ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

“เป็นคนอาศัยชั่วคราว” ในโลกชั่ว

“เป็นคนอาศัยชั่วคราว” ในโลกชั่ว

“เป็น​คน​อาศัย​ชั่ว​คราว” ใน​โลก​ชั่ว

‘คน​ทั้ง​ปวง​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ประกาศ​อย่าง​เปิด​เผย​ว่า​ตน​เป็น​คน​แปลก​หน้า​และ​เป็น​คน​อาศัย​ชั่ว​คราว​ใน​แผ่นดิน​นั้น.’—ฮีบรู 11:13

1. พระ​เยซู​ตรัส​อย่าง​ไร​เกี่ยว​กับ​ฐานะ​ของ​เหล่า​สาวก​ใน​ส่วน​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​โลก?

พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ว่า “พวก​เขา​อยู่​ใน​โลก.” แต่​พระองค์​ทรง​อธิบาย​ว่า “พวก​เขา​ไม่​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก​เหมือน​ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก.” (โย. 17:11, 14) ดัง​นั้น พระ​เยซู​ทรง​บอก​อย่าง​ชัดเจน​ถึง​ฐานะ​ของ​สาวก​แท้​ของ​พระองค์​ใน​ส่วน​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ “ระบบ​นี้” ซึ่ง​มี​ซาตาน​เป็น​พระเจ้า. (2 โค. 4:4, เชิงอรรถ) แม้​ว่า​พวก​เขา​อยู่​ใน​โลก​ชั่ว​นี้ แต่​พวก​เขา​จะ​ไม่​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก. พวก​เขา​ใช้​ชีวิต​ใน​ระบบ​นี้​เหมือน “คน​ต่าง​ด้าว​และ​ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว.”—1 เป. 2:11

พวก​เขา​อยู่​ใน​ฐานะ “ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว”

2, 3. เหตุ​ใด​จึง​กล่าว​ได้​ว่า​ฮะโนค โนอาห์ และ​อับราฮาม​กับ​ซาราห์​ใช้​ชีวิต “เป็น​คน​แปลก​หน้า​และ​เป็น​คน​อาศัย​ชั่ว​คราว”?

2 ตั้ง​แต่​สมัย​แรก​สุด ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระ​ยะโฮวา​แตกต่าง​อย่าง​โดด​เด่น​เมื่อ​เทียบ​กับ​คน​ใน​โลก​ที่​ไม่​เลื่อมใส​พระเจ้า. ก่อน​น้ำ​ท่วม​โลก ฮะโนค​และ​โนอาห์ “ดำเนิน​กับ​พระเจ้า.” (เย. 5:22-24; 6:9) ทั้ง​สอง​ประกาศ​การ​พิพากษา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ต่อ​โลก​ชั่ว​ของ​ซาตาน​อย่าง​กล้า​หาญ. (อ่าน 2 เปโตร 2:5; ยูดา 14, 15) เนื่อง​จาก​ดำเนิน​กับ​พระเจ้า​ใน​โลก​ที่​ไม่​เลื่อมใส​พระเจ้า ฮะโนค “ได้​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย” และ​โนอาห์ “ดี​พร้อม​ใน​สมัย​ของ​เขา.”—ฮีบรู 11:5; เย. 6:9, ฉบับ R​73

3 เมื่อ​พระเจ้า​ทรง​เชิญ อับราฮาม​และ​ซาราห์​ก็​ทิ้ง​ความ​สะดวก​สบาย​ของ​ชีวิต​ใน​เมือง​อูร์​ของ​ชาว​แคลเดีย และ​ยอม​ใช้​ชีวิต​อย่าง​ลำบาก​ใน​ฐานะ​คน​เร่ร่อน​ใน​ต่าง​แดน. (เย. 11:27, 28; 12:1) อัครสาวก​เปาโล​เขียน​ว่า “โดย​ความ​เชื่อ อับราฮาม​เชื่อ​ฟัง​เมื่อ​พระเจ้า​ทรง​เรียก​ให้​ไป​ยัง​ที่​แห่ง​หนึ่ง​ซึ่ง​กำหนด​ไว้​ให้​เขา​รับ​เป็น​มรดก และ​เขา​ไป​แม้​ไม่​รู้​ว่า​จะ​ไป​ที่​ไหน. โดย​ความ​เชื่อ เขา​อยู่​อย่าง​คน​ต่าง​ด้าว​ใน​แผ่นดิน​ตาม​คำ​สัญญา​เสมือน​อยู่​ใน​ต่าง​ประเทศ และ​อยู่​ใน​เต็นท์​กับ​ยิศฮาค​และ​ยาโคบ​ซึ่ง​เป็น​ผู้​รับ​คำ​สัญญา​เดียว​กัน​นี้​เป็น​มรดก​ร่วม​กับ​เขา.” (ฮีบรู 11:8, 9) เปาโล​กล่าว​เกี่ยว​กับ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ว่า “คน​ทั้ง​ปวง​นี้​ตาย​ไป​ใน​ขณะ​ที่​มี​ความ​เชื่อ​แม้​ยัง​ไม่​ได้​รับ​ตาม​ที่​ทรง​สัญญา แต่​พวก​เขา​ก็​มอง​เห็น​แต่​ไกล​และ​รอ​รับ​ด้วย​ความ​ยินดี​และ​ประกาศ​อย่าง​เปิด​เผย​ว่า​ตน​เป็น​คน​แปลก​หน้า​และ​เป็น​คน​อาศัย​ชั่ว​คราว​ใน​แผ่นดิน​นั้น.”—ฮีบรู 11:13

