ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

วิธีที่ความเชื่อเสริมกำลังให้ฉันเผชิญโศกนาฏกรรม

วิธีที่ความเชื่อเสริมกำลังให้ฉันเผชิญโศกนาฏกรรม

วิธี​ที่​ความ​เชื่อ​เสริม​กำลัง​ให้​ฉัน​เผชิญ​โศกนาฏกรรม

เล่า​โดย โซเลดัด คาสตีโย

ชีวิต​ฉัน​เกือบ​จม​อยู่​ใน​ความ​เปล่าเปลี่ยว​หลาย​ครั้ง—แต่​ไม่​เป็น​เช่น​นั้น. ฉัน​อายุ 34 ปี​เมื่อ​ฉัน​สูญ​เสีย​สามี​ที่​รัก. หก​ปี​ต่อ​มา พ่อ​ฉัน​เสีย​ไป​อีก​คน​หนึ่ง. แปด​เดือน​หลัง​จาก​พ่อ​ตาย ฉัน​ได้​มา​รู้​ว่า​ลูก​ชาย​คน​เดียว​ของ​ฉัน​ป่วย​เป็น​โรค​ที่​ไม่​มี​ทาง​รักษา​ให้​หาย.

ฉัน​ชื่อ​โซเลดัด ซึ่ง​หมาย​ถึง “ความ​เปล่าเปลี่ยว.” แม้​ชื่อ​นี้​ฟัง​ดู​แปลก ๆ กระนั้น ฉัน​ไม่​เคย​รู้สึก​เปล่าเปลี่ยว​โดย​สิ้นเชิง. ครา​ใด​ที่​ฉัน​ประสบ​เหตุ​ร้าย ฉัน​เชื่อ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า ‘ยึด​มือ​ข้าง​ขวา​ของ​ฉัน ฉัน​จึง​ไม่​กลัว.’ (ยะซายา 41:13) ฉัน​ขอ​ชี้​แจง​ว่า​ฉัน​เอง​ผ่าน​เหตุ​การณ์​ร้าย ๆ มา​ได้​อย่าง​ไร และ​เหตุ​การณ์​เหล่า​นั้น​ทำ​ให้​ฉัน​ใกล้​ชิด​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น​ได้​อย่าง​ไร.

ชีวิต​มี​ความ​สุข​แทบ​ไม่​มี​ปัญหา

ฉัน​เกิด​ที่​เมือง​บาร์เซโลนา ประเทศ​สเปน เมื่อ​วัน​ที่ 3 พฤษภาคม ปี 1961 เป็น​ลูก​คน​เดียว​ของ​คุณ​พ่อ​คุณ​แม่ ชื่อ​โฮเซ​และ​โซ​เล​ดัด. เมื่อ​ฉัน​อายุ 9 ขวบ แม่​ได้​เรียน​รู้​ความ​จริง​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. ท่าน​เคย​แสวง​หา​คำ​ตอบ​เกี่ยว​กับ​ข้อ​สงสัย​ต่าง ๆ ทาง​ศาสนา แต่​ไม่​พบ​คำ​ตอบ​ที่​น่า​พอ​ใจ​ใน​คริสตจักร​ที่​ท่าน​สังกัด​อยู่. วัน​หนึ่ง สตรี​พยาน​พระ​ยะโฮวา​สอง​คน​ได้​แวะ​มา​ที่​บ้าน​ของ​แม่​และ​ตอบ​ทุก​คำ​ถาม​จาก​พระ​คัมภีร์. ท่าน​ตอบรับ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​อย่าง​กระตือรือร้น​ทันที.

ภาย​ใน​เวลา​อัน​สั้น แม่​กลาย​เป็น​พยาน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ทั้ง ๆ ที่​ยัง​ไม่​รับ​บัพติสมา และ​เพียง​ไม่​กี่​ปี​ต่อ​มา พ่อ​ก็​ทำ​ตาม​ตัว​อย่าง​แม่. เอ​เลีย​นา ซึ่ง​นำ​การ​ศึกษา​กับ​แม่​สังเกต​ว่า​ฉัน​มี​ใจ​ฝักใฝ่​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. แม้​ฉัน​เป็น​แค่​เด็ก​หญิง​วัย​เยาว์ เอ​เลีย​นา​ก็​แนะ​นำ​ให้​ฉัน​ศึกษา​ด้วย. เนื่อง​จาก​เธอ​ได้​ช่วย​ฉัน อีก​ทั้ง​การ​สนับสนุน​จาก​แม่ ฉัน​รับ​บัพติสมา​เมื่อ​อายุ 13 ปี.

