ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

เขา ‘เติบโตขึ้นเฉพาะพระพักตร์พระยะโฮวา’

เขา ‘เติบโตขึ้นเฉพาะพระพักตร์พระยะโฮวา’

จง​เลียน​แบบ​ความ​เชื่อ​ของ​เขา

เขา ‘เติบโต​ขึ้น​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยะโฮวา’

ซามูเอล​มอง​ดู​หน้า​ชน​ร่วม​ชาติ​ของ​เขา. ชาย​ผู้​มี​ความ​เชื่อ​คน​นี้​ซึ่ง​ทำ​หน้า​ที่​ผู้​พยากรณ์​และ​ผู้​พิพากษา​มา​หลาย​สิบ​ปี​แล้ว​ได้​เรียก​ชน​ทั้ง​ชาติ​ให้​มา​รวม​กัน​ที่​เมือง​กิลกาล (ฆีละฆาล). ตอน​นั้น​เป็น​เดือน​พฤษภาคม​หรือ​มิถุนายน​ตาม​ปฏิทิน​สมัย​ปัจจุบัน และ​เข้า​ฤดู​แล้ง​มา​ได้​ระยะ​หนึ่ง​แล้ว. ทุ่ง​ข้าว​สาลี​เหลือง​อร่าม​พร้อม​ที่​จะ​เก็บ​เกี่ยว. ฝูง​ชน​ทั้ง​หมด​ต่าง​เงียบ​เสียง​ลง. ซามูเอล​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ให้​คน​เหล่า​นี้​เปลี่ยน​ใจ?

ประชาชน​เหล่า​นี้​ไม่​รู้​ตัว​ว่า​สิ่ง​ที่​พวก​เขา​ทำ​นั้น​ร้ายแรง​แค่​ไหน. พวก​เขา​ยืนกราน​ขอ​กษัตริย์​ที่​เป็น​มนุษย์. พวก​เขา​ไม่​เข้าใจ​ว่า​ได้​ดูหมิ่น​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​พวก​เขา​และ​ผู้​พยากรณ์​ของ​พระองค์. พวก​เขา​ทำ​เหมือน​กับ​ว่า​ไม่​ต้องการ​ให้​พระ​ยะโฮวา​เป็น​กษัตริย์​ของ​พวก​เขา​อีก​ต่อ​ไป! ซามูเอล​จะ​ทำ​อย่าง​ไร​ให้​คน​เหล่า​นี้​กลับ​ใจ?

แล้ว​ซามูเอล​ก็​พูด​ออก​มา. เขา​พูด​กับ​ฝูง​ชน​ว่า “ข้าพเจ้า​ก็​ชรา​ไป, ผม​ก็​หงอก.” ผม​สี​ดอก​เลา​ของ​เขา​ยืน​ยัน​คำ​พูด​ของ​เขา​ได้​เป็น​อย่าง​ดี. เขา​พูด​ต่อ​ว่า “ข้าพเจ้า​เคย​อาศัย​อยู่​กับ​ท่าน; แต่​เด็ก​มา​จน​ทุก​วัน​นี้.” (1 ซามูเอล 11:14, 15; 12:2) แม้​ซามูเอล​จะ​ชรา​แล้ว​แต่​เขา​ก็​ไม่​ลืม​ชีวิต​วัย​เยาว์​ของ​ตน. ความ​ทรง​จำ​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ใน​ช่วง​นั้น​ยัง​แจ่ม​ชัด​ใน​ความ​คิด​ของ​เขา. การ​ตัดสิน​ใจ​เรื่อง​ต่าง ๆ ใน​ขณะ​ที่​เติบโต​ขึ้น​ทำ​ให้​เขา​กลาย​เป็น​ผู้​พยากรณ์​ที่​มี​ความ​เชื่อ​อย่าง​เต็ม​เปี่ยม​และ​ทุ่มเท​ตัว​เพื่อ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เขา.

มี​หลาย​ครั้ง​หลาย​หน​ที่​ซามูเอล​ต้อง​พยายาม​รักษา​ความ​เชื่อ​ให้​เข้มแข็ง​เอา​ไว้​เนื่อง​จาก​อยู่​ท่ามกลาง​ผู้​คน​ที่​ขาด​ความ​เชื่อ​และ​ไม่​ภักดี. ทุก​วัน​นี้ การ​รักษา​ความ​เชื่อ​ให้​เข้มแข็ง​ก็​ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​เช่น​กัน เพราะ​เรา​อยู่​ใน​โลก​ที่​ขาด​ความ​เชื่อ​และ​เสื่อม​ทราม. ให้​เรา​มา​ดู​ว่า​เรา​จะ​เรียน​อะไร​ได้​จาก​ตัว​อย่าง​ของ​ซามูเอล​โดย​เริ่ม​ตั้ง​แต่​ตอน​ที่​เขา​ยัง​เป็น​เด็ก.

