ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

คุณจะ “เฝ้าระวังอยู่เสมอ” ไหม?

คุณจะ “เฝ้าระวังอยู่เสมอ” ไหม?

“ฉะนั้น จงเฝ้าระวังอยู่เสมอ เพราะเจ้าทั้งหลายไม่รู้ว่าวันเวลานั้นคือเมื่อไร”—มัด. 25:13

1, 2. (ก) พระเยซูบอกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในสมัยสุดท้าย? (ข) เราจะพิจารณาคำถามอะไร?

ลองนึกภาพพระเยซูนั่งอยู่บนภูเขามะกอกซึ่งสามารถมองลงมาเห็นพระวิหารในกรุงเยรูซาเลม ตอนนั้น ท่านอยู่กับอัครสาวก 4 คนคือ เปโตร อันเดรอัส ยาโกโบ และโยฮัน พวกเขากำลังตั้งใจฟังพระเยซูพูดถึงคำพยากรณ์ที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับอนาคต คำพยากรณ์นั้นบอกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในสมัยสุดท้ายของโลกชั่วตอนที่ท่านปกครองในราชอาณาจักรของพระเจ้า พระเยซูบอกพวกเขาว่า ในช่วงเวลาที่น่าตื่นเต้นนี้ “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม” จะเป็นตัวแทนของท่านบนโลกและพวกเขาจะจัดเตรียมความรู้ของพระเจ้าให้แก่ผู้ที่ติดตามพระเยซูเหมือนอาหารในเวลาอันเหมาะ—มัด. 24:45-47

2 ต่อมา ในคำพยากรณ์เดียวกันนี้ พระเยซูเล่าตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องหญิงพรหมจารี 10 คน (อ่านมัดธาย 25:1-13) ในบทความนี้เราจะพิจารณา 3 คำถามคือ (1) ตัวอย่างเปรียบเทียบนี้สอนบทเรียนอะไร? (2) ผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ได้ใช้คำแนะนำจากตัวอย่างเปรียบเทียบนี้อย่างไร และผลเป็นอย่างไร? (3) ทุกวันนี้เราแต่ละคนได้ประโยชน์อะไรจากตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซู?

ความหมายของตัวอย่างเปรียบเทียบคืออะไร?

3. หนังสือของเราเคยอธิบายเรื่องหญิงพรหมจารี 10 คนอย่างไร และการอธิบายแบบนั้นอาจส่งผลอย่างไร?

3 ในบทความที่แล้ว เราเรียนว่าไม่กี่ปีมานี้ทาสสัตย์ซื่อได้ปรับเปลี่ยนวิธีอธิบายเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล ตอนนี้ทาสสัตย์ซื่อเน้นบทเรียนที่ใช้ได้จริงมากขึ้น และไม่ค่อยเน้นสัญลักษณ์เชิงพยากรณ์ที่เป็นภาพเล็งถึงบางสิ่ง เช่น หนังสือของเราเคยอธิบายตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องหญิงพรหมจารี 10 คนว่าตะเกียง น้ำมัน และขวดเป็นภาพเล็งถึงบางสิ่ง แต่เป็นไปได้ไหมที่การให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้อาจทำให้เรามองข้ามข่าวสารที่เรียบง่ายและเร่งด่วน? นับว่าสำคัญที่จะรู้คำตอบนี้

4. ในตัวอย่างเปรียบเทียบ เรารู้ได้อย่างไรว่า (ก) ใครคือเจ้าบ่าว? (ข) ใครคือหญิงพรหมจารี?

4 ให้เราพิจารณาความหมายในตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซู อย่างแรก ขอให้คิดถึงบุคคลต่าง ๆ ที่อยู่ในเรื่องหญิงพรหมจารี 10 คน ใครคือเจ้าบ่าว? คำตอบคือพระเยซู เพราะก่อนหน้านี้พระเยซูอ้างถึงตัวท่านเองว่าเป็นเจ้าบ่าว (ลูกา 5:34, 35) ใครคือหญิงพรหมจารี? พวกเธอคือ “แกะฝูงน้อย” ที่เป็นคริสเตียนผู้ถูกเจิม เรารู้ได้อย่างไร? ในตัวอย่างเปรียบเทียบ หญิงพรหมจารีต้องมีตะเกียงติดไฟอยู่เมื่อเจ้าบ่าวมาถึง ขอสังเกตว่าพระเยซูบอกสาวกผู้ถูกเจิมของท่านว่า “จงคาดเอวไว้และให้ตะเกียงของพวกเจ้าติดไฟอยู่ และให้พวกเจ้าเป็นเหมือนคนที่กำลังคอยนายซึ่งจะกลับจากงานสมรส” (ลูกา 12:32, 35, 36) นอกจากนั้น ทั้งอัครสาวกเปาโลและโยฮันก็เปรียบสาวกผู้ถูกเจิมของพระคริสต์ว่าเป็นหญิงพรหมจารี (2 โค. 11:2; วิ. 14:4) ดังนั้น คำแนะนำและคำเตือนที่อยู่ในมัดธาย 25:1-13 จึงใช้กับสาวกผู้ถูกเจิมของพระเยซูโดยตรง

5. ตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูนำมาใช้ในช่วงไหน และพระเยซูบอกอย่างไรในเรื่องนี้?

5 คำแนะนำของพระเยซูเรื่องหญิงพรหมจารีจะนำมาใช้ในช่วงไหน? ในตอนท้ายของตัวอย่างเปรียบเทียบ พระเยซูช่วยเราให้รู้คำตอบ ท่านบอกว่า “เจ้าบ่าวก็มาถึง” (มัด. 25:10) ดังที่เราได้พิจารณาในหอสังเกตการณ์ ฉบับ 15 กรกฎาคม 2013 คำพยากรณ์ของพระเยซูในมัดธายบท 24 และ 25 พูดถึงการ “มา” ของพระเยซูถึง 8 ครั้ง และเมื่อพูดถึงการ “มา” ในแต่ละครั้ง ท่านหมายถึงช่วงความทุกข์ลำบากใหญ่ซึ่งท่านจะมาพิพากษาและทำลายโลกชั่วนี้ ดังนั้น เราจึงสรุปได้ว่าตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องหญิงพรหมจารีจะใช้ในช่วงสมัยสุดท้าย แต่พระเยซูจะ “มา” ในช่วงความทุกข์ลำบากใหญ่

6. พระเยซูใช้ตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องหญิงพรหมจารี 10 คนเพื่อเตือนเหล่าสาวกให้ทำอะไร?

6 เราได้เรียนอะไรจากตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องนี้? ขอให้นึกถึงท้องเรื่องในคัมภีร์ไบเบิล ในมัดธายบท 24 พระเยซูพูดกับสาวกเรื่อง “ทาสสัตย์ซื่อและสุขุม” ซึ่งพวกเขาคือชายผู้ถูกเจิมกลุ่มเล็ก ๆ ที่นำหน้าสาวกของพระคริสต์ในช่วงสมัยสุดท้าย พระเยซูเตือนว่าทาสสัตย์ซื่อและสุขุมต้องรักษาความซื่อสัตย์ ในบท 25 พระเยซูใช้ตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องหญิงพรหมจารี 10 คนเพื่อให้คำแนะนำแก่สาวกผู้ถูกเจิมของท่านทุกคน ที่มีชีวิตอยู่ในสมัยสุดท้ายว่าต้อง “เฝ้าระวังอยู่เสมอ” เพื่อพวกเขาจะไม่สูญเสียรางวัลที่จะได้ไปสวรรค์ (มัด. 25:13) ให้เรามาพิจารณาตัวอย่างเปรียบเทียบนี้และดูว่าผู้ถูกเจิมจะนำคำแนะนำนี้ไปใช้อย่างไร

ผู้ถูกเจิมใช้คำแนะนำที่อยู่ในตัวอย่างเปรียบเทียบอย่างไร?

7, 8. (ก) หญิงพรหมจารีสุขุมแสดงอย่างไรว่าพวกเธออยู่พร้อม? (ข) ผู้ถูกเจิมเตรียมพร้อมอย่างไร?

