ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

พบการบรรเทาจากความสิ้นหวังเมื่อครั้งยังเยาว์

พบการบรรเทาจากความสิ้นหวังเมื่อครั้งยังเยาว์

พบ​การ​บรรเทา​จาก​ความ​สิ้น​หวัง​เมื่อ​ครั้ง​ยัง​เยาว์

เล่า​โดย เออูเซเบียว มอร์ซีโย

ใน​เดือน​กันยายน 1993 ผม​ไป​เยี่ยม​เรือน​จำ​ที่​เข้มงวด​เรื่อง​ความ​ปลอด​ภัย​สูง​สุด. เหตุ​ผล​ที่​ผม​ไป​ที่​นั่น​เพราะ​นัก​โทษ​คน​หนึ่ง​จะ​รับ​บัพติสมา ซึ่ง​ก็​คือ​มารีวี​น้อง​สาว​ของ​ผม​เอง. นัก​โทษ​บาง​คน​และ​เจ้าหน้าที่​เรือน​จำ​เฝ้า​สังเกตการณ์​ด้วย​ความ​นับถือ​ขณะ​ที่​ผม ดำเนิน​พิธี​การ. ก่อน​ที่​ผม​จะ​อธิบาย​ว่า​น้อง​สาว​และ​ผม​อยู่​ที่​นั่น​ได้​อย่าง​ไร ผม​ขอ​เล่า​ชีวิต​วัย​เด็ก​ของ​พวก​เรา.

ผม​เกิด​ใน​สเปน​เมื่อ​วัน​ที่ 5 พฤษภาคม 1954 เป็น​ลูก​คน​โต​ใน​จำนวน​ลูก​ทั้ง​หมด​แปด​คน. มารีวี​เป็น​คน​ที่​สาม. คุณ​ยาย​ได้​เลี้ยง​ดู​เรา​ให้​เป็น​คาทอลิก​ที่​เคร่งครัด และ​ผม​มี​ความ​ทรง​จำ​ดี ๆ ใน​วัย​เด็ก​เกี่ยว​กับ​ความ​รู้สึก​เลื่อมใส​ใน​พระเจ้า​ตอน​ที่​อยู่​กับ​คุณ​ยาย. แต่​สภาพ​แวด​ล้อม​ใน​บ้าน​ของ​พ่อ​แม่​กลับ​ห่าง​ไกล​จาก​เรื่อง​พระเจ้า. คุณ​พ่อ​มัก​ทุบ​ตี​แม่​และ​ลูก ๆ เป็น​ประจำ. ความ​กลัว​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ใน​ชีวิต​เรา และ​ผม​รู้สึก​ปวด​ร้าว​มาก​ที่​เห็น​แม่​ต้อง​ทน​ทุกข์.

ที่​โรง​เรียน ผม​พบ​สภาพ​ที่​น่า​ผิด​หวัง​อื่น ๆ อีก. ครู​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​เป็น​บาทหลวง​ได้​จับ​ศีรษะ​พวก​เรา​กระแทก​กำแพง​ถ้า​เรา​ตอบ​คำ​ถาม​ไม่​ถูก. บาทหลวง​อีก​คน​หนึ่ง​ละเมิด​ทาง​เพศ​กับ​นัก​เรียน​ขณะ​ที่​ตรวจ​การ​บ้าน​กับ​พวก​เขา. ยิ่ง​กว่า​นั้น คำ​สอน​คาทอลิก เช่น ไฟ​นรก ทำ​ให้​ผม​สับสน​และ​หวาด​กลัว. ไม่​นาน​ผม​ก็​เริ่ม​ละ​ทิ้ง​ความ​ศรัทธา​ใน​พระเจ้า.

ติด​กับดัก​ชีวิต​ที่​ไร้​ความ​หมาย

โดย​ที่​ไม่​มี​การ​ชี้​นำ​ใน​เรื่อง​พระเจ้า ผม​ก็​เริ่ม​ใช้​เวลา​กับ​คน​ที่​ผิด​ศีลธรรม พวก​นักเลง​ที่​ดิสโกเทก. บ่อย​ครั้ง​เกิด​การ​ต่อ​สู้​โดย​ใช้​มีด, โซ่, แก้ว, และ​ม้า​นั่ง​เป็น​อาวุธ. แม้​ว่า​ผม​ไม่​ได้​ตั้งใจ​เข้า​ร่วม​ใน​การ​ต่อ​สู้ แต่​ครั้ง​หนึ่ง​ผม​ก็​ถูก​ตี​จน​หมด​สติ.

