ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือรักแท้?
บท 29
ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่านี่คือรักแท้?
ให้ตอบคำถามต่อไปนี้.
1. คุณคิดว่า “ความรัก” คืออะไร? ․․․․․
2. คุณคิดว่า “ความหลงใหล” คืออะไร? ․․․․․
3. ในความคิดของคุณ สองอย่างนี้ต่างกันอย่างไร? ․․․․․
คุณคงตอบคำถามเหล่านี้ได้ไม่ยาก และถ้าคุณยังไม่ได้ชอบใคร คงจะยิ่งแยกออกได้ง่ายว่าความรักและความหลงใหลต่างกันอย่างไร.
แต่ทุกอย่างเปลี่ยนไปในนาทีที่คุณเจอหนุ่มหรือสาวในฝัน. คุณตกหลุมรักเขาและไม่สนใจเรื่องอื่นเลย. คุณรักเขาอย่างหัวปักหัวปำ จริงไหม? นี่เป็นความรักหรือความหลงใหล? คุณจะรู้ได้อย่างไร? ก่อนตอบ
คำถาม ให้มาดูว่าในช่วงปีหลัง ๆ นี้คุณมองเพศตรงข้ามต่างออกไปอย่างไร. ลองพิจารณาคำถามต่อไปนี้.● ตอนห้าขวบ คุณคิดอย่างไรกับเพศตรงข้าม?
● ตอนนี้ คุณคิดอย่างไรกับเพศตรงข้าม?
จากคำตอบของคุณแสดงว่า เมื่อคุณเริ่มเป็นหนุ่มเป็นสาว คุณมองเพศตรงข้ามต่างออกไป. ไบรอัน อายุ 12 บอกว่า “ผมเริ่มเห็นว่าเด็กผู้หญิงน่ารักขึ้น.” อิเลน อายุ 16 คิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่เธอเริ่มเป็นสาว. เธอบอกว่า “เพื่อน ๆ เริ่มพูดเรื่องผู้ชาย และฉันก็เห็นว่าหนุ่ม ๆ ทุกคนน่าสนใจ.”
ตอนนี้เมื่อคุณสนใจเพศตรงข้าม คุณจะรับมือกับความรู้สึกที่มีพลังนี้อย่างไร? ถ้าคุณแกล้งทำเป็นไม่รู้สึก มันจะยิ่งรุนแรงขึ้น. คุณน่าจะใช้ช่วงเวลาพิเศษนี้เพื่อเรียนรู้ว่าความชอบ ความหลงใหล และความรักต่างกันอย่างไร. การเข้าใจทั้งสามแง่มุมของความรู้สึกโรแมนติกนี้จะช่วยคุณไม่ให้อกหักและได้พบรักแท้ในที่สุด.
ความชอบ → เกิดจากสิ่งที่เห็น
“ผมกับเพื่อนชอบคุยกันเรื่องสาว ๆ. เราพยายามจะพูดเรื่องอื่น แต่พอมีสาวสวยเดินผ่าน เราก็ลืมทุกอย่างที่กำลังคุยกัน.”—อะเลกซ์
“หนุ่มที่สบตาฉันแล้วยิ้มและเดินด้วยความมั่นใจทำให้ฉันสนใจ.”—ลอรี
เป็นเรื่องธรรมดาที่เราจะสนใจคนที่ดูหล่อหรือสวย. แต่สิ่งที่เราเห็นกับความเป็นจริงอาจต่างกัน. ทำไมล่ะ? เพราะสิ่งที่เห็นอาจหลอกตาเราได้. คัมภีร์ไบเบิลกล่าวว่า “สาวสวยที่ไม่รู้จักคิดก็เหมือนห่วงทองคำคล้องสุภาษิต 11:22, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) แน่นอน หลักการนี้ใช้กับผู้ชายได้ด้วย.
