ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เรื่อง​ราว​ชีวิต​จริง

เจ็ดสิบปีที่ยึดชายเสื้อคนชาติยูดาย

เจ็ดสิบปีที่ยึดชายเสื้อคนชาติยูดาย

เล่า​โดย เลนนาร์ด สมิท

เมื่อ​ผม​อยู่​ใน​ช่วง​วัยรุ่น มี​พระ​คัมภีร์​สอง​ข้อ​ที่​ผม​รู้สึก​ประทับใจ. ตอน​นี้ เวลา​ผ่าน​ไป 70 กว่า​ปี ผม​ก็​ยัง​จำ​ตอน​นั้น​ได้​ที่​ผม​ได้​เข้าใจ​ความ​หมาย​ของ​ซะคาระยา 8:23 ซึ่ง​กล่าว​ถึง “สิบ​คน” ที่​ยึด “ชาย​เสื้อ​แห่ง​คน​ชาติ​ยูดาย.” พวก​เขา​บอก​ชาว​ยิว​ว่า “เรา​จะ​ไป​ด้วย​ท่าน, เพราะ​เรา​ได้​ยิน​ว่า​พระเจ้า​อยู่​กับ​ท่าน​แล้ว.”

คน​ชาติ​ยูดาย​หมาย​ถึง​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม และ “สิบ​คน” หมาย​ถึง “แกะ​อื่น” หรือ​ตาม​ที่​รู้​จัก​กัน​ใน​ตอน​นั้น​ว่า​เป็น “ชน​ชั้น​โยนาดาบ.” * (โย. 10:16) เมื่อ​ผม​เข้าใจ​ความ​จริง​นี้ ผม​ก็​ตระหนัก​ว่า เพื่อ​ผม​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​บน​แผ่นดิน​โลก​ได้ ผม​ต้อง​สนับสนุน​ชน​ผู้​ถูก​เจิม​อย่าง​ภักดี.

อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​เรื่อง “แกะ” กับ “แพะ” ใน​มัดธาย 25:31-46 เป็น​อีก​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​ผม​รู้สึก​ประทับใจ. “แกะ” เป็น​ภาพ​เล็ง​ถึง​คน​ที่​จะ​ถูก​พิพากษา​ให้​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​ใน​เวลา​อวสาน เพราะ​พวก​เขา​ทำ​ดี​ต่อ​เหล่า​พี่​น้อง​ที่​ถูก​เจิม​ของ​พระ​คริสต์​ที่​ยัง​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก. ใน​ฐานะ​โยนาดาบ​หนุ่ม ผม​พูด​กับ​ตัว​เอง​ว่า ‘เลน ถ้า​นาย​อยาก​ให้​พระ​คริสต์​มอง​ว่า​นาย​เป็น​แกะ​ของ​พระองค์ นาย​ต้อง​สนับสนุน​พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​ของ​พระองค์​และ​ยอม​รับ​การ​นำ​ของ​พวก​เขา เพราะ​พระเจ้า​ทรง​อยู่​กับ​พวก​เขา.’ ความ​เข้าใจ​นี้​ช่วย​ชี้​นำ​ชีวิต​ผม​ใน​ช่วง​เวลา​เจ็ด​สิบ​กว่า​ปี.

‘แล้ว​บทบาท​ของ​ผม​คือ​อะไร?’

