วิธีควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์
วิธีควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์
โทนีที่กล่าวถึงในบทความแรกคงจะมีชีวิตที่ต่างออกไปมาก ถ้าเพียงแต่เขายอมรับว่าตนมีปัญหาเรื่องการดื่ม. แต่เนื่องจากดูเหมือนเขาดื่มได้มากโดยไม่มีอาการเมาให้เห็น เขาจึงเชื่อว่าสามารถควบคุมชีวิตของตัวเองได้. ทำไมเขาจึงประเมินตัวเองผิดไปมากขนาดนั้น?
วิจารณญาณของเขาผิดเพี้ยนไปเพราะดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป. ไม่ว่าโทนีจะรู้หรือไม่ สมองของเขาซึ่งเป็นอวัยวะควบคุมร่างกาย, ความคิดจิตใจ, และอารมณ์ของเขาทำงานผิดปกติเมื่อได้รับแอลกอฮอล์มากเกินไป. ยิ่งเขาดื่มมากเท่าไรความสามารถของสมองที่จะประเมินสภาพของตัวเองอย่างถูกต้องก็ยิ่งลดน้อยลง.
เหตุผลประการที่สองที่ทำให้โทนีประเมินตัวเองผิดพลาดก็คือเขาปรารถนาอย่างยิ่งที่จะคงนิสัยการดื่มเอาไว้. แอลเลนที่กล่าวถึงในบทความก่อน ในตอนแรกก็ไม่ยอมรับว่าตนมีปัญหาเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์. เขายอมรับว่า “ผมจะดื่มโดยไม่ให้ใครเห็นและหาข้อแก้ตัวสารพัด อีกทั้งพยายามไม่ทำให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่. ที่ทำทั้งหมดนี้ก็เพื่อจะดื่มต่อไป.” ถึงแม้คนอื่นจะมองออกว่าโทนีและแอลเลนกำลังมีปัญหาเรื่องการดื่ม แต่ทั้งคู่กลับบอกตัวเองว่าทุกอย่างเป็นปกติดี. ทั้งสองคนจำเป็นต้องลงมือทำบางอย่างเพื่อจะควบคุมการดื่มของตน. แต่ลงมือทำอะไรล่ะ?
ลงมือทำ!
หลายคนที่เลิกดื่มแอลกอฮอล์ได้ลงมือทำสิ่งที่สอดคล้องกับคำตรัสของพระเยซูที่ว่า “ถ้าตาขวาของเจ้าเป็นเหตุให้มัดธาย 5:29
เจ้าหลงผิด จงควักทิ้งเสีย. เพราะว่าเสียอวัยวะอย่างหนึ่งไปก็ดีกว่าตัวเจ้าถูกโยนลงในเกเฮนนา.”—แน่นอนว่า พระเยซูไม่ได้สนับสนุนการทำให้ตัวเองพิการ. แต่พระองค์กำลังเน้นเป็นนัยว่าเราควรเต็มใจตัดสิ่งใดก็ตามที่อาจเป็นอันตรายต่อสัมพันธภาพของเรากับพระเจ้าออกไปจากชีวิต. จริงทีเดียว การทำเช่นนั้นอาจทำให้เราเจ็บปวดมาก. แต่การทำอย่างนั้นจะปกป้องเราไว้จากความคิดและสถานการณ์ใด ๆ ที่จะนำไปสู่การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป. ดังนั้น ถ้ามีคนบอกคุณด้วยความเป็นห่วงว่าคุณกำลังดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไปแล้ว ก็จงหามาตรการบางอย่างเพื่อควบคุมการดื่มของคุณ. * ถ้าเห็นได้ชัดว่าคุณไม่สามารถควบคุมการดื่มของตัวเองได้ก็จงเต็มใจตัดมันออกไปจากชีวิตของคุณ. แม้การทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณเจ็บปวด แต่ก็เจ็บปวดน้อยกว่าการมีชีวิตที่พังพินาศมากนัก.
แม้ว่าคุณจะไม่ติดแอลกอฮอล์ แต่คุณมีแนวโน้มที่จะดื่มมากเกินไปไหม? ถ้าเป็นเช่นนั้น มีวิธีอะไรบ้างที่จะช่วยคุณให้ควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์อย่างได้ผล?