ช่วง​ที่​ฉัน​เป็น​วัยรุ่น ฉัน​หมาย​พึ่ง​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​การ​อธิษฐาน​เสมอ—โดย​เฉพาะ​เมื่อ​ต้อง​ตัดสิน​ใจ. พูด​กัน​ตรง ๆ ฉัน​ไม่​ค่อย​มี​ปัญหา​ระหว่าง​ที่​เป็น​วัยรุ่น. ใน​ประชาคม ฉัน​มี​เพื่อน​หลาย​คน และ​มี​ความ​ผูก​พัน​ใกล้​ชิด​กับ​พ่อ​แม่. ปี 1982 ฉัน​แต่งงาน​กับ​เฟลีเป พยาน​ฯ​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​มี​เป้าหมาย​เช่น​เดียว​กับ​ฉัน คือ​ก้าว​หน้า​ต่อ ๆ ไป​ใน​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา.

เลี้ยง​ดู​ลูก​ของ​เรา​ให้​รัก​พระ​ยะโฮวา

ห้า​ปี​ต่อ​มา ฉัน​ให้​กำเนิด​ทารก​เพศ​ชาย​ที่​น่า​รัก เรา​ตั้ง​ชื่อ​เขา​ว่า​ซาอูล. ฉัน​กับ​เฟลีเป​ดีใจ​ที่​เรา​ได้​ลูก. เรา​หวัง​ว่า​ซาอูล​จะ​เติบโต​เป็น​เด็ก​สุขภาพ​แข็งแรง สมดุล และ​รัก​พระเจ้า. ฉัน​และ​เฟลีเป​ใช้​เวลา​กับ​ซาอูล​มาก เช่น พูด​เรื่อง​ราว​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา​ให้​ลูก​ฟัง รับประทาน​อาหาร​ด้วย​กัน พา​เขา​ไป​เที่ยว​สวน​สาธารณะ และ​เล่น​เกม​กับ​เขา. ซาอูล​ชอบ​ไป​กับ​เฟลีเป​ขณะ​ที่​เขา​บอก​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​แก่​คน​อื่น และ​สนับสนุน​ลูก​ให้​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ประกาศ​ตั้ง​แต่​อายุ​น้อย สอน​เขา​กด​กริ่ง​ประตู​หน้า​บ้าน​และ​แจก​แผ่น​พับ​ให้​แก่​ผู้​คน.

ซาอูล​ตอบ​สนอง​ความ​รัก​และ​การ​ฝึก​สอน​ของ​เรา​เป็น​อย่าง​ดี. พอ​อายุ​ได้​หก​ขวบ เขา​ไป​ประกาศ​กับ​พวก​เรา​เป็น​ประจำ. เขา​ชอบ​ฟัง​เรื่อง​ราว​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล และ​ตั้งใจ​รอ​วัน​ที่​เรา​จัด​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ประจำ​ครอบครัว. ไม่​นาน​หลัง​จาก​เข้า​โรง​เรียน เขา​ก็​เริ่ม​ตัดสิน​ใจ​ได้​เอง​ใน​เรื่อง​เล็ก ๆ น้อย ๆ โดย​อาศัย​ความ​รู้​จาก​คัมภีร์​ไบเบิล.

อย่าง​ไร​ก็​ดี เมื่อ​ซาอูล​อายุ​เจ็ด​ขวบ มี​การ​เปลี่ยน​แปลง​ครั้ง​ใหญ่​ใน​ครอบครัว​ของ​เรา. เฟลีเป​ติด​เชื้อ​ไวรัส​ใน​ปอด. เขา​สู้​โรค​ร้าย​นาน​ถึง 11 เดือน ทำ​งาน​ไม่​ไหว และ​บ่อย​ครั้ง​ต้อง​นอน​แซ่ว​ไป​ไหน​ไม่​ได้. สามี​ฉัน​ตาย​เมื่อ​อายุ 36 ปี.

