ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

จงช่วยผู้คนให้ “ตื่นจากหลับ”

จงช่วยผู้คนให้ “ตื่นจากหลับ”

จง​ช่วย​ผู้​คน​ให้ “ตื่น​จาก​หลับ”

“พวก​ท่าน​รู้​ว่า​เวลา​นี้​เป็น​เวลา​ที่​ควร​จะ​ตื่น​จาก​หลับ​ได้​แล้ว.”—โรม 13:11

คุณ​อธิบาย​ได้​ไหม?

เหตุ​ใด​จึง​สำคัญ​ที่​คริสเตียน​ต้อง​ตื่น​ฝ่าย​วิญญาณ​อยู่​เสมอ?

เหตุ​ใด​ผู้​รับใช้​ที่​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ​ควร​ฟัง​และ​ช่าง​สังเกต?

ความ​กรุณา​และ​ความ​นุ่มนวล​มี​ความ​สำคัญ​อย่าง​ไร​ใน​การ​ประกาศ​ของ​เรา?

1, 2. หลาย​คน​จำเป็น​ต้อง​ตื่น​ใน​ความ​หมาย​เช่น​ไร?

ทุก​ปี มี​คน​จำนวน​มาก​ตาย​เพราะ​พวก​เขา​ง่วง​หรือ​เผลอ​หลับ​ขณะ​ขับ​รถ. คน​อื่น ๆ ตก​งาน​เนื่อง​จาก​ตื่น​ไม่​ทัน​เวลา​งาน​หรือ​เพราะ​หลับ​ขณะ​ปฏิบัติ​หน้า​ที่. แต่​ความ​ง่วง​ฝ่าย​วิญญาณ​อาจ​มี​ผล​ร้ายแรง​ยิ่ง​กว่า​นั้น​มาก. ใน​ความ​หมาย​ที่​สำคัญ​นี้​เอง​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​ว่า “ผู้​ที่​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ . . . ก็​มี​ความ​สุข.”—วิ. 16:14-16

2 ขณะ​ที่​วัน​ใหญ่​ของ​พระ​ยะโฮวา​ใกล้​เข้า​มา มนุษย์​โดย​ทั่ว​ไป​กำลัง​หลับใหล​ฝ่าย​วิญญาณ. แม้​แต่​ผู้​นำ​บาง​คน​ใน​คริสต์​ศาสนจักร​ก็​กล่าว​ถึง​ฝูง​แกะ​ของ​พวก​เขา​ว่า​เป็น ‘ยักษ์​หลับ.’ การ​หลับ​ฝ่าย​วิญญาณ​คือ​อะไร? เหตุ​ใด​จึง​สำคัญ​ที่​คริสเตียน​แท้​ต้อง​ตื่น​อยู่​เสมอ? เรา​จะ​ช่วย​คน​อื่น ๆ ให้​ตื่น​จาก​หลับ​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร?

การ​หลับ​ฝ่าย​วิญญาณ​คือ​อะไร?

3. คุณ​จะ​พรรณนา​คน​ที่​หลับ​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​ไร?

3 ตาม​ปกติ​แล้ว​คน​ที่​หลับ​จะ​อยู่​นิ่ง ๆ ไม่​ทำ​อะไร. ตรง​กัน​ข้าม คน​ที่​หลับ​ฝ่าย​วิญญาณ อาจ​ยุ่ง​มาก แต่​ไม่​ได้​ยุ่ง​อยู่​กับ​เรื่อง​ฝ่าย​วิญญาณ. พวก​เขา​อาจ​หมกมุ่น​อย่าง​มาก​กับ​เรื่อง​ต่าง ๆ ที่​พวก​เขา​เป็น​ห่วง​กังวล​ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​หรือ​การ​แสวง​หา​ความ​เพลิดเพลิน ชื่อเสียง หรือ​ความ​มั่งคั่ง. เพราะ​ยุ่ง​อยู่​กับ​กิจกรรม​เหล่า​นี้ พวก​เขา​จึง​แทบ​จะ​ไม่​สนใจ​เลย​ใน​เรื่อง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ตน. แต่​คน​ที่​ตื่น​ฝ่าย​วิญญาณ​ตระหนัก​ว่า​เรา​มี​ชีวิต​อยู่ “ใน​สมัย​สุด​ท้าย” พวก​เขา​จึง​ออก​แรง​แข็งขัน​เท่า​ที่​จะ​ทำ​ได้​ใน​การ​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า.—2 เป. 3:3, 4; ลูกา 21:34-36

4. คำ​แนะ​นำ​ที่​ว่า “อย่า​ให้​เรา​หลับใหล​เหมือน​คน​อื่น” มี​ความ​หมาย​อย่าง​ไร?