แม่​ของ​ผม​รับ​บัพติสมา​ใน​ปี 1925 ที่​หอ​ประชุม​ของ​เบเธล. หอ​ประชุม​นี้​มี​ชื่อ​ว่า​ลอนดอน​แทเบอร์นาเคิล และ​พี่​น้อง​ใน​เขต​นั้น​ใช้​หอ​ประชุม​นี้. ผม​เกิด​เมื่อ​วัน​ที่ 15 ตุลาคม 1926. ใน​เดือน​มีนาคม 1940 ผม​รับ​บัพติสมา​ใน​การ​ประชุม​หมวด​ที่​โดเวอร์ ซึ่ง​เป็น​เมือง​ชาย​ทะเล​ของ​อังกฤษ. ความ​รัก​ที่​ผม​มี​ต่อ​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​เพิ่ม​ขึ้น​เรื่อย ๆ. เนื่อง​จาก​แม่​ผม​เป็น​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม​คน​หนึ่ง ชาย​เสื้อ​ตัว​แรก​ที่​ผม​ยึด​ที่​เป็น “ชาย​เสื้อ​แห่ง​คน​ชาติ​ยูดาย” ก็​คือ​ชาย​เสื้อ​ของ​แม่​ผม​เอง. ใน​เวลา​นั้น พ่อ​และ​พี่​สาว​ของ​ผม​ยัง​ไม่​ได้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. เรา​สมทบ​กับ​ประชาคม​จิลลิงแฮม ซึ่ง​อยู่​ทาง​ตะวัน​ออก​เฉียง​ใต้​ของ​อังกฤษ และ​พี่​น้อง​ส่วน​ใหญ่​ใน​ประชาคม​นี้​เป็น​คริสเตียน​ผู้​ถูก​เจิม. แม่​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ใน​เรื่อง​ความ​กระตือรือร้น​ใน​การ​ทำ​งาน​ประกาศ.

ใน​เดือน​กันยายน 1941 ที่​การ​ประชุม​ภาค​ใน​เมือง​เลสเตอร์ คำ​บรรยาย​ที่​ชื่อ “ความ​ซื่อ​สัตย์​จงรักภักดี” พิจารณา​ประเด็น​เกี่ยว​กับ​อำนาจ​การ​ปกครอง​เหนือ​เอกภพ. คำ​บรรยาย​นี้​ช่วย​ผม​ให้​เข้าใจ​เป็น​ครั้ง​แรก​ว่า​เรา​มี​ส่วน​เกี่ยว​ข้อง​ใน​ประเด็น​ระหว่าง​พระ​ยะโฮวา​กับ​ซาตาน. ด้วย​เหตุ​นั้น เรา​จำเป็น​ต้อง​ยืนหยัด​อยู่​ฝ่าย​พระ​ยะโฮวา​และ​รักษา​ความ​ซื่อ​สัตย์​จงรักภักดี​ต่อ​พระองค์​ใน​ฐานะ​ผู้​ปกครอง​องค์​สูง​สุด​แห่ง​เอกภพ.

ใน​การ​ประชุม​ภาค​ครั้ง​นี้ มี​การ​เน้น​อย่าง​มาก​เรื่อง​การ​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์ และ​คน​หนุ่ม​สาว​ได้​รับ​การ​สนับสนุน​ให้​ตั้ง​เป้าหมาย​จะ​เป็น​ไพโอเนียร์. คำ​บรรยาย​ที่​ชื่อ “บทบาท​ของ​ไพโอเนียร์​ใน​องค์การ” ทำ​ให้​ผม​สงสัย​ว่า ‘แล้ว​บทบาท​ของ​ผม​คือ​อะไร?’ การ​ประชุม​ภาค​ครั้ง​นี้​ทำ​ให้​ผม​เชื่อ​มั่น​ว่า​หน้า​ที่​ของ​ผม​ใน​ฐานะ​ชน​ชั้น​โยนาดาบ​ก็​คือ​การ​ช่วย​ชน​ชั้น​ผู้​ถูก​เจิม​ให้​ดี​ที่​สุด​เท่า​ที่​ผม​จะ​ทำ​ได้​ใน​งาน​ประกาศ. ผม​กรอก​ใบ​สมัคร​เป็น​ไพโอเนียร์​ตอน​ที่​ยัง​อยู่​ใน​เมือง​เลสเตอร์​นี้​เอง.

รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​ช่วง​สงคราม

ใน​วัน​ที่ 1 ธันวาคม 1941 ตอน​ที่​ผม​อายุ 15 ปี ผม​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ. แม่​เป็น​คู่​ไพโอเนียร์​คน​แรก​ของ​ผม แต่​หลัง​จาก​นั้น​ประมาณ​หนึ่ง​ปี แม่​ต้อง​เลิก​เป็น​ไพโอเนียร์​เพราะ​มี​ปัญหา​สุขภาพ. สำนักงาน​สาขา​ลอนดอน​จึง​จัด​ให้​ผม​เป็น​ไพโอเนียร์​คู่​กับ​รอน พาร์คิน ซึ่ง​ปัจจุบัน​รับใช้​เป็น​คณะ​กรรมการ​สาขา​คน​หนึ่ง​ใน​ประเทศ​เปอร์โตริโก.

เรา​ถูก​ส่ง​ไป​รับใช้​ที่​บรอดสแตร์​และ​แรมส์เกต ซึ่ง​เป็น​เมือง​ชาย​ทะเล​ใน​มณฑล​เคนต์. เรา​เช่า​ห้อง​ห้อง​หนึ่ง​ที่​นั่น. ไพโอเนียร์​พิเศษ​ได้​รับ​เงิน​ช่วยเหลือ​เดือน​ละ 40 ชิลลิง. ดัง​นั้น เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่​ต้อง​จ่าย​ค่า​เช่า เรา​จึง​เหลือ​เงิน​เพียง​เล็ก​น้อย​ที่​จะ​ใช้​จ่าย และ​บาง​ครั้ง​เรา​ไม่​รู้​เลย​ว่า​อาหาร​มื้อ​ต่อ​ไป​ของ​เรา​จะ​มา​จาก​ไหน. แต่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ดู​แล​ให้​เรา​มี​สิ่ง​จำเป็น​เสมอ ไม่​โดย​วิธี​ใด​ก็​วิธี​หนึ่ง.

เรา​ขี่​จักรยาน​เยอะ​มาก และ​ต้อง​ออก​แรง​ถีบ​จักรยาน​ที่​บรรทุก​หนัก​อึ้ง​ทวน​กระแส​ลม​แรง​ที่​มา​จาก​ทะเล​เหนือ. เรา​ยัง​ต้อง​เผชิญ​กับ​เครื่องบิน​ทิ้ง​ระเบิด​และ​หัว​รบ​วี-1 ของ​เยอรมัน​ที่​บิน​ค่อนข้าง​ต่ำ​ข้าม​มณฑล​เคนต์​ไป​ทิ้ง​ระเบิด​ที่​กรุง​ลอนดอน. ครั้ง​หนึ่ง ผม​ต้อง​กระโดด​ออก​จาก​จักรยาน​และ​พุ่ง​ลง​ไป​ที่​คู​น้ำ​เมื่อ​ระเบิด​ลูก​หนึ่ง​พุ่ง​ผ่าน​หัว​ผม​ไป​ระเบิด​ตรง​ทุ่ง​นา​ที่​อยู่​ไม่​ไกล. แม้​กระนั้น ช่วง​หลาย​ปี​ที่​เป็น​ไพโอเนียร์​ใน​มณฑล​เคนต์​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​เรา​มี​ความ​สุข.

ผม​ได้​มา​เป็น “หนุ่ม​เบเธล”

แม่​ผม​มัก​พูด​ถึง​เบเธล​ด้วย​ความ​ชื่นชม​เสมอ. แม่​มัก​จะ​บอก​ว่า “ไม่​มี​อะไร​อีก​แล้ว​ที่​แม่​ปรารถนา​ยิ่ง​ไป​กว่า​ที่​ลูก​จะ​ได้​เป็น​หนุ่ม​เบเธล.” ลอง​นึก​ดู​สิ​ว่า​ผม​จะ​ยินดี​และ​แปลก​ใจ​ขนาด​ไหน​เมื่อ​ผม​ได้​รับ​คำ​เชิญ​ให้​ไป​ที่​เบเธล​ใน​กรุง​ลอนดอน​เพื่อ​ช่วย​งาน​ที่​นั่น​สาม​สัปดาห์ ใน​เดือน​มกราคม 1946. เมื่อ​ครบ​สาม​สัปดาห์ ไพรซ์ ฮิวส์ ผู้​รับใช้​สาขา ขอ​ให้​ผม​อยู่​รับใช้​ที่​เบเธล​ต่อ​ไป. การ​ฝึก​อบรม​ที่​ผม​ได้​รับ​ที่​นั่น​ช่วย​นวด​ปั้น​ผม​ไป​ตลอด​ชีวิต.

