ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

จงเป็นนักสู้เพื่อความจริง

จงเป็นนักสู้เพื่อความจริง

วัน​สำเร็จ​การ​ศึกษา​ของ​นัก​เรียน​กิเลียด​รุ่น​ที่ 132

จง​เป็น​นัก​สู้​เพื่อ​ความ​จริง

วัน​ที่ 10 มีนาคม 2012 เป็น​วัน​พิเศษ​อีก​วัน​หนึ่ง​สำหรับ​ทุก​คน​ที่​ศูนย์​การ​ศึกษา​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​ใน​แพตเทอร์สัน นิวยอร์ก. ชาย​หญิง​หลาย​พัน​คน​ที่​แต่ง​กาย​สุภาพ​งดงาม รวม​ทั้ง​แขก​จาก​หลาย​ประเทศ​มา​ชุมนุม​กัน​ที่​นี่​เพื่อ​เข้า​ร่วม​วัน​สำเร็จ​การ​ศึกษา​ของ​นัก​เรียน​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด​รุ่น​ที่ 132. ผู้​ร่วม​งาน​นับ​พัน​คน​อยู่​ใน​ห้อง​ประชุม​ใหญ่​ของ​ศูนย์​การ​ศึกษา​แพตเทอร์สัน และ​อีก​ส่วน​หนึ่ง​ชม​การ​ถ่ายทอด​สัญญาณ​ภาพ​และ​เสียง​ทาง​จอ​โทรทัศน์​ใน​ที่​อื่น ๆ. จำนวน​ผู้​เข้า​ร่วม​ประชุม​ทั้ง​หมด​คือ 9,042 คน.

ทุก​คน​ตื่นเต้น​กับ​การ​ประชุม​ครั้ง​นี้. ชั้น​เรียน​นี้​ต่าง​จาก​ชั้น​เรียน​รุ่น​ก่อน ๆ ของ​โรง​เรียน​กิเลียด เพราะ​นัก​เรียน​ทุก​คน​ที่​จบ​การ​ศึกษา​เคย​เป็น​ผู้​รับใช้​เต็ม​เวลา​ประเภท​พิเศษ​มา​ก่อน ทั้ง​สมาชิก​ครอบครัว​เบเธล ไพโอเนียร์​พิเศษ ผู้​ดู​แล​เดิน​ทาง และ​มิชชันนารี แต่​พวก​เขา​ไม่​เคย​เข้า​โรง​เรียน​กิเลียด. จะ​มี​การ​กล่าว​อะไร​กับ​นัก​เรียน​ที่​มี​ประสบการณ์​เหล่า​นี้?

ผู้​เข้า​ร่วม​การ​ประชุม​ไม่​ต้อง​รอ​นาน​เพื่อ​จะ​ทราบ​คำ​ตอบ. บราเดอร์​แกร์ริต เลิช สมาชิก​คน​หนึ่ง​ใน​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา​เป็น​ประธาน​กล่าว​เปิด​การ​ประชุม. เขา​ถาม​คำ​ถาม​ที่​กระตุ้น​ความ​คิด​ว่า “คุณ​เป็น​นัก​สู้​ไหม?” เขา​อธิบาย​ว่า​คริสเตียน​เป็น​นัก​สู้​เพื่อ​ความ​จริง​และ​คอย​ปก​ป้อง​คำ​สอน​ทุก​อย่าง​ของ​คริสเตียน. การ​ปก​ป้อง​และ​เชิดชู​ความ​จริง​ไม่​ใช่​แค่​การ​สอน​ผู้​คน​ให้​รู้​จัก​ความ​จริง​เท่า​นั้น แต่​ต้อง​ช่วย​พวก​เขา​ให้​รัก​ความ​จริง​ด้วย.