ฉัน​ยัง​คง​ร้องไห้​เมื่อ​รำลึก​ถึง​ปี​นั้น​ที่​มี​ความ​ยาก​ลำบาก. ฉัน​เฝ้า​ดู​สามี​ค่อย ๆ หมด​กำลัง​ต่อ​สู้​ไวรัส และ​ฉัน​ก็​ไม่​อาจ​ช่วย​อะไร​ได้. ตลอด​ช่วง​นั้น ฉัน​พยายาม​ให้​กำลังใจ​เฟลีเป​เสมอ แม้​ฉัน​ตระหนัก​ดี​ว่า​ไม่​มี​ทาง​ที่​จะ​มี​ชีวิต​ครอบครัว​อย่าง​ที่​ฉัน​เคย​หวัง​และ​วาง​แผน​เอา​ไว้. ฉัน​อ่าน​บทความ​ต่าง ๆ ที่​อาศัย​หลักการ​ใน​พระ​คัมภีร์​ให้​เขา​ฟัง และ​บทความ​เหล่า​นี้​เสริม​กำลัง​เรา​ให้​เข้มแข็ง​เมื่อ​เรา​ไม่​สามารถ​ไป​ร่วม​ประชุม​คริสเตียน. พอ​เขา​ตาย​ไป ฉัน​รู้สึก​อ้างว้าง​มาก.

กระนั้น พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​ค้ำจุน​ฉัน. ฉัน​ทูล​ขอ​พระองค์​โปรด​ประทาน​พระ​วิญญาณ​ของ​พระองค์​แก่​ฉัน. ฉัน​ขอบพระคุณ​พระองค์​ที่​ฉัน​กับ​เฟลีเป​ครอง​ชีวิต​ร่วม​กัน​อย่าง​มี​ความ​สุข​ตลอด​เวลา​หลาย​ปี และ​ขอบคุณ​สำหรับ​ความ​หวัง​ที่​จะ​ได้​พบ​เฟลีเป​อีก​ใน​คราว​การ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย. ฉัน​ทูล​ขอ​พระเจ้า​ช่วย​ฉัน​ให้​มี​ความ​สุข​กับ​ความ​ทรง​จำ​ที่​ฉัน​เคย​มี​ด้วย​กัน​กับ​สามี และ​ขอ​โปรด​ให้​ฉัน​มี​สติ​ปัญญา​ที่​จะ​เลี้ยง​ดู​ลูก​ให้​เป็น​คริสเตียน​ที่​ซื่อ​สัตย์. แม้​จะ​ปวด​ร้าว​เหลือ​เกิน แต่​ฉัน​ก็​อบอุ่น​ใจ.

พ่อ​แม่​ของ​ฉัน​และ​รวม​ทั้ง​พี่​น้อง​ใน​ประชาคม​ได้​ให้​การ​เกื้อ​หนุน​ฉัน​อย่าง​มาก. ถึง​กระนั้น ฉัน​ต้อง​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​กับ​ซาอูล​และ​สอน​เขา​ให้​รู้​แนว​ทาง​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา. นาย​จ้าง​คน​ก่อน​เสนอ​งาน​ที่​ดี​ใน​สำนักงาน​ให้​ฉัน แต่​ฉัน​สมัคร​ใจ​จะ​เป็น​พนักงาน​ทำ​ความ​สะอาด​เพื่อ​จะ​ได้​มี​เวลา​อยู่​กับ​ซาอูล​เมื่อ​เขา​กลับ​บ้าน​หลัง​เลิก​เรียน.

