ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การปรับตัวให้ผลคุ้มค่า

การปรับตัวให้ผลคุ้มค่า

การ​ปรับ​ตัว​ให้​ผล​คุ้มค่า

เล่า​โดย เจมส์ เอ. ทอมป์สัน

เมื่อ​ผม​เกิด​ใน​ปี 1928 ทาง​ใต้​ของ​สหรัฐ มี​กฎหมาย​ที่​แบ่ง​แยก​คน​ผิว​ขาว​กับ​คน​ผิว​ดำ. คน​ที่​ฝ่าฝืน​กฎหมาย​นี้​อาจ​ถูก​จำ​คุก​หรือ​ได้​รับ​ผล​ที่​เลว​ร้าย​กว่า​นั้น.

ตอน​นั้น ใน​ส่วน​ต่าง ๆ ของ​สหรัฐ พยาน​พระ​ยะโฮวา​ที่​เป็น​คน​ผิว​ขาว​และ​คน​ผิว​ดำ​จำเป็น​ต้อง​มี​ประชาคม หมวด และ​ภาค​แยก​ต่าง​หาก​กัน. ใน​ปี 1937 พ่อ​ผม​เป็น​ผู้​รับใช้​หมู่​คณะ (ปัจจุบัน​เรียก​ว่า​ผู้​ประสาน​งาน​คณะ​ผู้​ปกครอง) ของ​ประชาคม​คน​ผิว​ดำ​ใน​เมือง​ชัตตานูกา รัฐ​เทนเนสซี. เฮนรี นิโคลส์​เป็น​ผู้​รับใช้​หมู่​คณะ​ของ​ประชาคม​คน​ผิว​ขาว.

ความ​ทรง​จำ​ที่​ดี​อย่าง​หนึ่ง​ตอน​ที่​ผม​เป็น​เด็ก​ก็​คือ มี​อยู่​หลาย​ครั้ง​ที่​ผม​นั่ง​บน​ชาน​หลัง​บ้าน​ตอน​กลางคืน​และ​ฟัง​พ่อ​กับ​บราเดอร์​นิโคลส์​คุย​กัน. แม้​ว่า​ผม​ไม่​เข้าใจ​ทุก​เรื่อง​ที่​พวก​ท่าน​คุย​กัน แต่​ผม​ก็​ชอบ​ที่​ได้​นั่ง​ข้าง ๆ พ่อ​ขณะ​ที่​ทั้ง​สอง​คน​คุย​กัน​ถึง​วิธี​ที่​ดี​ที่​สุด​ที่​จะ​ทำ​งาน​ประกาศ​ใน​สถานการณ์​ที่​เป็น​อยู่​ตอน​นั้น.

ก่อน​หน้า​นั้น ใน​ปี 1930 มี​เรื่อง​เศร้า​เกิด​ขึ้น​กับ​ครอบครัว​เรา. แม่​ซึ่ง​อายุ​เพียง 20 ปี​เสีย​ชีวิต. พ่อ​ถูก​ทิ้ง​ให้​เลี้ยง​ลูก​สอง​คน​ตาม​ลำพัง มี​ดอริส​พี่​สาว​ผม​ซึ่ง​อายุ​สี่​ขวบ​กับ​ผม​ซึ่ง​อายุ​เพียง​สอง​ขวบ. แม้​ว่า​ตอน​นั้น​พ่อ​เพิ่ง​รับ​บัพติสมา​ได้​ไม่​นาน ท่าน​ก็​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ​เป็น​อย่าง​ดี.

ตัว​อย่าง​ที่​หล่อ​หลอม​ชีวิต​ผม

ใน​ปี 1933 พ่อ​พบ​พี่​น้อง​หญิง​ที่​ดี​มาก ๆ คน​หนึ่ง​ชื่อ ลิลลี เม เกวนโดลีน โทมัส และ​ไม่​นาน​ทั้ง​สอง​ก็​แต่งงาน​กัน. ทั้ง​พ่อ​และ​แม่​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ไว้​ให้​ผม​กับ​ดอริส​ใน​เรื่อง​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ภักดี.