ใน​เวลา​นั้น มี​สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล​ใน​กรุง​ลอนดอน​ประมาณ 30 คน ส่วน​ใหญ่​เป็น​พี่​น้อง​หนุ่ม​โสด แต่​ก็​มี​ผู้​ถูก​เจิม​หลาย​คน​ด้วย เช่น ไพรซ์ ฮิวส์, เอดการ์ เคลย์, และ​แจ็ก บารร์ ซึ่ง​ภาย​หลัง​รับใช้​เป็น​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง. ช่าง​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​จริง ๆ ที่​จะ​สนับสนุน​พี่​น้อง​ของ​พระ​คริสต์​ด้วย​การ​ทำ​งาน​ใน​ฐานะ​คน​หนุ่ม​ภาย​ใต้​การ​ดู​แล​ของ “เสา​หลัก” เหล่า​นี้!—กลา. 2:9

วัน​หนึ่ง​ที่​เบเธล พี่​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​บอก​ผม​ว่า​มี​พี่​น้อง​หญิง​คน​หนึ่ง​อยู่​ที่​หน้า​ประตู​และ​เธอ​อยาก​พบ​ผม. ผม​แปลก​ใจ​มาก​เมื่อ​เห็น​แม่​ยืน​อยู่​ที่​นั่น​และ​หนีบ​กล่อง​ใบ​หนึ่ง​ไว้​ที่​แขน. แม่​บอก​ว่า​แม่​จะ​ไม่​เข้า​ไป​เพราะ​ไม่​อยาก​จะ​รบกวน​การ​ทำ​งาน​ของ​ผม แต่​แม่​ให้​กล่อง​นั้น​ไว้​กับ​ผม​แล้ว​ก็​กลับ​ไป. สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​กล่อง​นั้น​คือ​เสื้อ​กัน​หนาว. ท่า​ทาง​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ของ​แม่​ทำ​ให้​ผม​นึก​ถึง​นาง​ฮันนา​ที่​นำ​เสื้อ​คลุม​มา​ให้​บุตร​น้อย​ขณะ​ที่​เขา​รับใช้​ที่​พลับพลา.—1 ซามู. 2:18, 19

กิเลียด ประสบการณ์​ที่​ไม่​มี​วัน​ลืม

ใน​ปี 1947 พวก​เรา​ห้า​คน​ซึ่ง​รับใช้​ที่​เบเธล​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​ร่วม​โรง​เรียน​กิเลียด​ที่​สหรัฐ และ​ใน​ปี​ถัด​ไป​เรา​ก็​เข้า​ร่วม​ชั้น​เรียน​ที่ 11. เมื่อ​เรา​ไป​ถึง ทาง​ตอน​เหนือ​ของ​รัฐ​นิวยอร์ก​ซึ่ง​เป็น​ที่​ตั้ง​ของ​โรง​เรียน​นั้น​อากาศ​หนาว​จัด​เลย​ที​เดียว. ผม​ดีใจ​จริง ๆ ที่​แม่​ให้​เสื้อ​กัน​หนาว​อัน​แสน​อุ่น​ตัว​นั้น​แก่​ผม!