อยู่ที่จมูกหมู.” (ความหลงใหล → เกิดจากอารมณ์
“ตอนอายุ 12 ฉันตกหลุมรักเด็กผู้ชายคนหนึ่ง เมื่อผ่านช่วงนั้นไปฉันจึงรู้ว่าทำไม. เพราะเพื่อนฉันทุกคนสนใจพวกหนุ่ม ๆ และเขาก็เป็นหนุ่มคนหนึ่ง ฉันก็เลยชอบเขา.”—อิเลน
“ผมชอบปิ๊งสาว ๆ ส่วนมากเพราะเห็นว่าเธอสวย. แต่เมื่อรู้จักเธอจริง ๆ ว่าเป็นคนยังไง ผมจึงรู้ว่าเราไม่เหมาะกันเลย ไม่เหมือนที่ผมคิดไว้.—มาร์ก
ความหลงใหลอาจรู้สึก คล้าย ๆ กับความรัก เพราะความรู้สึกทั้งสองโรแมนติกเหมือนกัน. แต่สิ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกสองอย่างนี้ต่างกันลิบลับ. ความหลงใหลเกิดจากสิ่งที่เห็นภายนอก เป็นความรู้สึกแบบฉาบฉวย. ความหลงใหลมักทำให้คนเราตาบอด คือมองไม่เห็นข้อเสียของอีกฝ่ายหนึ่งและคิดว่าเขามีแต่ข้อดี. ดังนั้น ความหลงใหลเป็นเหมือนปราสาททรายที่ไม่คงทน. สาวคนหนึ่งที่ชื่อฟิโอนาบอกว่า “ความหลงใหลอยู่ได้ไม่นาน. วันนี้คุณชอบคนนี้ เดือนหน้าคุณอาจชอบอีกคนหนึ่ง.”
ความรัก → เกิดจากการรู้จัก
“ผมคิดว่าคุณคงมีเหตุผลที่ดีที่จะรักใครสักคน และไม่ใช่เหตุผลที่เห็นแก่ตัว.”—เดวิด
“สำหรับฉันแล้ว ถ้าเป็นรักแท้ ความรู้สึกนั้นจะมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไป. ตอนแรกอาจเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน และเมื่อรู้จักมากขึ้นก็จะชอบมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมีความรู้สึกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน.”—จูดิท
ความรักเกิดจากการรู้ทั้งข้อดีและข้อเสียของคนคนหนึ่ง. คัมภีร์ไบเบิลจึงพูดถึงความรักว่าไม่ได้เป็นแค่ความรู้สึก. แต่พรรณนาถึงความรักว่า “อดกลั้นไว้นานและแสดงความกรุณา. . . . ยอมทนทุกสิ่ง เชื่อทุกสิ่ง หวังทุกสิ่ง อดทนทุกสิ่ง. ความรักไม่มีวันเสื่อมสูญ.” (1 โครินท์ 13:4, 7, 8) ความรักแท้จะช่วยคนเราให้ทำตามข้อคัมภีร์นี้ได้ เพราะความรักแบบนี้เกิดจากการที่เรารู้จักคนนั้นจริง ๆ ไม่ใช่หลับหูหลับตาไม่ยอมรับความจริง.
ตัวอย่างของรักแท้
เรื่องราวของยาโคบกับราเฮลในคัมภีร์ไบเบิลทำให้เห็นภาพรักแท้อย่างชัดเจน. ทั้งสองเจอกันที่บ่อน้ำ ราเฮลกำลังตักน้ำให้แกะของพ่อ. เยเนซิศ 29:17, ล.ม.
