ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

บท 15

“ทรงรู้สึกสงสาร”

“ทรงรู้สึกสงสาร”

“พระองค์​เจ้าข้า, ขอ​ให้​ตา​ของ​ข้าพเจ้า​เห็น​ได้”

1-3. (ก) พระ​เยซู​ทรง​ตอบ​สนอง​อย่าง​ไร​เมื่อ​ขอ​ทาน​ตา​บอด​สอง​คน​อ้อน​วอน​ให้​พระองค์​ช่วย? (ข) ถ้อย​คำ​ที่​ว่า “รู้สึก​สงสาร” หมาย​ความ​เช่น​ไร? (ดู​เชิงอรรถ.)

 ชาย​ตา​บอด​สอง​คน​นั่ง​อยู่​ริม​ถนน ใกล้​เมือง​เยริโค. ทุก​วัน​เขา​ทั้ง​สอง​มา​หา​ที่​นั่ง​บริเวณ​ที่​ฝูง​ชน​มัก​จะ​ผ่าน​ไป​มา​เพื่อ​จะ​ขอ​ทาน. อย่าง​ไร​ก็​ดี วัน​นี้​คน​ทั้ง​สอง​กำลัง​จะ​ประสบ​อะไร​บาง​อย่าง​ที่​จะ​ทำ​ให้​ชีวิต​ของ​เขา​เปลี่ยน​ไป​อย่าง​น่า​ทึ่ง.

2 ทันใด​นั้น คน​ขอ​ทาน​ก็​ได้​ยิน​เสียง​ชุลมุน​วุ่นวาย. เนื่อง​จาก​มอง​ไม่​เห็น​ว่า​กำลัง​เกิด​อะไร​ขึ้น ขอ​ทาน​คน​หนึ่ง​จึง​ถาม​ว่า​มี​เหตุ​การณ์​ที่​น่า​ตื่นเต้น​อะไร​หรือ และ​มี​คน​บอก​เขา​ว่า “พระ​เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ​เสด็จ [ผ่าน] ไป.” พระ​เยซู​กำลัง​เสด็จ​ไป​กรุง​เยรูซาเลม​เป็น​ครั้ง​สุด​ท้าย. แต่​พระองค์​มิ​ได้​เสด็จ​ไป​แต่​ผู้​เดียว; ฝูง​ชน​หมู่​ใหญ่​ติด​ตาม​พระองค์​ไป. เมื่อ​ได้​ยิน​ว่า​ใคร​กำลัง​ผ่าน​มา ขอ​ทาน​ทั้ง​สอง​ก็​ส่ง​เสียง​เอะอะ​ตะโกน​ขึ้น​มา​ว่า “พระองค์​ผู้​บุตร​ดาวิด​เจ้าข้า. ขอ​ทรง​เมตตา​ข้าพเจ้า​เถิด.” ด้วย​ความ​รำคาญ ฝูง​ชน​สั่ง​ให้​ขอ​ทาน​เงียบ แต่​เพราะ​รู้สึก​สิ้น​หวัง คน​ทั้ง​สอง​จึง​ไม่​ยอม​เงียบ.

3 พระ​เยซู​ทรง​ได้​ยิน​พวก​เขา​ร้อง​ตะโกน​แข่ง​กับ​เสียง​เซ็งแซ่​ของ​ฝูง​ชน. พระองค์​จะ​ทำ​ประการ​ใด? มี​หลาย​เรื่อง​หนัก​อึ้ง​อยู่​ใน​ความ​คิด​และ​พระทัย​ของ​พระองค์. พระองค์​กำลัง​จะ​เข้า​สู่​สัปดาห์​สุด​ท้าย​ของ​ชีวิต​บน​แผ่นดิน​โลก. พระองค์​ทรง​ทราบ​ว่า​ความ​ทุกข์​ทรมาน​และ​ความ​ตาย​อย่าง​ทารุณ​รอ​พระองค์​อยู่​ที่​กรุง​เยรูซาเลม. กระนั้น พระองค์​มิ​ได้​เพิกเฉย​ต่อ​การ​ร้อง​ขอ​อย่าง​ไม่​ละลด​เช่น​นั้น. พระองค์​ทรง​หยุด​แล้ว​รับสั่ง​ให้​พา​ขอ​ทาน​ที่​ร้อง​ตะโกน​นั้น​มา​หา​พระองค์. เขา​ทั้ง​สอง​ทูล​อ้อน​วอน​ว่า “พระองค์​เจ้าข้า, ขอ​ให้​ตา​ของ​ข้าพเจ้า​เห็น​ได้.” โดย “มี​พระทัย​เมตตา [“ด้วย​ความ​รู้สึก​สงสาร,” ล.ม.]” พระ​เยซู​ทรง​แตะ​ต้อง​ตา​ของ​เขา แล้ว​เขา​ก็​มอง​เห็น​ได้. * โดย​ไม่​ชักช้า เขา​ทั้ง​สอง​เริ่ม​ติด​ตาม​พระองค์​ไป.—ลูกา 18:35-43; มัดธาย 20:29-34.

4. พระ​เยซู​ทำ​ให้​คำ​พยากรณ์​ที่​ว่า​พระองค์​จะ “สงสาร​คน​อนาถา” สำเร็จ​เป็น​จริง​โดย​วิธี​ใด?

