ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คำถามจากผู้อ่าน

คำถามจากผู้อ่าน

ก่อน​เข้า​มา​เรียน​รู้​ความ​จริง​ใน​พระ​คัมภีร์ ผม​กับ​ภรรยา​ได้​ใช้​วิธี​การ​ทำ​เด็ก​หลอด​แก้ว​เพราะ​เรา​ต้องการ​มี​ลูก. เซลล์​ไข่​ที่​ถูก​ผสม​แล้ว (เซลล์​ตัว​อ่อน) ของ​เรา​ส่วน​ที่​ไม่​ได้​ใช้​ถูก​นำ​ไป​แช่​แข็ง​และ​เก็บ​ไว้. เรา​ต้อง​เก็บ​รักษา​เซลล์​ตัว​อ่อน​เหล่า​นั้น​ไว้​ไหม​หรือ​ว่า​ไม่​ต้อง​เก็บ​ไว้​ก็​ได้?

นี่​เป็น​เพียง​ส่วน​หนึ่ง​ใน​ประเด็น​สำคัญ​ด้าน​ศีลธรรม​หรือ​จริยธรรม​ที่​คู่​สมรส​ต้อง​เผชิญ​ถ้า​พวก​เขา​เลือก​ใช้​วิธี​การ​ทำ​เด็ก​หลอด​แก้ว (in vitro fertilization หรือ IVF). คู่​สมรส​แต่​ละ​คู่​ต้อง​รับผิดชอบ​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​ใน​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ตัดสิน​ใจ​ทำ. อย่าง​ไร​ก็​ตาม นับ​ว่า​เป็น​ประโยชน์​ที่​จะ​พิจารณา​คร่าว ๆ เกี่ยว​กับ​เทคโนโลยี​นี้​ที่​ใช้​เพื่อ​ช่วย​คน​ที่​มี​บุตร​ยาก.

ใน​ปี 1978 ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​ใน​ประเทศ​อังกฤษ​เป็น​คน​แรก​ที่​มี​บุตร​ที่​หลาย​คน​เรียก​ว่า​เด็ก​หลอด​แก้ว. เธอ​ไม่​สามารถ​ตั้ง​ครรภ์​ได้​ด้วย​วิธี​ปกติ​เพราะ​ท่อ​ปีก​มดลูก​ของ​เธอ​อุดตัน อสุจิ​จึง​ไป​ผสม​กับ​เซลล์​ไข่​ไม่​ได้. แพทย์​ได้​ผ่าตัด​เอา​เซลล์​ไข่​ที่​สุก​แล้ว​จาก​ตัว​เธอ นำ​มา​ใส่​ใน​จาน​แก้ว แล้ว​ก็​ผสม​กับ​อสุจิ​ของ​สามี​เธอ​และ​เกิด​เป็น​เซลล์​ตัว​อ่อน. เมื่อ​เซลล์​ตัว​อ่อน​นี้​พัฒนา​เติบโต​ขึ้น​ถึง​จุด​หนึ่ง​เซลล์​นี้​ก็​ถูก​นำ​ไป​ใส่​ไว้​ใน​ครรภ์​ของ​เธอ โดย​ฝัง​ตัว​ที่​มดลูก. ใน​ที่​สุด เธอ​ก็​ได้​ลูก​สาว. วิธี​การ​ดัง​กล่าว​และ​วิธี​การ​อื่น ๆ ที่​คล้าย​กัน​ถูก​เรียก​ว่า​การ​ทำ​เด็ก​หลอด​แก้ว หรือ IVF.

