้ไหม?
• มนุษย์ “ตกอยู่ใต้อำนาจความไร้ประโยชน์” โดยมีความหวังอะไร?
• อะไรแสดงว่าอับราฮามมีความเชื่อในเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย?
• คำพูดของเอลีฮูที่พูดกับโยบให้ความหวังอะไรแก่มนุษยชาติ?
• พระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูเน้นความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตายและชีวิตนิรันดร์บนแผ่นดินโลกอย่างไร?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 5]
คำพูดของเอลีฮูที่พูดกับโยบให้ความหวังว่ามนุษย์จะได้รับการปลดเปลื้องให้พ้นจากความแก่ชราและความตาย
[ภาพหน้า 6]
ดานิเอลได้รับคำรับรองว่า “ท่านจะลุกขึ้นเพื่อจะได้ส่วนของท่านเมื่อสิ้นสุดวันเหล่านั้น”