มี​พระ​คัมภีร์​ตอน​หนึ่ง​ที่​มุ่ง​เน้น​ให้​ฉัน​เห็น​ความ​สำคัญ​ของ​การ​ฝึก​สอน​ซาอูล​ใน​แนว​ทาง​ของ​พระเจ้า ที่​ว่า “จง​ฝึก​สอน​เด็ก​ให้​ประพฤติ​ตาม​ทาง​ที่​ควร​จะ​ประพฤติ​นั้น: และ​เมื่อ​แก่​ชรา​แล้ว​เขา​จะ​ไม่​เดิน​ห่าง​จาก​ทาง​นั้น.” (สุภาษิต 22:6) ข้อ​นี้​ให้​ความ​หวัง​แก่​ฉัน​ว่า​ถ้า​ฉัน​พยายาม​เต็ม​ที่​ที่​จะ​สั่ง​สอน​ซาอูล​ให้​รู้​ซึ้ง​เกี่ยว​กับ​พระ​ดำริ​ของ​พระ​ยะโฮวา พระองค์​จะ​อวย​พร​ความ​บากบั่น​พยายาม​ของ​ฉัน. จริง​อยู่ ฉัน​ยอม​เสีย​โอกาส​ที่​จะ​ได้​เงิน​มาก​ขึ้น แต่​ก็​ต้อง​มี​เวลา​อยู่​กับ​ลูก​ชาย​ของ​ฉัน และ​เรื่อง​นี้​สำคัญ​สำหรับ​ฉัน​มาก​ยิ่ง​กว่า​ผล​ประโยชน์​ใด ๆ ด้าน​วัตถุ.

เมื่อ​ซาอูล​อายุ 14 ปี พ่อ​ของ​ดิฉัน​ก็​จาก​เรา​ไป. ซาอูล​หดหู่​มาก​เนื่อง​จาก​การ​ตาย​ของ​คุณ​ตา​ทำ​ให้​เขา​รู้สึก​ปวด​ร้าว​เหมือน​ครั้ง​ที่​พ่อ​ของ​เขา​ตาย​จาก​ไป. พ่อ​ของ​ฉัน​ได้​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​ใน​เรื่อง​ความ​รัก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​เช่น​กัน. ภาย​หลัง​การ​สูญ​เสีย​ครั้ง​นี้ ซาอูล​ก็​เลย​ตัดสิน​ใจ​ว่า​เขา​เป็น “ผู้​ชาย” คน​เดียว​ที่​เหลือ​อยู่​ใน​ครอบครัว และ​ตอน​นี้​เขา​จะ​ต้อง​ใส่​ใจ​ดู​แล​แม่​และ​ยาย​ของ​เขา.

ต่อ​สู้​โรค​มะเร็ง​เม็ด​เลือด​ขาว

แปด​เดือน​หลัง​จาก​พ่อ​ฉัน​ตาย แพทย์​ประจำ​ครอบครัว​สั่ง​ฉัน​ให้​พา​ซาอูล​ไป​โรง​พยาบาล เนื่อง​จาก​เขา​อ่อน​เพลีย​มาก. ภาย​หลัง​การ​ตรวจ​หลาย​ครั้ง พวก​แพทย์​ก็​บอก​ฉัน​ว่า​ซาอูล​ป่วย​เป็น​มะเร็ง​เม็ด​เลือด​ขาว (ลูคีเมีย). *

ใน​ช่วง​สอง​ปี​ครึ่ง​ต่อ​มา ซาอูล​ต้อง​เข้า​ออก​โรง​พยาบาล​บ่อย​ครั้ง​ขณะ​ที่​เขา​พยายาม​ต่อ​สู้​โรค​มะเร็ง​และ​วิธี​รักษา​ด้วย​เคมี​บำบัด​ที่​แพทย์​ได้​ใช้. การ​รักษา​หก​เดือน​แรก​ทำ​ให้​โรค​สงบ​ได้​ประมาณ 18 เดือน. แต่​มะเร็ง​กลับ​มา​อีก และ​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ซาอูล​ได้​รับ​เคมี​บำบัด​ระยะ​สั้น​ซึ่ง​ทำ​ให้​เขา​อ่อน​แรง​ลง​มาก. โรค​มะเร็ง​สงบ​อีก​เพียง​ระยะ​สั้น ๆ และ​ซาอูล​ไม่​สามารถ​ต้านทาน​การ​รักษา​ด้วย​เคมี​บำบัด​รอบ​ที่​สาม​ได้. ซาอูล​ได้​อุทิศ​ชีวิต​แด่​พระเจ้า​แล้ว​และ​เคย​แสดง​ความ​ปรารถนา​จะ​รับ​บัพติสมา​เป็น​พยาน​พระ​ยะโฮวา แต่​เขา​เสีย​ชีวิต​เมื่อ​อายุ​ครบ 17 ปี​ได้​ไม่​นาน.

