บท 16
“เป็นคนยุติธรรม” โดยใช้ชีวิตตามแนวทางของพระเจ้า
1-3. (ก) ทำไมเราถึงรู้สึกขอบคุณพระยะโฮวามาก? (ข) เราจะแสดงว่าเราขอบคุณพระยะโฮวาได้ยังไง?
คุณรู้สึกยังไงถ้าคุณอยู่ในเรือลำใหญ่ที่กำลังจม? ในตอนที่คุณกำลังหมดหวังก็มีคนเข้ามาช่วยคุณ คุณคงรู้สึกดีใจมากตอนที่คนนั้นช่วยคุณให้มาอยู่ในเรือชูชีพ แล้วเขาก็พูดว่า “ตอนนี้คุณปลอดภัยแล้ว” คุณจะรู้สึกยังไง? แน่นอน คุณคงรู้สึกขอบคุณเขามากจริง ๆ เพราะเขาช่วยชีวิตคุณไว้
2 ตัวอย่างนี้ช่วยให้เราเข้าใจสิ่งที่พระยะโฮวาทำเพื่อเรา เราขอบคุณพระยะโฮวามากจริง ๆ เพราะพระองค์ช่วยเราให้พ้นจากบาปและความตายโดยทางค่าไถ่ ถ้าเราแสดงความเชื่อในค่าไถ่ เราก็มั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาจะอภัยบาปให้เรา และเราก็จะมีชีวิตตลอดไปได้ (1 ยอห์น 1:7; 4:9) ในบท 14 เราได้เรียนว่า ค่าไถ่เป็นหลักฐานที่แสดงว่าพระยะโฮวาเป็นพระเจ้าที่ยุติธรรมและรักเรา แล้วเราจะแสดงว่าเราขอบคุณค่าไถ่ที่พระองค์ให้เราได้ยังไง?
3 ตอนนี้เราจะดูว่าพระยะโฮวาต้องการให้เราทำอะไร พระองค์บอกเราทางผู้พยากรณ์มีคาห์ว่า “มนุษย์ทั้งหลาย พระยะโฮวาสอนคุณแล้วว่าอะไรดี พระองค์ต้องการอะไรจากคุณหรือ? พระองค์แค่ขอให้คุณเป็นคนยุติธรรม รักความภักดี และใช้ชีวิตตามแนวทางของพระเจ้าด้วยความเจียมตัว” (มีคาห์ 6:8) ขอสังเกตว่าสิ่งหนึ่งที่พระยะโฮวาต้องการคือให้เรา “เป็นคนยุติธรรม” เราจะทำอย่างนั้นได้ยังไง?
พยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง
4. เรารู้ได้ยังไงว่าพระยะโฮวาอยากให้เราทำตามมาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระองค์?
4 พระยะโฮวาเป็นผู้กำหนดว่าอะไรถูกอะไรผิด พระองค์อยากให้เราใช้ ชีวิตตามมาตรฐานของพระองค์ พระองค์บอกเราในอิสยาห์ 1:17 ว่า “แล้วหัดทำดี เป็นคนยุติธรรม” และพระองค์ยังบอกให้เรา “พยายามทำสิ่งที่ถูกต้องชอบธรรม” (เศฟันยาห์ 2:3) และให้ ‘ปลูกฝังลักษณะนิสัยใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นตามที่พระเจ้าต้องการ ซึ่งเป็นไปตามความถูกต้องชอบธรรมแท้’ ด้วย (เอเฟซัส 4:24) เมื่อเราพยายามทำตามมาตรฐานของพระยะโฮวา เราก็จะไม่เข้าไปยุ่งกับความรุนแรง ความไม่สะอาด และการทำผิดศีลธรรม เพราะสิ่งเหล่านี้ขัดกับมาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระยะโฮวา—สดุดี 11:5; เอเฟซัส 5:3-5
5, 6. (ก) ทำไมการทำตามมาตรฐานของพระยะโฮวาถึงไม่ยากเกินไปสำหรับเรา? (ข) คัมภีร์ไบเบิลแสดงให้เห็นยังไงว่าการพยายามทำสิ่งที่ถูกต้องเป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง?