4 นี่​ไม่​ใช่​กรณี​เดียว​ที่​พระ​เยซู​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร. ใน​หลาย​โอกาส​และ​ภาย​ใต้​สภาพการณ์​ที่​ต่าง​กัน​หลาย​อย่าง พระ​เยซู​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​เพราะ​รู้สึก​สะเทือน​พระทัย​อย่าง​ยิ่ง. คำ​พยากรณ์​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​พระองค์​จะ “สงสาร​คน​อนาถา.” (บทเพลง​สรรเสริญ 72:13) จริง​ตาม​ถ้อย​คำ​ดัง​กล่าว พระ​เยซู​ทรง​ไว​ต่อ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น. พระองค์​ทรง​ริเริ่ม​ที่​จะ​ช่วยเหลือ​ผู้​คน. ความ​เมตตา​สงสาร​ของ​พระองค์​เป็น​พลัง​กระตุ้น​ใน​การ​ประกาศ​เผยแพร่​ของ​พระองค์. ขอ​ให้​เรา​ดู​ว่า​พระ​ธรรม​กิตติคุณ​เผย​ให้​เห็น​อย่าง​ไร​ถึง​ความ​เมตตา​สงสาร​อัน​อ่อน​ละมุน​ที่​กระตุ้น​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ​ของ​พระ​เยซู และ​พิจารณา​ว่า​เรา​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​คล้าย​กัน​นั้น​ได้​โดย​วิธี​ใด.

การ​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น

5, 6. ตัว​อย่าง​อะไร​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​บุคคล​ที่​ร่วม​ความ​รู้สึก?

5 พระ​เยซู​เป็น​บุคคล​ที่​มี​ความ​ร่วม​รู้สึก​อย่าง​ลึกซึ้ง. พระองค์​ทรง​เห็น​อก​เห็น​ใจ​และ​มี​ความ​ร่วม​รู้สึก​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ทน​ทุกข์. แม้​พระองค์​ไม่​ได้​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​สภาพการณ์​ทุก​อย่าง​ของ​เขา พระทัย​ของ​พระองค์​ก็​รู้สึก​ถึง​ความ​เจ็บ​ปวด​ของ​พวก​เขา​จริง ๆ. (เฮ็บราย 4:15) เมื่อ​รักษา​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​ทุกข์​ทรมาน​จาก​โรค​โลหิต​ตก​มา​เป็น​เวลา 12 ปี พระองค์​พรรณนา​ถึง​โรค​ของ​เธอ​ว่า​เป็น ‘อาการ​ป่วย​ที่​ทำ​ให้​เธอ​เป็น​ทุกข์’ โดย​วิธี​นี้​ทรง​ยอม​รับ​ว่า​โรค​นี้​ทำ​ให้​เธอ​เป็น​ทุกข์​ทรมาน​แสน​สาหัส. (มาระโก 5:25-34, ล.ม.) เมื่อ​ทรง​เห็น​มาเรีย​กับ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​อยู่​กับ​เธอ​ร้องไห้​เนื่อง​จาก​การ​ตาย​ของ​ลาซะโร ความ​โศก​เศร้า​ของ​พวก​เขา​ทำ​ให้​พระองค์​สะเทือน​พระทัย​มาก​จน​พระองค์​รู้สึก​ปั่นป่วน​พระทัย. แม้​พระองค์​ทรง​ทราบ​ว่า​กำลัง​จะ​ปลุก​ลาซะโร​ให้​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย พระ​เยซู​ก็​ยัง​รู้สึก​สะเทือน​พระทัย​จน​น้ำ​พระ​เนตร​ไหล.—โยฮัน 11:33, 35.

6 ใน​อีก​โอกาส​หนึ่ง คน​โรค​เรื้อน​คน​หนึ่ง​ได้​เข้า​ไป​หา​พระ​เยซู​แล้ว​อ้อน​วอน​ว่า “เพียง​พระองค์​ต้องการ พระองค์​ก็​จะ​ทำ​ให้​ข้าพเจ้า​สะอาด​ได้.” พระ​เยซู​ซึ่ง​เป็น​มนุษย์​สมบูรณ์​ที่​ไม่​เคย​ป่วย​เลย​ทรง​ตอบ​สนอง​อย่าง​ไร? พระองค์​รู้สึก​เห็น​อก​เห็น​ใจ​คน​โรค​เรื้อน. ที่​จริง “พระองค์​ทรง​รู้สึก​สงสาร.” (มาระโก 1:40-42, ล.ม.) ครั้น​แล้ว​พระองค์​ได้​ทำ​สิ่ง​ที่​ผิด​ธรรมดา. พระองค์​ทรง​ทราบ​ดี​ว่า ตาม​พระ​บัญญัติ​แล้ว​คน​โรค​เรื้อน​ไม่​สะอาด และ​ต้อง​ไม่​ไป​คลุกคลี​กับ​คน​อื่น. (เลวีติโก 13:45, 46) แน่นอน พระ​เยซู​สามารถ​รักษา​ชาย​คน​นี้​ได้​โดย​ไม่​ต้อง​สัมผัส​ตัว​เขา. (มัดธาย 8:5-13) กระนั้น พระองค์​ทรง​เลือก​ที่​จะ​ยื่น​พระ​หัตถ์​แตะ​ต้อง​คน​โรค​เรื้อน​นั้น​และ​ตรัส​ว่า “เรา​ต้องการ. จง​สะอาด​เถิด.” ทันใด​นั้น โรค​เรื้อน​ก็​หาย​ไป​จาก​เขา. พระ​เยซู​แสดง​ความ​ร่วม​รู้สึก​อัน​อ่อน​ละมุน​อะไร​เช่น​นี้!

