ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

การทำเช่นนี้ไม่ซื่อสัตย์จริง ๆ ไหม?

การทำเช่นนี้ไม่ซื่อสัตย์จริง ๆ ไหม?

การ​ทำ​เช่น​นี้​ไม่​ซื่อ​สัตย์​จริง ๆ ไหม?

“แจ้ง​อุบัติเหตุ​กับ​บริษัท​ประกัน​โดย​เปลี่ยน​ข้อมูล​เล็ก​น้อย แล้ว​ทุก​อย่าง​จะ​เรียบร้อย.”

“กรม​สรรพากร​ไม่​จำเป็น​ต้อง​รู้​ทุก​อย่าง.”

“ที่​สำคัญ​ก็​คือ​อย่า​ให้​ถูก​จับ​ได้.”

“จะ​จ่าย​ทำไม​ใน​เมื่อ​คุณ​สามารถ​ได้​มา​ฟรี ๆ?”

คุณ​อาจ​ได้​ยิน​คำ​พูด​ใน​ทำนอง​นี้​เมื่อ​ขอ​คำ​แนะ​นำ​จาก​คน​อื่น​ใน​เรื่อง​เงิน. บาง​คน​ดู​เหมือน​ว่า​มี “ทาง​แก้” ที่​ชาญ​ฉลาด​สำหรับ​ทุก​เรื่อง. คำ​ถาม​คือ ทาง​แก้​เหล่า​นั้น​เป็น​วิธี​ที่​ซื่อ​สัตย์​จริง ๆ ไหม?

โลก​ทุก​วัน​นี้​มี​ความ​ไม่​ซื่อ​สัตย์​แพร่​หลาย​จน​ผู้​คน​มอง​ว่า​การ​โกหก, การ​ฉ้อ​โกง, และ​การ​ขโมย​เป็น​สิ่ง​ที่​ยอม​รับ​ได้​เพื่อ​จะ​ไม่​ต้อง​ถูก​ลง​โทษ, ได้​เงิน​มาก​ขึ้น, หรือ​ก้าว​หน้า​ใน​หน้า​ที่​การ​งาน. บ่อย​ครั้ง คน​ที่​มี​ชื่อเสียง​ใน​สังคม​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ไม่​ดี​โดย​การ​เป็น​คน​ไม่​ซื่อ​สัตย์. ใน​ประเทศ​หนึ่ง​ของ​ยุโรป คดี​ฟ้องร้อง​เกี่ยว​กับ​การ​ฉ้อ​โกง​และ​ยักยอก​ทรัพย์​เพิ่ม​ขึ้น​มาก​กว่า 85 เปอร์เซ็นต์​ตั้ง​แต่​ปี 2005 ถึง 2006. นี่​ยัง​ไม่​รวม​คดี​ย่อย ๆ ที่​เกี่ยว​กับ​ความ​ไม่​ซื่อ​สัตย์​อีก​มาก​มาย​ซึ่ง​บาง​คน​เรียก​ว่า “ความ​ผิด​เล็ก ๆ น้อย ๆ.” บาง​ที​นี่​อาจ​เป็น​เหตุ​ผล​ที่​เรา​ไม่​แปลก​ใจ​ที่​นัก​ธุรกิจ​ชั้น​แนว​หน้า​และ​นัก​การ​เมือง​หลาย​คน​ใน​ประเทศ​นี้​ถูก​จับ​ได้​ว่า​ใช้​วุฒิ​การ​ศึกษา​ปลอม​เพื่อ​จะ​ได้​ตำแหน่ง​ที่​สูง​ขึ้น.