วิธีที่ช่วยได้
1. เชื่อในพลังของการอธิษฐานบ่อย ๆ จากหัวใจ. คัมภีร์ไบเบิลให้คำแนะนำต่อไปนี้แก่ทุกคนที่ต้องการเป็นที่โปรดปรานของพระยะโฮวาพระเจ้า: “จงทูลทุกสิ่งที่พวกท่านปรารถนาต่อพระเจ้าโดยการอธิษฐานและการวิงวอนพร้อมกับการขอบพระคุณ แล้วสันติสุขของพระเจ้าซึ่งเหนือกว่าความคิดทุกอย่างจะปกป้องหัวใจและจิตใจท่านทั้งหลายไว้โดยทางพระคริสต์เยซู.” (ฟิลิปปอย 4:6, 7) คุณจะอธิษฐานอย่างไรเพื่อจะมีสันติสุขในใจ?
จงยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่าคุณมีปัญหาเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นปัญหาที่คุณเองต้องรับผิดชอบ. เมื่อคุณบอกพระเจ้าว่าคุณตั้งใจจะทำอะไรในเรื่องนี้ พระเจ้าก็จะอวยพรคุณที่พยายามแสวงหาการบรรเทาและหลีกเลี่ยงปัญหาต่าง ๆ ที่ร้ายแรงกว่า. “คนที่ปกปิดความบาปของตัวไว้จะไม่เจริญ; แต่คนที่รับสารภาพและละทิ้งการผิดของตนเสียจะประสบความเมตตา.” (สุภาษิต 28:13) พระเยซูตรัสด้วยว่าเราสามารถอธิษฐานดังนี้: “ขออย่าให้พวกข้าพเจ้าพ่ายแพ้การล่อใจ แต่ขอทรงช่วยพวกข้าพเจ้าให้รอดพ้นจาก [สิ่ง] ชั่วร้าย.” (มัดธาย 6:13, เชิงอรรถฉบับแปลโลกใหม่ภาษาอังกฤษที่มีข้ออ้างอิง) แต่คุณจะทำอย่างที่สอดคล้องกับคำอธิษฐานเหล่านั้นได้อย่างไร และคุณจะได้คำตอบสำหรับคำอธิษฐานวิงวอนของคุณจากที่ไหน?
2. รับกำลังจากพระคำของพระเจ้า. “พระคำของพระเจ้ามีชีวิต ทรงพลัง . . . และสามารถหยั่งรู้ความคิดและความมุ่งหมายในใจ.” (ฮีบรู 4:12) หลายคนที่เคยดื่มจัดได้รับความช่วยเหลือจากการอ่านและใคร่ครวญข้อต่าง ๆ ในคัมภีร์ไบเบิลทุกวัน. ผู้ประพันธ์เพลงสรรเสริญคนหนึ่งซึ่งเกรงกลัวพระเจ้าได้เขียนว่า “ความสุขย่อมมีแก่ผู้ที่ไม่ดำเนินตามคำชักชวนของคนชั่ว . . . ความยินดีของผู้นั้นอยู่ในพระบัญญัติของพระยะโฮวา; และเขาคิดรำพึงอยู่ในพระธรรมของพระองค์ทั้งกลางวันและกลางคืน. . . . บรรดากิจการที่เขากระทำนั้นก็เจริญขึ้น.”—บทเพลงสรรเสริญ 1:1-3
แอลเลน ซึ่งได้ศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับพยานพระยะโฮวาและได้รับกำลังเพื่อเอาชนะการดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป กล่าวว่า “ผมเชื่อว่าถ้าไม่ใช่เพราะคัมภีร์ไบเบิลและหลักการต่าง ๆ ในพระคัมภีร์ที่ช่วยผมให้เลิกดื่ม ผมก็คงตายไปแล้ว.”
