ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การเดินเรือสมัยโบราณที่ไปไกลกว่าเมดิเตอร์เรเนียน

การเดินเรือสมัยโบราณที่ไปไกลกว่าเมดิเตอร์เรเนียน

การ​เดิน​เรือ​สมัย​โบราณ​ที่​ไป​ไกล​กว่า​เมดิเตอร์เรเนียน

ทุก​วัน​นี้​ผู้​คน​คิด​ว่า​การ​ขึ้น​เครื่องบิน​และ​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​ทวีป​อื่น​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา. คุณ​จะ​แปลก​ใจ​ไหม​ที่​รู้​ว่า​แม้​แต่​ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล​ผู้​คน​ก็​เคย​เดิน​ทาง​ไป​ไกล ๆ เหมือน​กัน?

ประมาณ​หนึ่ง​พัน​ปี​ก่อน​สมัย​พระ​คริสต์ กษัตริย์​โซโลมอน​ได้​ตั้ง​กอง​เรือ​ที่​ร่วม​เดิน​ทาง​ไป​กับ​กอง​เรือ​ของ​กษัตริย์​เมือง​ไทระ​เพื่อ​นำ​สินค้า​ที่​ต้องการ​จาก​แดน​ไกล​มา​ยัง​อิสราเอล. (1 กษัตริย์ 9:26-28; 10:22) ใน​ศตวรรษ​ที่​เก้า​ก่อน​สากล​ศักราช ที่​ยบเป​เมือง​ท่า​ของ​อิสราเอล​บน​ชายฝั่ง​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน ผู้​พยากรณ์​โยนาห์​ได้​ลง​เรือ​ลำ​หนึ่ง​ซึ่ง​จะ​ไป​เมือง​ทาร์ชิช. * (โยนา 1:3) ใน​ศตวรรษ​แรก​สากล​ศักราช อัครสาวก​เปาโล​ได้​เดิน​ทาง​จาก​ซีซาเรีย​ใน​อิสราเอล​ไป​ยัง​โปติโอลอย​ใน​อ่าว​เนเปิลส์ ประเทศ​อิตาลี ซึ่ง​ปัจจุบัน​คือ​เมือง​ปอซซูโอลี.—กิจการ 27:1; 28:13

นัก​ประวัติศาสตร์​รู้​ว่า​เมื่อ​ถึง​สมัย​เปาโล พวก​พ่อค้า​จาก​แถบ​เมดิเตอร์เรเนียน​ได้​เดิน​เรือ​ผ่าน​ทะเล​แดง​ไป​ถึง​อินเดีย​กัน​เป็น​ประจำ​แล้ว และ​พอ​ถึง​กลาง​ศตวรรษ​ที่​สอง​สากล​ศักราช​ได้​มี​บาง​คน​เดิน​เรือ​ไป​ไกล​ถึง​เมือง​จีน. * แต่​เรา​รู้​อะไร​บ้าง​เกี่ยว​กับ​การ​เดิน​ทาง​ใน​ยุค​แรก ๆ ที่​ไกล​ออก​ไป​ทาง​ตะวัน​ตก​ของ​เมดิเตอร์เรเนียน? นัก​เดิน​เรือ​สมัย​โบราณ​ไป​ทาง​ตะวัน​ตก​ได้​ไกล​ขนาด​ไหน?