แม้​ว่า​ราย​ละเอียด​อาจ​แตกต่าง​กัน​ใน​แต่​ละ​ประเทศ แต่​โดย​ทั่ว​ไป​แล้ว​การ​ทำ IVF ทำ​กัน​ด้วย​วิธี​ดัง​ต่อ​ไป​นี้: ผู้​เป็น​ภรรยา​จะ​ได้​รับ​ยา​อย่าง​หนึ่ง​เป็น​เวลา​หลาย​สัปดาห์​เพื่อ​กระตุ้น​ให้​รังไข่​ของ​เธอ​ผลิต​เซลล์​ไข่​จำนวน​มาก. แพทย์​อาจ​ขอ​อสุจิ​จาก​สามี​โดย​ให้​เขา​สำเร็จ​ความ​ใคร่​ด้วย​ตน​เอง. เซลล์​ไข่​และ​อสุจิ​จะ​ถูก​นำ​มา​ผสม​กัน​ใน​ห้อง​ปฏิบัติการ. เซลล์​ไข่​หลาย​เซลล์​อาจ​ได้​รับ​การ​ผสม​และ​เริ่ม​แบ่ง​ตัว​เติบโต​ขึ้น​จน​กลาย​เป็น​เซลล์​ตัว​อ่อน. หลัง​จาก​ผ่าน​ไป​หนึ่ง​วัน​หรือ​มาก​กว่า​นั้น เซลล์​ตัว​อ่อน​เหล่า​นี้​จะ​ถูก​ตรวจ​อย่าง​ละเอียด​เพื่อ​คัด​แยก​ว่า​เซลล์​ใด​ที่​บกพร่อง​และ​เซลล์​ใด​แข็งแรง​และ​มี​โอกาส​จะ​ฝัง​ตัว​ที่​มดลูก​และ​พัฒนา​เติบโต​ต่อ​ไป​ได้​มาก​ที่​สุด. เมื่อ​ถึง​ประมาณ​วัน​ที่​สาม​ก็​จะ​มี​การ​ย้าย​เซลล์​ตัว​อ่อน​ไป​ใส่​ไว้​ใน​ครรภ์​ของ​ภรรยา. ตาม​ปกติ​แล้ว จะ​ย้าย​เซลล์​ตัว​อ่อน​ที่​ดี​ที่​สุด​สอง​หรือ​สาม​เซลล์​เพื่อ​เพิ่ม​โอกาส​ที่​จะ​ตั้ง​ครรภ์. ถ้า​มี​การ​ฝัง​ตัว​ของ​เซลล์​ตัว​อ่อน​หนึ่ง​เซลล์​หรือ​มาก​กว่า​นั้น เธอ​ก็​จะ​ตั้ง​ครรภ์​และ​คง​จะ​ให้​กำเนิด​บุตร​ใน​ที่​สุด.

แต่​จะ​ว่า​อย่าง​ไร​สำหรับ​เซลล์​ตัว​อ่อน​ที่​ไม่​ได้​ถูก​ย้าย รวม​ทั้ง​เซลล์​ที่​ดู​เหมือน​จะ​ไม่​ค่อย​แข็งแรง​หรือ​บกพร่อง? หาก​ถูก​ทิ้ง​ไว้ ไม่​นาน​เซลล์​ตัว​อ่อน​ที่​เป็น​ส่วน​เกิน​เหล่า​นี้​ก็​จะ​ไม่​สามารถ​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป​ได้. ก่อน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น แพทย์​อาจ​แช่​แข็ง​เซลล์​ตัว​อ่อน​ส่วน​เกิน​เหล่า​นี้​ใน​ไนโตรเจน​เหลว. เพราะ​เหตุ​ใด? เพราะ​ถ้า​การ​ทำ IVF ครั้ง​แรก​ล้มเหลว ก็​สามารถ​นำ​เอา​เซลล์​ตัว​อ่อน​เหล่า​นี้​ที่​เก็บ​ไว้​มา​ใช้​ใน​การ​ทำ IVF ครั้ง​ใหม่​ได้​โดย​มี​ค่า​ใช้​จ่าย​ที่​ต่ำ​กว่า. อย่าง​ไร​ก็​ตาม นี่​ทำ​ให้​เกิด​ประเด็น​ที่​เป็น​ปัญหา​ด้าน​จริยธรรม. เช่น​เดียว​กับ​คู่​สมรส​ที่​เขียน​มา​ถาม​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้ หลาย​คู่​พบ​ว่า​เป็น​เรื่อง​ยาก​ที่​จะ​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ดี​กับ​เซลล์​ตัว​อ่อน​ที่​ถูก​แช่​แข็ง. พวก​เขา​อาจ​ไม่​ต้องการ​มี​บุตร​อีก. อายุ​หรือ​ฐานะ​ทาง​การ​เงิน​ของ​คู่​สมรส​อาจ​ทำ​ให้​เขา​ไม่​สามารถ​จะ​ทำ IVF ครั้ง​ใหม่​ได้. พวก​เขา​อาจ​กลัว​ความ​เสี่ยง​ที่​จะ​มี​ลูก​แฝด. * หรือ​อาจ​มี​ปัญหา​ที่​ยุ่งยาก​ซับซ้อน​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​คู่​สมรส​เสีย​ชีวิต​หรือ​เมื่อ​ฝ่าย​หนึ่ง​หรือ​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​แต่งงาน​ใหม่. เนื่อง​จาก​มี​เรื่อง​ที่​ทำ​ให้​กังวล​หลาย​เรื่อง คู่​สมรส​บาง​คู่​จึง​จ่าย​ค่า​เก็บ​รักษา​เซลล์​ตัว​อ่อน​ไป​เรื่อย ๆ เป็น​เวลา​หลาย​ปี.