5 การทำตามมาตรฐานที่ถูกต้องชอบธรรมของพระยะโฮวาเป็นเรื่องยากไหม? ไม่ คนที่รักพระยะโฮวาและอยากใกล้ชิดกับพระองค์จะรู้สึกว่าการทำตามที่พระยะโฮวาบอกไม่ใช่เรื่องยาก เรารักพระยะโฮวาและชอบคุณลักษณะทั้งหมดของพระองค์ด้วย เราเลยอยากใช้ชีวิตในแบบที่ทำให้พระองค์มีความสุข (1 ยอห์น 5:3) ขอจำไว้ว่าพระยะโฮวา “ชอบการทำสิ่งที่ถูกต้อง” (สดุดี 11:7) เราจะเลียนแบบความถูกต้องชอบธรรมของพระยะโฮวาได้โดยรักสิ่งที่พระองค์รักและเกลียดสิ่งที่พระองค์เกลียด—สดุดี 97:10
6 การทำสิ่งที่ถูกต้องไม่ง่ายเสมอไปเพราะเราเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบ เราต้องทิ้งลักษณะนิสัยเก่ากับสิ่งต่าง ๆ ที่เคยทำแล้วปลูกฝังลักษณะนิสัยใหม่ คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าลักษณะนิสัยใหม่ “ค่อย ๆ ถูกสร้างขึ้น” โดยใช้ความรู้ที่ถูกต้อง (โคโลสี 3:9, 10) คำที่ได้รับการแปลว่า “ค่อย ๆ ถูกสร้างขึ้น” แสดงให้เห็นว่าการปลูกฝังลักษณะนิสัยใหม่เป็นสิ่งที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องและต้องใช้ความพยายามมาก แม้เราพยายามทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่เพราะเราเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบ บางครั้งเราเลยคิด พูด หรือทำสิ่งที่ไม่ถูกต้อง—โรม 7:14-20; ยากอบ 3:2
7. เราควรรู้สึกยังไงถ้าเราทำผิดพลาดทั้ง ๆ ที่พยายามเต็มที่เพื่อทำตามมาตรฐานของพระยะโฮวา?
7 เราควรรู้สึกยังไงถ้าเราทำผิดพลาดทั้ง ๆ ที่พยายามเต็มที่เพื่อทำตามมาตรฐานของพระยะโฮวา? แน่นอน เราคงไม่อยากแก้ตัวหรือคิดว่าสิ่งที่เราทำผิดไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เราไม่ควรคิดว่าเราไม่ดีพอและเลิกรับใช้พระยะโฮวา พระยะโฮวาให้อภัยเราถ้าเราเสียใจจริง ๆ กับสิ่งที่ทำไป อัครสาวกยอห์นบอกว่า “ผมเขียนเรื่องเหล่านี้เพื่อพวกคุณจะไม่ทำบาป” แต่เขาก็พูดต่ออีกว่า “แต่ถ้าใครทำบาป [เนื่องจากความไม่สมบูรณ์แบบที่ได้รับมา] เราก็มีผู้ช่วยที่อยู่กับพระเจ้าผู้เป็นพ่อ ซึ่งผู้ช่วยนั้นก็คือพระเยซูคริสต์” (1 ยอห์น 2:1) พระยะโฮวาเตรียมค่าไถ่ของพระเยซูให้เรา ถึงแม้เราเป็นคนไม่สมบูรณ์แบบเรายังเป็นผู้รับใช้ของพระองค์ได้ เรารู้สึกยังไงที่รู้ว่าพระยะโฮวาให้อภัยเรา? นี่ทำให้เราอยากพยายามเต็มที่เพื่อทำให้พระองค์พอใจ
ความยุติธรรมของพระยะโฮวาและข่าวดีที่มาจากพระองค์
8, 9. การประกาศข่าวดีทำให้เห็นว่าพระยะโฮวายุติธรรมยังไง?
8 วิธีหนึ่งที่เราจะเป็นคนยุติธรรมและเลียนแบบพระยะโฮวาได้คือ การมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการประกาศข่าวดีเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าให้คนอื่นฟัง แต่การประกาศข่าวดีทำให้เห็นยังไงว่าพระยะโฮวายุติธรรม?