‘เมื่อ​ยัง​เป็น​เด็ก​อยู่​ได้​ปฏิบัติ เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยะโฮวา’

ซามูเอล​มี​ชีวิต​ใน​วัย​เด็ก​ที่​ต่าง​ไป​จาก​เด็ก​คน​อื่น. เมื่อ​อายุ​สี่​ขวบ​หรือ​ราว ๆ นั้น​หลัง​จาก​หย่า​นม​ได้​ไม่​นาน เขา​ก็​เริ่ม​ชีวิต​การ​ทำ​งาน​รับใช้​อัน​ศักดิ์สิทธิ์​ที่​พลับพลา​ของ​พระ​ยะโฮวา​ที่​ชีโลห์​ซึ่ง​อยู่​ห่าง​จาก​บ้าน​ของ​เขา​ใน​รามาห์​มาก​กว่า 30 กิโลเมตร. เอ็ลคานา​และ​ฮันนา​พ่อ​แม่​ของ​ซามูเอล​ได้​ถวาย​ลูก​ชาย​ให้​กับ​พระ​ยะโฮวา​เพื่อ​ทำ​งาน​รับใช้​แบบ​พิเศษ เขา​จึง​เป็น​นาษารีษ​ตลอด​ชีวิต​ของ​เขา. * นี่​หมาย​ความ​ไหม​ว่า​ซามูเอล​ถูก​พ่อ​แม่​ทอดทิ้ง​อย่าง​ไม่​ไยดี?

ไม่​ใช่​อย่าง​นั้น​เลย! พ่อ​แม่​ของ​ซามูเอล​รู้​ว่า​ลูก​ชาย​ของ​พวก​เขา​จะ​ได้​รับ​การ​ดู​แล​อย่าง​ดี​ที่​ชีโลห์. มหา​ปุโรหิต​เอลี​คง​ได้​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​ซามูเอล​ใน​ทุก​เรื่อง​เพราะ​ซามูเอล​ทำ​งาน​ใกล้​ชิด​กับ​เขา และ​มี​พวก​ผู้​หญิง​ทำ​งาน​รับใช้​อยู่​ที่​พลับพลา​ด้วย.—เอ็กโซโด 38:8

ฮันนา​กับ​เอ็ลคานา​เอง​ก็​ไม่​เคย​ลืม​ลูก​ชาย​คน​แรก​ที่​พวก​เขา​รัก​มาก​เช่น​กัน เพราะ​เขา​เป็น​ลูก​ที่​พระเจ้า​ประทาน​ให้​ตาม​คำ​อธิษฐาน​ขอ. ฮันนา​ได้​ทูล​ขอ​ลูก​ชาย​จาก​พระเจ้า​และ​สัญญา​ว่า​จะ​ถวาย​เขา​ให้​ทำ​งาน​รับใช้​พระองค์​ตลอด​ชีวิต. ทุก​ปี​เมื่อ​ไป​เยี่ยม​ซามูเอล ฮันนา​จะ​นำ​เสื้อ​คลุม​ไม่​มี​แขน​ตัว​ใหม่​ที่​นาง​เย็บ​ไป​ให้​เขา​สำหรับ​ใส่​ใน​การ​รับใช้​ที่​พลับพลา. เด็ก​น้อย​คง​จะ​มี​ความ​สุข​มาก​และ​ไม่​ลืม​ช่วง​เวลา​ที่​ได้​อยู่​กับ​พ่อ​แม่. แน่นอน​ว่า​เขา​คง​ต้อง​เติบโต​ขึ้น​อย่าง​ดี​ด้วย​ความ​รัก​และ​กำลังใจ​จาก​พ่อ​แม่ รวม​ทั้ง​คำ​แนะ​นำ​สั่ง​สอน​ที่​ช่วย​ให้​เขา​เห็น​คุณค่า​งาน​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​ใน​สถาน​ที่​พิเศษ​แห่ง​นี้.

ตัว​อย่าง​ของ​ฮันนา​และ​เอ็ลคานา​เป็น​ประโยชน์​มาก​สำหรับ​พ่อ​แม่​ใน​ทุก​วัน​นี้. พ่อ​แม่​ส่วน​ใหญ่​มัก​จะ​เป็น​ห่วง​เรื่อง​การ​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​ลูก​ด้าน​วัตถุ​จน​ละเลย​การ​สอน​ลูก​ให้​เห็น​คุณค่า​การ​รับใช้​พระเจ้า. แต่​พ่อ​แม่​ของ​ซามูเอล​ให้​ความ​สำคัญ​อันดับ​แรก​กับ​การ​รับใช้​พระเจ้า​และ​สิ่ง​นี้​เอง​มี​ส่วน​หล่อ​หลอม​ให้​ซามูเอล​เติบโต​ขึ้น​เป็น​ผู้​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า.—สุภาษิต 22:6

เรา​คง​นึก​ภาพ​ได้​ว่า​เด็ก​น้อย​ซามูเอล​ค่อย ๆ เติบโต​ขึ้น​และ​มัก​จะ​ออก​ไป​สำรวจ​เนิน​เขา​รอบ ๆ ชีโลห์​อยู่​บ่อย ๆ. เมื่อ​เขา​มอง​ลง​ไป​ยัง​เมือง​ชีโลห์​และ​มอง​ต่ำ​ลง​ไป​ที่​หุบเขา​กว้าง​ใหญ่​ซึ่ง​อยู่​ด้าน​หนึ่ง​ของ​เมือง หัวใจ​ของ​เขา​ก็​เปี่ยม​ไป​ด้วย​ความ​ยินดี​และ​ภูมิ​ใจ​เมื่อ​ได้​เห็น​พลับพลา​ของ​พระเจ้า. พลับพลา​แห่ง​นี้​เป็น​สถาน​ศักดิ์สิทธิ์​ซึ่ง​ไม่​มี​ที่​ใด​เหมือน. * พลับพลา​นี้​ซึ่ง​สร้าง​ขึ้น​เกือบ 400 ปี​มา​แล้ว​โดย​มี​โมเซ​เป็น​ผู้​ควบคุม​เป็น​ศูนย์กลาง​การ​นมัสการ​อัน​บริสุทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ซึ่ง​มี​อยู่​แห่ง​เดียว​ใน​โลก.

