จงปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานของคุณด้วยการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล
จงปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานของคุณด้วยการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล
“ข้าแต่พระยะโฮวาเจ้า, ข้าพเจ้าอ้อนวอนทูลขอแต่พระองค์, ขอได้ทรงเงี่ยพระโสตทรงโปรดสดับฟังคำอ้อนวอนของข้าพเจ้าผู้ทาสของพระองค์.”—นเฮม. 1:11
1, 2. เหตุใดจึงเป็นประโยชน์ที่จะพิจารณาคำอธิษฐานที่บันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิล?
การอธิษฐานและการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลเป็นส่วนสำคัญในการนมัสการแท้. (1 เทส. 5:17; 2 ติโม. 3:16, 17) แน่นอน คัมภีร์ไบเบิลไม่ใช่หนังสือบทอธิษฐาน. ถึงกระนั้น มีคำอธิษฐานมากมายในคัมภีร์ไบเบิล รวมทั้งคำอธิษฐานจำนวนมากที่พบได้ในหนังสือบทเพลงสรรเสริญ.
2 ขณะที่คุณอ่านและศึกษาคัมภีร์ไบเบิล คุณคงพบคำอธิษฐานที่ตรงกับสถานการณ์ที่คุณกำลังประสบอยู่. ที่จริง เมื่อคุณนำเอาแนวคิดของคำอธิษฐานที่บันทึกในพระคัมภีร์มาใช้ คุณภาพคำอธิษฐานของคุณจะดีขึ้น. คุณอาจเรียนอะไรได้จากบางคนที่คำวิงวอนขอความช่วยเหลือของพวกเขาได้รับคำตอบและจากเนื้อหาคำอธิษฐานของพวกเขา?
จงขอและปฏิบัติตามการชี้นำจากพระเจ้า
3, 4. คนรับใช้ของอับราฮามได้รับมอบหมายให้ทำงานอะไร และเราเรียนอะไรได้จากผลที่พระยะโฮวาทรงทำให้เกิดขึ้น?
3 การศึกษาคัมภีร์ไบเบิลทำให้เห็นได้ชัดว่าคุณควรอธิษฐานขอการชี้นำจากพระเจ้าเสมอ. ขอพิจารณาว่ามีอะไรเกิดขึ้นเมื่อปฐมบรรพบุรุษอับราฮามส่งคนรับใช้ที่อาวุโสที่สุด ซึ่งน่าจะเป็นอะลีเอเซร ไปที่เมโสโปเตเมียเพื่อหาภรรยาที่ยำเกรงพระเจ้าให้ยิศฮาค. ขณะที่พวกผู้หญิงตักน้ำจากบ่อน้ำ คนรับใช้ผู้นี้อธิษฐานว่า “ข้าแต่พระยะโฮวา . . . หญิงสาวที่ข้าพเจ้าจะพูดกับเขานั้นว่า, ‘ขอเอาหม้อน้ำลงให้ข้าพเจ้าดื่มสักหน่อย,’ และนางนั้นจะว่า, ‘เชิญเถิด, ฉันจะตักให้อูฐของท่านกินด้วย,’ ขอโปรดให้หญิงนั้นแหละเป็นคนที่พระองค์ได้ทรงหมายไว้จะให้แก่ยิศฮาคทาสของพระองค์; ด้วยเหตุนี้เย. 24:12-14
ข้าพเจ้าจึงจะรู้ว่าพระองค์ได้ทรงแสดงความเมตตาต่อนายข้าพเจ้า.”—4 คำอธิษฐานของคนรับใช้ของอับราฮามได้รับคำตอบเมื่อริบะคาห์ตักน้ำให้อูฐของเขากิน. หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็ไปคะนาอันด้วยกันกับเขาและได้เป็นภรรยาที่ยิศฮาครักมาก. แน่นอน คุณไม่อาจคาดหมายว่าพระเจ้าจะประทานหมายสำคัญแก่คุณเป็นพิเศษ. กระนั้น พระองค์จะทรงชี้นำชีวิตคุณถ้าคุณอธิษฐานและตั้งใจแน่วแน่ว่าจะให้พระวิญญาณของพระองค์นำคุณ.—กลา. 5:18
การอธิษฐานช่วยคลายความวิตกกังวล
5, 6. มีอะไรที่น่าสังเกตเกี่ยวกับคำอธิษฐานของยาโคบเมื่อท่านกำลังจะพบกับเอซาว?