คำ​เตือน​สำหรับ​ชาว​อิสราเอล

4. ชาว​อิสราเอล​ได้​รับ​คำ​เตือน​อะไร​ก่อน​ที่​พวก​เขา​จะ​อาศัย​ใน​แผ่นดิน​ที่​พระเจ้า​ประทาน?

4 ชาว​อิสราเอล ซึ่ง​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​อับราฮาม ทวี​จำนวน​มาก​ขึ้น​และ​ใน​ที่​สุด​ก็​รวม​ตัว​กัน​เป็น​ชาติ​หนึ่ง​ที่​มี​ประมวล​กฎหมาย​และ​มี​แผ่นดิน. (เย. 48:4; บัญ. 6:1) ประชาชน​ชาว​อิสราเอล​ต้อง​ไม่​ลืม​ว่า​เจ้าของ​ที่​แท้​จริง​ของ​แผ่นดิน​ที่​พวก​เขา​อยู่​คือ​พระ​ยะโฮวา. (เลวี. 25:23) พวก​เขา​เป็น​เหมือน​ผู้​เช่า​ที่​มี​พันธะ​ต้อง​เคารพ​และ​ทำ​ตาม​ความ​ปรารถนา​ของ​เจ้าของ. นอก​จาก​นั้น พวก​เขา​ต้อง​จำ​ไว้​ว่า “มนุษย์​จะ​จำเริญ​ชีวิต​ด้วย​อาหาร​สิ่ง​เดียว​หา​มิ​ได้.” พวก​เขา​ต้อง​ไม่​ปล่อย​ให้​ความ​มั่งคั่ง​ด้าน​วัตถุ​ทำ​ให้​พวก​เขา​ลืม​พระ​ยะโฮวา. (บัญ. 8:1-3) ก่อน​จะ​ตั้ง​รกราก​ใน​แผ่นดิน​นั้น ชาว​อิสราเอล​ได้​รับ​คำ​เตือน​ว่า “เมื่อ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เจ้า, จะ​พา​เจ้า​ทั้ง​หลาย​มา​ถึง​แผ่นดิน​ซึ่ง​พระองค์​ทรง​สัญญา​ไว้​กับ​ปู่​ย่า​ตา​ยาย​ของ​เจ้า, คือ​กับ​อับราฮาม, ยิศฮาค, และ​ยาโคบ​นั้น​แล้ว, จะ​ประทาน​เมือง​ใหญ่​งาม, ซึ่ง​เจ้า​มิ​ได้​สร้าง​เอง​นั้น, เหย้า​เรือน​เต็ม​ไป​ด้วย​ของ​ดี, ซึ่ง​เจ้า​มิ​ได้​สะสม​ไว้​เอง, บ่อ​น้ำ​ซึ่ง​เจ้า​มิ​ได้​ขุด​ไว้​เอง, สวน​เถา​องุ่น, และ​ต้น​มะกอก​เทศ​ซึ่ง​เจ้า​มิ​ได้​ปลูก​ไว้​เอง​นั้น; และ​เจ้า​จะ​ได้​รับประทาน​อิ่ม; แล้ว​จง​ระวัง​กลัว​เกลือก​ว่า​เจ้า​ทั้ง​หลาย​จะ​ลืม​พระ​ยะโฮวา.”—บัญ. 6:10-12

5. เหตุ​ใด​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ปฏิเสธ​ชาติ​อิสราเอล และ​พระองค์​ทรง​หัน​มา​โปรดปราน​ชาติ​ใด​แทน?