การ​เดิน​ทาง​ยุค​แรก ๆ ของ​ชาว​ฟินิเซีย

หลาย​ร้อย​ปี​ก่อน​สมัย​เปาโล นัก​เดิน​เรือ​ได้​ตั้ง​อาณานิคม​การ​ค้า​หลาย​แห่ง​ขึ้น​ทาง​ตะวัน​ตก. เชื่อ​กัน​ว่า​เมื่อ​ถึง​ปี 1200 ก่อน​สากล​ศักราช ชาว​ฟินิเซีย​ซึ่ง​มี​ถิ่น​ฐาน​อยู่​ใน​บริเวณ​ที่​ปัจจุบัน​คือ​เลบานอน​ได้​เดิน​ทาง​ไป​ไกล​ถึง​มหาสมุทร​แอตแลนติก. ประมาณ​ปี 1100 ก่อน ส.ศ. พวก​เขา​ได้​ตั้ง​เมือง​กาเดียร์​ซึ่ง​อยู่​เลย​ช่องแคบ​ยิบรอลตาร์​ไป​เพียง​เล็ก​น้อย ปัจจุบัน​คือ​เมือง​ท่า​กาดิซ​ของ​สเปน. ใน​บรรดา​สินค้า​ซึ่ง​นัก​เดิน​เรือ​ใน​มหาสมุทร​แอตแลนติก​นำ​มา​จาก​ที่​นั่น​คือ แร่​เงิน​และ​ดีบุก​จาก​เหมือง​ใน​ท้องถิ่น.

เฮโรโดทุส นัก​ประวัติศาสตร์​ชาว​กรีก​บันทึก​ว่า ใน​ศตวรรษ​ที่​เจ็ด​ก่อน ส.ศ. ฟาโรห์​นะโค​แห่ง​อียิปต์​ได้​ตั้ง​กอง​เรือ​แบบ​ฟินิเซีย​ซึ่ง​มี​ฝีพาย​เป็น​ชาว​ฟินิเซีย​ขึ้น​ที่​ต้น​ทะเล​แดง. จุด​ประสงค์​ก็​เพื่อ​จะ​เดิน​เรือ​รอบ​ทวีป​แอฟริกา​จาก​ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ไป​ยัง​ฝั่ง​ตะวัน​ตก.

เวลา​นั้น​ชาว​ฟินิเซีย​ได้​เดิน​ทาง​สำรวจ​ชายฝั่ง​ของ​ทวีป​แอฟริกา​มา​หลาย​ร้อย​ปี​แล้ว. แต่​เนื่อง​จาก​ต้อง​แล่น​เรือ​ทวน​ลม​และ​กระแส​น้ำ นัก​เดิน​เรือ​ที่​ไป​ทาง​ใต้​ตาม​ชายฝั่ง​ของ​แอฟริกา​ด้าน​มหาสมุทร​แอตแลนติก​จึง​ต้อง​พยายาม​อย่าง​มาก. ตาม​ที่​เฮโรโดทุส​ได้​เขียน​ไว้ ใน​การ​เดิน​เรือ​ตาม​เส้น​ทาง​ใหม่​นี้​ชาว​ฟินิเซีย​ได้​เริ่ม​เดิน​ทาง​จาก​ทะเล​แดง​ไป​ตาม​ชายฝั่ง​ด้าน​ตะวัน​ออก​ของ​แอฟริกา ลง​ไป​ทาง​ใต้​เข้า​สู่​มหาสมุทร​อินเดีย. เมื่อ​ผ่าน​ไป​ประมาณ​ครึ่ง​ปี พวก​เขา​ก็​จะ​ขึ้น​ฝั่ง เพาะ​ปลูก หว่าน​พืช และ​อยู่​ที่​นั่น​นาน​พอ​ที่​จะ​เก็บ​เกี่ยว​พืช​ผล แล้ว​ก็​แล่น​เรือ​ต่อ​ไป. เฮโรโดทุส​กล่าว​ว่า​ใน​ปี​ที่​สาม พวก​เขา​ได้​แล่น​เรือ​ไป​รอบ​ทวีป​นั้น​เข้า​ไป​ยัง​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน แล้ว​กลับ​มา​อียิปต์.