พวก​แพทย์​มัก​จะ​แนะ​นำ​การ​ถ่าย​เลือด​เพื่อ​ต้าน​อาการ​รุนแรง​จาก​เคมี​บำบัด. แน่​ละ การ​ถ่าย​เลือด​ไม่​สามารถ​รักษา​โรค​ได้. ตอน​แรก​ที่​พวก​แพทย์​ได้​วินิจฉัย​ว่า​เป็น​โรค​มะเร็ง​เม็ด​เลือด​ขาว ทั้ง​ซาอูล​และ​ฉัน​จำเป็น​ต้อง​ชี้​ชัด​ว่า​เรา​จะ​ไม่​รับ​การ​รักษา​วิธี​นี้ เนื่อง​จาก​เรา​ต้องการ​เชื่อ​ฟัง​กฎหมาย​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ให้ “ละ​เว้น . . . จาก​เลือด.” (กิจการ 15:19, 20) หลาย​ครั้ง​เมื่อ​ฉัน​ไม่​อยู่​ด้วย ซาอูล​จำเป็น​ต้อง​พูด​ให้​แพทย์​เชื่อ​มั่น​ว่า​เรื่อง​นี้​เป็น​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​เขา​เอง. (ดู​ใน​กรอบ​หน้า 31.)

ใน​ที่​สุด​บรรดา​แพทย์​ก็​ลง​ความ​เห็น​ว่า​ซาอูล​เป็น​ผู้​เยาว์​ที่​มี​วุฒิ​ภาวะ​และ​สามารถ​เข้าใจ​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง​เกี่ยว​ด้วย​ผล​กระทบ​ของ​โรค​นี้. พวก​เขา​เห็น​พ้อง​กัน​ที่​จะ​ให้​ความ​นับถือ​ต่อ​จุด​ยืน​ของ​เรา และ​ทำ​การ​รักษา​โดย​ไม่​ใช้​เลือด แม้​ว่า​เรา​อยู่​ใน​ภาวะ​ถูก​กดดัน​ให้​เปลี่ยน​การ​ตัดสิน​ใจ​อยู่​ตลอด​เวลา. ฉัน​รู้สึก​ภูมิ​ใจ​อย่าง​ยิ่ง​ขณะ​ที่​ได้​ฟัง​ซาอูล​อธิบาย​ให้​พวก​แพทย์​เข้าใจ​จุด​ยืน​ของ​เขา​ใน​เรื่อง​เลือด. เห็น​ได้​ชัด​ว่า​เขา​ได้​พัฒนา​ความ​สัมพันธ์​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา.

ใน​ช่วง​ฤดู​ร้อน​ปี​นั้น​เมื่อ​เรา​เริ่ม​รู้​อาการ​ป่วย​ของ​ซาอูล ก็​ได้​มี​การ​ออก​หนังสือ​จง​เข้า​ใกล้​พระ​ยะโฮวา ณ การ​ประชุม​ภาค​ใน​เมือง​บาร์เซโลนา. หนังสือ​อัน​ประมาณ​ค่า​มิ​ได้​เล่ม​นี้​เปรียบ​ดัง​สมอ​เรือ​ที่​ยึด​เรา​ไว้​มั่นคง​ขณะ​เผชิญ​ความ​ไม่​แน่นอน​และ​อนาคต​ที่​น่า​หวั่น​วิตก. ระหว่าง​หลาย​ชั่วโมง​ที่​เรา​อยู่​ใน​โรง​พยาบาล เรา​ได้​อ่าน​บาง​ตอน​ของ​หนังสือ​ด้วย​กัน. เมื่อ​เรา​อด​ทน​ใน​ช่วง​อัน​ยาก​ลำบาก​หลาย​ครั้ง เรา​มัก​จะ​คิด​ทบทวน​เนื้อหา​ที่​อยู่​ใน​หนังสือ. ตอน​นั้น​เอง​ที่​ยะซายา 41:13 ซึ่ง​อยู่​ใน​คำนำ​ของ​หนังสือ​มี​ความ​หมาย​เป็น​พิเศษ​สำหรับ​เรา. ข้อ​นั้น​กล่าว​ว่า “ด้วย​เรา, ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เจ้า, กำลัง​ยึด​มือ​ข้าง​ขวา​ของ​เจ้า​อยู่, กำลัง​กล่าว​แก่​เจ้า​ว่า, ‘อย่า​กลัว​เลย, เรา​จะ​ช่วย​เจ้า.’ ”