4 อ่าน 1 เทสซาโลนิเก 5:4-8. ใน​ที่​นี้​อัครสาวก​เปาโล​กระตุ้น​เตือน​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ว่า​อย่า “หลับใหล​เหมือน​คน​อื่น.” ท่าน​หมาย​ความ​อย่าง​ไร? วิธี​หนึ่ง​ที่​เรา​อาจ “หลับใหล” ก็​คือ​โดย​ที่​เรา​ละเลย​มาตรฐาน​ด้าน​ศีลธรรม​ของ​พระ​ยะโฮวา. อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​เรา​อาจ “หลับใหล” ก็​คือ​โดย​เพิกเฉย​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​เวลา​ที่​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทำลาย​คน​ที่​ไม่​เลื่อมใส​พระเจ้า​ใกล้​เข้า​มา​แล้ว. เรา​ต้อง​ตรวจ​สอบ​ตัว​เอง​ให้​แน่​ใจ​ว่า​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ไม่​เลื่อมใส​พระเจ้า​จะ​ไม่​ชัก​นำ​เรา​ให้​คล้อย​ตาม​แนว​ทาง​และ​ทัศนะ​ของ​พวก​เขา.

5. คน​ที่​หลับ​ฝ่าย​วิญญาณ​มี​แนว​คิด​เช่น​ไร?

5 บาง​คน​คิด​ว่า​ไม่​มี​พระเจ้า​ที่​จะ​พิพากษา​การ​กระทำ​ของ​พวก​เขา. (เพลง. 53:1) ส่วน​คน​อื่น​คิด​ว่า​พระเจ้า​ไม่​สนใจ​พวก​เรา​ที่​เป็น​มนุษย์ จึง​ไม่​จำเป็น​ต้อง​สนใจ​พระองค์. และ​ยัง​มี​บาง​คน​ที่​คิด​ว่า​การ​เป็น​สมาชิก​ของ​คริสตจักร​จะ​ทำ​ให้​พวก​เขา​เป็น​มิตร​ของ​พระเจ้า​ได้. คน​เหล่า​นี้​ทั้ง​หมด​กำลัง​หลับ​ฝ่าย​วิญญาณ. พวก​เขา​จำเป็น​ต้อง​ตื่น​จาก​หลับ. เรา​จะ​ช่วย​พวก​เขา​ได้​อย่าง​ไร?

เรา​เอง​ต้อง​ตื่น​อยู่​เสมอ

6. เพราะ​เหตุ​ใด​คริสเตียน​ต้อง​พยายาม​ตื่น​ฝ่าย​วิญญาณ​อยู่​เสมอ?

6 เพื่อ​จะ​ปลุก​คน​อื่น​ให้​ตื่น​ได้ เรา​เอง​ต้อง​ตื่น​อยู่. นั่น​เกี่ยว​ข้อง​กับ​อะไร? พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​หลับ​โดย​นัย​เกี่ยว​ข้อง​กับ “การ​ของ​ความ​มืด” เช่น การ​กิน​เลี้ยง​เฮฮา​อย่าง​เลย​เถิด การ​ดื่ม​จน​เมา​มาย การ​ทำ​ผิด​ศีลธรรม​ทาง​เพศ การ​ประพฤติ​ไร้​ยางอาย การ​ทะเลาะ​วิวาท และ​การ​อิจฉา​ริษยา. (อ่าน​โรม 13:11-14) การ​หลีก​เลี่ยง​การ​กระทำ​เหล่า​นี้​อาจ​เป็น​เรื่อง​ยาก. การ​ตื่น​ตัว​ระวัง​ระไว​อยู่​เสมอ​เป็น​เรื่อง​สำคัญ. คน​ขับ​รถ​ที่​ประเมิน​อันตราย​ของ​การ​หลับ​ใน​ต่ำ​เกิน​ไป​อาจ​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​เขา​ตก​อยู่​ใน​อันตราย. สำคัญ​สัก​เพียง​ไร​ที่​คริสเตียน​ต้อง​รู้​ว่า​การ​หลับ​ฝ่าย​วิญญาณ​อาจ​ส่ง​ผล​เสียหาย​ร้ายแรง​ถึง​ตาย​ได้!

7. ทัศนะ​ผิด ๆ ที่​มี​ต่อ​ผู้​คน​อาจ​มี​ผล​อย่าง​ไร​ต่อ​เรา?