5 คำ​เตือน​นี้​ใช่​ว่า​ไม่​มี​มูล​เหตุ. ใน​สมัย​นะเฮมยา ชาว​เลวี​กลุ่ม​หนึ่ง​ระลึก​ด้วย​ความ​ละอาย​ถึง​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​หลัง​จาก​ชาว​อิสราเอล​เข้า​ครอบครอง​แผ่นดิน​ที่​ทรง​สัญญา. หลัง​จาก​ประชาชน​ชาว​อิสราเอล​มี​บ้าน​ที่​สะดวก​สบาย​และ​มี​อาหาร​มี​เหล้า​องุ่น​อย่าง​อุดม “เขา​จึง​ได้​กิน​อิ่ม​หนำ​อ้วน​พี.” พวก​เขา​ขืน​อำนาจ​พระเจ้า และ​ถึง​กับ​ฆ่า​เหล่า​ผู้​พยากรณ์​ที่​พระองค์​ทรง​ส่ง​มา​เตือน​พวก​เขา. ด้วย​เหตุ​นั้น พระ​ยะโฮวา​จึง​ละ​ทิ้ง​พวก​เขา​ให้​ตก​อยู่​ใน​มือ​ของ​ศัตรู. (อ่าน​นะเฮมยา 9:25-27; โฮ. 13:6-9) ต่อ​มา เมื่อ​อยู่​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​โรม ชาว​ยิว​ที่​ขาด​ความ​เชื่อ​ทำ​เลย​เถิด​ถึง​ขนาด​ฆ่า​พระ​มาซีฮา​ที่​ทรง​สัญญา! พระ​ยะโฮวา​ทรง​ปฏิเสธ​พวก​เขา​และ​หัน​มา​โปรดปราน​ชาติ​ใหม่ คือ​ชาติ​อิสราเอล​ฝ่าย​วิญญาณ.—มัด. 21:43; กิจ. 7:51, 52; กลา. 6:16

“ไม่​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก”

6, 7. (ก) คุณ​จะ​อธิบาย​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ที่​ว่า​เหล่า​สาวก​ไม่​ได้​เป็น​ส่วน​ของ​โลก​อย่าง​ไร? (ข) ตาม​ที่​เปโตร​กล่าว เหตุ​ใด​คริสเตียน​แท้​ไม่​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ระบบ​ซาตาน?

6 ดัง​ที่​เห็น​แล้ว​ใน​ตอน​ต้น​ของ​บทความ​นี้ พระ​เยซู​คริสต์ ประมุข​ของ​ประชาคม​คริสเตียน ทรง​บอก​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​สาวก​ของ​พระองค์​จะ​อยู่​ต่าง​หาก​จาก​โลก หรือ​ระบบ​ชั่ว​ของ​ซาตาน. ไม่​นาน​ก่อน​พระ​เยซู​จะ​สิ้น​พระ​ชนม์ พระองค์​ทรง​บอก​เหล่า​สาวก​ว่า “ถ้า​พวก​เจ้า​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก โลก​ก็​จะ​รัก​ผู้​ที่​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก. แต่​เดี๋ยว​นี้​พวก​เจ้า​ไม่​ได้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก​เพราะ​เรา​ได้​เลือก​พวก​เจ้า​ออก​จาก​โลก​แล้ว โลก​จึง​เกลียด​ชัง​พวก​เจ้า.”—โย. 15:19

7 ขณะ​ที่​ศาสนา​คริสเตียน​แผ่​ขยาย​ไป คริสเตียน​ควร​ยอม​รับ​โลก เห็น​พ้อง​กับ​ธรรมเนียม​ปฏิบัติ และ​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​โลก​ไหม? ไม่. ไม่​ว่า​พวก​เขา​จะ​อยู่​ที่​ไหน พวก​เขา​ต้อง​ประพฤติ​ตัว​ต่าง​จาก​ผู้​คน​ใน​ระบบ​ของ​ซาตาน. ประมาณ 30 ปี​หลัง​จาก​พระ​คริสต์​สิ้น​พระ​ชนม์ อัครสาวก​เปโตร​เขียน​ถึง​คริสเตียน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​ส่วน​ต่าง ๆ ของ​จักรวรรดิ​โรมัน​ว่า “พี่​น้อง​ที่​รัก ข้าพเจ้า​ขอ​กระตุ้น​เตือน​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ที่​เป็น​คน​ต่าง​ด้าว​และ​ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว​ให้​ละ​เว้น​จาก​ความ​ปรารถนา​ต่าง ๆ ทาง​กาย ซึ่ง​ก็​คือ​ความ​ปรารถนา​เหล่า​นั้น​ที่​เป็น​ปฏิปักษ์​กับ​ชีวิต. จง​ประพฤติ​อย่าง​ดี​งาม​ท่ามกลาง​ชน​ต่าง​ชาติ​ต่อ ๆ ไป.”—1 เป. 1:1; 2:11, 12

8. นัก​ประวัติศาสตร์​คน​หนึ่ง​พรรณนา​ความ​สัมพันธ์​ของ​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​กับ​โลก​ไว้​อย่าง​ไร?