แม้​จะ​มี​ความ​ไม่​ซื่อ​สัตย์​อยู่​แพร่​หลาย​ใน​โลก แต่​ก็​ยัง​มี​หลาย​คน​ที่​ต้องการ​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง. คุณ​คง​เป็น​คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​ด้วย. บาง​ที​เนื่อง​จาก​คุณ​รัก​พระเจ้า คุณ​จึง​ต้องการ​ทำ​สิ่ง​ที่​ถูก​ต้อง​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระองค์. (1 โยฮัน 5:3) คุณ​อาจ​รู้สึก​เหมือน​อัครสาวก​เปาโล​ซึ่ง​ได้​เขียน​ว่า “เรา​มั่น​ใจ​ว่า​เรา​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​ดี​เพราะ​เรา​ปรารถนา​จะ​ประพฤติ​ตัว​ซื่อ​สัตย์​ใน​ทุก​สิ่ง.” (ฮีบรู 13:18) ด้วย​เหตุ​ผล​ดัง​กล่าว เรา​จึง​เชิญ​คุณ​พิจารณา​สถานการณ์​บาง​อย่าง​ซึ่ง​อาจ​ทดสอบ​ความ​ปรารถนา​ของ​คน​เรา​ที่​จะ “ประพฤติ​ตัว​ซื่อ​สัตย์​ใน​ทุก​สิ่ง.” นอก​จาก​นั้น เรา​จะ​พิจารณา​หลักการ​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​สามารถ​ช่วย​ได้​ใน​สถานการณ์​เช่น​นั้น.

ใคร​ควร​จ่าย​ค่า​เสียหาย​เมื่อ​เกิด​อุบัติเหตุ?

วัน​หนึ่ง​หญิง​สาว​ชื่อ​ลิซา * ขับ​รถ​ไป​ชน​กับ​รถ​อีก​คัน​หนึ่ง. ไม่​มี​ใคร​ได้​รับ​บาดเจ็บ แต่​รถ​ทั้ง​สอง​คัน​เสียหาย. ใน​ประเทศ​ของ​เธอ ผู้​ขับ​ขี่​ที่​อายุ​น้อย​จะ​จ่าย​เบี้ย​ประกันภัย​รถยนต์​ใน​อัตรา​สูง และ​เบี้ย​ประกันภัย​จะ​สูง​ขึ้น​ทุก​ครั้ง​ที่​เกิด​อุบัติเหตุ. เนื่อง​จาก​วัน​นั้น​ญาติ​ของ​ลิซา​ที่​อายุ​มาก​กว่า​ชื่อ​เกรโกร์​นั่ง​ไป​ด้วย เพื่อน​คน​หนึ่ง​จึง​แนะ​นำ​ให้​พวก​เขา​แจ้ง​บริษัท​ประกันภัย​ว่า​เกรโกร์​เป็น​คน​ขับ. ถ้า​ทำ​อย่าง​นั้น ลิซา​จะ​ไม่​ต้อง​จ่าย​เบี้ย​ประกันภัย​สูง​ขึ้น. การ​แก้​ปัญหา​วิธี​นี้​ดู​เหมือน​ฉลาด. เธอ​ควร​ทำ​อย่าง​ไร?

บริษัท​ประกันภัย​ใช้​เงิน​ค่า​เบี้ย​ประกัน​ที่​เก็บ​จาก​ผู้​เอา​ประกัน​มา​จ่าย​ค่า​เสียหาย​เมื่อ​เกิด​อุบัติเหตุ. ดัง​นั้น ถ้า​ลิซา​ทำ​ตาม​ที่​เพื่อน​แนะ​นำ ที่​แท้​แล้ว​เธอ​ก็​จะ​ทำ​ให้​ผู้​เอา​ประกัน​คน​อื่น​ต้อง​จ่าย​ชด​ใช้​ค่า​เสียหาย​สำหรับ​อุบัติเหตุ​ของ​เธอ​ใน​อัตรา​ที่​สูง​ขึ้น. ถ้า​ทำ​เช่น​นั้น เธอ​จะ​ไม่​เพียง​แจ้ง​ข้อมูล​เท็จ แต่​ยัง​ขโมย​จาก​คน​อื่น​ด้วย. การ​แจ้ง​สถานะ​ทาง​การ​เงิน​อย่าง​ที่​ไม่​ตรง​กับ​ความ​จริง​เพื่อ​จะ​ได้​วง​เงิน​เอา​ประกันภัย​สูง​ขึ้น​ก็​อยู่​ใน​ข่าย​เดียว​กัน.

