ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เขาภักดีเมื่อเผชิญการทดสอบ

เขาภักดีเมื่อเผชิญการทดสอบ

จง​เลียน​แบบ​ความ​เชื่อ​ของ​เขา

เขา​ภักดี​เมื่อ​เผชิญ​การ​ทดสอบ

เปโตร​มอง​ไป​รอบ ๆ เขา​รู้สึก​กังวล​ขณะ​มอง​หน้า​ผู้​คน​ที่​ฟัง​พระ​เยซู​อยู่. พวก​เขา​อยู่​ใน​ธรรมศาลา​ใน​เมือง​คาเปอร์นาอุม. บ้าน​ของ​เปโตร​อยู่​ใน​เมือง​นี้ เขา​ทำ​ธุรกิจ​ประมง​ที่​นี่ บน​ชายฝั่ง​ทะเล​แกลิลี เพื่อน​และ​ญาติ ๆ หลาย​คน​รวม​ทั้ง​คน​ที่​เขา​ติด​ต่อ​ค้า​ขาย​ด้วย​ก็​อยู่​ที่​นี่. ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า เปโตร​คง​อยาก​จะ​รู้​เหลือ​เกิน​ว่า​ผู้​คน​เมือง​เดียว​กัน​กับ​เขา​จะ​มอง​พระ​เยซู​อย่าง​ที่​เขา​มอง​ไหม พวก​เขา​จะ​ตื่นเต้น​ไหม​ที่​ได้​เรียน​รู้​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า​จาก​ครู​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​องค์​นี้. ดู​เหมือน​ว่า​วัน​นี้​พวก​เขา​ไม่​ได้​เป็น​อย่าง​นั้น.

หลาย​คน​เลิก​ฟัง​พระองค์. บาง​คน​ก็​บ่น​เสียง​ดัง​ไม่​พอ​ใจ​กับ​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส. แต่​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เปโตร​กังวล​ใจ​มาก​ที่​สุด​ก็​คือ​ปฏิกิริยา​ของ​สาวก​บาง​คน​ของ​พระ​เยซู. ใบ​หน้า​ของ​พวก​เขา​ไม่​ได้​แสดง​ให้​เห็น​อีก​ต่อ​ไป​ว่า​พวก​เขา​มี​ความ​สุข​ที่​ได้​เข้าใจ​เรื่อง​สำคัญ พวก​เขา​ไม่​ตื่นเต้น​ที่​ได้​ยิน​เรื่อง​ใหม่ ๆ ไม่​ยินดี​ที่​ได้​เรียน​รู้​ความ​จริง. ตอน​นี้​พวก​เขา​ดู​ข้องขัดใจ กระทั่ง​เป็น​ทุกข์. บาง​คน​พูด​ออก​มา​ว่า​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​นั้น​รับ​ไม่​ได้. เนื่อง​จาก​ไม่​ต้องการ​ฟัง​อีก​ต่อ​ไป พวก​เขา​จึง​ออก​ไป​จาก​ธรรมศาลา แล้ว​ก็​เลิก​ติด​ตาม​พระ​เยซู​ด้วย.

นั่น​เป็น​ช่วง​ที่​ลำบาก​ใจ​สำหรับ​เปโตร​และ​เพื่อน​อัครสาวก​เช่น​กัน. เปโตร​ไม่​เข้าใจ​เรื่อง​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ใน​วัน​นั้น​อย่าง​เต็ม​ที่. ไม่​ต้อง​สงสัย เขา​คง​มอง​ออก​ว่า​ทำไม​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​เมื่อ​ฟัง​เผิน ๆ อาจ​ทำ​ให้​ขุ่นเคือง​ได้. แต่​เปโตร​จะ​ทำ​อย่าง​ไร? นี่​ไม่​ใช่​ครั้ง​แรก​ที่​ความ​ภักดี​ของ​เขา​ต่อ​ผู้​เป็น​นาย​ถูก​ทดสอบ และ​ไม่​ใช่​ครั้ง​สุด​ท้าย. ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​ความ​เชื่อ​ของ​เปโตร​ได้​ช่วย​เขา​อย่าง​ไร​ให้​เอา​ชนะ​ข้อ​ท้าทาย​เหล่า​นี้​และ​ยัง​คง​ภักดี​ต่อ​ไป.

ภักดี​แม้​คน​อื่น​ไม่​ภักดี

เปโตร​พบ​ว่า​พระ​เยซู​มัก​ทำ​ให้​เขา​ประหลาด​ใจ​อยู่​บ่อย ๆ. ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​นาย​ของ​เขา​ได้​ทำ​และ​พูด​แบบ​ที่​ตรง​กัน​ข้าม​กับ​สิ่ง​ที่​ผู้​คน​คาด​หมาย. ก่อน​หน้า​นั้น​เพียง​หนึ่ง​วัน พระ​เยซู​เพิ่ง​ทำ​การ​อัศจรรย์​เลี้ยง​อาหาร​ฝูง​ชน​หลาย​พัน​คน. ผู้​คน​จึง​พยายาม​จะ​ตั้ง​พระองค์​เป็น​กษัตริย์. แต่​พระองค์​ก็​ทำ​ให้​หลาย​คน​ประหลาด​ใจ​เมื่อ​เสด็จ​ไป​จาก​ที่​นั่น​และ​สั่ง​ให้​พวก​สาวก​ลง​เรือ​และ​ข้าม​ไป​ยัง​คาเปอร์นาอุม. เมื่อ​พวก​สาวก​ข้าม​ฝั่ง​มา​ใน​ตอน​กลางคืน พระ​เยซู​ก็​ทำ​ให้​พวก​เขา​ประหลาด​ใจ​อีก​ด้วย​การ​เดิน​บน​ทะเล​แกลิลี​ขณะ​มี​พายุ และ​สอน​บทเรียน​สำคัญ​เรื่อง​ความ​เชื่อ​ให้​แก่​เปโตร. *