เฮโรโดทุส​ลง​ท้าย​บันทึก​ของ​เขา​โดย​กล่าว​ว่า​ชาว​ฟินิเซีย​ได้​รายงาน​บาง​เรื่อง​ที่​เขา​ไม่​อยาก​เชื่อ​รวม​ทั้ง​เรื่อง​ที่​ว่า​เมื่อ​เดิน​เรือ​อ้อม​ปลาย​สุด​ของ​ทวีป​แอฟริกา​พวก​เขา​เห็น​ดวง​อาทิตย์​อยู่​ทาง​ขวา. สำหรับ​ชาว​กรีก​โบราณ​นับ​ว่า​ยาก​จริง ๆ ที่​จะ​เชื่อ​เรื่อง​นั้น. ทุก​คน​ที่​อาศัย​อยู่​ทาง​เหนือ​ของ​เส้น​ศูนย์​สูตร​มา​ตลอด​ชีวิต​คุ้น​เคย​กับ​การ​เห็น​ดวง​อาทิตย์​อยู่​ทาง​ทิศ​ใต้. ดัง​นั้น เมื่อ​เขา​เดิน​ทาง​ไป​ทาง​ตะวัน​ตก ดวง​อาทิตย์​จึง​อยู่​ด้าน​ซ้าย​ของ​เขา. แต่​ที่​แหลม​กู๊ดโฮป​ซึ่ง​อยู่​ทาง​ใต้​ของ​เส้น​ศูนย์​สูตร​จะ​เห็น​ดวง​อาทิตย์​ยาม​เที่ยง​วัน​อยู่​ทาง​เหนือ ซึ่ง​ก็​คือ​ทาง​ขวา​ของ​คน​ที่​เดิน​ทาง​ไป​ทาง​ตะวัน​ตก.

เป็น​เวลา​หลาย​ร้อย​ปี มี​การ​ถกเถียง​กัน​ใน​หมู่​นัก​ประวัติศาสตร์​เกี่ยว​กับ​บันทึก​ของ​เฮโรโดทุส. หลาย​คน​อาจ​คิด​ว่า​เป็น​เรื่อง​เหลือเชื่อ​ที่​นัก​เดิน​เรือ​ใน​สมัย​โบราณ​ขนาด​นั้น​จะ​สามารถ​เดิน​เรือ​รอบ​แอฟริกา​ได้. แต่​พวก​ผู้​เชี่ยวชาญ​ก็​เชื่อ​ว่า​ฟาโรห์​นะโค​เป็น​ผู้​บัญชา​ให้​มี​การ​เดิน​ทาง​เช่น​นั้น​จริง ๆ และ​การ​เดิน​ทาง​เช่น​นั้น​เป็น​เรื่อง​ที่​เป็น​ไป​ได้​เมื่อ​คิด​ถึง​ความ​สามารถ​และ​ความ​รู้​ของ​คน​ใน​สมัย​นั้น. นัก​ประวัติศาสตร์​ไลโอเนล แคสซัน บอก​ว่า “การ​เดิน​ทาง​เช่น​นั้น​เป็น​ไป​ได้​อย่าง​แน่นอน. ไม่​มี​เหตุ​ผล​ที่​ลูกเรือ​ชาว​ฟินิเซีย​จะ​ทำ​ไม่​ได้​ใน​ช่วง​เวลา​และ​วิธี​แบบ​ที่​เฮโรโดทุส​ได้​พรรณนา​เอา​ไว้.” เรา​ไม่​ทราบ​แน่ชัด​ว่า​บันทึก​ของ​เฮโรโดทุส​เป็น​จริง​มาก​น้อย​แค่​ไหน. แต่​บันทึก​นี้​ก็​ช่วย​ให้​เห็น​ว่า​ได้​มี​การ​พยายาม​อย่าง​ไม่​ย่อท้อ​มาก​เพียง​ไร​เพื่อ​จะ​ขยาย​เส้น​ทาง​การ​เดิน​เรือ​ไป​ยัง​ภูมิภาค​ที่​ยัง​ไม่​เป็น​ที่​รู้​จัก​ใน​สมัย​โบราณ​อย่าง​นั้น.

