จงวางใจพระยะโฮวา พระเจ้าแห่ง “วาระและฤดูกาล”
จงวางใจพระยะโฮวา พระเจ้าแห่ง “วาระและฤดูกาล”
“พระองค์ทรงเปลี่ยนวาระและฤดูกาล พระองค์ทรงถอดพระราชาและทรงตั้งพระราชาขึ้นใหม่.”—ดานิ. 2:21, ฉบับ R73
คุณจะตอบอย่างไร?
สิ่งทรงสร้างและคำพยากรณ์ที่สำเร็จเป็นจริงแสดงให้เห็นอย่างไรว่าพระยะโฮวาทรงเป็นผู้รักษาเวลาองค์ยิ่งใหญ่?
การที่เรารู้ว่าพระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าแห่ง “วาระและฤดูกาล” กระตุ้นเราให้ทำอะไร?
ทำไมเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกและแผนการของมนุษย์ไม่มีผลต่อตารางเวลาของพระยะโฮวา?
1, 2. อะไรแสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาทรงเข้าใจเรื่องเวลาอย่างถ่องแท้?
นานก่อนที่พระยะโฮวาพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ พระองค์ทรงจัดเตรียมให้มีวิธีที่จะนับเวลาได้. ในวันที่สี่แห่งการทรงสร้าง พระเจ้าตรัสว่า “ให้มีดวงสว่างบนพื้นฟ้าอากาศ เป็นที่แบ่งวันออกจากคืน; ให้ดวงสว่างนั้นเป็นที่กำหนดฤดูวันปี.” (เย. 1:14, 19, 26) แน่นอน เกิดสิ่งเหล่านี้ขึ้นตามที่พระเจ้าทรงประสงค์.
2 อย่างไรก็ตาม จนถึงทุกวันนี้นักวิทยาศาสตร์ก็ยังถกเถียงกันในเรื่องเวลา. สารานุกรมเล่มหนึ่งกล่าวว่า “เวลาเป็นเรื่องลึกลับที่สุดอย่างหนึ่งในโลก. ไม่มีใครสามารถบอกได้อย่างแน่ชัดว่าเวลาคืออะไร.” แม้กระนั้น พระยะโฮวาทรงเข้าใจเรื่องเวลาอย่างถ่องแท้. ที่จริง พระองค์เป็น “ผู้ได้ทรงสร้างฟ้า . . . ผู้ได้ทรงสร้างและประดิษฐานโลกนี้ไว้.” พระยะโฮวายังทรงเป็น “ผู้บอกเล่าตั้งแต่ต้นว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นตอนปลาย, และบอกเล่าสิ่งซึ่งยังไม่เกิดขึ้นไว้ตั้งแต่เวลาโบราณ.” (ยซา. 45:18; 46:10) เพื่อจะเสริมความเชื่อในพระองค์และคัมภีร์ไบเบิลพระคำของพระองค์ ให้เรามาพิจารณาวิธีที่การทรงสร้างและคำพยากรณ์ที่สำเร็จเป็นจริงแสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาทรงเป็นผู้รักษาเวลาองค์ยิ่งใหญ่.
สิ่งทรงสร้างเสริมความเชื่อของเรา
3. สิ่งต่าง ๆ ในโลกนี้แสดงให้เห็นการกำหนดเวลาที่แม่นยำอย่างไร?