แสดง “ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ”

7. อะไร​จะ​ช่วย​เรา​ให้​ปลูกฝัง​ความ​ร่วม​รู้สึก และ​อาจ​มี​การ​แสดง​คุณลักษณะ​นี้​โดย​วิธี​ใด?

7 ใน​ฐานะ​คริสเตียน มี​การ​เรียก​ร้อง​ให้​เรา​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​ใน​การ​แสดง​ความ​ร่วม​รู้สึก. คัมภีร์​ไบเบิล​กระตุ้น​เตือน​เรา​ให้​แสดง “ความ​เห็น​อก​เห็น​ใจ.” * (1 เปโตร 3:8, ล.ม.) อาจ​ไม่​ง่าย​ที่​จะ​เข้าใจ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​ที่​ทน​ทุกข์​จาก​ความ​เจ็บ​ป่วย​หรือ​โรค​ซึมเศร้า​เรื้อรัง—โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​หาก​เรา​ไม่​เคย​ประสบ​ความ​ทุกข์​ดัง​กล่าว​ด้วย​ตัว​เอง. แต่​อย่า​ลืม​ว่า ความ​ร่วม​รู้สึก​มิ​ได้​ขึ้น​อยู่​กับ​การ​ประสบ​สภาพการณ์​คล้าย​กัน. พระ​เยซู​ทรง​ร่วม​ความ​รู้สึก​กับ​คน​ป่วย​ถึง​แม้​พระองค์​เอง​ไม่​เคย​ป่วย. ถ้า​เช่น​นั้น เรา​จะ​ปลูกฝัง​ความ​ร่วม​รู้สึก​ได้​โดย​วิธี​ใด? โดย​อด​ทน​ฟัง​เมื่อ​คน​ที่​ทน​ทุกข์​เปิด​ใจ​เล่า​ให้​เรา​ฟัง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​เขา. เรา​อาจ​ถาม​ตัว​เอง​ว่า ‘หาก​ฉัน​อยู่​ใน​สภาพ​อย่าง​เขา ฉัน​จะ​รู้สึก​อย่าง​ไร?’ (1 โกรินโธ 12:26) หาก​เรา​ทำ​ให้​ความ​รู้สึก​ของ​เรา​ไว​ต่อ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น​มาก​ขึ้น เรา​ก็​จะ​สามารถ “พูด​ปลอบโยน​คน​ที่​ทุกข์​ใจ” ได้​ดี​ขึ้น. (1 เธซะโลนิเก 5:14, ล.ม.) บาง​ครั้ง อาจ​แสดง​ความ​ร่วม​รู้สึก​ได้​ไม่​เพียง​ด้วย​คำ​พูด แต่​โดย​การ​ร้องไห้​ด้วย. โรม 12:15 บอก​ว่า “จง​ร้องไห้​ด้วย​กัน​กับ​ผู้​ที่​ร้องไห้.”

8, 9. พระ​เยซู​แสดง​การ​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น​อย่าง​ไร?

8 พระ​เยซู​ทรง​คำนึง​ถึง​คน​อื่น และ​พระองค์​ปฏิบัติ​ใน​วิธี​ที่​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​เขา. ขอ​ระลึก​ถึง​ตอน​ที่​ชาย​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​หู​หนวก​และ​แทบ​จะ​พูด​ไม่​ได้ ถูก​พา​ตัว​มา​หา​พระ​เยซู. ดู​เหมือน​จะ​ตระหนัก​ว่า​ชาย​คน​นี้​คง​มี​ความ​รู้สึก​อึดอัด​ใจ​อยู่​บ้าง พระ​เยซู​จึง​ทรง​ทำ​สิ่ง​ที่​ตาม​ปกติ​แล้ว​พระองค์​จะ​ไม่​ทำ​เมื่อ​รักษา​คน​อื่น: “พระองค์​จึง​นำ​คน​นั้น​ออก​จาก​ประชาชน​ไป​อยู่​ต่าง​หาก.” พระ​เยซู​ทรง​รักษา​ชาย​คน​นี้​ใน​ที่​ลับ​ตา​คน​และ​ไม่​มี​ฝูง​ชน​มอง​ดู.—มาระโก 7:31-35.

9 พระ​เยซู​ทรง​ปฏิบัติ​ด้วย​การ​คำนึง​ถึง​อย่าง​เดียว​กัน​เมื่อ​มี​คน​พา​ชาย​ตา​บอด​คน​หนึ่ง​มา​หา​พระองค์​และ​ขอ​ให้​พระองค์​รักษา​เขา. พระ​เยซู “ได้​จูง​มือ​คน​ตา​บอด​พา​ออก​ไป​นอก​หมู่​บ้าน.” ต่อ​จาก​นั้น พระ​เยซู​ทรง​รักษา​ชาย​คน​นี้​เป็น​ขั้น ๆ. บาง​ที​การ​ทำ​เช่น​นี้​เปิด​โอกาส​ให้​ชาย​คน​นี้​ค่อย ๆ ปรับ​ความ​คิด​และ​สายตา​ให้​รับ​ภาพ​ที่​ละลาน​ตา​และ​โลก​อัน​ซับซ้อน​รอบ​ตัว​เขา​ที่​ต้อง​แสง​ตะวัน​อัน​เจิดจ้า. (มาระโก 8:22-26) พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​การ​คำนึง​ถึง​เสีย​จริง ๆ!

10. เรา​จะ​แสดง​การ​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น​ใน​ทาง​ใด​บ้าง?