7 ตัว​อย่าง​เช่น คริสเตียน​คน​หนึ่ง​อาจ​คิด​ว่า​ทุก​คน​ใน​เขต​ทำ​งาน​ปฏิเสธ​ข่าว​ดี​กัน​หมด​และ​ไม่​มี​อะไร​จะ​เปลี่ยน​พวก​เขา​ได้. (สุภา. 6:10, 11) เขา​อาจ​หา​เหตุ​ผล​ว่า ‘ถ้า​ไม่​มี​ใคร​ตอบรับ เรา​จะ​พยายาม​อย่าง​มาก​ที่​จะ​เข้า​ถึง​ผู้​คน​หรือ​ช่วยเหลือ​พวก​เขา​ไป​ทำไม?’ จริง​อยู่ ตอน​นี้​หลาย​คน​อาจ​หลับใหล​ฝ่าย​วิญญาณ แต่​สภาพการณ์​และ​ทัศนะ​ของ​พวก​เขา​อาจ​เปลี่ยน​ได้. บาง​คน​ตื่น​จาก​หลับ​และ​ตอบรับ​ข่าว​ดี. และ​เรา​จะ​ช่วย​พวก​เขา​ได้​ถ้า​เรา​เอง​ตื่น​อยู่​เสมอ เช่น โดย​การ​พยายาม​ใช้​วิธี​ใหม่ ๆ ใน​การ​เสนอ​ข่าว​ราชอาณาจักร​ใน​วิธี​ที่​ดึงดูด​ใจ. ส่วน​หนึ่ง​ของ​การ​ที่​เรา​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​เตือน​ตัว​เอง​ให้​ระลึก​เสมอ​ว่า​เหตุ​ใด​งาน​รับใช้​ของ​เรา​จึง​สำคัญ​มาก.

อะไร​ทำ​ให้​งาน​รับใช้​ของ​เรา​สำคัญ​มาก?

8. เหตุ​ใด​งาน​ประกาศ​ของ​คริสเตียน​จึง​มี​ความ​สำคัญ​อย่าง​ยิ่ง?

8 ขอ​จำ​ไว้​ว่า ไม่​ว่า​ผู้​คน​ตอบรับ​อย่าง​ไร​ใน​เวลา​นี้ การ​ประกาศ​ของ​เรา​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​ได้​รับ​คำ​สรรเสริญ​และ​มี​ส่วน​ทำ​ให้​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​สำเร็จ. ใน​ไม่​ช้า คน​ที่​ไม่​เชื่อ​ฟัง​ข่าว​ดี​จะ​ถูก​ตัดสิน​ลง​โทษ​ตาม​การ​พิพากษา. วิธี​ที่​ผู้​คน​แสดง​ปฏิกิริยา​ต่อ​การ​ประกาศ​ของ​เรา​จะ​เป็น​พื้น​ฐาน​ที่​พระเจ้า​ทรง​ใช้​ใน​การ​ตัดสิน​พวก​เขา. (2 เทส. 1:8, 9) นอก​จาก​นั้น นับ​ว่า​เป็น​เรื่อง​ผิด​พลาด​ที่​คริสเตียน​จะ​หา​เหตุ​ผล​ว่า​การ​ประกาศ​อย่าง​ขันแข็ง​เป็น​เรื่อง​ไม่​จำเป็น​เพราะ “ทั้ง​คน​ชอบธรรม​และ​คน​ไม่​ชอบธรรม​จะ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย.” (กิจ. 24:15) เรา​ได้​รับ​ความ​เข้าใจ​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ว่า​คน​ที่​ถูก​ตัดสิน​ว่า​เป็น “แพะ” จะ “ถูก​ทำลาย​ชั่วนิรันดร์.” การ​ประกาศ​ของ​เรา​แสดง​ให้​เห็น​ความ​เมตตา​ของ​พระเจ้า เปิด​ทาง​ให้​ผู้​คน​เปลี่ยน​ชีวิต​และ​ได้​รับ “ชีวิต​นิรันดร์.” (มัด. 25:32, 41, 46; โรม 10:13-15) ถ้า​เรา​ไม่​ประกาศ ผู้​คน​จะ​มี​โอกาส​ได้​ยิน​ข่าวสาร​ที่​อาจ​หมาย​ถึง​ชีวิต​สำหรับ​เขา​ได้​อย่าง​ไร?

9. การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​มี​ประโยชน์​ต่อ​ทั้ง​ตัว​คุณ​และ​คน​อื่น ๆ อย่าง​ไร?

9 การ​ประกาศ​ข่าว​ดี​ยัง​เป็น​ประโยชน์​สำหรับ​เรา​ด้วย. (อ่าน 1 ติโมเธียว 4:16) คุณ​เห็น​ด้วย​ไหม​ว่า​การ​พูด​เรื่อง​พระ​ยะโฮวา​และ​ความ​หวัง​เรื่อง​ราชอาณาจักร​เสริม​ความ​เชื่อ​และ​ความ​รัก​ของ​คุณ​ต่อ​พระเจ้า​ให้​มั่นคง​ขึ้น? การ​ประกาศ​ช่วย​คุณ​ให้​พัฒนา​คุณลักษณะ​แบบ​คริสเตียน​มิ​ใช่​หรือ? การ​ที่​คุณ​แสดง​ความ​เลื่อมใส​ใน​พระเจ้า​ด้วย​การ​ร่วม​ทำ​งาน​รับใช้​ทำ​ให้​คุณ​มี​ความ​สุข​มิ​ใช่​หรือ? หลาย​คน​ที่​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​สอน​ความ​จริง​แก่​คน​อื่น ๆ มี​ความ​ยินดี​ที่​เห็น​พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ช่วย​คน​เหล่า​นั้น​ให้​ปรับ​ปรุง​แนว​ทาง​ชีวิต​ของ​ตน.

