ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การอ่านคัมภีร์ไบเบิลเสริมกำลังผมตลอดชีวิต

การอ่านคัมภีร์ไบเบิลเสริมกำลังผมตลอดชีวิต

การ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​เสริม​กำลัง​ผม​ตลอด​ชีวิต

เล่า​โดย มาร์โซ เลอรัว

“เมื่อ​เดิม​พระเจ้า​ได้​นฤมิต​สร้าง​ฟ้า​และ​ดิน” ผม​เริ่ม​อ่าน​หนังสือ​ที่​ขึ้น​ต้น​อย่าง​นี้​ใน​ห้อง​ส่วน​ตัว​ของ​ผม. ทำไม​ผม​ต้อง​อ่าน​อย่าง​ลับ ๆ? เพราะ​พ่อ​ผม​ซึ่ง​ไม่​เชื่อ​เรื่อง​พระเจ้า​เลย​ต้อง​ไม่​ชอบ​ใจ​แน่ ๆ กับ​หนังสือ​ที่​อยู่​ใน​มือ​ผม คือ​คัมภีร์​ไบเบิล.

ผม​ไม่​เคย​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​มา​ก่อน และ​ประโยค​แรก​ของ​หนังสือ​เยเนซิศ​ทำ​ให้​ผม​ตะลึงงัน​เหมือน​โดน​สาย​ฟ้า​ฟาด. ผม​คิด​ว่า ‘นี่​แหละ​เป็น​คำ​อธิบาย​ว่า​ทำไม​กฎ​ต่าง ๆ ที่​ควบคุม​สสาร​และ​พลัง​งาน​จึง​สอดคล้อง​ลง​รอย​กัน​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​ผม​รู้สึก​ทึ่ง​มา​โดย​ตลอด!’ เหมือน​ถูก​สะกด ผม​อ่าน​ตั้ง​แต่​สอง​ทุ่ม​จน​ถึง​ตี​สี่. แล้ว​ผม​ก็​เริ่ม​อ่าน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​จน​เป็น​นิสัย​ไป​ตลอด​ชีวิต. ขอ​ให้​ผม​อธิบาย​ว่า​การ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​เสริม​กำลัง​ผม​มา​ชั่ว​ชีวิต​อย่าง​ไร.

“แก​จะ​ต้อง​อ่าน​มัน​ทุก​วัน​เลย​นะ!”

ผม​เกิด​ใน​ปี 1926 ที่​เวอร์เมลส์ หมู่​บ้าน​ซึ่ง​ทำ​เหมือง​ถ่าน​หิน​ทาง​ตอน​เหนือ​ของ​ฝรั่งเศส. ระหว่าง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง ถ่าน​หิน​เป็น​สินค้า​ที่​มี​ความ​สำคัญ​มาก​ต่อ​ประเทศ​ชาติ. เพราะ​ผม​เป็น​คน​งาน​เหมือง ผม​จึง​ได้​รับ​การ​ยก​เว้น​ไม่​ต้อง​เป็น​ทหาร. ถึง​กระนั้น เพื่อ​จะ​ปรับ​ปรุง​ความ​เป็น​อยู่​ของ​ผม​ให้​ดี​ขึ้น ผม​เริ่ม​ศึกษา​วิชา​วิทยุ​และ​ไฟฟ้า ซึ่ง​ทำ​ให้​ผม​ประทับใจ​ใน​ความ​สอดคล้อง​ลง​รอย​กัน​ของ​กฎ​ต่าง ๆ ที่​ควบคุม​สสาร​และ​พลัง​งาน. เมื่อ​ผม​อายุ 21 ปี เพื่อน​ที่​เรียน​ด้วย​กัน​คน​หนึ่ง​ยื่น​คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​ผม​ได้​สัมผัส​เป็น​ครั้ง​แรก และ​พูด​ว่า “นี่​คือ​หนังสือ​ที่​ควร​อ่าน.” เมื่อ​ผม​อ่าน​จบ ผม​ก็​มั่น​ใจ​ว่า​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า ซึ่ง​เปิด​เผย​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​มนุษยชาติ.

