ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

ความยินดีตลอดชีวิตของผมในการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า

ความยินดีตลอดชีวิตของผมในการทำตามพระประสงค์ของพระเจ้า

ความ​ยินดี​ตลอด​ชีวิต​ของ​ผม​ใน​การ​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า

เล่า​โดย บิลล์ ยาเรมชัก

ใน​เดือน​มีนาคม 1947 เพียง​สอง​สาม​สัปดาห์​ภาย​หลัง​จบ​หลัก​สูตร​อบรม​มิชชันนารี​รุ่น​ที่​แปด​ของ​โรงเรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด ซึ่ง​สมัย​นั้น​ตั้ง​อยู่​ที่​เซาท์แลนซิง รัฐ​นิวยอร์ก สหรัฐ​อเมริกา ผม​กำลัง​อยู่​ใน​ระหว่าง​การ​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​เขต​มอบหมาย​ต่าง​แดน—สิงคโปร์ แดน​ไกล​นั่น​เอง.

เดฟ ฟาร์เมอร์ เพื่อน​ชาว​แคนาดา​ซึ่ง​จบ​หลัก​สูตร​โรง​เรียน​กิเลียด​รุ่น​ที่​เจ็ด​จะ​ร่วม​ทำ​งาน​ด้วย​กัน​กับ​ผม. เรา​ลง​เรือ​มารีนแอดเดอร์ ซึ่ง​ใน​อดีต​เคย​เป็น​เรือ​ลำเลียง​ทหาร เดิน​ทาง​จาก​ซานฟรานซิสโก รัฐ​แคลิฟอร์เนีย.

ท่า​เรือ​ใน​ประเทศ​ทาง​ตะวัน​ออก​แห่ง​แรก​ที่​เรือ​เข้า​จอด​ได้​แก่​ฮ่องกง. สิ่ง​ที่​เรา​พบ​เห็น​ที่​นั่น​ทำ​ให้​เรา​ถึง​กับ​ตกตะลึง. ความ​เสียหาย​อัน​เป็น​ผล​ของ​สงคราม​โลก​ครั้ง​ที่ 2 มี​อยู่​ทั่ว​ทุก​แห่ง—ผู้​คน​นอน​ตาม​ทาง​เดิน อดอยาก​และ​ส่อ​อาการ​ใกล้​ตาย. เรา​รีบ​กลับ​มา​ที่​เรือ​และ​ออก​จาก​ท่า​มุ่ง​สู่​กรุง​มะนิลา เมือง​หลวง​ของ​ฟิลิปปินส์.

ที่​มะนิลา​ก็​เช่น​เดียว​กัน เรา​มอง​เห็น​ผล​เสียหาย​อัน​ร้ายกาจ​ของ​สงคราม. ท่า​เรือ​ระเกะระกะ​ไป​ด้วย​เสา​กระโดง​ที่​จม​อยู่​เนื่อง​จาก​ถูก​ทำลาย​โดย​เครื่องบิน​ทิ้ง​ระเบิด​ของ​ฝ่าย​พันธมิตร มี​ความ​ขัดสน​ข้นแค้น​อยู่​รอบ​ตัว​เรา. พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​กี่​คน​ได้​มา​รับ​เรา​ไป​ที่​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร. พวก​เขา​ร่าเริง​ทั้ง ๆ ที่​เผชิญ​ปัญหา​มาก​มาย.

จาก​นั้น เรือ​ของ​เรา​แวะ​ที่​ท่า​เมือง​ปัตตาเวีย (ปัจจุบัน​คือ​จาการ์ตา) ใน​อินโดนีเซีย. สงคราม​กลาง​เมือง​กำลัง​ดุเดือด​และ​การ​สู้​รบ​ก็​อยู่​ไม่​ไกล ดัง​นั้น เขา​จึง​ไม่​อนุญาต​ให้​เรา​ขึ้น​ฝั่ง. ขณะ​เรือ​ออก​จาก​ท่า​จะ​ไป​สิงคโปร์ ผม​เริ่ม​สงสัย​ว่า​จะ​มี​อะไร​รอ​อยู่​ที่​นั่น. นี่​หรือ​คือ​สิ่ง​ที่​ยัง​หลง​เหลือ​อยู่​ใน​ดินแดน​แถบ​ตะวัน​ออก​อัน​สวย​งาม​ตาม​ที่​เรา​เคย​ได้​อ่าน​ใน​หนังสือ​การ​ท่อง​เที่ยว?