การ​ลง​โทษ​ตาม​กฎหมาย​อาจ​ช่วย​ยับยั้ง​การ​กระทำ​ที่​ไม่​ซื่อ​สัตย์​เช่น​นั้น​ได้​ไม่​น้อย. แต่​เหตุ​ผล​ที่​สำคัญ​กว่า​ที่​เรา​หลีก​เลี่ยง​ความ​ประพฤติ​ที่​ไม่​ซื่อ​สัตย์​อยู่​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. บัญญัติ​ข้อ​หนึ่ง​ใน​บัญญัติ​สิบ​ประการ​กล่าว​ว่า “อย่า​ลัก​ทรัพย์.” (เอ็กโซโด 20:15) อัครสาวก​เปาโล​กล่าว​ย้ำ​บัญญัติ​ข้อ​นี้​กับ​คริสเตียน​ว่า “ผู้​ที่​ขโมย​อย่า​ขโมย​อีก​เลย.” (เอเฟโซส์ 4:28) ถ้า​คุณ​เชื่อ​ฟัง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​เกี่ยว​กับ​การ​ประกันภัย​ดัง​ที่​กล่าว​ไป​ข้าง​ต้น คุณ​จะ​หลีก​เว้น​จาก​การ​ทำ​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ตำหนิ. นอก​จาก​นั้น คุณ​ยัง​ได้​แสดง​ความ​รัก​และ​ความ​นับถือ​ต่อ​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​และ​ต่อ​เพื่อน​บ้าน​ด้วย.—บทเพลง​สรรเสริญ 119:97

“ของ​ของ​ซีซาร์​จง​คืน​ให้​ซีซาร์”

ปีเตอร์​เป็น​นัก​ธุรกิจ. คน​ทำ​บัญชี​แนะ​นำ​เขา​ให้​ขอ​ลด​หย่อน​ภาษี​สำหรับ​การ “ซื้อ” อุปกรณ์​คอมพิวเตอร์​ราคา​แพง. การ​ซื้อ​อุปกรณ์​เหล่า​นี้​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​สำหรับ​คน​ทำ​ธุรกิจ​แบบ​ปีเตอร์. ถึง​แม้​ปีเตอร์​จะ​ไม่​เคย​ซื้อ​อุปกรณ์​เหล่า​นั้น​จริง แต่​รัฐบาล​คง​ไม่​มา​ตรวจ​สอบ​ค่า​ใช้​จ่าย​ส่วน​นี้. หาก​ได้​รับ​การ​ลด​หย่อน​ภาษี​ปีเตอร์​ก็​จะ​เสีย​ภาษี​น้อย​ลง​มาก. เขา​ควร​ทำ​อย่าง​ไร? อะไร​จะ​ช่วย​เขา​ตัดสิน​ใจ​ใน​เรื่อง​นี้?