เนื่อง​จาก​ผม​คิด​ว่า​เพื่อน​บ้าน​คง​จะ​ตื่นเต้น​ด้วย​ถ้า​ได้​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล ผม​จึง​หา​มา​อีก​แปด​เล่ม. แล้ว​ผม​ก็​ต้อง​แปลก​ใจ​ที่​ถูก​เยาะเย้ย​และ​ต่อ​ต้าน. ญาติ​บาง​คน​ที่​เชื่อ​โชค​ลาง​เตือน​ผม​ว่า “ถ้า​แก​เริ่ม​อ่าน​หนังสือ​นี้​เมื่อ​ไร แก​จะ​ต้อง​อ่าน​มัน​ทุก​วัน​เลย​นะ!” ผม​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทุก​วัน​จริง ๆ และ​ผม​ไม่​เคย​เสียใจ​เลย​ที่​ทำ​อย่าง​นี้. การ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​กลาย​เป็น​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ​ของ​ผม​มา​โดย​ตลอด.

เมื่อ​เพื่อน​บ้าน​บาง​คน​รู้​ว่า​ผม​สนใจ​พระ​คัมภีร์ พวก​เขา​ก็​เอา​หนังสือ​ที่​รับ​จาก​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มา​ให้​ผม. หนังสือ​เล่ม​เล็ก​หลาย​เล่ม เช่น โลก​เดียว รัฐบาล​เดียว * (ใน​รูป​เป็น​ภาษา​ฝรั่งเศส) อธิบาย​ว่า​ทำไม​คัมภีร์​ไบเบิล​จึง​ชี้​ว่า​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​เป็น​ความ​หวัง​เพียง​อย่าง​เดียว​สำหรับ​มนุษยชาติ. (มัด. 6:10) ผม​ตั้งใจ​แน่วแน่​ยิ่ง​ขึ้น​ว่า​จะ​ต้อง​บอก​ความ​หวัง​นี้​แก่​คน​อื่น ๆ.

คน​แรก​ที่​ยอม​รับ​คัมภีร์​ไบเบิล​จาก​ผม​คือ​โนเอล เพื่อน​ใน​วัย​เด็ก​ของ​ผม. เนื่อง​จาก​เพื่อน​คน​นี้​เป็น​คาทอลิก​ที่​ถือ​เคร่ง เขา​นัด​หมาย​ให้​เรา​พบ​กับ​ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​กำลัง​ศึกษา​เพื่อ​จะ​เป็น​บาทหลวง. ผม​รู้สึก​กลัว แต่​ผม​รู้​จาก​ที่​อ่าน​ใน​บทเพลง​สรรเสริญ 115:4-8 และ​มัดธาย 23:9, 10 ว่า​พระเจ้า​ไม่​ทรง​เห็น​ชอบ​กับ​การ​ใช้​รูป​เคารพ​ใน​การ​นมัสการ​และ​การ​เรียก​นัก​บวช​ด้วย​ชื่อ​ตำแหน่ง​ทาง​ศาสนา. เพราะ​รู้​อย่าง​นี้ ผม​จึง​กล้า​ปก​ป้อง​ความ​เชื่อ​ที่​ผม​เพิ่ง​พบ. ผล​ก็​คือ โนเอล​ตอบรับ​ความ​จริง และ​เขา​ยัง​คง​เป็น​พยาน​ฯ ที่​ซื่อ​สัตย์​จน​ถึง​ทุก​วัน​นี้.

ผม​ไป​เยี่ยม​พี่​สาว​ของ​ผม​ด้วย. สามี​ของ​เธอ​มี​หนังสือ​หลาย​เล่ม​เกี่ยว​กับ​ลัทธิ​ผี​ปิศาจ​และ​กำลัง​ถูก​พวก​ปิศาจ​รังควาน. แม้​ว่า​ใน​ตอน​แรก​ผม​รู้สึก​ว่า​ตัว​เอง​ไม่​มี​อำนาจ​จะ​ไป​ต่อ​กร​กับ​พวก​ปิศาจ​ได้ แต่​ข้อ​คัมภีร์​บาง​ข้อ เช่น ฮีบรู 1:14 ทำ​ให้​ผม​เชื่อ​มั่น​ว่า​ผม​ได้​รับ​การ​หนุน​หลัง​จาก​ทูตสวรรค์​ของ​พระ​ยะโฮวา. เมื่อ​พี่​เขย​ของ​ผม​นำ​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ไป​ใช้​และ​ขจัด​ทุก​สิ่ง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ศาสตร์​ลี้​ลับ เขา​ก็​สามารถ​หลุด​พ้น​จาก​อิทธิพล​ของ​พวก​ปิศาจ. ทั้ง​พี่​เขย​และ​พี่​สาว​ของ​ผม​ได้​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า.