10 การ​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​พระ​เยซู​เรียก​ร้อง​ให้​เรา​แสดง​การ​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น. ดัง​นั้น เรา​ต้อง​ระวัง​คำ​พูด​ของ​เรา จำ​ไว้​ว่า​การ​ใช้​ลิ้น​แบบ​ไม่​ยั้ง​คิด​อาจ​ทำ​ให้​คน​อื่น​รู้สึก​เจ็บใจ. (สุภาษิต 12:18; 18:21) คำ​พูด​เกรี้ยวกราด, คำ​พูด​ดูถูก​เหยียด​หยาม, และ​คำ​พูด​ถากถาง​แบบ​เชือด​เฉือน​ไม่​ควร​ให้​มี​อยู่​ใน​ท่ามกลาง​คริสเตียน​ซึ่ง​ไว​ต่อ​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น. (เอเฟโซ 4:31) ผู้​ปกครอง​ทั้ง​หลาย คุณ​จะ​แสดง​การ​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​คน​อื่น​ได้​โดย​วิธี​ใด? เมื่อ​ให้​คำ​แนะ​นำ จง​พูด​อย่าง​นุ่มนวล​ด้วย​ความ​กรุณา ไม่​ทำ​ให้​ผู้​ฟัง​รู้สึก​ว่า​เสีย​ศักดิ์ศรี. (ฆะลาเตีย 6:1) บิดา​มารดา​ทั้ง​หลาย คุณ​จะ​คำนึง​ถึง​ความ​รู้สึก​ของ​ลูก​ได้​โดย​วิธี​ใด? เมื่อ​ตี​สอน พยายาม​ใช้​วิธี​ที่​จะ​ไม่​ทำ​ให้​ลูก​ของ​คุณ​เสีย​หน้า​โดย​ไม่​จำเป็น.—โกโลซาย 3:21.

ริเริ่ม​ใน​การ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น

11, 12. เรื่อง​ราว​อะไร​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ที่​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​ไม่​ต้อง​ให้​มี​ใคร​มา​ขอร้อง​ก่อน​ที่​พระองค์​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​ต่อ​คน​อื่น?

11 พระ​เยซู​ไม่​ต้อง​ให้​มี​ใคร​มา​ขอร้อง​ทุก​ครั้ง​ไป​ก่อน​ที่​พระองค์​จะ​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​ต่อ​คน​อื่น. ที่​จริง ความ​เมตตา​สงสาร​ไม่​ใช่​คุณลักษณะ​ที่​ทำ​ให้​คน​เรา​อยู่​เฉย ๆ แต่​เป็น​คุณลักษณะ​ที่​กระตุ้น​ให้​ลง​มือ​ทำ. ดัง​นั้น ไม่​น่า​แปลก​ใจ ความ​เมตตา​สงสาร​อัน​อ่อน​ละมุน​ได้​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​ริเริ่ม​ใน​การ​ช่วยเหลือ​คน​อื่น. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​ฝูง​ชน​จำนวน​มาก​ที่​ได้​ค้าง​อยู่​กับ​พระองค์​เป็น​เวลา​สาม​วัน​กำลัง​จะ​ไป​โดย​ไม่​มี​อาหาร​กิน ไม่​มี​ใคร​ต้อง​มา​บอก​พระ​เยซู​ว่า​ประชาชน​หิว​หรือ​แนะ​นำ​ให้​พระองค์​ทำ​อะไร​บาง​อย่าง​ใน​เรื่อง​นี้. เรื่อง​ราว​ที่​บันทึก​ไว้​บอก​ว่า “พระ​เยซู​ทรง​เรียก​พวก​สาวก​ของ​พระองค์​มา​ตรัส​ว่า ‘เรา​สงสาร​คน​เหล่า​นี้​เพราะ​เขา​ค้าง​อยู่​กับ​เรา​ได้​สาม​วัน​แล้ว​และ​ไม่​มี​อาหาร​จะ​กิน เรา​ไม่​อยาก​ให้​เขา​ไป​เมื่อ​ยัง​อด​อาหาร​อยู่ กลัว​ว่า​เขา​จะ​หิว​โหย​สิ้น​แรง​ลง​ตาม​ทาง.’” ต่อ​จาก​นั้น ด้วย​ความ​สมัคร​ใจ​ของ​พระองค์​เอง พระองค์​ทรง​เลี้ยง​อาหาร​ฝูง​ชน​โดย​การ​อัศจรรย์.—มัดธาย 15:32-38, ฉบับ​แปล​ใหม่.

