การมีเซ็กซ์กับแฟนจะทำให้รักกันมากขึ้นไหม?
บท 24
การมีเซ็กซ์กับแฟนจะทำให้รักกันมากขึ้นไหม?
เฮเทอร์เพิ่งคบกับไมค์ได้สองเดือน แต่เหมือนเธอรู้จักเขามานาน. ทั้งสองส่งเอสเอ็มเอสหากันตลอด โทรศัพท์คุยกันเป็นชั่วโมง ๆ และถึงกับรู้ใจกันว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร. แต่ตอนนี้ เมื่อทั้งสองนั่งอยู่ในรถภายใต้แสงจันทร์ ไมค์ไม่ได้แค่อยากพูดคุยกับเธอ.
ในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา ไมค์กับเฮเทอร์ไม่ได้ทำอะไรเกินเลยนอกจากจะจับมือและหอมแก้ม. เฮเทอร์ไม่อยากให้เลยเถิดไปกว่านี้ แต่อีกใจก็ไม่อยากเสียไมค์ไป. ไม่เคยมีใครทำให้เธอรู้สึกดีหรือเป็นคนพิเศษแบบนี้. เธอยังบอกตัวเองว่า ‘เรารักกันนิ ไม่ต้องคิดมาก . . .’
คุณคงเดาได้ว่าเรื่องจะลงเอยอย่างไร. แต่คงเดาไม่ออก ว่า การที่ไมค์กับเฮเทอร์มีเซ็กซ์กันจะทำให้ชีวิตของเขาเปลี่ยนไปมากขนาดไหนและในทางที่ไม่ดีด้วย. ให้เรามาดูกัน.
ถ้าคุณฝืนกฎธรรมชาติ เช่น กฎแรงโน้มถ่วง คุณจะได้รับผลเสียหาย. กับกฎทางศีลธรรมก็เป็นอย่างนั้นด้วย เช่น กฎข้อหนึ่งที่บอกว่า ‘ให้หลีกห่างจากการผิดศีลธรรมทางเพศ.’ (1 เทสซาโลนิเก 4:3, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) จะเป็นอย่างไรถ้าไม่เชื่อฟังกฎนั้น? คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “คนที่ทำบาปทางเพศก็ทำบาปต่อร่างกายของตนเอง.” (1 โครินท์ 6:18, ฉบับ อมตธรรมร่วมสมัย) ข้อนี้เป็นจริงอย่างไร? คนที่มีเซ็กซ์ก่อนแต่งงานจะได้รับผลเสียหายอะไรบ้าง ให้คุณลองเขียนสักสามอย่าง.
1 ․․․․․
2 ․․․․․
3 ․․․․․
ดูว่าคุณเขียนอะไรบ้าง. มีสิ่งเหล่านี้ไหม เช่น โรคติดต่อทางเพศ การท้องที่ไม่พึงประสงค์ หรือทำให้พระเจ้าไม่พอพระทัย? นี่เป็นผลเสียหายร้ายแรงสำหรับคนที่ฝ่าฝืนกฎหมายของพระเจ้าเรื่องการผิดศีลธรรมทางเพศ.
แต่คุณยังอาจอยากลอง. คุณอาจคิดว่า ‘ฉัน คงไม่เป็นอะไรหรอก. ใคร ๆ ก็มีเซ็กซ์กันทั้งนั้น.’ เพื่อน ๆ คุณที่โรงเรียนอาจชอบโม้ว่าเขาทำอะไรมาบ้าง และพวกเขา ก็ไม่เห็นเป็นอะไร. คุณอาจรู้สึกเหมือนเฮเทอร์ในเหตุการณ์ตอนต้นที่คิดว่า เมื่อได้กันแล้ว คุณกับแฟนจะรักกันมากขึ้น. นอกจากนั้น ใครล่ะอยากจะถูกล้อว่ายังบริสุทธิ์ อยู่? คงดีกว่าไม่ใช่หรือถ้าจะยอมมีเซ็กซ์?