ใน​ตอน​เช้า ไม่​ช้า​พวก​เขา​ก็​พบ​ว่า​ฝูง​ชน​ได้​ลง​เรือ​ตาม​พวก​เขา​มา. แต่​เห็น​ได้​ชัด​ว่า ผู้​คน​ติด​ตาม​พระ​เยซู​มา​เพื่อ​จะ​ได้​เห็น​พระองค์​เลี้ยง​อาหาร​ด้วย​การ​อัศจรรย์​อีก ไม่​ใช่​เพราะ​พวก​เขา​ต้องการ​เรียน​รู้​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​พระเจ้า. พระ​เยซู​ทรง​ตำหนิ​พวก​เขา​ที่​ฝักใฝ่​แต่​เรื่อง​ทาง​กาย. มี​การ​สนทนา​เรื่อง​นี้​อีก​ที่​ธรรมศาลา​ใน​เมือง​คาเปอร์นาอุม และ​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​พระ​เยซู​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​ไม่​มี​ใคร​คาด​คิด​เมื่อ​พยายาม​สอน​ความ​จริง​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​สำคัญ​แต่​เข้าใจ​ยาก.

พระ​เยซู​ไม่​ต้องการ​ให้​ผู้​คน​มอง​พระองค์​เป็น​เพียง​ผู้​ประทาน​อาหาร​เลี้ยง​พวก​เขา​เท่า​นั้น แต่​เป็น​ผู้​ที่​พระเจ้า​ทรง​ส่ง​มา ซึ่ง​ชีวิต​และ​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์​จะ​ช่วย​คน​อื่น​ให้​มี​โอกาส​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์. ดัง​นั้น พระ​เยซู​จึง​เปรียบ​พระองค์​เป็น​เหมือน​มานา อาหาร​ที่​มา​จาก​สวรรค์​ใน​สมัย​ของ​โมเซ. เมื่อ​มี​บาง​คน​คัดค้าน พระองค์​ได้​อธิบาย​ให้​เห็น​ภาพ​ชัดเจน​โดย​ตรัส​ว่า​เพื่อ​จะ​ได้​ชีวิต​พวก​เขา​จำเป็น​ต้อง​กิน​เนื้อ​และ​ดื่ม​โลหิต​ของ​พระองค์. เมื่อ​ตรัส​เช่น​นี้​ผู้​คน​ก็​ยิ่ง​ไม่​เห็น​ด้วย. บาง​คน​กล่าว​ว่า “พระองค์​ตรัส​อะไร​อย่าง​นี้ ใคร​จะ​รับ​ได้?” หลาย​คน​ที่​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู​เอง​ก็​ตัดสิน​ใจ​เลิก​ติด​ตาม​พระองค์. *โยฮัน 6:48-60, 66

เปโตร​จะ​ทำ​อย่าง​ไร? เขา​คง​ประหลาด​ใจ​กับ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​เช่น​กัน. เขา​ยัง​ไม่​เข้าใจ​ที่​พระ​เยซู​ต้อง​สิ้น​พระ​ชนม์​เพื่อ​จะ​ทำ​ให้​พระทัย​ของ​พระเจ้า​สำเร็จ. แต่​เปโตร​รู้สึก​อยาก​ทำ​เหมือน​กับ​พวก​สาวก​ที่​โลเล​ซึ่ง​ทิ้ง​พระ​เยซู​ไป​ใน​วัน​นั้น​ไหม? ไม่​เลย มี​บาง​สิ่ง​ที่​สำคัญ​ซึ่ง​ทำ​ให้​เปโตร​ไม่​เหมือน​กับ​คน​เหล่า​นั้น. สิ่ง​นั้น​คือ​อะไร?

พระ​เยซู​หัน​มา​หา​พวก​อัครสาวก​และ​ตรัส​ว่า “พวก​เจ้า​ไม่​อยาก​ไป​ด้วย​หรือ?” (โยฮัน 6:67) พระองค์​ตรัส​กับ​ทั้ง 12 คน แต่​เปโตร​เป็น​คน​ตอบ ซึ่ง​ก็​มัก​จะ​เป็น​เช่น​นั้น​บ่อย ๆ. เปโตร​อาจ​เป็น​คน​ที่​อายุ​มาก​ที่​สุด​ใน​หมู่​พวก​เขา. ไม่​ว่า​จะ​อย่าง​ไร ที่​แน่ ๆ ก็​คือ​เขา​เป็น​คน​ที่​กล้า​พูด​มาก​กว่า​ใคร และ​ดู​เหมือน​ว่า​มี​น้อย​ครั้ง​ที่​เปโตร​ลังเล​ที่​จะ​พูด​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​ใจ​เขา​ออก​มา. ใน​ครั้ง​นี้ สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​ใจ​ของ​เขา​นั้น​ได้​ถ่ายทอด​ออก​มา​เป็น​คำ​พูด​ที่​ซาบซึ้ง​และ​น่า​จด​จำ​ที่​ว่า “พระองค์​เจ้าข้า พวก​ข้าพเจ้า​จะ​ไป​หา​ผู้​ใด​เล่า? พระองค์​ทรง​มี​ถ้อย​คำ​ที่​ให้​ชีวิต​นิรันดร์.”—โยฮัน 6:68