9 พระยะโฮวาจะเตือนผู้คนก่อนที่จุดจบของโลกชั่วนี้จะมา ตอนที่พระเยซูพยากรณ์เกี่ยวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในช่วงสมัยสุดท้ายนี้ ท่านบอกว่า “จะต้องมีการประกาศข่าวดีกับคนทุกชาติก่อน” (มาระโก 13:10; มัทธิว 24:3) การใช้คำว่า “ก่อน” ทำให้เราเข้าใจว่าจะมีเหตุการณ์อื่น ๆ หลังจากมีการประกาศข่าวดีไปทั่วโลก เหตุการณ์เหล่านั้นรวมถึงความทุกข์ยากลำบากครั้งใหญ่ที่บอกไว้ล่วงหน้าซึ่งพระเจ้าจะทำลายคนชั่ว และหลังจากนั้นจะมีโลกใหม่ที่มีแต่ความถูกต้องชอบธรรม (มัทธิว 24:14, 21, 22) ดังนั้น จะไม่มีใครพูดได้ว่าพระยะโฮวาไม่ยุติธรรมกับคนชั่ว เพราะพระองค์ ให้พวกเขาทุกคนมีโอกาสได้ยินคำเตือนเพื่อจะเปลี่ยนแปลงตัวเองและรอดชีวิตได้—โยนาห์ 3:1-10
10, 11. เราจะเลียนแบบความยุติธรรมของพระยะโฮวาได้ยังไงตอนที่เราประกาศข่าวดี?
10 เราจะเลียนแบบความยุติธรรมของพระยะโฮวายังไงตอนที่เราประกาศข่าวดี? วิธีแรกที่เราจะแสดงความยุติธรรม คือการพยายามเต็มที่เพื่อช่วยคนอื่นให้รอด ให้เราคิดถึงตัวอย่างในตอนต้นเรื่องการช่วยคนให้รอดจากเรือที่กำลังจะจม หลังจากมีคนช่วยคุณให้มาอยู่ในเรือชูชีพ คุณคงอยากจะช่วยคนอื่นที่ยังอยู่ในน้ำ คล้ายกัน เราต้องช่วยคนอื่นให้รู้จักข่าวดีเพื่อพวกเขาจะรอดชีวิต ถึงแม้หลายคนจะไม่ฟังข่าวดีที่เราประกาศ แต่ถ้าพระยะโฮวายังอดทนอยู่ เราก็ต้องพยายามเต็มที่เพื่อช่วยผู้คนให้ “กลับตัวกลับใจ” เพื่อพวกเขาจะรอดชีวิตได้—2 เปโตร 3:9
11 ถ้าเราประกาศข่าวดีกับทุกคนที่เราเจอ เราก็กำลังเลียนแบบความยุติธรรมของพระยะโฮวาและแสดงให้เห็นว่าเราไม่ลำเอียง อย่าลืมว่า “พระเจ้าไม่ลำเอียง พระองค์ยอมรับทุกคนที่เกรงกลัวพระองค์และทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ว่าเขาจะเป็นคนชาติไหนก็ตาม” (กิจการ 10:34, 35) ถ้าเราอยากเลียนแบบความยุติธรรมของพระยะโฮวา เราต้องไม่ตัดสินผู้คนล่วงหน้า แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เราต้องบอกข่าวดีกับทุกคนไม่ว่าพวกเขาจะมาจากไหน จะรวยหรือจน หรือคนอื่นจะมองเขายังไง ถ้าเราทำอย่างนั้น เราก็กำลังให้ทุกคนมีโอกาสได้ยินข่าวดีและเชื่อฟังพระยะโฮวา—โรม 10:11-13
วิธีที่เราพูดและทำกับคนอื่น
12, 13. (ก) ทำไมเราไม่ควรรีบตัดสินคนอื่น? (ข) คำแนะนำของพระเยซูที่ว่า “คุณต้องเลิกตัดสินคนอื่น” และ “เลิกกล่าวโทษคนอื่น” หมายความว่ายังไง? (ดูเชิงอรรถ)
12 เรายังแสดงให้เห็นว่าเราเป็นคนยุติธรรมได้โดยทำกับคนอื่นอย่างที่พระยะโฮวาทำกับเรา เป็นเรื่องง่ายที่เราจะมองคนอื่นในแง่ลบ วิพากษ์วิจารณ์ข้อผิดพลาด และสงสัยเจตนาของเขา แต่ถ้าเราทำผิดเราก็ไม่ อยากให้พระยะโฮวาสงสัยเจตนาของเราหรือตัดสินเราอย่างไร้ความเมตตา พระยะโฮวาไม่ได้ทำกับเราแบบนั้น ผู้เขียนหนังสือสดุดีบอกว่า “โอ้ยาห์ พระยะโฮวา ถ้าพระองค์คอยจับผิดใครจะทนได้?” (สดุดี 130:3) เราขอบคุณพระยะโฮวาที่พระองค์เมตตา ยุติธรรม และไม่ได้มองแต่ข้อผิดพลาดของเรา (สดุดี 103:8-10) ดังนั้น เราควรทำกับคนอื่นยังไง?