พีทีอัส​เดิน​เรือ​ไป​ทาง​เหนือ

ชาว​ฟินิเซีย​ไม่​ใช่​นัก​เดิน​เรือ​จาก​เมดิเตอร์เรเนียน​พวก​เดียว​ใน​ยุค​แรก​ที่​พยายาม​เดิน​เรือ​ไป​ทาง​มหาสมุทร​แอตแลนติก​ที่​อยู่​ทิศ​ตะวัน​ตก. อาณานิคม​แห่ง​หนึ่ง​ที่​นัก​เดิน​เรือ​ชาว​กรีก​ได้​ตั้ง​ขึ้น​ใน​ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน​ได้​แก่​เมือง​มาสซาเลีย ปัจจุบัน​คือ​เมือง​มาร์เซลส์ ใน​ฝรั่งเศส. อาณานิคม​แห่ง​นี้​เจริญ​รุ่งเรือง​มาก​เนื่อง​จาก​มี​การ​ติด​ต่อ​ค้า​ขาย​ทั้ง​ทาง​ทะเล​และ​ทาง​บก. จาก​มาสซาเลีย​พวก​พ่อค้า​จะ​ส่ง​เหล้า​องุ่น, น้ำมัน, และ​เครื่อง​ทอง​สัมฤทธิ์​ของ​แถบ​เมดิเตอร์เรเนียน​ขึ้น​ไป​ทาง​เหนือ และ​นำ​เอา​โลหะ​และ​อำพัน​มา​จาก​ทาง​เหนือ. ไม่​ต้อง​สงสัย​ว่า ชาว​เมือง​มาสซาเลีย​อยาก​รู้​ว่า​สินค้า​เหล่า​นี้​มา​จาก​ที่​ไหน. ดัง​นั้น ราว ๆ ปี 320 ก่อน ส.ศ. ชาว​เมือง​มาสซาเลีย​ชื่อ พีทีอัส จึง​ออก​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​ดินแดน​ทาง​เหนือ​ที่​อยู่​ห่าง​ไกล​ด้วย​ตน​เอง.

เมื่อ​กลับ​มา พีทีอัส​ก็​เขียน​บันทึก​การ​เดิน​ทาง​ของ​เขา​ที่​ชื่อ​ท่อง​ไป​ใน​มหาสมุทร (ภาษา​กรีก). แม้​ว่า​ต้น​ฉบับ​ภาษา​กรีก​ของ​หนังสือ​นี้​ไม่​มี​แล้ว แต่​ก็​มี​นัก​เขียน​สมัย​โบราณ 18 คน​ที่​อ้าง​ถึง​ข้อ​ความ​จาก​หนังสือ​ของ​เขา. นัก​เขียน​เหล่า​นั้น​อ้าง​ถึง​ข้อ​ความ​ที่​พีทีอัส​ได้​พรรณนา​อย่าง​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​ทะเล, กระแส​น้ำ, ลักษณะ​ทาง​ภูมิศาสตร์, และ​ประชากร​ของ​ดินแดน​ที่​เขา​ได้​ไป​เยือน. นอก​จาก​นั้น เขา​ได้​ใช้​เงา​ของ​นาฬิกา​แดด หรือ​ไม้​วัด​เพื่อ​คำนวณ​มุม​เงย​ของ​ดวง​อาทิตย์​ตอน​เที่ยง​วัน​ใน​วัน​ใด​วัน​หนึ่ง และ​อาศัย​ตัว​เลข​นี้​เพื่อ​กะ​ประมาณ​ว่า​เขา​ได้​เดิน​ทาง​ขึ้น​เหนือ​มา​ไกล​เท่า​ไร​แล้ว.