ขณะ​ที่​เด็ก​น้อย​ซามูเอล​เติบโต​ขึ้น​เขา​ก็​รัก​พลับพลา​แห่ง​นี้​มาก​ขึ้น. เรา​อ่าน​บันทึก​ที่​เขา​เขียน​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ว่า “ซามูเอล​เมื่อ​ยัง​เป็น​กุ​มา​รอ​ยู่, ใช้​เสื้อ​เอโฟด​ผ้า​ป่าน​คาด​เอว​ไว้, ได้​ปฏิบัติ​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยะโฮวา.” (1 ซามูเอล 2:18) เสื้อ​คลุม​ไม่​มี​แขน​แบบ​เรียบ ๆ ที่​ซามูเอล​ใส่​คง​เป็น​สิ่ง​ที่​บอก​ให้​รู้​ว่า​เขา​มี​หน้า​ที่​ช่วย​งาน​พวก​ปุโรหิต​ที่​พลับพลา. แม้​ว่า​ซามูเอล​ไม่​ได้​เกิด​ใน​ตระกูล​ปุโรหิต แต่​เขา​มี​หน้า​ที่​หลาย​อย่าง​รวม​ทั้ง​การ​เปิด​ประตู​ที่​ออก​ไป​ยัง​ลาน​พลับพลา​ใน​ตอน​เช้า​และ​คอย​รับใช้​เอลี​ซึ่ง​ชรา​แล้ว. ถึง​แม้​เขา​จะ​ยินดี​อย่าง​ยิ่ง​ที่​ได้​ทำ​งาน​พิเศษ​นี้ แต่​ต่อ​มา​ใจ​ที่​ใส​บริสุทธิ์​ของ​เด็ก​น้อย​ก็​เริ่ม​หม่น​หมอง. มี​สิ่ง​ที่​เลว​ร้าย​มาก​เกิด​ขึ้น​ใน​สถาน​นมัสการ​ของ​พระ​ยะโฮวา.

รักษา​ความ​สะอาด​บริสุทธิ์​แม้​อยู่​ท่ามกลาง​ความ​เสื่อม​ทราม

แม้​ยัง​เด็ก​อยู่​แต่​ซามูเอล​ก็​ได้​รู้​เห็น​ความ​ชั่ว​ช้า​และ​ความ​เสื่อม​ทราม​ที่​เลว​ร้าย​อย่าง​ยิ่ง. เอลี​มี​บุตร​ชาย​สอง​คน​คือ​ฮฟนี​และ​ฟีนะฮาศ. บันทึก​ของ​ซามูเอล​กล่าว​ว่า “บุตร​ชาย​ของ​เอลี​เป็น​คน​ชั่ว​ช้า, หา​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา​ไม่.” (1 ซามูเอล 2:12) คำ​พรรณนา​ทั้ง​สอง​อย่าง​ใน​ข้อ​นี้​เกี่ยว​ข้อง​กัน. ฮฟนี​และ​ฟีนะฮาศ​เป็น “คน​ชั่ว​ช้า” ซึ่ง​ตาม​ตัว​อักษร​หมาย​ความ​ว่า “ลูก​แห่ง​ความ​ไร้​ค่า” เนื่อง​จาก​พวก​เขา “หา​รู้​จัก​พระ​ยะโฮวา​ไม่” หรือ​พูด​อีก​อย่าง​หนึ่ง​คือ​พวก​เขา​ไม่​มี​ความ​นับถือ​ต่อ​พระ​ยะโฮวา. พวก​เขา​ถือ​ว่า​มาตรฐาน​และ​ข้อ​กฎหมาย​ต่าง ๆ ของ​พระองค์​ไม่​มี​ค่า​อะไร​เลย. เพราะ​ความ​คิด​ผิด ๆ เช่น​นั้น พวก​เขา​จึง​ทำ​สิ่ง​ชั่ว​ช้า​ได้​สารพัด.

พระ​บัญญัติ​ของ​พระเจ้า​บอก​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​เกี่ยว​กับ​หน้า​ที่​ของ​เหล่า​ปุโรหิต​และ​สิ่ง​ที่​เขา​ต้อง​ปฏิบัติ​เมื่อ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ที่​พลับพลา​ของ​พระองค์. ข้อ​กำหนด​ที่​ชัดเจน​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เพราะ​เครื่อง​บูชา​เหล่า​นั้น​หมาย​ถึง​การ​จัด​เตรียม​ของ​พระเจ้า​สำหรับ​การ​อภัย​บาป เพื่อ​ชาว​อิสราเอล​จะ​อยู่​ใน​ฐานะ​ที่​พระเจ้า​ยอม​รับ​ได้ และ​มี​โอกาส​ที่​จะ​ได้​รับ​พระ​พร​และ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระองค์. แต่​ฮฟนี​กับ​ฟีนะฮาศ​ปฏิบัติ​ต่อ​เครื่อง​บูชา​อย่าง​ที่​ขาด​ความ​นับถือ​อย่าง​ยิ่ง​ทำ​ให้​ปุโรหิต​หลาย​คน​พลอย​ทำ​เช่น​นั้น​ด้วย. *