3. ปลูกฝังการควบคุมตนเอง. คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าบางคนในประชาคมคริสเตียนเคยเป็นคนขี้เมาและได้รับการชำระให้สะอาด ‘ด้วยพระวิญญาณของพระเจ้า.’ (1 โครินท์ 6:9-11) เป็นเช่นนั้นได้อย่างไร? ประการหนึ่ง ด้วยความช่วยเหลือจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า พวกเขาสามารถปลูกฝังการควบคุมตนเองซึ่งคุณลักษณะนี้ได้ช่วยพวกเขาให้เลิกดื่มจนเมามายและเลี้ยงเฮฮาอย่างเลยเถิด. “อย่าเมาเหล้าองุ่น เพราะจะทำให้เป็นคนเสเพล แต่จงเปี่ยมด้วยพระวิญญาณอยู่เสมอ.” (เอเฟโซส์ 5:18; กาลาเทีย 5:21-23) พระเยซูคริสต์ทรงสัญญาว่า “พระบิดาผู้สถิตในสวรรค์จะทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์แก่ผู้ที่ทูลขอพระองค์.” ฉะนั้น “จงขอต่อ ๆ ไปแล้วจะได้รับ.”—ลูกา 11:9, 13
ผู้ที่ต้องการจะนมัสการพระยะโฮวาอย่างที่พระองค์ทรงยอมรับสามารถปลูกฝังการควบคุมตนเองโดยการอ่านและศึกษาคัมภีร์ไบเบิลรวมทั้งการอธิษฐานบ่อย ๆ จากหัวใจ. แทนที่จะยอมแพ้เพราะความท้อใจ ขอให้ยอมรับคำสัญญานี้ที่มีในพระคำของพระเจ้าที่ว่า “คนที่หว่านเพื่อจะได้พระวิญญาณจะเก็บเกี่ยวชีวิตนิรันดร์จากพระวิญญาณ. ดังนั้น ขอให้เราอย่าท้อถอยในการทำดี เพราะถ้าเราไม่เลื่อยล้า เราจะเก็บเกี่ยวผลเมื่อถึงเวลาอันควร.”—4. เลือกคบเพื่อนที่ดี. “จงดำเนินกับคนมีปัญญา; แต่การคบค้ากับคนโฉดเขลาจะได้รับความเจ็บแสบ.” (สุภาษิต 13:20) จงบอกเพื่อน ๆ ว่าคุณตั้งใจจะควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์. แต่พระคำของพระเจ้าให้คำเตือนล่วงหน้าไว้ว่า เมื่อคุณเลิก “ดื่มเหล้าองุ่นมากเกินไป การเลี้ยงเฮฮาอย่างเลยเถิด การแข่งกันดื่ม” เพื่อนเก่าบางคนจะ ‘ประหลาดใจและกล่าวร้ายคุณอยู่เรื่อยไป.’ (1 เปโตร 4:3, 4) จงเต็มใจที่จะเลิกคบกับคนที่บั่นทอนความตั้งใจของคุณที่จะควบคุมการดื่ม.
5. กำหนดปริมาณที่จะดื่ม. “จงเลิกเลียนแบบคนในยุคนี้ แต่จงรับการเปลี่ยนแปลงโดยเปลี่ยนความคิดจิตใจของพวกท่านเสียใหม่ เพื่อท่านทั้งหลายจะทำให้รู้แน่ว่าอะไรคือพระประสงค์อันดีของพระเจ้าซึ่งเป็นที่ชอบพระทัยและสมบูรณ์พร้อม.” (โรม 12:2) ถ้าคุณยอมให้หลักการต่าง ๆ ในพระคำของพระเจ้าช่วยคุณกำหนดปริมาณการดื่ม แทนที่จะให้เพื่อนหรือ “คนในยุคนี้” กำหนด คุณก็จะมีวิถีชีวิตอย่างที่พระเจ้ายอมรับได้. แต่คุณจะกำหนดได้อย่างไรว่าควรดื่มมากแค่ไหน?