ยาโคบชอบเธอตั้งแต่แรกพบ. เพราะอะไร? เหตุผลหนึ่งคือ เธอ “รูปร่างหน้าตางดงาม.”—แต่จำไว้ว่า รักแท้ไม่ได้เกิดจากการเห็นรูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น. ยาโคบพบว่า นอกจากราเฮลจะสวยแล้ว เธอยังนิสัยดีด้วย. พระคัมภีร์บอกว่า จากนั้นไม่นาน ยาโคบก็ “รัก” ราเฮล ไม่ใช่แค่ชอบเธอ.—เยเนซิศ 29:18
เรื่องนี้จบลงอย่างโรแมนติกไหม? ไม่ เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น. พ่อของราเฮลให้ยาโคบรอถึงเจ็ดปี กว่าจะได้แต่งงาน. ไม่ว่าจะแฟร์หรือไม่ ความรักของยาโคบก็ถูกทดสอบ. ถ้าเป็นแค่ความหลงใหล ยาโคบคงไม่รอราเฮล. รักแท้เท่านั้นที่อดทนได้ไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน. จากนั้นเกิดอะไรขึ้น? คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “ยาโคบก็ได้รับใช้อยู่เจ็ดปีเพราะนางสาวราเฮ็ล; เห็นเป็นเหมือนน้อยวันเพราะเหตุรักนางนั้น.”—เยเนซิศ 29:20
คุณเรียนรู้อะไรจากตัวอย่างของยาโคบกับราเฮล? รักแท้แม้วันเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนก็ยังรักอยู่ และไม่ใช่เพราะรูปร่างหน้าตาเพียงอย่างเดียว. ที่จริง คนที่จะเป็นคู่ครองของคุณอาจไม่ใช่คนที่คุณรักเมื่อแรกพบ. อย่างเช่น เมื่อบาร์บาราเจอชายหนุ่มคนหนึ่ง ตอนแรกเธอรู้สึกว่าเขาไม่ค่อยน่าสนใจ. เธอบอกว่า “แต่เมื่อฉันรู้จักเขาดีขึ้น ความรู้สึกฉันก็เปลี่ยนไป. ฉันสังเกตว่าสตีเฟนเอาใจใส่และช่วยเหลือคนอื่นเสมอ สามีที่ดีต้องมีคุณลักษณะแบบนี้. ฉันเริ่มชอบเขา แล้วก็รักเขา.” ในที่สุด ทั้งสองก็แต่งงานกันอย่างมีความสุข.
เมื่อคุณเป็นผู้ใหญ่พอที่จะแต่งงานได้ คุณจะรู้ได้อย่างไรว่าพบรักแท้แล้ว? หัวใจอาจบอกคุณอย่างหนึ่ง แต่คุณควรหาเหตุผลตามหลักพระคัมภีร์. คุณควรรู้จักนิสัยใจคอของคนนั้น ไม่ใช่แค่ดูที่รูปร่างหน้าตา. ให้ความรักมีเวลาเบ่งบาน. จำไว้ว่า ความหลงใหลไม่นานก็จะจางหายไป แต่รักแท้จะมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปและจะ “ผูกพัน [ทั้งสอง] ให้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอย่างสมบูรณ์.”—โกโลซาย 3:14
คุณอยากพบรักแท้ไหม ถ้าอย่างนั้นคุณต้องสนใจไม่ใช่แค่สิ่งที่เห็น (ความชอบ) หรือคล้อยไปตามอารมณ์ (ความหลงใหล). อีกสามหน้าต่อจากนี้จะช่วยคุณให้ทำอย่างนั้น.
เชิญอ่านเรื่องนี้เพิ่มเติมได้ในเล่ม 2 บท 1 และ 3
ถ้าคุณพบรักแท้. จะรู้ได้อย่างไรว่าคุณพร้อมจะแต่งงานแล้ว?
ข้อคัมภีร์หลัก
“น้ำมากมายก็ไม่สามารถดับความรักได้ แม่น้ำต่าง ๆ ก็ไม่สามารถเซาะความรักไปเสียได้.”—เพลงไพเราะ 8:7, ล.ม.