ชั่ว​เวลา​สอง​สาม​วัน ความ​หวั่น​หวาด​ของ​ผม​ก็​หมด​สิ้น. เรื่อง​ราว​น่า​ทึ่ง​กำลัง​คลี่คลาย​ซึ่ง​จะ​พิสูจน์​อย่าง​ปราศจาก​ข้อ​สงสัย​ใด ๆ ว่า​เดฟ​กับ​ผม​อยู่​ใน​งาน​มอบหมาย​ที่​พระเจ้า​พอ​พระทัย​ให้​ทำ.

วิธี​ที่​เรา​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​พำนัก​ใน​ประเทศ

ประมาณ​หนึ่ง​เดือน​ภาย​หลัง​ออก​เดิน​ทาง​จาก​ซานฟรานซิสโก​มา​แล้ว ใน​ที่​สุด​เรือ​ได้​เข้า​เทียบ​ท่า​ที่​เกาะ​เซนต์จอห์น ด่าน​กัก​กัน​โรค​ติด​ต่อ​ของ​สิงคโปร์. เจ้าหน้าที่​กอง​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง​ขึ้น​มา​บน​เรือ​เพื่อ​ตรวจ​ผู้​โดยสาร​ตาม​ขั้น​ตอน​ของ​กฎหมาย และ​หนังสือ​เดิน​ทาง​ของ​เรา​ถูก​ประทับ​ตรา “อนุญาต​ให้​ขึ้น​ฝั่ง.” เช้า​วัน​รุ่ง​ขึ้น เรือ​ก็​เข้า​เทียบ​ท่า. เรา​ขึ้น​ฝั่ง​หลัง​จาก​พนักงาน​ประจำ​เรือ​ได้​ตรวจ​เอกสาร​ของ​เรา​เป็น​ที่​เรียบร้อย​แล้ว.

วัน​รุ่ง​ขึ้น เรา​กลับ​ไป​ที่​ท่า​เรือ​เพื่อ​บอก​ลา​เพื่อน​มิชชันนารี​ที่​ร่วม​เดิน​ทาง​มา​ด้วย​กัน. พวก​เขา​จะ​เดิน​ทาง​ต่อ​ไป​ยัง​ประเทศ​อินเดีย​และ​เกาะ​ลัง​กา (เดี๋ยว​นี้​เรียก​ศรีลังกา). เมื่อ​กัปตัน​เรือ​เห็น​พวก​เรา เขา​ได้​ลง​มา​ที่​ท่า​เทียบ​และ​เผชิญ​หน้า​พวก​เรา. เขา​โกรธ​มาก​พร้อม​กับ​ตะโกน​ว่า​เรา​ไม่​มี​สิทธิ์​จะ​ออก​จาก​เรือ. ก่อน​หน้า​นี้ ขณะ​อยู่​กลาง​ทะเล นาย​แฮกซ์เวิร์ท​หัวหน้า​กอง​ตรวจ​คน​เข้า​เมือง​ได้​สั่ง​กัปตัน​มิ​ให้​ปล่อย​พวก​เรา​ออก​จาก​เรือ​เมื่อ​เรือ​ไป​ถึง​สิงคโปร์. เรา​ไม่​รู้​คำ​สั่ง เช่น​เดียว​กัน​กับ​เจ้าหน้าที่​ซึ่ง​ปล่อย​ให้​เรา​ออก​จาก​เรือ.

เมื่อ​พวก​เรา​ถูก​นำ​ตัว​มา​พบ​นาย​แฮกซ์เวิร์ท เขา​ต้อนรับ​เรา​ด้วย​กิริยา​เกรี้ยวกราด. เขา​ตะโกน​ใส่​หน้า​และ​พูด​ว่า​ไม่​อนุญาต​ให้​พวก​เรา​เข้า​ประเทศ​สิงคโปร์. เนื่อง​จาก​เรา​ไม่​ตระหนัก​ใน​เรื่อง​การ​ห้าม​ดัง​กล่าว เรา​ให้​เขา​ดู​หนังสือ​เดิน​ทาง​ที่​มี​ตรา​ประทับ​ของ​ทาง​ราชการ​ว่า “อนุญาต​ให้​ขึ้น​ฝั่ง”. เขา​โกรธ​มาก​และ​คว้า​หนังสือ​เดิน​ทาง​จาก​มือ​ของ​เรา​และ​ขีด​ฆ่า​คำ​เหล่า​นั้น​ออก. แต่​อนิจจา เรือ​ออก​จาก​ท่า​เสีย​แล้ว! นาย​แฮกซ์เวิร์ท​ได้​ยึด​หนังสือ​เดิน​ทาง​ของ​เรา​ไว้​นาน​ถึง​หนึ่ง​ปี ใน​ที่​สุด​ก็​ส่ง​คืน​พร้อม​กับ​ประทับ​ตรา “อนุญาต​ให้​ขึ้น​ฝั่ง.”