ใน​ปี 1947 อาร์เทอร์ เอเมียต พยาน​ฯ ชาว​อเมริกัน​คน​หนึ่ง มา​เยี่ยม​ผม​ที่​บ้าน. ผม​ถาม​เขา​ด้วย​ความ​ตื่นเต้น​ว่า​พยาน​ฯ ประชุม​กัน​ที่​ไหน. เขา​บอก​ผม​ว่า​มี​พยาน​ฯ กลุ่ม​หนึ่ง​ที่​ลีเยแวง ซึ่ง​อยู่​ห่าง​จาก​บ้าน​ผม​ประมาณ​สิบ​กิโลเมตร. ใน​สมัย​นั้น แม้​แต่​จักรยาน​สัก​คัน​ก็​ยัง​หา​ได้​ยาก ผม​จึง​ต้อง​เดิน​ไป​และ​กลับ​จาก​การ​ประชุม​เป็น​เวลา​หลาย​เดือน. การ​งาน​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​ฝรั่งเศส​ถูก​สั่ง​ห้าม​มา​แปด​ปี​แล้ว. มี​พยาน​ฯ ทั่ว​ประเทศ​เพียง​แค่ 2,380 คน และ​หลาย​คน​เป็น​ผู้​อพยพ​ชาว​โปแลนด์. แต่​ใน​วัน​ที่ 1 กันยายน 1947 งาน​ของ​เรา​ใน​ฝรั่งเศส​ก็​ได้​รับ​การ​ยอม​รับ​ตาม​กฎหมาย​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. มี​การ​ตั้ง​สำนักงาน​สาขา​ขึ้น​อีก​ครั้ง​ที่​วีลลา กุยแบต์​ใน​กรุง​ปารีส. เนื่อง​จาก​ไม่​มี​ไพโอเนียร์​แม้​แต่​คน​เดียว​ใน​ฝรั่งเศส ใบ​แจ้ง​ข่าว (ปัจจุบัน​เรียก​ว่า​พระ​ราชกิจ​ของ​เรา) เดือน​ธันวาคม 1947 จึง​ร้อง​ขอ​ให้​พี่​น้อง​สมัคร​ไพโอเนียร์​ประจำ ซึ่ง​จะ​ประกาศ 150 ชั่วโมง​ใน​แต่​ละ​เดือน. (ใน​ปี 1949 ข้อ​เรียก​ร้อง​เรื่อง​ชั่วโมง​ลด​ลง​เหลือ 100 ชั่วโมง) เนื่อง​จาก​เห็น​ด้วย​อย่าง​เต็ม​ที่​กับ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​โยฮัน 17:17 ที่​ว่า “คำ​ของ [พระเจ้า] เป็น​ความ​จริง” ผม​จึง​รับ​บัพติสมา​ใน​ปี 1948 และ​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​เดือน​ธันวาคม 1949.

จาก​คุก​กลับ​ไป​สู่​ดังเคิร์ก

ผม​รับใช้​ช่วง​สั้น ๆ ใน​เขต​มอบหมาย​แรก​คือ​ที่​อา​ชอง ซึ่ง​อยู่​ทาง​ตอน​ใต้​ของ​ฝรั่งเศส. เนื่อง​จาก​ผม​ออก​จาก​งาน​เหมือง ผม​จึง​ถูก​หมาย​เรียก​ให้​ไป​เป็น​ทหาร. ผม​ไม่​ยอม​เข้า​ร่วม​กับ​กองทัพ ผม​จึง​ถูก​ส่ง​เข้า​คุก. แม้​ว่า​ผม​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​เอา​คัมภีร์​ไบเบิล​เข้า​ไป แต่​ผม​ก็​มี​หนังสือ​บทเพลง​สรรเสริญ​อยู่​สอง​สาม​แผ่น. การ​อ่าน​ข้อ​คัมภีร์​เหล่า​นี้​ทำ​ให้​ผม​มี​กำลังใจ. เมื่อ​ผม​ถูก​ปล่อย ผม​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​ผม​จะ​หยุด​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​เพื่อ​จะ​ตั้ง​หลัก​ปัก​ฐาน​ไหม? อีก​ครั้ง​หนึ่ง สิ่ง​ที่​ผม​อ่าน​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​ช่วย​ผม. ผม​ใคร่ครวญ​คำ​พูด​ของ​เปาโล​ที่​ฟิลิปปอย 4:11-13 ที่​ว่า “ข้าพเจ้า​มี​กำลัง​สำหรับ​ทุก​สิ่ง​โดย​พระองค์​ผู้​ทรง​ประทาน​กำลัง​แก่​ข้าพเจ้า.” ผม​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​เป็น​ไพโอเนียร์​ต่อ​ไป. ใน​ปี 1950 ผม​ได้​รับ​เขต​งาน​มอบหมาย​ใหม่​ที่​ดังเคิร์ก เมือง​ที่​ผม​เคย​ประกาศ​มา​ก่อน.