ใน​ปี 2008 หัวหน้า​นัก​วิทยา​เอ็มบริโอ​คน​หนึ่ง​กล่าว​ไว้​ใน​หนังสือ​พิมพ์ เดอะ นิวยอร์ก ไทมส์ ว่า​คนไข้​หลาย​คน​ตก​อยู่​ใน​ภาวะ​กลืน​ไม่​เข้า​คาย​ไม่​ออก ไม่​รู้​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ดี​กับ​เซลล์​ตัว​อ่อน​ส่วน​เกิน. บทความ​นี้​กล่าว​ว่า “มี​เซลล์​ตัว​อ่อน​อย่าง​น้อย 400,000 เซลล์​ถูก​แช่​แข็ง​อยู่​ตาม​คลินิก​ต่าง ๆ ทั่ว​ประเทศ (สหรัฐ) และ​มี​จำนวน​เพิ่ม​ขึ้น​ทุก​วัน . . . เซลล์​ตัว​อ่อน​จะ​ยัง​คง​มี​ชีวิต​อยู่​ได้​นาน​นับ​สิบ​ปี​หรือ​มาก​กว่า​นั้น​ถ้า​ถูก​แช่​แข็ง​ไว้​อย่าง​ถูก​วิธี แต่​ไม่​ใช่​ทั้ง​หมด​ที่​จะ​มี​ชีวิต​รอด​เมื่อ​ถูก​นำ​ออก​มา​จาก​ห้อง​แช่​แข็ง.” (เรา​ทำ​ให้​เป็น​ตัว​เอน) ข้อ​เท็จ​จริง​นี้​ทำ​ให้​คริสเตียน​บาง​คน​ต้อง​ไตร่ตรอง​ให้​ดี. เพราะ​เหตุ​ใด?