ใน​ปี 1938 มี​การ​ขอ​ประชาคม​ต่าง ๆ ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ให้​สนับสนุน​มติ​ที่​ว่า​ผู้​ปกครอง​ใน​ประชาคม​ท้องถิ่น​ต้อง​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​จาก​สำนักงาน​ใหญ่​ใน​บรุกลิน นิวยอร์ก แทน​ที่​จะ​ให้​พี่​น้อง​ท้องถิ่น​เลือก​กัน​เอง. เมื่อ​บาง​คน​ใน​ชัตตานูกา​ยัง​ลังเล​ที่​จะ​ตอบรับ​การ​เปลี่ยน​แปลง​นั้น พ่อ​ผม​ก็​ประกาศ​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ท่าน​สนับสนุน​การ​ปรับ​เปลี่ยน​ของ​องค์การ​อย่าง​ไม่​มี​เงื่อนไข. ตัว​อย่าง​ความ​ภักดี​ของ​พ่อ​รวม​ทั้ง​ความ​ร่วม​มือ​อย่าง​สุด​หัวใจ​ของ​แม่​ช่วย​ผม​จน​กระทั่ง​ถึง​ทุก​วัน​นี้.

รับ​บัพติสมา​และ​รับใช้​เต็ม​เวลา

ใน​ปี 1940 หลาย​คน​ใน​ประชาคม​ของ​เรา​เช่า​รถ​โดยสาร​คัน​หนึ่ง​เพื่อ​เดิน​ทาง​ไป​ร่วม​การ​ประชุม​ภาค​ซึ่ง​จัด​ที่​เมือง​ดีทรอยต์ รัฐ​มิชิแกน. มี​บาง​คน​ที่​นั่ง​มา​ใน​รถ​โดยสาร​คัน​เดียว​กัน​รับ​บัพติสมา​ที่​นั่น. บาง​คน​แปลก​ใจ​ที่​ผม​ไม่​รับ​บัพติสมา​เพราะ​เขา​เห็น​ผม​ประกาศ​มา​ตั้ง​แต่​อายุ​ห้า​ขวบ​และ​ขยัน​ขันแข็ง​ใน​งาน​รับใช้.

เมื่อ​พวก​เขา​ถาม​ผม​เรื่อง​นี้ ผม​ตอบ​ว่า “ผม​ยัง​ไม่​เข้าใจ​ทั้ง​หมด​ว่า​การ​รับ​บัพติสมา​เกี่ยว​ข้อง​กับ​อะไร.” พ่อ​ผม​ได้​ยิน​เข้า​พอ​ดี​และ​รู้สึก​แปลก​ใจ​มาก. ตั้ง​แต่​นั้น​มา พ่อ​พยายาม​ช่วย​ผม​เป็น​พิเศษ​ให้​เข้าใจ​ว่า​การ​รับ​บัพติสมา​หมาย​ถึง​อะไร​และ​สำคัญ​อย่าง​ไร. สี่​เดือน​ต่อ​มา​ใน​วัน​ที่ 1 ตุลาคม 1940 ซึ่ง​เป็น​วัน​ที่​หนาว​จัด ผม​รับ​บัพติสมา​ใน​สระ​เล็ก ๆ นอก​เมือง​ชัตตานูกา.

เมื่อ​ผม​อายุ 14 ปี ผม​ก็​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​ช่วง​ปิด​ภาค​เรียน​ฤดู​ร้อน. ผม​ประกาศ​ใน​เมือง​เล็ก ๆ บาง​เมือง​ใน​รัฐ​เทนเนสซี​และ​รัฐ​จอร์เจีย​ที่​อยู่​ติด​กัน. ผม​ตื่น​แต่​เช้า เตรียม​เอา​อาหาร​เที่ยง​ไป​ด้วย แล้ว​ก็​ขึ้น​รถไฟ​หรือ​รถ​โดยสาร​เที่ยว​หก​โมง​เช้า​ไป​ที่​เขต​ทำ​งาน. ผม​กลับ​ถึง​บ้าน​ราว ๆ หก​โมง​เย็น. อาหาร​ที่​ผม​เตรียม​ไป​มัก​จะ​หมด​ไป​นาน​แล้ว​ก่อน​ถึง​เวลา​อาหาร​เที่ยง. แม้​จะ​มี​เงิน แต่​ผม​ไม่​สามารถ​ซื้อ​อาหาร​เพิ่ม​จาก​ร้าน​ค้า​ใน​ท้องถิ่น​ได้​เพราะ​ผม​เป็น​คน​ผิว​ดำ. วัน​หนึ่ง ผม​เข้า​ไป​ใน​ร้าน​เพื่อ​ซื้อ​ไอศกรีม​โคน​แต่​ถูก​ไล่​ออก​จาก​ร้าน. ผู้​หญิง​ผิว​ขาว​ใจ​ดี​คน​หนึ่ง​ซื้อ​ไอศกรีม​อัน​หนึ่ง​มา​ให้​ผม.