งาน​รับใช้​เกิด​ผล​ใน​สิงคโปร์

เมื่อ​เรา​มา​ถึง​ใน​เดือน​เมษายน​ปี 1947 ชาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​โจชัว​เป็น​พยาน​ฯ​คน​เดียว​ใน​สิงคโปร์. เขา​รับใช้​ฐานะ​ผู้​ประกาศ​เต็ม​เวลา หรือ​ไพโอเนียร์​กระทั่ง​เสีย​ชีวิต​ไป​เมื่อ​ต้น​ทศวรรษ 1970. มิ​ช้า​มิ​นาน บาง​คน​ที่​ได้​เรียน​รู้​ความ​จริง​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล​ก็​เริ่ม​บอก​เล่า​ความ​จริง​แก่​ผู้​อื่น. คำ​อธิษฐาน​ของ​เรา​ที่​ขอ​ให้​มี​คน​งาน​มาก​ขึ้น​เพื่อ​ช่วย​งาน​เก็บ​เกี่ยว​ฝ่าย​วิญญาณ​เริ่ม​ได้​รับ​คำ​ตอบ.—มัดธาย 9:37, 38.

ปี 1949 ขณะ​นาย​แฮกซ์เวิร์ท​หยุด​งาน​ระยะ​ยาว​ไป​พักผ่อน​ที่​ประเทศ​อังกฤษ มิชชันนารี​ชาย​หญิง​หก​คน​ที่​จบ​จาก​โรง​เรียน​กิเลียด​รุ่น 11 ก็​ได้​มา​ถึง​สิงคโปร์. ระหว่าง​นั้น เดฟ มิชชันนารี​ที่​ร่วม​งาน​กับ​ผม​มา​นาน​หลาย​ปี​จำเป็น​ต้อง​จาก​สิงคโปร์​ไป เนื่อง​จาก​สุขภาพ​ไม่​แข็งแรง. เขา​จึง​ไป​อยู่​ใน​ประเทศ​ออสเตรเลีย รับใช้​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​กระทั่ง​สิ้น​ชีวิต​เมื่อ​ปี 1973. ไอลีน แฟรงส์​เป็น​หนึ่ง​ใน​กลุ่ม​มิชชันนารี​ใหม่​หก​คน ซึ่ง​ผม​ได้​แต่งงาน​กับ​เธอ​ใน​ปี 1956.

ใน​ช่วง​หลาย​ปี​นั้น เรา​นำ​การ​ศึกษา​กับ​หลาย​คน​ซึ่ง​ได้​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ​พร้อม​ลูก​ของ​เขา. แม้​แต่​ทุก​วัน​นี้ มี​บาง​คน​ยัง​คง​รับใช้​ประเภท​เต็ม​เวลา​ใน​ต่าง​แดน. ประสบการณ์​ที่​น่า​ปีติ​ยินดี​ราย​หนึ่ง​เกี่ยว​กับ​เลสเตอร์​และ​โจนี เฮย์เนส​สอง​สามี​ภรรยา​ชาว​อเมริกัน​ซึ่ง​อาศัย​อยู่​ใน​สิงคโปร์. เรา​เริ่ม​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​พวก​เขา​ใน​ช่วง​ทศวรรษ 1950. ทั้ง​สอง​ทำ​ความ​ก้าว​หน้า รับ​เอา​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​รวด​เร็ว และ​ได้​รับ​บัพติสมา​ภาย​หลัง​กลับ​ไป​ที่​สหรัฐ. ต่อ​มา​เลสเตอร์​กับ​โจนี​ก็​ทำ​งาน​ประกาศ​เผยแพร่​อย่าง​บังเกิด​ผล. เขา​ได้​ช่วย​หลาย​คน​เข้า​มา​เป็น​พยาน​ฯ​รวม​ทั้ง​ลูก​ของ​เขา​สาม​คน​ด้วย.