คู่​สมรส​คริสเตียน​ที่​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ใน​ประเด็น​ที่​เป็น​ปัญหา​ซึ่ง​เกิด​ขึ้น​เนื่อง​จาก​การ​ทำ IVF อาจ​พิจารณา​กรณี​ของ​เขา​โดย​เทียบเคียง​กัน​กับ​สถานการณ์​ทาง​การ​แพทย์​ใน​อีก​กรณี​หนึ่ง. มี​คริสเตียน​บาง​คน​ที่​อาจ​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​กับ​ผู้​เป็น​ที่​รัก​ที่​เป็น​ผู้​ป่วย​ใน​ระยะ​สุด​ท้าย​และ​อยู่​ได้​โดย​อาศัย​อุปกรณ์​พยุง​ชีวิต เช่น เครื่อง​ช่วย​หายใจ. คริสเตียน​แท้​ไม่​เห็น​ด้วย​กับ​การ​ละเลย​ผู้​ป่วย​ซึ่ง​ทำ​ให้​ไม่​ได้​รับ​การ​รักษา​อย่าง​เหมาะ​สม. สอดคล้อง​กับ​เอ็กโซโด 20:13 และ​บทเพลง​สรรเสริญ 36:9 พวก​เขา​ถือ​ว่า​ชีวิต​มี​ค่า​อย่าง​ยิ่ง. วารสาร​ตื่นเถิด! 8 พฤษภาคม 1974 (ภาษา​อังกฤษ) กล่าว​ว่า “เนื่อง​จาก​พวก​เขา​นับถือ​ทัศนะ​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​ความ​ศักดิ์สิทธิ์​ของ​ชีวิต ทำ​ตาม​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​พวก​เขา​เอง และ​เชื่อ​ฟัง​กฎหมาย​บ้าน​เมือง คน​ที่​ปรารถนา​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​สอดคล้อง​กับ​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​จะ​ไม่​ทำ​การุณยฆาต​อย่าง​เด็ดขาด” ซึ่ง​ก็​คือ​การ​เจตนา​ยุติ​ชีวิต​ของ​ผู้​ป่วย​ที่​อยู่​ใน​สภาพ​ที่​ไม่​มี​หวัง​จะ​เยียว​ยา​รักษา​ได้. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน​บาง​สถานการณ์ การ​ใช้​อุปกรณ์​พยุง​ชีวิต​เป็น​วิธี​เดียว​ที่​จะ​ทำ​ให้​ผู้​เป็น​ที่​รัก​อยู่​ต่อ​ไป​ได้. สมาชิก​ครอบครัว​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ให้​มี​การ​ใช้​อุปกรณ์​พยุง​ชีวิต​นั้น​ต่อ​ไป​หรือ​ไม่.

จริง​อยู่ สถานการณ์​ดัง​กล่าว​ไม่​เหมือน​กัน​ที​เดียว​กับ​สถานการณ์​ของ​คู่​สมรส​ที่​ทำ IVF ซึ่ง​เก็บ​เซลล์​ตัว​อ่อน​ไว้. แต่​อาจ​มี​การ​เสนอ​ทาง​เลือก​อย่าง​หนึ่ง​ให้​เขา​เอา​เซลล์​ตัว​อ่อน​ออก​จาก​ตู้​แช่​แข็ง​ไนโตรเจน. เมื่อ​ไม่​ได้​อยู่​ใน​ตู้​แช่​แข็ง ไม่​ช้า​เซลล์​ตัว​อ่อน​ก็​ไม่​อาจ​จะ​อยู่​รอด​ต่อ​ไป​ได้​อีก. คู่​สมรส​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ยอม​ให้​ทำ​อย่าง​นั้น​หรือ​ไม่.—กลา. 6:7

เนื่อง​จาก​คู่​สมรส​เลือก​ที่​จะ​ทำ IVF เพื่อ​จะ​ตั้ง​ครรภ์​และ​มี​บุตร พวก​เขา​อาจ​เลือก​ที่​จะ​ยอม​เสีย​ค่า​ใช้​จ่าย​ใน​การ​เก็บ​รักษา​เซลล์​ตัว​อ่อน​แช่​แข็ง​ไว้​หรือ​ใน​การ​ใช้​เซลล์​ตัว​อ่อน​เพื่อ​จะ​ทำ IVF อีก​ใน​อนาคต. แต่​คู่​สมรส​คู่​อื่น​อาจ​ตัดสิน​ใจ​ว่า​พวก​เขา​จะ​เลิก​เก็บ​รักษา​เซลล์​ตัว​อ่อน​แช่​แข็ง โดย​ถือ​ว่า​เซลล์​นั้น​อยู่​รอด​ได้​เพียง​เพราะ​โดย​อาศัย​อุปกรณ์​ช่วย. คริสเตียน​ที่​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ใน​เรื่อง​นี้​ต้อง​ให้​การ​ต่อ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​การ​ใช้​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​ตน​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก​โดย​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล. พวก​เขา​ควร​ปรารถนา​จะ​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ดี ใน​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​คำนึง​ถึง​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​คน​อื่น​ด้วย.—1 ติโม. 1:19