เมื่อ​ไป​ถึง​ที่​นั่น ผม​ไม่​มี​อะไร​เลย. เมือง​นี้​ได้​รับ​ความ​เสียหาย​อย่าง​หนัก​ใน​ช่วง​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่​สอง และ​ที่​พัก​อาศัย​ก็​หา​ได้​ยาก. ผม​ตัดสิน​ใจ​ไป​หา​ครอบครัว​หนึ่ง​ซึ่ง​ผม​เคย​ประกาศ และ​ภรรยา​เจ้าของ​บ้าน​หลัง​นี้​ดีใจ​มาก: “โอ้ คุณ​เลอรัว คุณ​ถูก​ปล่อย​แล้ว! สามี​ฉัน​บอก​ว่า​ถ้า​มี​คน​อย่าง​คุณ​มาก ๆ คง​จะ​ไม่​มี​สงคราม​แน่ ๆ.” สามี​ภรรยา​คู่​นี้​มี​ห้อง​พัก​ให้​เช่า พวก​เขา​จึง​เชิญ​ผม​ให้​พัก​ที่​นั่น​จน​กว่า​จะ​ถึง​ฤดู​ท่อง​เที่ยว. วัน​เดียว​กัน​นั้น​เอง อีแวนส์ พี่​ชาย​ของ​อาร์เทอร์ เอเมียต ก็​เสนอ​งาน​ให้​ผม​ทำ. * เขา​เป็น​ล่าม​ที่​ท่า​เรือ​และ​กำลัง​มอง​หา​คน​มา​เป็น​ยาม​เฝ้า​เรือ​กะ​กลางคืน. เขา​แนะ​นำ​ผม​ให้​รู้​จัก​นาย​เรือ​คน​หนึ่ง. หลัง​จาก​ใช้​ชีวิต​ใน​คุก ผม​ผอม​กะหร่อง​เหมือน​กุ้ง​แห้ง. เมื่อ​อีแวนส์​อธิบาย​ว่า​ทำไม​ผม​จึง​ผอม​อย่าง​นั้น นาย​เรือ​คน​นั้น​ก็​บอก​ผม​ให้​ไป​หา​อะไร​จาก​ตู้​เย็น​มา​กิน. ใน​วัน​นั้น ผม​ได้​ที่​พัก ได้​งาน และ​ได้​อาหาร! ผม​จึง​เชื่อ​มั่น​ใน​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ซึ่ง​บันทึก​ไว้​ที่​มัดธาย 6:25-33 มาก​ยิ่ง​ขึ้น​กว่า​เดิม.