คุณ​คง​ซาบซึ้ง​กับ​คำ​กล่าว​นี้​มิ​ใช่​หรือ? ความ​เชื่อ​ที่​เปโตร​มี​ใน​พระ​เยซู​ได้​ช่วย​เขา​ให้​พัฒนา​คุณลักษณะ​ที่​โดด​เด่น นั่น​คือ​ความ​ภักดี. เปโตร​เข้าใจ​ชัดเจน​ว่า​ไม่​มี​ผู้​อื่น​ที่​ช่วย​ให้​รอด​นอก​จาก​พระ​เยซู และ​เข้าใจ​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​ช่วย​ให้​รอด​ด้วย​คำ​ตรัส​ต่าง ๆ ซึ่ง​ได้​แก่​คำ​สอน​ของ​พระองค์​เกี่ยว​กับ​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า. เปโตร​รู้​ว่า​แม้​จะ​มี​บาง​อย่าง​ที่​เขา​ไม่​เข้าใจ แต่​ก็​ไม่​มี​ที่​ไหน​อีก​แล้ว​ที่​จะ​ไป​ถ้า​เขา​ต้องการ​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​จาก​พระเจ้า​และ​ได้​รับ​พระ​พร​คือ​ชีวิต​นิรันดร์.

คุณ​รู้สึก​เช่น​นั้น​ด้วย​ไหม? น่า​เสียดาย​ที่​หลาย​คน​ใน​โลก​ทุก​วัน​นี้​อ้าง​ว่า​รัก​พระ​เยซู แต่​ไม่​ได้​ภักดี​ต่อ​พระองค์​เมื่อ​ถูก​ทดสอบ. หาก​เรา​ภักดี​ต่อ​พระ​คริสต์​อย่าง​แท้​จริง เรา​ก็​ต้อง​มี​ทัศนะ​แบบ​เปโตร​ใน​เรื่อง​คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู. เรา​จำเป็น​ต้อง​เรียน​รู้​คำ​สอน​เหล่า​นั้น, ต้อง​เข้าใจ​ความ​หมาย, และ​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​คำ​สอน​นั้น แม้​เมื่อ​คำ​สอน​นั้น​อาจ​ทำ​ให้​เรา​ประหลาด​ใจ​เนื่อง​จาก​ไม่​ตรง​กับ​ความ​คาด​หมาย​ของ​เรา​หรือ​ความ​ชอบ​ส่วน​ตัว​ของ​เรา. เฉพาะ​เมื่อ​เรา​พิสูจน์​ตัว​ภักดี​เท่า​นั้น เรา​จึง​หวัง​ได้​ว่า​จะ​ได้​รับ​ชีวิต​นิรันดร์​ซึ่ง​พระ​เยซู​ต้องการ​ให้​เรา​ได้​รับ.

ภักดี​เมื่อ​ถูก​ว่า​กล่าว​แก้ไข

ไม่​นาน​หลัง​จาก​ช่วง​ที่​ยุ่งยาก​นั้น พระ​เยซู​ได้​พา​อัครสาวก​และ​สาวก​บาง​คน​เดิน​ทาง​ไกล​ขึ้น​ไป​ทาง​เหนือ. ยอด​เขา​ที่​ปก​คลุม​ไป​ด้วย​หิมะ​ของ​ภูเขา​เฮอร์โมน​ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​สุด​เขต​ด้าน​เหนือ​ของ​แผ่นดิน​ตาม​คำ​สัญญา บาง​ครั้ง​สามารถ​มอง​เห็น​ได้​จาก​เงา​สะท้อน​ใน​น้ำ​สี​คราม​ของ​ทะเล​แกลิลี. ภูเขา​ลูก​นั้น​ยิ่ง​ดู​สูง​ขึ้น​ขณะ​ที่​พระ​เยซู​กับ​เหล่า​สาวก​เข้า​ไป​ใกล้​เมื่อ​เดิน​ไป​ตาม​ภูมิ​ประเทศ​ที่​สูง​ขึ้น​เรื่อย ๆ จน​ถึง​หมู่​บ้าน​ต่าง ๆ ใกล้​กับ​เมือง​ซีซาเรีย​ฟิลิปปี. * ท่ามกลาง​ทิวทัศน์​ที่​สวย​งาม​นี้​ซึ่ง​มอง​เห็น​แผ่นดิน​ตาม​คำ​สัญญา​ที่​อยู่​ทาง​ใต้​เกือบ​ทั้ง​หมด พระ​เยซู​ทรง​ถาม​เหล่า​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์​ด้วย​คำ​ถาม​สำคัญ​ข้อ​หนึ่ง.