เมื่อ​ผม​ขึ้น​ชั้น​มัธยม ขบวนการ​เรียก​ร้อง​สิทธิ​ของ​พลเมือง​กำลัง​ทวี​ความ​รุนแรง​ขึ้น​ที่​ทาง​ใต้​ของ​ประเทศ. สมาคม​ต่าง ๆ เช่น สมาคม​เอ็น​เอ​เอ​ซี​พี (สมาคม​ส่ง​เสริม​ความ​ก้าว​หน้า​ของ​คน​ผิว​สี​แห่ง​ชาติ) สนับสนุน​ให้​นัก​เรียน​ร่วม​ใน​การ​ต่อ​สู้​เพื่อ​อุดมการณ์. เรา​ถูก​กระตุ้น​ให้​เป็น​สมาชิก​สมาคม​เหล่า​นี้. โรง​เรียน​ของ​คน​ผิว​ดำ​หลาย​โรง​เรียน รวม​ถึง​โรง​เรียน​ผม​ด้วย ตั้ง​เป้า​ไว้​ว่า​นัก​เรียน​ทุก​คน​ต้อง​สมัคร​เป็น​สมาชิก. ผม​ถูก​กดดัน​ให้ “สนับสนุน​เผ่า​พันธุ์​ของ​เรา” ตาม​ที่​พวก​เขา​เรียก​กัน. แต่​ผม​ปฏิเสธ โดย​อธิบาย​ว่า​พระเจ้า​ไม่​ทรง​ลำเอียง​และ​ไม่​ทรง​โปรดปราน​คน​เชื้อชาติ​หนึ่ง​มาก​กว่า​คน​อีก​เชื้อชาติ​หนึ่ง. ผม​จึง​รอ​ให้​พระเจ้า​แก้​ปัญหา​ความ​ไม่​ยุติธรรม​เหล่า​นั้น.—โย. 17:14; กิจ. 10:34, 35

ไม่​นาน​หลัง​จาก​จบ​ชั้น​มัธยม ผม​ตัดสิน​ใจ​ย้าย​ไป​นคร​นิวยอร์ก. แต่​ระหว่าง​ทาง ผม​แวะ​ที่​เมือง​ฟีลาเดลเฟีย รัฐ​เพนซิลเวเนีย เพื่อ​เยี่ยม​เพื่อน​ที่​เคย​พบ​กัน​ที่​การ​ประชุม​ภาค​ครั้ง​หนึ่ง. ประชาคม​นี้​เป็น​ประชาคม​แรก​ที่​ผม​เข้า​ร่วม​ที่​พี่​น้อง​ต่าง​เชื้อชาติ​ประชุม​ด้วย​กัน. ระหว่าง​การ​เยี่ยม​ของ​ผู้​ดู​แล​หมวด เขา​คุย​กับ​ผม​เป็น​ส่วน​ตัว​และ​มอบหมาย​ให้​ผม​ทำ​ส่วน​ใน​การ​ประชุม​ครั้ง​ถัด​ไป. นั่น​ทำ​ให้​ผม​ตัดสิน​ใจ​ได้​ง่าย​ขึ้น​ที่​จะ​อยู่​ที่​นั่น.