จง​เป็น​คน​ช่าง​สังเกต

10, 11. (ก) พระ​เยซู​และ​เปาโล​แสดง​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ว่า​เป็น​คน​ช่าง​สังเกต​และ​ตื่น​ตัว? (ข) จง​ยก​ตัว​อย่าง​ว่า​การ​เป็น​คน​ช่าง​สังเกต​และ​ตื่น​ตัว​จะ​ช่วย​เรา​ทำ​งาน​รับใช้​ให้​ดี​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร.

10 แต่​ละ​คน​อาจ​ถูก​กระตุ้น​ให้​สนใจ​ข่าว​ดี​ด้วย​วิธี​ที่​แตกต่าง​กัน. ดัง​นั้น คริสเตียน​ต้อง​เป็น​คน​ช่าง​สังเกต​และ​ตื่น​ตัว. พระ​เยซู​ทรง​เป็น​ตัว​อย่าง​สำหรับ​เรา. เนื่อง​จาก​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์ พระองค์​ทรง​มอง​ออก​ว่า​ฟาริซาย​คน​หนึ่ง​รู้สึก​ขุ่นเคือง​พระองค์​แม้​ว่า​เขา​ไม่​ได้​พูด​ออก​มา ทรง​มอง​ออก​ว่า​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​เป็น​คน​บาป​กลับ​ใจ​อย่าง​แท้​จริง และ​ทรง​มอง​ออก​ว่า​หญิง​ม่าย​คน​หนึ่ง​มี​น้ำใจ​เสีย​สละ. (ลูกา 7:37-50; 21:1-4) พระ​เยซู​ทรง​สามารถ​ตอบ​สนอง​ความ​จำเป็น​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​แต่​ละ​คน. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ผู้​รับใช้​ของ​พระเจ้า​ไม่​จำเป็น​ต้อง​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์​จึง​จะ​เป็น​คน​ช่าง​สังเกต​ได้. อัครสาวก​เปาโล​เป็น​ตัว​อย่าง​ใน​เรื่อง​นี้. ท่าน​ปรับ​การ​เสนอ​ของ​ท่าน​เพื่อ​จะ​ดึงดูด​ความ​สนใจ​ของ​คน​หลาย​กลุ่ม​และ​ผู้​คน​ที่​มี​ทัศนะ​แตกต่าง​หลาก​หลาย.—กิจ. 17:22, 23, 34; 1 โค. 9:19-23

11 โดย​พยายาม​เป็น​คน​ตื่น​ตัว​และ​ช่าง​สังเกต​เช่น​เดียว​กับ​พระ​เยซู​และ​เปาโล เรา​สามารถ​มอง​ออก​ว่า​วิธี​ไหน​ดี​ที่​สุด​ที่​จะ​กระตุ้น​ความ​สนใจ​ของ​คน​ที่​เรา​พบ. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​คุณ​เข้า​พบ​ผู้​คน จง​มอง​หา​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​บ่ง​บอก​ว่า​เขา​มี​ภูมิหลัง​ด้าน​วัฒนธรรม ความ​สนใจ หรือ​สภาพ​ครอบครัว​อย่าง​ไร. บาง​ที​คุณ​อาจ​สังเกต​ว่า​เขา​กำลัง​ทำ​อะไร​อยู่ คุณ​อาจ​เริ่ม​การ​สนทนา​ด้วย​การ​พูด​ถึง​เรื่อง​นั้น​อย่าง​สุภาพ.

12. ขณะ​ประกาศ เหตุ​ใด​เรา​ควร​ระวัง​ใน​เรื่อง​การ​พูด​คุย​กัน?