แต่เดี๋ยวก่อน ใช่ว่าทุกคน จะทำอย่างนั้น. จริงอยู่ คุณอาจเคยรู้มาว่า ตามสถิติแล้วมีหนุ่มสาวจำนวนมากที่เคยมีเพศสัมพันธ์. ตัวอย่างเช่น จากการสำรวจในสหรัฐแสดงว่า เมื่อเรียนจบชั้นมัธยมปลาย หนุ่มสาว 2 ใน 3 ของประเทศนั้นเคยมีเซ็กซ์แล้ว. แต่นั่นยังแสดงว่า คนที่ไม่เคย มีเซ็กซ์มีถึง 1 ใน 3 ซึ่งถือว่ามากทีเดียว. แล้วหนุ่มสาวที่เคยมี เซ็กซ์ล่ะเป็นอย่างไร? นักวิจัยพบว่า พวกเขาหลายคนต้องเจอกับประสบการณ์อันเลวร้ายที่คาดไม่ถึงดังต่อไปนี้.
ประสบการณ์อันเลวร้าย 1 ไม่มีความสุข. วัยรุ่นส่วนใหญ่ที่มีเซ็กซ์ก่อนแต่งงานบอกว่า เขาไม่น่าทำอย่างนั้นเลย.
ประสบการณ์อันเลวร้าย 2 ไม่ไว้ใจกัน. หลังจากได้กัน แต่ละฝ่ายจะเริ่มสงสัยว่า ‘เขา (เธอ) เคยนอนกับใคร มาบ้าง?’
ประสบการณ์อันเลวร้าย 3 ไม่เป็นดั่งฝัน. ลึก ๆ แล้ว ผู้หญิงส่วนใหญ่อยากมีใครสักคนที่คอยปกป้อง เธอ ไม่ใช่ฉวยประโยชน์ จากเธอ. และเมื่อได้กันแล้ว ผู้ชายส่วนใหญ่มักสนใจผู้หญิงคนนั้นน้อยลง.
นอกจากนั้น เด็กหนุ่มบางคนบอกว่าเขาไม่คิดจะแต่งงานกับผู้หญิงที่เขาเคยมีเซ็กซ์ด้วย. เพราะอะไร? เพราะเขาอยากแต่งงานกับสาวบริสุทธิ์.
ถ้าคุณเป็นผู้หญิง เรื่องนี้ทำให้คุณรู้สึกแปลกใจหรือถึงขั้นโมโหไหม? อุตสาหกรรมบันเทิงให้ภาพการมีเซ็กซ์ของวัยรุ่นว่าไม่มีผลเสียหาย น่าเพลิดเพลิน โรแมนติก และเป็นรักแท้ด้วยซ้ำ. แต่ขอให้จำไว้ว่า ชีวิตจริงไม่ได้เป็นอย่างที่เห็นในภาพยนตร์หรือทีวี. อย่ายอมให้ใครหลอกคุณ. คนที่พยายามชวนคุณให้มีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน เขาสนใจแต่ประโยชน์ของตัวเอง. (1 โครินท์ 13:4, 5) คิดดูสิ คนที่รักคุณจริง ๆ จะทำร้ายคุณไหมไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกายและอารมณ์? (สุภาษิต 5:3, 4) และคนที่แคร์คุณจริง ๆ จะชวนคุณทำสิ่งที่พระเจ้าไม่พอพระทัยไหม?—ฮีบรู 13:4
เพลงไพเราะ 2:16, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) พูดสั้น ๆ ก็คือ คุณจะเป็นสุภาพบุรุษสำหรับเธอ.