7 ในตัวอย่างเปรียบเทียบ พระเยซูเน้นว่าหญิงพรหมจารีสุขุมไม่เหมือนกับหญิงพรหมจารีโง่ หญิงพรหมจารีสุขุมอยู่พร้อมเมื่อเจ้าบ่าวมาถึง ทำไม? เพราะพวกเธอเตรียมตัวและเฝ้าระวัง ที่จริง หญิงพรหมจารีทั้ง 10 คนต้องตื่นตัวอยู่เสมอและทำให้ตะเกียงของพวกเธอติดไฟอยู่ตลอดทั้งคืน สิ่งที่ทำให้หญิงพรหมจารีสุขุม 5 คนต่างจากหญิงพรหมจารีโง่ก็คือพวกเธอเตรียมพร้อมโดยเอาน้ำมันมาเผื่อด้วย ถ้าอย่างนั้น คริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์เตรียมพร้อมสำหรับการมาของพระเยซูอย่างไร?

8 ผู้ถูกเจิมเตรียมพร้อมเพื่อทำงานมอบหมายให้สำเร็จจนกว่าอวสานจะมาถึง พวกเขารู้ว่าเพื่อจะทำอย่างนั้นได้พวกเขาต้องทิ้งความสะดวกสบายด้านวัตถุของโลกซาตานซึ่งพวกเขาก็เต็มใจทำ ที่จริง พวกเขาตั้งใจรับใช้พระยะโฮวาอย่างซื่อสัตย์ไม่ใช่เพราะอวสานใกล้เข้ามาแต่เพราะพวกเขารักพระยะโฮวาและพระเยซู พวกเขารักษาความซื่อสัตย์และไม่ยอมให้การผิดศีลธรรม วัตถุนิยม และน้ำใจที่เห็นแก่ตัวของโลกนี้มามีอิทธิพลต่อพวกเขา เหมือนกับหญิงพรหมจารีสุขุมที่เตรียมพร้อมและมีตะเกียงที่ติดไฟอยู่ในมือ ผู้ถูกเจิมให้ความสว่างของพวกเขาส่องแสงต่อ ๆ ไปโดยอดทนคอยอย่างซื่อสัตย์จนเจ้าบ่าวมาถึงแม้จะดูเหมือนมาช้าก็ตาม—ฟิลิป. 2:15

9. (ก) เป็นไปได้ไหมที่คริสเตียนผู้ถูกเจิมในทุกวันนี้จะ “หลับไป”? (ข) ผู้ถูกเจิมตื่นตัวต่อเสียงตะโกนว่า “เจ้าบ่าวมาแล้ว” อย่างไร? (ดูเชิงอรรถ)

9 หญิงพรหมจารีสุขุมพร้อมสำหรับการมาถึงของเจ้าบ่าวเพราะพวกเธอเฝ้าระวัง แต่ในตัวอย่างเปรียบเทียบหญิงพรหมจารีทุกคน “สัปหงกและหลับไป” ขณะที่กำลังคอยเจ้าบ่าวซึ่งดูเหมือนมาช้า เป็นไปได้ไหมที่คริสเตียนผู้ถูกเจิมในทุกวันนี้จะ “หลับไป” หรือเขวไปขณะที่คอยการมาของพระคริสต์? เป็นไปได้ เพราะพระเยซูรู้ว่าแม้คนที่มีความตั้งใจและกระตือรือร้นก็อาจอ่อนแอและเขวไปได้ขณะที่คอยการมาของท่าน ดังนั้น คริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ต้องพยายามให้มากขึ้นที่จะเฝ้าระวังอยู่เสมอ โดยวิธีใด? ในตัวอย่างเปรียบเทียบ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนว่า “เจ้าบ่าวมาแล้ว!” หญิงพรหมจารีทั้ง 10 คนก็รีบลุกขึ้นมาเตรียมตัว แต่มีแค่หญิงพรหมจารีสุขุมเท่านั้นที่เตรียมพร้อมและเฝ้าระวัง (มัด. 25:5, 6; 26:41) คล้ายกัน ในช่วงสมัยสุดท้าย คริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ก็ตื่นตัวต่อเสียงตะโกนว่า “เจ้าบ่าวมาแล้ว!” นั่นหมายถึงพวกเขาเห็นหลักฐานที่ชัดเจนว่าพระเยซูกำลังจะมา และพวกเขาก็พร้อมเมื่อท่านมาถึง * ให้เรามาพิจารณาตอนท้ายของตัวอย่างเปรียบเทียบนี้ซึ่งเน้นถึงช่วงเวลาที่เฉพาะเจาะจง

รางวัลสำหรับคนสุขุมและการลงโทษสำหรับคนโง่

10. อาจเกิดคำถามอะไรเกี่ยวกับเรื่องหญิงพรหมจารี 10 คน?