อัครสาวก​เปาโล​บอก​คริสเตียน​ใน​สมัย​ของ​ท่าน​ว่า “ให้​ทุก​คน​ยอม​เชื่อ​ฟัง​ผู้​มี​อำนาจ​ปกครอง. . . . จง​ให้​แก่​ทุก​คน​ตาม​ที่​เขา​ควร​ได้​รับ เสีย​ภาษี​แก่​ผู้​ที่​เรียก​เก็บ​ภาษี เสีย​ส่วย​แก่​ผู้​ที่​เรียก​เก็บ​ส่วย.” (โรม 13:1, 7) คน​ที่​ปรารถนา​จะ​ได้​รับ​ความ​พอ​พระทัย​จาก​พระเจ้า​จะ​เสีย​ภาษี​ทุก​อย่าง​ที่​รัฐ​เรียก​เก็บ​จาก​พวก​เขา. ใน​อีก​ด้าน​หนึ่ง ถ้า​กฎหมาย​ของ​ประเทศ​นั้น​ยอม​ลด​หย่อน​ภาษี​ให้​กับ​บุคคล​บาง​กลุ่ม​หรือ​ธุรกิจ​บาง​ประเภท​ก็​ไม่​ผิด​หาก​จะ​ใช้​สิทธิ์​ดัง​กล่าว​ถ้า​มี​คุณสมบัติ​ตาม​ที่​กฎหมาย​กำหนด​ไว้.

มี​อีก​สถานการณ์​หนึ่ง​ใน​เรื่อง​การ​เสีย​ภาษี. เดวิด​ทำ​งาน​เป็น​ช่าง​ไม้​ใน​บริษัท​แห่ง​หนึ่ง. แต่​เพื่อน ๆ และ​เพื่อน​บ้าน​จ้าง​เขา​ทำ​ตู้​และ​เครื่อง​เรือน​สำหรับ​บ้าน​ของ​พวก​เขา และ​เขา​ทำ​งาน​นั้น​หลัง​เลิก​งาน. พวก​เขา​ให้​ค่า​จ้าง​สูง​และ​บอก​เดวิด​ว่า​ไม่​ต้อง​ออก​ใบ​เสร็จ​ให้. เมื่อ​เป็น​เช่น​นั้น​ก็​ไม่​มี​หลักฐาน​ว่า​เขา​มี​ราย​ได้​เพิ่ม​จึง​ไม่​ต้อง​เสีย​ภาษี. หลาย​คน​รู้สึก​ว่า​นี่​เป็น​ข้อ​เสนอ​ที่​ดี. แต่​เนื่อง​จาก​เดวิด​ต้องการ​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย เขา​ควร​มอง​การ​ทำ​งาน​โดย​ไม่​ลง​หลักฐาน​ว่า​มี​ราย​ได้​อย่าง​ไร?

แม้​ว่า​คน​ที่​ทำ​เช่น​นั้น​อาจ​พ้น​จาก​การ​ตรวจ​สอบ แต่​เขา​ไม่​ได้​เสีย​ภาษี​ที่​รัฐ​มี​สิทธิ์​จะ​เรียก​เก็บ​จาก​เขา. พระ​เยซู​สั่ง​ว่า “ฉะนั้น ของ​ของ​ซีซาร์​จง​คืน​ให้​ซีซาร์ แต่​ของ​ของ​พระเจ้า​จง​คืน​ให้​พระเจ้า.” (มัดธาย 22:17-21) พระ​เยซู​ตรัส​เช่น​นี้​ก็​เพื่อ​แก้ไข​ความ​คิด​ของ​ผู้​ฟัง​เกี่ยว​กับ​การ​เสีย​ภาษี. เจ้าหน้าที่​รัฐบาล​หรือ​ที่​พระ​เยซู​เรียก​ว่า​ซีซาร์ ถือ​ว่า​พวก​เขา​มี​สิทธิ์​โดย​ชอบธรรม​ที่​จะ​เรียก​เก็บ​ภาษี. ดัง​นั้น ผู้​ที่​ติด​ตาม​พระ​คริสต์​จะ​มอง​ว่า​การ​ชำระ​ภาษี​ทุก​อย่าง​เป็น​พันธะ​หน้า​ที่​ตาม​หลัก​พระ​คัมภีร์.