5 การอธิษฐานช่วยลดความวิตกกังวลได้. เพราะกลัวว่าจะได้รับอันตรายจากเอซาวซึ่งเป็นพี่ชายฝาแฝด ยาโคบอธิษฐานดังนี้: “โอ้พระยะโฮวา . . . ข้าพเจ้าไม่สมควรจะรับความกรุณาและความซื่อสัตย์ที่พระองค์ทรงโปรดประทานแก่ข้าพเจ้าผู้เป็นทาสแต่เพียงเล็กน้อยที่สุด . . . ขอพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดช่วยข้าพเจ้าให้พ้นจากมือเอซาวพี่ชายข้าพเจ้า เพราะข้าพเจ้ากลัวเอซาวจะมาตีข้าพเจ้า, ทั้งมารดากับลูกด้วย. พระองค์ก็ได้ตรัสไว้แล้วว่า, ‘เราจะกระทำการดีแก่เจ้าเป็นแท้และกระทำให้พงศ์พันธุ์ของเจ้าทวีมากขึ้นดุจเม็ดทรายในทะเลที่จะนับไม่ถ้วน.’ ”—เย. 32:9-12
6 แม้ว่ายาโคบลงมือทำอะไรบางอย่างที่เป็นการป้องกันไว้ก่อน แต่คำอธิษฐานของท่านได้รับคำตอบโดยที่ท่านกับเอซาวได้กลับคืนดีกัน. (เย. 33:1-4) ขอให้อ่านคำวิงวอนของท่านอย่างละเอียด แล้วคุณจะเห็นว่ายาโคบไม่ได้ทำเพียงแค่วิงวอนขอความช่วยเหลือ. ท่านแสดงความเชื่อในเรื่องผู้สืบเชื้อสายตามคำทรงสัญญาและแสดงความขอบพระคุณที่พระเจ้าทรงเมตตากรุณาท่าน. คุณมี ‘ความกลัวภายใน’ ไหม? (2 โค. 7:5) หากเป็นอย่างนั้น คำวิงวอนของยาโคบอาจช่วยเตือนคุณให้ระลึกว่าคำอธิษฐานช่วยคลายความวิตกกังวลได้. อย่างไรก็ตาม คำอธิษฐานไม่ควรเป็นแค่คำขอ แต่ควรแสดงให้เห็นถึงความเชื่อด้วย.
จงอธิษฐานขอสติปัญญา
7. เหตุใดโมเซจึงอธิษฐานขอให้มีความรู้เกี่ยวกับแนวทางของพระยะโฮวา?
7 ความปรารถนาจะเป็นที่พอพระทัยพระยะโฮวาควรกระตุ้นคุณให้อธิษฐานขอสติปัญญา. โมเซอธิษฐานขอให้มีความรู้เกี่ยวกับแนวทางของพระเจ้า. ท่านวิงวอนว่า “นี่แหละพระองค์ [พระยะโฮวา] ได้ตรัสสั่งให้ข้าพเจ้านำพลไพร่นี้ขึ้นไป [จากอียิปต์] . . . เหตุฉะนี้ถ้าแม้ข้าพเจ้าได้รับความเมตตาต่อพระเนตรของพระองค์แล้ว, ขอพระองค์ทรงโปรดสำแดงพระมรรคาของพระองค์ให้ข้าพเจ้าเห็นในกาลบัดนี้ . . . แล้วจะได้รับความเมตตาต่อพระเนตรของพระองค์เสมอไป.” (เอ็ก. 33:12, 13) พระเจ้าทรงตอบโมเซโดยโปรดให้ท่านมีความรู้เกี่ยวกับแนวทางของพระองค์มากขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับท่านเพื่อใช้ในการนำประชาชนของพระยะโฮวา.