ข้อแนะ
เพื่อจะรู้ว่าคุณรู้จักคนที่คุณชอบดีขนาดไหน ให้ตอบแบบสอบถามที่อยู่ในเล่ม 2 หน้า 39 (สำหรับผู้หญิง) และหน้า 40 (สำหรับผู้ชาย).
คุณรู้ไหม . . . ?
หนุ่มสาวที่มีแฟนแล้วเลิกกันง่าย ๆ คนแล้วคนเล่า เหมือนเขา “กำลังฝึก” ที่จะหย่า. เมื่อเขาแต่งงานจึงหย่าได้ง่าย ๆ.
แผนปฏิบัติการ
เพื่อจะรู้ว่าความรู้สึกนั้นเป็นความรักหรือความหลงใหล ฉันจะ ․․․․․
สิ่งที่ฉันอยากถามพ่อแม่เกี่ยวกับเรื่องนี้คือ ․․․․․
คุณคิดอย่างไร?
● ทำไมพระเจ้าสร้างคนเราให้มีความรู้สึกต่อเพศตรงข้ามรุนแรงเช่นนี้?
● ทำไม “ความรัก” ของวัยรุ่นส่วนใหญ่จึงไม่สมหวัง?
[คำโปรยหน้า 207]
“ความรักเอาชนะอุปสรรคได้ แต่ความหลงใหลจะจางหายไปเมื่อมีปัญหาหรือสภาพการณ์เปลี่ยน. แต่เพื่อจะมีรักแท้ก็ต้องใช้เวลา.”—ดาเนียลลา
[กรอบหน้า 209]
แบบสอบถาม
คุณ จะทำอย่างไร?
ไมเคิลกับจูดีเป็นแฟนกันมาสามเดือน จูดีบอกว่า เธอรักเขา “หัวปักหัวปำ.” ไมเคิลเอาใจใส่เธอตลอดเวลา คอยบอกเธอว่าควรแต่งตัวอย่างไร หรือจะคบใครเป็นเพื่อนได้บ้าง. เขาทำอย่างกับเธอเป็นเจ้าหญิง. จนกระทั่งอาทิตย์ที่แล้ว ไมเคิลตบจูดีหลังจากเห็นเธอคุยกับชายอื่น.
เขาบอกว่า “จูดีน่าจะรู้ว่าผมกลัวเสียเธอไป. แค่คิดว่าจะมีผู้ชายอื่นมาแย่งแฟนไป ผมก็คลั่งแล้ว. ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่ตบเธอ. ผมทนไม่ได้จริง ๆ ถึงจะแค่มองก็เถิด. และถึงยังไงผมก็ขอโทษเธอแล้ว.”
เธอบอกว่า “พ่อแม่พูดถึงไมค์ว่าชอบบงการ แต่ฉันว่าเขาก็แค่มีมาตรฐานสูง. เขาไม่เคยบังคับฉันให้ทำผิดศีลธรรม. ที่เขาตบฉันเพราะฉันคุยกับผู้ชายอื่น ซึ่งพ่อแม่เองก็ยังไม่รู้เรื่องนี้. ไมค์หึงฉัน นี่น่าจะแสดงว่าเขารักฉันไม่ใช่เหรอ. และเขาก็ขอโทษแล้วด้วย แถมสัญญาว่าจะไม่ทำอีก.”
คุณล่ะ คุณเห็นแววไหมว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจะมีปัญหา? ถ้าใช่ มีอะไรบ้าง? ․․․․․
จูดีน่าจะทำอย่างไร? ․․․․․
ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไร? ․․․․․
[กรอบหน้า 210]
แบบสอบถาม
คุณ จะทำอย่างไร?
อีทานเป็นแฟนกับอลิซซามาสองเดือน. เขาสังเกตว่าอลิซซาเป็นคนชอบเถียง โดยเฉพาะกับพ่อแม่. อลิซซาเถียงพ่อแม่เป็นประจำ แล้วเธอก็ชนะ. เธอเถียงเก่งจนพ่อแม่เหนื่อยอ่อนใจและต้องยอมแพ้. อลิซซาอวดอีทานว่า เมื่ออยู่กับพ่อแม่ เธอ “ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้.”