การ​โกง​ข้อ​สอบ

นัก​เรียน​ชั้น​มัธยม​ปลาย​คน​หนึ่ง​ชื่อ​มาร์ทา​กำลัง​เตรียม​ตัว​สอบ​ปลาย​ภาค. เนื่อง​จาก​ผล​การ​เรียน​ที่​ดี​จะ​ช่วย​ให้​เธอ​ได้​งาน​ที่​ดี​ใน​อนาคต เธอ​จึง​ใช้​เวลา​มาก​เพื่อ​เตรียม​ตัว​สอบ. เพื่อน​ร่วม​ชั้น​บาง​คน​ของ​เธอ​ก็​เตรียม​ตัว​เช่น​กัน แต่​ทำ​คน​ละ​วิธี. พวก​เขา​จะ​ใช้​เพจเจอร์, เครื่อง​คิด​เลข​ที่​ตั้ง​โปรแกรม​ไว้, และ​โทรศัพท์​มือ​ถือ​ใน​การ​โกง​ข้อ​สอบ​เพื่อ​จะ​ได้​คะแนน​มาก ๆ. มาร์ทา​ควร​ทำ​สิ่ง​ที่ “ใคร ๆ” ก็​ทำ​กัน​เพื่อ​จะ​ได้​คะแนน​สูง ๆ ไหม?

เนื่อง​จาก​การ​โกง​ข้อ​สอบ​เป็น​เรื่อง​ที่​ทำ​กัน​ทั่ว​ไป หลาย​คน​จึง​รู้สึก​ว่า​การ​ทำ​เช่น​นั้น​ไม่​ผิด. พวก​เขา​คิด​ว่า “ที่​สำคัญ​ก็​คือ​อย่า​ให้​ถูก​จับ​ได้.” แต่​การ​คิด​เช่น​นั้น​เป็น​เรื่อง​ที่​ยอม​รับ​ไม่​ได้​สำหรับ​คริสเตียน​แท้. ถึง​แม้​ครู​อาจ​ไม่​สังเกต​ว่า​มี​คน​โกง​ข้อ​สอบ แต่​มี​ผู้​หนึ่ง​ที่​สังเกต​เห็น. พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ทรง​ทราบ​ว่า​เรา​ทำ​อะไร​และ​พระองค์​จะ​พิพากษา​การ​กระทำ​ของ​เรา. เปาโล​เขียน​ว่า “ไม่​มี​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ใด​ถูก​ปิด​ซ่อน​จาก​สาย​พระ​เนตร​พระองค์ แต่​ทุก​สิ่ง​ถูก​เปิด​เผย​และ​ปรากฏ​แจ้ง​แก่​พระ​เนตร​ของ​พระองค์​ผู้​ซึ่ง​เรา​ต้อง​ให้​การ.” (ฮีบรู 4:13) การ​รู้​ว่า​พระเจ้า​มอง​ดู​อยู่​เพราะ​พระองค์​ประสงค์​ให้​เรา​ทำ​สิ่ง​ถูก​ต้อง​เป็น​แรง​กระตุ้น​ที่​มี​พลัง​ที่​ช่วย​ให้​เรา​ซื่อ​สัตย์​เมื่อ​ทำ​ข้อ​สอบ​ไม่​ใช่​หรือ?

คุณ​จะ​ทำ​อย่าง​ไร?

ลิซา, เกรโกร์, ปีเตอร์, เดวิด, และ​มาร์ทา​ถือ​ว่า​สถานการณ์​ที่​พวก​เขา​เผชิญ​นั้น​ไม่​ใช่​เรื่อง​เล็ก​น้อย. พวก​เขา​ตัดสิน​ใจ​ประพฤติ​ตัว​ซื่อ​สัตย์​และ​ด้วย​เหตุ​นั้น​จึง​รักษา​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​สะอาด​และ​ความ​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​ทาง​ศีลธรรม​เอา​ไว้​ได้. คุณ​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​เมื่อ​เผชิญ​สถานการณ์​คล้าย ๆ กัน​นั้น?