3 หลายสิ่งในโลกที่พระยะโฮวาทรงสร้าง ทั้งเล็กและใหญ่ มีความแม่นยำอย่างยิ่งในเรื่องการรักษาเวลา. อะตอมสั่นในอัตราคงที่สม่ำเสมอ. นาฬิกาบอกเวลามาตรฐานสากลซึ่งควบคุมโดยการสั่นของอะตอมมีความแม่นยำอย่างยิ่งถึงขนาดที่คลาดเคลื่อนไม่เกิน 1 วินาทีใน 80 ล้านปี. การโคจรของดาวเคราะห์และดาวต่าง ๆ ก็เป็นไปอย่างแม่นยำด้วย. มนุษย์ใช้ตำแหน่งของดาวและดาวเคราะห์บนท้องฟ้าซึ่งสามารถบอกล่วงหน้าได้เพื่อกำหนดฤดูและกำหนดเส้นทาง. พระยะโฮวา พระผู้สร้าง “เครื่องบอกเวลา” ที่ไว้ใจได้เหล่านี้ทรงมี “ฤทธิ์เดชอันแรงกล้า” และสมควรจะได้รับการสรรเสริญจากเราอย่างแท้จริง.—อ่านยะซายา 40:26
4. การกำหนดเวลาในอาณาจักรสิ่งมีชีวิตแสดงถึงพระสติปัญญาของพระเจ้าอย่างไร?
ยิระ. 8:7) มนุษย์เราก็มีนาฬิกาภายในตัวด้วย ซึ่งมักกำหนดโดยวัฏจักรของกลางวันและกลางคืนที่มี 24 ชั่วโมง. ถ้านักเดินทางนั่งเครื่องบินข้ามเขตเวลาหลายเขต เขาอาจต้องใช้เวลาหลายวันนาฬิกาภายในตัวเขาจึงจะปรับได้. ที่จริง ตัวอย่างมากมายเกี่ยวกับการกำหนดเวลาที่เห็นได้ชัดในสิ่งทรงสร้างแสดงถึงอำนาจและสติปัญญาของพระเจ้าแห่ง “วาระและฤดูกาล.” (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 104:24) ใช่แล้ว ผู้รักษาเวลาองค์ยิ่งใหญ่ทรงรอบรู้ทุกสิ่งและทรงไว้ซึ่งอำนาจบริบูรณ์. เราเชื่อได้ว่าพระองค์ทรงสามารถทำสิ่งที่พระองค์ทรงประสงค์ให้สำเร็จ!
4 เราเห็นการกำหนดเวลาอย่างแม่นยำได้ในโลกของสิ่งมีชีวิต. วงจรชีวิตของพืชและสัตว์จำนวนมากถูกควบคุมโดยนาฬิกาภายในตัวพวกมัน. นกหลายชนิดรู้โดยสัญชาตญาณว่าจะเริ่มอพยพเมื่อไร. (คำพยากรณ์ที่สำเร็จตรงตามเวลาเสริมความเชื่อของเรา
5. (ก) เราสามารถรู้อนาคตของมนุษยชาติได้โดยวิธีใดเท่านั้น? (ข) เหตุใดพระยะโฮวาทรงสามารถบอกล่วงหน้าว่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นและเมื่อไร?
5 สิ่งต่าง ๆ ที่พระยะโฮวาทรงสร้างสอนเราได้มากเกี่ยวกับ “คุณลักษณะ . . . อันไม่ประจักษ์แก่ตา” ของพระองค์ แต่ไม่ได้ตอบคำถามสำคัญหลายข้อ เช่น อนาคตของมนุษยชาติจะเป็นอย่างไร? (โรม 1:20) เพื่อจะได้คำตอบ เราต้องดูสิ่งที่พระเจ้าทรงเปิดเผยไว้ในคัมภีร์ไบเบิล พระคำของพระองค์. เมื่อเราพิจารณาพระคัมภีร์อย่างละเอียด เราพบคำพยากรณ์หลายข้อที่สำเร็จเป็นจริงตรงตามเวลากำหนดเสมอ! พระยะโฮวาทรงสามารถเปิดเผยสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้นเพราะพระองค์ทรงรู้ล่วงหน้าว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต. นอกจากนั้น สิ่งที่พระคัมภีร์บอกล่วงหน้าเกิดขึ้นตรงตามเวลาเพราะพระยะโฮวาพระเจ้าทรงสามารถทำให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นตามพระประสงค์และตารางเวลาของพระองค์.
6. อะไรแสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาประสงค์ให้เราเข้าใจคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิล?
