ถูกต้องตามวิทยาศาสตร์
ถูกต้องตามวิทยาศาสตร์
“เราได้เขียนข้อความเหล่านั้นประกอบด้วยคำเตือนสติและความรู้ให้เจ้าไว้แล้วไม่ใช่หรือ; เพื่อจะทำให้เจ้ารู้จักแก่นความจริงในถ้อยคำเหล่านั้น?”—สุภาษิต 22:20, 21
คัมภีร์ไบเบิลต่างจากหนังสืออื่นอย่างไร? หนังสือในยุคโบราณมักมีแนวคิดที่ไม่ถูกต้องและเป็นอันตรายซึ่งวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ได้พิสูจน์แล้วว่าไม่เป็นความจริง. แม้แต่ในทุกวันนี้ผู้เขียนตำราต่าง ๆ ก็ยังต้องปรับปรุงเนื้อหาในตำราของเขาให้สอดคล้องกับการค้นพบใหม่ ๆ. แต่คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าผู้ประพันธ์หนังสือเล่มนี้คือพระผู้สร้าง และพระคำของพระองค์ “ดำรงอยู่เป็นนิตย์.”—1 เปโตร 1:25
ตัวอย่าง: พระบัญญัติที่พระเจ้าประทานแก่โมเซสั่งให้ชาวอิสราเอลขับถ่ายอุจจาระลงในหลุมที่อยู่ “นอกค่าย” และกลบให้มิดชิด. (พระบัญญัติ 23:12, 13) ถ้าพวกเขาแตะต้องซากสัตว์หรือศพคนตาย ชาวอิสราเอลต้องซักเสื้อผ้าของตน. (เลวีติโก 11:27, 28; อาฤธโม 19:14-16) ในสมัยนั้นคนที่เป็นโรคเรื้อนต้องถูกกักบริเวณจนกว่าจะได้รับการตรวจและยืนยันว่าโรคเรื้อนในตัวเขาไม่สามารถแพร่ไปสู่ผู้อื่นแล้ว.—เลวีติโก 13:1-8
การแพทย์สมัยใหม่เผยให้เห็นอะไร? การขับถ่ายของเสียอย่างถูกสุขลักษณะ การล้างมือ และการกักบริเวณผู้ป่วยเป็นวิธีที่ได้ผลในการต่อสู้กับเชื้อโรค. แต่ถ้าในละแวกนั้นไม่มีห้องส้วมหรือระบบสุขาภิบาลที่ดี ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐ (ซีดีซี) แนะนำว่า “ให้ขับถ่ายอุจจาระห่างจากแหล่งน้ำอย่างน้อย 30 เมตรและฝังกลบทุกครั้ง.” องค์การอนามัยโลกกล่าวว่าถ้าคนในชุมชนรู้จักขจัดอุจจาระอย่างถูกวิธี พวกเขาจะลดความเสี่ยงในการเกิดโรคท้องร่วงได้ถึง 36 เปอร์เซ็นต์. ไม่ถึง 200 ปีมานี้เองที่แพทย์พบว่าพวกเขาทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากติดโรค เมื่อพวกเขาไม่ได้ล้างมือหลังจากแตะต้องศพ. ปัจจุบัน ศูนย์ซีดีซียังยืนยันว่า การล้างมือเป็น “วิธีที่ได้ผลที่สุดวิธีเดียวในการป้องกันการติดเชื้อ.” แล้วการกักตัวผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อนหรือโรคติดต่ออื่น ๆ เป็นวิธีที่ได้ผลไหม? วารสารการแพทย์แห่งซาอุดี กล่าวเมื่อไม่นานมานี้ว่า “ตั้งแต่ตอนที่โรคเริ่มแพร่ระบาด การกักตัวหรือการแยกผู้ป่วยออกไปอยู่ต่างหากอาจเป็นวิธีเดียวและวิธีสุดท้ายที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคได้ดีที่สุด.”
คุณคิดอย่างไร? มีหนังสือเก่าแก่ทางศาสนาเล่มใดไหมที่สอดคล้องลงรอยกับวิทยาศาสตร์สมัยใหม่เช่นนี้? หรือมีเพียงคัมภีร์ไบเบิลเล่มเดียวเท่านั้น?
[คำโปรยหน้า 6]
“ใคร ๆ ก็รู้สึกประทับใจคำแนะนำที่ละเอียดถี่ถ้วนเกี่ยวกับวิธีรักษาสุขอนามัยในสมัยของโมเซ.”—คู่มือเวชศาสตร์เขตร้อน โดยนพ. อัลโด คัสเตลลานีและนพ. อัลเบิร์ต เจ. ชัลเมอร์ส