โจนี​เขียน​ว่า “เมื่อ​ฉัน​นึก​ย้อน​ไป​ปี​นั้น​ใน​สิงคโปร์ วิถี​ชีวิต​ของ​เรา​เปลี่ยน​ไป​จริง ๆ. ถ้า​เรา​ไม่​ได้​รับ​การ​ดู​แล​เอา​ใจ​ใส่​จาก​คุณ เรา​อาจ​ยัง​คง​ย้าย​ไป​ไหน​ต่อ​ไหน​รอบ​โลก. ฉัน​ยินดี​จริง ๆ ที่​คุณ​เป็น​คน​สอน​ความ​จริง​ให้​แก่​เลสเตอร์ เพราะ​ตั้ง​แต่​แรก​เขา​ได้​ผู้​สอน​ที่​คอย​พร่ำ​สอน​เขา​ให้​มี​ความ​รัก​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​และ​ต่อ​พี่​น้อง​คริสเตียน​ของ​เรา. เขา​ไม่​เคย​ลืม​สิ่ง​นั้น.”

การ​รับใช้​ฐานะ​ครอบครัว​ใน​สิงคโปร์

ใน​ปี 1962 เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ที่​ไม่​คาด​หมาย​ได้​ทำ​ให้​งาน​มอบหมาย​ของ​เรา​เปลี่ยน​ไป. แพทย์​ประจำ​ครอบครัว​บอก​ข่าว​แก่​ไอลีน​ว่า​เธอ​ตั้ง​ครรภ์. เรา​เอง​ต้องการ​ทำ​งาน​ต่อ​ไป​ใน​ฐานะ​มิชชันนารี แต่​จะ​ทำ​งาน​นั้น​และ​เลี้ยง​ดู​ลูก​ไป​พร้อม​กัน​ได้​อย่าง​ไร? นาทาน เอช. นอรร์ ซึ่ง​เวลา​นั้น​เป็น​ผู้​ดู​แล​กิจกรรม​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ตลอด​ทั่ว​โลก​ได้​เขียน​จดหมาย​ถึง​เรา สนับสนุน​ผม​ให้​หา​งาน​อาชีพ​เพื่อ​จะ​อยู่​ได้​ใน​สิงคโปร์. เรื่อง​นี้​เป็น​สิ่ง​ท้าทาย​ที่​หนัก​เอา​การ.

คน​ต่าง​ชาติ​ส่วน​ใหญ่​ถูก​ว่า​จ้าง​ให้​ทำ​งาน​เป็น​ผู้​บริหาร​ใน​บริษัท​ของ​ต่าง​ประเทศ. ส่วน​ผม​ไม่​มี​ประสบการณ์​ทาง​ด้าน​ธุรกิจ เนื่อง​จาก​ผม​เริ่ม​งาน​ประกาศ​เต็ม​เวลา​เมื่อ 23 ปี​ก่อน​หน้า​นี้​ภาย​หลัง​เรียน​จบ. ดัง​นั้น ผม​ได้​จ้าง​บริษัท​จัด​หา​งาน​ใน​ลอนดอน​ให้​ทำ​ประวัติ​ย่อ ซึ่ง​อาศัย​ข้อมูล​ของ​การ​เป็น​ผู้​เผยแพร่​ศาสนา​ใน​ต่าง​ประเทศ และ​บริษัท​จัด​หา​งาน​ได้​ส่ง​ประวัติ​ข้อมูล​นี้​ไป​ให้​บริษัท​ข้าม​ชาติ​หลาย​บริษัท​ที่​ทำ​ธุรกิจ​ใน​สิงคโปร์.