6 พระยะโฮวาทรงประสงค์ให้ผู้นมัสการพระองค์เข้าใจคำพยากรณ์ในพระคัมภีร์และได้รับประโยชน์จากคำพยากรณ์เหล่านั้น. แม้ว่าพระเจ้าทรงมองเวลาต่างจากที่เรามอง แต่เมื่อพระองค์ทรงบอกว่าจะมีอะไรบางสิ่งเกิดขึ้นในเวลาที่ทรงกำหนดไว้ พระองค์ทรงเลือกใช้คำอย่างที่เราเข้าใจได้. (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 90:4) ตัวอย่างเช่น หนังสือวิวรณ์กล่าวถึง “ทูตสวรรค์สี่องค์ซึ่งถูกเตรียมไว้สำหรับเวลาที่ระบุเป็นชั่วโมง วัน เดือน และปี” ซึ่งเป็นหน่วยเวลาที่เราเข้าใจได้. (วิ. 9:14, 15) เมื่อได้เห็นคำพยากรณ์ต่าง ๆ สำเร็จเป็นจริงตามเวลากำหนด เราน่าจะมีความเชื่อมากขึ้นในพระเจ้าแห่ง “วาระและฤดูกาล” และในพระคำของพระองค์. ขอให้เราพิจารณาบางตัวอย่าง.
7. ความสำเร็จของคำพยากรณ์ของยิระมะยาห์เกี่ยวกับเยรูซาเลมและยูดาห์แสดงให้เห็นอย่างไรว่าพระยะโฮวาทรงเป็นผู้รักษาเวลาองค์ยิ่งใหญ่?
7 ก่อนอื่น ขอให้เราย้อนไปในศตวรรษที่เจ็ดก่อนสากลศักราช. “ในปีที่สี่แห่งยะโฮยาคิมราชบุตรของโยซียา, กษัตริย์เมืองยะฮูดา” คำของผู้รักษาเวลาองค์ยิ่งใหญ่ “มาถึงยิระมะยาว่าถึงบรรดาไพร่พลแห่งเมืองยะฮูดา.” (ยิระ. 25:1) พระยะโฮวาทรงบอกล่วงหน้าถึงความพินาศของกรุงเยรูซาเลมและการเนรเทศชาวยิวจากแผ่นดินยูดาห์ไปยังบาบิโลน. ที่นั่น พวกเขาจะ “ปรนนิบัติกษัตริย์บาบูโลนเจ็ดสิบปี.” กองทัพบาบิโลนทำลายเยรูซาเลมในปี 607 ก่อน ส.ศ. และชาวยิวถูกเนรเทศจากยูดาห์ไปที่บาบิโลนจริง ๆ. แต่เกิดอะไรขึ้นเมื่อสิ้นสุด 70 ปีนั้น? ยิระมะยาห์พยากรณ์ว่า “พระยะโฮวาได้ตรัสดังนี้ว่า ‘ครั้นเมื่อครบถ้วนเจ็ดสิบปี, ที่เมืองบาบูโลนแล้ว, เราจะไปเยี่ยมเจ้าทั้งหลาย, แลจะกระทำให้คำดีของเรา (ซึ่งได้กล่าวไว้) แก่พวกเจ้าให้สำเร็จ, คือว่าจะกระทำให้พวกเจ้ากลับมาถึงที่นี่.’ ” (ยิระ. 25:11, 12; 29:10) คำพยากรณ์นี้สำเร็จเป็นจริงตรงตามเวลา คือในปี 537 ก่อน ส.ศ. หลังจากที่ชาวมีเดียและชาวเปอร์เซียปลดปล่อยชาวยิวจากบาบิโลน.
8, 9. คำพยากรณ์ของดานิเอลเกี่ยวกับการเสด็จมาของพระมาซีฮาและการสถาปนาราชอาณาจักรในสวรรค์แสดงให้เห็นอย่างไรว่าพระยะโฮวาทรงเป็นพระเจ้าแห่ง “วาระและฤดูกาล”?