เมื่อ​ถึง​ฤดู​ท่อง​เที่ยว ผม​กับ​ไซมอน อะพอลินาร์สกี คู่​ไพโอเนียร์​ของ​ผม ก็​ต้อง​หา​ที่​พัก​ใหม่ แต่​เรา​ตั้งใจ​แน่วแน่​ว่า​จะ​ทำ​งาน​มอบหมาย​ของ​เรา​ต่อ​ไป. มี​คน​เสนอ​ให้​เรา​พัก​ที่​คอก​ม้า​เก่า​แห่ง​หนึ่ง ซึ่ง​เรา​นอน​กัน​บน​ฟูก​ฟาง. เรา​ใช้​เวลา​ทั้ง​หมด​ไป​กับ​งาน​รับใช้. เรา​ประกาศ​กับ​เจ้าของ​คอก​ม้า และ​เขา​ได้​กลาย​มา​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​จำนวน​หลาย ๆ คน​ที่​ตอบรับ​ความ​จริง. ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น​ก็​มี​บทความ​หนึ่ง​ลง​ใน​หนังสือ​พิมพ์​ท้องถิ่น เตือน​ชาว​ดังเคิร์ก​เกี่ยว​กับ “กิจกรรม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​กำลัง​แพร่​ระบาด​ใน​ท้องถิ่น​นี้.” ถึง​กระนั้น มี​เพียง​แค่​ผม​กับ​ไซมอน​และ​ผู้​ประกาศ​คน​อื่น ๆ อีก​ไม่​กี่​คน​เท่า​นั้น​ที่​อยู่​ที่​นั่น! เมื่อ​ประสบ​ความ​ยุ่งยาก เรา​ได้​รับ​กำลังใจ​จาก​การ​ใคร่ครวญ​เรื่อง​ความ​หวัง​ของ​คริสเตียน​และ​พิจารณา​วิธี​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ดู​แล​เรา. เมื่อ​ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​รับใช้​ที่​อื่น​ใน​ปี 1952 มี​ผู้​ประกาศ​ที่​สม่ำเสมอ​ราว ๆ 30 คน​ใน​ดังเคิร์ก.

ได้​รับ​การ​เสริม​กำลัง​สำหรับ​การ​ทำ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ใหม่

หลัง​จาก​ที่​อยู่​ใน​เมือง​อามียอง​ได้​ไม่​นาน ผม​ก็​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ให้​ไป​รับใช้​ที่​บูโลญ-บียองกูร์ ย่าน​ชาน​เมือง​ของ​กรุง​ปารีส. ผม​มี​นัก​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​หลาย​ราย และ​ต่อ​มา​บาง​คน​ได้​รับใช้​เต็ม​เวลา​และ​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี. กี มาบีลาต์ เด็ก​หนุ่ม​คน​หนึ่ง​ได้​ตอบรับ​ความ​จริง​และ​ก้าว​หน้า​จน​ได้​รับใช้​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด​และ​ภาย​หลัง​เป็น​ผู้​ดู​แล​ภาค. ใน​เวลา​ต่อ​มา เขา​ทำ​หน้า​ที่​ดู​แล​การ​ก่อ​สร้าง​โรง​พิมพ์​ของ​เบเธล​ปัจจุบัน​ที่​ลูวีเย ซึ่ง​อยู่​นอก​กรุง​ปารีส. การ​พิจารณา​คัมภีร์​ไบเบิล​บ่อย ๆ ใน​งาน​รับใช้​ทำ​ให้​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ฝัง​แน่น​อยู่​ใน​ความ​คิด​จิตใจ​ของ​ผม​มาก​ขึ้น ทำ​ให้​ผม​ยินดี​และ​สามารถ​ปรับ​ปรุง​ทักษะ​ใน​การ​สอน​ให้​ดี​ขึ้น.

ต่อ​มา​ใน​ปี 1953 โดย​ไม่​เคย​คาด​คิด​มา​ก่อน ผม​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ดู​แล​หมวด​ใน​อัลซาซ-ลอร์เรน ซึ่ง​เป็น​แคว้น​ที่​ถูก​ผนวก​เข้า​กับ​ประเทศ​เยอรมนี​ถึง​สอง​ครั้ง​ใน​ช่วง​ปี 1871 ถึง​ปี 1945. ผม​จึง​ต้อง​เรียน​ภาษา​เยอรมัน​บ้าง. เมื่อ​ผม​เริ่ม​งาน​หมวด ใน​ภูมิภาค​นั้น​มี​รถ​ไม่​กี่​คัน มี​โทรทัศน์​ไม่​กี่​เครื่อง แม้​แต่​เครื่อง​พิมพ์ดีด​ก็​มี​ไม่​มาก และ​ไม่​มี​วิทยุ​ทรานซิสเตอร์​หรือ​เครื่อง​คอมพิวเตอร์​ส่วน​บุคคล. แต่​ชีวิต​ผม​ไม่​เคย​เศร้า​หมอง​หรือ​ขาด​สี​สัน. ที่​จริง นั่น​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​ผม​ยินดี​มาก​ที่​สุด. การ​ทำ​ตาม​คำ​แนะ​นำ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ให้ ‘ตา​มอง​ที่​สิ่ง​เดียว’ เสมอ​จึง​ทำ​ได้​ง่าย​กว่า​เพราะ​มี​สิ่ง​ล่อ​ใจ​ที่​ทำ​ให้​เขว​จาก​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​น้อย​กว่า​ใน​สมัย​ปัจจุบัน.—มัด. 6:19-22