10 ในตอนท้ายของตัวอย่างเปรียบเทียบ หญิงพรหมจารีโง่ขอน้ำมันจากหญิงพรหมจารีสุขุม แต่หญิงพรหมจารีสุขุมไม่ยอมให้ (อ่านมัดธาย 25:8, 9) เมื่อไรที่คริสเตียนผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์จะไม่ยอมช่วยคนที่ต้องการความช่วยเหลือเหมือนกับตัวอย่างนี้? ก่อนอื่น เราต้องรู้ว่าตัวอย่างเปรียบเทียบนี้หมายถึงช่วงเวลาไหน บันทึกบอกว่าพระเยซูซึ่งก็คือเจ้าบ่าวมาพิพากษาตอนที่ความทุกข์ลำบากใหญ่ใกล้จะสิ้นสุด ดังนั้น ดูเหมือนว่าการขอน้ำมันในตัวอย่างเปรียบเทียบน่าจะเกิดขึ้นไม่นานก่อนความทุกข์ลำบากใหญ่สิ้นสุด ทำไมเราบอกอย่างนั้น? เพราะในตอนนั้นผู้ถูกเจิมได้รับการประทับตราขั้นสุดท้ายเรียบร้อยไปแล้ว

11. (ก) จะเกิดอะไรขึ้นก่อนความทุกข์ลำบากใหญ่เริ่มต้น? (ข) การที่หญิงพรหมจารีสุขุมบอกหญิงพรหมจารีโง่ว่าให้ไปซื้อน้ำมันเอง จริง ๆ แล้วหมายความว่าอย่างไร?

11 ดังนั้น ก่อน ความทุกข์ลำบากใหญ่เริ่มต้น ผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ทุกคนซึ่งยังอยู่บนโลกจะได้รับการประทับตราขั้นสุดท้ายเรียบร้อยแล้ว (วิ. 7:1-4) แต่ถ้าผู้ถูกเจิมไม่รักษาความซื่อสัตย์และไม่ได้เฝ้าระวังอยู่เสมอในช่วงหลายปีก่อนความทุกข์ลำบากใหญ่จะเริ่มต้นพวกเขาก็จะไม่ได้รับการประทับตราขั้นสุดท้าย แล้วจะมีการเจิมคริสเตียนที่ซื่อสัตย์คนอื่นเข้ามาแทน เมื่อความทุกข์ลำบากใหญ่เริ่มต้น คนที่เปรียบเหมือนกับหญิงพรหมจารีโง่อาจตกใจที่เห็นบาบิโลนใหญ่ถูกทำลาย ตอนนั้นแหละที่พวกเขารู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่พร้อมจะต้อนรับพระเยซู ในเวลานั้นจะเกิดอะไรขึ้นถ้าพวกเขาขอความช่วยเหลือ? คำตอบอยู่ในตัวอย่างเปรียบเทียบนี้ หญิงพรหมจารีสุขุมไม่ยอมให้น้ำมันกับหญิงพรหมจารีโง่ และบอกพวกเธอให้ไปหาซื้อน้ำมันเอง แต่ตอนนั้นเป็น “ตอนเที่ยงคืน” ซึ่งคงไม่มีใครตื่นมาขายน้ำมันให้พวกเธอ มันสายไปแล้ว!

12. (ก) ในช่วงความทุกข์ลำบากใหญ่จะเกิดอะไรขึ้นกับผู้ถูกเจิมที่กลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ก่อนการประทับตราขั้นสุดท้าย? (ข) จะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่เป็นเหมือนหญิงพรหมจารีโง่?