ความ​เชื่อ​ของ​ซาอูล​กระทบ​หัวใจ​หลาย​คน

วุฒิ​ภาวะ​ของ​ซาอูล​และ​การ​คิด​ใน​แง่​ดี​สร้าง​ความ​ประทับใจ​อย่าง​ลึกซึ้ง​แก่​พวก​แพทย์​และ​พยาบาล​ใน​โรง​พยาบาล​วัลล์ เดบรอน. ทีม​ที่​เฝ้า​ดู​แล​เขา​ทั้ง​ทีม​รู้สึก​รัก​เขา. นับ​แต่​นั้น​มา หัวหน้า​แพทย์​สาขา​โลหิต​วิทยา​ที่​ดู​แล​ด้าน​มะเร็ง​จึง​ได้​รักษา​เด็ก​พยาน​ฯ​คน​อื่น ๆ ที่​ป่วย​ด้วย​โรค​มะเร็ง​เม็ด​เลือด​ขาว และ​เขา​เต็ม​ใจ​ให้​ความ​นับถือ​และ​คำนึง​ถึง​ศักดิ์ศรี​ของ​ผู้​ป่วย. เขา​ระลึก​ถึง​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​ซาอูล​ที่​แน่วแน่​ยึด​มั่น​ใน​ความ​เชื่อ, ความ​กล้า​ของ​เขา​เมื่อ​เผชิญ​ความ​ตาย, และ​การ​มอง​ชีวิต​ด้วย​ความ​ยินดี. กลุ่ม​พยาบาล​บอก​ซาอูล​ว่า​เขา​เป็น​คนไข้​ที่​ดี​เยี่ยม​เท่า​ที่​พวก​เขา​เคย​ดู​แล. พวก​เขา​พูด​ถึง​ซาอูล​ว่า​เขา​ไม่​เคย​โอด​ครวญ​และ​มี​อารมณ์​ขัน​เสมอ—แม้​แต่​เมื่อ​จวน​จะ​สิ้น​ใจ.

นัก​จิตวิทยา​บอก​ฉัน​ว่า​เด็ก​หลาย​คน​ใน​วัย​นี้​ซึ่ง​ต้อง​มา​ประสบ​ความ​เจ็บ​ป่วย​รักษา​ไม่​หาย​จึง​มัก​จะ​ดื้อ​รั้น​ไม่​เชื่อ​ฟัง​แพทย์​และ​พ่อ​แม่​เนื่อง​จาก​ความ​ไม่​สบาย​และ​คับข้อง​ใจ. เธอ​สังเกต​ว่า​ใน​กรณี​ของ​ซาอูล​ไม่​ได้​เป็น​เช่น​นั้น. เธอ​รู้สึก​ประหลาด​ใจ​ที่​เห็น​ซาอูล​สงบ​เยือกเย็น​และ​มอง​ชีวิต​ใน​แง่​ดี. ทั้ง​นี้​จึง​ทำ​ให้​ซาอูล​และ​ฉัน​มี​โอกาส​ให้​คำ​พยาน​แก่​เธอ​ใน​เรื่อง​ความ​เชื่อ​ของ​เรา.