8. คุณอาจได้รับประโยชน์อย่างไรจากการใคร่ครวญ 1 กษัตริย์ 3:7-14?
8 ดาวิดยังอธิษฐานด้วยว่า “ข้าแต่พระยะโฮวา, ขอทรงโปรดให้ข้าพเจ้ารู้ทางของพระองค์.” (เพลง. 25:4) โซโลมอน ราชบุตรของดาวิด วิงวอนขอสติปัญญาจากพระเจ้าเพื่อจะสามารถปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกษัตริย์ของชาติอิสราเอล. คำอธิษฐานของโซโลมอนทำให้พระยะโฮวาพอพระทัย และพระองค์จึงโปรดประทานไม่เพียงแค่สิ่งที่ท่านขอ แต่ยังได้ประทานความมั่งคั่งและเกียรติยศแก่ท่านด้วย. (อ่าน 1 กษัตริย์ 3:7-14) ถ้าคุณได้รับสิทธิพิเศษในการรับใช้ที่ดูเหมือนจะหนักเกินกำลัง จงอธิษฐานขอสติปัญญาและแสดงความถ่อมใจ. แล้วพระเจ้าจะช่วยคุณให้มีความรู้และช่วยคุณ ให้ลงมือปฏิบัติด้วยสติปัญญาที่จำเป็นในการเอาใจใส่หน้าที่รับผิดชอบของคุณด้วยวิธีที่ถูกต้องและเปี่ยมด้วยความรัก.
จงอธิษฐานจากหัวใจ
9, 10. คุณพบจุดสำคัญอะไรเกี่ยวกับการที่โซโลมอนกล่าวอ้างอิงถึงหัวใจในคำอธิษฐาน ณ การอุทิศพระวิหาร?
9 เพื่อพระเจ้าจะทรงฟัง คำอธิษฐานต้องออกมาจากหัวใจ. โซโลมอนอธิษฐานอย่างจริงใจต่อหน้าฝูงชนที่มาชุมนุมกันในกรุงเยรูซาเลมเพื่ออุทิศพระวิหารของพระยะโฮวาในปี 1026 ก่อนสากลศักราช ดังบันทึกไว้ที่ 1 กษัตริย์ บท 8. หลังจากที่ได้นำหีบสัญญามาวางไว้ในห้องบริสุทธิ์ที่สุดและเมฆของพระยะโฮวาปกคลุมพระวิหารแล้ว โซโลมอนก็สรรเสริญพระเจ้า.
10 จงศึกษาคำอธิษฐานของโซโลมอนและสังเกตดูว่าท่านกล่าวอ้างอิงถึงหัวใจไว้อย่างไรในคำอธิษฐานของท่าน. โซโลมอนยอมรับว่าพระยะโฮวาผู้เดียวเท่านั้นที่รู้จักหัวใจของมนุษย์. (1 กษัต. 8:38, 39) คำอธิษฐานเดียวกันนี้แสดงให้เห็นว่ามีความหวังสำหรับผู้ทำผิดที่ ‘กลับมาหาพระเจ้าโดยสุดใจ.’ ถ้าศัตรูจับประชาชนของพระเจ้าไป พระยะโฮวาจะฟังคำวิงวอนของพวกเขา ถ้าหัวใจของพวกเขาอยู่กับพระองค์อย่างครบถ้วน. (1 กษัต. 8:48, 58, 61) ดังนั้น จึงเป็นเรื่องแน่นอนว่าคำอธิษฐานของคุณควรออกมาจากหัวใจ.