ต่อ​มา ผม​รู้สึก​เบื่อ​บรรยากาศ​แบบ​นั้น​และ​เปลี่ยน​มา​เป็น​ดิสโกเทก​ที่​เงียบ​กว่า. แม้​ใน​ที่​เหล่า​นั้น ยา​เสพ​ติด​เป็น​เรื่อง​ปกติ. แต่​แทน​ที่​จะ​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข​และ​ใจ​สงบ ยา​เสพ​ติด​กลับ​ทำ​ให้​ผม​มี​อาการ​หลอน​และ​กังวล.

แม้​ว่า​ผม​จะ​ไม่​มี​ความ​พึง​พอ​ใจ ผม​ก็​ยัง​ชักจูง​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง​คือ โฮเซ ลูอิส และ​เพื่อน​สนิท​ชื่อ มีเกล ให้​มา​ใช้​ชีวิต​ใน​รูป​แบบ​เดียว​กัน. เรา​เข้า​ไป​ติด​กับ​ใน​โลก​ที่​ชั่ว​ช้า​พร้อม​กับ​เยาวชน​อื่น ๆ จำนวน​มาก​ใน​สเปน​เวลา​นั้น. ผม​ยอม​ทำ​แทบ​จะ​ทุก​อย่าง​เพื่อ​ให้​ได้​เงิน​ซื้อ​ยา​เสพ​ติด. ผม​สูญ​เสีย​ศักดิ์ศรี​ทั้ง​หมด​ที่​เคย​มี.

พระ​ยะโฮวา​ทรง​เข้า​มา​ช่วยเหลือ

ระหว่าง​ช่วง​นี้ ผม​พูด​หลาย​ครั้ง​กับ​เพื่อน ๆ ใน​เรื่อง​ที่​ว่า​มี​พระเจ้า​จริง​ไหม​และ​เรื่อง​ความ​หมาย​ของ​ชีวิต. ผม​เริ่ม​แสวง​หา​พระเจ้า​โดย​มอง​หา​บาง​คน​ที่​ผม​จะ​ระบาย​ความ​รู้สึก​ของ​ผม​ได้. ผม​สังเกต​ว่า ฟรันซิสโก เพื่อน​ร่วม​งาน​คน​หนึ่ง​ดู​แตกต่าง​จาก​คน​อื่น. ดู​เหมือน​ว่า​เขา​มี​ความ​สุข, ซื่อ​สัตย์, และ​ใจ​ดี ผม​จึง​ตัดสิน​ใจ​คุย​กับ​เขา​อย่าง​เปิด​อก. ฟรันซิสโก​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา​คน​หนึ่ง เขา​ได้​ให้​วารสาร​หอสังเกตการณ์ ฉบับ​หนึ่ง​ที่​มี​บทความ​เกี่ยว​กับ​ยา​เสพ​ติด.

หลัง​จาก​อ่าน​บทความ​นั้น ผม​อธิษฐาน​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​พระเจ้า​ว่า “พระ​เป็น​เจ้า ข้าพเจ้า​ทราบ​ว่า​พระองค์​ทรง​ดำรง​อยู่ ข้าพเจ้า​ต้องการ​รู้​จัก​พระองค์​และ​ทำ​ตาม​ที่​พระองค์​ประสงค์. ขอ​ทรง​โปรด​ช่วย​ข้าพเจ้า​ด้วย!” ฟรันซิสโก​และ​พยาน​คน​อื่น ๆ ได้​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​เพื่อ​ให้​กำลังใจ​ผม​และ​ได้​มอบ​หนังสือ​ต่าง ๆ ที่​อธิบาย​พระ​คัมภีร์​ให้​อ่าน. ผม​ได้​มา​ตระหนัก​ว่า​พวก​เขา​กำลัง​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​ตาม​ที่​ผม​ได้​ทูล​ขอ​จาก​พระเจ้า. ไม่​นาน ผม​ก็​เริ่ม​บอก​เพื่อน ๆ และ​โฮเซ ลูอิส เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​ผม​ได้​เรียน​รู้.