นอก​จาก​นั้น ฉัน​ยัง​จำ​ได้​ว่า​ซาอูล​เคย​ช่วย​พยาน​ฯ​คน​หนึ่ง​ใน​ประชาคม​ของ​เรา​ทาง​อ้อม. ชาย​ผู้​นี้​ป่วย​ด้วย​โรค​ซึมเศร้า​มา​นาน​กว่า​หก​ปี และ​การ​ใช้​ยา​รักษา​ก็​ไม่​ได้​ทำ​ให้​สภาพ​ของ​เขา​ดี​ขึ้น. หลาย​ครั้ง​ใน​ช่วง​กลางคืน เขา​ไป​อยู่​ที่​โรง​พยาบาล​เพื่อ​ช่วย​ดู​แล​ซาอูล. เขา​บอก​ฉัน​ว่า​ท่าที​ของ​ซาอูล​แม้​เป็น​โรค​มะเร็ง​เม็ด​เลือด​ขาว​นั้น​ประทับใจ​เขา​เหลือ​เกิน. เขา​สังเกต​ว่า​ถึง​ซาอูล​จะ​อ่อน​เพลีย​หมด​แรง แต่​เขา​ก็​พยายาม​พูด​ให้​กำลังใจ​ทุก​คน​ที่​มา​เยี่ยม. พยาน​คน​นั้น​พูด​ว่า “ตัว​อย่าง​ของ​ซาอูล​ทำ​ให้​ผม​มี​กำลังใจ​ต่อ​สู้​โรค​ซึมเศร้า.”

บัด​นี้​ผ่าน​ไป​สาม​ปี​แล้ว​ตั้ง​แต่​ซาอูล​เสีย​ชีวิต. แน่นอน ความ​เจ็บ​ปวด​ยัง​คง​มี​อยู่. ฉัน​เอง​ก็​ไม่​ค่อย​แข็งแรง แต่​พระเจ้า​ทรง​ประทาน “กำลัง​ที่​มาก​กว่า​ปกติ” แก่​ฉัน. (2 โครินท์ 4:7) ฉัน​ได้​มา​เข้าใจ​ว่า​แม้​แต่​ความ​ยาก​ลำบาก​และ​ประสบการณ์​ที่​น่า​เจ็บ​ปวด​ที่​สุด​ก็​อาจ​ส่ง​ผล​กระทบ​ที่​ดี​ได้. การ​เรียน​รู้​ที่​จะ​รับมือ​กับ​การ​ตาย​ของ​สามี, การ​ตาย​ของ​พ่อ, และ​การ​ตาย​ของ​ลูก​ชาย​ฉัน​ได้​ช่วย​ให้​ฉัน​กลาย​เป็น​คน​ไม่​เห็น​แก่​ตัว​และ​มี​ความ​เข้าใจ​และ​เห็น​อก​เห็น​ใจ​มาก​ขึ้น​ต่อ​ผู้​ประสบ​ความ​ทุกข์. ยิ่ง​กว่า​อะไร​ทั้ง​หมด ประสบการณ์​เหล่า​นั้น​ทำ​ให้​ฉัน​ได้​เข้า​มา​ใกล้​ชิด​พระ​ยะโฮวา​มาก​ขึ้น. ฉัน​สามารถ​จะ​เผชิญ​อนาคต​โดย​ไม่​มี​ความ​กลัว เพราะ​พระ​บิดา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์​ยัง​คง​ช่วย​ฉัน พระ​หัตถ์​ของ​พระองค์​ทรง​ยึด​ฉัน​ไว้​แน่น.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 19 ซาอูล​เป็น​มะเร็ง​เม็ด​เลือด​ขาว​ชนิด​เฉียบ​พลัน มะเร็ง​เม็ด​เลือด​ชนิด​ร้ายแรง​ซึ่ง​ทำลาย​เม็ด​เลือด​ขาว.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 31]

คุณ​เคย​สงสัย​ไหม?

คุณ​อาจ​ได้​ยิน​มา​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ไม่​รับ​การ​ถ่าย​เลือด. คุณ​เคย​สงสัย​ไหม​ว่า​เพราะ​อะไร?