บทเพลงสรรเสริญช่วยคุณให้ปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานได้อย่างไร?
11, 12. คุณเรียนอะไรได้จากคำพรรณนาความรู้สึกอย่างจริงใจของชาวเลวีคนหนึ่งซึ่งไม่สามารถไปยังพระวิหารของพระเจ้าอยู่ชั่วระยะหนึ่ง?
11 การศึกษาบทเพลงสรรเสริญช่วยคุณให้ปรับปรุงคำอธิษฐานได้ และช่วยคุณให้รอคอยพระเจ้าตอบคำอธิษฐาน. ขอให้พิจารณาความอดทนของชาวเลวีคนหนึ่งที่ถูกเนรเทศ. แม้เขาไม่สามารถไปที่พระวิหารของพระยะโฮวาอยู่ชั่วระยะหนึ่ง แต่เขาร้องเพลงว่า “จิตต์ของข้าพเจ้าเอ๋ย เหตุไฉนจิตต์ต้องฝ่อลง? เหตุไฉนจิตต์ต้องกระสับกระส่ายอยู่ในตัวของข้าพเจ้า? จงคอยท่าพระเจ้า; เพราะข้าพเจ้าจะยังถวายความสรรเสริญพระองค์ต่อไป, ค่าที่พระองค์ทรงยกชูหน้าข้าพเจ้าให้ชื่นบานและเป็นพระเจ้าของข้าพเจ้า.”—เพลง. 42:5, 11; 43:5
12 คุณเรียนอะไรได้จากชาวเลวีผู้นี้? ถ้าคุณถูกจับและถูกคุมขังเพราะยึดมั่นในความชอบธรรมซึ่งทำให้คุณไม่สามารถอยู่ด้วยกันกับเพื่อนร่วมความเชื่อที่สถานนมัสการอยู่ชั่วระยะหนึ่ง จงรอคอยอย่างอดทนให้พระเจ้าทรงดำเนินการเพื่อคุณ. (เพลง. 37:5) จงใคร่ครวญถึงความยินดีที่เคยมีในอดีตในการรับใช้พระเจ้าและอธิษฐานขอให้มีความเพียรอดทน ขณะที่คุณ “คอยท่าพระเจ้า” ให้ช่วยคุณกลับมาสมทบกับประชาชนของพระองค์อีกครั้งหนึ่ง.
จงอธิษฐานด้วยความเชื่อ
13. สอดคล้องกับยาโกโบ 1:5-8 เหตุใดคุณควรอธิษฐานด้วยความเชื่อ?
13 ไม่ว่าสภาพการณ์ของคุณเป็นอย่างไร จงอธิษฐานด้วยความเชื่อเสมอ. ถ้าความซื่อสัตย์มั่นคงของคุณถูกทดสอบ จงทำตามคำแนะนำของสาวกยาโกโบ. จงหมายพึ่งพระยะโฮวาด้วยการอธิษฐาน และอย่าสงสัยความสามารถของพระองค์ในการประทานสติปัญญาที่จำเป็นแก่คุณเพื่อรับมือกับการทดสอบ. (อ่านยาโกโบ 1:5-8) พระเจ้าทรงรู้ว่าความคิดอะไรที่อาจรบกวนใจคุณอยู่ และพระองค์ทรงสามารถชี้นำและปลอบโยนคุณโดยทางพระวิญญาณของพระองค์. จงระบายความในใจกับพระองค์ด้วยความเชื่อที่เต็มเปี่ยม ‘โดยไม่สงสัยเลย’ และยอมรับการชี้นำจากพระวิญญาณและคำแนะนำจากพระคำของพระองค์.
14, 15. เหตุใดจึงกล่าวได้ว่าฮันนาอธิษฐานและลงมือกระทำด้วยความเชื่อ?