บราเดอร์​เลิช​ถาม​ว่า “เรา​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​เรา​มี​ความ​จริง?” เขา​กล่าว​ว่า​หลักฐาน​ไม่​ได้​อยู่​ที่​จำนวน​ผู้​ตอบรับ​ความ​จริง. แม้​ว่า​ทุก​วัน​นี้​มี​หลาย​ล้าน​คน​ตอบรับ​การ​นมัสการ​อัน​บริสุทธิ์ แต่​ใน​วัน​เพนเทคอสต์​ปี​สากล​ศักราช 33 มี​คน​น้อย​มาก​ที่​ตอบรับ​ความ​จริง. เขา​กล่าว​ถึง​หลักฐาน​ห้า​อย่าง​ที่​แสดง​ว่า​เรา​มี​ความ​จริง​คือ (1) เรา​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู​เสมอ (2) เรา​มี​ความ​รัก​ต่อ​กัน (3) เรา​ยึด​มั่น​กับ​มาตรฐาน​ทาง​ศีลธรรม​ที่​สูง​ส่ง​ของ​พระเจ้า (4) เรา​รักษา​ความ​เป็น​กลาง​ใน​โลก​ที่​มี​แต่​ความ​ขัด​แย้ง และ (5) เรา​เป็น​ประชาชน​ที่​ใช้​พระ​นาม​ของ​พระเจ้า.

“จง​เชื่อ​ฟัง​และ​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง”

หลัง​จาก​นั้น ผู้​ฟัง​พา​กัน​ประหลาด​ใจ​เมื่อ​บราเดอร์​เจฟฟรีย์ แจ็กสัน สมาชิก​คน​หนึ่ง​ของ​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​เดิน​มา​ที่​โต๊ะ​บรรยาย​พร้อม​กับ​กระเป๋า​เดิน​ทาง​ใบ​หนึ่ง! หัวเรื่อง​คำ​บรรยาย​ของ​เขา​คือ “จง​เชื่อ​ฟัง​และ​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง” ซึ่ง​อาศัย​ยะซายา 50:5. ข้อ​คัมภีร์​นี้​เป็น​คำ​กล่าว​เชิง​พยากรณ์​ถึง​พระ​เยซู​คริสต์​ว่า “ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​ขัด​ขืน, ข้าพเจ้า​ไม่​ได้​หัน​หลัง​ให้.”

บราเดอร์​แจ็กสัน​แนะ​นำ​ว่า​นัก​เรียน​ควร​ตอบรับ​ทันที​เมื่อ​ได้​รับ​คำ​สั่ง​และ​การ​ชี้​นำ​จาก​พระเจ้า​ผ่าน​ทาง​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์ คัมภีร์​ไบเบิล และ​องค์การ​ของ​พระองค์. ใน​อุปมา​โวหาร​เรื่อง​เงิน​ตะลันต์​ซึ่ง​บันทึก​ไว้​ที่​มัดธาย 25:14-30 อาจ​กล่าว​ได้​ว่า​ทาส​ทุก​คน​ได้​รับ​เงิน​เท่า​กัน เพราะ​พวก​เขา​ได้​รับ​ตาม​ความ​สามารถ​ของ​ตน. นาย​คาด​หมาย​ว่า​พวก​เขา​จะ​ทำ​งาน​อย่าง​สุด​ความ​สามารถ. นาย​ชมเชย​ทาส​สอง​คน​และ​เรียก​พวก​เขา​ว่า​ทาส “ที่​ดี​และ​ซื่อ​สัตย์.” ความ​ซื่อ​สัตย์​ไม่​ได้​ขึ้น​อยู่​กับ​ผล​งาน​เสมอ​ไป แต่​ขึ้น​อยู่​กับ​การ​เชื่อ​ฟัง​และ​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​สั่ง.