8 นัก​ประวัติศาสตร์ เคนเนต สกอตต์ ลาตูเร็ตต์ ยืน​ยัน​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​ประพฤติ​ตัว​เป็น “คน​ต่าง​ด้าว​และ​ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว” ใน​จักรวรรดิ​โรมัน​โดย​เขียน​ว่า “เป็น​ที่​รู้​กัน​โดย​ทั่ว​ไป​ใน​ประวัติศาสตร์​ว่า​ใน​ช่วง​สาม​ศตวรรษ​แรก​ที่​เริ่ม​มี​ศาสนา​คริสเตียน ศาสนา​นี้​ถูก​ข่มเหง​มา​โดย​ตลอด​และ​บ่อย​ครั้ง​เป็น​การ​ข่มเหง​ที่​รุนแรง. . . . พวก​เขา​ถูก​กล่าวหา​หลาย​เรื่อง. เนื่อง​จาก​คริสเตียน​ปฏิเสธ​ไม่​เข้า​ร่วม​พิธีกรรม​นอก​รีต พวก​เขา​จึง​ถูก​กล่าวหา​ว่า​ไม่​นับถือ​พระเจ้า. เนื่อง​จาก​ไม่​เข้า​ร่วม​กิจกรรม​หลาย​อย่าง​ที่​เป็น​วิถี​ชีวิต​ของ​ชุมชน เช่น เทศกาล​นอก​รีต ความ​บันเทิง​ที่​จัด​ขึ้น​สำหรับ​ประชาชน ซึ่ง​คริสเตียน​มอง​ว่า​กิจกรรม​เหล่า​นี้​เต็ม​ไป​ด้วย​ความ​เชื่อ​นอก​รีต กิจ​ปฏิบัติ​นอก​รีต และ​การ​ประพฤติ​ที่​ไร้​ยางอาย พวก​เขา​จึง​ถูก​เย้ย​หยัน​ว่า​เป็น​พวก​รังเกียจ​เผ่า​พันธุ์​มนุษย์.”

ไม่​ใช้​ประโยชน์​จาก​โลก​นี้​อย่าง​เต็ม​ที่

9. ใน​ฐานะ​คริสเตียน​แท้ เรา​พิสูจน์​ให้​เห็น​โดย​วิธี​ใด​ว่า​เรา​ไม่​ใช่ “พวก​รังเกียจ​เผ่า​พันธุ์​มนุษย์”?

9 สถานการณ์​ใน​ทุก​วัน​นี้​เป็น​เช่น​ไร? เรา​มี​ทัศนะ​ต่อ “ยุค​ที่​ชั่ว​ช้า​นี้” แบบ​เดียว​กับ​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก. (กลา. 1:4) เพราะ​เหตุ​นี้ หลาย​คน​จึง​เข้าใจ​เรา​ผิด​และ​บาง​คน​ถึง​กับ​เกลียด​พวก​เรา​เสีย​ด้วย​ซ้ำ. ถึง​กระนั้น เรา​ไม่​ใช่ “พวก​รังเกียจ​เผ่า​พันธุ์​มนุษย์” อย่าง​แน่นอน. เพราะ​เรา​รัก​เพื่อน​มนุษย์ เรา​จึง​ไป​ตาม​บ้าน และ​พยายาม​ทุก​วิถี​ทาง​ที่​จะ​พบ​กับ​เจ้าของ​บ้าน​เพื่อ​บอก “ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร [ของ​พระเจ้า].” (มัด. 22:39; 24:14) เรา​ทำ​เช่น​นี้​เพราะ​มั่น​ใจ​ว่า​ใน​อีก​ไม่​ช้า​ราชอาณาจักร​ของ​พระ​ยะโฮวา ซึ่ง​เป็น​รัฐบาล​ที่​นำ​โดย​พระ​คริสต์ จะ​ทำลาย​การ​ปกครอง​ของ​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​และ​ให้​ระบบ​ใหม่​อัน​ชอบธรรม​เข้า​มา​แทน​ที่​การ​ปกครอง​นั้น.—ดานิ. 2:44; 2 เป. 3:13

10, 11. (ก) เรา​ไม่​ใช้​ประโยชน์​จาก​โลก​นี้​อย่าง​เต็ม​ที่​อย่าง​ไร? (ข) คริสเตียน​ที่​ตื่น​ตัว​ไม่​ใช้​ประโยชน์​จาก​โลก​นี้​อย่าง​เต็ม​ที่​โดย​วิธี​ใด​บ้าง?