เพื่อน​ร่วม​งาน, เพื่อน​ร่วม​ชั้น, และ​เพื่อน​บ้าน​ของ​คุณ​อาจ​ไม่​รู้สึก​ว่า​การ​โกหก, การ​โกง​ข้อ​สอบ, หรือ​การ​ขโมย​เป็น​เรื่อง​เสียหาย. ที่​จริง พวก​เขา​อาจ​เยาะเย้ย​คุณ​เพื่อ​กดดัน​ให้​คุณ​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน​กับ​พวก​เขา. อะไร​จะ​ช่วย​ให้​คุณ​ตัดสิน​ใจ​ได้​อย่าง​ถูก​ต้อง​ทั้ง ๆ ที่​ถูก​กดดัน​ให้​ประพฤติ​อย่าง​ไม่​ซื่อ​สัตย์?

ขอ​ให้​จำ​ไว้​ว่า การ​ประพฤติ​อย่าง​ที่​สอดคล้อง​กับ​พระ​ประสงค์​ของ​พระเจ้า​จะ​ทำ​ให้​มี​สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​สะอาด​และ​ได้​รับ​ความ​โปรดปราน​และ​ความ​พอ​พระทัย​จาก​พระเจ้า. กษัตริย์​ดาวิด​เขียน​ว่า “ข้า​แต่​พระ​ยะโฮวา, ผู้​ใด​จะ​พัก​อยู่​ใน​พลับพลา​ของ​พระองค์? ใคร​จะ​อาศัย​อยู่​ที่​ภูเขา​อัน​บริสุทธิ์​ของ​พระองค์? คือ​คน​ที่​ประพฤติ​เที่ยง​ตรง, ที่​กระทำ​การ​ยุติธรรม, และ​พูด​แต่​คำ​จริง​จาก​ใจ​ของ​ตน. . . . คน​ที่​ประพฤติ​เช่น​นั้น​จะ​ไม่​หวาด​หวั่นไหว​เลย.” (บทเพลง​สรรเสริญ 15:1-5) สติ​รู้สึก​ผิด​ชอบ​ที่​สะอาด​และ​มิตรภาพ​กับ​พระเจ้า​ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์​มี​ค่า​มาก​กว่า​ผล​ประโยชน์​ใด ๆ ทาง​วัตถุ​ที่​จะ​ได้​จาก​การ​ไม่​ซื่อ​สัตย์.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 10 บาง​ชื่อ​ใน​บทความ​นี้​เป็น​ชื่อ​สมมุติ.

[คำ​โปรย​หน้า 12]

“ผู้​ที่​ขโมย​อย่า​ขโมย​อีก​เลย.”

ความ​นับถือ​ต่อ​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​และ​ความ​รัก​ต่อ​เพื่อน​บ้าน​กระตุ้น​เรา​ให้​ซื่อ​สัตย์​ใน​เรื่อง​การ​ประกันภัย

[คำ​โปรย​หน้า 12]

“จง​ให้​แก่​ทุก​คน​ตาม​ที่​เขา​ควร​ได้​รับ เสีย​ภาษี​แก่​ผู้​ที่​เรียก​เก็บ​ภาษี.”

เพื่อ​จะ​ได้​ความ​พอ​พระทัย​จาก​พระเจ้า เรา​ชำระ​ภาษี​ทุก​อย่าง​ตาม​ที่​กฎหมาย​กำหนด

[คำ​โปรย​หน้า 13]

“ทุก​สิ่ง . . . ปรากฏ​แจ้ง​แก่​พระ​เนตร​ของ​พระองค์​ผู้​ซึ่ง​เรา​ต้อง​ให้​การ.”