ใน​บรรดา​เพื่อน​ใหม่​ของ​ผม​ที่​ฟีลาเดลเฟีย​มี​พี่​น้อง​สาว​คน​หนึ่ง​รวม​อยู่​ด้วย. เธอ​ชื่อ​เจอรัลดีน ไวท์ ซึ่ง​ที​หลัง​ผม​เรียก​เธอ​ว่า​เจอร์รี. เธอ​รู้​จัก​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​อย่าง​ดี​และ​ชำนาญ​ใน​การ​พูด​กับ​เจ้าของ​บ้าน​ใน​การ​ประกาศ​ตาม​บ้าน. ที่​สำคัญ​เป็น​พิเศษ​สำหรับ​ผม​ก็​คือ​เธอ​มี​เป้าหมาย​จะ​เป็น​ไพโอเนียร์​เหมือน​ผม. เรา​แต่งงาน​กัน​ใน​วัน​ที่ 23 เมษายน 1949.

ได้​รับ​เชิญ​ไป​กิเลียด

เรา​มี​เป้าหมาย​ตั้ง​แต่​แรก​ที่​จะ​ได้​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​และ​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี​ใน​ต่าง​แดน. เรา​ยินดี​ปรับ​เปลี่ยน​ชีวิต​เพื่อ​จะ​มี​คุณสมบัติ​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด. ไม่​นาน เรา​ถูก​ขอ​ให้​ย้าย​ไป​ลอนไซด์ รัฐ​นิวเจอร์ซีย์ จาก​นั้น​ก็​ไป​เมือง​เชสเตอร์ รัฐ​เพนซิลเวเนีย และ​สุด​ท้าย​ไป​แอตแลนติก​ซิตี รัฐ​นิวเจอร์ซีย์. ขณะ​อยู่​ที่​แอตแลนติกซิตี เรา​ก็​มี​คุณสมบัติ​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​เพราะ​เรา​แต่งงาน​ได้​ครบ​สอง​ปี​แล้ว. แต่​จดหมาย​เชิญ​เรา​ถูก​ระงับ​ไว้​ก่อน. เพราะ​เหตุ​ใด?

ใน​ช่วง​ต้น​ทศวรรษ 1950 ชาย​หนุ่ม​หลาย​คน​ถูก​เกณฑ์​เป็น​ทหาร​และ​ต่อ​สู้​ใน​สงคราม​ที่​ประเทศ​เกาหลี. ดู​เหมือน​ว่า​กอง​เกณฑ์​ทหาร​ใน​เมือง​ฟีลาเดลเฟีย​มี​อคติ​ต่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เพราะ​ความ​เป็น​กลาง​ของ​เรา. ใน​ที่​สุด ผม​ก็​ได้​รับ​แจ้ง​จาก​ผู้​พิพากษา​คน​หนึ่ง​ว่า​การ​ตรวจ​สอบ​ประวัติ​ของ​ผม​โดย​เอฟ​บี​ไอ (ตำรวจ​หน่วย​สืบสวน​กลาง) ยืน​ยัน​ว่า​ผม​มี​จุด​ยืน​ที่​เป็น​กลาง​จริง. ดัง​นั้น ใน​วัน​ที่ 11 มกราคม 1952 คณะ​กรรมการ​อุทธรณ์​กลาง​จึง​อนุมัติ​ให้​ผม​เป็น​ศาสนาจารย์​และ​ได้​รับ​การ​ยก​เว้น​ไม่​ต้อง​เป็น​ทหาร.

ใน​เดือน​สิงหาคม​ปี​นั้น ผม​กับ​เจอร์รี​ได้​รับ​เชิญ​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​รุ่น​ที่ 20 ซึ่ง​เริ่ม​ใน​เดือน​กันยายน. ขณะ​ที่​เรียน​อยู่​นั้น เรา​คาด​หมาย​ว่า​จะ​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ไป​รับใช้​ใน​ต่าง​แดน. ดอริส​พี่​สาว​ของ​ผม​จบ​โรง​เรียน​กิเลียด​รุ่น​ที่ 13 และ​ตอน​นั้น​รับใช้​อยู่​ที่​ประเทศ​บราซิล. ผม​กับ​เจอร์รี​แปลก​ใจ​มาก​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ทำ​งาน​หมวด คือ​เยี่ยม​ประชาคม​คน​ผิว​ดำ​ใน​รัฐ​แอละแบมา​ซึ่ง​อยู่​ทาง​ตอน​ใต้! เรื่อง​นี้​ทำ​ให้​เรา​ผิด​หวัง​อยู่​ไม่​น้อย เพราะ​ตั้ง​แต่​แรก​ใจ​เรา​มุ่ง​ไป​ที่​การ​รับใช้​ใน​ต่าง​ประเทศ.