10 เมื่อ​คำนึง​ถึง​อวสาน​ของ​ระบบ​ปัจจุบัน​ที่​กำลัง​จะ​เกิด​ขึ้น​ใน​อีก​ไม่​ช้า พวก​เรา​ที่​เป็น​ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​ตระหนัก​ว่า​ตอน​นี้​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​จะ​ลง​หลัก​ปัก​ฐาน​ใน​โลก​ที่​กำลัง​จะ​พินาศ. เรา​ใส่​ใจ​ฟัง​ถ้อย​คำ​ของ​อัครสาวก​เปาโล​ที่​บอก​ว่า “พี่​น้อง​ทั้ง​หลาย ข้าพเจ้า​ขอ​บอก​พวก​ท่าน​ว่า​เวลา​เหลือ​น้อย​แล้ว. ตั้ง​แต่​นี้​ไป . . . ให้​คน​ที่​ซื้อ​เป็น​เหมือน​คน​ที่​ไม่​มี​อะไร​เลย และ​ให้​คน​ที่​ใช้​ประโยชน์​จาก​โลก​นี้​เป็น​เหมือน​คน​ที่​ไม่​ใช้​อย่าง​เต็ม​ที่ เพราะ​โลก​นี้​กำลัง​เปลี่ยน​ไป​เหมือน​ละคร​เปลี่ยน​ฉาก.” (1 โค. 7:29-31) แต่​คริสเตียน​ใน​ปัจจุบัน​ใช้​ประโยชน์​จาก​โลก​นี้​อย่าง​ไร? พวก​เขา​ทำ​อย่าง​นั้น​โดย​ใช้​เทคโนโลยี​สมัย​ใหม่​และ​เครื่อง​มือ​สื่อสาร​เพื่อ​แพร่​กระจาย​ความ​รู้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ไป​ทั่ว​โลก​ใน​หลาย​ร้อย​ภาษา. พวก​เขา​ไม่​ใช้​ประโยชน์​จาก​โลก​นี้​อย่าง​เต็ม​ที่​เพื่อ​หา​เลี้ยง​ชีพ. พวก​เขา​ซื้อ​สินค้า​และ​ใช้​บริการ​ต่าง ๆ ที่​จำเป็น​ที่​มี​อยู่​ใน​โลก. อย่าง​ไร​ก็​ตาม พวก​เขา​พยายาม​จะ​ไม่​ใช้​ประโยชน์​จาก​โลก​นี้​อย่าง​เต็ม​ที่ โดย​ให้​ทรัพย์​สิน​เงิน​ทอง​และ​งาน​อาชีพ​อยู่​ใน​ลำดับ​ที่​ถูก​ต้อง.—อ่าน 1 ติโมเธียว 6:9, 10

11 คริสเตียน​ที่​ตื่น​ตัว​ไม่​ใช้​ประโยชน์​จาก​โลก​นี้​อย่าง​เต็ม​ที่​ใน​เรื่อง​การ​ศึกษา​สูง. หลาย​คน​ใน​โลก​ทุก​วัน​นี้​มอง​ว่า​การ​ศึกษา​สูง​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​ที่​จะ​นำ​คน​เรา​ไป​สู่​ชีวิต​ที่​มี​เกียรติ​และ​มั่งคั่ง. แต่​พวก​เรา​ที่​เป็น​คริสเตียน​ใช้​ชีวิต​เป็น​ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว​และ​มี​เป้าหมาย​ที่​แตกต่าง​ออก​ไป. เรา​ไม่ “คิด​ใฝ่​หา​สิ่ง​ที่​สูง​ส่ง.” (โรม 12:16; ยิระ. 45:5) เนื่อง​จาก​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู เรา​ใส่​ใจ​ฟัง​คำ​เตือน​ของ​พระองค์​ที่​ว่า “จง​ระวัง​และ​รักษา​ตัว​ให้​พ้น​จาก​ความ​โลภ​ทุก​ชนิด เพราะ​แม้​ว่า​คน​เรา​มี​อย่าง​บริบูรณ์ แต่​ชีวิต​ของ​เขา​ก็​ไม่​ได้​ขึ้น​อยู่​กับ​สิ่ง​ที่​เขา​มี.” (ลูกา 12:15) ด้วย​เหตุ​นั้น เยาวชน​คริสเตียน​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​ให้​มุ่ง​ติด​ตาม​เป้าหมาย​ฝ่าย​วิญญาณ รับ​การ​ศึกษา​เพียง​เท่า​ที่​จำเป็น​เพื่อ​สนอง​ความ​จำเป็น​พื้น​ฐาน​ใน​ชีวิต​โดย​มี​เป้าหมาย​ที่​จะ​เตรียม​พวก​เขา​ไว้​ให้​พร้อม​ที่​จะ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา ‘ด้วย​สุด​หัวใจ สุด​ชีวิต สุด​กำลัง และ​สุด​ความ​คิด.’ (ลูกา 10:27) โดย​ทำ​อย่าง​นั้น พวก​เขา​จึง “มั่งมี​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า.”—ลูกา 12:21; อ่าน​มัดธาย 6:19-21