บ่อย​ครั้ง​ผู้​คน​มัก​เข้าใจ​การ​ตัดสิน​ใจ​ซึ่ง​อาศัย​คัมภีร์​ไบเบิล​เช่น​นี้​อย่าง​ผิด ๆ. บาง​ครั้ง​ผู้​คน​ทึกทัก​เอา​ว่า​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ปฏิเสธ​การ​รักษา​ทาง​การ​แพทย์​ทุก​อย่าง หรือ​อาจ​เป็น​เพราะ​พยาน​ฯ​ไม่​เห็น​ว่า​ชีวิต​มี​ค่า. ข้อ​นี้​ไม่​จริง​เลย. พยาน​พระ​ยะโฮวา​ต้องการ​รับ​การ​รักษา​ที่​ดี​ที่​สุด​เท่า​ที่​จะ​หา​ได้​สำหรับ​ตัว​เอง​และ​สมาชิก​ครอบครัว. อย่าง​ไร​ก็​ตาม พยาน​ฯ​พยายาม​รับ​การ​รักษา​ทาง​การ​แพทย์​โดย​ไม่​ใช้​เลือด. เพราะ​เหตุ​ใด?

จุด​ยืน​ของ​พวก​เขา​อาศัย​กฎหมาย​พื้น​ฐาน​ที่​พระเจ้า​ประทาน​แก่​มนุษยชาติ. ไม่​นาน​ภาย​หลัง​น้ำ​ท่วม​โลก​สมัย​โนฮา พระเจ้า​ได้​อนุญาต​ให้​โนฮา​และ​ครอบครัว​ของ​ท่าน​รับประทาน​เนื้อ​สัตว์​ได้. พระเจ้า​ทรง​กำหนด​ข้อ​จำกัด​ดัง​นี้: พวก​เขา​ต้อง​ไม่​รับประทาน​เลือด. (เยเนซิศ 9:3, 4) มวล​มนุษย์​จาก​ทุก​เชื้อชาติ​ล้วน​สืบ​เชื้อ​สาย​มา​จาก​โนฮา​ทั้ง​สิ้น ดัง​นั้น กฎหมาย​ข้อ​นี้​จึง​ใช้​ได้​กับ​มนุษยชาติ. และ​กฎหมาย​ข้อ​นี้​ไม่​เคย​ถูก​เพิกถอน. นาน​กว่า​แปด​ศตวรรษ​ต่อ​มา พระเจ้า​ได้​ทรง​ยืน​ยัน​ข้อ​กฎหมาย​นี้​แก่​ชาติ​อิสราเอล โดย​ชี้​แจง​ว่า​เลือด​เป็น​สิ่ง​ศักดิ์สิทธิ์ เป็น​สัญลักษณ์​แทน​ชีวิต​นั่น​เอง. (เลวีติโก 17:14) 1,500 กว่า​ปี​ต่อ​มา เหล่า​คริสเตียน​อัครสาวก​ได้​สั่ง​คริสเตียน​ทุก​คน “ให้​ละ​เว้น​จาก . . . เลือด.”—กิจการ 15:29.

สำหรับ​พยาน​พระ​ยะโฮวา เห็น​ได้​ชัด​ว่า​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​จะ​ละ​เว้น​จาก​เลือด​และ​ใน​เวลา​เดียว​กัน​ก็​รับ​การ​ถ่าย​เลือด​เข้า​ใน​ร่าง​กาย. เพราะ​ฉะนั้น พยาน​ฯ​จึง​ยืน​ยัน​จะ​รับ​การ​รักษา​โดย​วิธี​อื่น​ที่​ไม่​ใช้​เลือด. จุด​ยืน​ตาม​หลัก​คัมภีร์​ไบเบิล​เช่น​นั้น​บ่อย​ครั้ง​ทำ​ให้​มาตรฐาน​การ​รักษา​สูง​ขึ้น. ไม่​สงสัย นี้​เป็น​เหตุ​ที่​หลาย​คน​ซึ่ง​ไม่​ใช่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ก็​ยัง​ขอร้อง​ให้​ทำ​การ​รักษา​โดย​ไม่​ใช้​เลือด.

[ภาพ​หน้า 29]

กับ​เฟลีเป สามี​ฉัน และ​ซาอูล ลูก​ชาย​ของ​เรา

[ภาพ​หน้า 29]

คุณ​พ่อ​คุณ​แม่​ของ​ฉัน โฮเซ​และ​โซเลดัด

[ภาพ​หน้า 30]

ซาอูล หนึ่ง​เดือน​ก่อน​เสีย​ชีวิต