12 คน​ที่​ช่าง​สังเกต​และ​ตื่น​ตัว​พยายาม​หลีก​เลี่ยง​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เขว. ขณะ​ทำ​งาน​ประกาศ การ​สนทนา​กับ​เพื่อน​ผู้​ประกาศ​อาจ​ช่วย​หนุน​ใจ​กัน. ถึง​กระนั้น เรา​ต้องการ​จำ​ไว้​ว่า​จุด​ประสงค์​ที่​เรา​เข้า​ร่วม​งาน​ประกาศ​ตาม​บ้าน​ก็​คือ​การ​ประกาศ​แก่​คน​อื่น. (ผู้ป. 3:1, 7) ดัง​นั้น เรา​ควร​ระวัง​ไม่​ให้​การ​พูด​คุย​กัน​ระหว่าง​บ้าน​หนึ่ง​ไป​อีก​บ้าน​หนึ่ง​ส่ง​ผล​เสีย​ต่อ​งาน​ประกาศ​ของ​เรา. การ​คุย​กัน​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​ที่​เรา​จะ​พูด​กับ​ผู้​สนใจ​เป็น​วิธี​ที่​ดี​วิธี​หนึ่ง​ที่​จะ​ทำ​ให้​เรา​จดจ่อ​อยู่​กับ​เป้าหมาย​ของ​เรา. นอก​จาก​นั้น แม้​ว่า​บาง​ครั้ง​โทรศัพท์​มือ​ถือ​อาจ​ช่วย​ให้​เรา​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​ขึ้น​ใน​งาน​ประกาศ แต่​เรา​ควร​ระวัง​ไม่​ให้​โทรศัพท์​มา​ขัด​จังหวะ​การ​สนทนา​ของ​เรา​กับ​เจ้าของ​บ้าน.

จง​แสดง​ความ​สนใจ​เป็น​ส่วน​ตัว

13, 14. (ก) เรา​จะ​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เจ้าของ​บ้าน​สนใจ​อะไร? (ข) อะไร​อาจ​กระตุ้น​ให้​ผู้​คน​สนใจ​เรื่อง​พระเจ้า?

13 ผู้​ประกาศ​ที่​ตื่น​ตัว​จะ​ตั้งใจ​ฟัง​คน​ที่​เขา​สนทนา​ด้วย. คุณ​อาจ​ตั้ง​คำ​ถาม​อะไร​เพื่อ​ให้​คน​ที่​พบ​ใน​เขต​ประกาศ​แสดง​ความ​รู้สึก​ของ​เขา​ออก​มา? เขา​กังวล​ใน​เรื่อง​ศาสนา​ใหม่ ๆ ที่​มี​เพิ่ม​ขึ้น ความ​รุนแรง​ใน​ท้องถิ่น หรือ​ความ​ล้มเหลว​ของ​รัฐบาล​ไหม? คุณ​จะ​กระตุ้น​ความ​สนใจ​ใน​เรื่อง​พระเจ้า​โดย​กล่าว​ถึง​การ​ออก​แบบ​ที่​น่า​ทึ่ง​ของ​สิ่ง​มี​ชีวิต​ทั้ง​หลาย​หรือ​โดย​ชี้​ให้​เห็น​ว่า​คำ​แนะ​นำ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​ประโยชน์​อย่าง​ไร​ได้​ไหม? ผู้​คน​ใน​เกือบ​ทุก​วัฒนธรรม แม้​แต่​บาง​คน​ที่​ไม่​เชื่อ​พระเจ้า สนใจ​ใน​เรื่อง​การ​อธิษฐาน​หรือ​การ​สวด​ภาวนา. หลาย​คน​สงสัย​ว่า​มี​ใคร​ฟัง​คำ​สวด​ภาวนา​ของ​เขา​ไหม. ส่วน​บาง​คน​ก็​อาจ​ถูก​กระตุ้น​ให้​เกิด​ความ​สนใจ​โดย​คำ​ถาม​ที่​ว่า พระเจ้า​ทรง​ฟัง​คำ​อธิษฐาน​ทุก​อย่าง ไหม? ถ้า​ไม่​ใช่​อย่าง​นั้น เรา​ควร​อธิษฐาน​อย่าง​ไร​พระเจ้า​จึง​จะ​ฟัง?

14 การ​สังเกต​ว่า​ผู้​ประกาศ​ที่​มี​ประสบการณ์​ทำ​อย่าง​ไร​จะ​ช่วย​ให้​เรา​เรียน​รู้​ศิลปะ​ใน​การ​เริ่ม​การ​สนทนา​ได้​มาก​ที​เดียว. ขอ​ให้​สังเกต​ว่า​พวก​เขา​ทำ​อย่าง​ไร​เพื่อ​จะ​ไม่​ดู​เหมือน​กับ​ว่า​พวก​เขา​กำลัง​ซักไซ้​ไล่เลียง​เจ้าของ​บ้าน​หรือ​สอดรู้สอดเห็น. น้ำ​เสียง​และ​การ​แสดง​สี​หน้า​ของ​พวก​เขา​บ่ง​บอก​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ว่า​พวก​เขา​สนใจ​ความ​คิด​เห็น​ของ​เจ้าของ​บ้าน?—สุภา. 15:13

ความ​กรุณา​และ​ความ​ชำนาญ

15. เหตุ​ใด​เรา​ควร​แสดง​ความ​กรุณา​เมื่อ​ไป​ประกาศ?