จง​ระวัง​อย่า​ให้​ความ​วิตก​กังวล​กับ​ชีวิต​ถ่วง​คุณ​ไว้

12, 13. การ​ใส่​ใจ​ฟัง​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ดัง​บันทึก​ที่​มัดธาย 6:31-33 ทำ​ให้​เรา​แตกต่าง​จาก​ผู้​คน​ใน​โลก​นี้​อย่าง​ไร?

12 ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​แตกต่าง​จาก​ผู้​คน​ใน​โลก​ใน​เรื่อง​ทัศนคติ​ที่​พวก​เขา​มี​ต่อ​สิ่ง​ฝ่าย​วัตถุ. ใน​เรื่อง​นี้ พระ​เยซู​ทรง​บอก​เหล่า​สาวก​ว่า “อย่า​วิตก​กังวล​และ​พูด​ว่า ‘เรา​จะ​กิน​อะไร?’ หรือ ‘เรา​จะ​ดื่ม​อะไร’ หรือ ‘เรา​จะ​สวม​อะไร?’ เพราะ​สิ่ง​เหล่า​นี้​เป็น​สิ่ง​ที่​ชน​ต่าง​ชาติ​ร้อน​รน​แสวง​หา. ด้วย​ว่า​พระ​บิดา​ของ​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​ทรง​ทราบ​ว่า​พวก​เจ้า​ต้อง​มี​สิ่ง​ทั้ง​ปวง​นี้. ดัง​นั้น จง​แสวง​หา​ราชอาณาจักร​และ​ความ​ชอบธรรม​ของ​พระองค์​ก่อน​เสมอ​ไป แล้ว​พระองค์​จะ​ทรง​ให้​สิ่ง​ทั้ง​ปวง​นี้​แก่​พวก​เจ้า.” (มัด. 6:31-33) เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ของ​เรา​หลาย​คน​ได้​ประสบ​ด้วย​ตัว​เอง​ว่า​พระ​บิดา​ของ​เรา​ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์​ทรง​จัด​หา​สิ่ง​จำเป็น​ให้​พวก​เขา.

13 “ความ​เลื่อมใส​พระเจ้า​พร้อม​กับ​ความ​อิ่ม​ใจ​พอ​ใจ​ใน​สิ่ง​ที่​มี​อยู่​ทำ​ให้​ได้​ประโยชน์​มาก.” (1 ติโม. 6:6) ทัศนะ​ดัง​กล่าว​ตรง​กัน​ข้าม​กับ​ทัศนะ​ของ​ผู้​คน​ใน​โลก​ทุก​วัน​นี้. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​คน​หนุ่ม​สาว​แต่งงาน หลาย​คู่​คาด​หมาย​ว่า​จะ​ต้อง ‘มี​ทุก​สิ่ง’ ทันที ไม่​ว่า​จะ​เป็น​บ้าน​หรือ​อพาร์ตเมนต์​พร้อม​เฟอร์นิเจอร์​ที่​หรูหรา​สะดวก​สบาย รถ​คัน​งาม และ​อุปกรณ์​อิเล็กทรอนิกส์​ใหม่​ล่า​สุด. แต่​คริสเตียน​ที่​ใช้​ชีวิต​อย่าง​คน​อาศัย​ชั่ว​คราว​ไม่​ปล่อย​ให้​ตัว​เอง​อยาก​ได้​สิ่ง​ที่​ไม่​สม​เหตุ​ผล​และ​เกิน​กำลัง​ความ​สามารถ​ของ​ตน. ที่​จริง เป็น​เรื่อง​น่า​ชมเชย​ที่​หลาย​คน​ละ​ทิ้ง​ความ​สะดวก​สบาย​บาง​อย่าง​ด้าน​วัตถุ​เพื่อ​อุทิศ​เวลา​และ​กำลัง​มาก​ขึ้น​ใน​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ใน​ฐานะ​ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ที่​มี​ใจ​แรง​กล้า. บาง​คน​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์ สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง หรือ​มิชชันนารี. เรา​ทุก​คน​เห็น​ค่า​การ​รับใช้​อย่าง​สุด​หัวใจ​ของ​เพื่อน​ผู้​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา​เหล่า​นี้​อย่าง​ยิ่ง!