นาย​เรียก​ทาส​คน​ที่​สาม​ว่า “ทาส​ชั่ว​และ​เกียจ​คร้าน” และ “ไร้​ค่า.” เพราะ​อะไร? เพราะ​เขา​เอา​เงิน​ตะลันต์​ที่​นาย​ให้​ไป​ฝัง​ดิน​ไว้. เงิน​หนึ่ง​ตะลันต์​ไม่​ใช่​เงิน​หนึ่ง​เหรียญ แต่​เป็น​หน่วย​วัด​น้ำหนัก​ซึ่ง​เทียบเท่า​กับ​เงิน 6,000 เดนาริอน และ​หนัก​เท่า​กับ 20 กิโลกรัม. นั่น​เท่า​กับ​น้ำหนัก​ของ​กระเป๋า​เดิน​ทาง​ใบ​หนึ่ง​ที่​ผู้​เดิน​ทาง​ไป​ต่าง​ประเทศ​ได้​รับ​อนุญาต​ให้​นำ​ขึ้น​เครื่องบิน​ได้. ไม่​ใช่​เรื่อง​ง่าย​เลย​ที่​จะ​ฝัง​ของ​ชิ้น​ใหญ่​อย่าง​นี้. ดัง​นั้น ที่​จริง​แล้ว​ทาส​คน​นี้​ได้​ทำ​งาน​บาง​อย่าง คือ​นำ​เงิน​ที่​หนัก​ถึง​หนึ่ง​ตะลันต์​ไป​ฝัง​ดิน แต่​นั่น​ไม่​ใช่​สิ่ง​ที่​นาย​สั่ง​ให้​เขา​ทำ. ใน​ทำนอง​เดียว​กัน มิชชันนารี​อาจ​มี​งาน​ล้น​มือ แต่​เป็น​งาน​อะไร​ล่ะ? เขา​ใช้​เวลา​มาก​กับ​การ​เขียน​ประสบการณ์​ส่ง​ไป​ให้​เพื่อน ๆ อ่าน ท่อง​อินเทอร์เน็ต สังสรรค์​กับ​พี่​น้อง หรือ​ทำ​งาน​ส่วน​ตัว​บาง​อย่าง​ไหม? พอ​ตก​เย็น​เขา​อาจ​รู้สึก​หมด​เรี่ยว​แรง​เนื่อง​จาก​กิจกรรม​เหล่า​นี้ แต่​เขา​ไม่​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​เขา​ได้​รับ​คำ​สั่ง​ให้​ทำ. บราเดอร์​แจ็กสัน​กล่าว​ทิ้ง​ท้าย​ว่า “จง​ทำ​ตาม​คำ​สั่ง​เสมอ!”

“อย่า​สงสัย​พระ​ยะโฮวา”

นี่​เป็น​หัวเรื่อง​คำ​บรรยาย​ของ​บราเดอร์​แอนโทนี มอร์ริส สมาชิก​คณะ​กรรมการ​ปกครอง​อีก​คน​หนึ่ง. เขา​กล่าว​ว่า “คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​เคย​สอน​ว่า​ความ​เชื่อ​กับ​ความ​สงสัย​เป็น​ของ​คู่​กัน. ความ​เชื่อ​จะ​ขจัด​ความ​สงสัย​ให้​หมด​ไป.” ซาตาน​สามารถ​เพาะ​ความ​สงสัย​ไว้​ใน​ใจ​ของ​ฮาวา ผู้​หญิง​ที่​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์​ได้​สำเร็จ ดัง​นั้น มัน​สามารถ​เพาะ​ความ​สงสัย​ไว้​ใน​ใจ​เรา​ด้วย. บราเดอร์​มอร์ริส​กล่าว​ว่า “จง​เลี้ยง​ความ​เชื่อ​ให้​อิ่ม​หนำ แล้ว​ความ​สงสัย​จะ​อด​ตาย​ใน​ที่​สุด.” จาก​นั้น ผู้​บรรยาย​ได้​ยก​ตัว​อย่าง​ของ​เปโตร​ซึ่ง “เดิน​บน​น้ำ” แต่​เมื่อ “เห็น​พายุ” เขา​ก็​กลัว​และ​เริ่ม​จม. พระ​เยซู​ทรง​ยื่น​พระ​หัตถ์​จับ​เปโตร​ไว้ แล้ว​ตรัส​กับ​เขา​ว่า “เจ้า​สงสัย​ทำไม?” (มัดธาย 14:29-31) บราเดอร์​มอร์ริส​กล่าว​ว่า “เมื่อ​พวก​คุณ​ซึ่ง​เป็น​มิชชันนารี​ทำ​งาน​รับใช้​เต็ม​เวลา​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง คน​อื่น ๆ อาจ​ประทับใจ​งาน​ทุก​อย่าง​ที่​คุณ​ทำ​เหมือน​เห็น​คุณ​เดิน​บน​น้ำ แต่​เมื่อ​ใด​ที่​มี​พายุ​โหม​กระหน่ำ ขอ​คุณ​อย่า​สงสัย​เป็น​อัน​ขาด.”