ถ้าคุณเป็นผู้ชายและกำลังมีแฟน สิ่งที่กล่าวไว้ในบทนี้น่าจะทำให้คุณรู้ว่าควรปฏิบัติกับแฟนของคุณอย่างไร. ให้ถามตัวเองว่า ‘ผมแคร์แฟนของผมจริง ๆ ไหม?’ ถ้าใช่ คุณจะแสดงอย่างไรว่าคุณแคร์? ความเข้มแข็ง จะช่วยคุณให้ยึดมั่นกับกฎหมายของพระเจ้า. สติปัญญา ทำให้คุณหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ล่อใจ. และความรัก จะทำให้คุณห่วงใยสวัสดิภาพของเธอ. ถ้าคุณมีคุณลักษณะเหล่านี้ แฟนของคุณคงรู้สึกเหมือนหญิงสาวชาวชูเลมที่รักนวลสงวนตัว ซึ่งบอกว่า “ที่รักของดิฉันเป็นของดิฉัน และดิฉันก็เป็นของเขา.” (โรม 1:24) ไม่แปลกเลยที่คนแบบนี้จะรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่าและชีวิตว่างเปล่า เหมือนเขายอมให้คนอื่นขโมยสิ่งที่มีค่าไปจากตัวเขา. อย่ายอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณ. ถ้ามีใครพยายามชวนคุณให้มีเซ็กซ์กับเขาโดยบอกว่า “ไหนคุณบอกว่ารักผม” ให้ตอบอย่างหนักแน่นว่า “คุณล่ะไม่รักฉันเหรอ ถ้าคุณรักฉัน คุณคงไม่พูดอย่างนี้.”
ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง ถ้าคุณยอมมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน ตัวคุณเองจะหมดค่าเพราะคุณได้ยกสิ่งที่มีค่าให้คนอื่นไปแล้ว. (ร่างกายของคุณมีค่ามาก อย่ายอมยกให้ใคร. ให้แสดงว่าคุณเข้มแข็งโดยเชื่อฟังคำสั่งของพระเจ้าที่ให้หลีกห่างจากการผิดศีลธรรมทางเพศ. แล้ววันหนึ่งถ้าคุณแต่งงาน คุณก็จะมีเซ็กซ์ได้ อย่างมีความสุข โดยไม่ต้องกังวลหรือเสียใจภายหลังอย่างที่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน.—สุภาษิต 7:22, 23; 1 โครินท์ 7:3
เชิญอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ในเล่ม 2 บท 4 และ 5
การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองเป็นเรื่องเสียหายไหม?
ข้อคัมภีร์หลัก
“จงหลีกหนีจากการผิดศีลธรรมทางเพศ. . . . คนที่ทำบาปทางเพศก็ทำบาปต่อร่างกายของตนเอง.”—1 โครินท์ 6:18, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย
ข้อแนะ
เมื่อปฏิบัติกับเพศตรงข้าม ข้อแนะคือ ถ้าคุณไม่อยากให้พ่อแม่เห็นอะไร คุณก็ไม่ควรทำสิ่งนั้น.
คุณรู้ไหม . . . ?
เมื่อได้กันแล้ว ผู้ชายมักทิ้งแฟนของตนแล้วไปคบคนใหม่.
แผนปฏิบัติการ
ถ้าฉันอยู่กับเพศตรงข้าม ฉันต้องหลีกเลี่ยงสถานการณ์อะไรบ้าง ․․․․․
ถ้าเพศตรงข้ามอยากอยู่กับฉันในที่ลับตาคน ฉันจะบอกว่า ․․․․․
สิ่งที่ฉันอยากถามพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ․․․․․
คุณคิดอย่างไร?
● แม้อาจดูน่าลอง แต่ทำไมจึงผิดที่จะมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงาน?
● คุณจะทำอย่างไรถ้ามีคนชวนคุณให้มีเซ็กซ์ด้วย?
[คำโปรยหน้า 176]
“เพราะเป็นคริสเตียน เราจึงมีคุณลักษณะที่คนอื่นชื่นชอบ. ดังนั้น ถ้ามีคนแสดงท่าทีว่าชอบเราและพยายามให้เราทำสิ่งที่ไม่เหมาะ เราต้องสังเกตให้ออกและถอยห่างออกมา. เราต้องรักษาคุณลักษณะเหล่านั้นไว้ อย่ายอมเสียมันไป.”—โจชัว
[ภาพหน้า 176, 177]
การมีเซ็กซ์ก่อนแต่งงานเป็นเหมือนการนำภาพวาดที่สวยงามไปใช้เป็นพรมเช็ดเท้า