ช่วง​หก​เดือน​ที่​กิเลียด​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​ผม​ไม่​มี​วัน​ลืม. การ​ได้​คบหา​อย่าง​ใกล้​ชิด​กับ​เพื่อน​นัก​เรียน​ที่​มา​จาก​ประเทศ​ต่าง ๆ 16 ประเทศ​ช่วย​ให้​ผม​มี​ทัศนะ​ที่​กว้าง​ขึ้น. นอก​เหนือ​จาก​ความ​ก้าว​หน้า​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​ได้​จาก​โรง​เรียน​นี้​แล้ว ผม​ยัง​ได้​เพื่อน​หลาย​คน​ที่​เป็น​คริสเตียน​อาวุโส. เพื่อน​เหล่า​นี้​บาง​คน​ภาย​หลัง​ได้​เป็น​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง คือ​ลอยด์ แบร์รี เพื่อน​นัก​เรียน​รุ่น​เดียว​กัน อัลเบิร์ต ชโรเดอร์ ผู้​สอน​ใน​โรง​เรียน​นี้ และ​จอห์น บูท ผู้​ดู​แล​ฟาร์ม​ราชอาณาจักร (ซึ่ง​โรง​เรียน​กิเลียด​ตั้ง​อยู่​ที่​นั่น). ผม​รู้สึก​ขอบคุณ​จริง ๆ สำหรับ​คำ​แนะ​นำ​อัน​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ที่​พี่​น้อง​เหล่า​นี้​ให้​แก่​ผม รวม​ทั้ง​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ของ​พวก​เขา​ใน​เรื่อง​ความ​ภักดี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​องค์การ​ของ​พระองค์.

ทำ​งาน​หมวด​แล้ว​ก็​กลับ​เบเธล

เมื่อ​จบ​โรง​เรียน​กิเลียด ผม​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ทำ​งาน​หมวด​ใน​รัฐ​โอไฮโอ สหรัฐ​อเมริกา. ผม​อายุ​แค่ 21 ปี แต่​พี่​น้อง​ตอบรับ​ความ​กระตือรือร้น​ของ​คน​หนุ่ม​อย่าง​ผม​ด้วย​ความ​อบอุ่น. ใน​หมวด​นั้น ผม​ได้​เรียน​รู้​มาก​มาย​จาก​พี่​น้อง​หลาย​คน​ที่​อายุ​มาก​กว่า​และ​มี​ประสบการณ์​มาก.

หลัง​จาก​ผ่าน​ไป​ไม่​กี่​เดือน ผม​ได้​รับ​เชิญ​ให้​กลับ​ไป​ที่​เบเธล​บรุกลิน​เพื่อ​รับ​การ​ฝึก​อบรม​เพิ่ม​เติม. ใน​ช่วง​นั้น ผม​ได้​รู้​จัก​เสา​หลัก​ของ​องค์การ​หลาย​คน เช่น มิลตัน เฮนเชล, คาร์ล ไคลน์, นาทาน นอรร์, ที. เจ. (บัด) ซุลลิแวน, และ​ไลแมน สวิงเกิล ซึ่ง​ทุก​คน​เคย​รับใช้​เป็น​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง. นับ​เป็น​ประสบการณ์​ที่​เสริม​สร้าง​จริง ๆ ที่​ได้​เห็น​พวก​เขา​ทำ​งาน​และ​สังเกต​เห็น​แนว​ทาง​แบบ​คริสเตียน​ของ​พวก​เขา. ความ​เชื่อ​มั่น​ใน​องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​เพิ่ม​ขึ้น​เป็น​ร้อย​เท่า. ต่อ​มา ผม​ถูก​ส่ง​กลับ​มา​ที่​ยุโรป​เพื่อ​รับใช้​ต่อ​ไป​ที่​นั่น.

แม่​ผม​เสีย​ชีวิต​ใน​เดือน​กุมภาพันธ์ 1950. หลัง​จาก​งาน​ศพ ผม​คุย​อย่าง​ตรง​ไป​ตรง​มา​กับ​พ่อ​และ​โดรา พี่​สาว​ของ​ผม. ผม​ถาม​พ่อ​และ​พี่​สาว​ว่า​ใน​เมื่อ​ตอน​นี้​แม่​ก็​จาก​ไป​แล้ว​และ​ผม​ก็​กำลัง​จะ​จาก​บ้าน​ไป พวก​เขา​ตั้งใจ​จะ​ทำ​อะไร​ใน​เรื่อง​ความ​จริง. ทั้ง​พ่อ​และ​พี่​สาว​ผม​รู้​จัก​และ​นับถือ​บร. แฮร์รี บราวนิง ซึ่ง​เป็น​พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​ที่​สูง​อายุ. ทั้ง​คู่​จึง​ตก​ลง​เรียน​ความ​จริง​กับ​บร. แฮร์รี. ไม่​ถึง​ปี พ่อ​กับ​โดรา​ก็​รับ​บัพติสมา. ภาย​หลัง​พ่อ​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ช่วย​งาน​รับใช้​ใน​ประชาคม​จิลลิงแฮม. หลัง​จาก​พ่อ​เสีย​ชีวิต โดรา​ได้​แต่งงาน​กับ​รอย มอร์ตัน ผู้​ปกครอง​ที่​ซื่อ​สัตย์ และ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ภักดี​จน​กระทั่ง​เธอ​เสีย​ชีวิต​ใน​ปี 2010.