วัน​หนึ่ง เมื่อ​ผม​เดิน​ออก​จาก​การ​แสดง​คอนเสิร์ต​ร็อก​กับ​เพื่อน​บาง​คน ผม​ได้​แยก​ตัว​ออก​จาก​กลุ่ม. ผม​มอง​ดู​พวก​เขา​อยู่​ห่าง ๆ ฐานะ​ผู้​สังเกตการณ์ และ​ผม​รู้สึก​ได้​ทันที​ว่า​ความ​ประพฤติ​ที่​น่า​รังเกียจ​ของ​เรา​นั้น​เป็น​เพราะ​อิทธิพล​ยา​เสพ​ติด. ใน​เวลา​นั้น​เอง ผม​ได้​ตัดสิน​ใจ​บอก​ปัด​แนว​ชีวิต​แบบ​นั้น​และ​เข้า​มา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

ผม​ขอ​พระ​คัมภีร์​เล่ม​หนึ่ง​จาก​ฟรันซิสโก ซึ่ง​เขา​ได้​ให้​ผม​พร้อม​กับ​หนังสือ​ความ​จริง​ซึ่ง​นำ​ไป​สู่​ชีวิต​ถาวร. * เมื่อ​ผม​อ่าน​เกี่ยว​กับ​คำ​สัญญา​ของ​พระเจ้า​ที่​จะ​เช็ด​น้ำตา​ทุก ๆ หยด​และ​ที่​จะ​ขจัด​แม้​กระทั่ง​ความ​ตาย ผม​ไม่​สงสัย​ว่า​ผม​ได้​พบ​ความ​จริง​ที่​สามารถ​ทำ​ให้​มนุษยชาติ​เป็น​อิสระ. (โยฮัน 8:32; วิวรณ์ 21:4) ต่อ​มา ผม​ได้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ความ​เป็น​มิตร​และ​ความ​อบอุ่น​ที่​ผม​ได้​รับ​เป็น​สิ่ง​ที่​ประทับใจ​ผม​มาก.

ด้วย​ความ​กระตือรือร้น​ที่​จะ​บอก​คน​อื่น​เกี่ยว​กับ​ประสบการณ์​ของ​ผม​ที่​ได้​รับ​จาก​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร ผม​จึง​เรียก​โฮเซ ลูอิส และ​เพื่อน ๆ ให้​มา​พบ​กัน​ทันที​และ​เล่า​เรื่อง​ทั้ง​หมด​ให้​พวก​เขา​ฟัง. หลัง​จาก​นั้น​ไม่​กี่​วัน เรา​ทุก​คน​ก็​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม. หญิง​สาว​คน​หนึ่ง​นั่ง​แถว​ข้าง​หน้า​เรา​และ​ชำเลือง​ดู​เรา. เห็น​ได้​ชัด​ว่า​เธอ​ตกใจ​ที่​เห็น​พวก​ฮิปปี้​ผม​ยาว​กลุ่ม​นี้ และ​เธอ​ระวัง​ที่​จะ​ไม่​หัน​มา​มอง​อีก. เธอ​คง​แปลก​ใจ​เมื่อ​เรา​กลับ​ไป​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​ใน​สัปดาห์​ถัด​ไป เพราะ​ครั้ง​นี้​เรา​สวม​เสื้อ​นอก​และ​ผูก​เนกไท.

หลัง​จาก​นั้น​ไม่​นาน ผม​กับ​มีเกล​ยัง​ได้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​หมวด​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ด้วย. เรา​ไม่​เคย​ประสบ​กับ​อะไร​แบบ​นั้น​มา​ก่อน นั่น​คือ มี​ความ​เป็น​พี่​น้อง​ที่​แท้​จริง​ระหว่าง​คน​ทุก​วัย. ที่​ทำ​ให้​ประหลาด​ใจ​มาก​ก็​คือ​การ​ประชุม​ได้​จัด​ขึ้น​ที่​โรง​ละคร​เดียว​กัน​กับ​ที่​เรา​เพิ่ง​เข้า​ชม​การ​แสดง​คอนเสิร์ต​ร็อก. แต่​ครั้ง​นี้ บรรยากาศ​และ​ดนตรี​ที่​ได้​ยิน​ทำ​ให้​เรา​รู้สึก​เบิกบาน.