ประชาคม​แรก​ที่​เรา​ไป​เยี่ยม​อยู่​ใน​เมือง​ฮันต์สวิลล์. เมื่อ​ไป​ถึง เรา​ตรง​ไป​ยัง​บ้าน​ของ​พี่​น้อง​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​เรา​จะ​พัก​ด้วย. ขณะ​ที่​เรา​กำลัง​เอา​ของ​ลง​จาก​รถ เรา​ได้​ยิน​เธอ​พูด​ทาง​โทรศัพท์​ว่า “เด็ก ๆ มา​กัน​แล้ว.” ตอน​นั้น​เรา​อายุ​แค่ 24 ปี​แถม​ยัง​หน้า​ตา​อ่อน​กว่า​วัย​อีก. “เด็ก ๆ” เลย​กลาย​เป็น​ชื่อ​เล่น​ของ​เรา​ที่​พี่​น้อง​เรียก​กัน​ติด​ปาก​ขณะ​ที่​เรา​รับใช้​ใน​หมวด​นั้น.

พื้น​ที่​ทาง​ใต้​ของ​สหรัฐ​มัก​ถูก​เรียก​ว่า​ไบเบิลเบลต์​เพราะ​คน​ส่วน​ใหญ่​นับถือ​คัมภีร์​ไบเบิล. เรา​จึง​มัก​จะ​เริ่ม​การ​สนทนา​กับ​ผู้​คน​ด้วย​การ​เสนอ​สาม​จุด​ดัง​ต่อ​ไป​นี้:

(1) กล่าว​สั้น ๆ เกี่ยว​กับ​สภาพการณ์​ของ​โลก.

(2) การ​แก้ไข​ที่​มี​บอก​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล.

(3) สิ่ง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​เรา​ต้อง​ทำ.

หลัง​จาก​นั้น​เรา​ก็​เสนอ​คู่มือ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​เหมาะ​สม. เพราะ​วิธี​นี้​ใช้​ได้​ผล ผม​จึง​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ทำ​ส่วน​ใน​การ​ประชุม​สมาคม​โลก​ใหม่​ใน​ปี 1953 ที่​นิวยอร์ก. ที่​นั่น​ผม​สาธิต​การ​เสนอ​สาม​จุด​ดัง​กล่าว.

ไม่​นาน​นัก ใน​ฤดู​ร้อน​ปี 1953 ผม​ก็​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​รับใช้​ใน​หมวด​คน​ผิว​ดำ​ที่​อยู่​ทาง​ใต้​ใน​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​ภาค. เขต​ของ​เรา​ครอบ​คลุม​พื้น​ที่​ทั้ง​หมด​ตั้ง​แต่​เวอร์จิเนีย​ไป​จน​ถึง​ฟลอริดา​และ​ไป​ทาง​ตะวัน​ตก​จน​กระทั่ง​ถึง​แอละแบมา​และ​เทนเนสซี. ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​ต้อง​พร้อม​ที่​จะ​ปรับ​ตัว. ตัว​อย่าง​เช่น มี​บ่อย​ครั้ง​ที่​เรา​พัก​บ้าน​พี่​น้อง​ที่​ไม่​มี​น้ำ​ประปา​ใน​บ้าน​และ​อาบ​น้ำ​ใน​อ่าง​อาบ​น้ำ​ที่​ทำ​จาก​โลหะ​หลัง​เตา​ไฟ​ห้อง​ครัว. ยัง​ดี​ที่​นั่น​เป็น​ส่วน​ที่​อุ่น​ที่​สุด​ของ​บ้าน!