12 ในช่วงความทุกข์ลำบากใหญ่ ผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ไม่สามารถช่วยผู้ถูกเจิมที่กลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์ได้เพราะมันสายเกินไปแล้วสำหรับพวกเขา แล้วจะเกิดอะไรขึ้นกับคนที่ไม่ซื่อสัตย์? ขอสังเกตว่าเกิดอะไรขึ้นกับหญิงพรหมจารีโง่ที่ออกไปซื้อน้ำมัน ในตัวอย่างเปรียบเทียบบอกว่า “เจ้าบ่าวก็มาถึง และหญิงพรหมจารีที่อยู่พร้อมแล้วก็เข้าไปยังงานเลี้ยงสมรสกับท่าน แล้วประตูก็ปิด” คล้ายกัน เมื่อพระเยซูมาในฐานะที่มีเกียรติตอนที่ความทุกข์ลำบากใหญ่ใกล้จะสิ้นสุด ท่านจะรวบรวมผู้ถูกเจิมที่ซื่อสัตย์ให้ไปสวรรค์ (มัด. 24:31; 25:10; โย. 14:1-3; 1 เทส. 4:17) แต่พระเยซูจะปฏิเสธคนที่ไม่ซื่อสัตย์ และพวกเขาจะพูดเหมือนกับหญิงพรหมจารีโง่ว่า “ท่านเจ้าข้า ท่านเจ้าข้า ขอเปิดให้พวกข้าพเจ้าด้วยเถิด!” แต่พระเยซูจะตอบอย่างไร? น่าเศร้า พระเยซูจะบอกพวกเขาเหมือนกับที่ท่านจะบอกคนที่เป็นเหมือนแพะว่า “เราบอกเจ้าทั้งหลายตามจริงว่า เราไม่รู้จักพวกเจ้า”—มัด. 7:21-23; 25:11, 12

13. (ก) ทำไมเราไม่ควรสรุปว่าผู้ถูกเจิมหลายคนของพระคริสต์จะกลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์? (ข) ทำไมเราบอกได้ว่าตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูแสดงว่าท่านมั่นใจในตัวผู้ถูกเจิม? (ดูภาพแรก)

13 พระเยซูบอกไหมว่าจะมีผู้ถูกเจิมหลายคนกลายเป็นคนไม่ซื่อสัตย์จนต้องเลือกคนอื่นมาแทน? ไม่ใช่ ในมัดธายบท 24 เราอ่านว่าพระเยซูเตือนทาสสัตย์ซื่อและสุขุมไม่ให้กลายเป็นทาสชั่ว แต่ท่านก็ไม่ได้คาดหมายว่าทาสสัตย์ซื่อและสุขุมจะกลายเป็นทาสชั่ว คล้ายกัน ตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องหญิงพรหมจารี 10 คนก็เป็นคำเตือนด้วย ในตัวอย่างนี้มีหญิงพรหมจารี 5 คนที่เป็นคนโง่และอีก 5 คนเป็นคนสุขุม ดังนั้น คริสเตียนผู้ถูกเจิมแต่ละคนต้องเลือกที่จะอยู่พร้อมและเฝ้าระวัง ไม่อย่างนั้นเขาหรือเธออาจกลายเป็นคนโง่และไม่ซื่อสัตย์ เปาโลเองก็ให้คำเตือนที่คล้ายกันกับพี่น้องชายหญิงที่ถูกเจิม (อ่านฮีบรู 6:4-9; เทียบกับพระบัญญัติ 30:19) แม้เปาโลจะเตือนอย่างตรงไปตรงมาแต่เขาก็มั่นใจว่าพี่น้องชายหญิงของเขาจะได้รับรางวัล คำเตือนที่ได้จากตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องหญิงพรหมจารี 10 คนก็แสดงว่าพระเยซูมั่นใจในตัวผู้ถูกเจิมเช่นกัน พระเยซูมั่นใจว่าผู้ถูกเจิมแต่ละคนสามารถรักษาความซื่อสัตย์และจะได้รับรางวัลอันยอดเยี่ยมในสวรรค์!

“แกะอื่น”ของพระคริสต์จะได้รับประโยชน์อย่างไร?