มี​จดหมาย​ตอบ​กลับ​มา​ถึง​ผม​เรื่อย ๆ และ​แจ้ง​ว่า “เรา​เสียใจ​ที่​ไม่​มี​ตำแหน่ง​งาน​เหมาะ​กับ​ผู้​ที่​มี​คุณสมบัติ​เช่น​คุณ.” พวก​เขา​ถือ​ว่า​ผม​มี​คุณสมบัติ​สูง​เกิน​ไป! หลาย​เดือน​ผ่าน​ไป จูดี​ทารก​ตัว​น้อย​ของ​เรา​ก็​คลอด. ตอน​นั้น​บราเดอร์​นอรร์​เยือน​สิงคโปร์ ท่าน​จึง​แวะ​ไป​เยี่ยม​ทั้ง​แม่​และ​ลูก​ใน​โรง​พยาบาล. ท่าน​ยืน​ยัน​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ว่า “คุณ​สามารถ​อยู่​ใน​บ้าน​มิชชันนารี​ได้​ตราบ​เท่า​ที่​ต้องการ จน​กว่า​บิลล์​จะ​ได้​งาน​ทำ.”

ไม่​กี่​เดือน​ต่อ​มา ผม​ได้​ทำ​งาน​กับ​สาย​การ​บิน​ระหว่าง​ประเทศ​ฐานะ​เป็น​ตัว​แทน​ฝ่าย​ขาย. ราย​ได้​น้อย​แทบ​ไม่​พอ​กับ​ค่า​ครอง​ชีพ. สอง​ปี​ถัด​มา สาย​การ​บิน​ของ​อเมริกา​ได้​จ้าง​ผม​และ​จ่าย​เงิน​ให้​มาก​เป็น​สอง​เท่า. ใน​ที่​สุด ผม​กลาย​เป็น​ที่​รู้​จัก​อย่าง​กว้างขวาง​ใน​วงการ​อุตสาหกรรม​การ​ท่อง​เที่ยว และ​ผม​ยัง​มี​เวลา​มาก​ขึ้น​ด้วย​สำหรับ​ครอบครัว​และ​งาน​เผยแพร่.

เรา​จัด​ให้​วิถี​ชีวิต​ของ​เรา​รวม​จุด​อยู่​ที่​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา โดย​ยึด​เอา​ผล​ประโยชน์​ฝ่าย​วิญญาณ​เป็น​อันดับ​แรก. ทั้ง​นี้​ทำ​ให้​ผม​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​หลาย​อย่าง​ใน​องค์การ. ไอลีน​กลับ​เข้า​สู่​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​อีก​ครั้ง​หนึ่ง. ใน​ระหว่าง​นั้น งาน​ประกาศ​ราชอาณาจักร​ใน​สิงคโปร์​เจริญ​รุ่งเรือง​ดี. พอ​ถึง​กลาง​ทศวรรษ 1960 เรา​ได้​ซื้อ​ตึก​สอง​ชั้น​ที่​สวย​งาม​ใน​ย่าน​ใจ​กลาง​เมือง​เพื่อ​ใช้​เป็น​หอ​ประชุม​พยาน​พระ​ยะโฮวา. หอ​ประชุม​แห่ง​นี้​มี​สี่​ประชาคม​ใช้​ร่วม​กัน.

งาน​ของ​เรา​ถูก​สั่ง​ห้าม!

ใน​เวลา​ต่อ​มา เมฆ​ทะมึน​ปรากฏ​ราง ๆ บน​ขอบ​ฟ้า​บอก​เหตุ​ว่า​การ​ต่อ​ต้าน​ใกล้​จะ​มา​ถึง. วัน​ที่ 14 มกราคม 1972 เรา​ไป​ยัง​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​เพื่อ​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​อย่าง​ที่​เคย​ไป​ทุก​สัปดาห์. แต่​ที่​ประตู​ใหญ่​นั้น​มี​โซ่​คล้อง​อยู่​และ​ใส่​กุญแจ. ป้าย​ติด​ประกาศ​บอก​ให้​ทราบ​ว่า​การ​จด​ทะเบียน​ประชาคม​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​สิงคโปร์​ถูก​เพิกถอน​ไป​แล้ว. เรา​ถูก​สั่ง​ห้าม! *