12 ขอ​พิจารณา​อีก​เรื่อง​หนึ่ง. ใน​ปี ส.ศ. 31 ขณะ​ที่​พระ​เยซู​อยู่​ใกล้​เมือง​นาอิน พระองค์​บังเอิญ​พบ​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ที่​น่า​เศร้า. ขบวน​แห่​ศพ​กำลัง​ออก​จาก​เมือง อาจ​กำลัง​มุ่ง​ไป​ยัง​อุโมงค์​ฝัง​ศพ​บน​เนิน​เขา​ที่​อยู่​ใกล้​เคียง เพื่อ​จะ​ฝัง​ศพ “ลูก​คน​เดียว​ของ . . . หญิง​ม่าย.” คุณ​นึก​ภาพ​ออก​ไหม​ถึง​ความ​เจ็บ​ปวด​รวดร้าว​ใน​หัวใจ​ของ​มารดา​คน​นี้? เธอ​กำลัง​จะ​ฝัง​ศพ​ลูก​ชาย​คน​เดียว​ของ​เธอ และ​ไม่​มี​สามี​ที่​จะ​ร่วม​ความ​ทุกข์​โศก​กับ​เธอ. จาก​ผู้​คน​ทั้ง​หมด​ใน​ขบวน​แห่​ศพ​นั้น พระ​เยซู “ได้​ทรง​เห็น” แม่​ม่าย​ที่​ไร้​บุตร. สิ่ง​ที่​ได้​พบ​เห็น​ทำ​ให้​พระองค์​สะเทือน​พระทัย ใช่​แล้ว “พระองค์​ทรง​เมตตา​กรุณา [“รู้สึก​สงสาร,” ล.ม.] เขา.” ไม่​มี​ใคร​ต้อง​มา​ร้อง​ขอ​พระองค์. ความ​เมตตา​สงสาร​ที่​อยู่​ใน​พระทัย​กระตุ้น​พระองค์​ให้​ลง​มือ​ทำ. ดัง​นั้น “พระองค์​เสด็จ​เข้า​ไป​ใกล้​ถูก​ต้อง​โลง” แล้ว​ทรง​ทำ​ให้​ชาย​หนุ่ม​กลับ​มี​ชีวิต​อีก. เกิด​อะไร​ขึ้น​ต่อ​จาก​นั้น? พระ​เยซู​มิ​ได้​ขอ​ให้​ชาย​หนุ่ม​ร่วม​กับ​ฝูง​ชน​เดิน​ทาง​ไป​กับ​พระองค์. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น พระ​เยซู “ทรง​มอบ​ชาย​หนุ่ม​ให้​แก่​มารดา​ของ​เขา” ทำ​ให้​ทั้ง​สอง​กลับ​มา​อยู่​กัน​เป็น​ครอบครัว​อีก​และ​เป็น​การ​ทำ​ให้​แน่​ใจ​ว่า​แม่​ม่าย​จะ​ได้​รับ​การ​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล.—ลูกา 7:11-15, ล.ม.

ริเริ่ม​ที่​จะ​ช่วย​คน​ที่​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ

13. เรา​จะ​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​ใน​การ​ริเริ่ม​อย่าง​เหมาะ​สม​เพื่อ​ช่วย​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ​ได้​โดย​วิธี​ใด?

13 เรา​จะ​ติด​ตาม​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู​ได้​อย่าง​ไร? แน่นอน เรา​ไม่​สามารถ​จัด​ให้​มี​อาหาร​โดย​การ​อัศจรรย์​หรือ​ทำ​ให้​คน​ตาย​กลับ​มี​ชีวิต​ได้. อย่าง​ไร​ก็​ดี เรา​สามารถ​เลียน​แบบ​พระ​เยซู​ใน​การ​ริเริ่ม​ช่วย​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ต้องการ​ความ​ช่วยเหลือ. เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​อาจ​ประสบ​ความ​ยุ่งยาก​อย่าง​หนัก​ด้าน​การ​เงิน หรือ​ตก​งาน. (1 โยฮัน 3:17) อาจ​มี​ความ​จำเป็น​อัน​เร่ง​ด่วน​ที่​จะ​ซ่อมแซม​บ้าน​ของ​แม่​ม่าย​คน​หนึ่ง. (ยาโกโบ 1:27) เรา​อาจ​รู้​จัก​ครอบครัว​ที่​โศก​เศร้า​เนื่อง​จาก​สูญ​เสีย​ญาติ​มิตร​ซึ่ง​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​การ​ปลอบโยน​หรือ​ความ​ช่วยเหลือ​บาง​อย่าง​ใน​ภาค​ปฏิบัติ. (1 เธซะโลนิเก 5:11) ใน​กรณี​ที่​มี​ความ​จำเป็น​อย่าง​แท้​จริง เรา​ไม่​ต้อง​คอย​ให้​มี​ใคร​มา​ขอร้อง​ก่อน​จึง​จะ​ให้​ความ​ช่วยเหลือ​บาง​อย่าง. (สุภาษิต 3:27) ความ​เมตตา​สงสาร​จะ​กระตุ้น​เรา​ให้​ริเริ่ม​อย่าง​เหมาะ​สม​ที่​จะ​ช่วยเหลือ เท่า​ที่​สภาพการณ์​ของ​เรา​เอื้ออำนวย. อย่า​ลืม​ว่า​การ​กระทำ​อย่าง​กรุณา​ซึ่ง​เป็น​แบบ​ธรรมดา ๆ หรือ​คำ​พูด​ปลอบโยน​ไม่​กี่​คำ​ที่​พูด​จาก​ใจ​จริง​อาจ​เป็น​การ​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร​ที่​มี​พลัง.—โกโลซาย 3:12.

ความ​เมตตา​สงสาร​กระตุ้น​พระองค์​ให้​ประกาศ

14. ทำไม​พระ​เยซู​ให้​ความ​สำคัญ​แก่​งาน​ประกาศ​ข่าว​ดี​เป็น​อันดับ​แรก?