ลอง​นึก​ภาพ​เด็ก​น้อย​ซามูเอล​กำลัง​มอง​ดู​อย่าง​ไม่​เชื่อ​สายตา​ตน​เอง ขณะ​ที่​มี​การ​ทำ​ผิด​ร้ายแรง​เช่น​นั้น​ซ้ำ​แล้ว​ซ้ำ​เล่า​โดย​ไม่​มี​ผู้​ใด​จัด​การ​แก้ไข. กี่​ครั้ง​กี่​หน​แล้ว​ที่​เขา​ได้​เห็น​ทั้ง​คน​ยาก​จน, คน​ถ่อม​ใจ, คน​ที่​ถูก​กดขี่ เข้า​มา​ที่​พลับพลา​ศักดิ์สิทธิ์​นี้​ด้วย​ความ​หวัง​ว่า​จะ​ได้​รับ​กำลัง​และ​การ​ปลอบโยน​จิตใจ แต่​แล้ว​ก็​ต้อง​กลับ​ออก​ไป​ด้วย​ความ​ผิด​หวัง, เจ็บ​ปวด, และ​ถูก​เหยียด​หยาม? และ​ซามูเอล​จะ​รู้สึก​อย่าง​ไร​เมื่อ​รู้​ว่า​ฮฟนี​และ​ฟีนะฮาศ​ได้​ดูหมิ่น​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​ศีลธรรม​ทาง​เพศ​โดย​หลับ​นอน​กับ​ผู้​หญิง​ซึ่ง​รับใช้​ที่​พลับพลา? (1 ซามูเอล 2:22) เขา​คง​ได้​แต่​หวัง​ว่า​เอลี​จะ​ทำ​อะไร​สัก​อย่าง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้.

เอลี​เป็น​คน​ที่​เหมาะ​ที่​สุด​ที่​จะ​จัด​การ​กับ​สถานการณ์​เลว​ร้าย​ซึ่ง​กำลัง​แย่​ลง​เรื่อย ๆ. ใน​ฐานะ​มหา​ปุโรหิต​เขา​ต้อง​รับผิดชอบ​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​ใน​พลับพลา. ใน​ฐานะ​พ่อ​เขา​มี​พันธะ​ที่​จะ​ต้อง​ว่า​กล่าว​สั่ง​สอน​ลูก. ที่​จริง ลูก​ทั้ง​สอง​คน​ของ​เอลี​กำลัง​ทำ​ให้​ตัว​เอง​เดือดร้อน​และ​ทำ​ให้​ประชาชน​อีก​มาก​มาย​ใน​แผ่นดิน​นี้​ทุกข์​ใจ​ด้วย. แต่​เอลี​ก็​บกพร่อง​ใน​หน้า​ที่​ทั้ง​ใน​ฐานะ​พ่อ​และ​ใน​ฐานะ​มหา​ปุโรหิต. เขา​เพียง​แต่​ดุ​ว่า​ลูก​ชาย​นิด ๆ หน่อย ๆ เท่า​นั้น. (1 ซามูเอล 2:23-25) แต่​ลูก​ทั้ง​สอง​คน​ของ​เอลี​สม​ควร​ถูก​ว่า​กล่าว​อย่าง​รุนแรง​ยิ่ง​กว่า​นั้น​มาก. พวก​เขา​ได้​ทำ​บาป​ที่​สม​ควร​ได้​รับ​โทษ​ถึง​ตาย!

เหตุ​การณ์​มา​ถึง​จุด​ที่​พระ​ยะโฮวา​ส่ง “คน​ของ​พระเจ้า” ซึ่ง​เป็น​ผู้​พยากรณ์​ที่​พระ​คัมภีร์​ไม่​ได้​ระบุ​ชื่อ​ให้​มา​หา​เอลี​เพื่อ​ประกาศ​คำ​พิพากษา​อัน​รุนแรง​แก่​ท่าน. พระ​ยะโฮวา​ตรัส​กับ​เอลี​ว่า “[เจ้า] ให้​เกียรติ​แก่​บุตร​ทั้ง​สอง​ของ​เจ้า​เหนือ​เรา.” แล้ว​พระองค์​ก็​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​บุตร​ชาย​ที่​ชั่ว​ช้า​ของ​เอลี​จะ​ตาย​ใน​วัน​เดียว​กัน​และ​ครอบครัว​ของ​เอลี​จะ​ประสบ​ความ​ทุกข์​อย่าง​หนัก​ถึง​ขนาด​ที่​จะ​ไม่​มี​ใคร​ใน​ครอบครัว​ของ​เขา​ได้​เป็น​มหา​ปุโรหิต​อีก. คำ​เตือน​ที่​รุนแรง​นี้​ทำ​ให้​เกิด​การ​เปลี่ยน​แปลง​ใด ๆ ใน​ครอบครัว​นี้​ไหม? บันทึก​เปิด​เผย​ว่า​ไม่​มี​ใคร​ใน​พวก​เขา​กลับ​ใจ​เลย.—1 ซามูเอล 2:27–3:1, พระ​คริสตธรรม​คัมภีร์ ฉบับ​มาตรฐาน