บราเดอร์​มอร์ริส​กล่าว​ต่อ​ไป​โดย​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า​แม้​การ​รับมือ​กับ​ปัญหา​ที่​เปรียบ​เหมือน​พายุ​อาจ​เป็น​เรื่อง​ยาก แต่​ใน​ที่​สุด​พายุ​นั้น​ก็​จะ​ผ่าน​ไป. เมื่อ​พูด​ถึง​ความ​ยาก​ลำบาก เขา​ชวน​ให้​นัก​เรียน​คิด​ถึง​ประสบการณ์​ของ​เปาโล​กับ​ซีลัส​ตอน​ที่​ถูก​จำ​คุก​ใน​เมือง​ฟิลิปปอย. กิจการ 16:25 เล่า​ว่า “เมื่อ​เวลา​ประมาณ​เที่ยง​คืน เปาโล​กับ​ซีลัส​อธิษฐาน​และ​ร้อง​เพลง​สรรเสริญ​พระเจ้า​และ​พวก​นัก​โทษ​ก็​ฟัง.” ขอ​ให้​สังเกต​ว่า พวก​เขา​ไม่​เพียง​อธิษฐาน แต่​ร้อง​เพลง​ด้วย. พวก​เขา​ร้อง​เพลง​เสียง​ดัง​จน​นัก​โทษ​คน​อื่น ๆ ใน​คุก​ได้​ยิน. บราเดอร์​มอร์ริส​กล่าว​ว่า พวก​เรา​ส่วน​ใหญ่​ไม่​ได้​มี​เสียง​ดี​เหมือน​นัก​ร้อง แต่​เรา​ไม่​ควร​รู้สึก​อาย​ที่​จะ​ร้อง​เพลง โดย​เฉพาะ​ใน​ช่วง​ที่​ประสบ​ปัญหา​หรือ​มี​ความ​ทุกข์​ยาก. บราเดอร์​มอร์ริส​กล่าว​ปิด​ท้าย​คำ​บรรยาย​ของ​เขา​โดย​อ่าน​เนื้อ​เพลง​จาก​หนังสือ​เพลง​สรรเสริญ​พระ​ยะโฮวา บท 135 ซึ่ง​มี​ชื่อ​ว่า “เพียร​อด​ทน​จน​ถึง​ที่​สุด.”

คำ​บรรยาย​อื่น ๆ ที่​ให้​กำลังใจ

“คุณ​ปรารถนา​จะ​มี​อายุ​ยั่งยืน​ไหม?” คือ​หัวเรื่อง​คำ​บรรยาย​ของ​บราเดอร์​โรเบิร์ต ลูซีโอนี จาก​แผนก​จัด​ซื้อ. คำ​บรรยาย​นี้​อาศัย​คำ​กล่าว​ของ​กษัตริย์​ดาวิด​ที่​บทเพลง​สรรเสริญ 34:12. คำ​บรรยาย​ของ​บราเดอร์​ลูซีโอนี​พูด​ถึง​วิธี​รับมือ​กับ​ความ​ยุ่งยาก​ใน​ขณะ​ที่​พยายาม​รักษา​สาย​สัมพันธ์​ที่​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​ไว้​ต่อ​ไป. มี​แง่​คิด​หลาย​อย่าง​ที่​เรา​เรียน​ได้​จาก​เรื่อง​ราว​ที่​บันทึก​ใน 1 ซามูเอล บท 30. ตอน​นั้น​ดาวิด​กับ​พรรค​พวก​ของ​ท่าน​และ​ครอบครัว​ของ​พวก​เขา​หนี​การ​ตาม​ล่า​ของ​กษัตริย์​ซาอูล​ไป​ลี้​ภัย​อยู่​ที่​เมือง​ซิ​คลัก. เมื่อ​ชาว​อะมาเล็ค​บุก​มา​จับ​ครอบครัว​ของ​พวก​เขา​ไป พรรค​พวก​ของ​ดาวิด​ได้​กล่าว​โทษ​ท่าน​และ​คิด​จะ​เอา​หิน​ขว้าง​ท่าน. ดาวิด​ทำ​อย่าง​ไร? ดาวิด​ไม่​ท้อ​แท้ แต่​ท่าน “ตั้งใจ​ให้​แข็ง​กล้า​ขึ้น, ด้วย​พึ่ง​ใน​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​ของ​ตน.” (1 ซามูเอล 30:6) ท่าน​ทูล​ถาม​พระ​ยะโฮวา ทำ​ตาม​การ​ชี้​นำ​ของ​พระเจ้า และ​ช่วย​ครอบครัว​ที่​ถูก​จับ​ไป​กลับ​มา​ได้. ผู้​บรรยาย​รับรอง​กับ​นัก​เรียน​ว่า​ถ้า​พวก​เขา​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​เช่น​เดียว​กับ​ดาวิด​และ​ทำ​ตาม​การ​ชี้​นำ​ของ​พระองค์ พวก​เขา​จะ​มี​อายุ​ยั่งยืน​เพื่อ​ได้​เห็น​สิ่ง​ดี. พวก​เขา​จะ​มี​ความ​สุข​ใน​งาน​มิชชันนารี​ซึ่ง​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​อัน​ล้ำ​ค่า​ที่​พวก​เขา​ได้​รับ.