ปัญหา​เรื่อง​การ​แบ่ง​แยก​ทาง​เชื้อชาติ

การ​ที่​จะ​ทำ​อะไร​ต่าง ๆ ให้​สำเร็จ​ได้​ขณะ​รับใช้​ทาง​ตอน​ใต้​จำเป็น​ต้อง​คิด​ล่วง​หน้า​และ​มี​ไหว​พริบ. คน​ผิว​ดำ​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​ใช้​บริการ​ของ​ร้าน​ซัก​ผ้า. เจอร์รี​จึง​ไป​ที่​นั่น​และ​บอก​ว่า​เสื้อ​ผ้า​ที่​จะ​ซัก​เป็น​ของ “คุณนาย​ทอมป์สัน.” ดู​เหมือน​หลาย​คน​คิด​ว่า​เธอ​เป็น​คน​ใช้​และ “คุณนาย​ทอมป์สัน” เป็น​เจ้านาย. เมื่อ​ผู้​ดู​แล​ภาค​จะ​ฉาย​ภาพยนตร์​สมาคม​โลก​ใหม่​ใน​ภาค​ปฏิบัติ ผม​ก็​โทรศัพท์​ไป​ที่​ร้าน​และ​ขอ​เช่า​จอ​ขนาด​ใหญ่​สำหรับ “คุณ​ทอมป์สัน.” หลัง​จาก​นั้น ผม​ก็​ไป​รับ​ของ​ที่​ร้าน. เรา​พูด​จา​สุภาพ​เสมอ และ​โดย​รวม​แล้ว​เรา​สามารถ​ทำ​งาน​ประกาศ​ได้​โดย​ไม่​มี​ปัญหา.

มี​อคติ​อีก​แบบ​หนึ่ง​ใน​ระดับ​ภูมิภาค​ซึ่ง​มี​ต่อ​คน​ที่​มา​จาก​ทาง​เหนือ. ครั้ง​หนึ่ง หนังสือ​พิมพ์​ท้องถิ่น​รายงาน​ว่า​เจมส์ เอ. ทอมป์สัน จูเนียร์​จาก​สมาคม​ว็อชเทาเวอร์ ไบเบิล แอนด์ แทร็กต์ แห่ง​นิวยอร์ก​จะ​มา​บรรยาย​ที่​การ​ประชุม​หมวด. บาง​คน​ที่​อ่าน​คำ​ประกาศ​นี้​เข้าใจ​ว่า​ผม​มา​จาก​นิวยอร์ก พวก​เขา​จึง​ยก​เลิก​สัญญา​เช่า​หอ​ประชุม​ของ​โรง​เรียน​ที่​จะ​จัด​การ​ประชุม. ดัง​นั้น ผม​จึง​ไป​หา​คณะ​กรรมการ​ของ​โรง​เรียน​และ​อธิบาย​ว่า​ผม​จบ​มา​จาก​โรง​เรียน​ใน​เมือง​ชัตตานูกา. แล้ว​พวก​เรา​ก็​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​จัด​การ​ประชุม​หมวด​ได้.

ความ​ตึงเครียด​ด้าน​เชื้อชาติ​มี​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ ใน​ช่วง​กลาง​ทศวรรษ 1950 และ​บาง​ครั้ง​ก็​ถึง​กับ​เกิด​ความ​รุนแรง​ขึ้น. ณ การ​ประชุม​ภาค​หลาย​แห่ง​ใน​ปี 1954 พยาน​ฯ บาง​คน​รู้สึก​ขุ่นเคือง​ที่​ไม่​มี​ผู้​บรรยาย​ผิว​ดำ​บรรยาย​ใน​การ​ประชุม​เลย. เรา​สนับสนุน​พี่​น้อง​ผิว​ดำ​ของ​เรา​ให้​อด​ทน. ฤดู​ร้อน​ปี​ถัด​มา ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เป็น​ผู้​บรรยาย​คน​หนึ่ง. หลัง​จาก​นั้น ก็​มี​พี่​น้อง​ผิว​ดำ​จาก​ทาง​ใต้​มาก​ขึ้น​ที่​มี​ส่วน​ใน​การ​ประชุม.

