ทำไมพ่อแม่เลิกกัน?
บท 4
ทำไมพ่อแม่เลิกกัน?
“ฉันอยู่บ้านกับแม่ในวันที่พ่อทิ้งเราไป. ฉันอายุแค่หกขวบ จึงไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น. ฉันกำลังนั่งดูทีวีอยู่ที่พื้น แล้วก็ได้ยินเสียงแม่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอ้อนวอนขอพ่ออย่าไป. พ่อเดินลงมาข้างล่างพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้า คุกเข่าลงจูบฉัน แล้วพูดว่า “พ่อรักลูกเสมอนะ.” แล้วพ่อก็ออกจากบ้านไป. หลังจากนั้น ฉันก็ไม่ได้เจอพ่ออีกนาน. ตั้งแต่นั้นฉันก็กลัวว่าแม่จะทิ้งฉันไปอีกคน.”—อีเลน อายุ 19
ถ้าพ่อแม่ของคุณหย่าร้างกัน คุณอาจรู้สึกเหมือนกับว่าโลกทั้งโลกแตกสลายและคุณจะต้องจมอยู่กับความทุกข์ไปตลอด. บ่อยครั้ง การหย่าร้างก่อความรู้สึกที่รุนแรง ทั้งอับอาย โกรธ วิตกกังวล กลัวจะถูกทอดทิ้ง รู้สึกผิด ซึมเศร้า รู้สึกสูญเสีย และถึงกับคิดจะแก้แค้นด้วยซ้ำ.
ถ้าพ่อแม่ของคุณเพิ่งเลิกกันไม่นานมานี้ คุณอาจรู้สึกอย่างนั้นและนั่นไม่แปลก เพราะพระผู้สร้างทรงประสงค์ให้ลูก ๆ ได้รับการเลี้ยงดูจากทั้งพ่อและแม่. (เอเฟโซส์ 6:1-3) แต่ตอนนี้พ่อหรือแม่ที่คุณรักมากไม่ได้อยู่ที่บ้านกับคุณอีกแล้ว. แดเนียลซึ่งพ่อแม่เลิกกันตอนที่เขาอายุเจ็ดขวบ บอกว่า “ผมชื่นชมพ่อมากและอยากอยู่กับพ่อ. แต่แม่ได้สิทธิ์เลี้ยงดูเรา.”
เหตุผลที่พ่อแม่เลิกกัน
ถ้าพ่อแม่ซ่อนปัญหาไว้ไม่ให้ใครรู้ ลูก ๆ มักคิดไม่ถึงว่าพ่อแม่จะเลิกกัน. เรเชลซึ่งพ่อแม่หย่ากันเมื่อเธออายุ 15 บอกว่า “ฉันช็อก ฉันเข้าใจมาตลอดว่าพ่อแม่รักกัน.” แม้แต่ในครอบครัวที่พ่อแม่ทะเลาะกันเป็นประจำ เมื่อพวกเขาเลิกกัน ลูกก็ยังรู้สึกช็อกและเสียใจมาก.
คู่สมรสหลายคู่เลิกกันเพราะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งผิดศีลธรรมทางเพศ. ถ้าเช่นนั้น พระเจ้าอนุญาตให้ฝ่ายที่ไม่ผิดขอหย่าและแต่งงานใหม่ได้. (มัดธาย 19:9) สำหรับบางคู่ “การเดือดดาล การตวาด และการพูดหยาบหยาม” อาจลุกลามกลายเป็นความรุนแรงจนทำให้ฝ่ายหนึ่งกลัวว่าหากอยู่ด้วยกันต่อไปตนเองและลูก ๆ อาจถูกทำร้าย.—เอเฟโซส์ 4:31
เป็นความจริงที่ว่า คู่สมรสบางคู่เลิกกันด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้น. แทนที่จะพยายามแก้ปัญหา บางคู่ตัดสินใจหย่าร้างกันด้วยข้ออ้างที่เห็นแก่ตัว เช่น “อยู่ไปก็ไม่มีความสุข” หรือ “เราไม่ได้รักกันแล้ว.” พระเจ้าผู้ “เกลียดการหย่าร้าง” ไม่พอพระทัยหากหย่ากันด้วยเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเช่นนั้น. (มาลาคี 2:16) พระเยซูยังตรัสเป็นนัยว่า บางครอบครัวอาจแตกแยกเมื่อคู่สมรสฝ่ายหนึ่งเข้ามาเป็นคริสเตียน.—มัดธาย 10:34-36
สุภาษิต 24:10) นอกจากนั้น พวกเขาอาจรู้สึกกระอักกระอ่วนและอับอายที่จะยอมรับความล้มเหลวของตน.