15 คุณ​ชอบ​ไหม​ถ้า​มี​ใคร​มา​ปลุก​คุณ​ตอน​ที่​กำลัง​หลับ​สนิท? หลาย​คน​ไม่​พอ​ใจ​เมื่อ​ถูก​ปลุก​ให้​ตื่น​อย่าง​กะทันหัน. คน​เรา​มัก​ชอบ​การ​ปลุก​อย่าง​นุ่มนวล​มาก​กว่า. การ​พยายาม​จะ​ปลุก​ผู้​คน​ให้​ตื่น​ฝ่าย​วิญญาณ​ก็​เป็น​อย่าง​นั้น​ด้วย. ตัว​อย่าง​เช่น ถ้า​ใคร​บาง​คน​โกรธ​ที่​คุณ​ประกาศ​ข่าว​ดี​แก่​เขา ตาม​ปกติ​แล้ว​การ​ตอบ​แบบ​ไหน​นับ​ว่า​ดี​ที่​สุด? เรา​อาจ​พูด​อย่าง​กรุณา​ว่า​เรา​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​เขา ขอบคุณ​ที่​เขา​พูด​ออก​มา​ตรง ๆ และ​จาก​ไป​ด้วย​ดี. (สุภา. 15:1; 17:14; 2 ติโม. 2:24) ความ​กรุณา​ของ​คุณ​อาจ​กระตุ้น​ให้​คน​นั้น​แสดง​ปฏิกิริยา​ที่​ดี​กว่า​นี้​ใน​คราว​หน้า​เมื่อ​พยาน​ฯ มา​ประกาศ.

16, 17. เรา​จะ​แสดง​ความ​เข้าใจ​ใน​งาน​ประกาศ​ได้​อย่าง​ไร?

16 ใน​กรณี​อื่น ๆ คุณ​อาจ​เอา​ชนะ​ปฏิกิริยา​เชิง​ลบ​ได้. บาง​คน​อาจ​พูด​ว่า “ไม่​เอา​ครับ ผม​มี​ศาสนา​ของ​ผม​เอง​อยู่​แล้ว” หรือ​อาจ​บอก​ว่า “ดิฉัน​ไม่​สนใจ” เพียง​เพราะ​นั่น​ดู​เหมือน​จะ​เป็น​วิธี​ที่​ง่าย​ที่​สุด​ที่​จะ​ยุติ​การ​สนทนา. แต่​ด้วย​ความ​ชำนาญ​และ​ความ​พยายาม​ไม่​ละลด​อย่าง​กรุณา คุณ​อาจ​ตั้ง​คำ​ถาม​ที่​กระตุ้น​ให้​เจ้าของ​บ้าน​คิด​และ​สนใจ​ข่าว​ดี​ได้.—อ่าน​โกโลซาย 4:6

17 บาง​ครั้ง​เมื่อ​เรา​พบ​คน​ที่​คิด​ว่า​เขา​ยุ่ง​มาก​และ​ไม่​มี​เวลา​ฟัง​เรา อาจ​ดี​ที่​สุด​ที่​จะ​แสดง​ว่า​เรา​เข้าใจ​สถานการณ์​ของ​เขา​และ​ลา​จาก​ไป. แต่​บาง​ครั้ง คุณ​อาจ​เห็น​ว่า​คุณ​จะ​พูด​อะไร​บาง​อย่าง​สั้น ๆ ได้. พี่​น้อง​บาง​คน​สามารถ​เปิด​คัมภีร์​ไบเบิล อ่าน​ข้อ​หนึ่ง​ที่​กระตุ้น​ความ​คิด และ​ทิ้ง​คำ​ถาม​ไว้​กับ​เจ้าของ​บ้าน โดย​ทั้ง​หมด​นี้​ใช้​เวลา​ไม่​ถึง​หนึ่ง​นาที. บาง​ครั้ง​การ​เสนอ​สั้น ๆ กระตุ้น​ให้​เกิด​ความ​สนใจ​ได้​มาก​จน​เจ้าของ​บ้าน​เห็น​ว่า​เขา​พอ​จะ​มี​เวลา​คุย​กับ​เรา​สั้น ๆ ได้. คุณ​น่า​จะ​ลอง​ทำ​อย่าง​นี้​เมื่อ​มี​โอกาส​ที่​จะ​ทำ​ได้.

18. เรา​อาจ​ทำ​อะไร​ได้​เพื่อ​จะ​มี​ประสิทธิภาพ​มาก​ขึ้น​ใน​การ​ประกาศ​อย่าง​ไม่​เป็น​ทาง​การ?