ต่อ​มา ความ​รุนแรง​ที่​เกิด​จาก​การ​แบ่ง​แยก​ทาง​เชื้อชาติ​ทาง​ตอน​ใต้​ลด​น้อย​ลง และ​ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย​พี่​น้อง​ที่​มี​สี​ผิว​ต่าง​กัน​ใน​ประชาคม​ต่าง ๆ ก็​มา​รวม​เป็น​อัน​หนึ่ง​อัน​เดียว​กัน. เพื่อ​จะ​เป็น​อย่าง​นี้​ได้​ก็​ต้อง​มี​การ​โยกย้าย​ผู้​ประกาศ​รวม​ทั้ง​ปรับ​เปลี่ยน​เขต​ของ​ประชาคม​และ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ของ​พี่​น้อง​ชาย​ที่​ทำ​หน้า​ที่​เป็น​ผู้​ดู​แล. พี่​น้อง​ผิว​ดำ​และ​พี่​น้อง​ผิว​ขาว​บาง​คน​ไม่​ชอบ​การ​จัด​เตรียม​ใหม่​นี้. อย่าง​ไร​ก็​ตาม พี่​น้อง​ส่วน​ใหญ่​ไม่​มี​อคติ เช่น​เดียว​กับ​พระ​บิดา​ของ​เรา​ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์. ที่​จริง หลาย​คน​เป็น​เพื่อน​สนิท​กัน​แม้​ว่า​สี​ผิว​ต่าง​กัน. ครอบครัว​ของ​เรา​เคย​มี​ประสบการณ์​อย่าง​นี้​ใน​ช่วง​ทศวรรษ 1930 และ 1940 ตอน​ที่​ผม​กำลัง​เติบโต​ขึ้น​มา.

งาน​มอบหมาย​ใหม่

ใน​เดือน​มกราคม 1969 ผม​กับ​เจอร์รี​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ไป​รับใช้​ที่​ประเทศ​กายอานา ซึ่ง​อยู่​ใน​ทวีป​อเมริกา​ใต้ และ​เรา​ตอบรับ​คำ​เชิญ​นี้​ด้วย​ความ​ยินดี. ก่อน​อื่น​เรา​ไป​ที่​บรุกลิน นิวยอร์ก เพื่อ​ผม​จะ​รับ​การ​ฝึก​อบรม​สำหรับ​การ​ดู​แล​งาน​ประกาศ​ที่​ประเทศ​กายอานา. เรา​ไป​ถึง​ที่​นั่น​ใน​เดือน​กรกฎาคม 1969. หลัง​จาก​ทำ​งาน​หมวด​มา 16 ปี นับ​ว่า​เป็น​การ​ปรับ​เปลี่ยน​ครั้ง​ใหญ่​ที่​ต้อง​อยู่​ประจำ​ที่​เดียว. เจอร์รี​ใช้​เวลา​ส่วน​ใหญ่​ใน​เขต​ประกาศ​ใน​ฐานะ​มิชชันนารี และ​ผม​ทำ​งาน​ใน​สำนักงาน​สาขา.

ผม​ทำ​งาน​ทุก​อย่าง​ตั้ง​แต่​ตัด​หญ้า​และ​ดู​แล​เรื่อง​สรรพหนังสือ​สำหรับ​พี่​น้อง 28 ประชาคม​ไป​จน​ถึง​การ​ติด​ต่อ​ประสาน​งาน​กับ​สำนักงาน​ใหญ่​ที่​บรุกลิน. ผม​ทำ​งาน 14 ถึง 15 ชั่วโมง​ต่อ​วัน. นั่น​เป็น​งาน​หนัก​สำหรับ​เรา​ทั้ง​สอง แต่​เรา​ก็​ยินดี​กับ​งาน​มอบหมาย. เมื่อ​เรา​มา​ถึง มี​ผู้​ประกาศ 950 คน​ใน​กายอานา ปัจจุบัน​มี​มาก​กว่า 2,500 คน.

แม้​ว่า​เรา​ชอบ​อากาศ​รวม​ทั้ง​ผลไม้​และ​ผัก​แปลก ๆ หลาย​อย่าง แต่​เรื่อง​ที่​ทำ​ให้​เรา​ยินดี​อย่าง​แท้​จริง​ก็​คือ​การ​ที่​คน​ถ่อม​ซึ่ง​กระหาย​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​กำลัง​เรียน​รู้​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. เจอร์รี​มัก​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล 20 ราย​ใน​แต่​ละ​สัปดาห์ และ​หลาย​คน​ที่​ศึกษา​กับ​เรา​ได้​ก้าว​หน้า​จน​ถึง​ขั้น​รับ​บัพติสมา. ต่อ​มา บาง​คน​ได้​เป็น​ไพโอเนียร์ ผู้​ปกครอง​ประชาคม และ​แม้​แต่​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด​เพื่อ​เป็น​มิชชันนารี.