การ​ปิด​หอ​ประชุม​ราชอาณาจักร​ไม่​ได้​ทำ​ให้​เรา​ยุติ​การ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา แต่​คำ​ถาม​ใน​ใจ​ผม​คือ ‘พระเจ้า​มี​พระทัย​ประสงค์​เช่น​ไร​สำหรับ​ครอบครัว​ของ​ผม?’ ผม​หา​เหตุ​ผล​ว่า​ถ้า​เรา​ถูก​ขับ​ออก​นอก​ประเทศ เรา​จะ​ไม่​สามารถ​กลับ​มา​เยี่ยม​พวก​พี่​น้อง​ใน​สิงคโปร์​ได้​อีก. ดัง​นั้น ผม​จึง​ขอร้อง​ผู้​จัด​การ​บริษัท​ช่วย​ผม​ให้​ได้​งาน​ใน​กัวลาลัมเปอร์ ประเทศ​มาเลเซีย. แล้ว​ที​นี้​ครอบครัว​ของ​เรา​จะ​สามารถ​เดิน​ทาง​ไป​กลับ​ได้​ไม่​ยาก. ผม​ประหลาด​ใจ​มาก เมื่อ​เขา​เสนอ​งาน​ใน​ตำแหน่ง​ผู้​จัด​การ​สำนักงาน​ที่​กัวลาลัมเปอร์ และ​ผม​จะ​ได้​รับ​เงิน​เดือน​เพิ่ม​สอง​เท่า​และ​ยัง​มี​ผล​ประโยชน์​อื่น ๆ ด้วย.

แล้ว​ผม​ก็​สงสัย​ว่า ‘นี่​เป็น​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​หรือ​ที่​เรา​จะ​ย้าย​จาก​สิงคโปร์​จาก​พวก​พี่​น้อง​ของ​เรา​ไป?’ ใน​ฐานะ​ครอบครัว เรา​ยก​เอา​เรื่อง​นี้​ขึ้น​ทูล​อธิษฐาน​ต่อ​พระ​ยะโฮวา. เรา​ลง​ความ​เห็น​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ผู้​นำ​เรา​มา​ที่​นี่. ผม​จึง​ตัดสิน​ใจ​เด็ดขาด​ว่า—เรา​จะ​อยู่​ต่อ. ผู้​จัด​การ​ตกตะลึง​เมื่อ​ผม​ไม่​รับ​ข้อ​เสนอ​ของ​เขา​ที่​จะ​ให้​ผล​ประโยชน์​ด้าน​การ​เงิน.

การ​ดำเนิน​ชีวิต​และ​ทำ​งาน​ภาย​ใต้​คำ​สั่ง​ห้าม​เป็น​ความ​กดดัน​อย่าง​แท้​จริง เพราะ​เรา​เสี่ยง​ที่​จะ​ถูก​จับ​กุม​คุม​ขัง​เสมอ ๆ. มี​หลาย​โอกาส​จริง ๆ ที่​ทำ​ให้​เรา​หยั่ง​รู้​ค่า​ถ้อย​คำ​ใน​บทเพลง​สรรเสริญ 34:7 ที่​ว่า “ทูต​ของ​พระ​ยะโฮวา​แวด​ล้อม​เหล่า​คน​ที่​ยำเกรง​พระองค์, และ​ทรง​ช่วย​เขา​ให้​พ้น​จาก​ภัย​อันตราย.”

งาน​มอบหมาย​ใหม่

ใน​ที่​สุด ปี 1993 หลัง​จาก​รับใช้​ที่​ประเทศ​สิงคโปร์​นาน​กว่า 46 ปี เรา​ถูก​ขอ​ให้​ย้าย​ไป​นิวซีแลนด์ ที่​นั่น​เรา​สามารถ​รับใช้​โดย​ไม่​เครียด​และ​กังวล​มาก​นัก. คง​ไม่​ต้อง​บอก​หรอก​ว่า เรา​เศร้า​ใจ​สัก​เพียง​ใด​ที่​ต้อง​จาก​เพื่อน ๆ ที่​รัก​ของ​เรา​ใน​สิงคโปร์ ผู้​ซึ่ง​เรา​รู้สึก​ผูก​พัน​รักใคร่​อย่าง​มาก. กระนั้น เรา​ได้​กำลังใจ​ที่​รู้​ว่า​ความ​เชื่อ​ของ​พวก​เขา​ตั้ง​อยู่​บน​ฐาน​ราก​อัน​มั่นคง สร้าง​ด้วย​วัตถุ​ทน​ไฟ. นี่​แหละ​ทำ​ให้​พวก​เขา​สามารถ​ยืนหยัด​อยู่​ได้​เมื่อ​เผชิญ​การ​ทดลอง​ต่าง ๆ ที่​ต้อง​อด​ทน​อยู่​เรื่อย​มา.—1 โครินท์ 3:12-14.