18 เมื่อ​เรา​พบ​ผู้​คน​ขณะ​ที่​เรา​ทำ​กิจวัตร​ประจำ​วัน เรา​อาจ​กระตุ้น​ให้​เขา​สนใจ​ข่าว​ดี​ได้​ถ้า​เรา​พร้อม​ที่​จะ​ประกาศ​อย่าง​ไม่​เป็น​ทาง​การ. พี่​น้อง​หลาย​คน​พก​หนังสือ​บาง​เล่ม​ติด​กระเป๋า. นอก​จาก​นั้น พวก​เขา​อาจ​มี​ข้อ​คัมภีร์​อยู่​ใน​ใจ​ที่​พร้อม​จะ​บอก​คน​อื่น​เมื่อ​มี​โอกาส. คุณ​อาจ​ถาม​ผู้​ดู​แล​การ​รับใช้​หรือ​ไพโอเนียร์​ใน​ประชาคม​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​คุณ​สามารถ​เตรียม​ตัว​ให้​พร้อม​ที่​จะ​ทำ​อย่าง​นั้น.

กระตุ้น​ญาติ​ของ​เรา​อย่าง​นุ่มนวล

19. เหตุ​ใด​เรา​ไม่​ควร​เลิก​พยายาม​ที่​จะ​ช่วย​ญาติ​ของ​เรา?

19 เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ที่​เรา​คง​อยาก​ช่วย​ญาติ ๆ ให้​ตอบรับ​ข่าว​ดี. (ยโฮ. 2:13; กิจ. 10:24, 48; 16:31, 32) ถ้า​ความ​พยายาม​ของ​เรา​ใน​ครั้ง​แรก​ถูก​ปฏิเสธ​อย่าง​ไม่​ไยดี เรา​อาจ​ไม่​อยาก​จะ​พยายาม​อีก​ต่อ​ไป. เรา​อาจ​คิด​ว่า​ไม่​ว่า​จะ​พูด​หรือ​ทำ​อะไร​เรา​คง​เปลี่ยน​ทัศนะ​ของ​พวก​เขา​ได้​ยาก. ถึง​กระนั้น อาจ​มี​เหตุ​การณ์​บาง​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​สภาพการณ์​หรือ​ทัศนะ​ของ​ญาติ​เปลี่ยน​ไป. หรือ​คุณ​อาจ​มี​ความ​สามารถ​ใน​การ​อธิบาย​ความ​จริง​ได้​ดี​ขึ้น​ซึ่ง​อาจ​ทำ​ให้​ท่าที​ของ​พวก​เขา​เปลี่ยน​ไป.

20. เหตุ​ใด​จึง​สำคัญ​ที่​จะ​พูด​กับ​ญาติ​อย่าง​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา?

20 เรา​ควร​ระวัง​ที่​จะ​ไม่​เป็น​คน​เย็นชา​ต่อ​ความ​รู้สึก​ของ​ญาติ. (โรม 2:4) เรา​ควร​พูด​กับ​พวก​เขา​อย่าง​กรุณา​เหมือน​ที่​เรา​พูด​กับ​คน​ที่​เรา​พบ​ใน​การ​ประกาศ​มิ​ใช่​หรือ? จง​พูด​อย่าง​นุ่มนวล​และ​แสดง​ความ​นับถือ. โดย​ระวัง​ไม่​พูด​แบบ​เทศน์​ให้​เขา​ฟัง จง​แสดง​ให้​เขา​เห็น​ว่า​ความ​จริง​ก่อ​ผล​ที่​ดี​ต่อ​คุณ​อย่าง​ไร. (เอเฟ. 4:23, 24) อธิบาย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ทำ​ให้​ชีวิต​คุณ​ดี​ขึ้น​โดย ‘สั่ง​สอน​คุณ เพื่อ​ประโยชน์​แก่​ตัว​ของ​คุณ​เอง’ อย่าง​ไร. (ยซา. 48:17) จง​ให้​ญาติ​ของ​คุณ​เห็น​ว่า​คุณ​กำลัง​ดำเนิน​ชีวิต​แบบ​คริสเตียน​จริง ๆ.

21, 22. จง​เล่า​ประสบการณ์​ที่​แสดง​ให้​เห็น​คุณค่า​ของ​การ​เพียร​พยายาม​ช่วย​ญาติ​ให้​รับ​ความ​จริง.

21 เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้ พี่​น้อง​หญิง​คน​หนึ่ง​เขียน​มา​เล่า​ว่า “ดิฉัน​พยายาม​ประกาศ​กับ​พี่ ๆ น้อง ๆ ทั้ง 13 คน​เสมอ ทั้ง​โดย​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ. ดิฉัน​ไม่​เคย​ปล่อย​ให้​ปี​ใด​ผ่าน​ไป​โดย​ไม่​ได้​เขียน​จดหมาย​ถึง​แต่​ละ​คน. แต่​ถึง​จะ​อย่าง​นั้น ดิฉัน​เป็น​พยาน​ฯ คน​เดียว​ใน​ครอบครัว​นาน​ถึง 30 ปี.”