14 ดัง​ที่​เรา​ได้​เห็น​ใน​ตอน 2 ของ​หนังสือ​นี้ พระ​เยซู​ทรง​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​โดด​เด่น​ใน​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี. พระองค์​ตรัส​ว่า “เรา​ต้อง​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า . . . เพราะ​เรา​ถูก​ใช้​มา​เพื่อ​การ​นี้.” (ลูกา 4:43, ล.ม.) ทำไม​พระองค์​จึง​ให้​ความ​สำคัญ​อันดับ​แรก​แก่​งาน​นี้? ประการ​แรก​เนื่อง​จาก​ความ​รัก​ที่​พระองค์​มี​ต่อ​พระเจ้า. แต่​พระ​เยซู​มี​แรง​กระตุ้น​อีก​อย่าง​หนึ่ง: ความ​เมตตา​สงสาร​อย่าง​จริง​ใจ​กระตุ้น​พระองค์​ให้​ตอบ​สนอง​ความ​จำเป็น​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​คน​อื่น. ใน​ทุก​วิถี​ทาง​ที่​พระองค์​แสดง​ความ​เมตตา​สงสาร ไม่​มี​วิธี​ใด​ที่​สำคัญ​ยิ่ง​ไป​กว่า​การ​สนอง​ความ​หิว​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​คน​อื่น. ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​สอง​เหตุ​การณ์​ที่​เผย​ให้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​มี​ทัศนะ​อย่าง​ไร​ต่อ​ผู้​คน​ที่​พระองค์​ประกาศ​ให้​ฟัง. การ​พิจารณา​ดัง​กล่าว​จะ​ช่วย​เรา​ให้​วิเคราะห์​เจตนา​ของ​เรา​เอง​ใน​การ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่​ต่อ​สาธารณชน.

15, 16. จง​พรรณนา​สอง​เหตุ​การณ์​ที่​เผย​ให้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​รู้สึก​อย่าง​ไร​ต่อ​ผู้​คน​ที่​พระองค์​ประกาศ​ให้​ฟัง.

15 ใน​ปี ส.ศ. 31 หลัง​ทุ่มเท​พระองค์​เอง​อย่าง​แข็งขัน​ใน​งาน​เผยแพร่​ประมาณ​สอง​ปี พระ​เยซู​ได้​เพิ่ม​ความ​พยายาม​มาก​ขึ้น​โดย​เริ่ม “เสด็จ​ดำเนิน​ไป​ตาม​นคร​และ​หมู่​บ้าน​โดย​รอบ” ใน​แกลิลี. สิ่ง​ที่​ได้​พบ​เห็น​ทำ​ให้​พระองค์​สะเทือน​พระทัย. อัครสาวก​มัดธาย​รายงาน​ว่า “เมื่อ​พระองค์​ทอด​พระ​เนตร​เห็น​ประชาชน​ก็​ทรง​สงสาร​เขา ด้วย​เขา​ถูก​รังควาน​และ​ไร้​ที่​พึ่ง​ดุจ​ฝูง​แกะ​ไม่​มี​ผู้​เลี้ยง.” (มัดธาย 9:35, 36, ฉบับ​แปล​ใหม่) พระ​เยซู​ทรง​เห็น​อก​เห็น​ใจ​สามัญ​ชน. พระองค์​สำนึก​อย่าง​แรง​กล้า​ถึง​สภาพ​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​น่า​สังเวช​ของ​พวก​เขา. พระองค์​ทรง​ทราบ​ว่า​พวก​เขา​ได้​รับ​การ​ปฏิบัติ​อย่าง​เลว​ร้าย​และ​ถูก​ละเลย​อย่าง​สิ้นเชิง​โดย​ผู้​ที่​จริง ๆ แล้ว​น่า​จะ​บำรุง​เลี้ยง​พวก​เขา ซึ่ง​ก็​คือ​พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​นั่น​เอง. โดย​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​จาก​ความ​เมตตา​สงสาร​อย่าง​ลึกซึ้ง พระ​เยซู​ทรง​ทำ​งาน​อย่าง​ขยัน​ขันแข็ง​เพื่อ​ไป​ถึง​ผู้​คน​พร้อม​ด้วย​ข่าวสาร​แห่ง​ความ​หวัง. ไม่​มี​อะไร​จำเป็น​สำหรับ​พวก​เขา​ยิ่ง​ไป​กว่า​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.

16 เหตุ​การณ์​คล้าย​กัน​ได้​เกิด​ขึ้น​ใน​หลาย​เดือน​ต่อ​มา ใกล้​เทศกาล​ปัศคา​ใน​ปี ส.ศ. 32. ใน​โอกาส​นี้ พระ​เยซู​กับ​เหล่า​อัครสาวก​ได้​ลง​เรือ​แล่น​ข้าม​ทะเล​แกลิลี​ไป​หา​ที่​สงัด​เพื่อ​จะ​พักผ่อน. แต่​ฝูง​ชน​ได้​วิ่ง​ไป​ตาม​ชายฝั่ง​และ​ไป​ถึง​อีก​ฝั่ง​หนึ่ง​ก่อน​ที่​เรือ​จะ​มา​ถึง. พระ​เยซู​มี​ปฏิกิริยา​อย่าง​ไร? “เมื่อ​พระ​เยซู​เสด็จ​ขึ้น​จาก​เรือ พระองค์​ทรง​เห็น​ชน​ฝูง​ใหญ่ แต่​พระองค์​ทรง​รู้สึก​สงสาร​พวก​เขา เพราะ​พวก​เขา​เป็น​เหมือน​แกะ​ที่​ไม่​มี​ผู้​เลี้ยง. และ​พระองค์​ทรง​เริ่ม​สอน​เขา​หลาย​เรื่อง.” (มาระโก 6:31-34, ล.ม.) อีก​ครั้ง​หนึ่ง พระ​เยซู “ทรง​รู้สึก​สงสาร” เนื่อง​จาก​สภาพ​ขาด​แคลน​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​ผู้​คน. เช่น​เดียว​กับ “แกะ​ที่​ไม่​มี​ผู้​เลี้ยง” พวก​เขา​อดอยาก​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​และ​ต้อง​ดู​แล​ตัว​เอง. แทน​ที่​จะ​เป็น​เพียง​การ​สำนึก​ใน​หน้า​ที่ ความ​เมตตา​สงสาร​ต่าง​หาก​ที่​ได้​กระตุ้น​ให้​พระ​เยซู​ประกาศ.