สภาพ​ที่​เสื่อม​ทราม​เหล่า​นี้​มี​ผล​อย่าง​ไร​ต่อ​ซามูเอล​ผู้​เยาว์​วัย? ใน​บาง​ตอน​ของ​บันทึก​เกี่ยว​กับ​ช่วง​ที่​มืดมน​นี้ ยัง​มี​ข่าว​ดี​ที่​เปรียบ​เหมือน​แสง​แห่ง​ความ​หวัง​คือ​เรื่อง​ที่​น่า​ชื่น​ใจ​เกี่ยว​กับ​การ​เติบโต​และ​ความ​ก้าว​หน้า​ของ​ซามูเอล. เรา​คง​จำ​ได้​ว่า​ที่ 1 ซามูเอล 2:18 กล่าว​ว่า​ซามูเอล ‘เมื่อ​ยัง​เป็น​เด็ก​อยู่​ได้​ปฏิบัติ​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยะโฮวา’ อย่าง​ซื่อ​สัตย์. แม้​จะ​ยัง​เป็น​เด็ก​แต่​ซามูเอล​ทุ่มเท​ชีวิต​ให้​กับ​การ​รับใช้​พระเจ้า. ใน​ข้อ 21 ของ​บท​เดียว​กัน​เรา​อ่าน​พบ​ถ้อย​คำ​ที่​ทำ​ให้​เรา​ยินดี​มาก​ขึ้น​ไป​อีก​ว่า ‘กุมาร​ซามูเอล​นั้น​ก็​เติบโต​ขึ้น​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยะโฮวา.’ ขณะ​ที่​เขา​เติบโต​ขึ้น​เขา​ก็​ยิ่ง​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​บิดา​ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์​มาก​ขึ้น. ความ​สัมพันธ์​ส่วน​ตัว​ที่​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​เช่น​นั้น​เป็น​เครื่อง​ป้องกัน​ที่​ดี​ที่​สุด​ที่​ช่วย​ซามูเอล​ให้​พ้น​จาก​ความ​เสื่อม​ทราม​ทุก​รูป​แบบ.

เป็น​เรื่อง​ง่าย​ที่​ซามูเอล​จะ​คิด​ว่า ถ้า​มหา​ปุโรหิต​และ​ลูก​ชาย​ทั้ง​สอง​ยัง​ทำ​บาป​ได้​เขา​ก็​น่า​จะ​ทำ​อะไร​ตาม​ใจ​ตัว​เอง​ได้​เหมือน​กัน. แต่​ความ​ประพฤติ​ที่​เสื่อม​ทราม​ของ​คน​อื่น​แม้​แต่​คน​ที่​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​สูง​ไม่​ใช่​ข้อ​อ้าง​ที่​ฟัง​ขึ้น​สำหรับ​การ​ทำ​บาป. ทุก​วัน​นี้ เยาวชน​คริสเตียน​หลาย​คน​เลียน​แบบ​ตัว​อย่าง​ของ​ซามูเอล และ ‘เติบโต​ขึ้น​เฉพาะ​พระ​พักตร์​พระ​ยะโฮวา’ แม้​ว่า​คน​รอบ​ข้าง​บาง​คน​ไม่​ได้​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ดี​สำหรับ​พวก​เขา.

การ​ดำเนิน​ชีวิต​เช่น​นั้น​ส่ง​ผล​เช่น​ไร​ต่อ​ซามูเอล? เรา​อ่าน​ว่า “ฝ่าย​กุมาร​ซามูเอล​ก็​เติบโต​ขึ้น​และ​เป็น​ที่​ชอบ​มาก​ขึ้น​เฉพาะ​พระเจ้า​และ​ต่อ​หน้า​คน​ทั้ง​ปวง​ด้วย.” (1 ซามูเอล 2:26, ฉบับ R​73) ดัง​นั้น ซามูเอล​เป็น​ที่​โปรดปราน​อย่าง​ยิ่ง อย่าง​น้อย​ก็​ใน​สายตา​ของ​บุคคล​ที่​มี​ความ​สำคัญ​จริง ๆ. พระ​ยะโฮวา​เอง​ทรง​รัก​เด็ก​ชาย​คน​นี้​มาก​เพราะ​เขา​ดำเนิน​ชีวิต​ด้วย​ความ​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​พระองค์. และ​ซามูเอล​มั่น​ใจ​ว่า​พระเจ้า​ของ​เขา​จะ​ลง​มือ​จัด​การ​กับ​ความ​ชั่ว​ที่​กำลัง​เกิด​ขึ้น​ใน​ชีโลห์ แต่​ที่​เขา​อาจ​สงสัย​ก็​คือ​พระองค์​จะ​จัด​การ​เมื่อ​ไร.