บัด​นี้ หลัง​จาก​มา​อยู่​ใน​นิวซีแลนด์​นาน​กว่า 14 ปี แม้​ผม​และ​ไอลีน​ตอน​นี้​อยู่​ใน​วัย​ชรา​แล้ว​แต่​ก็​ยัง​คง​ชื่นชม​ยินดี​ใน​งาน​รับใช้​ฐานะ​ไพโอเนียร์​พิเศษ. พี่​ชาย​สอง​คน​ของ​ผม—ไมก์ อายุ 94 และ​ปีเตอร์ อายุ 90—ยัง​มี​ชีวิต​อยู่​และ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ที่​ประเทศ​แคนาดา.

ปี 1998 จูดี ลูก​สาว​ของ​เรา​ย้าย​กลับ​ไป​ประเทศ​แถบ​ตะวัน​ออก​และ​รับใช้​อยู่​ที่​นั่น​หลาย​ปี. ใน​จดหมาย​ฉบับ​หนึ่ง​ที่​เธอ​เขียน​ถึง​เรา​มี​ข้อ​ความ​ดัง​นี้: “ลูก​ขอบพระคุณ​พระ​ยะโฮวา​ทุก ๆ วัน​ไม่​เว้น​สำหรับ​สิทธิ​พิเศษ​อัน​น่า​พอ​ใจ​อย่าง​ยิ่ง​ที่​ลูก​ได้​มา​รับใช้​ที่​นี่! ลูก​ขอบคุณ​พ่อ​และ​แม่​ด้วย​สำหรับ​การ​อบรม​เลี้ยง​ดู​ด้วย​ความ​รัก​ใน​ทุก ๆ ด้าน​และ​การ​เสีย​สละ​ที่​พ่อ​กับ​แม่​ได้​ทุ่มเท​เพื่อ​ลูก​และ​ยัง​ทำ​อยู่​เพื่อ​ให้​ทุก​อย่าง​เป็น​ไป​ได้.” ปี 2003 จูดี​กลับ​นิวซีแลนด์​เพื่อ​มา​ดู​แล​ช่วยเหลือ​ผม​และ​ไอลีน​ตาม​ที่​จำเป็น. *

เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​พระ​ยะโฮวา​ที่​สภาพการณ์​ของ​เรา​ทำ​ให้​เรา​สามารถ​ขาน​รับ​เสียง​เรียก​ของ​นาย​ที่​ต้องการ​จำนวน​คน​ทำ​งาน​เกี่ยว​มาก​ขึ้น. การ​ตอบรับ​ของ​เรา​เช่น​นี้​ยัง​ผล​เป็น​ความ​ยินดี​เหลือ​พรรณนา. และ​เมื่อ “โลก​กำลัง​จะ​สูญ​ไป” ตาม​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​บอก​ว่า​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น พวก​เรา​จะ​ชื่นชม​กับ​การ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ของ​คำ​สัญญา​อัน​น่า​พิศวง​ของ​พระเจ้า​ที่​ว่า “ผู้​ที่​ทำ​ตาม​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​จะ​คง​อยู่​ตลอด​ไป.”—1 โยฮัน 2:17.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 25 ดู​หอสังเกตการณ์ (ภาษา​อังกฤษ) ฉบับ 1 มิถุนายน 1972 หน้า 341–349.

^ วรรค 32 ไอลีน​ที่​รัก​ของ​ผม​ล่วง​ลับ​ไป​แล้ว​เมื่อ​วัน​ที่ 24 มกราคม 2008 ขณะ​มี​การ​เตรียม​บทความ​นี้.

[ภาพ​หน้า 29]

โจชัว​เป็น​พยาน​ฯ​คน​เดียว​ใน​สิงคโปร์​ตอน​ที่​เรา​มา​ถึง​ใน​ปี 1947

[ภาพ​หน้า 29]

กับ​เดฟ ฟาร์เมอร์​ใน​ฮ่องกง ระหว่าง​เดิน​ทาง​ไป​สิงคโปร์ ปี 1947

[ภาพ​หน้า 29]

กับ​ไอลีน ปี 1958

[ภาพ​หน้า 31]

กับ​จูดี ลูก​สาว​ของ​เรา

[ที่​มา​ของ​ภาพ]

Kimroy Photography

[ที่​มา​ของ​ภาพ​หน้า 28]

Kimroy Photography