ไป​ช่วย​งาน​ที่​ฝรั่งเศส

ตอน​ที่​เรียน​หนังสือ ผม​เคย​เรียน​วิชา​ภาษา​ฝรั่งเศส, เยอรมัน, และ​ละติน. ใน​สาม​ภาษา​นี้ ฝรั่งเศส​เป็น​ภาษา​ที่​ทำ​ให้​ผม​ปวด​หัว​มาก​ที่​สุด. ดัง​นั้น ผม​จึง​มี​ความ​รู้สึก​หลาย​อย่าง​ระคน​กัน​เมื่อ​ได้​รับ​เชิญ​ให้​ไป​ช่วย​งาน​ที่​เบเธล​ปารีส ประเทศ​ฝรั่งเศส. ที่​นั่น ผม​มี​สิทธิ​พิเศษ​ได้​ทำ​งาน​กับ​บร. อองรี เจเจร์ พี่​น้อง​สูง​อายุ​ซึ่ง​เป็น​ผู้​ถูก​เจิม​และ​เป็น​ผู้​รับใช้​สาขา. การ​ทำ​งาน​มอบหมาย​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​เสมอ​ไป​และ​ไม่​ต้อง​สงสัย​เลย​ที่​ผม​ทำ​ผิด​พลาด​หลาย​อย่าง แต่​ผม​ได้​เรียน​รู้​มาก​มาย​ใน​เรื่อง​มนุษยสัมพันธ์.

นอก​จาก​นั้น มี​การ​วาง​แผน​จัด​การ​ประชุม​นานา​ชาติ​ขึ้น​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​ปารีส​ใน​ปี 1951 หลัง​สงคราม​สงบ​แล้ว และ​ผม​มี​ส่วน​ใน​การ​จัด​การ​ประชุม​นี้. เลโอโปล ชองแต ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​หนุ่ม ได้​มา​ที่​เบเธล​เพื่อ​ช่วย​ผม. ต่อ​มา​เลโอโปล​ได้​รับ​แต่ง​ตั้ง​เป็น​ผู้​ดู​แล​สาขา. การ​ประชุม​จัด​ที่​ปา​เล เด สปอร์ ใกล้ ๆ หอ​ไอเฟล. มี​ตัว​แทน​จาก 28 ประเทศ​เข้า​ร่วม​ประชุม. ใน​วัน​สุด​ท้าย พยาน​ฯ ชาว​ฝรั่งเศส 6,000 คน​ต่าง​ก็​ชื่นชม​ยินดี​อย่าง​เหลือ​ล้น​ที่​ได้​เห็น​ว่า​มี​ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ทั้ง​หมด 10,456 คน!

เมื่อ​ผม​ไป​ถึง​ฝรั่งเศส​ใหม่ ๆ ภาษา​ฝรั่งเศส​ของ​ผม​ใช้​ไม่​ได้​เลย. ที่​แย่​เข้า​ไป​อีก​ก็​คือ ผม​จะ​เปิด​ปาก​พูด​ก็​ต่อ​เมื่อ​ผม​แน่​ใจ​ว่า​พูด​ถูก. แต่​ถ้า​คุณ​ไม่​ยอม​พูด​เพราะ​กลัว​พูด​ผิด คน​อื่น​ก็​ช่วย​แก้​ให้​ไม่​ได้ และ​คุณ​ก็​จะ​ไม่​มี​ทาง​ก้าว​หน้า.