สิ่ง​ที่​พีทีอัส​ให้​ความ​สนใจ​เป็น​ส่วน​ตัว​เป็น​เรื่อง​ทาง​วิทยาศาสตร์. แต่​จุด​ประสงค์​ที่​แท้​จริง​ของ​การ​เดิน​ทาง​นั้น​คง​ไม่​ใช่​เพื่อ​การ​สำรวจ​ทาง​วิทยาศาสตร์. ผู้​เชี่ยวชาญ​คิด​ว่า​พวก​ผู้​มี​ผล​ประโยชน์​ทาง​การ​ค้า​ใน​มาสซาเลีย​ได้​ให้​ทุน​และ​ส่ง​เขา​ไป​จึง​ทำ​ให้​เขา​ได้​ค้น​พบ​เส้น​ทาง​เดิน​เรือ​ไป​ยัง​ชายฝั่ง​อัน​ห่าง​ไกล​หลาย​แห่ง​ซึ่ง​พวก​เขา​รู้​ว่า​อาจ​มี​อำพัน​และ​ดีบุก. แล้ว​พีทีอัส​ไป​ที่​ไหน?

ไป​ยัง​บริตทานี, บริเตน, และ​ไกล​กว่า​นั้น

ดู​เหมือน​ว่า​พีทีอัส​จะ​แล่น​เรือ​ไป​รอบ​คาบสมุทร​ไอบีเรีย​และ​ขึ้น​ไป​ถึง​ชายฝั่ง​ของ​แคว้น​กอล​ยัง​บริตทานี​และ​ขึ้น​ฝั่ง​ที่​นั่น. เรา​ทราบ​เรื่อง​นี้​เพราะ​ใน​การ​วัด​มุม​ดวง​อาทิตย์​เหนือ​เส้น​ขอบ​ฟ้า​ครั้ง​หนึ่ง ซึ่ง​ดู​เหมือน​ว่า​เขา​ได้​วัด​เมื่อ​อยู่​บน​บก ตรง​กับ​ตำแหน่ง​ที่​ตั้ง​ของ​แคว้น​บริตทานี​ทาง​ด้าน​เหนือ. *

คน​ใน​บริตทานี​เป็น​ช่าง​ต่อ​เรือ​และ​นัก​เดิน​เรือ​ที่​มี​ประสบการณ์​ซึ่ง​ค้า​ขาย​กับ​บริเตน. คอร์นวอลล์​ที่​อยู่​ปลาย​สุด​ทาง​ตะวัน​ตก​เฉียง​ใต้​ของ​บริเตน​เป็น​แหล่ง​ที่​มี​ดีบุก​มาก​ซึ่ง​เป็น​ส่วน​ประกอบ​สำคัญ​ของ​ทอง​สัมฤทธิ์ และ​ที่​นี่​เอง​เป็น​จุด​หมาย​ปลาย​ทาง​ถัด​ไป​ของ​พีทีอัส. รายงาน​ของ​เขา​ที่​พรรณนา​ขนาด​และ​รูป​ทรง​ซึ่ง​ดู​คล้าย​สาม​เหลี่ยม​ของ​บริเตน​ทำ​ให้​คิด​กัน​ว่า​เขา​คง​ต้อง​ได้​เดิน​เรือ​ไป​รอบ​เกาะ​นั้น​แล้ว.

ถึง​แม้​ว่า​เส้น​ทาง​เดิน​เรือ​ของ​พีทีอัส​เป็น​เพียง​สมมุติฐาน แต่​เป็น​ไป​ได้​มาก​ที​เดียว​ที่​เขา​จะ​เดิน​เรือ​ระหว่าง​บริเตน​กับ​ไอร์แลนด์ แล้ว​ขึ้น​ฝั่ง​ที่​เกาะ​แมน​ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​ที่​ละติจูด​ที่​ตรง​กับ​การ​วัด​มุม​ดวง​อาทิตย์​ใน​ครั้ง​ที่​สอง​ของ​เขา. เป็น​ไป​ได้​ว่า​เขา​วัด​มุม​ครั้ง​ที่​สาม​บน​เกาะ​ลูอิส​ใน​หมู่​เกาะ​เอาเตอร์เฮบริดีส นอก​ชายฝั่ง​ตะวัน​ตก​ของ​สกอตแลนด์. หลัง​จาก​นั้น ดู​เหมือน​ว่า​เขา​ได้​เดิน​ทาง​ขึ้น​เหนือ​ต่อ​ไป​ยัง​หมู่​เกาะ​ออร์กนีย์ ทาง​เหนือ​ของ​แผ่นดิน​ใหญ่​ของ​สกอตแลนด์ เพราะ​ใน​บันทึก​ของ​เขา​ที่​พลินี​ผู้​อาวุโส​อ้าง​ถึง​ได้​รายงาน​ว่า​หมู่​เกาะ​เหล่า​นั้น​ประกอบ​ด้วย 40 เกาะ.