13 เมื่อคนอื่นทำผิดพลาด เราเลียนแบบพระยะโฮวาในการแสดงความเมตตาและความยุติธรรมได้โดยไม่รีบตัดสินเขา โดยเฉพาะตอนที่เราไม่รู้ข้อเท็จจริงทั้งหมด หรือเรื่องนั้นเป็นแค่ข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ในคำบรรยายบนภูเขาของพระเยซู ท่านเตือนว่า “คุณต้องเลิกตัดสินคนอื่น พระเจ้าจะได้ไม่ตัดสินคุณ” (มัทธิว 7:1) และในบันทึกของลูกา พระเยซูบอกด้วยว่า “เลิกกล่าวโทษคนอื่น พระเจ้าจะได้ไม่กล่าวโทษคุณ” a (ลูกา 6:37) พระเยซูรู้ว่ามนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบมักจะชอบตัดสินคนอื่น ถ้าคนที่ฟังพระเยซูสอนชอบตัดสินคนอื่น เขาต้องเลิกนิสัยนี้
14. ทำไมเราต้อง “เลิกตัดสิน” คนอื่น?
14 ทำไมเราต้อง “เลิกตัดสิน” คนอื่น? เหตุผลหนึ่งก็คือเราไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอย่างนั้น ยากอบเตือนเราว่า “มีผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นทั้งผู้ตั้งกฎหมายและผู้พิพากษา” ซึ่งก็คือพระยะโฮวา ดังนั้น ยากอบจึงถามคำถามที่เราควรคิดว่า “คุณเป็นใครถึงมาตัดสินคนอื่น?” (ยากอบ 4:12; โรม 14:1-4) อีกเหตุผลหนึ่งคือเราเป็นคนที่มีบาปเลยตัดสินคนอื่นอย่างไม่ยุติธรรมได้ง่าย ๆ เราอาจไม่รู้ว่าเขาเป็นคนยังไงจริง ๆ เพราะเขามีบางอย่างที่เราไม่ชอบ เรารู้สึกว่าเขาทำกับเราไม่ดี และเราอาจจะอิจฉาหรือคิดว่าเราดีกว่าเขา นอกจากนั้น เราไม่รู้ว่าคนอื่นคิดและรู้สึกยังไงและไม่รู้สภาพการณ์ทุก อย่างในชีวิตของเขาด้วย เหตุผลทั้งหมดนี้ควรทำให้เราไม่รีบตัดสินคนอื่น และยอมรับว่าเราไม่มีสิทธิ์ที่จะบอกว่าพี่น้องของเรายังรับใช้พระยะโฮวาได้ไม่ดีพอ หรือบอกว่าเขาทำบางอย่างด้วยเจตนาไม่ดี คงจะดีกว่าที่เราจะเลียนแบบพระยะโฮวาโดยการมองหาส่วนดีของพี่น้องแทนที่จะสนใจแต่ข้อเสียของเขา
15. ผู้นมัสการพระเจ้าไม่ควรมีคำพูดและการกระทำแบบไหน และทำไม?