พระองค์​ต้องการ​ทราบ​ว่า “ผู้​คน​พูด​กัน​ว่า​เรา​เป็น​ผู้​ใด?” เรา​คง​นึก​ภาพ​ได้​ว่า​เปโตร​กำลัง​มอง​เข้า​ไป​ใน​พระ​เนตร​ที่​สะท้อน​ถึง​ความ​เข้าใจ​อย่าง​ลึกซึ้ง และ​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ที่​เขา​รู้สึก​ได้​ถึง​ความ​กรุณา​และ​ปัญญา​อัน​ล้ำ​เลิศ​ของ​นาย​ของ​เขา. พระ​เยซู​อยาก​ทราบ​ว่า​ผู้​ที่​ฟัง​พระองค์​มี​ความ​คิด​เห็น​อย่าง​ไร​กับ​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ได้​เห็น​และ​ได้​ยิน. สาวก​ของ​พระ​เยซู​ตอบ​คำ​ถาม​โดย​พูด​ถึง​ความ​คิด​ผิด ๆ ของ​ผู้​คน​ทั่ว​ไป​ใน​เรื่อง​ที่​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ใคร. แต่​พระ​เยซู​ต้องการ​ทราบ​มาก​กว่า​นั้น. ผู้​ติด​ตาม​ที่​ใกล้​ชิด​ของ​พระองค์​มี​ความ​คิด​ที่​ผิด ๆ เช่น​นั้น​ด้วย​ไหม? พระองค์​ทรง​ถาม​ว่า “ถ้า​เช่น​นั้น พวก​เจ้า​ว่า​เรา​เป็น​ผู้​ใด?”—ลูกา 9:18-22

อีก​ครั้ง​หนึ่ง เปโตร​รีบ​ตอบ​ทันที. เขา​พูด​อย่าง​ชัดเจน​และ​กล้า​หาญ​ซึ่ง​ตรง​กับ​ความ​คิด​ของ​หลาย​คน​ที่​อยู่​ที่​นั่น. เขา​ตอบ​ว่า “พระองค์​เป็น​พระ​คริสต์ พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า​ผู้​ทรง​พระ​ชนม์​อยู่.” เรา​คง​นึก​ภาพ​ออก​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​ยิ้ม​ให้​เปโตร​ด้วย​ความ​พอ​พระทัย​และ​ชมเชย​เขา​อย่าง​อบอุ่น. พระ​เยซู​ทรง​เตือน​ใจ​เปโตร​ว่า​ผู้​ที่​ช่วย​ให้​คน​ที่​มี​ความ​เชื่อ​แท้​ได้​เข้าใจ​ความ​จริง​สำคัญ​นี้​มิ​ใช่​มนุษย์ แต่​เป็น​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า. เปโตร​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​ให้​เข้าใจ​ความ​จริง​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​เรื่อง​หนึ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทรง​เปิด​เผย นั่น​คือ ใคร​คือ​พระ​มาซีฮา​หรือ​พระ​คริสต์​ตาม​ที่​ได้​สัญญา​ไว้​นาน​มา​แล้ว!—มัดธาย 16:16, 17

พระ​คริสต์​องค์​นี้​คือ​ผู้​ที่​ถูก​เรียก​ใน​คำ​พยากรณ์​เก่า​แก่​ว่า​เป็น​หิน​ที่​ช่าง​ก่อ​ได้​ทิ้ง​เสีย. (บทเพลง​สรรเสริญ 118:22; ลูกา 20:17) เมื่อ​นึก​ถึง​คำ​พยากรณ์​เหล่า​นั้น พระ​เยซู​ทรง​เปิด​เผย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​จะ​ทรง​ตั้ง​ประชาคม​หนึ่ง​บน​หิน​หรือ​ศิลา​นั้น ซึ่ง​เปโตร​เพิ่ง​ได้​ระบุ​ว่า​หมาย​ถึง​ใคร. * จาก​นั้น​พระองค์​ได้​มอบ​สิทธิ​พิเศษ​ที่​สำคัญ​มาก​บาง​อย่าง​ใน​ประชาคม​นั้น​ให้​แก่​เปโตร. พระองค์​ไม่​ได้​ให้​เปโตร​มี​ฐานะ​เหนือ​กว่า​อัครสาวก​คน​อื่น ๆ อย่าง​ที่​บาง​คน​คิด​กัน แต่​พระองค์​ทรง​มอบ​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ให้​เขา. พระองค์​ทรง​ให้ “ลูก​กุญแจ​แห่ง​ราชอาณาจักร” แก่​เปโตร. (มัดธาย 16:19) เปโตร​จะ​เป็น​ผู้​ที่​เปิด​โอกาส​ให้​มนุษย์​สาม​กลุ่ม​มี​ความ​หวัง​ที่​จะ​เข้า​สู่​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า อันดับ​แรก​คือ​ชาว​ยิว, จาก​นั้น​ก็​ชาว​ซะมาเรีย, และ​สุด​ท้าย​คือ​ชน​ต่าง​ชาติ​หรือ​คน​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​ยิว.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ต่อ​มา​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า​คน​ที่​ได้​รับ​มาก​จะ​ถูก​เรียก​เอา​มาก และ​ข้อ​นี้​เป็น​จริง​ใน​กรณี​ของ​เปโตร​ด้วย. (ลูกา 12:48) พระ​เยซู​ทรง​เปิด​เผย​ความ​จริง​ที่​สำคัญ​ต่อ​ไป​เกี่ยว​กับ​พระ​มาซีฮา รวม​ทั้ง​การ​ที่​พระองค์​จะ​ต้อง​ทน​ทุกข์​และ​สิ้น​พระ​ชนม์​ใน​กรุง​เยรูซาเลม​ใน​ไม่​ช้า​อย่าง​ที่​ไม่​อาจ​เลี่ยง​ได้. เปโตร​ไม่​สบาย​ใจ​ที่​ได้​ยิน​เช่น​นั้น. เขา​ดึง​พระองค์​ออก​มา​แล้ว​ทัด​ทาน​ว่า “พระองค์​เจ้าข้า ทรง​กรุณา​พระองค์​เอง​เถิด พระองค์​จะ​ไม่​ประสบ​เหตุ​การณ์​เช่น​นั้น​เลย.”—มัดธาย 16:21, 22