“ขอ​ทรง​ตรัส​เถิด, ผู้​ทาส​ของ​พระองค์​คอย​ฟัง​อยู่”

แล้ว​คืน​หนึ่ง​ซามูเอล​ก็​รู้​คำ​ตอบ. ตอน​นั้น​ใกล้​เช้า​แล้ว​แต่​ยัง​มืด​อยู่ แสง​จาก​ตะเกียง​ใหญ่​ใน​พลับพลา​ยัง​ไม่​ดับ. ใน​ความ​เงียบ​สงบ​นั้น​ซามูเอล​ได้​ยิน​เสียง​ใคร​คน​หนึ่ง​เรียก​เขา. เขา​คิด​ว่า​เป็น​เสียง​ของ​เอลี​ซึ่ง​ตอน​นี้​ชรา​มาก​แล้ว​และ​ตา​แทบ​จะ​มอง​ไม่​เห็น. ซามูเอล​ลุก​ขึ้น​และ “วิ่ง” ไป​หา​เอลี. คุณ​นึก​ภาพ​เด็ก​ชาย​คน​นี้​ออก​ไหม​ตอน​ที่​เขา​รีบ​วิ่ง​เท้า​เปล่า​ไป​ดู​ว่า​เอลี​ต้องการ​อะไร? น่า​ประทับใจ​จริง ๆ ที่​เห็น​ว่า​ซามูเอล​ให้​ความ​นับถือ​และ​เป็น​ห่วง​เอลี​มาก​เพียง​ไร. แม้​ว่า​เอลี​ทำ​ผิด​ร้ายแรง แต่​เขา​ก็​ยัง​เป็น​มหา​ปุโรหิต​ของ​พระ​ยะโฮวา.—1 ซามูเอล 3:2-5

ซามูเอล​ปลุก​เอลี​แล้ว​พูด​ว่า “ข้าพเจ้า​อยู่​นี่, ด้วย​ท่าน​ร้อง​เรียก​ข้าพเจ้า.” แต่​เอลี​บอก​ว่า​ไม่​ได้​เรียก​และ​บอก​ให้​เด็ก​ชาย​กลับ​ไป​นอน. แต่​แล้ว​ก็​มี​เสียง​เรียก​เช่น​นั้น​อีก​ครั้ง แล้ว​ก็​อีก​ครั้ง! ใน​ที่​สุด​เอลี​ก็​เข้าใจ​ว่า​เกิด​อะไร​ขึ้น. พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​ให้​นิมิต​หรือ​ข่าวสาร​เชิง​พยากรณ์​แก่​ประชาชน​ของ​พระองค์​มา​นาน​แล้ว และ​สาเหตุ​ของ​เรื่อง​นี้​ก็​เข้าใจ​ได้​ไม่​ยาก. แต่​เอลี​รู้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​กำลัง​จะ​ตรัส​อีก​ครั้ง​หนึ่ง และ​ครั้ง​นี้​จะ​ตรัส​กับ​เด็ก​ชาย​คน​นี้! เอลี​บอก​ให้​ซามูเอล​กลับ​ไป​นอน​และ​สอน​เขา​ว่า​ควร​จะ​ตอบ​เสียง​เรียก​นั้น​อย่าง​ไร. ซามูเอล​ก็​ทำ​ตาม​ที่​เอลี​บอก. ไม่​นาน เขา​ก็​ได้​ยิน​เสียง​เรียก​อีก​ว่า “ซามูเอล ๆ.” เขา​ตอบ​ว่า “ขอ​ทรง​ตรัส​เถิด, ผู้​ทาส​ของ​พระองค์​คอย​ฟัง​อยู่.”—1 ซามูเอล 3:1, 5-10

ใน​ที่​สุด พระ​ยะโฮวา​ก็​มี​ผู้​รับใช้​คน​หนึ่ง​ใน​ชีโลห์​ที่​ฟัง​พระองค์​ตรัส. ตั้ง​แต่​นั้น​มา​พระ​ยะโฮวา​ก็​ตรัส​กับ​ซามูเอล​และ​ซามูเอล​ก็​ฟัง​พระองค์​เสมอ. จะ​ว่า​อย่าง​ไร​สำหรับ​คุณ? เรา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​รอ​ให้​มี​เสียง​พูด​กับ​เรา​ตอน​กลางคืน. ทุก​วัน​นี้ กล่าว​ได้​ว่า​มี​เสียง​ตรัส​จาก​พระเจ้า​มา​ถึง​เรา​เสมอ. เสียง​ตรัส​นั้น​มี​อยู่​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ครบ​ชุด​ซึ่ง​เป็น​พระ​คำ​ของ​พระองค์. ยิ่ง​เรา​ฟัง​พระเจ้า​และ​ทำ​ตาม​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์ เรา​ก็​จะ​ยิ่ง​มี​ความ​เชื่อ​มาก​ขึ้น. นั่น​คือ​สิ่ง​ที่​เกิด​ขึ้น​กับ​ซามูเอล.

เหตุ​การณ์​สำคัญ​ใน​คืน​นั้น​เป็น​จุด​เปลี่ยน​ใน​ชีวิต​ของ​ซามูเอล เพราะ​นับ​แต่​นั้น​มา​เขา​ก็​มี​สัมพันธภาพ​พิเศษ​กับ​พระ​ยะโฮวา คือ​ได้​กลาย​มา​เป็น​ผู้​พยากรณ์​และ​โฆษก​ของ​พระองค์. ใน​ตอน​แรก ซามูเอล​ไม่​กล้า​บอก​เอลี​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ตรัส​อะไร​เพราะ​สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ตรัส​นั้น​เป็น​คำ​เตือน​ครั้ง​สุด​ท้าย​ว่า​คำ​พยากรณ์​เกี่ยว​กับ​ครอบครัว​เอลี​จะ​เป็น​จริง​ใน​ไม่​ช้า. แต่​ซามูเอล​ก็​รวบ​รวม​ความ​กล้า​และ​เอลี​ก็​ยอม​รับ​คำ​พิพากษา​จาก​พระเจ้า​แต่​โดย​ดี. ไม่​นาน ทุก​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ตรัส​ไว้​ก็​เป็น​จริง. ชาว​อิสราเอล​ทำ​สงคราม​กับ​ชาว​ฟิลิสติน และ​ฮฟนี​กับ​ฟีนะฮาศ​ก็​ถูก​ฆ่า​ใน​วัน​เดียว​กัน. ส่วน​เอลี​ก็​ล้ม​ลง​ตาย​เมื่อ​ได้​รู้​ว่า​หีบ​สัญญา​ศักดิ์สิทธิ์​ถูก​ชิง​เอา​ไป.—1 ซามูเอล 3:10-18; 4:1-18