14 ฮันนา ภรรยาคนหนึ่งในสองคนของเอ็ลคานาชาวเลวี อธิษฐานและลงมือกระทำด้วยความเชื่อ. ฮันนาซึ่งเป็นหมันถูกพะนีนา ภรรยาอีกคนหนึ่งซึ่งมีบุตรหลายคน เย้ยหยัน. ที่พลับพลา ฮันนาปฏิญาณว่าถ้าเธอมีบุตรชาย เธอจะถวายบุตรนั้นแด่พระยะโฮวา. เพราะเธอทำปากขมุบขมิบขณะอธิษฐาน มหาปุโรหิตเอลีจึงคิดว่าเธอเมาเหล้า. เมื่อรู้ว่าไม่ใช่อย่างนั้น เขาก็กล่าวว่า “ขอให้พระเจ้าของพวกยิศราเอลทรงโปรดประทาน, ตามที่เจ้าได้อธิษฐานต่อพระองค์นั้น.” แม้ว่าฮันนาไม่รู้อย่างแน่ชัดว่าผลจะเป็นอย่างไร เธอมีความเชื่อว่าคำอธิษฐานของเธอจะได้รับคำตอบ. ด้วยเหตุนั้น หน้าของเธอจึง “ชื่นบานมิได้เศร้าโศกต่อไปอีก.”—1 ซามู. 1:9-18
15 หลังจากคลอดซามูเอลและเขาหย่านมแล้ว ฮันนาก็ถวายเขาแด่พระยะโฮวาเพื่อทำงานรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์ที่พลับพลา. (1 ซามู. 1:19-28) การใช้เวลาใคร่ครวญคำอธิษฐานของเธอในโอกาสนั้นอาจช่วยปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐาน ของคุณเอง และช่วยคุณให้เห็นว่าแม้แต่ความเศร้าเนื่องด้วยปัญหาที่ทำให้ทุกข์ใจก็อาจเอาชนะได้ถ้าคุณอธิษฐานด้วยความเชื่อว่าพระยะโฮวาจะตอบคำอธิษฐานของคุณ.—1 ซามู. 2:1-10
16, 17. มีอะไรเกิดขึ้นเนื่องจากนะเฮมยาอธิษฐานและลงมือกระทำด้วยความเชื่อ?
16 นะเฮมยา ชายผู้เที่ยงธรรมในศตวรรษที่ห้าก่อน ส.ศ. อธิษฐานและลงมือกระทำด้วยความเชื่อ. ท่านวิงวอนว่า “ข้าแต่พระยะโฮวาเจ้า, ข้าพเจ้าอ้อนวอนทูลขอแต่พระองค์, ขอได้ทรงเงี่ยพระโสตทรงโปรดสดับฟังคำอ้อนวอนของข้าพเจ้าผู้ทาสของพระองค์, ทั้งคำอ้อนวอนแห่งผู้ทาสอื่น ๆ ทั้งปวงทุกคนที่ยอมเกรงกลัวพระนามของพระองค์ ขอทรงโปรดแก่ข้าพเจ้าผู้ทาสของพระองค์ให้ได้ความเจริญในกาลวันนี้, และให้มีความชอบต่อหน้าคนนี้.” “คนนี้” หมายถึงใคร? กษัตริย์อาร์ทาเซอร์เซสแห่งเปอร์เซียซึ่งนะเฮมยารับใช้เป็นพนักงานเชิญจอกเสวยนั่นเอง.—นเฮม. 1:11
17 นะเฮมยาอธิษฐานด้วยความเชื่ออยู่หลายวันหลังจากที่รู้ว่าชาวยิวซึ่งถูกปล่อยจากการเป็นเชลยในบาบิโลน “มีความทุกข์ยากได้รับความอับอายเป็นที่ถูกดูหมิ่นนัก กำแพงที่กรุงยะรูซาเลมก็หักพัง.” (นเฮม. 1:3, 4) คำอธิษฐานของนะเฮมยาได้รับคำตอบเกินกว่าที่ท่านคาดหมายเสียอีกเมื่อกษัตริย์อาร์ทาเซอร์เซสอนุญาตให้ท่านไปยังกรุงเยรูซาเลมเพื่อสร้างกำแพงเมืองขึ้นใหม่. (นเฮม. 2:1-8) ไม่นานนัก กำแพงเมืองก็บูรณะเสร็จ. คำอธิษฐานของนะเฮมยาได้รับคำตอบเพราะเป็นคำอธิษฐานที่เน้นเรื่องการนมัสการแท้และทูลขอด้วยความเชื่อ. คำอธิษฐานของคุณเป็นอย่างนั้นไหม?