แน่นอน​ว่า​เปโตร​มี​เจตนา​ดี ดัง​นั้น คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ที่​ตอบ​กลับ​มา​คง​ต้อง​ทำ​ให้​เขา​ตกตะลึง. พระองค์​ทรง​หัน​หลัง​ให้​เปโตร​แล้ว​มอง​ไป​ยัง​สาวก​คน​อื่น ๆ ซึ่ง​คง​จะ​คิด​เช่น​เดียว​กับ​เปโตร และ​ตรัส​ว่า “ซาตาน, จง​ถอย​ไป​ข้าง​หลัง​เรา. เจ้า​เป็น​เหมือน​ก้อน​หิน​ที่​ให้​เรา​สะดุด เจ้า​มิ​ได้​คิด​ตาม​พระ​ดำริ​ของ​พระเจ้า​แต่​ตาม​ความ​คิด​ของ​มนุษย์.” (มัดธาย 16:23, OV​83; มาระโก 8:32, 33) คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​มี​คำ​แนะ​นำ​ที่​เป็น​ประโยชน์​ต่อ​เรา​ทุก​คน. เป็น​เรื่อง​ง่าย​สัก​เพียง​ไร​ที่​จะ​ปล่อย​ให้​ความ​คิด​ของ​มนุษย์​มี​ความ​สำคัญ​กว่า​ความ​คิด​ของ​พระเจ้า. ถ้า​เรา​ทำ​อย่าง​นั้น แม้​มี​เจตนา​ที่​จะ​ช่วย เรา​ก็​อาจ​กลาย​เป็น​ผู้​สนับสนุน​จุด​ประสงค์​ของ​ซาตาน​โดย​ไม่​รู้​ตัว​แทน​ที่​จะ​เป็น​ผู้​สนับสนุน​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า. แต่​เปโตร​ตอบ​อย่าง​ไร?

เขา​รู้​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​เขา​เป็น​ซาตาน​พญา​มาร​จริง ๆ. ที่​จริง พระ​เยซู​ไม่​ได้​ตรัส​กับ​เปโตร​เหมือน​ที่​ได้​ตรัส​กับ​ซาตาน. พระ​เยซู​ตรัส​กับ​ซาตาน​ว่า “ไป​ให้​พ้น” แต่​ตรัส​กับ​เปโตร​ว่า “จง​ถอย​ไป​ข้าง​หลัง​เรา.” (มัดธาย 4:10) พระ​เยซู​ไม่​ได้​ไล่​อัครสาวก​คน​นี้​ซึ่ง​พระองค์​เห็น​ว่า​มี​ความ​ดี​มาก​มาย​ใน​ตัว​เขา พระองค์​เพียง​แต่​แก้ไข​ความ​คิด​ที่​ผิด​ของ​เขา​ใน​เรื่อง​นี้​เท่า​นั้น. เรา​เข้าใจ​ได้​ไม่​ยาก​ว่า​เปโตร​จำ​ต้อง​เลิก​เป็น​หิน​สะดุด​อยู่​ข้าง​หน้า​นาย​ของ​เขา​แล้ว​ถอย​ไป​อยู่​ข้าง​หลัง​พระองค์​ฐานะ​ผู้​ติด​ตาม​ที่​คอย​สนับสนุน.