อย่าง​ไร​ก็​ตาม ซามูเอล​กลับ​มี​ชื่อเสียง​มาก​ขึ้น​ใน​ฐานะ​ผู้​พยากรณ์​ที่​เปี่ยม​ด้วย​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า. บันทึก​กล่าว​ว่า “พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​สถิต​อยู่” กับ​ซามูเอล และ​กล่าว​ด้วย​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ทำ​ให้​คำ​พยากรณ์​ทั้ง​สิ้น​ของ​ซามูเอล​สำเร็จ​เป็น​จริง.—1 ซามูเอล 3:19

“ซามูเอล กราบ​ทูล​พระ​ยะโฮวา”

ชาว​อิสราเอล​ได้​ติด​ตาม​ตัว​อย่าง​ของ​ซามูเอล และ​เป็น​ชาติ​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​และ​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​พระองค์​เสมอ​ไหม? ไม่​เลย. ใน​ที่​สุด พวก​เขา​ตัดสิน​ใจ​ว่า​ไม่​ต้องการ​จะ​มี​แค่​ผู้​พยากรณ์​คน​หนึ่ง​มา​พิพากษา​พวก​เขา. พวก​เขา​ต้องการ​เป็น​เหมือน​ชาติ​อื่น ๆ ซึ่ง​มี​กษัตริย์​ที่​เป็น​มนุษย์. ซามูเอล​ยอม​ฟัง​คำ​ขอ​ของ​พวก​เขา​ตาม​ที่​พระ​ยะโฮวา​ชี้​นำ. แต่​เขา​จะ​ต้อง​บอก​ให้​ชาว​อิสราเอล​รู้​ว่า​การ​ร้อง​ขอ​เช่น​นั้น​เป็น​บาป​ร้ายแรง​เพียง​ไร. พวก​เขา​ไม่​ได้​ปฏิเสธ​มนุษย์​คน​หนึ่ง​เท่า​นั้น แต่​ผู้​ที่​พวก​เขา​ปฏิเสธ​คือ​พระ​ยะโฮวา! ดัง​นั้น ซามูเอล​จึง​เรียก​ประชาชน​มา​รวม​กัน​ที่​กิลกาล.

ให้​เรา​กลับ​ไป​ดู​เหตุ​การณ์​ตอน​ที่​ซามูเอล​กำลัง​จะ​พูด​กับ​ชาว​อิสราเอล​ที่​กิลกาล. ซามูเอล​ผู้​ชรา​ได้​เตือน​ชาว​อิสราเอล​ให้​ระลึก​ว่า​เขา​ได้​รับใช้​พระเจ้า​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​มั่นคง​มา​นาน. จาก​นั้น​เรา​อ่าน​ว่า “ซามูเอล​กราบ​ทูล​พระ​ยะโฮวา.” เขา​ขอ​ให้​พระ​ยะโฮวา​บันดาล​ให้​มี​ฟ้า​ร้อง​และ​ฝน​ตก.—1 ซามูเอล 12:17, 18

ฟ้า​ร้อง​และ​ฝน​ตก​ใน​ฤดู​แล้ง​อย่าง​นี้​น่ะ​หรือ? ไม่​เคย​มี​ใคร​ได้​ยิน​ว่า​มี​เหตุ​การณ์​เช่น​นี้​เกิด​ขึ้น​เลย! หาก​จะ​มี​ใคร​ใน​ท่ามกลาง​คน​เหล่า​นั้น​ที่​คิด​สงสัย​หรือ​ดูหมิ่น พวก​เขา​ก็​คิด​อย่าง​นั้น​ได้​ไม่​นาน. ทันใด​นั้น ท้องฟ้า​ก็​มืด​ครึ้ม​ไป​ด้วย​เมฆ. ข้าว​สาลี​ใน​ทุ่ง​เอน​ไป​มา​ตาม​แรง​ลม. ฟ้า​คำราม​เสียง​ดัง​สนั่น แล้ว​ฝน​ก็​ตก​ลง​มา. ประชาชน​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร? “ประชาชน​ทั้ง​ปวง​จึง​พา​กัน​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา​และ​ซามูเอล​เป็น​อัน​มาก.” ใน​ที่​สุด พวก​เขา​ก็​สำนึก​ว่า​ได้​ทำ​บาป​ร้ายแรง​เพียง​ไร.—1 ซามูเอล 12:18, 19

ไม่​ใช่​ซามูเอล​แต่​เป็น​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​เขา​ที่​ทำ​ให้​ประชาชน​ที่​ดื้อดึง​เหล่า​นี้​เปลี่ยน​ใจ. ตั้ง​แต่​เด็ก​จน​ชรา ซามูเอล​มี​ความ​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​เสมอ​และ​พระ​ยะโฮวา​ก็​อวย​พร​เขา. จวบ​จน​ทุก​วัน​นี้ พระ​ยะโฮวา​ไม่​เคย​เปลี่ยน. พระองค์​ยัง​คอย​ช่วยเหลือ​คน​ที่​เลียน​แบบ​ความ​เชื่อ​ของ​ซามูเอล​เสมอ.