พีทีอัส​เขียน​ว่า​เมื่อ​เดิน​ทาง​ไป​ทาง​เหนือ​ของ​บริเตน​ได้​หก​วัน​ก็​ถึง​ดินแดน​ที่​เรียก​ว่า​ทูเล. นัก​ประพันธ์​สมัย​โบราณ​หลาย​คน​กล่าว​ว่า​พีทีอัส​พรรณนา​ถึง​ทูเล​ว่า​เป็น​ดินแดน​แห่ง​อาทิตย์​เที่ยง​คืน. เขา​เขียน​ว่า​เมื่อ​เดิน​เรือ​ต่อ​ไป​อีก​วัน​หนึ่ง​ก็​มา​ถึง​ที่​ซึ่ง​ทะเล​กลาย​เป็น “น้ำ​แข็ง.” หลาย​คน​ยัง​คง​ถกเถียง​กัน​ว่า​ทูเล​ของ​พีทีอัส​นั้น​คือ​ที่​ไหน บาง​คน​บอก​ว่า​หมู่​เกาะ​แฟโร, บาง​คน​ว่า​นอร์เวย์, บาง​คน​ก็​ว่า​ไอซ์แลนด์. ไม่​ว่า​ทูเล​จะ​อยู่​ที่​ไหน นัก​เขียน​สมัย​โบราณ​ต่าง​ก็​เชื่อ​ว่า​ที่​นั่น​ต้อง​เป็น “ดินแดน​ที่​อยู่​เหนือ​สุด​เท่า​ที่​เคย​รู้​จัก​กัน.”

อาจ​เป็น​ได้​ว่า​พีทีอัส​กลับ​ไป​ยัง​บริเตน​โดย​ใช้​เส้น​ทาง​เดิม​ที่​เขา​มา และ​จาก​นั้น​จึง​วน​รอบ​เกาะ​บริเตน. เรา​ไม่​ทราบ​ว่า​เขา​ได้​ไป​สำรวจ​ชายฝั่ง​ทาง​เหนือ​ของ​ยุโรป​ไกล​กว่า​นั้น​หรือ​ไม่​ก่อน​จะ​กลับ​มา​เมดิเตอร์เรเนียน. ไม่​ว่า​จะ​อย่าง​ไร พลินี​ผู้​อาวุโส​ได้​อ้าง​คำ​กล่าว​ของ​พีทีอัส​ที่​แสดง​ว่า​เขา​มี​ความ​รู้​มาก​เกี่ยว​กับ​ดินแดน​ต่าง ๆ ที่​ผลิต​อำพัน. แหล่ง​ผลิต​อำพัน​ที่​มี​ค่า​ใน​สมัย​โบราณ​คือ​จัตแลนด์​ซึ่ง​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​เดนมาร์ก​ใน​ปัจจุบัน กับ​ชายฝั่ง​ด้าน​ใต้​ของ​ทะเล​บอลติก. จริง​อยู่ พีทีอัส​อาจ​รู้​จัก​แหล่ง​อำพัน​เหล่า​นี้​เมื่อ​ได้​ไป​เยือน​ท่า​เรือ​แห่ง​ใด​แห่ง​หนึ่ง​ทาง​ตะวัน​ออก​ของ​บริเตน และ​เท่า​ที่​เรา​รู้ เขา​ไม่​เคย​อ้าง​ว่า​ได้​ไป​เยือน​แหล่ง​นั้น​ด้วย​ตน​เอง.