“คิด​ถึง​ยาม​เช้า​อัน​สดใส​ซึ่ง​จะ​มา​แทน​ที่​กลางคืน​อัน​มืด​มิด” เป็น​หัวเรื่อง​คำ​บรรยาย​ของ​บราเดอร์​ไมเคิล เบอร์เนตต์ ผู้​สอน​คน​หนึ่ง​ของ​โรง​เรียน​กิเลียด. ชาว​อิสราเอล​แบ่ง​เวลา​กลางคืน ตั้ง​แต่​ดวง​อาทิตย์​ตก​จน​ถึง​ดวง​อาทิตย์​ขึ้น​เป็น​สาม​ช่วง​หรือ​สาม​ยาม และ​แต่​ละ​ยาม​มี​สี่​ชั่วโมง. ยาม​สุด​ท้าย​คือ​ตั้ง​แต่​ตี​สอง​จน​ถึง​หก​โมง​เช้า เป็น​ช่วง​ที่​มืด​และ​หนาว​ที่​สุด​และ​เป็น​ช่วง​ที่​เผลอ​หลับ​ได้​ง่าย​ที่​สุด. ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​คิด​รำพึง​ถึง​พระ​ดำรัส​ของ​พระ​ยะโฮวา​ตลอด​ช่วง​ยาม​สุด​ท้าย​เพื่อ​เขา​จะ​ไม่​เผลอ​หลับ​ไป. (บทเพลง​สรรเสริญ 119:148) บราเดอร์​เบอร์เนตต์​บอก​นัก​เรียน​ว่า “คุณ​ต้อง​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ. จะ​มี​บาง​ช่วง​ที่​คุณ​รู้สึก​หดหู่​ท้อ​แท้​เหมือน​อยู่​ใน​ความ​มืด และ​ความ​เย็นชา​ของ​ผู้​คน​จะ​ทำ​ให้​คุณ​เหน็บ​หนาว. คุณ​ต้อง​เตรียม​ตัว​เพื่อ​รับมือ​กับ​สถานการณ์​เช่น​นั้น.” จาก​นั้น ผู้​บรรยาย​ได้​เตือน​นัก​เรียน​ว่า​พวก​เขา​ควร​ศึกษา​พระ​คัมภีร์​ให้​ลึกซึ้ง​และ​ค้นคว้า​เรื่อง​ต่าง ๆ อย่าง​ละเอียด​เพื่อ​จะ​ตื่น​ตัว​อยู่​เสมอ​ใน​งาน​รับใช้. บราเดอร์​เบอร์เนตต์​อธิบาย​เรื่อง​นี้​โดย​ยก​ตัว​อย่าง​ว่า “คุณ​อธิษฐาน​ถึง​พระ​ยะโฮวา​ทุก​วัน​เพราะ​คุณ​อยาก​เป็น​เพื่อน​กับ​พระองค์. ฉะนั้น ถ้า​คุณ​คิด​ว่า​พระ​ยะโฮวา​เป็น​เพื่อน คุณ​ก็​ต้อง​ให้​พระองค์​พูด​คุย​กับ​คุณ​ทุก​วัน​ผ่าน​ทาง​คัมภีร์​ไบเบิล. เวลา​ที่​ยาก​ลำบาก​ซึ่ง​เปรียบ​เหมือน​กลางคืน​ล่วง​เลย​ไป​มาก​แล้ว ดัง​นั้น จง​วาง​แผน​ให้​ดี​ว่า​คุณ​จะ​ทำ​อะไร​เมื่อ​ถึง​รุ่ง​เช้า. การ​ทำ​เช่น​นั้น​จะ​ช่วย​ให้​คุณ​คิด​ถึง​ยาม​เช้า​อัน​สดใส​ซึ่ง​จะ​มา​แทน​ที่​กลางคืน​อัน​มืด​มิด.”