เปโตร​โต้​เถียง, โกรธ, หรือ​บึ้ง​ตึง​ไม่​พูด​จา​ไหม? ไม่​เลย เขา​ยอม​รับ​การ​แก้ไข​อย่าง​ถ่อม​ใจ. นี่​เป็น​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ที่​เขา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​มี​ความ​ภักดี. ทุก​คน​ที่​ติด​ตาม​พระ​คริสต์​อาจ​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​การ​แก้ไข​เป็น​ครั้ง​คราว. เฉพาะ​เมื่อ​เรา​ยอม​รับ​การ​ตี​สอน​อย่าง​ถ่อม​ใจ​และ​เรียน​รู้​จาก​การ​ตี​สอน​เท่า​นั้น เรา​จึง​จะ​ใกล้​ชิด​ยิ่ง​ขึ้น​กับ​พระ​เยซู​คริสต์​และ​พระ​ยะโฮวา​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​ได้​ต่อ ๆ ไป.—สุภาษิต 4:13

ความ​ภักดี​ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน

ไม่​นาน​หลัง​จาก​นั้น​พระ​เยซู​ตรัส​ถ้อย​คำ​ที่​ทำ​ให้​ประหลาด​ใจ​ว่า “เรา​บอก​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ตาม​จริง​ว่า บาง​คน​ที่​ยืน​อยู่​ที่​นี่​จะ​ไม่​ตาย​จน​กว่า​พวก​เขา​จะ​เห็น​บุตร​มนุษย์​มา​ใน​ฐานะ​กษัตริย์​เสีย​ก่อน.” (มัดธาย 16:28) ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​คง​ทำ​ให้​เปโตร​สงสัย​แน่ ๆ. เขา​คง​จะ​สงสัย​ว่า​พระ​เยซู​หมาย​ความ​ว่า​อย่าง​ไร? บาง​ที​เปโตร​อาจ​คิด​ว่า​ตน​เอง​คง​จะ​ไม่​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​นั้น​เพราะ​เพิ่ง​ถูก​ว่า​กล่าว​แก้ไข​อย่าง​รุนแรง.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม หลัง​จาก​นั้น​หนึ่ง​สัปดาห์ พระ​เยซู​ได้​พา​ยาโกโบ, โยฮัน, และ​เปโตร​ขึ้น​ไป​บน “ภูเขา​สูง” บาง​ที​อาจ​เป็น​ภูเขา​เฮอร์โมน ซึ่ง​อยู่​ห่าง​ออก​ไป​ไม่​กี่​กิโลเมตร. ดู​เหมือน​ว่า​ตอน​นั้น​เป็น​เวลา​กลางคืน​เนื่อง​จาก​สาวก​ทั้ง​สาม​คน​กำลัง​ง่วง​มาก. แต่​เมื่อ​พระ​เยซู​อธิษฐาน​ก็​มี​บาง​สิ่ง​เกิด​ขึ้น​ซึ่ง​ทำ​ให้​พวก​เขา​หาย​ง่วง​เป็น​ปลิด​ทิ้ง.—มัดธาย 17:1; ลูกา 9:28, 29, 32

พระ​เยซู​เริ่ม​เปลี่ยน​ไป​ต่อ​หน้า​พวก​เขา. พระ​พักตร์​ของ​พระองค์​เริ่ม​มี​แสง​เรือง ๆ และ​ค่อย ๆ สว่าง​ขึ้น​จน​เจิดจ้า​เหมือน​ดวง​อาทิตย์. ฉลองพระองค์​ก็​ขาว​แวว​วาว. แล้ว​มี​ชาย​สอง​คน​อยู่​กับ​พระ​เยซู คน​หนึ่ง​ดู​เหมือน​โมเซ​และ​อีก​คน​หนึ่ง​เหมือน​เอลียาห์. พวก​เขา​ได้​สนทนา​กับ​พระองค์​เรื่อง “การ​จาก​ไป​ของ​พระองค์​ซึ่ง​จะ​ต้อง​เกิด​ขึ้น​ที่​กรุง​เยรูซาเลม” ซึ่ง​เห็น​ได้​ชัด​ว่า​หมาย​ถึง​การ​ที่​พระองค์​จะ​สิ้น​พระ​ชนม์​และ​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​ฟื้น​คืน​พระ​ชนม์. ปรากฏ​ชัด​ว่า​เปโตร​เป็น​ฝ่าย​ผิด​ที่​พูด​ว่า​พระ​เยซู​จะ​ไม่​เจอ​กับ​ประสบการณ์​ที่​เจ็บ​ปวด​เช่น​นั้น!—ลูกา 9:30, 31

เปโตร​รู้สึก​ว่า​เขา​จำเป็น​ต้อง​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​นิมิต​ที่​น่า​อัศจรรย์​นี้​ไม่​ทาง​ใด​ก็​ทาง​หนึ่ง. ดู​เหมือน​ว่า​โมเซ​กับ​เอลียาห์​กำลัง​จะ​จาก​พระ​เยซู​ไป. เปโตร​จึง​พูด​ขึ้น​มา​ว่า “อาจารย์ ดี​ที่​พวก​เรา​อยู่​ที่​นี่ ให้​พวก​ข้าพเจ้า​ตั้ง​พลับพลา​ขึ้น​สาม​หลัง​เถิด หลัง​หนึ่ง​สำหรับ​พระองค์ หลัง​หนึ่ง​สำหรับ​โมเซ อีก​หลัง​หนึ่ง​สำหรับ​เอลียาห์.” แน่​ละ บุคคล​ใน​ภาพ​นิมิต​ซึ่ง​ดู​เหมือน​ผู้​รับใช้​สอง​คน​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​เสีย​ชีวิต​ไป​นาน​แล้ว​ไม่​จำเป็น​ต้อง​มี​พลับพลา. เปโตร​ไม่​รู้​จริง ๆ ว่า​พูด​อะไร​ออก​ไป. คุณ​คง​รู้สึก​ประทับใจ​ชาย​คน​นี้​เพราะ​ความ​กระตือรือร้น​และ​จิตใจ​ดี​ของ​เขา​มิ​ใช่​หรือ?—ลูกา 9:33