นัก​เดิน​ทาง​จาก​เมดิเตอร์เรเนียน​อีก​คน​หนึ่ง​ที่​ได้​เขียน​เกี่ยว​กับ​การ​ไป​เยือน​บริเตน​คือ​จูเลียส ซีซาร์ ซึ่ง​ขึ้น​ฝั่ง​ทาง​ตอน​ใต้​ของ​เกาะ​นี้​ใน​ปี 55 ก่อน ส.ศ. เมื่อ​ถึง​ปี ส.ศ. 6 คณะ​นัก​เดิน​เรือ​กลุ่ม​อื่น ๆ ของ​โรม​ก็​ไป​ไกล​ถึง​ทาง​เหนือ​ของ​จัตแลนด์​แล้ว.

เปิด​โลก​ทัศน์

การ​สำรวจ​ของ​ชาว​ฟินิเซีย​และ​ชาว​กรีก​ไม่​เพียง​ช่วย​ให้​โลก​มี​ความ​รู้​มาก​ขึ้น​เกี่ยว​กับ​ภูมิศาสตร์​แถบ​เมดิเตอร์เรเนียน​และ​แอตแลนติก​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ช่วย​ให้​รู้​จัก​แอฟริกา​ที่​อยู่​ทาง​ใต้​และ​ดินแดน​ทาง​เหนือ​ไกล​ถึง​แถบ​อาร์กติก​เลย​ที​เดียว. โลก​ใน​สมัย​นั้น​เป็น​โลก​ของ​การ​สำรวจ, การ​ค้า, การ​เปิด​โลก​ทัศน์, การ​เดิน​ทาง​ไป​ยัง​ที่​ไกล​โพ้น ซึ่ง​ทำ​ให้​เกิด​แนว​คิด​และ​ความ​รู้​ใหม่ ๆ ตาม​มา.

บันทึก​การ​เดิน​ทาง​สำรวจ​ใน​สมัย​โบราณ​ที่​เหลือ​อยู่​คง​เป็น​เพียง​เศษ​เสี้ยว​ของ​การ​เดิน​ทาง​ทั้ง​หมด​ที่​เหล่า​นัก​เดิน​เรือ​ผู้​กล้า​หาญ​ได้​ทำ​สำเร็จ. จะ​มี​นัก​เดิน​เรือ​โบราณ​สัก​กี่​คน​ที่​เดิน​ทาง​กลับ​มา​โดย​ไม่​ได้​เขียน​เกี่ยว​กับ​สถาน​ที่​ที่​เขา​ไป​เยือน? และ​มี​สัก​กี่​คน​ที่​ออก​เดิน​ทาง​จาก​บ้าน​เกิด​เมือง​นอน​ของ​ตน​ไป​ยัง​ชายฝั่ง​ทะเล​อัน​ไกล​โพ้น​โดย​ไม่​ได้​กลับ​มา? คำ​ถาม​เหล่า​นี้​ยัง​หา​คำ​ตอบ​ไม่​ได้. แต่​ที่​เรา​รู้​ได้​ก็​คือ​เรื่อง​ราว​เกี่ยว​กับ​การ​แผ่​ขยาย​ของ​ศาสนา​คริสเตียน​ใน​ยุค​แรก.—ดู​ กรอบ​ด้าน​บน

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 3 บ่อย​ครั้ง​ชื่อ​นี้​พาด​พิง​ถึง​ภูมิภาค​หนึ่ง​ทาง​ใต้​ของ​สเปน​ซึ่ง​นัก​เขียน​ชาว​กรีก​และ​โรมัน​เรียก​ว่า​ทาร์เทสซัส.