14. เรา​ได้​บทเรียน​อะไร​จาก​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​เรื่อง​ผู้​หว่าน​เมล็ด​พืช?

14 ใน​อุปมา​เกี่ยว​กับ​ผู้​หว่าน พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ความ​วิตก​กังวล​กับ​ชีวิต​ใน​ยุค​นี้​และ​อำนาจ​ล่อ​ลวง​ของ​ทรัพย์​สมบัติ” อาจ​บดบัง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ที่​อยู่​ใน​หัวใจ​เรา​และ​ทำ​ให้​ไม่​เกิด​ผล. (มัด. 13:22) การ​ดำเนิน​ชีวิต​ด้วย​ความ​อิ่ม​ใจ​พอ​ใจ​ใน​ฐานะ​คน​อาศัย​ชั่ว​คราว​ใน​ระบบ​นี้​ช่วย​ให้​เรา​ไม่​ติด​กับดัก​ดัง​กล่าว. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น การ​ดำเนิน​ชีวิต​เช่น​นั้น​ทำ​ให้​ตา​เรา “มอง​ที่​สิ่ง​เดียว” หรือ “มอง​โดย​ไม่​วอกแวก” ที่​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​และ​ให้​ผล​ประโยชน์​ของ​ราชอาณาจักร​เป็น​อันดับ​แรก​ใน​ชีวิต​เรา​เสมอ.—มัด. 6:22, เชิงอรรถ

“โลก​กำลัง​จะ​สูญ​ไป”

15. ถ้อย​คำ​อะไร​ของ​อัครสาวก​โยฮัน​ที่​ช่วย​คริสเตียน​แท้​ให้​ดำเนิน​ชีวิต​และ​มี​ทัศนะ​ต่อ​โลก​นี้​อย่าง​ถูก​ต้อง?

15 เหตุ​ผล​หลัก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​เรา​ซึ่ง​เป็น​คริสเตียน​แท้​ถือ​ว่า​ตัว​เรา​เอง​เป็น “คน​ต่าง​ด้าว​และ​ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว” ใน​โลก​นี้​ก็​คือ​การ​ที่​เรา​เชื่อ​มั่น​ว่า​วัน​เวลา​ของ​โลก​นี้​เหลือ​น้อย​แล้ว. (1 เป. 2:11; 2 เป. 3:7) ทัศนะ​เช่น​นี้​ช่วย​เรา​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​เลือก​อะไร​ใน​ชีวิต​และ​ความ​มุ่ง​มาด​ปรารถนา​ของ​เรา​จะ​เป็น​อย่าง​ไร. อัครสาวก​โยฮัน​แนะ​นำ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ว่า​อย่า​รัก​โลก​หรือ​สิ่ง​ของ​ใน​โลก เพราะ “โลก​กำลัง​จะ​สูญ​ไป​และ​ความ​ปรารถนา​ของ​โลก​ก็​เช่น​กัน แต่​ผู้​ที่​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป.”—1 โย. 2:15-17

16. เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เรา​ถูก​แยก​ไว้​ให้​เป็น​กลุ่ม​คน​ที่​แตกต่าง?