อย่าลืมสรรเสริญและขอบพระคุณ
18, 19. เพราะเหตุใดผู้รับใช้ของพระยะโฮวาควรสรรเสริญและขอบพระคุณพระองค์?
18 อย่าลืมสรรเสริญและขอบพระคุณพระยะโฮวาในคำอธิษฐาน. มีเหตุผลมากมายที่เราควรทำอย่างนั้น! ตัวอย่างเช่น ดาวิดแสดงความกระตือรือร้นในการยกย่องสรรเสริญพระยะโฮวาในฐานะพระมหากษัตริย์. (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 145:10-13) คำอธิษฐานของคุณแสดงว่าคุณเห็นค่าสิทธิพิเศษในการประกาศเรื่องราชอาณาจักรของพระยะโฮวาไหม? ถ้อยคำของผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญอาจช่วยคุณด้วยให้อธิษฐานถึงพระเจ้าเพื่อแสดงความขอบคุณจากใจจริงสำหรับการประชุมคริสเตียน, การประชุมหมวด, และการประชุมภาค.—เพลง. 27:4; 122:1
19 ความรู้สึกขอบคุณสำหรับสายสัมพันธ์อันล้ำค่าที่คุณมีกับพระเจ้าอาจกระตุ้นคุณให้อธิษฐานจากหัวใจโดยมีความคิดคล้าย ๆ กับคำอธิษฐานนี้ ที่ว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า, ข้าพเจ้าจะขอบพระเดชพระคุณของพระองค์ท่ามกลางชาวประเทศต่าง ๆ; ข้าพเจ้าจะร้องเพลงสรรเสริญพระองค์ท่ามกลางชนประเทศต่าง ๆ. เพราะพระกรุณาคุณของพระองค์มากเทียมสวรรค์, และความสัตย์จริงของพระองค์เทียมท้องฟ้า. ข้าแต่พระเจ้า, ขอให้พระองค์เป็นที่ยกย่องสูงขึ้นไปเหนือฟ้าสวรรค์; ให้พระรัศมีของพระองค์ส่องทั่วไปเหนือแผ่นดินโลก.” (เพลง. 57:9-11) ช่างเป็นคำอธิษฐานที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นใจจริง ๆ! คุณเห็นด้วยมิใช่หรือว่าถ้อยคำที่น่าประทับใจเช่นนั้นจากบทเพลงสรรเสริญอาจช่วยปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานของคุณได้?
จงวิงวอนพระเจ้าด้วยความเคารพยำเกรง
20. มาเรียแสดงความเลื่อมใสพระเจ้าอย่างไร?