การ​ประชุม “ราชอาณาจักร​ที่​มี​ชัย” ใน​ปี 1955 ที่​กรุง​ปารีส​เป็น​โอกาส​หนึ่ง​ที่​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​ผม​ไม่​รู้​ลืม. ที่​นั่น ผม​พบ​กับ​อีแรน โกลันสกี ซึ่ง​ภาย​หลัง​ได้​กลาย​มา​เป็น​ภรรยา​ของ​ผม. เธอ​เริ่ม​รับใช้​เต็ม​เวลา​ก่อน​ผม​ปี​หนึ่ง. พ่อ​แม่​ของ​เธอ​ซึ่ง​เป็น​ชาว​โปแลนด์​เป็น​พยาน​ฯ ที่​กระตือรือร้น​มา​นาน​แล้ว. อะดอล์ฟ เวเบอร์ เยี่ยม​ครอบครัว​นี้​ใน​ประเทศ​ฝรั่งเศส. เขา​เคย​เป็น​คน​ทำ​สวน​ของ​บราเดอร์​รัสเซลล์​และ​ได้​มา​ที่​ยุโรป​เพื่อ​ประกาศ​ข่าว​ดี. ผม​กับ​อีแรน​แต่งงาน​กัน​ใน​ปี 1956 และ​เธอ​ก็​ไป​ด้วย​กัน​กับ​ผม​ใน​งาน​เดิน​หมวด. เธอ​สนับสนุน​ผม​เป็น​อย่าง​ดี​ตลอด​หลาย​ปี!

สอง​ปี​ต่อ​มา ก็​มี​เรื่อง​ที่​ทำ​ให้​ผม​ประหลาด​ใจ​อีก—ผม​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ดู​แล​ภาค. ถึง​กระนั้น เนื่อง​จาก​ขาด​พี่​น้อง​ชาย​ที่​มี​คุณวุฒิ ผม​ยัง​คง​เยี่ยม​ประชาคม​ต่าง ๆ ต่อ​ไป​ใน​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​หมวด. ช่าง​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​มี​งาน​ยุ่ง​จริง ๆ! นอก​จาก​จะ​ประกาศ​เดือน​ละ 100 ชั่วโมง​แล้ว แต่​ละ​สัปดาห์​ผม​ต้อง​บรรยาย นำ​การ​ศึกษา​หนังสือ​ประจำ​ประชาคม​สาม​แห่ง ตรวจ​รายงาน​ต่าง ๆ และ​เขียน​รายงาน. ผม​จะ​หา​เวลา​อ่าน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ได้​อย่าง​ไร? ผม​เห็น​ว่า​มี​ทาง​แก้​ปัญหา​เพียง​อย่าง​เดียว คือ​ตัด​หนังสือ​คัมภีร์​ไบเบิล​เก่า​เล่ม​หนึ่ง​ออก​เป็น​แผ่น ๆ แล้ว​ก็​เก็บ​บาง​ส่วน​ไว้​กับ​ตัว. เมื่อ​ไร​ก็​ตาม​ที่​ผม​ต้อง​คอย​ใคร​บาง​คน​ที่​นัด​หมาย​กัน​ไว้ ผม​ก็​จะ​ควัก​เอา​หน้า​เหล่า​นั้น​ออก​มา​อ่าน. ช่วง​เวลา​สั้น ๆ ที่​ให้​ความ​สดชื่น​ฝ่าย​วิญญาณ​นี้​เสริม​ความ​ตั้งใจ​แน่วแน่​ให้​ผม​ทำ​งาน​มอบหมาย​ต่อ​ไป.

ใน​ปี 1967 ผม​กับ​อีแรน​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​เป็น​สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล​ใน​บูโลญ-บียองกูร์. ผม​เริ่ม​งาน​ใน​แผนก​การ​รับใช้ และ 40 กว่า​ปี​ต่อ​มา ผม​ก็​ยัง​คง​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​รับใช้​ใน​แผนก​นี้. แง่​มุม​หนึ่ง​ที่​น่า​ยินดี​ใน​งาน​ของ​ผม​ก็​คือ​การ​ตอบ​จดหมาย​ที่​ถาม​เรื่อง​ต่าง ๆ เกี่ยว​กับ​คัมภีร์​ไบเบิล. ผม​ยินดี​จริง ๆ ที่​ได้​ขุด​ลึก​ลง​ไป​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​ได้ “ปก​ป้อง​ข่าว​ดี”! (ฟิลิป. 1:7) นอก​จาก​นั้น ผม​ยัง​ยินดี​ที่​ได้​นำ​การ​พิจารณา​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​การ​นมัสการ​ตอน​เช้า​ก่อน​รับประทาน​อาหาร. ใน​ปี 1976 ผม​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​สาขา​ประเทศ​ฝรั่งเศส.