16 พระ​ยะโฮวา​ทรง​บอก​ชาว​อิสราเอล​ว่า​ถ้า​พวก​เขา​เชื่อ​ฟัง​พระองค์ พวก​เขา​จะ​ได้​เป็น ‘ทรัพย์​ประเสริฐ​ของ​พระองค์​ยิ่ง​กว่า​ชาติ​ทั้ง​ปวง.’ (เอ็ก. 19:5) เมื่อ​ชาติ​อิสราเอล​ซื่อ​สัตย์ พวก​เขา​แตกต่าง​จาก​ชาติ​อื่น ๆ ทั้ง​หมด​ใน​ด้าน​การ​นมัสการ​และ​วิถี​ชีวิต. เช่น​เดียว​กัน ใน​ทุก​วัน​นี้​พระ​ยะโฮวา​ก็​ทรง​เลือก​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ออก​มา​เป็น​ประชาชน​ของ​พระองค์​ซึ่ง​แตกต่าง​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด​จาก​ผู้​คน​ใน​โลก​ของ​ซาตาน. พระ​คัมภีร์​บอก​เรา​ว่า “[จง] ปฏิเสธ​การ​กระทำ​ที่​ดูหมิ่น​พระเจ้า​และ​ความ​ปรารถนา​แบบ​โลก​และ​ให้​ดำเนิน​ชีวิต​ใน​ยุค​นี้​อย่าง​มี​สติ ด้วย​ความ​ชอบธรรม และ​ด้วย​ความ​เลื่อมใส​พระเจ้า ขณะ​ที่​เรา​คอย​ท่า​ความ​หวัง​ที่​น่า​ยินดี​และ​การ​สำแดง​สง่า​ราศี​ของ​พระเจ้า​องค์​ใหญ่​ยิ่ง​และ​ของ​พระ​ผู้​ช่วย​ให้​รอด​ของ​เรา คือ​พระ​คริสต์​เยซู ผู้​ทรง​ประทาน​พระองค์​เอง​เพื่อ​เรา เพื่อ​จะ​ช่วย​เรา​ให้​เลิก​ทำ​ชั่ว​ทุก​อย่าง และ​ชำระ​เรา​ให้​เป็น​คน​กลุ่ม​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​ของ​พระองค์​โดย​เฉพาะ​และ​มี​ใจ​แรง​กล้า​เพื่อ​การ​ดี.” (ทิทุส 2:11-14) “คน” กลุ่ม​นี้​ประกอบ​ด้วย​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​และ “แกะ​อื่น” ของ​พระ​เยซู​อีก​หลาย​ล้าน​คน​ที่​ช่วยเหลือ​และ​สนับสนุน​พวก​เขา.—โย. 10:16

17. เหตุ​ใด​ผู้​ถูก​เจิม​และ​สหาย​ของ​พวก​เขา​จะ​ไม่​เสียใจ​เลย​ที่​เคย​ใช้​ชีวิต​เป็น​ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว​ใน​โลก​ชั่ว​นี้?

17 “ความ​หวัง​ที่​น่า​ยินดี” ของ​ชน​ผู้​ถูก​เจิม​ก็​คือ​การ​ปกครอง​กับ​พระ​คริสต์​ใน​สวรรค์. (วิ. 5:10) เมื่อ​ความ​หวัง​เรื่อง​ชีวิต​นิรันดร์​บน​แผ่นดิน​โลก​สำเร็จ​เป็น​จริง​สำหรับ​แกะ​อื่น​แล้ว พวก​เขา​จะ​ไม่​ต้อง​เป็น​ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว​ใน​โลก​ชั่ว​นี้​อีก​ต่อ​ไป. พวก​เขา​จะ​มี​บ้าน​ที่​สวย​งาม​และ​มี​กิน​มี​ดื่ม​อย่าง​อุดม. (เพลง. 37:10, 11; ยซา. 25:6; 65:21, 22) ไม่​เหมือน​กับ​ชาว​อิสราเอล พวก​เขา​จะ​ไม่​มี​ทาง​ลืม​เลย​ว่า​ทั้ง​หมด​นี้​มา​จาก​พระ​ยะโฮวา “พระเจ้า​ของ​ทั่ว​ทั้ง​พิภพ.” (ยซา. 54:5) ทั้ง​ผู้​ถูก​เจิม​และ​แกะ​อื่น จะ​ไม่​มี​ใคร​เสียใจ​เลย​ที่​เคย​ใช้​ชีวิต​เป็น​ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว​ใน​โลก​ชั่ว​นี้.

คุณ​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร?

• ผู้​ซื่อ​สัตย์​ใน​สมัย​ก่อน​ดำเนิน​ชีวิต​เป็น​ผู้​อยู่​อาศัย​ชั่ว​คราว​อย่าง​ไร?

• คริสเตียน​ยุค​แรก​ดำเนิน​ชีวิต​อย่าง​ไร​ใน​ส่วน​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​โลก​นี้?

• คริสเตียน​แท้​ไม่​ใช้​ประโยชน์​จาก​โลก​นี้​อย่าง​เต็ม​ที่​อย่าง​ไร?

• เหตุ​ใด​เรา​จะ​ไม่​เสียใจ​เลย​ที่​ได้​ใช้​ชีวิต​เป็น​ผู้​อาศัย​ชั่ว​คราว​ใน​โลก​ชั่ว​นี้?

[คำ​ถาม]

[ภาพ​หน้า 18]

คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก​ไม่​ยุ่ง​เกี่ยว​กับ​ความ​บันเทิง​ที่​รุนแรง​และ​ผิด​ศีลธรรม