15 เราควรทำกับคนในครอบครัวของเรายังไง? บ้านน่าจะเป็นที่ที่ทุกคนควรรู้สึกมีความสุขและปลอดภัย แต่น่าเศร้าที่ในทุกวันนี้บ้านกลับเป็นที่ที่คนในครอบครัวใช้ความรุนแรงต่อกัน ไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะได้ยินว่าสามี ภรรยา หรือพ่อแม่พูดหยาบคายและทำร้ายร่างกายกัน แต่คนที่นมัสการพระเจ้าไม่ควรใช้คำหยาบคาย พูดดูถูกเหยียดหยาม และทำร้ายร่างกายคนในครอบครัว (เอเฟซัส 4:29, 31; 5:33; 6:4) คำแนะนำของพระเยซูที่ ว่า “เลิกตัดสินคนอื่น” และ “เลิกกล่าวโทษคนอื่น” ควรเอามาใช้ตอนอยู่ที่บ้านด้วย จำไว้ว่าการเป็นคนยุติธรรมหมายความว่าเราต้องทำกับคนอื่นเหมือนที่พระยะโฮวาทำกับเรา และพระยะโฮวาไม่เคยเกรี้ยวกราดหรือทำกับเราอย่างโหดเหี้ยม แต่พระองค์ “มีความเห็นอกเห็นใจจริง ๆ” (ยากอบ 5:11) พระยะโฮวาเป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมที่เราควรเลียนแบบ
ผู้ดูแลต้องรับใช้ “อย่างยุติธรรม”
16, 17. (ก) พระยะโฮวาอยากให้ผู้ดูแลทำอะไร? (ข) ผู้ดูแลต้องทำอะไรถ้าคนที่ทำผิดไม่ได้ กลับใจจริง ๆ และทำไม?
16 เราทุกคนต้องแสดงความยุติธรรม แต่ผู้ดูแลในประชาคมคริสเตียนต้องทำตามเรื่องนี้เป็นพิเศษเหมือนกับที่คำพยากรณ์ของอิสยาห์บอกไว้เกี่ยวกับ “เจ้านาย” หรือผู้ดูแล ที่นั่นอ่านว่า “ดูเถอะ กษัตริย์องค์หนึ่งจะปกครองอย่างถูกต้องชอบธรรม และจะมีเจ้านายที่ปกครองอย่างยุติธรรม” (อิสยาห์ 32:1) พระยะโฮวาอยากให้ผู้ดูแลเลียนแบบความยุติธรรมของพระองค์ พวกเขาจะทำแบบนั้นได้ยังไง?
17 ผู้ดูแลที่มีคุณสมบัติเหล่านี้รู้ดีว่าการแสดงความยุติธรรมเกี่ยวข้องกับการรักษาประชาคมให้สะอาดด้วย บางครั้งพวกผู้ดูแลต้องตัดสินความเมื่อมีการการทำผิดร้ายแรง พวกเขาต้องจำไว้ว่าพระยะโฮวาอยากให้เขาแสดงความเมตตาถ้าเป็นไปได้ ดังนั้น พวกเขาจะพยายามช่วยคนที่ทำผิดให้กลับใจ แต่จะว่ายังไงถ้าคนที่ทำผิดไม่กลับใจอย่างแท้จริงทั้ง ๆ ที่มีผู้ดูแลพยายามช่วยเขา? เมื่อเป็นอย่างนั้นผู้ดูแลจะทำตามคำสั่งของพระยะโฮวาที่บอกว่า “พวกคุณต้องกำจัดคนชั่วออกไปจากพวกคุณ” นั่นหมายถึงการขับไล่เขาออกจากประชาคม (1 โครินธ์ 5:11-13; 2 ยอห์น 9-11) ถึงการทำอย่างนั้นจะทำให้ผู้ดูแลเศร้าใจ แต่พวกเขาก็ยอมรับว่านั่นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อปกป้องความสะอาดด้านศีลธรรมและด้านความเชื่อของประชาคม และพวกเขาก็หวังว่าสักวันหนึ่งคนที่ทำผิดจะสำนึกผิดและกลับมายังประชาคม—ลูกา 15:17, 18
18. เมื่อผู้ดูแลต้องให้คำแนะนำโดยใช้คัมภีร์ไบเบิลเขาควรคิดถึงอะไรเสมอ?