“รับ​การ​ฝึก​อบรม​เพื่อ​งาน​ที่​รอ​อยู่​ข้าง​หน้า” เป็น​หัวเรื่อง​คำ​บรรยาย​ที่​อาศัย 1 เปโตร 5:10 ซึ่ง​บรรยาย​โดย​บราเดอร์​มาร์ก นูแมร์ ผู้​สอน​อีก​คน​หนึ่ง​ของ​โรง​เรียน​กิเลียด. เขา​ถาม​นัก​เรียน​ว่า “ทำไม​ผู้​เผยแพร่​ที่​มี​ประสบการณ์​อย่าง​พวก​คุณ​จึง​ได้​รับ​เชิญ​ให้​มา​อบรม​ที่​ศูนย์​การ​ศึกษา​ว็อชเทาเวอร์?” คำ​ตอบ​คือ “เพราะ​พวก​คุณ​เป็น​ผู้​เชี่ยวชาญ​ใน​งาน​เผยแพร่. ผู้​เชี่ยวชาญ​ใน​สาขา​วิชา​ต่าง ๆ หลาย​คน​ยอม​ละ​งาน​ของ​ตน​เพื่อ​รับ​การ​อบรม​ซึ่ง​จะ​ช่วย​ให้​เขา​มี​ความ​รู้​ความ​สามารถ​มาก​ขึ้น. ตลอด​ห้า​เดือน​ที่​ผ่าน​มา พระ​ยะโฮวา​ทรง​ช่วย​ให้​คุณ ‘มั่นคง’ และ ‘เข้มแข็ง’ โดย​ให้​การ​ศึกษา​เกี่ยว​กับ​พระ​คำ​และ​องค์การ​ของ​พระองค์​แก่​คุณ​อย่าง​ลึกซึ้ง​และ​ถี่ถ้วน เพื่อ​คุณ​จะ​สามารถ​แบก​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​อัน​หนัก​หน่วง​ซึ่ง​รอ​อยู่​ข้าง​หน้า​ได้. ท่อน​ไม้​ที่​มั่นคง​แข็งแรง​สามารถ​รอง​รับ​น้ำหนัก​ของ​บ้าน​ได้​โดย​ไม่​โค้ง​งอ บิด​เบี้ยว หรือ​แตก​ร้าว. ผล​จาก​การ​ฝึก​อบรม​จะ​ปรากฏ​ให้​เห็น​ขณะ​ที่​คุณ​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​พี่​น้อง​ชาย​หญิง. แรง​กดดัน​ที่​หนัก​หน่วง​จะ​บีบคั้น​คุณ​ให้​ละ​ทิ้ง​หลักการ​ของ​พระเจ้า​ไหม หรือ​คุณ​จะ​ยึด​มั่น​กับ​สิ่ง​ที่​คุณ​ได้​เรียน​จาก​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​เสมอ? สิ่ง​ที่​แข็งแรง​จะ​แบก​รับ​ของ​หนัก​ได้. ความ​แข็งแรง​ทนทาน​ของ​ท่อน​ไม้​อยู่​ที่​ความ​เหนียว​ของ​เส้นใย​ใน​เนื้อ​ไม้. ความ​เข้มแข็ง​ของ​คุณ​ก็​ขึ้น​อยู่​กับ​คุณลักษณะ​ภาย​ใน​ซึ่ง​เป็น​ตัว​ตน​ที่​แท้​จริง​ของ​คุณ. พระ​ยะโฮวา​ทรง​นำ​คุณ​มา​ที่​นี่​เพื่อ​ฝึก​คุณ​ให้​เข้มแข็ง ซื่อ​สัตย์ และ​วางใจ​ได้​สำหรับ​งาน​ที่​รอ​อยู่​ข้าง​หน้า. พระเจ้า​ทรง​ทำ​ส่วน​ของ​พระองค์​แล้ว เรา​จึง​อธิษฐาน​ขอ​ให้​คุณ​ทำ​ส่วน​ของ​คุณ​และ​ยอม​ให้ ‘พระ​บรม​ครู’ ฝึก​คุณ​จน​สามารถ​ทำ​งาน​ที่​พระองค์​มอบหมาย​ได้​สำเร็จ.”