วิถี​ชีวิต​ที่​ดี​ที่​สุด

แม้​ว่า​ผม​ผ่าน​ช่วง​เวลา​ที่​ยาก​ลำบาก​มา​หลาย​ครั้ง แต่​ช่วง​เวลา​ที่​ท้าทาย​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​ของ​ผม​ก็​คือ​ตอน​นี้​ที่​ผม​อายุ​มาก​แล้ว​และ​ปัญหา​สุขภาพ​ทำ​ให้​ผม​กับ​อีแรน​ทำ​อะไร ๆ ได้​ไม่​เต็ม​ที่​เหมือน​เมื่อ​ก่อน. ถึง​กระนั้น การ​อ่าน​และ​การ​ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ด้วย​กัน​ช่วย​รักษา​ความ​หวัง​ของ​เรา​ให้​แจ่ม​ชัด​อยู่​เสมอ. เรา​ชอบ​ที่​จะ​นั่ง​รถ​ประจำ​ทาง​ไป​ยัง​เขต​ของ​ประชาคม​เพื่อ​บอก​เล่า​ความ​หวัง​นี้​แก่​คน​อื่น ๆ. ประสบการณ์​ของ​เรา​ใน​การ​รับใช้​เต็ม​เวลา​ซึ่ง​เมื่อ​รวม​กัน​แล้ว​มี​มาก​กว่า 120 ปี​กระตุ้น​เรา​ให้​แนะ​นำ​แนว​ทาง​นี้​แก่​ทุก​คน​ที่​อยาก​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​ที่​น่า​ตื่นเต้น น่า​ยินดี และ​มี​คุณค่า. เมื่อ​กษัตริย์​ดาวิด​เขียน​ข้อ​ความ​ใน​บทเพลง​สรรเสริญ 37:25 ท่าน​ก็ “ชรา​แล้ว” แต่​เช่น​เดียว​กับ​ท่าน ผม “ยัง​ไม่​เคย​เห็น​คน​สัตย์​ธรรม​ต้อง​ถูก​ละ​ทิ้ง​เสีย.”

ตลอด​ชีวิต​ผม พระ​ยะโฮวา​ได้​เสริม​กำลัง​ผม​โดย​พระ​คำ​ของ​พระองค์. ญาติ ๆ ของ​ผม​ทำนาย​ไว้​เมื่อ​หก​สิบ​กว่า​ปี​ที่​แล้ว​ว่า​ผม​จะ​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​นิสัย​ไป​ตลอด​ชีวิต. พวก​เขา​พูด​ถูก. ผม​อ่าน​คัมภีร์​ไบเบิล​ทุก​วัน​จน​เป็น​นิสัย และ​นั่น​เป็น​นิสัย​ที่​ผม​ไม่​เคย​เสียใจ​เลย!

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 8 พิมพ์​ใน​ปี 1944 ปัจจุบัน​ไม่​พิมพ์​แล้ว.

^ วรรค 14 สำหรับ​ข้อมูล​เพิ่ม​เติม​เกี่ยว​กับ​อีแวนส์ เอเมียต โปรด​ดู​หอสังเกตการณ์ 1 มกราคม 1999 หน้า 22-23.

[ภาพ​หน้า 5]

ผม​กับ​ไซมอน

[ภาพ​หน้า 5]

คัมภีร์​ไบเบิล​เล่ม​ที่​คล้าย​กับ​เล่ม​แรก​ที่​ผม​ได้​รับ

[ภาพ​หน้า 5]

เมื่อ​รับใช้​เป็น​ผู้​ดู​แล​ภาค

[ภาพ​หน้า 6]

ใน​วัน​แต่งงาน​ของ​เรา

[ภาพ​หน้า 6]

ผม​กับ​อีแรน​ชอบ​อ่าน​และ​ศึกษา​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า