พวก​เรา​ทั้ง​กลุ่ม​เริ่ม​ศึกษา​พระ​คัมภีร์. ประมาณ​แปด​เดือน​ต่อ​มา​ใน​วัน​ที่ 26 กรกฎาคม 1974 ผม​กับ​มีเกล​ก็​รับ​บัพติสมา. เรา​ทั้ง​สอง​อายุ 20 ปี. อีก​สี่​คน​ใน​กลุ่ม​ของ​เรา​รับ​บัพติสมา​ไม่​กี่​เดือน​ถัด​มา. การ​อบรม​โดย​ใช้​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​ผม​ได้​รับ​กระตุ้น​ผม​ให้​ช่วย​แม่​ของ​ผม​ผู้​มี​ความ​อด​ทน​ทำ​งาน​บ้าน​มา​นาน​รวม​ทั้ง​บอก​เล่า​ความ​เชื่อ​ที่​ผม​เพิ่ง​ประสบ​ให้​กับ​ท่าน. เรา​จึง​สนิท​กัน​มาก​ขึ้น. ผม​ยัง​สละ​เวลา​ไม่​น้อย​เพื่อ​ช่วย​น้อง ๆ ทั้ง​น้อง​ชาย​และ​น้อง​สาว.

ใน​เวลา​ต่อ​มา แม่​และ​น้อง​ทุก​คน ยก​เว้น​น้อง​ชาย​คน​หนึ่ง ได้​เรียน​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​ได้​รับ​บัพติสมา​ใน​ฐานะ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ใน​ปี 1977 ผม​ได้​แต่งงาน​กับ​โซเลดัด. เธอ​เป็น​หญิง​สาว​ที่​มอง​เรา​ด้วย​ความ​แปลก​ใจ​เมื่อ​เรา​ไป​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​เป็น​ครั้ง​แรก. ภาย​ใน​เวลา​ไม่​กี่​เดือน เรา​ทั้ง​สอง​ได้​เป็น​ไพโอเนียร์ ซึ่ง​เป็น​ชื่อ​ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เรียก​ผู้​ประกาศ​ข่าว​ดี​เต็ม​เวลา.

ผู้​เป็น​ที่​รัก​พ้น​ทุกข์

มารีวี​น้อง​สาว​ของ​ผม​ถูก​ทำ​ร้าย​ทาง​เพศ​เมื่อ​ยัง​เด็ก​และ​ความ​หลัง​ที่​น่า​กลัว​นั้น​ส่ง​ผล​กระทบ​ต่อ​เธอ​อย่าง​มาก. เมื่อ​เป็น​วัยรุ่น เธอ​เริ่ม​ใช้​ชีวิต​ที่​ผิด​ศีลธรรม​ซึ่ง​พัวพัน​กับ​ยา​เสพ​ติด, การ​ลัก​ขโมย, และ​การ​เป็น​โสเภณี. เมื่อ​อายุ​ได้ 23 ปี เธอ​ถูก​ส่ง​เข้า​เรือน​จำ ซึ่ง​ที่​นั่น​เธอ​ยัง​คง​ใช้​ชีวิต​ที่​เสเพล​ต่อ​ไป.

ช่วง​นั้น ผม​กำลัง​รับใช้​ใน​ฐานะ​ผู้​ดู​แล​หมวด​หรือ​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา. ใน​ปี 1989 ผม​และ​โซเลดัด​ได้​รับ​มอบหมาย​ให้​ทำ​งาน​ใน​เขต​ที่​มารีวี​ถูก​คุม​ขัง. เจ้าหน้าที่​เพิ่ง​พราก​ลูก​ชาย​ไป​จาก​เธอ ทำ​ให้​เธอ​ท้อ​แท้​หมด​หวัง​และ​ไม่​ต้องการ​มี​ชีวิต​อยู่​ต่อ​ไป. วัน​หนึ่ง​ผม​ไป​เยี่ยม​เธอ​และ​เสนอ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​เธอ เธอ​ตอบ​ตก​ลง. หลัง​จาก​ที่​ศึกษา​เป็น​เวลา​หนึ่ง​เดือน เธอ​ได้​เลิก​ยา​เสพ​ติด​และ​ยาสูบ. ผม​ตื่นเต้น​ที่​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ได้​ประทาน​กำลัง​ให้​เธอ​ทำ​การ​เปลี่ยน​แปลง​เหล่า​นี้​ใน​ชีวิต.—ฮีบรู 4:12.