*—นเฮม. 2:1, 5-8; ดานิ. 9:24, 25; ลูกา 3:1, 2, 21, 22
8 ขอให้พิจารณาคำพยากรณ์อีกข้อหนึ่งเกี่ยวกับประชาชนของพระเจ้าในสมัยโบราณ. ประมาณสองปีก่อนชาวยิวจะออกจากบาบิโลน พระเจ้าทรงบอกล่วงหน้าทางผู้พยากรณ์ดานิเอลว่าพระมาซีฮาจะมาปรากฏในอีก 483 ปีหลังจากที่มีคำสั่งให้กู้กรุงเยรูซาเลม. กษัตริย์มิโด-เปอร์เซียออกราชกฤษฎีกาให้ทำเช่นนั้นในปี 455 ก่อน ส.ศ. เมื่อครบ 483 ปีพอดี คือใน ส.ศ. 29 พระเยซูชาวนาซาเรทได้รับการเจิมโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ตอนที่พระองค์ทรงรับบัพติสมาและได้มาเป็นพระมาซีฮา.9 ตอนนี้ขอให้เราสังเกตสิ่งที่พระคัมภีร์บอกล่วงหน้าเกี่ยวกับราชอาณาจักร. คำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลบ่งชี้ว่าราชอาณาจักรมาซีฮาจะสถาปนาขึ้นในสวรรค์ในปี 1914. ส่วนหนึ่งนั้นพระคัมภีร์บอกเราโดยให้ “สัญญาณ” แห่งการประทับของพระเยซู ที่ชี้ไปยังเวลาที่ซาตานจะถูกเหวี่ยงลงจากสวรรค์ ซึ่งจะทำให้เกิดวิบัติใหญ่บนแผ่นดินโลก. (มัด. 24:3-14; วิ. 12:9, 12) นอกจากนั้น คำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลยังชี้ถึงเวลาที่แน่นอน คือปี 1914 เมื่อ “เวลากำหนดของชนต่างชาติจะครบถ้วน” และราชอาณาจักรจะเริ่มปกครองในสวรรค์.—ลูกา 21:24; ดานิ. 4:10-17 *
10. จะเกิดเหตุการณ์อะไรในอนาคตตรงตามเวลาอย่างแน่นอน?
10 สิ่งที่รอเราอยู่ในวันข้างหน้าก็คือ “ความทุกข์ลำบากใหญ่” ที่พระเยซูทรงบอกไว้ล่วงหน้า. หลังจากนั้น พระเยซูจะปกครองเป็นเวลาหนึ่งพันปี. เรามั่นใจได้เลยว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นตรงตามเวลากำหนดอย่างแน่นอน. เมื่อพระเยซูทรงอยู่บนแผ่นดินโลก พระยะโฮวาทรงกำหนด “วันเวลา” ไว้แล้วที่เหตุการณ์เหล่านี้จะเกิดขึ้น.—มัด. 24:21, 36; วิ. 20:6
“ใช้ทุกโอกาสให้เกิดประโยชน์มากที่สุด”
11. ในเมื่อรู้ว่าเรากำลังมีชีวิตอยู่ในสมัยอวสาน เราควรทำอะไร?
11 การยอมรับว่าราชอาณาจักรเริ่มปกครองแล้วและเรากำลังมีชีวิตอยู่ใน “เวลาอวสาน” ควรมีผลต่อเราอย่างไร? (ดานิ. 12:4) หลายคนเห็นสภาพโลกแย่ลงเรื่อย ๆ แต่ไม่เข้าใจว่าเหตุการณ์เหล่านี้สำเร็จเป็นจริงตามคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับสมัยสุดท้าย. พวกเขาอาจคาดว่าสักวันหนึ่งระบบนี้จะพังพินาศลงหรืออาจเชื่อว่าความพยายามของมนุษย์จะประสบความสำเร็จในการทำให้เกิด ‘ความสงบสุขและความปลอดภัย.’ (1 เทส. 5:3) แต่จะว่าอย่างไรสำหรับเราเอง? ถ้าเรายอมรับว่าเรากำลังมีชีวิตอยู่ในช่วงท้าย ๆ ของสมัยสุดท้ายของโลกซาตาน เราควรพยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่เพื่อรับใช้ พระเจ้าแห่ง “วาระและฤดูกาล” และช่วยคนอื่น ๆ ให้มารู้จักพระองค์มิใช่หรือ? (2 ติโม. 3:1) เราควรตัดสินใจอย่างฉลาดสุขุมเกี่ยวกับวิธีใช้เวลาของเรา.—อ่านเอเฟโซส์ 5:15-17
12. เราเรียนอะไรได้จากคำตรัสของพระเยซูเกี่ยวกับสมัยของโนอาห์?