ถึง​แม้​ครู​อาจ​จับ​ไม่​ได้​ว่า​เรา​โกง​ข้อ​สอบ แต่​เรา​ต้องการ​เป็น​คน​ซื่อ​สัตย์​ใน​สาย​พระ​เนตร​ของ​พระเจ้า

[กรอบ/ภาพ​หน้า 14]

การ​ขโมย​ที่ “มอง​ไม่​เห็น”

เพื่อน​ของ​คุณ​ซื้อ​โปรแกรม​คอมพิวเตอร์​ใหม่​ล่า​สุด และ​คุณ​อยาก​จะ​ได้​ด้วย. เขา​บอก​คุณ​ว่า​ไม่​ต้อง​เสีย​เงิน​ซื้อ เขา​จะ​ก๊อบปี้​โปรแกรม​นั้น​ให้​คุณ​เอง. การ​ทำ​อย่าง​นี้​ซื่อ​สัตย์​ไหม?

เมื่อ​ผู้​ใช้​ซื้อ​โปรแกรม​คอมพิวเตอร์ พวก​เขา​ยอม​รับ​เงื่อนไข​ที่​กำหนด​ไว้​สำหรับ​โปรแกรม​ดัง​กล่าว. ตาม​เงื่อนไข​นั้น​ผู้​ซื้อ​อาจ​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​ติด​ตั้ง​และ​ใช้​โปรแกรม​นั้น​ใน​เครื่อง​คอมพิวเตอร์​เพียง​เครื่อง​เดียว. ใน​กรณี​นี้ การ​ก๊อบปี้​โปรแกรม​ให้​ผู้​อื่น​เป็น​การ​ละเมิด​ข้อ​ตก​ลง​นั้น​และ​เป็น​การ​ผิด​กฎหมาย. (โรม 13:4) การ​ก๊อบปี้​เช่น​นั้น​ยัง​เป็น​การ​ขโมย​อีก​ด้วย เพราะ​ทำ​ให้​เจ้าของ​ลิขสิทธิ์​ขาด​ราย​ได้​ที่​เขา​มี​สิทธิ์​จะ​ได้​รับ.—เอเฟโซส์ 4:28

บาง​คน​อาจ​อ้าง​เหตุ​ผล​ว่า ‘ไม่​มี​ใคร​รู้​หรอก.’ นั่น​อาจ​จะ​จริง แต่​เรา​ควร​จำ​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ไว้​ที่​ว่า “ด้วย​เหตุ​นั้น สารพัด​สิ่ง​ที่​เจ้า​ทั้ง​หลาย​ต้องการ​ให้​คน​อื่น​ทำ​ต่อ​เจ้า จง​ทำ​อย่าง​นั้น​ต่อ​เขา.” (มัดธาย 7:12) เรา​ทุก​คน​ต้องการ​ได้​รับ​ค่า​จ้าง​สม​กับ​งาน​ที่​เรา​ทำ และ​ต้องการ​ให้​คน​อื่น​ปฏิบัติ​กับ​ทรัพย์​สิน​ของ​เรา​ด้วย​ความ​นับถือ. ฉะนั้น เรา​ควร​ทำ​อย่าง​เดียว​กัน​นั้น​ต่อ​ผู้​อื่น​ด้วย. เรา​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​ขโมย​ที่ “มอง​ไม่​เห็น” เช่น การ​ขโมย​ทรัพย์​สิน​ทาง​ปัญญา * ของ​ผู้​อื่น.—เอ็กโซโด 22:7-9

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 40 ทรัพย์​สิน​ทาง​ปัญญา​รวม​ถึง​สิ่ง​ของ​ที่​มี​ลิขสิทธิ์​ไม่​ว่า​ใน​รูป​สิ่ง​พิมพ์​หรือ​ไฟล์​อิเล็กทรอนิกส์ เช่น ดนตรี, หนังสือ, หรือ​โปรแกรม​คอมพิวเตอร์. นอก​จาก​นั้น เครื่องหมาย​การ​ค้า, สิทธิ​บัตร, ความ​ลับ​ทาง​การ​ค้า, และ​สิทธิ​สาธารณะ​ก็​ถือ​ว่า​เป็น​ทรัพย์​สิน​ทาง​ปัญญา​เช่น​กัน.