ไม่​นาน​หลัง​จาก​เริ่ม​การ​ศึกษา มารีวี​ได้​เริ่ม​พูด​ถึง​ความ​จริง​ใน​พระ​คัมภีร์​กับ​เพื่อน​ที่​ถูก​คุม​ขัง​รวม​ทั้ง​เจ้าหน้าที่​ใน​เรือน​จำ. แม้​ว่า​เธอ​ถูก​ย้าย​จาก​เรือน​จำ​หนึ่ง​ไป​ยัง​อีก​แห่ง​หนึ่ง เธอ​ก็​ยัง​เอา​ใจ​ใส่​กิจกรรม​การ​ประกาศ​ต่อ​ไป. ใน​เรือน​จำ​หนึ่ง​เธอ​ถึง​กับ​ให้​คำ​พยาน​ตาม​ห้อง​ขัง​แต่​ละ​ห้อง. เป็น​เวลา​หลาย​ปี มารีวี​เริ่ม​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​นัก​โทษ​หลาย​คน​ใน​เรือน​จำ​ต่าง ๆ.

วัน​หนึ่ง มารีวี​บอก​ผม​ว่า​เธอ​ต้องการ​จะ​อุทิศ​ชีวิต​ให้​กับ​พระ​ยะโฮวา​และ​ต้องการ​รับ​บัพติสมา. แต่​เธอ​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​ออก​จาก​เรือน​จำ หรือ​คน​อื่น ๆ ก็​ไม่​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​เข้า​ไป​ข้าง​ใน​เพื่อ​ให้​บัพติสมา​เธอ​ได้. เธอ​อด​ทน​เป็น​เวลา​อีก​สี่​ปี​กับ​สภาพ​ที่​เสื่อม​ทราม​ใน​เรือน​จำ​แห่ง​นั้น. อะไร​ช่วย​เธอ​ให้​ยึด​มั่น​กับ​ความ​เชื่อ? ใน​เวลา​เดียว​กับ​ที่​ประชาคม​ท้องถิ่น​จัด​การ​ประชุม เธอ​ก็​จะ​ทบทวน​ระเบียบ​วาระ​เดียว​กัน​ใน​ห้อง​ขัง. เธอ​ยัง​มี​ตาราง​เป็น​ประจำ​สำหรับ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​เป็น​ส่วน​ตัว​รวม​ทั้ง​การ​อธิษฐาน.

ต่อ​มา มารีวี​ถูก​ย้าย​ไป​ยัง​เรือน​จำ​ที่​มี​มาตรการ​ความ​ปลอด​ภัย​สูง​ซึ่ง​มี​สระ​ว่าย​น้ำ. เธอ​รู้สึก​ว่า​สภาพ​แวด​ล้อม​ใหม่​เหล่า​นี้​อาจ​จะ​ทำ​ให้​การ​รับ​บัพติสมา​เป็น​ไป​ได้. และ​ก็​เป็น​อย่าง​นั้น เพราะ​ใน​ที่​สุด มารีวี​ก็​ได้​รับ​อนุญาต. ด้วย​เหตุ​นี้​ผม​จึง​สามารถ​ให้​คำ​บรรยาย​บัพติสมา​แก่​เธอ​ได้. ผม​ได้​อยู่​กับ​มารีวี​ใน​เวลา​ที่​สำคัญ​ที่​สุด​แห่ง​ชีวิต​ของ​เธอ.

เนื่อง​จาก​รูป​แบบ​ชีวิต​ใน​อดีต มารีวี​จึง​เป็น​โรค​เอดส์. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ความ​ประพฤติ​ที่​ดี​ของ​เธอ​ทำ​ให้​เธอ​ได้​รับ​การ​ปล่อย​จาก​เรือน​จำ​ก่อน​กำหนด​ใน​เดือน​มีนาคม 1994. เธอ​ได้​อาศัย​อยู่​กับ​คุณ​แม่​ที่​บ้าน​และ​ใช้​ชีวิต​ใน​ฐานะ​คริสเตียน​ที่​เอา​การ​เอา​งาน​จน​กระทั่ง​เสีย​ชีวิต​ใน​สอง​ปี​ต่อ​มา.