22 พี่​น้อง​หญิง​คน​นี้​เล่า​ต่อ​อีก​ว่า “วัน​หนึ่ง ดิฉัน​โทรศัพท์​ไป​หา​พี่​สาว​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​อยู่​ไกล​ออก​ไป​หลาย​ร้อย​กิโลเมตร. เธอ​บอก​ดิฉัน​ว่า​เธอ​ขอ​ให้​นัก​เทศน์​มา​สอน​พระ​คัมภีร์ แต่​เขา​ไม่​เคย​มา​เลย. เมื่อ​ดิฉัน​บอก​ว่า​ดิฉัน​ยินดี​ช่วย เธอ​ก็​พูด​ว่า ‘ก็​ได้ แต่​ฉัน​บอก​ไว้​ก่อน​นะ​ว่า​ฉัน​จะ​ไม่​มี​ทาง​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา.’ หลัง​จาก​ส่ง​หนังสือ​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​อะไร​จริง​ๆ? ไป​ให้ ดิฉัน​ก็​โทรศัพท์​ไป​หา​เธอ​ทุก ๆ สอง​สาม​วัน. แต่​เธอ​ก็​ยัง​ไม่​ได้​เปิด​หนังสือ​อ่าน​สัก​ที. ใน​ที่​สุด ดิฉัน​ขอ​ให้​เธอ​ไป​หยิบ​หนังสือ​มา แล้ว​ก็​คุย​กัน​ประมาณ 15 นาที​ทาง​โทรศัพท์ อ่าน​และ​พิจารณา​ข้อ​คัมภีร์​บาง​ข้อ​ที่​มี​อ้าง​ถึง. หลัง​จาก​ที่​โทรศัพท์​ไป​อีก​สอง​สาม​ครั้ง เธอ​ก็​ต้องการ​ศึกษา​นาน​กว่า 15 นาที. หลัง​จาก​นั้น เธอ​ก็​เริ่ม​เป็น​ฝ่าย​โทรศัพท์​หา​ดิฉัน​เพื่อ​จะ​ศึกษา​ด้วย​กัน บาง​ครั้ง​โทร​ฯ มา​แต่​เช้า​ตอน​ที่​ดิฉัน​ยัง​ไม่​ได้​ลุก​จาก​เตียง​เสีย​ด้วย​ซ้ำ และ​บาง​วัน​ก็​โทร​ฯ มา​สอง​ครั้ง. ปี​ต่อ​มา เธอ​รับ​บัพติสมา และ​ปี​ถัด​ไป​เธอ​ก็​เริ่ม​เป็น​ไพโอเนียร์.”

23. เหตุ​ใด​เรา​ไม่​ควร​ย่อท้อ​ใน​การ​พยายาม​ปลุก​ผู้​คน​ให้​ตื่น​จาก​หลับ​ฝ่าย​วิญญาณ?

23 การ​ช่วย​ผู้​คน​ให้​ตื่น​จาก​หลับ​ฝ่าย​วิญญาณ​เป็น​ศิลปะ​และ​ต้อง​อาศัย​ความ​พยายาม​อย่าง​ไม่​ละลด. ถึง​กระนั้น คน​ที่​อ่อนน้อม​ก็​ยัง​คง​ตอบรับ​ความ​พยายาม​ของ​เรา​ใน​การ​ปลุก​พวก​เขา. โดย​เฉลี่ย ใน​แต่​ละ​เดือน​มี​คน​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​มาก​กว่า 20,000 คน. ดัง​นั้น ขอ​ให้​เรา​ใส่​ใจ​คำ​แนะ​นำ​ที่​เปาโล​เขียน​ถึง​อาร์คิปปุส พี่​น้อง​ใน​ศตวรรษ​แรก ที่​ว่า “จง​ดู​แล​งาน​เผยแพร่​ที่​ท่าน​ได้​รับ​ใน​ฐานะ​เป็น​สาวก​ของ​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ให้​ดี จะ​ได้​ทำ​งาน​นี้​ให้​สำเร็จ.” (โกโล. 4:17) บทความ​ถัด​ไป​จะ​ช่วย​ทุก​คน​ให้​เข้าใจ​ว่า​การ​ประกาศ​ด้วย​ความ​สำนึก​ถึง​ความ​เร่ง​ด่วน​หมาย​ถึง​อะไร.

[คำ​ถาม]

[กรอบ​หน้า 13]

วิธี​ที่​ช่วย​ให้​คุณ​เอง​ตื่น​อยู่​เสมอ

▪ มี​งาน​ยุ่ง​เสมอ​ใน​การ​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า

▪ หลีก​เลี่ยง​การ​ของ​ความ​มืด

▪ สำนึก​ถึง​อันตราย​ของ​การ​หลับ​ฝ่าย​วิญญาณ

▪ มอง​ผู้​คน​ใน​เขต​ประกาศ​ใน​แง่​ดี​เสมอ

▪ ลอง​ใช้​วิธี​ใหม่ ๆ ใน​การ​ประกาศ

▪ คิด​ถึง​ความ​สำคัญ​ของ​การ​ประกาศ​เสมอ