คริสเตียน​ที่​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ใน​เรื่อง​นี้​จะ​ต้อง​ให้​การ​ต่อ​พระเจ้า​เกี่ยว​กับ​การ​ใช้​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ของ​ตน​ที่​ได้​รับ​การ​ฝึก​โดย​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล

ผู้​เชี่ยวชาญ​วิทยา​ต่อม​ไร้​ท่อ​ทาง​ด้าน​การ​สืบ​พันธุ์​คน​หนึ่ง​พบ​ว่า​คู่​สมรส​ส่วน​ใหญ่ “รู้สึก​สับสน​แต่​ขณะ​เดียว​กัน​ก็​เป็น​ห่วง​อย่าง​ยิ่ง​เพราะ​พวก​เขา​มี​ความ​รับผิดชอบ​ที่​ต้อง​ตัดสิน​ใจ​ว่า​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​กับ​เซลล์​ตัว​อ่อน [แช่​แข็ง].” เขา​สรุป​ว่า “สำหรับ​หลาย​คู่ ไม่​ว่า​พวก​เขา​จะ​เลือก​ทำ​อย่าง​ไร​ก็​ไม่​ใช่​การ​ตัดสิน​ใจ​ที่​ดี.”

เห็น​ได้​ชัด​ว่า คริสเตียน​แท้​ที่​คิด​จะ​ทำ IVF ควร​พิจารณา​แง่​มุม​ทั้ง​หมด​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เทคโนโลยี​นี้​ที่​อาจ​ก่อ​ให้​เกิด​ปัญหา. คัมภีร์​ไบเบิล​แนะ​นำ​ว่า “คน​มี​วิจารณญาณ​เห็น​ภัย​อันตราย​และ​หลบ​เข้า​ที่​กำบัง ส่วน​คน​โง่​เดิน​ลุย​ต่อ​ไป​และ​ต้อง​ทุกข์​ทน​กับ​ผล​ที่​ตาม​มา.”—สุภา. 22:3, ฉบับ​อมตธรรม​ร่วม​สมัย

ชาย​หญิง​คู่​หนึ่ง​ที่​อยู่​กิน​ด้วย​กัน​โดย​ไม่​ได้​แต่งงาน​ซึ่ง​กำลัง​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ต้องการ​รับ​บัพติสมา แต่​ทั้ง​สอง​ไม่​สามารถ​สมรส​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย​เพราะ​ฝ่าย​ชาย​อยู่​ใน​ประเทศ​อย่าง​ผิด​กฎหมาย. รัฐบาล​ไม่​จด​ทะเบียน​สมรส​ให้​คน​ต่าง​ด้าว​ที่​ผิด​กฎหมาย. ทั้ง​สอง​จะ​ลง​ชื่อ​ใน​แบบ​ฟอร์ม “คำ​แถลง​ปฏิญาณ​ความ​ซื่อ​สัตย์” แล้ว​ก็​รับ​บัพติสมา​ได้​หรือ​ไม่?

การ​ทำ​อย่าง​นั้น​อาจ​ดู​เหมือน​เป็น​วิธี​แก้​ปัญหา แต่​นั่น​ไม่​ใช่​วิธี​แก้​ปัญหา​ของ​พวก​เขา​อย่าง​ที่​เป็น​ไป​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์. เพื่อ​จะ​เข้าใจ​ว่า​เหตุ​ใด​จึง​เป็น​เช่น​นั้น ก่อน​อื่น​ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​จุด​ประสงค์​ของ​แบบ​ฟอร์ม “คำ​แถลง​ปฏิญาณ​ความ​ซื่อ​สัตย์” นี้ และ​พิจารณา​ว่า​จะ​ใช้​แบบ​ฟอร์ม​นี้​ได้​ใน​กรณี​ใด.