ประกาศ​ด้วย​ค​วา​เมตตา​สงสาร

17, 18. (ก) อะไร​กระตุ้น​เรา​ให้​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่? (ข) เรา​จะ​ปลูกฝัง​ความ​สงสาร​ต่อ​คน​อื่น​ได้​อย่าง​ไร?

17 อะไร​กระตุ้น​เรา​ใน​ฐานะ​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ให้​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่? ดัง​ที่​เรา​ได้​เห็น​ใน​บท 9 ของ​หนังสือ​นี้ เรา​มี​งาน​มอบหมาย มี​หน้า​ที่​รับผิดชอบ​ที่​จะ​ประกาศ​และ​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก. (มัดธาย 28:19, 20; 1 โกรินโธ 9:16) แต่​แรง​กระตุ้น​ของ​เรา​ใน​การ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​นี้​ต้อง​ไม่​ใช่​เพียง​แค่​ความ​สำนึก​ใน​พันธะ​หน้า​ที่. สำคัญ​ที่​สุด ความ​รัก​ที่​มี​ต่อ​พระ​ยะโฮวา​กระตุ้น​เรา​ให้​ประกาศ​ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระองค์. การ​ประกาศ​ของ​เรา​ยัง​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​จาก​ความ​เมตตา​สงสาร​ต่อ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​มี​ความ​เชื่อ​ต่าง​จาก​เรา​ด้วย. (มาระโก 12:28-31) ถ้า​เช่น​นั้น เรา​จะ​ปลูกฝัง​ความ​เมตตา​สงสาร​ต่อ​คน​อื่น​ได้​อย่าง​ไร?

18 เรา​ต้อง​มอง​ดู​ผู้​คน​เหมือน​ที่​พระ​เยซู​ทรง​มอง​พวก​เขา นั่น​คือ “ถูก​รังควาน​และ​ไร้​ที่​พึ่ง​ดุจ​ฝูง​แกะ​ไม่​มี​ผู้​เลี้ยง.” ขอ​ให้​นึก​ภาพ​ว่า​คุณ​พบ​ลูก​แกะ​ตัว​หนึ่ง​ที่​หลง​ทาง​อย่าง​สิ้น​หวัง. หาก​ไม่​มี​ผู้​เลี้ยง​นำ​แกะ​นั้น​ไป​ยัง​ทุ่ง​หญ้า​เขียว​สด​และ​แหล่ง​น้ำ​แล้ว สัตว์​ที่​น่า​สงสาร​นี้​ก็​จะ​หิว​โหย​และ​กระหาย​น้ำ. คุณ​จะ​ไม่​สงสาร​ลูก​แกะ​ตัว​นี้​หรือ? คุณ​จะ​พยายาม​สุด​ความ​สามารถ​ที่​จะ​ให้​หญ้า​และ​น้ำ​แก่​แกะ​นั้น​บ้าง​มิ​ใช่​หรือ? ลูก​แกะ​นั้น​ก็​เหมือน​กับ​หลาย​คน​ที่​ยัง​ไม่​รู้​จัก​ข่าว​ดี. เนื่อง​จาก​ถูก​ละเลย​โดย​ผู้​เลี้ยง​แกะ​ทาง​ศาสนา​จอม​ปลอม พวก​เขา​จึง​อดอยาก​และ​กระหาย​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​อีก​ทั้ง​ไม่​มี​ความ​หวัง​แท้​สำหรับ​อนาคต. เรา​มี​สิ่ง​ที่​จำเป็น​สำหรับ​พวก​เขา​ซึ่ง​ก็​ได้​แก่ อาหาร​ฝ่าย​วิญญาณ​ที่​บำรุง​กำลัง​และ​น้ำ​แห่ง​ความ​จริง​ที่​ทำ​ให้​สดชื่น​ซึ่ง​พบ​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. (ยะซายา 55:1, 2) เมื่อ​เรา​ไตร่ตรอง​ดู​ความ​จำเป็น​ทาง​ฝ่าย​วิญญาณ​ของ​คน​ที่​อยู่​รอบ​ตัว​เรา เรา​รู้สึก​สงสาร​พวก​เขา. เช่น​เดียว​กับ​พระ​เยซู ถ้า​เรา​รู้สึก​สงสาร​ผู้​คน​อย่าง​ยิ่ง เรา​ก็​จะ​ทำ​ทุก​อย่าง​เท่า​ที่​ทำ​ได้​เพื่อ​บอก​ความ​หวัง​เรื่อง​ราชอาณาจักร​แก่​พวก​เขา.

19. เรา​อาจ​ทำ​เช่น​ไร​เพื่อ​ช่วย​กระตุ้น​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​มี​คุณวุฒิ ให้​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่​แก่​สาธารณชน?