แอลกอฮอล์ไม่ว่าปริมาณมากแค่ไหนก็ตามที่ทำให้วิจารณญาณบกพร่องและทำให้ความสามารถในการหาเหตุผลของคุณลดลงก็ถือว่ามากเกินไปแล้ว. ดังนั้น ถ้าคุณเลือกที่จะดื่มนับว่าไม่สุขุมที่จะกำหนดปริมาณการดื่มแบบกว้าง ๆ ไม่ตายตัว เช่น ดื่มเท่าไรก็ได้ถ้ายังไม่เมา. อย่าคิดว่าคุณไม่มีปัญหา เพราะการคิดเช่นนั้นจะทำให้คุณไม่สามารถประเมินนิสัยการดื่มของตน
เองได้อย่างถูกต้อง. จงกำหนดปริมาณการดื่มที่แน่นอนให้อยู่ในขอบเขตที่พอประมาณเพื่อคุณจะไม่เสี่ยงต่อการดื่มมากเกินไป.6. รู้จักที่จะพูดว่าไม่. “ให้คำของเจ้าที่ว่าใช่ หมายความว่าใช่ ที่ว่าไม่ หมายความว่าไม่.” (มัดธาย 5:37) จงปฏิเสธอย่างสุภาพเมื่อเจ้าภาพที่ใจดีคะยั้นคะยอคุณให้ดื่มโดยที่เขาไม่รู้ว่าคุณกำลังควบคุมการดื่ม. “ให้คำพูดของท่านทั้งหลายเป็นคำพูดที่แสดงความกรุณาเสมอเหมือนอาหารที่ปรุงด้วยเกลือ ท่านทั้งหลายจะได้รู้ว่าควรจะตอบแต่ละคนอย่างไร.”—โกโลซาย 4:6
7. แสวงหาการช่วยเหลือ. จงขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ ที่พร้อมจะช่วยและสามารถเสริมความตั้งใจแน่วแน่ของคุณให้ควบคุมการดื่มรวมทั้งช่วยให้คุณมีความเชื่อที่เข้มแข็งได้. “สองคนก็ดีกว่าคนเดียว, เพราะว่าเขาทั้งสองได้รับผลของงานดีกว่า. ด้วยว่าถ้าคนหนึ่งล้มลง, อีกคนหนึ่งจะได้พยุงยกเพื่อนของตนให้ลุกขึ้น.” (ท่านผู้ประกาศ 4:9, 10; ยาโกโบ 5:14, 16) สถาบันวิจัยการดื่มแอลกอฮอล์และการติดสุราแห่งชาติของสหรัฐให้คำแนะนำว่า “บางครั้งการดื่มให้น้อยลงอาจเป็นเรื่องยาก. จงขอความช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อนของคุณเพื่อจะทำตามที่ตั้งใจไว้ได้.”
8. อย่าเลิกล้มความตั้งใจของคุณ. “จงเป็นผู้ทำตามพระคำ ไม่ใช่เป็นเพียงผู้ฟังที่หลอกตัวเองด้วยการหาเหตุผลผิด ๆ. แต่ผู้ที่พินิจพิจารณากฎหมายอันสมบูรณ์ซึ่งเกี่ยวข้องกับเสรีภาพและยึดมั่นกับกฎหมายนั้น เขาจะมีความสุขที่ทำเช่นนั้น เพราะเขาไม่เป็นผู้ฟังที่หลงลืม แต่เป็นผู้ปฏิบัติตามพระคำ.”—ยาโกโบ 1:22, 25
วิธีเลิกแอลกอฮอล์
ไม่ใช่ทุกคนที่ดื่มมากเกินไปจะกลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์. แต่บางคนเริ่มดื่มมากเกินไป หรือบ่อยเกินไป จนพวกเขากลายเป็นคนติดแอลกอฮอล์. เนื่องจากการติดแอลกอฮอล์รวมถึงการที่ร่างกายและจิตใจต้องพึ่งสารที่ออกฤทธิ์ชนิดหนึ่ง การที่จะเลิกได้นั้นต้องมีมากกว่าความมุ่งมั่นและการช่วยเหลือทางศาสนา. แอลเลนเล่าว่า “ตอนที่ผมเลิกดื่มแอลกอฮอล์ ความเจ็บปวดที่เกิดจากการถอนนั้นมันมากเหลือเกิน. ตอนนั้นเองที่ผมได้ตระหนักว่านอกจากการช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมความเชื่อแล้ว ผมจำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ด้วย.”
* บางคนจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเพื่อรับมือกับอาการถอนที่ทรมาน หรือได้รับยาเพื่อบรรเทาการอยากแอลกอฮอล์อย่างรุนแรงและเพื่อจะไม่กลับไปดื่มอีก. พระบุตรของพระเจ้าผู้ทรงทำการอัศจรรย์ตรัสว่า “คนแข็งแรงไม่ต้องการหมอ แต่คนป่วยต้องการ.”—มาระโก 2:17
นักดื่มหลายคนจำเป็นต้องได้รับการเยียวยารักษาจากแพทย์เพื่อเสริมการต่อสู้ทางด้านจิตใจเพื่อจะเลิกดื่มและอยู่ห่างจากนิสัยดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป.ประโยชน์ของการทำตามคำแนะนำของพระเจ้า
คำแนะนำที่สุขุมของคัมภีร์ไบเบิลในเรื่องแอลกอฮอล์มาจากพระเจ้าเที่ยงแท้ผู้ประสงค์ให้เราได้รับสิ่งดีที่สุด ไม่เพียงความสุขในปัจจุบันเท่านั้น แต่เพื่อประโยชน์ถาวรของเราด้วย. หลังจากเลิกแอลกอฮอล์มาได้ยี่สิบสี่ปี แอลเลนเล่าว่า “เป็นเรื่องที่วิเศษมากที่ได้รู้ว่าผมสามารถเปลี่ยนเป็นคนละคนและได้รู้ว่าพระยะโฮวาประสงค์จะช่วยผมแก้ไขชีวิตให้ดีขึ้น และพระองค์ . . . ” แอลเลนหยุดครู่หนึ่งเพราะความทรงจำในอดีตทำให้เขาตื้นตัน. “ . . . ที่รู้ว่าพระยะโฮวาทรงสนใจและห่วงใยและจัดเตรียมความช่วยเหลือที่จำเป็นให้ ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริง ๆ.”
ฉะนั้น ถ้าคุณไม่สามารถควบคุมการดื่มแอลกอฮอล์ได้หรือติดแอลกอฮอล์ ก็อย่าด่วนท้อใจหรือสรุปว่าไม่มีหวังแล้ว. แอลเลนและคนอื่น ๆ อีกมากมายก็เคยเป็นเหมือนคุณ แต่พวกเขาได้ลดการดื่มแอลกอฮอล์ลงหรือไม่ก็เลิกดื่มไปเลย. พวกเขาไม่เสียใจเลย คุณก็จะไม่เสียใจเช่นกัน.
ไม่ว่าคุณจะเลือกดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่พอเหมาะหรือไม่ดื่มเลย ก็ขอให้ฟังคำวิงวอนด้วยความรักของพระเจ้าที่ว่า “โอ้ถ้าเจ้าได้เชื่อฟังคำสั่งของเราแล้ว, ความเจริญของเจ้าก็จะเป็นดังแม่น้ำไหล, และความชอบธรรมของเจ้าก็จะมีบริบูรณ์ดังคลื่นในมหาสมุทร.”—ยะซายา 48:18
[เชิงอรรถ]
^ วรรค 7 ดูกรอบ “แอลกอฮอล์กำลังควบคุมชีวิตคุณไหม?” หน้า 8.
^ วรรค 24 มีศูนย์บำบัดหรือโรงพยาบาลและโครงการฟื้นฟูมากมายที่จะช่วยได้. วารสารหอสังเกตการณ์ ไม่ได้สนับสนุนการรักษาแบบใดเป็นพิเศษ. แต่ละคนควรประเมินทางเลือกต่าง ๆ ในการรักษาอย่างรอบคอบแล้วตัดสินใจด้วยตนเองอย่างที่ไม่ขัดกับหลักการในคัมภีร์ไบเบิล.
[กรอบ/ภาพหน้า 8]
แอลกอฮอล์กำลังควบคุมชีวิตคุณไหม?
คุณอาจถามตัวเองดังนี้:
• ฉันดื่มแอลกอฮอล์มากกว่าที่เคยดื่มไหม?
• ฉันดื่มแอลกอฮอล์บ่อยกว่าที่เคยดื่มไหม?
• ฉันดื่มแอลกอฮอล์ชนิดที่แรงขึ้นไหม?
• ฉันดื่มเพื่อคลายเครียดหรือเพื่อหนีปัญหาไหม?
• มีเพื่อนหรือคนในครอบครัวเตือนฉันเรื่องการดื่มไหม?
• การดื่มสร้างปัญหาให้ฉันเมื่ออยู่ที่บ้าน, ที่ทำงาน, หรือเมื่อไปเที่ยวไหม?
• ฉันรู้สึกว่ายากที่จะไม่ดื่มแอลกอฮอล์สักหนึ่งอาทิตย์ไหม?
• ฉันรู้สึกหงุดหงิดเมื่อคนอื่น ๆ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ไหม?
• ฉันปิดบังไม่ให้คนอื่นรู้ว่าฉันดื่มมากแค่ไหนไหม?
ถ้าคุณตอบว่า ใช่ สำหรับคำถามหนึ่งข้อหรือมากกว่านั้น คุณก็อาจต้องวางมาตรการควบคุมการดื่มของคุณ.