คู่​ชาย​หญิง​ที่​ไม่​สามารถ​สมรส​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย​เนื่อง​ด้วย​เหตุ​ผล​ที่​จะ​กล่าว​ถึง​หลัง​จาก​นี้​จะ​ลง​ลายมือ​ชื่อ​ต่อ​หน้า​พยาน​ใน​เอกสาร​นี้. ใน​เอกสาร​นี้​พวก​เขา​ปฏิญาณ​ว่า​จะ​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​กัน​และ​จะ​สมรส​กัน​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย​เมื่อ​สามารถ​ทำ​ได้. เมื่อ​ลง​ลายมือ​ชื่อ​ใน​เอกสาร​นี้​แล้ว​ประชาคม​จะ​มอง​การ​สมรส​ของ​ทั้ง​สอง​เสมือน​ว่า​พวก​เขา​ได้​สมรส​กัน​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย.

จะ​ใช้​แบบ​ฟอร์ม “คำ​แถลง​ปฏิญาณ​ความ​ซื่อ​สัตย์” นี้​เมื่อ​ไร? พระ​ยะโฮวา​ทรง​เป็น​ผู้​ก่อ​ตั้ง​การ​สมรส​และ​ทรง​ถือ​ว่า​การ​สมรส​เป็น​เรื่อง​จริงจัง​อย่าง​ยิ่ง. พระ​บุตร​ของ​พระองค์​ตรัส​ว่า “ที่​พระเจ้า​ทรง​ผูก​มัด​ไว้​ด้วย​กัน​แล้ว​นั้น​อย่า​ให้​มนุษย์​ทำ​ให้​แยก​จาก​กัน​เลย.” (มัด. 19:5, 6; เย. 2:22-24) พระ​เยซู​ตรัส​เพิ่ม​เติม​อีก​ว่า “ผู้​ใด​ที่​หย่า​ภรรยา​แล้ว​แต่งงาน​ใหม่​ก็​เป็น​คน​เล่นชู้ เว้น​แต่​หย่า​เพราะ​เหตุ​ที่​นาง​ผิด​ประเวณี [ทำ​ผิด​ศีลธรรม​ทาง​เพศ].” (มัด. 19:9) ดัง​นั้น ‘การ​ผิด​ประเวณี’ หรือ​การ​ทำ​ผิด​ศีลธรรม​ทาง​เพศ เป็น​สาเหตุ​เดียว​ที่​จะ​หย่า​ได้​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์. ตัว​อย่าง​เช่น ถ้า​ผู้​ชาย​ไป​มี​เพศ​สัมพันธ์​นอก​สาย​สมรส ภรรยา​สามารถ​ตัดสิน​ใจ​เลือก​ว่า​จะ​หย่า​หรือ​ไม่​หย่า​ก็​ได้. ถ้า​เธอ​เลือก​ที่​จะ​หย่า เธอ​ก็​มี​อิสระ​ที่​จะ​แต่งงาน​ใหม่​ได้.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ใน​อดีต ศาสนา​ประจำ​ชาติ​ของ​บาง​ประเทศ​ไม่​ยอม​รับ​หลักการ​ของ​คัมภีร์​ไบเบิล​ใน​เรื่อง​การ​หย่า. ศาสนา​เหล่า​นั้น​สอน​ว่า​การ​หย่า​ไม่​ว่า​จะ​ด้วย​เหตุ​ผล​ใด​ก็​ตาม​ถือ​ว่า​ผิด. หัวหน้า​ศาสนา​เหล่า​นี้​มี​อิทธิพล​มาก​จน​ทำ​ให้​กฎหมาย​ของ​บาง​ประเทศ​ใน​ทุก​วัน​นี้​ไม่​อนุญาต​ให้​ประชาชน​หย่า แม้​แต่​ใน​กรณี​ที่​พระ​คัมภีร์​อนุญาต​ให้​หย่า​ได้. ใน​ประเทศ​อื่น ๆ กฎหมาย​อนุญาต​ให้​หย่า​ได้ แต่​เป็น​เรื่อง​ยุ่งยาก​ซับซ้อน​อย่าง​ยิ่ง​ที่​จะ​หย่า. อาจ​ต้อง​ใช้​เวลา​นาน​นับ​สิบ​ปี​กว่า​จะ​หย่า​ได้. ศาสนา​ประจำ​ชาติ​หรือ​รัฐบาล​ใน​ประเทศ​เหล่า​นี้​ห้าม​ประชาชน​ไม่​ให้​ทำ​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ทรง​อนุญาต​ให้​ทำ​ได้.—กิจ. 11:17