18 ผู้ดูแลต้องเลียนแบบความยุติธรรมของพระเจ้าตอนที่ให้คำแนะนำจากคัมภีร์ไบเบิลด้วย แน่นอน ผู้ดูแลไม่ควรมองหาข้อผิดพลาดของคนอื่น และเขาจะไม่รีบแก้ไขพี่น้อง แต่ถ้า “มีใครกำลังก้าวไปผิดทางโดยไม่รู้ตัว” การจำไว้ว่าความยุติธรรมของพระเจ้าไม่เกรี้ยวกราดจะกระตุ้นผู้ดูแลให้ “พยายามช่วยคนนั้นให้กลับมาในทางที่ถูกต้องด้วยความอ่อนโยน” (กาลาเทีย 6:1) ดังนั้น ผู้ดูแลจะไม่ด่าว่าคนที่ทำผิดหรือพูดให้เขาเจ็บ แต่พวกเขาจะให้คำแนะนำด้วยความรักเพื่อทำให้คนที่ทำผิดได้รับกำลังใจ แต่เมื่อต้องให้คำแนะนำตรง ๆ เพื่อช่วยบางคนให้เห็นว่าเขากำลังก้าวไปผิดทาง ผู้ดูแลจะจำไว้เสมอว่าพี่น้องคนนั้นเป็นแกะของพระยะโฮวา b (ลูกา 15:7) เมื่อผู้ดูแลให้คำแนะนำหรือแก้ไขด้วยความรัก นั่นจะทำให้พวกเขาช่วยคนที่ทำผิดได้สำเร็จ
19. ผู้ดูแลต้องตัดสินใจเรื่องอะไรบ้าง และพวกเขาต้องให้อะไรชี้นำการตัดสินใจของพวกเขา?
19 หลายครั้งผู้ดูแลต้องตัดสินใจเรื่องที่มีผลกับพี่น้อง ตัวอย่างเช่น ผู้ดูแลจะประชุมกันเป็นครั้งคราวเพื่อดูว่ามีพี่น้องชายคนไหนในประชาคมที่มีคุณสมบัติจะได้รับการเสนอเพื่อแต่งตั้งให้เป็นผู้ดูแลหรือผู้ช่วยงานรับใช้ ผู้ดูแลรู้ว่าพวกเขาต้องไม่ลำเอียง ไม่ทำตามความรู้สึกส่วนตัว แต่จะให้คัมภีร์ไบเบิลชี้นำการตัดสินใจของพวกเขา ถ้าพวกเขาทำแบบนั้น พวกเขาก็จะทำกับคนอื่นอย่าง “ไม่มีอคติกับใครและไม่ลำเอียง”—1 ทิโมธี 5:21
20, 21. (ก) ผู้ดูแลจะพยายามทำอะไร และทำไม? (ข) ผู้ดูแลจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วย “คนที่ซึมเศร้า”?