[กรอบ/ภาพหน้า 9]
การตัดสินใจที่ฉลาดสุขุมในเรื่องการดื่มแอลกอฮอล์
ก่อนดื่มแอลกอฮอล์ควรพิจารณาเรื่องต่อไปนี้:
• สมควรไหม ที่ฉันจะดื่มแอลกอฮอล์ หรือควรงดเว้น?
คำแนะนำ: คนที่ไม่สามารถควบคุมการดื่มของตนได้ ควรงดดื่ม.
• ฉันควรดื่มมากแค่ไหน?
คำแนะนำ: กำหนดปริมาณแอลกอฮอล์ที่คุณจะดื่มได้โดยไม่กระทบต่อวิจารณญาณของคุณ?
• ฉันจะดื่มเมื่อไร?
คำแนะนำ: ไม่ดื่มก่อนขับรถหรือทำกิจกรรมที่ต้องตื่นตัว; ไม่ดื่มก่อนเข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนา; ไม่ดื่มเมื่อตั้งครรภ์; ไม่ดื่มพร้อมกับยาบางชนิด.
• ฉันจะดื่มที่ไหน?
คำแนะนำ: ดื่มในสถานที่ที่เหมาะสม; ไม่แอบดื่ม; ไม่ดื่มเมื่ออยู่ต่อหน้าคนที่ไม่ชอบแอลกอฮอล์.
• ฉันจะดื่มกับใคร?
คำแนะนำ: ดื่มกับเพื่อนที่ดี ๆ หรือกับคนในครอบครัว; ไม่ดื่มกับคนที่มีปัญหาเรื่องการดื่ม.
[กรอบ/ภาพหน้า 10]
พระคำของพระเจ้าช่วยคนที่เคยติดเหล้า
ชาวไทยคนหนึ่งชื่อสุพจน์ เคยเป็นคนดื่มจัด. ทีแรกเขาดื่มเฉพาะตอนเย็น. แต่แล้วเขาก็เริ่มดื่มตอนเช้า ต่อมาก็ตอนเที่ยงด้วย. บ่อยครั้งเขาดื่มเพียงเพื่อให้เมาเท่านั้น. แต่ภายหลังเขาเริ่มศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับพยานพระยะโฮวา. เมื่อได้เรียนรู้ว่าพระยะโฮวาพระเจ้าไม่ยอมรับการเมาเหล้า สุพจน์ก็เลิกดื่ม. แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็กลับไปดื่มอีก. ครอบครัวของเขาผิดหวังมาก.
อย่างไรก็ตาม สุพจน์ยังรักพระยะโฮวาอยู่และต้องการนมัสการพระองค์อย่างถูกต้อง. เพื่อน ๆ ของสุพจน์พยายามช่วยเขาและสนับสนุนให้ครอบครัวใช้เวลากับเขามากขึ้นและช่วยเขาต่อ ๆ ไป. ในตอนนั้น คำกล่าวที่ตรงไปตรงมาใน 1 โครินท์ 6:10 ที่ว่า ‘คนขี้เมาจะไม่ได้รับราชอาณาจักรของพระเจ้า’ ได้ช่วยสุพจน์ให้มองเห็นว่าการเป็นคนขี้เมานั้นเป็นเรื่องร้ายแรงแค่ไหน. เขาได้ตระหนักว่าจำเป็นต้องพยายามอย่างจริงจังเพื่อจะเอาชนะปัญหาการดื่มของตัวเอง.
คราวนี้สุพจน์ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะเลิกดื่มอย่างเด็ดขาด. ในที่สุด ด้วยพลังจากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระเจ้า, การชี้นำจากพระคำของพระเจ้า, และการช่วยเหลือจากครอบครัวและเพื่อนคริสเตียน สุพจน์จึงมีความเชื่อที่เข้มแข็งและเอาชนะความอยากแอลกอฮอล์ได้. ครอบครัวของเขามีความยินดีเมื่อเขารับบัพติสมาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการอุทิศตัวแด่พระเจ้า. ตอนนี้สุพจน์มีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับพระเจ้าซึ่งเป็นสิ่งที่เขาปรารถนามาตลอด และเขาใช้เวลาเพื่อช่วยคนอื่น ๆ ให้เรียนรู้จักพระเจ้า.