ประสบการณ์​และ​การ​สัมภาษณ์

ใน​วัน​สำเร็จ​การ​ศึกษา​ของ​โรง​เรียน​กิเลียด ปกติ​แล้ว​นัก​เรียน​จะ​เล่า​ประสบการณ์​ต่าง ๆ ที่​น่า​ตื่นเต้น​และ​เสริม​ความ​เชื่อ และ​ครั้ง​นี้​ก็​เช่น​กัน. มี​การ​สาธิต​ประสบการณ์​จาก​การ​ประกาศ​ของ​นัก​เรียน​เมื่อ​ไม่​นาน​มา​นี้. ตัว​อย่าง​เช่น ระหว่าง​เดิน​ทาง​มา​อบรม​ที่​โรง​เรียน​กิเลียด คู่​สมรส​จาก​ฝรั่งเศส​รอ​ขึ้น​เครื่องบิน​อยู่​ที่​สนามบิน​แห่ง​หนึ่ง​นาน​หก​ชั่วโมง. ใน​ร้าน​อาหาร​ของ​สนามบิน พวก​เขา​ได้​สนทนา​กับ​ชาย​สอง​คน​ซึ่ง​กำลัง​รอ​ขึ้น​เครื่อง​เช่น​กัน. เมื่อ​ชาย​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า​เขา​มา​จาก​ประเทศ​มาลาวี พวก​เขา​ก็​พูด​กับ​ชาย​คน​นั้น​เป็น​ภาษา​ชิ​เช​วา. ชาย​คน​นั้น​แปลก​ใจ​มาก​และ​ถาม​ว่า​ทำไม​พวก​เขา​พูด​ภาษา​ชิ​เช​วา​ได้. พี่​น้อง​ของ​เรา​อธิบาย​ว่า​พวก​เขา​เคย​เป็น​มิชชันนารี​อยู่​ที่​มาลาวี. เมื่อ​ชาย​อีก​คน​หนึ่ง​บอก​ว่า​เขา​มา​จาก​แคเมอรูน สามี​ภรรยา​คู่​นี้​ก็​เปลี่ยน​มา​พูด​ภาษา​ฝรั่งเศส​ทันที​ซึ่ง​ทำ​ให้​เขา​ทึ่ง​มาก. ชาย​ทั้ง​สอง​มี​ความ​รู้สึก​ที่​ดี​ต่อ​พยาน​พระ​ยะโฮวา และ​มิชชันนารี​ทั้ง​สอง​ได้​ให้​คำ​พยาน​กับ​พวก​เขา.

จาก​นั้น บราเดอร์​นิโคลัส อาห์ลาดิส​จาก​แผนก​บริการ​การ​แปล​ได้​สัมภาษณ์​นัก​เรียน​สอง​คู่. สามี​ภรรยา​คู่​แรก​ย้าย​จาก​ออสเตรเลีย​มา​เป็น​มิชชันนารี​ที่​ติมอร์​ตะวัน​ออก​ซึ่ง​เคย​ประสบ​ภัย​สงคราม. อีก​คู่​หนึ่ง​ย้าย​จาก​เกาหลี​มา​รับใช้​ที่​ฮ่องกง. ทั้ง​สอง​คู่​กระตือรือร้น​ที่​จะ​กลับ​ไป​ยัง​เขต​งาน​ของ​พวก​เขา​ใน​ต่าง​แดน​และ​นำ​ความ​รู้​ที่​ได้​เรียน​จาก​โรง​เรียน​นี้​ไป​ใช้.