ตัว​อย่าง​เช่น ชาย​หญิง​ที่​ต้องการ​สมรส​กัน​อาจ​อยู่​ใน​ประเทศ​ที่​การ​หย่า​ทำ​ไม่​ได้​เลย​หรือ​ทำ​ได้​ยาก​มาก และ​อาจ​ต้อง​ใช้​เวลา​หลาย​ปี​จึง​จะ​หย่า​ได้. หาก​พวก​เขา​ได้​ทำ​ทุก​สิ่ง​ที่​สามารถ​ทำ​ได้​แล้ว​เพื่อ​จะ​หย่า​จาก​คู่​สมรส​คน​ก่อน​ซึ่ง​ได้​แต่งงาน​กัน​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย​และ​พวก​เขา​มี​อิสระ​ที่​จะ​สมรส​ได้​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์ พวก​เขา​อาจ​ลง​ลายมือ​ชื่อ​ใน​เอกสาร “คำ​แถลง​ปฏิญาณ​ความ​ซื่อ​สัตย์” ได้. องค์การ​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​ได้​จัด​เตรียม​แบบ​ฟอร์ม​นี้​ไว้​เพื่อ​ใช้​ใน​ประเทศ​เหล่า​นี้. แต่​เอกสาร​นี้​ไม่​ได้​มี​ไว้​เพื่อ​ใช้​ใน​ประเทศ​ส่วน​ใหญ่​ซึ่ง​อนุญาต​ให้​หย่า​ได้ แม้​ว่า​ขั้น​ตอน​การ​หย่า​อาจ​ยุ่งยาก​ซับซ้อน​หรือ​ค่อนข้าง​แพง.

บาง​คน​ที่​อยู่​ใน​ประเทศ​ที่​อนุญาต​ให้​มี​การ​หย่า​ต้องการ​ลง​ลายมือ​ชื่อ​ใน​เอกสาร “คำ​แถลง​ปฏิญาณ​ความ​ซื่อ​สัตย์” เพื่อ​หลีก​เลี่ยง​ความ​ยุ่งยาก​ซับซ้อน​ของ​ขั้น​ตอน​การ​หย่า. แต่​นั่น​ไม่​ใช่​เหตุ​ผล​ที่​ถูก​ต้อง​ที่​จะ​ใช้​เอกสาร​นี้.