การ​เอา​ชนะ​ความ​รู้สึก​ที่​บ่อน​ทำลาย

ผม​เอง​ก็​ไม่​ได้​หลุด​พ้น​อย่าง​สิ้นเชิง​จาก​ผล​ของ​การ​ใช้​ชีวิต​ใน​อดีต​ของ​ผม. การ​ทำ​ร้าย​ร่าง​กาย​ที่​เกิด​จาก​น้ำ​มือ​ของ​พ่อ​รวม​ทั้ง​รูป​แบบ​ชีวิต​ตอน​เป็น​วัยรุ่น​มี​ผล​กระทบ​ต่อ​บุคลิก​ของ​ผม. เมื่อ​เป็น​ผู้​ใหญ่ บ่อย​ครั้ง​ผม​หดหู่​ด้วย​ความ​รู้สึก​ผิด​และ​การ​ขาด​ความ​นับถือ​ตัว​เอง. บาง​ครั้ง​ผม​อยู่​ใน​สภาพ​ที่​ท้อ​แท้​ใจ​อย่าง​มาก. กระนั้น พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​มี​ค่า​ยิ่ง​ที่​ช่วย​ผม​ให้​ต่อ​สู้​กับ​ความ​รู้สึก​ที่​รบกวน​เหล่า​นี้. การ​ใคร่ครวญ​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​เล่า​กับ​ข้อ​คัมภีร์ เช่น ยะซายา 1:18 และ บทเพลง​สรรเสริญ 103:8-13 ได้​ช่วย​ผม​เป็น​เวลา​หลาย​ปี​ให้​เอา​ชนะ​การ​หวน​คิด​ถึง​ความ​รู้สึก​ผิด.

การ​อธิษฐาน​เป็น​อาวุธ​ฝ่าย​วิญญาณ​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ประทาน​ให้​ผม​ใช้​ต่อ​สู้​กับ​ความ​รู้สึก​ไร้​ค่า. บ่อย​ครั้ง​ผม​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​น้ำตา​เอ่อ​ล้น. อย่าง​ไร​ก็​ตาม ถ้อย​คำ​ที่​มี​บันทึก​ใน 1 โยฮัน 3:19, 20 เสริม​กำลัง​ผม​ดัง​นี้: “โดย​วิธี​นี้ เรา​รู้​ว่า​เรา​อยู่​ฝ่าย​ความ​จริง และ​เรา​มั่น​ใจ​ใน​ความ​รัก​ของ​พระองค์ ไม่​ว่า​ใจ​เรา​จะ​กล่าว​โทษ​ตน​เอง​อย่าง​ไร เพราะ​พระเจ้า​ทรง​เป็น​ใหญ่​กว่า​ใจ​เรา​และ​ทรง​รู้​ทุก​สิ่ง.”

เนื่อง​จาก​ผม​เข้า​หา​พระเจ้า​อย่าง​จริง​ใจ​ด้วย​หัวใจ​ที่ “แตก​และ​ฟก​ช้ำ” ผม​จึง​ตระหนัก​ว่า​ผม​เอง​ไม่​ได้​เลว​ร้าย​ดัง​ที่​เคย​คิด. คัมภีร์​ไบเบิล​รับรอง​ทุก​คน​ที่​แสวง​หา​พระ​ยะโฮวา​ว่า​พระองค์​ไม่​ทรง​ดูถูก​คน​ที่​เสียใจ​อย่าง​จริง​ใจ​ต่อ​ความ​ประพฤติ​ของ​ตน​ใน​อดีต​และ​ได้​หัน​กลับ​มา​ทำ​ตาม​น้ำ​พระทัย​ของ​พระองค์.—บทเพลง​สรรเสริญ 51:17.

เมื่อ​ไร​ก็​ตาม​ที่​เกิด​ความ​รู้สึก​ข้อง​ใจ ผม​พยายาม​ป้อน​จิตใจ​ด้วย​แง่​คิด​ที่​ดี​ตาม​ที่​กล่าว​ไว้​ใน​ฟิลิปปอย 4:8. ผม​จด​จำ​บทเพลง​สรรเสริญ​บท 23 และ​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา. เมื่อ​ความ​คิด​ใน​แง่​ลบ​เกิด​ขึ้น ผม​จะ​ท่อง​ข้อ​ความ​ที่​มี​อยู่​ใน​ข้อ​คัมภีร์​เหล่า​นี้. การ​กำจัด​ความ​คิด​ใน​แง่​ลบ​นี้​เป็น​ประโยชน์​มาก​โดย​เฉพาะ​ระหว่าง​คืน​ที่​นอน​ไม่​หลับ.