เขาบอกว่า “อลิซซาเป็นคนตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูดอย่างนั้น. เธอไม่กลัวใครรวมทั้งพ่อแม่. พ่อเธอน่ารำคาญและมักทำให้เธออารมณ์เสีย. เมื่ออลิซซาอยากให้พ่อแม่ทำอะไร เธอจะทำทุกอย่างไม่ใช่แค่ใช้เสียงบังคับ แต่จะร้องไห้ ทำท่างอน หรืออ้อนเพื่อให้พ่อแม่ตามใจเธอ.”
เธอบอกว่า “ฉันไม่สนว่าคุณเป็นใคร มาจากไหน หรือใหญ่โตแค่ไหน ฉันชอบพูดตรง ๆ ไม่ต้องปรุงแต่งคำพูดให้ฟังดูดี. อีทานแฟนฉันรู้จักฉันดี. เขาเห็นแล้วนิว่าฉันเป็นอย่างไรตอนอยู่กับพ่อแม่.”
คุณล่ะ คุณเห็นแววไหมว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองจะมีปัญหา? ถ้าใช่ มีอะไรบ้าง? ․․․․․
อีทานน่าจะทำอย่างไร? ․․․․․
ถ้าเป็นคุณ คุณจะทำอย่างไร? ․․․․․
[กรอบหน้า 211]
แบบสอบถาม
เป็นความรักหรือความหลงใหล?
ให้เติมคำว่า ความรัก หรือ ความหลงใหล ลงในช่องว่างต่อไปนี้.
1. “․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․ ทำให้คนตาบอดและหลอกตัวเอง ไม่มองตามความเป็นจริง.”—แคลวิน
2. “เมื่อผู้หญิงที่ผมชอบอยู่ใกล้ ๆ ผมจะพยายามทำตัวให้เป็นแบบที่เธอชอบ นั่นคือ ․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․.”—โทมัส
3. “คนนั้นอาจมีนิสัยบางอย่างที่คุณไม่ชอบ. แต่ถ้าเป็น ․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․ คุณก็ยังอยากเป็นแฟนกับเธอและพยายามแก้ปัญหาด้วยกัน.”—ไรอัน
4. “․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․ ทำให้มองแค่ว่าคุณกับเขามีอะไรหลายอย่างเหมือน ๆ กัน.”—คลอเดีย
5. “ถ้าเป็น ․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․ คุณจะไม่ปกปิดว่าคุณเป็นคนอย่างไร.”—อีฟ
6. “․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․ ทำให้คุณคิดถึงแต่ตัวเอง พยายามทำทุกอย่างเพื่อจะได้สิ่งที่คุณต้องการ.”—แอลลิสัน
7. “แม้เขาจะทำผิดพลาดบ้างและมีนิสัยที่ไม่เหมือนใคร แต่ฉันก็รับได้ นี่คือ ․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․.”—เอพริล
8. “ถ้าเป็น ․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․ คุณไม่รู้ว่าทำไมคุณถึงชอบเธอ แต่คุณก็ชอบ.”—เดวิด
9. “․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․ ทำให้คิดว่า แฟนของคุณไม่เคยทำผิดเลย.”—เชลซี
10. “ตอนนี้คุณไม่สนใจเพศตรงข้ามคนอื่น เพราะคุณคิดว่าต้องภักดีกับเขา นั่นแหละคือ ․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․․.”—แดเนียล
เฉลย ความหลงใหล ข้อ 1, 2, 4, 6, 8, 9. ความรัก ข้อ 3, 5, 7, 10.
[ภาพหน้า 206, 207]
ความหลงใหลเป็นเหมือนปราสาททรายที่ไม่คงทน ไม่นานจะถูกน้ำเซาะหายไป