ประสบ​ปัญหา​หลาย​อย่าง โดย​เฉพาะ​เรื่อง​สุขภาพ

ใน​ปี 1983 พ่อ​แม่​ผม​ที่​อยู่​ใน​สหรัฐ​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​การ​ช่วยเหลือ. ดอริส เจอร์รี และ​ผม​ปรึกษา​กัน. ดอริส ซึ่ง​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี​มา 35 ปี​ที่​บราซิล​อาสา​ที่​จะ​กลับ​ไป​ดู​แล​พ่อ​แม่. เธอ​บอก​ว่า ทำไม​ต้อง​ให้​มิชชันนารี​สอง​คน​ออก​จาก​เขต​งาน ใน​เมื่อ​คน​เดียว​ทำ​หน้า​ที่​นี้​ได้? ตั้ง​แต่​พ่อ​แม่​เรา​เสีย​ชีวิต ดอริส​อยู่​ต่อ​ไป​ใน​ชัตตานูกา​และ​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ.

ใน​ปี 1995 แพทย์​วินิจฉัย​ว่า​ผม​เป็น​มะเร็ง​ต่อม​ลูก​หมาก​และ​ต้อง​กลับ​ไป​ที่​สหรัฐ. เรา​เลือก​ที่​จะ​อยู่​ใน​เมือง​โกลส์โบโร ใน​รัฐ​นอร์ทแคโรไลนา เพราะ​เมือง​นี้​อยู่​กึ่งกลาง​ระหว่าง​รัฐ​เทนเนสซี​ที่​ครอบครัว​ของ​ผม​อยู่​กับ​รัฐ​เพนซิลเวเนีย​ที่​ครอบครัว​ของ​เจอร์รี​อยู่. ตอน​นี้​โรค​มะเร็ง​ที่​ผม​เป็น​อยู่​ทุเลา​ลง และ​เรา​รับใช้​ใน​ประชาคม​หนึ่ง​ที่​เมือง​โกลส์โบโร​ใน​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ที่​สุขภาพ​ไม่​แข็งแรง.

เมื่อ​ผม​มอง​ย้อน​กลับ​ไป​ตลอด 65 ปี​ที่​อยู่​ใน​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​จริง ๆ ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​อวย​พร​ผม​กับ​เจอร์รี​เมื่อ​เรา​ปรับ​ตัว​เพื่อ​จะ​รับใช้​พระองค์. ถ้อย​คำ​ของ​ดาวิด​เป็น​ความ​จริง​ที่​ว่า “[พระ​ยะโฮวา] ทรง​สำแดง​ความ​รัก​มั่นคง​ต่อ​ผู้​ที่​จงรักภักดี”!—2 ซามู. 22:26, ฉบับ R​73

[ภาพ​หน้า 3]

พ่อ​ผม​กับ​บราเดอร์​นิโคลส์​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ไว้​ให้​ผม

[ภาพ​หน้า 4]

ถ่าย​กับ​เจอร์รี ตอน​ที่​เตรียม​ตัว​จะ​ไป​กิเลียด​ใน​ปี 1952

[ภาพ​หน้า 5]

หลัง​จาก​จบ​โรง​เรียน​กิเลียด เรา​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​เป็น​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​ใน​ตอน​ใต้​ของ​สหรัฐ

[ภาพ​หน้า 6]

ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​กับ​ภรรยา​กำลัง​เตรียม​ตัว​สำหรับ​การ​ประชุม​ภาค​ใน​ปี 1966 ซึ่ง​พี่​น้อง​ผิว​ดำ​กับ​พี่​น้อง​ผิว​ขาว​ประชุม​ร่วม​กัน

[ภาพ​หน้า 7]

เรา​รับใช้​เป็น​มิชชันนารี​ใน​ประเทศ​กายอานา​ด้วย​ความ​ยินดี