12 ‘การใช้ทุกโอกาสให้เกิดประโยชน์มากที่สุด’ ไม่ใช่เรื่องง่ายในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งล่อใจ. พระเยซูทรงเตือนว่า “สมัยของโนอาห์เป็นอย่างไร เมื่อบุตรมนุษย์มาประทับก็จะเป็นอย่างนั้น.” สมัยของโนอาห์เป็นอย่างไร? พระเจ้าทรงบอกล่วงหน้าว่าโลกในสมัยนั้นจะถึงกาลอวสาน. ตอนนั้น มนุษย์ที่ชั่วช้าจะจมน้ำตายในมหาอุทกภัย. ในฐานะ “ผู้ประกาศความชอบธรรม” โนอาห์ประกาศข่าวสารของพระเจ้าแก่ผู้คนในสมัยของท่านอย่างซื่อสัตย์. (มัด. 24:37; 2 เป. 2:5) แต่พวกเขา “กินดื่ม แต่งงานเป็นสามีภรรยากัน . . . และพวกเขาไม่แยแสจนกระทั่งน้ำมาท่วมและกวาดพวกเขาไปเสียสิ้น.” ด้วยเหตุนั้น พระเยซูทรงเตือนเหล่าสาวกว่า “เจ้าทั้งหลายจงเตรียมพร้อมเช่นกัน เพราะบุตรมนุษย์จะมาในเวลาที่พวกเจ้าไม่คาดคิด.” (มัด. 24:38, 39, 44) เราต้องพิสูจน์ตัวว่าเราเป็นเหมือนโนอาห์ และไม่เหมือนกับผู้คนในสมัยของท่าน. อะไรจะช่วยเราให้เตรียมพร้อมอยู่เสมอ?
13, 14. การจำอะไรไว้เกี่ยวกับพระยะโฮวาจะช่วยเราให้รับใช้พระองค์อย่างซื่อสัตย์ขณะที่เราคอยท่าการเสด็จมาของบุตรมนุษย์?
13 แม้ว่าบุตรมนุษย์จะมาในเวลาที่เราไม่คิดว่าจะมา แต่เราต้องไม่ลืมว่าพระยะโฮวาเป็นผู้รักษาเวลาองค์ยิ่งใหญ่. เหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกและแผนการของมนุษย์ไม่มีผลต่อตารางเวลาของพระองค์. พระยะโฮวาทรงสามารถควบคุมให้สิ่งต่าง ๆ เป็นไปตามเวลากำหนดของพระองค์และให้สำเร็จตามที่พระองค์ทรงประสงค์. (อ่านดานิเอล 2:21) ที่จริง สุภาษิต 21:1 บอกเราว่า “ดวงหทัยของกษัตริย์อยู่ในความคุ้มครองของพระยะโฮวาเหมือนร่องน้ำทั้งหลาย; พระองค์ทรงดัดน้อมหทัยนั้นให้เป็นไปตามน้ำพระทัยพระองค์.”