ขอ​ให้​เรา​กลับ​ไป​พิจารณา​กรณี​ที่​ผู้​อ่าน​ถาม​มา. ชาย​และ​หญิง​คู่​นี้​อยู่​กิน​ด้วย​กัน​และ​ต้องการ​สมรส. ทั้ง​สอง​คน​มี​อิสระ​สมรส​ได้​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์ เพราะ​ทั้ง​สอง​คน​อยู่​ใน​สถานภาพ​โสด. นี่​ไม่​ใช่​สถานการณ์​ที่​ฝ่าย​หนึ่ง​ฝ่าย​ใด​จำเป็น​ต้อง​หย่า​แต่​ไม่​สามารถ​หย่า​ได้​เพราะ​กฎหมาย​ของ​ประเทศ​ไม่​อนุญาต​ให้​หย่า. ดัง​นั้น ชาย​หญิง​คู่​นี้​จึง​ไม่​สามารถ​ใช้​เอกสาร “คำ​แถลง​ปฏิญาณ​ความ​ซื่อ​สัตย์” ได้. ปัญหา​ใน​กรณี​ของ​พวก​เขา​คือ​ผู้​ชาย​อยู่​ใน​ประเทศ​อย่าง​ผิด​กฎหมาย และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​รัฐบาล​จึง​ไม่​จด​ทะเบียน​สมรส​ให้​พวก​เขา. (ใน​หลาย​ประเทศ เจ้าหน้าที่​จด​ทะเบียน​สมรส​ให้​แม้​ว่า​ผู้​ชาย​หรือ​ผู้​หญิง​หรือ​ทั้ง​สอง​อยู่​ใน​ประเทศ​อย่าง​ผิด​กฎหมาย) ใน​เมื่อ​เป็น​เช่น​นี้ สอง​คน​นี้​อาจ​ทำ​อะไร​ได้? พวก​เขา​อาจ​ไป​อีก​ประเทศ​หนึ่ง​ที่​พวก​เขา​สามารถ​สมรส​กัน​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย. หรือ​อาจ​เป็น​ไป​ได้​ที่​พวก​เขา​จะ​สมรส​ใน​ประเทศ​ที่​พวก​เขา​อยู่​ถ้า ฝ่าย​ชาย​นั้น​ลง​มือ​ทำ​ตาม​ขั้น​ตอน​ที่​จำเป็น​เพื่อ​จะ​เป็น​ผู้​อยู่​อาศัย​ที่​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย.

ดัง​นั้น สิ่ง​ที่​ชาย​หญิง​คู่​นี้​สามารถ​ทำ​ได้​คือ​พยายาม​ทำ​สิ่ง​ที่​จำเป็น​ต้อง​ทำ​เพื่อ​จะ​ปฏิบัติ​ตาม​ทั้ง​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​และ​กฎหมาย​ของ​บ้าน​เมือง. (มโก. 12:17; โรม 13:1) ถ้า​พวก​เขา​สมรส​กัน​อย่าง​ถูก​ต้อง​ตาม​กฎหมาย พวก​เขา​ก็​อยู่​ใน​ฐานะ​ที่​จะ​รับ​บัพติสมา​ได้.—ฮีบรู 13:4

^ วรรค 6 จะ​ว่า​อย่าง​ไร​ถ้า​ทารก​ที่​กำลัง​เติบโต​อยู่​ใน​ครรภ์​ดู​เหมือน​มี​ความ​ผิด​ปกติ​หรือ​ถ้า​มี​เซลล์​ตัว​อ่อน​หลาย​เซลล์​ฝัง​ตัว​ที่​มดลูก? ถ้า​มี​การ​จงใจ​ยุติ​การ​ตั้ง​ครรภ์ นั่น​คือ​การ​ทำ​แท้ง. มารดา​ที่​ทำ IVF มี​ลูก​แฝด (แฝด​สอง แฝด​สาม หรือ​มาก​กว่า​นั้น) ได้​ง่าย ซึ่ง​ทำ​ให้​มี​ความ​เสี่ยง​ใน​ด้าน​ต่าง ๆ เพิ่ม​ขึ้น เช่น การ​คลอด​ก่อน​กำหนด​และ​การ​ตก​เลือด. ผู้​หญิง​ที่​อุ้ม​ท้อง​ลูก​แฝด​หลาย​คน​อาจ​ถูก​กดดัน​ที่​จะ​ยอม​ให้​มี​การ​ฆ่า​ทารก​ใน​ครรภ์​หนึ่ง​คน​หรือ​มาก​กว่า​นั้น. นั่น​ย่อม​เป็น​การ​ทำ​แท้ง​โดย​เจตนา ซึ่ง​เป็น​การ​ฆ่า​คน.—เอ็ก. 21:22, 23; เพลง. 139:16