^ วรรค 4 สำหรับ​ราย​ละเอียด​เพิ่ม​เติม​ใน​เรื่อง​การ​เดิน​ทาง​ไป​ทาง​ตะวัน​ออก โปรด​ดู​บทความ “มิชชันนารี​อาจ​ไป​ทาง​ตะวัน​ออก​ได้​ไกล​ขนาด​ไหน?” ใน​หอสังเกตการณ์ 1 มกราคม 2009.

^ วรรค 16 ละติจูด​ที่ 48 องศา 42 ลิปดา​เหนือ.

[กรอบ​หน้า 29]

 ข่าว​ดี “ได้​มี​การ​ประกาศ​ท่ามกลาง​มนุษย์​ทั้ง​หลาย”

ราว ๆ ปี ส.ศ. 60-61 อัครสาวก​เปาโล​ได้​เขียน​ว่า ข่าว​ดี “ได้​มี​การ​ประกาศ​ท่ามกลาง​มนุษย์​ทั้ง​หลาย​ที่​อยู่​ใต้​ฟ้า.” (โกโลซาย 1:23) ท่าน​หมาย​ความ​ไหม​ว่า​คริสเตียน​ได้​ประกาศ​เผยแพร่​ไป​แล้ว​ถึง​อินเดีย, ตะวัน​ออก​ไกล, แอฟริกา, สเปน, กอล, บริเตน, ทะเล​บอลติก, และ​ดินแดน​ที่​พีทีอัส​เรียก​ว่า​ทูเล? ไม่​น่า​จะ​เป็น​เช่น​นั้น แต่​เรา​ก็​ไม่​สามารถ​บอก​ได้​แน่ชัด.

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ไม่​มี​ข้อ​สงสัย​ว่า​ข่าว​ดี​ได้​รับ​การ​ประกาศ​เผยแพร่​ไป​อย่าง​กว้างขวาง. ตัว​อย่าง​เช่น ชาว​ยิว​และ​ผู้​เปลี่ยน​มา​นับถือ​ศาสนา​ยิว​ซึ่ง​เข้า​มา​เป็น​คริสเตียน​ใน​วัน​เพนเทคอสต์​ปี ส.ศ. 33 ได้​นำ​ความ​เชื่อ​ใหม่​ของ​ตน​ไป​ยัง​ดินแดน​ที่​อยู่​ไกล​ถึง​ปาร์เทีย, เอลาม, มีเดีย, เมโสโปเตเมีย, อาระเบีย, เอเชีย​ไมเนอร์, ส่วน​ของ​ลิเบีย​ที่​อยู่​ทาง​ไซรีนี, และ​โรม ซึ่ง​ครอบ​คลุม​โลก​ที่​ผู้​อ่าน​ของ​เปาโล​รู้​จัก​กัน​ใน​สมัย​นั้น.—กิจการ 2:5-11

[แผน​ภาพ/แผนที่​หน้า 26, 27]

(ดู​ราย​ละเอียด​ใน​วารสาร)

เฮโรโดทุส​รายงาน​ว่า​เมื่อ​เดิน​เรือ​อ้อม​ปลาย​สุด​ของ​ทวีป​แอฟริกา นัก​เดิน​เรือ​ได้​เห็น​ดวง​อาทิตย์​อยู่​ทาง​ขวา

[แผนที่]

แอฟริกา

ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน

มหาสมุทร​อินเดีย

มหาสมุทร​แอตแลนติก

[แผน​ภาพ/แผนที่​หน้า 28, 29]

(ดู​ราย​ละเอียด​ใน​วารสาร)

เส้น​ทาง​การ​เดิน​เรือ​ที่​ยาว​ไกล​ของ​พีทีอัส​นัก​เดิน​เรือ​ชาว​กรีก

[แผนที่]

ไอร์แลนด์

ไอซ์แลนด์

นอร์เวย์

ทะเล​เหนือ

บริเตน

บริตทานี

คาบสมุทร​ไอบีเรีย

ชายฝั่ง​ด้าน​เหนือ​ของ​แอฟริกา

ทะเล​เมดิเตอร์เรเนียน

มาร์เซลส์