14 พระยะโฮวาสามารถควบคุมเหตุการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้สำเร็จตามพระประสงค์และตามเวลาของพระองค์. การเปลี่ยนแปลงสำคัญ ๆ หลายอย่างในโลกนี้สำเร็จเป็นจริงตามคำพยากรณ์ โดยเฉพาะคำพยากรณ์เกี่ยวกับการประกาศข่าวดีเรื่องราชอาณาจักรของพระเจ้าไปทั่วโลก. ขอให้คิดถึงการล่มสลายของสหภาพโซเวียตและผลที่ตามมา. มีน้อยคนที่คิดว่าการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่ใหญ่โตเช่นนั้นจะเกิดขึ้นได้เร็วถึงขนาดนั้น. แต่ผลของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็คือ ในเวลานี้ข่าวดีกำลังประกาศไปทั่วในหลายดินแดนที่งานของเราเคยถูกสั่งห้าม. ดังนั้น ขอให้เราใช้ทุกโอกาสให้เกิดประโยชน์มากที่สุดเพื่อรับใช้พระเจ้าแห่ง “วาระและฤดูกาล” อย่างซื่อสัตย์.
แสดงความเชื่อในการกำหนดเวลาของพระยะโฮวา
15. เราจะแสดงความเชื่อได้อย่างไรเมื่อมีการปรับเปลี่ยนในองค์การ?
15 เพื่อจะประกาศข่าวสารเรื่องราชอาณาจักรต่อ ๆ ไปในสมัยสุดท้ายนี้ เราต้องมีความเชื่อในการกำหนดเวลาของพระยะโฮวา. สถานการณ์ในโลกที่เปลี่ยนไปอาจทำให้จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างในงานสอนคนให้เป็นสาวก. ในบางครั้ง องค์การอาจปรับเปลี่ยนบางสิ่งบางอย่างเพื่อช่วยเราให้ประกาศข่าวดีอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด. เราแสดงความเชื่อในพระเจ้าแห่ง “วาระและฤดูกาล” โดยร่วมมืออย่างเต็มที่กับการปรับเปลี่ยนเหล่านั้นขณะที่เรารับใช้อย่างภักดีตามการชี้นำของพระบุตรซึ่งเป็น “ประมุขของประชาคม.”—เอเฟ. 5:23
16. เหตุใดเราจึงเชื่อว่าพระยะโฮวาจะช่วยเราในยามจำเป็น?
16 พระยะโฮวาทรงประสงค์ให้เราอธิษฐานถึงพระองค์ทุกเวลาด้วยความมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าพระองค์จะประทานความช่วยเหลือใน “ยามจำเป็น.” (ฮีบรู 4:16) นั่นแสดงให้เห็นว่าพระองค์ทรงรักและห่วงใยเราเป็นส่วนตัวมิใช่หรือ? (มัด. 6:8; 10:29-31) เราแสดงความเชื่อในพระยะโฮวาพระเจ้าด้วยการอธิษฐานขอความช่วยเหลือจากพระองค์เป็นประจำและทำสอดคล้องกับคำอธิษฐานของเราและ การชี้นำของพระองค์. นอกจากนั้น เราไม่ลืมที่จะอธิษฐานขอเพื่อเพื่อนร่วมความเชื่อด้วย.
17, 18. (ก) ในไม่ช้าพระยะโฮวาจะจัดการศัตรูของพระองค์อย่างไร? (ข) เราต้องระวังความคิดที่เป็นอันตรายอะไร?