20 ผู้ดูแลยังทำตามความยุติธรรมของพระเจ้าในวิธีอื่นด้วย หลังจากบอก ล่วงหน้าว่าผู้ดูแลจะรับใช้ “อย่างยุติธรรม” แล้วอิสยาห์บอกต่อไปว่า “แต่ละคนจะเป็นเหมือนที่กำบังให้พ้นลม เป็นเหมือนที่หลบให้พ้นพายุฝน และเป็นเหมือนลำธารในที่กันดาร เหมือนเงาของหินผาในดินแดนที่แห้งแล้ง” (อิสยาห์ 32:1, 2) ดังนั้นแล้ว ผู้ดูแลจะพยายามให้กำลังใจพี่น้องและช่วยให้พวกเขาสดชื่น
21 ในทุกวันนี้ ผู้รับใช้ของพระยะโฮวาหลายคนต้องการกำลังใจเพราะเจอปัญหาหลายอย่างที่ทำให้รู้สึกท้อ ถ้าคุณเป็นผู้ดูแล คุณจะทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยเหลือ “คนที่ซึมเศร้า”? (1 เธสะโลนิกา 5:14) คุณอาจต้องฟังพวกเขาอย่างเห็นอกเห็นใจ (ยากอบ 1:19) พวกเขาอาจอยากให้ใครสักคนที่เขาไว้ใจฟังว่าเขากังวลเรื่องอะไรบ้าง (สุภาษิต 12:25) และคุณจะช่วยเขาให้มั่นใจว่าเขามีค่าและเป็นที่รักของทั้งพระยะโฮวาและพี่น้อง ด้วย (1 เปโตร 1:22; 5:6, 7) นอกจากนั้น คุณอาจอธิษฐานกับเขาและอธิษฐานเพื่อเขาได้ด้วย การได้ฟังผู้ดูแลพูดถึงตัวเขาในคำอธิษฐานจะทำให้เขาได้รับกำลังใจมาก (ยากอบ 5:14, 15) ถ้าคุณพยายามช่วยเหลือพี่น้องที่ซึมเศร้าด้วยความรัก พระยะโฮวาพระเจ้าที่ยุติธรรมจะไม่มีวันลืมสิ่งที่คุณทำอย่างแน่นอน
ผู้ดูแลเลียนแบบความยุติธรรมของพระยะโฮวาเมื่อพวกเขาให้กำลังใจคนที่ท้อใจ
22. เราจะเลียนแบบความยุติธรรมของพระยะโฮวาได้ยังไงบ้าง และผลจะเป็นยังไง?
22 การเลียนแบบความยุติธรรมของพระยะโฮวาจะทำให้เราใกล้ชิดกับพระองค์มากขึ้นเรื่อย ๆ เราจะทำอย่างนั้นได้ ถ้าเราใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระองค์ ทำตามสิ่งที่พระองค์บอกว่าถูก ประกาศข่าวดีที่ช่วยชีวิต และเลือกที่จะมองส่วนดีของคนอื่นแทนที่จะมองข้อผิดพลาดของพวกเขา เราก็กำลังเลียนแบบความยุติธรรมของพระเจ้า ผู้ดูแลทุกคน เมื่อคุณปกป้องประชาคมให้สะอาด ให้คำแนะนำที่ให้กำลังใจจากคัมภีร์ไบเบิล ตัดสินเรื่องต่าง ๆ อย่างไม่ลำเอียง และให้กำลังใจคนที่ท้อใจ คุณก็กำลังเลียนแบบความยุติธรรมของพระเจ้า พระยะโฮวาคงมีความสุขมากที่เห็นคนของพระองค์พยายามเต็มที่เพื่อจะ “เป็นคนยุติธรรม” โดยใช้ชีวิตตามแนวทางของพระองค์
a ฉบับแปลบางฉบับใช้คำว่า “อย่าตัดสิน” และ “อย่ากล่าวโทษ” การแปลอย่างนั้นหมายความว่า “อย่าเริ่มตัดสิน” และ “อย่าเริ่มกล่าวโทษ” แต่คำว่า “อย่า” ในข้อคัมภีร์เหล่านี้ที่ผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลใช้เป็นคำที่ใช้กับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน ดังนั้น พระเยซูแสดงให้เห็นว่าคนที่ฟังท่านซึ่งกำลังตัดสินคนอื่นต้องเลิกทำอย่างนั้น
b ที่ 2 ทิโมธี 4:2 คัมภีร์ไบเบิลบอกว่าบางครั้งผู้ดูแลต้อง “ว่ากล่าวตักเตือน ตำหนิและโน้มน้าว” คำภาษากรีกที่แปลว่า “โน้มน้าว” (พาราคาเละโอ) อาจมีความหมายว่า “ให้กำลังใจ” ด้วย คำภาษากรีกอีกคำหนึ่งที่เกี่ยวข้องกันอาจหมายถึงทนายความที่ช่วยว่าความให้บางคนในศาล ดังนั้น ถึงแม้ผู้ดูแลต้องว่ากล่าวตักเตือนอย่างหนักแน่น แต่เขาก็ต้องช่วยพี่น้องให้กลับมาใกล้ชิดกับพระยะโฮวาอีกครั้ง