เขา​และ​ยาโกโบ​กับ​โยฮัน​ได้​รับ​สิทธิ​พิเศษ​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ใน​คืน​นั้น. ขณะ​ที่​ยัง​อยู่​บน​ภูเขา​เมฆ​ก้อน​หนึ่ง​ก่อ​ตัว​ขึ้น​และ​ปก​คลุม​พวก​เขา. มี​เสียง​พูด​ออก​มา​จาก​เมฆ​นั้น ซึ่ง​ก็​คือ​พระ​สุรเสียง​ของ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​นั่น​เอง! พระองค์​ตรัส​ว่า “นี่​คือ​บุตร​ของ​เรา ผู้​ที่​เรา​เลือก​ไว้. จง​ฟัง​ท่าน​เถิด.” หลัง​จาก​นั้น นิมิต​ก็​จบ​ลง และ​พวก​เขา​อยู่​เพียง​ลำพัง​กับ​พระ​เยซู​บน​ภูเขา​นั้น.—ลูกา 9:34-36

ภาพ​นิมิต​นั้น​เป็น​สิ่ง​ที่​พิเศษ​จริง ๆ สำหรับ​เปโตร และ​สำหรับ​เรา​ด้วย! หลาย​สิบ​ปี​ต่อ​มา​เขา​ได้​เขียน​ถึง​สิทธิ​พิเศษ​ที่​ได้​รับ​ใน​คืน​นั้น​ที่​ได้​เป็น​หนึ่ง​ใน ‘พยาน​รู้​เห็น​เรื่อง​ความ​สง่า​งาม​ของ​พระองค์’ ซึ่ง​จริง ๆ แล้ว​เป็น​การ​เห็น​ภาพ​ล่วง​หน้า​ตอน​ที่​พระ​เยซู​ได้​รับ​สง่า​ราศี​ฐานะ​กษัตริย์​ใน​สวรรค์. นิมิต​นั้น​ยืน​ยัน​คำ​พยากรณ์​หลาย​ข้อ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า และ​เสริม​ความ​เชื่อ​ของ​เปโตร​เพื่อ​รับมือ​กับ​การ​ทดสอบ​ที่​จะ​มี​มา​ใน​วัน​ข้าง​หน้า. (2 เปโตร 1:16-19) นิมิต​นั้น​สามารถ​ช่วย​เรา​ได้​เช่น​เดียว​กัน​ถ้า​เรา​เป็น​เหมือน​เปโตร​โดย​รักษา​ความ​ภักดี​ต่อ​นาย​ของ​เรา​ผู้​ซึ่ง​พระ​ยะโฮวา​ได้​แต่ง​ตั้ง​ไว้​เพื่อ​ดู​แล​เรา โดย​เรียน​รู้​จาก​พระองค์ ยอม​รับ​การ​ตี​สอน​และ​การ​แก้ไข​จาก​พระองค์ และ​ติด​ตาม​พระองค์​ด้วย​ความ​ถ่อม​ใจ​วัน​แล้ว​วัน​เล่า.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 9 เห็น​ได้​ชัด​ว่า​ฝูง​ชน​ที่​ธรรมศาลา​เป็น​คน​ที่​ไม่​เสมอ​ต้น​เสมอ​ปลาย​เมื่อ​เทียบ​ปฏิกิริยา​ของ​พวก​เขา​ต่อ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ใน​ครั้ง​นี้​กับ​คำ​กล่าว​ของ​พวก​เขา​เพียง​หนึ่ง​วัน​ก่อน​หน้า​นั้น​ที่​พูด​อย่าง​ตื่นเต้น​ว่า พระองค์​เป็น​ผู้​พยากรณ์​ของ​พระเจ้า.—โยฮัน 6:14

^ วรรค 15 เมื่อ​เดิน​ทาง​จาก​ชายฝั่ง​ทะเล​แกลิลี​ที่​อยู่​ต่ำ​กว่า​ระดับ​น้ำ​ทะเล​ประมาณ 210 เมตร​ไป​เป็น​ระยะ​ทาง 48 กิโลเมตร​โดย​ผ่าน​ภูมิภาค​ต่าง ๆ ที่​งดงาม​เป็น​ธรรมชาติ พระ​เยซู​กับ​สาวก​ก็​มา​ถึง​บริเวณ​ที่​สูง​กว่า​ระดับ​น้ำ​ทะเล​ประมาณ 350 เมตร.

^ วรรค 18 ดู​กรอบ  “ใคร​คือ​ศิลา?” ใน​หน้า 28.

[กรอบ/ภาพ​หน้า 28]

 ใคร​คือ​ศิลา?