14. ทำไม “แกะอื่น” ก็ได้รับประโยชน์จากเรื่องหญิงพรหมจารี 10 คนเหมือนกัน?

14 แม้ตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูจะมุ่งเน้นไปที่คริสเตียนผู้ถูกเจิม แต่ “แกะอื่น” ได้ประโยชน์จากตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซูด้วยไหม? (โย. 10:16) ใช่แล้ว! บทเรียนที่ได้จากตัวอย่างเปรียบเทียบก็คือต้อง “เฝ้าระวังอยู่เสมอ” ครั้งหนึ่งพระเยซูเคยบอกว่า “เราบอกพวกท่าน เราก็บอกคนทั้งปวง ด้วยว่า จงเฝ้าระวังอยู่เถิด” (มโก. 13:37, ฉบับคิงเจมส์ ) พระเยซูบอกสาวกทุกคนว่าต้องอยู่พร้อมและเฝ้าระวัง และคริสเตียนทุกคนสามารถเลียนแบบตัวอย่างที่ดีของผู้ถูกเจิมที่ให้งานรับใช้มาเป็นอันดับแรกในชีวิต ขอให้นึกถึงตอนที่หญิงพรหมจารีโง่ขอแบ่งน้ำมันจากหญิงพรหมจารีสุขุมแล้วถูกปฏิเสธ นั่นเตือนว่าเราแต่ละคนต้องรักษาความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า อยู่พร้อม และเฝ้าระวังด้วยตัวเองไม่มีใครทำสิ่งเหล่านี้แทนเราได้ เราแต่ละคนต้องให้การต่อพระเยซูคริสต์ผู้พิพากษาที่ยุติธรรมที่กำลังจะมาด้วยตัวเอง ดังนั้น เราต้องพร้อมเสมอ!

การที่หญิงพรหมจารีโง่ขอน้ำมันหญิงพรหมจารีสุขุมเตือนเราว่าเราต้องเฝ้าระวังและรักษาความซื่อสัตย์ต่อพระเจ้าด้วยตัวเองไม่มีใครทำสิ่งเหล่านี้แทนเราได้

15. ทำไมงานแต่งงานของพระคริสต์และเจ้าสาวของท่านทำให้คริสเตียนแท้ทุกคนตื่นเต้น?

15 คริสเตียนทุกคนรู้สึกตื่นเต้นกับงานแต่งงานที่พูดถึงในตัวอย่างเปรียบเทียบของพระเยซู ในอนาคตหลังสงครามอาร์มาเก็ดดอน คริสเตียนผู้ถูกเจิมจะกลายเป็นเจ้าสาวของพระคริสต์ (วิ. 19:7-9) ทุกคนที่อยู่บนโลกจะได้ประโยชน์จากการแต่งงานในสวรรค์ครั้งนี้ ทำไม? เพราะนั่นรับประกันว่าจะมีรัฐบาลที่ดีพร้อมสำหรับมนุษย์ทุกคน ไม่ว่าเราจะมีความหวังที่จะมีชีวิตตลอดไปในสวรรค์หรือบนโลก ขอให้เราเตรียมพร้อมและเฝ้าระวังอยู่เสมอ ถ้าเราทำอย่างนั้น เราจะมีความสุขกับอนาคตที่สดใสที่พระยะโฮวาได้เตรียมไว้เพื่อเรา!

^ วรรค 9 ตัวอย่างเปรียบเทียบในมัดธายบท 25 มีช่วงเวลาระหว่างการส่งเสียงตะโกนว่า “เจ้าบ่าวมาแล้ว!” (ข้อ 6) และการมาถึงของเจ้าบ่าว (ข้อ 10) ผู้ถูกเจิมยังคงเฝ้าระวังตลอดช่วงสมัยสุดท้าย พวกเขาเห็นสัญลักษณ์ของการประทับของพระเยซูจึงรู้ว่าท่านปกครองเป็นกษัตริย์ในราชอาณาจักรของพระเจ้าแล้ว ดังนั้น พวกเขายังคงต้องเฝ้าระวังต่อไปจนกว่าพระเยซูจะมาถึง