ผม​ตัดสิน​ใจ​แก้ไข​เรื่อง​นี้​โดย​สมัคร​เรียน​ใน​โรง​เรียน​ที่​สอน​ภาษา​ฝรั่งเศส​ให้​คน​ต่าง​ชาติ. ผม​เรียน​ตอน​เย็น​ใน​วัน​ที่​ไม่​มี​การ​ประชุม. ผม​เริ่ม​รัก​ภาษา​ฝรั่งเศส​มาก​ขึ้น​เรื่อย ๆ จน​กระทั่ง​ทุก​วัน​นี้. นั่น​นับ​ว่า​เป็น​ประโยชน์​ที​เดียว เพราะ​ผม​สามารถ​ช่วย​งาน​แปล​ที่​สำนักงาน​สาขา​ฝรั่งเศส. ใน​เวลา​ต่อ​มา ผม​ได้​มา​เป็น​ผู้​แปล แปล​ภาษา​อังกฤษ​เป็น​ภาษา​ฝรั่งเศส. นับ​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​ช่วย​ถ่ายทอด​อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​อัน​อุดม​บริบูรณ์​จาก​ทาส​สัตย์​ซื่อ​ไป​ยัง​พี่​น้อง​ที่​พูด​ภาษา​ฝรั่งเศส​ใน​ที่​ต่าง ๆ ทั่ว​โลก.—มัด. 24:45-47

แต่งงาน​และ​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ต่อ​ไป

ใน​ปี 1956 ผม​แต่งงาน​กับ​เอสเทอร์ ไพโอเนียร์​ชาว​สวิส​ที่​ผม​พบ​เมื่อ​สอง​สาม​ปี​ก่อน​หน้า​นั้น. เรา​แต่งงาน​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​ที่​อยู่​ติด​กับ​เบเธล​ลอนดอน (หอ​ประชุม​ลอนดอน​แทเบอร์นาเคิล​เก่า​ที่​แม่​ผม​รับ​บัพติสมา). บราเดอร์​ฮิวส์​เป็น​ผู้​บรรยาย​งาน​สมรส​ของ​เรา. แม่​ของ​เอสเทอร์​มา​ร่วม​งาน​สมรส และ​เธอ​ก็​เป็น​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​มี​ความ​หวัง​จะ​อยู่​ใน​สวรรค์. นอก​จาก​การ​แต่งงาน​จะ​ทำ​ให้​ผม​มี​คู่​เคียง​ที่​น่า​รัก​และ​ภักดี​แล้ว ผม​ยัง​ได้​รับ​มิตรภาพ​อัน​ล้ำ​ค่า​จาก​แม่ยาย​ที่​แสน​ดี​ซึ่ง​เป็น​คน​ที่​มี​สาย​สัมพันธ์​อัน​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา จน​กระทั่ง​เธอ​สิ้น​ชีวิต​ทาง​แผ่นดิน​โลก​ใน​ปี 2000.

หลัง​แต่งงาน ผม​กับ​เอสเทอร์​พัก​อยู่​นอก​เบเธล. ผม​ยัง​คง​ทำ​งาน​แปล​ที่​เบเธล ส่วน​เอสเทอร์​รับใช้​เป็น​ไพโอเนียร์​พิเศษ​ใน​แถบ​ชาน​เมือง​ของ​ปารีส. เธอ​สามารถ​ช่วย​หลาย​คน​ให้​เข้า​มา​เป็น​ผู้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. ใน​ปี 1964 เรา​ได้​รับ​เชิญ​ให้​เข้า​มา​อยู่​ใน​เบเธล. และ​ใน​ปี 1976 เมื่อ​มี​การ​จัด​ตั้ง​คณะ​กรรมการ​สาขา​ขึ้น​เป็น​ครั้ง​แรก ผม​ได้​รับ​การ​แต่ง​ตั้ง​ให้​เป็น​สมาชิก​คน​หนึ่ง. ตลอด​หลาย​ปี เอสเทอร์​ช่วยเหลือ​และ​สนับสนุน​ผม​ด้วย​ความ​รัก​เสมอ.