หลัง​จาก​มี​การ​มอบ​ประกาศนียบัตร​แก่​นัก​เรียน ตัว​แทน​นัก​เรียน​ได้​ขึ้น​มา​อ่าน​จดหมาย​ขอบคุณ​สำหรับ​การ​ฝึก​อบรม​ที่​พวก​เขา​ได้​รับ. จาก​นั้น บราเดอร์​เลิช​กล่าว​ปิด​ท้าย​การ​ประชุม​โดย​ใช้​ภาพ​เปรียบ​เทียบ​ที่​น่า​ประทับใจ​ต่าง ๆ เช่น ความ​จริง​งดงาม​ดั่ง​สาย​รุ้ง เสมือน​หนึ่ง​แหล่ง​น้ำ​กลาง​ทะเล​ทราย และ​ประดุจ​สมอ​เรือ​ใน​ท้อง​ทะเล​ที่​บ้า​คลั่ง. เขา​กล่าว​ว่า “การ​ได้​รู้​จัก​ความ​จริง​เป็น​พระ​พร​อัน​ยิ่ง​ใหญ่. จง​เป็น​นัก​สู้​เพื่อ​ความ​จริง และ​ช่วย​คน​อื่น ๆ ให้​เป็น​นัก​สู้​เช่น​กัน.”

[ตาราง/ภาพ​หน้า 31]

สถิติ​ชั้น​เรียน

นัก​เรียน​มา​จาก 12 ประเทศ

เฉลี่ย​อายุ 36 ปี

เฉลี่ย​จำนวน​ปี​ที่​รับ​บัพติสมา 20 ปี

เฉลี่ย​จำนวน​ปี​ที่​รับใช้​เต็ม​เวลา 15 ปี

[แผนที่]

(ดู​ราย​ละเอียด​จาก​วารสาร)

นัก​เรียน​ได้​รับ​มอบหมาย​ไป​ยัง​ประเทศ​ต่าง ๆ ดัง​แสดง​ไว้​ข้าง​ล่าง

เขต​มอบหมาย​ของ​นัก​เรียน

เบลีซ

เบนิน

กัมพูชา

แคเมอรูน

เคปเวิร์ด

โกตดิวัวร์

สาธารณรัฐ​โดมินิกัน

ติมอร์​ตะวัน​ออก

เอกวาดอร์

กาบอง

จอร์เจีย

กินี

ฮ่องกง

ไลบีเรีย

มาดากัสการ์

มาลาวี

เปรู

ซามัว

เซาโตเม​และ​ปรินซิเป

สหรัฐ​อเมริกา

ซิมบับเว

[ภาพ​หน้า 31]

ผู้​สำเร็จ​การ​ศึกษา​รุ่น​ที่ 132 ของ​โรง​เรียน​ว็อชเทาเวอร์​ไบเบิล​แห่ง​กิเลียด

ราย​ชื่อ​ข้าง​ล่าง​นี้​นับ​จาก​แถว​หน้า​ไป​แถว​หลัง และ​เรียง​ลำดับ​จาก​ซ้าย​ไป​ขวา.

(1) Iap R.; Iap J.; Ng T.; Ng P.; Laurino F.; Laurino B.; Won S.; Won S.

(2) Morales N.; Morales M.; Zanutto J.; Zanutto M.; Rumph I.; Rumph J.; Germain D.; Germain N.

(3) Atchadé Y.; Atchadé Y.; Thomas C.; Thomas E.; Estigène C.; Estigène P.

(4) Ehrman D.; Ehrman A.; Bray J.; Bray A.; Amorim M.; Amorim D.; Seo Y.; Seo Y.

(5) Simon J.; Simon C.; Seale C.; Seale D.; Erickson J.; Erickson R.

(6) McCluskey, D.; McCluskey T.; Brown A.; Brown V.; Mariano D.; Mariano C.; Loyola Y.; Loyola C.

(7) Rutgers P.; Rutgers N.; Foucault P.; Foucault C.; Wunjah J.; Wunjah E.