“เรา​บอก​เจ้า​อีก​ว่า เจ้า​คือ​เปโตร และ​บน​ศิลา​นี้​เรา​จะ​สร้าง​ประชาคม​ของ​เรา.” (มัดธาย 16:18) มัก​เข้าใจ​กัน​ว่า​ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​กับ​อัครสาวก​เปโตร​หมาย​ความ​ว่า เปโตร​จะ​เป็น​ฐาน​ราก​ของ​ประชาคม​คริสเตียน. คริสตจักร​คาทอลิก​สอน​ว่า พระ​เยซู​ตรัส​เช่น​นั้น​เป็น​การ​ยกย่อง​เปโตร​เหนือ​อัครสาวก​คน​อื่น ๆ เสมือน​หนึ่ง​ว่า​กำลัง​ตั้ง​เขา​ให้​เป็น​โปป​องค์​แรก. ด้วย​เหตุ​นี้ จึง​มี​การ​จารึก​คำ​ตรัส​ดัง​กล่าว​ของ​พระ​เยซู​ใน​ภาษา​ละติน​ขนาด​ตัว​อักษร​สูง​กว่า​คน​ไว้​ใน​โดม​ของ​โบสถ์​เซนต์ปีเตอร์​ใน​กรุง​โรม.

พระ​เยซู​ทรง​หมาย​ความ​ไหม​ว่า​เปโตร​คือ​ศิลา​ซึ่ง​พระองค์​จะ​ตั้ง​ประชาคม​ของ​พระองค์​ขึ้น? ไม่​ใช่​เช่น​นั้น. ให้​เรา​พิจารณา​เหตุ​ผล​สาม​ประการ​ที่​ทำ​ให้​เรา​มั่น​ใจ​ใน​เรื่อง​นี้. ประการ​แรก อัครสาวก​คน​อื่น ๆ ก็​อยู่​ที่​นั่น​ด้วย และ​พวก​เขา​ไม่​ได้​เข้าใจ​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​หมาย​ความ​เช่น​นั้น. ถ้า​พระ​เยซู​ทรง​ยกย่อง​เปโตร​ต่อ​หน้า​พวก​เขา​ทุก​คน​แล้ว​ทำไม​หลัง​จาก​นั้น​พวก​เขา​จึง​เถียง​กัน​ครั้ง​แล้ว​ครั้ง​เล่า​ว่า​ใคร​น่า​จะ​เป็น​ใหญ่​ที่​สุด​ใน​หมู่​พวก​เขา? (มาระโก 9:33-35; ลูกา 22:24-26) ประการ​ที่​สอง อัครสาวก​เปาโล​ได้​แสดง​ให้​เห็น​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ว่า​ศิลา​นั้น​ไม่​ใช่​เปโตร แต่​เป็น​พระ​เยซู​คริสต์. (1 โครินท์ 3:11; 10:4) ประการ​ที่​สาม อีก​หลาย​สิบ​ปี​ต่อ​มา​เปโตร​เอง​ก็​ได้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​เขา​ไม่​ได้​คิด​ว่า​ตน​เอง​เป็น​ศิลา. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น เขา​ได้​เขียน​ว่า​พระ​เยซู​คือ “หิน​หัว​มุม​ของ​ฐาน​ราก” ที่​พระเจ้า​ได้​ทรง​เลือก​ไว้​ด้วย​พระองค์​เอง.—1 เปโตร 2:4-8

กระนั้น บาง​คน​ยัง​ยืนกราน​ว่า พระ​เยซู​กำลัง​บอก​ว่า​เปโตร​คือ​ศิลา เนื่อง​จาก​ชื่อ​เปโตร​หมาย​ความ​ว่า “ก้อน​หิน.” แต่​ที่​จริง​แล้ว ชื่อ​เปโตร​ไม่​ได้​มี​ความ​หมาย​ตรง​กับ​คำ​ว่า “ศิลา” ที่​ใช้​ใน​ข้อ​คัมภีร์​เดียว​กัน​นั้น. ชื่อ​เปโตร​มี​ความ​หมาย​ว่า “หิน​ก้อน​หนึ่ง” และ​เป็น​คำ​นาม​เพศ​ชาย ส่วน​คำ​ที่​แปล​ว่า “ศิลา” เป็น​คำ​นาม​เพศ​หญิง. ถ้า​เช่น​นั้น​เรา​ควร​เข้าใจ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​อย่าง​ไร? แท้​จริง​แล้ว พระองค์​กำลัง​ตรัส​กับ​เปโตร​ว่า “เจ้า ซึ่ง​เรา​เรียก​ว่า​เปโตร​หรือ​ก้อน​หิน ได้​เข้าใจ​อย่าง​แท้​จริง​แล้ว​ว่า​ใคร​คือ ‘ศิลา’ หรือ​พระ​คริสต์​ผู้​ซึ่ง​จะ​เป็น​ฐาน​ราก​ของ​ประชาคม​คริสเตียน.” ช่าง​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​จริง ๆ ที่​เปโตร​ได้​มี​ส่วน​ช่วย​เปิด​เผย​ความ​จริง​สำคัญ​ข้อ​นี้!

[ภาพ​หน้า 24, 25]

เปโตร​พิสูจน์​ตัว​ว่า​ภักดี​แม้​เมื่อ​ถูก​ว่า​กล่าว​แก้ไข

[ภาพ​หน้า 26]

ความ​ภักดี​ของ​เปโตร​ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน​โดย​ได้​เห็น​นิมิต​ที่​ตื่น​ตา​ตื่น​ใจ