ไม่ว่าพ่อแม่จะเลิกกันด้วยเหตุผลใด การที่พวกเขาไม่ยอมพูดถึงหรือตอบแบบเลี่ยง ๆ ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาไม่รักคุณ. พวกเขาอาจเป็นทุกข์มากจนไม่อยากพูดถึงเรื่องหย่า. (สิ่งที่คุณทำได้
รู้ว่าคุณกลัวอะไร. เนื่องจากการหย่าร้างอาจทำให้ชีวิตคุณเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ คุณจึงกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เคยคิดมาก่อน. อย่างไรก็ตาม คุณจะรับมือกับความกลัวได้ถ้ารู้ว่าคุณกลัวอะไรบ้าง. ขีด ✔ หน้าสิ่งที่คุณกลัวมากที่สุด หรือเขียนเพิ่มในช่อง “อื่น ๆ.”
□ พ่อหรือแม่ที่อยู่กับฉันจะทิ้งฉันไปอีกคน
□ ครอบครัวจะมีเงินไม่พอใช้
□ ฉันอาจเป็นสาเหตุให้พ่อแม่หย่ากัน
□ ถ้าฉันแต่งงาน ชีวิตสมรสของฉันจะล้มเหลว
□ อื่น ๆ ․․․․․
พูดเรื่องที่คุณกังวล. กษัตริย์โซโลมอนกล่าวว่า มี “วาระสำหรับเจรจา.” (ท่านผู้ประกาศ 3:7) ดังนั้น ลองสังเกตว่าเวลาไหนเหมาะจะคุยกับพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องที่คุณกังวล. บอกให้พ่อแม่รู้ว่าคุณเสียใจหรือสับสนมากแค่ไหน. บางทีพวกเขาอาจอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง แล้วคุณก็จะกังวลน้อยลง. ถ้าในขณะนั้นพ่อแม่ไม่พร้อมหรือช่วยอะไรคุณไม่ได้ คุณควรไปหาเพื่อนที่เป็นผู้ใหญ่และเล่าความในใจให้เขาฟัง. เพียงแค่มีใครสักคนรับฟังคุณ ก็ช่วยให้สบายใจได้มากทีเดียว.—สุภาษิต 17:17
คุณมีพระบิดาผู้สถิตในสวรรค์ “ผู้สดับคำอธิษฐาน” ซึ่งพร้อมเสมอที่จะรับฟังคุณยิ่งกว่าใคร ๆ. (บทเพลง) ให้คุณระบายความรู้สึกทั้งหมดกับพระองค์ ‘เพราะพระองค์ทรงห่วงใยคุณ.’— สรรเสริญ 65:21 เปโตร 5:7, ฉบับ R73
สิ่งที่ไม่ควรทำ
อย่าเก็บความโกรธไว้. แดเนียลที่กล่าวถึงตอนต้นบอกว่า “พ่อแม่ผมเห็นแก่ตัว. พวกเขาไม่คิดถึงเราเลยและไม่สนใจว่าสิ่งที่เขาทำจะมีผลต่อพวกเราอย่างไร.” การที่แดเนียลรู้สึกอย่างนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้และบางทีอาจเป็นอย่างที่เขาคิดก็ได้. คุณจะตอบคำถามต่อไปนี้อย่างไร? ลองเขียนคำตอบลงในบรรทัดข้างล่าง.