17 บัดนี้ไม่ใช่เวลาที่จะ “หวั่นไหวเนื่องจากขาดความเชื่อ” หากแต่เป็นเวลาที่จะมีกำลังขึ้นเนื่องด้วยความเชื่อ. (โรม 4:20) ศัตรูทั้งหลายของพระเจ้า คือซาตานและผู้ที่อยู่ใต้อิทธิพลของมัน กำลังพยายามยุติงานที่พระเยซูทรงมอบหมายแก่เหล่าสาวกของพระองค์ซึ่งรวมถึงพวกเราด้วย. (มัด. 28:19, 20) แม้ว่าถูกพญามารโจมตี เรารู้ว่าพระยะโฮวาทรงเป็น “พระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่ซึ่งเป็นพระผู้ช่วยให้รอดของคนทุกชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งของคนที่ซื่อสัตย์.” พระองค์ “ทรงรู้วิธีช่วยคนที่เลื่อมใสพระองค์ให้รอดชีวิตจากการทดสอบ.”—1 ติโม. 4:10; 2 เป. 2:9
18 ในไม่ช้า พระยะโฮวาจะนำอวสานมาสู่ระบบชั่วนี้. แม้ว่าเราไม่ทราบรายละเอียดทุกอย่างและเวลาที่แน่นอนว่าอวสานนี้จะมาเมื่อไร แต่เรารู้ว่าในเวลาอันเหมาะพระคริสต์จะทำลายศัตรูของพระเจ้าให้หมดสิ้นและพิสูจน์ว่าพระยะโฮวาทรงมีสิทธิอันชอบธรรมที่จะปกครองเอกภพ. ด้วยเหตุนั้น คงเป็นเรื่องผิดพลาดสักเพียงไรถ้าเราไม่ได้สังเกตว่าเรากำลังมีชีวิตอยู่ใน “วาระและฤดูกาล” ใด! ขอเราอย่าหลงคิดว่า “ทุกสิ่งก็ยังดำเนินต่อไปเหมือนตอนเริ่มต้นการทรงสร้าง.”—1 เทส. 5:1; 2 เป. 3:3, 4
“คอยท่า”
19, 20. เหตุใดเราควรคอยท่าพระยะโฮวา?
19 เมื่อพระยะโฮวาทรงสร้างมนุษย์ พระองค์ทรงประสงค์ให้พวกเขามีชีวิตนิรันดร์เพื่อจะมีโอกาสได้เรียนรู้เกี่ยวกับพระองค์และสิ่งทรงสร้างที่สวยงามของพระองค์ตลอดไป. ท่านผู้ประกาศ 3:11 (ล.ม.) กล่าวว่า “[พระยะโฮวา] ทรงทำทุกสิ่งงดงามตามเวลาที่เหมาะสม และพระองค์ทรงใส่ความคิดเรื่องเวลาที่ไม่มีกำหนดไว้ในใจพวกเขาด้วย แต่มนุษย์ก็ไม่มีวันเข้าใจสิ่งที่พระเจ้าเที่ยงแท้ทรงทำตั้งแต่ต้นจนปลายได้ทั้งหมด.”
20 เรายินดีสักเพียงไรที่พระยะโฮวาไม่เคยเปลี่ยนพระประสงค์ของพระองค์สำหรับมนุษย์! (มลคี. 3:6) พระเจ้า “ไม่ทรงแปรเปลี่ยนเหมือนเงาที่เปลี่ยนไป.” (ยโก. 1:17) วิธีที่มนุษย์ใช้ในการนับเวลา เช่น การหมุนของโลก ไม่มีผลเลยต่อตารางเวลาของพระองค์. พระยะโฮวาทรงเป็น “พระมหากษัตริย์แห่งนิรันดรกาล.” (1 ติโม. 1:17) ด้วยเหตุนั้น ขอให้เรา “คอยท่าพระเจ้าแห่งความรอดของ [เรา].” (มีคา 7:7) จริงทีเดียว “ท่านทั้งหลายที่คอยท่าพระยะโฮวา, จงตั้งข้อให้แข็ง, และทำใจไว้ให้กล้าหาญเถิด.”—เพลง. 31:24
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 8 โปรดดูหนังสือจงเอาใจใส่คำพยากรณ์ของดานิเอล! หน้า 186-195.
^ วรรค 9 โปรดดูหนังสือจงเอาใจใส่คำพยากรณ์ของดานิเอล! หน้า 94-97.
[คำถาม]
[ภาพหน้า 19]
ดานิเอลเชื่อว่าคำพยากรณ์ที่พระเจ้าประทานแก่ท่านจะสำเร็จเป็นจริง
[ภาพหน้า 21]
คุณใช้ทุกโอกาสให้เกิดประโยชน์มากที่สุดเพื่อทำตามพระประสงค์ของพระยะโฮวาไหม?