“เรา​จะ​ไม่​อยู่​กับ​พวก​เจ้า​เสมอ​ไป”

ผม​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​ให้​กลับ​ไป​ที่​สำนักงาน​ใหญ่​ใน​นิวยอร์ก​เป็น​ระยะ ๆ. เมื่อ​อยู่​ที่​นั่น ผม​ได้​รับ​คำ​แนะ​นำ​ที่​ดี​จาก​สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​หลาย​คน. ตัว​อย่าง​เช่น ครั้ง​หนึ่ง​เมื่อ​ผม​พูด​ถึง​เรื่อง​ที่​ผม​กังวล​เกี่ยว​กับ​การ​ทำ​งาน​ให้​เสร็จ​ทัน​เวลา บราเดอร์​นอรร์​ยิ้ม​และ​พูด​ว่า “อย่า​กังวล​เลย. ทำ​งาน​ไป​เถอะ!” นับ​ตั้ง​แต่​นั้น​มา หลาย​ครั้ง​เมื่อ​มี​งาน​มอบหมาย​มาก​มาย​ก่ายกอง แทน​ที่​จะ​วิตก​กลัว ผม​ก็​เพียง​แต่​เริ่ม​ทำ​งาน​ที​ละ​อย่าง ๆ ไป​จน​กระทั่ง​เสร็จ​ทั้ง​หมด ซึ่ง​ก็​มัก​จะ​เสร็จ​ทัน​เวลา.

ก่อน​จะ​สิ้น​พระ​ชนม์ พระ​เยซู​ทรง​บอก​เหล่า​สาวก​ว่า “เรา​จะ​ไม่​อยู่​กับ​พวก​เจ้า​เสมอ​ไป.” (มัด. 26:11) พวก​เรา​ที่​เป็น​แกะ​อื่น​ก็​รู้​ด้วย​ว่า​พี่​น้อง​ผู้​ถูก​เจิม​ของ​พระ​คริสต์​จะ​ไม่​อยู่​กับ​เรา​บน​แผ่นดิน​โลก​เสมอ​ไป​เหมือน​กัน. ดัง​นั้น ผม​ถือ​ว่า​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ประเมิน​ค่า​มิ​ได้​ที่​ตลอด​ช่วง​เวลา 70 กว่า​ปี​ผม​มี​โอกาส​ได้​คบหา​อย่าง​ใกล้​ชิด​กับ​ผู้​ถูก​เจิม​หลาย​คน. ผม​ได้​ยึด​ชาย​เสื้อ​ของ​คน​ชาติ​ยูดาย​ไว้​ด้วย​ความ​รู้สึก​ซาบซึ้ง.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 5 สำหรับ​ราย​ละเอียด​ของ​คำ​ว่า “ชน​ชั้น​โยนาดาบ” โปรด​ดู​หอสังเกตการณ์ 1 มกราคม 1998 หน้า 13 ข้อ 5-6; และ​หนังสือ​พยาน​พระ​ยะโฮวา—ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า (ภาษา​อังกฤษ) หน้า 83, 165, 166.

[คำ​โปรย​หน้า 21]

บราเดอร์​นอรร์​ยิ้ม​และ​พูด​ว่า “อย่า​กังวล​เลย. ทำ​งาน​ไป​เถอะ!”

[ภาพ​หน้า 19]

(ซ้าย) แม่​กับ​พ่อ

(ขวา) ที่​โรง​เรียน​กิเลียด​ใน​ปี 1948 ผม​สวม​เสื้อ​กัน​หนาว​ที่​แม่​ให้​ผม

[ภาพ​หน้า 20]

แปล​คำ​บรรยาย​ของ​บราเดอร์​ลอยด์ แบร์รี ใน​การ​อุทิศ​สำนักงาน​สาขา​ฝรั่งเศส ปี 1997

[ภาพ​หน้า 21]

(ซ้าย) ถ่าย​คู่​กับ​เอสเทอร์​ใน​วัน​แต่งงาน​ของ​เรา

(ขวา) ขณะ​ทำ​งาน​ประกาศ​ด้วย​กัน