[เชิงอรรถ]

^ วรรค 8 นาษารีษ​คือ​ผู้​ที่​ได้​ปฏิญาณ​ตัว​ไว้​กับ​พระเจ้า และ​คำ​ปฏิญาณ​ของ​เขา​รวม​ถึง​การ​ละ​เว้น​เครื่อง​ดื่ม​แอลกอฮอล์​และ​ไม่​ตัด​ผม. นาษารีษ​ส่วน​ใหญ่​จะ​ทำ​ตาม​คำ​ปฏิญาณ​นั้น​อยู่​เพียง​ช่วง​เวลา​หนึ่ง มี​ไม่​กี่​คน​เท่า​นั้น​ที่​เป็น​นาษารีษ​ตลอด​ชีวิต เช่น ซิมโซน, ซามูเอล, และ​โยฮัน​ผู้​ให้​บัพติสมา.

^ วรรค 12 สถาน​ศักดิ์สิทธิ์​แห่ง​นี้​เป็น​เต็นท์​ขนาด​ใหญ่​รูป​สี่​เหลี่ยม​ผืน​ผ้า​ซึ่ง​มี​โครง​เป็น​ไม้. อย่าง​ไร​ก็​ตาม สถาน​แห่ง​นี้​สร้าง​ขึ้น​โดย​ใช้​วัสดุ​ที่​ดี​ที่​สุด ไม่​ว่า​จะ​เป็น​หนัง​ปลา​โลมา, ผ้า​ที่​เย็บ​ปัก​อย่าง​งดงาม, และ​ไม้​ที่​หุ้ม​ด้วย​เงิน​และ​ทองคำ​ซึ่ง​มี​ราคา​แพง. พลับพลา​ตั้ง​อยู่​บน​ลาน​รูป​สี่​เหลี่ยม​ผืน​ผ้า​ซึ่ง​ภาย​ใน​ลาน​ยัง​มี​แท่น​บูชา​ขนาด​ใหญ่​สำหรับ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ต่าง ๆ. ดู​เหมือน​ว่า​ใน​เวลา​ต่อ​มา​ได้​มี​การ​สร้าง​ห้อง​สำหรับ​พวก​ปุโรหิต​เพิ่ม​ด้าน​ข้าง​พลับพลา. ซามูเอล​คง​นอน​ใน​ห้อง​หนึ่ง​ที่​สร้าง​ขึ้น​ใหม่​นี้​ด้วย.

^ วรรค 16 บันทึก​ใน​พระ​คัมภีร์​พูด​ถึง​สอง​ตัว​อย่าง​ดัง​นี้: ตัว​อย่าง​แรก พระ​บัญญัติ​กำหนด​ไว้​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​ส่วน​ใด​ของ​เครื่อง​บูชา​ที่​ปุโรหิต​จะ​นำ​ไป​กิน​ได้. (พระ​บัญญัติ 18:3) แต่​ที่​พลับพลา​นี้ ปุโรหิต​ชั่ว​ทั้ง​หลาย​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​ต่าง​ไป​อย่าง​สิ้นเชิง. พวก​เขา​สั่ง​ให้​ผู้​ช่วย​ของ​เขา​เอา​สาม​ง่าม​จิ้ม​ลง​ไป​ใน​หม้อ​ต้ม​และ​ไม่​ว่า​เนื้อ​ส่วน​ใด​ที่​ดี ๆ ซึ่ง​ติด​สาม​ง่าม​ขึ้น​มา​พวก​เขา​ก็​เอา​ไป​เป็น​ของ​ตน! อีก​ตัว​อย่าง​หนึ่ง เมื่อ​ประชาชน​นำ​เครื่อง​บูชา​มา​ให้​เผา​ถวาย​ที่​แท่น พวก​ปุโรหิต​ชั่ว​ก็​จะ​สั่ง​ให้​ผู้​ช่วย​ไป​ขู่​บังคับ​เอา​เนื้อ​ที่​ยัง​ดิบ​อยู่ ก่อน​จะ​มี​การ​เผา​มัน​สัตว์​นั้น​ถวาย​เป็น​เครื่อง​บูชา​แด่​พระ​ยะโฮวา​ด้วย​ซ้ำ.—เลวีติโก 3:3-5; 1 ซามูเอล 2:13-17

[ภาพ​หน้า 17]

แม้​ซามูเอล​จะ​กลัว แต่​ก็​ทำ​หน้า​ที่​ของ​ตน​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​โดย​ถ่ายทอด​คำ​พิพากษา​ของ​พระ​ยะโฮวา​แก่​เอลี

[ภาพ​หน้า 18]

ซามูเอล​อธิษฐาน​ด้วย​ความ​เชื่อ​และ​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​โดย​บันดาล​ให้​มี​ฝน​ตก​และ​ฟ้า​ร้อง