20 ความเคารพยำเกรงต่อพระเจ้าควรปรากฏชัดในคำอธิษฐานของคุณ. ไม่นานหลังจากที่รู้ว่าเธอจะเป็นมารดาของพระมาซีฮา ถ้อยคำที่แสดงความเคารพยำเกรงของมาเรียคล้ายคลึงกับคำอธิษฐานของนางฮันนาเมื่อเธอถวายเด็กน้อยซามูเอลให้รับใช้ในพลับพลา. ความเคารพยำเกรงของมาเรียที่มีต่อพระเจ้านั้นเห็นได้ชัดในคำพูดของเธอที่ว่า “ฉันขอยกย่องพระยะโฮวา ฉันอดใจไม่ปลาบปลื้มยินดีในพระเจ้าพระผู้ช่วยให้รอดลูกา 1:46, 47) คำอธิษฐานของคุณจะมีคุณภาพดีขึ้นโดยแสดงความรู้สึกคล้าย ๆ กันนั้นได้ไหม? ไม่ต้องสงสัยเลยที่มาเรีย ซึ่งเป็นคนเลื่อมใสพระเจ้า ได้รับเลือกให้เป็นมารดาของพระเยซูผู้เป็นพระมาซีฮา!
ของฉันไม่ได้.” (21. คำอธิษฐานของพระเยซูแสดงให้เห็นอย่างไรว่าพระองค์ทรงมีความเคารพยำเกรงและความเชื่อ?
21 พระเยซูทรงอธิษฐานอย่างเคารพยำเกรงด้วยความเชื่อเต็มเปี่ยม. ตัวอย่างเช่น ก่อนพระองค์จะปลุกลาซะโรให้เป็นขึ้นจากตาย “พระเยซูก็แหงนพระพักตร์มองท้องฟ้าทูลว่า ‘ข้าแต่พระบิดา ข้าพเจ้าขอบพระคุณที่ทรงฟังคำทูลของข้าพเจ้า. ที่จริง ข้าพเจ้ารู้อยู่ว่าพระองค์ทรงฟังคำทูลของข้าพเจ้าเสมอ.’ ” (โย. 11:41, 42) คำอธิษฐานของคุณแสดงให้เห็นไหมว่าคุณมีความเคารพยำเกรงและความเชื่อเช่นนั้น? จงศึกษาคำอธิษฐานแบบอย่างของพระเยซูที่แสดงความเคารพยำเกรง แล้วคุณจะเห็นว่าส่วนที่สำคัญเป็นพิเศษของคำอธิษฐานนั้นก็คือการทำให้พระนามพระยะโฮวาเป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์, การมาของราชอาณาจักร, และการทำให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จ. (มัด. 6:9, 10) ขอให้นึกถึงคำอธิษฐานของตัวคุณเอง. คำอธิษฐานของคุณสะท้อนให้เห็นไหมว่าคุณสนใจอย่างยิ่งในราชอาณาจักรของพระยะโฮวา, ในการทำตามพระประสงค์ของพระองค์, และในการทำให้พระนามของพระองค์เป็นที่นับถืออันบริสุทธิ์? คำอธิษฐานของคุณควรเป็นอย่างนั้น.
22. เหตุใดคุณจึงมั่นใจว่าพระยะโฮวาจะประทานความกล้าแก่คุณในการประกาศข่าวดี?
22 เนื่องจากผู้รับใช้พระเจ้าถูกข่มเหงหรือถูกทดสอบ คำวิงวอนขอความช่วยเหลือเพื่อจะสามารถรับใช้พระยะโฮวาอย่างกล้าหาญจึงมักรวมอยู่ในคำอธิษฐานของพวกเขาด้วย. เมื่อศาลสูงซันเฮดรินสั่งเปโตรและโยฮันไม่ให้ “สอนในนามของพระเยซู” เหล่าอัครสาวกแสดงความกล้าหาญโดยไม่ยอมเลิกสอนตามที่ถูกสั่ง. (กิจ. 4:18-20) หลังจากถูกปล่อยตัวแล้ว พวกเขาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อนร่วมความเชื่อฟัง. แล้วทุกคนที่อยู่ที่นั่นก็วิงวอนต่อพระเจ้าขอพระองค์ช่วยพวกเขาให้กล่าวพระคำของพระองค์อย่างกล้าหาญ. คงต้องเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นสักเพียงไรเมื่อคำอธิษฐานนั้นได้รับคำตอบ เพราะพวกเขา “เปี่ยมด้วยพระวิญญาณบริสุทธิ์และกล่าวพระคำของพระเจ้าด้วยความกล้าหาญ”! (อ่านกิจการ 4:24-31) ผลก็คือ มีผู้คนมากมายได้เข้ามาเป็นผู้นมัสการพระยะโฮวา. คำอธิษฐานสามารถเสริมกำลังคุณด้วยเพื่อจะประกาศข่าวดีอย่างกล้าหาญ.
จงปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานของคุณต่อ ๆ ไป
23, 24. (ก) จงยกตัวอย่างอื่น ๆ ที่แสดงให้เห็นวิธีที่การศึกษาคัมภีร์ไบเบิลสามารถปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานของคุณ. (ข) คุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานของคุณ?
23 มีตัวอย่างอื่น ๆ อีกมากมายที่จะอ้างถึงได้ซึ่งแสดงว่าการอ่านและการศึกษาคัมภีร์ไบเบิลสามารถปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานของคุณได้. เพื่อเป็นตัวอย่าง คุณสามารถยอมรับในคำอธิษฐานเช่นเดียวกับโยนาห์ว่า “ความรอดนั้นมาจากพระยะโฮวา.” (โยนา 2:1-10) ถ้าคุณไม่สบายใจเพราะพลาดพลั้งทำผิดร้ายแรงและได้ขอความช่วยเหลือจากผู้ปกครอง ความรู้สึกจากใจจริงของดาวิดดังบันทึกไว้ในบทเพลงสรรเสริญอาจช่วยคุณให้แสดงการกลับใจเมื่อคุณอธิษฐานเป็นส่วนตัว. (เพลง. 51:1-12) ในบางครั้ง คุณอาจสรรเสริญพระยะโฮวาในคำอธิษฐานเช่นเดียวกับยิระมะยาห์. (ยิระ. 32:16-19) ถ้าคุณกำลังมองหาคนที่จะเป็นคู่ครอง การศึกษาคำอธิษฐานที่พบในเอษราบท 9 พร้อมกับการวิงวอนของตัวคุณเอง สามารถเสริมให้คุณตั้งใจแน่วแน่ยิ่งขึ้นที่จะเชื่อฟังพระเจ้าด้วยการแต่งงานเฉพาะกับ “ผู้ที่เชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า” เท่านั้น.—1 โค. 7:39; เอษรา 9:6, 10-15
24 จงอ่าน, ศึกษา, และค้นดูคัมภีร์ไบเบิลต่อ ๆ ไป. จงมองหาจุดที่คุณสามารถนำมาใช้ในคำอธิษฐานของคุณ. คุณอาจสามารถนำแง่คิดที่ได้จากพระคัมภีร์มาใช้กับคำวิงวอนและคำอธิษฐานของคุณที่แสดงการขอบพระคุณและสรรเสริญพระเจ้า. คุณมั่นใจได้ว่าคุณจะมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระยะโฮวาพระเจ้ามากขึ้นเมื่อคุณปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานของคุณด้วยการศึกษาคัมภีร์ไบเบิล.
คุณจะตอบอย่างไร?
• เหตุใดเราควรขอและปฏิบัติตามการชี้นำจากพระเจ้า?
• อะไรควรกระตุ้นเราให้อธิษฐานขอสติปัญญา?
• หนังสือบทเพลงสรรเสริญสามารถปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานของคุณได้อย่างไร?
• เหตุใดเราควรอธิษฐานด้วยความเชื่อและด้วยความเคารพยำเกรง?
[คำถาม]
[ภาพหน้า 8]
คนรับใช้ของอับราฮามอธิษฐานขอการชี้นำจากพระเจ้า. คุณทำอย่างนั้นไหม?
[ภาพหน้า 10]
การนมัสการประจำครอบครัวสามารถปรับปรุงคุณภาพคำอธิษฐานของคุณได้