ถ้าแดเนียลไม่ยอมให้อภัยและยังเก็บความโกรธกับความขุ่นเคืองไว้จะมีผลเสียอย่างไร? (อ่านสุภาษิต 29:22) ․․․․․
ทำไมแดเนียลน่าจะพยายามให้อภัยพ่อแม่ที่ทำให้เขาเสียใจ ถึงแม้จะทำได้ยาก? (อ่านเอเฟโซส์ 4:31, 32) ․․․․․
ความจริงที่กล่าวในโรม 3:23 จะช่วยแดเนียลอย่างไรให้มองพ่อแม่อย่างสมเหตุสมผล? ․․․․․
หลีกเลี่ยงความประพฤติที่ทำให้ตัวเองเสียหาย. เดนนีเล่าว่า “ตั้งแต่พ่อแม่หย่ากัน ผมก็ซึมเศร้าและไม่มีความสุขเลย. ผมเริ่มมี
ปัญหาที่โรงเรียนและต้องเรียนซ้ำชั้นหนึ่งปี. หลังจากนั้น . . . ผมก็พยายามทำตัวตลก ๆ เวลาอยู่กับเพื่อนในชั้น ขณะเดียวกันก็เริ่มมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่นบ่อย ๆ.”คุณคิดว่า เดนนีพยายามทำตัวตลก ๆ เพื่ออะไร? ․․․․․
ทำไมเขาจึงเริ่มมีเรื่องชกต่อยบ่อย ๆ? ․․․․․
ถ้าคุณคิดว่าจะทำตัวไม่ดีเพื่อให้พ่อแม่เจ็บ หลักการในกาลาเทีย 6:7 จะช่วยคุณได้อย่างไรให้มีทัศนะที่ถูกต้อง? ․․․․․
ต่อไปจะเป็นอย่างไร
การบาดเจ็บทางกาย เช่น กระดูกหัก อาจต้องใช้เวลารักษานานหลายสัปดาห์กระทั่งหลายเดือนจนกว่าจะหายสนิท. บาดแผลทางอารมณ์ก็ต้องใช้เวลาเยียวยาเช่นกัน. ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าผลกระทบที่รุนแรงที่สุดที่เกิดจากการหย่าร้างจะหายได้ภายในสามปี. เวลาสามปีอาจดูเหมือนนาน แต่จำไว้ว่าคุณยังต้องเจออะไรอีกมากมายกว่าชีวิตคุณจะเข้าที่เข้าทางอีกครั้ง.
ตัวอย่างเช่น เมื่อพ่อแม่หย่าร้างกันต้องมีการจัดระบบในครอบครัวใหม่. นอกจากนั้น เวลาจะช่วยฟื้นฟูสภาพจิตใจของพ่อแม่ให้กลับเป็นปกติ. เมื่อถึงตอนนั้นพวกเขาจึงจะดูแลเอาใจใส่คุณได้. อย่างไรก็ตาม เมื่อชีวิตคุณเริ่มเข้าที่เข้าทาง คุณจะกลับรู้สึกดีอีกครั้ง.
เชิญอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ในเล่ม 2 บท 25
คุณรู้สึกกังวลเพราะพ่อแม่แต่งงานใหม่ไหม? คุณจะรับมืออย่างไร?
ข้อคัมภีร์หลัก
“มี . . . วาระสำหรับเยียวยา.”—ท่านผู้ประกาศ 3:1, 3
ข้อแนะ
ถ้าพ่อแม่คุณหย่าร้างกัน นั่นคงเป็นเพราะความผิดของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่าย. ลองคิดดูว่าอะไรคือสาเหตุ เพื่อคุณจะไม่เป็นอย่างนั้นหากคิดจะแต่งงานในอนาคต.—สุภาษิต 27:12
คุณรู้ไหม . . . ?
ชีวิตคู่ของคุณไม่จำเป็นต้องขาดความสุขแบบเดียวกับพ่อแม่โดยอัตโนมัติ.
แผนปฏิบัติการ
ฉันจะพูดเรื่องที่ฉันกลัวกับ (เขียนชื่อคนที่คุณอยากคุยด้วยซึ่งมีความคิดเป็นผู้ใหญ่) ․․․․․
ถ้าฉันคิดว่าจะทำตัวไม่ดีเพื่อให้พ่อแม่เจ็บ ฉันจะเลิกความคิดนั้นถ้าทำสิ่งต่อไปนี้ ․․․․․
สิ่งที่ฉันอยากถามพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ․․․․․
คุณคิดอย่างไร?
● ทำไมพ่อแม่ไม่อยากคุยกับคุณเกี่ยวกับเรื่องที่เขาหย่าร้างกัน?
● ทำไมควรจำไว้ว่า การหย่าร้างเป็นเรื่องของความขัดแย้งระหว่างพ่อแม่ ไม่ใช่กับคุณ?
[คำโปรยหน้า 32]
“หลังจากแม่ทิ้งพวกเราไป ฉันซึมเศร้าและร้องไห้ทุกวัน. แต่ฉันอธิษฐานบ่อย ๆ ออกไปช่วยเหลือผู้อื่น และสนิทกับเพื่อนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่. ฉันรู้สึกว่าพระยะโฮวาพระเจ้าช่วยฉันให้รับมือกับปัญหาได้ด้วยวิธีเหล่านี้.”—นาตาลี
[ภาพหน้า 33]
การรักษาบาดแผลทางอารมณ์ที่เกิดจากการหย่าร้างของพ่อแม่เหมือนการฟื้นตัวตอนแขนหัก ช่วงที่รักษาอยู่อาจเจ็บปวด แต่ในที่สุดจะหาย