อีก​แหล่ง​หนึ่ง​ของ​ความ​ช่วยเหลือ​คือ​คำ​ชมเชย​ที่​ผม​ได้​รับ​จาก​ภรรยา​และ​คริสเตียน​คน​อื่น ๆ ที่​อาวุโส. แม้​ว่า​ใน​ตอน​แรก ผม​รู้สึก​ว่า​ลำบาก​ที่​จะ​ตอบรับ​คำ​พูด​ที่​ให้​กำลังใจ​ของ​พวก​เขา แต่​พระ​คัมภีร์​ช่วย​ผม​ให้​เข้าใจ​ว่า​ความ​รัก “เชื่อ​ทุก​สิ่ง.” (1 โครินท์ 13:7) และ​แน่นอน ผม​ได้​เรียน​รู้​ที​ละ​เล็ก​ที​ละ​น้อย​อย่าง​ถ่อม​ตัว​ที่​จะ​ยอม​รับ​ความ​อ่อนแอ​และ​ข้อ​จำกัด​ของ​ผม.

ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง การ​ที่​ผม​ต่อ​สู้​กับ​ความ​รู้สึก​ใน​แง่​ลบ​ได้​ช่วย​ผม​ให้​เป็น​ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง​ที่​เห็น​อก​เห็น​ใจ. ผม​และ​ภรรยา​ต่าง​ได้​ใช้​เวลา​เกือบ 30 ปี​ใน​ฐานะ​ผู้​เผยแพร่​ข่าว​ดี​เต็ม​เวลา. ความ​ยินดี​ที่​ผม​ได้​รับ​จาก​การ​รับใช้​คน​อื่น​ช่วย​ให้​ความ​รู้สึก​ใน​แง่​ลบ​และ​ความ​ทรง​จำ​เกี่ยว​กับ​ประสบการณ์​อัน​น่า​รังเกียจ​ค่อย ๆ ลบ​เลือน​ไป.

ตอน​นี้​เมื่อ​ผม​มอง​ย้อน​หลัง​และ​คิด​ถึง​พระ​พร​ต่าง ๆ ที่​พระ​ยะโฮวา​ประทาน​ให้ ผม​รู้สึก​ถูก​กระตุ้น​ใจ​ที่​จะ​กล่าว​เช่น​เดียว​กับ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ว่า “จง​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา . . . ผู้​ทรง​โปรด​ยก​ความ​ผิด​ทั้ง​หมด​ของ​เจ้า; ผู้​ทรง​รักษา​บรรดา​โรค​ของ​เจ้า​ให้​หาย; ผู้​ทรง​ไถ่​ชีวิต​ของ​เจ้า​ให้​พ้น​จาก​หลุม​ฝัง​ศพ; ผู้​ทรง​ครอบ​พระ​เมตตา​และ​พระ​กรุณาคุณ​อัน​อ่อน​ละมุน​ให้​เป็น​มงกุฎ​เจ้า.”—บทเพลง​สรรเสริญ 103:1-4.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 14 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา​แต่​เดี๋ยว​นี้​ไม่​พิมพ์​แล้ว.

[คำ​โปรย​หน้า 30]

บ่อย​ครั้ง​ผม​หดหู่​ด้วย​ความ​รู้สึก​ผิด​และ การ​ขาด​ความ​นับถือ​ตัว​เอง กระนั้น พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เป็น​สิ่ง​มี​ค่า​ยิ่ง​ที่​ช่วย​ผม​ให้​ต่อ​สู้​กับ​ความ​รู้สึก​ที่​รบกวน​เหล่า​นี้

[ภาพ​หน้า 27]

โฮเซ ลูอิส​น้อง​ชาย​และ​มีเกล​เพื่อน​ผม ทั้ง​สอง​คน ติด​ตาม​ตัว​อย่าง​ที่​เลว​และ​ดี​ของ​ผม

[ภาพ​หน้า 28, 29]

ครอบครัว​มอร์ซีโย​ใน​ปี 1973

[ภาพ​หน้า 29]

มารีวี​ใน​ฐานะ​นัก​โทษ

[ภาพ​หน้า 30]

กับ​โซเลดัด ภรรยา​ผม