19 เรา​จะ​ช่วย​คน​อื่น​ให้​ดำเนิน​ตาม​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู​ได้​อย่าง​ไร? สมมุติ​ว่า​เรา​ต้องการ​สนับสนุน​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​มี​คุณวุฒิ​ให้​เริ่ม​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​ประกาศ​แก่​สาธารณชน. หรือ​บาง​ที​เรา​ต้องการ​ช่วย​คน​ที่​เลิก​ประกาศ​ให้​มี​ส่วน​ร่วม​อย่าง​เต็ม​ที่​ใน​งาน​เผยแพร่​อีก. เรา​จะ​ช่วย​คน​เช่น​นั้น​ได้​โดย​วิธี​ใด? เรา​ต้อง​กระตุ้น​หัวใจ​เขา. จำ​ไว้​ว่า​ที​แรก​พระ​เยซู “ทรง​รู้สึก​สงสาร” ผู้​คน ครั้น​แล้ว​พระองค์​จึง​ทรง​สอน​พวก​เขา. (มาระโก 6:34) ดัง​นั้น หาก​เรา​สามารถ​ช่วย​เขา​ให้​ปลูกฝัง​ความ​เมตตา​สงสาร หัวใจ​ของ​เขา​ก็​คง​จะ​กระตุ้น​เขา​ให้​เป็น​เหมือน​พระ​เยซู​และ​บอก​ข่าว​ดี​แก่​คน​อื่น. เรา​อาจ​ถาม​พวก​เขา​ว่า “การ​ยอม​รับ​ข่าวสาร​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ได้​ทำ​ให้​ชีวิต​คุณ​เปลี่ยน​ไป​ใน​ทาง​ที่​ดี​ขึ้น​อย่าง​ไร​บ้าง? จะ​ว่า​อย่าง​ไร​กับ​คน​ที่​ยัง​ไม่​รู้​ข่าวสาร​นี้ พวก​เขา​จำเป็น​ต้อง​รู้​ข่าว​ดี​ด้วย​มิ​ใช่​หรือ? คุณ​จะ​ทำ​อะไร​ได้​บ้าง​เพื่อ​ช่วย​พวก​เขา?” แน่นอน แรง​กระตุ้น​อัน​มี​พลัง​มาก​ที่​สุด​ใน​การ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่​คือ​ความ​รัก​ที่​มี​ต่อ​พระเจ้า​และ​ความ​ปรารถนา​ที่​จะ​รับใช้​พระองค์.

20. (ก) มี​อะไร​เกี่ยว​ข้อง​ด้วย​ใน​การ​เป็น​ผู้​ติด​ตาม​พระ​เยซู? (ข) จะ​มี​การ​พิจารณา​อะไร​ใน​บท​ต่อ​ไป?

20 การ​เป็น​สาวก​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​ข้อง​ไม่​เพียง​การ​กล่าว​ซ้ำ​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​และ​เลียน​แบบ​การ​กระทำ​ของ​พระองค์. เรา​ต้อง​ปลูกฝัง “เจตคติ” อย่าง​เดียว​กับ​ที่​พระองค์​มี. (ฟิลิปปอย 2:5, ล.ม.) ดัง​นั้น เรา​รู้สึก​ขอบคุณ​สัก​เพียง​ไร​ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​เผย​ให้​เรา​เห็น​ความ​คิด​และ​ความ​รู้สึก​ที่​อยู่​เบื้อง​หลัง​คำ​ตรัส​และ​การ​กระทำ​ของ​พระ​เยซู! โดย​มา​รู้​จัก​คุ้น​เคย​กับ “พระทัย​ของ​พระ​คริสต์” เรา​จะ​เตรียม​พร้อม​มาก​ขึ้น​ที่​จะ​พัฒนา​ให้​มี​ความ​รู้สึก​ไว​รวม​ทั้ง​ความ​เมตตา​สงสาร​อย่าง​จริง​ใจ​และ​โดย​วิธี​นี้​จึง​ปฏิบัติ​ต่อ​คน​อื่น​อย่าง​ที่​พระ​เยซู​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้​คน​โดย​ทั่ว​ไป. (1 โกรินโธ 2:16) ใน​บท​ต่อ​ไป เรา​จะ​พิจารณา​วิธี​ต่าง ๆ ที่​พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ความ​รัก​ต่อ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​โดย​เฉพาะ.

^ วรรค 3 คำ​ภาษา​กรีก​ที่​ได้​รับ​การ​แปล​ว่า “รู้สึก​สงสาร” ถูก​เรียก​ว่า​เป็น “คำ​หนึ่ง​ซึ่ง​เน้น​หนัก​มาก​ที่​สุด​ใน​ภาษา​กรีก​สำหรับ​ความ​รู้สึก​เมตตา​สงสาร.” แหล่ง​อ้างอิง​หนึ่ง​กล่าว​ว่า คำ​นี้​บ่ง​ชี้ “ไม่​เพียง​ความ​ร่วม​รู้สึก​เมื่อ​เห็น​ความ​ทุกข์​ทรมาน แต่​ยัง​ชี้​ถึง​ความ​ปรารถนา​อัน​แรง​กล้า​ที่​จะ​ปลด​เปลื้อง​ความ​ทุกข์​และ​ขจัด​ให้​หมด​ไป.”

^ วรรค 7 คำ​คุณศัพท์​กรีก​ที่​ได้​รับ​การ​แปล​ว่า “เห็น​อก​เห็น​ใจ” มี​ความ​หมาย​ตาม​ตัว​อักษร​ว่า “ทน​ทุกข์​ร่วม​กับ.”