ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

บท 11

“ไม่เคยมีผู้ใดพูดเหมือนคนนั้น”

“ไม่เคยมีผู้ใดพูดเหมือนคนนั้น”

1, 2. (ก) ทำไม​เจ้าหน้าที่​ซึ่ง​ถูก​ส่ง​ไป​จับ​พระ​เยซู​จึง​กลับ​มา​มือ​เปล่า? (ข) เพราะ​เหตุ​ใด​พระ​เยซู​จึง​เป็น​ครู​ที่​โดด​เด่น?

 พวก​ฟาริซาย​พลุ่ง​พล่าน​ด้วย​ความ​โกรธ. พระ​เยซู​กำลัง​สอน​เรื่อง​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​ใน​พระ​วิหาร. คน​เหล่า​นั้น​ที่​ฟัง​อยู่​เกิด​ความ​ขัด​แย้ง​กัน; หลาย​คน​แสดง​ความ​เชื่อ​ใน​พระ​เยซู ขณะ​ที่​บาง​คน​ต้องการ​ให้​พระองค์​ถูก​จับ​กุม. เมื่อ​ไม่​สามารถ​ระงับ​ความ​โกรธ​ได้ พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ได้​ส่ง​เจ้าหน้าที่​ไป​จับ​พระ​เยซู. แต่​พวก​เจ้าหน้าที่​กลับ​มา​มือ​เปล่า. พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​และ​พวก​ฟาริซาย​ต้องการ​คำ​อธิบาย​จึง​ถาม​ว่า “ทำไม​จึง​ไม่​ได้​พา​เขา​มา?” เจ้าหน้าที่​ตอบ​ว่า “ไม่​เคย​มี​ผู้​ใด​พูด​เหมือน​คน​นั้น.” พวก​เขา​รู้สึก​ประทับใจ​ใน​การ​สอน​ของ​พระ​เยซู​จน​ไม่​ต้องการ​จับ​พระองค์​มา. *โยฮัน 7:45, 46.

2 เจ้าหน้าที่​เหล่า​นั้น​ไม่​ใช่​พวก​เดียว​ที่​รู้สึก​ประทับใจ​ใน​การ​สอน​ของ​พระ​เยซู. ผู้​คน​ชุมนุม​กัน​เป็น​จำนวน​มาก​มาย​เพียง​เพื่อ​จะ​ฟัง​พระองค์​สอน. (มาระโก 3:7, 9; 4:1; ลูกา 5:1-3) ทำไม​พระ​เยซู​จึง​เป็น​ผู้​สอน​ที่​โดด​เด่น​เช่น​นั้น? ดัง​ที่​เรา​ได้​เห็น​ใน​บท 8 พระองค์​ทรง​รัก​คำ​สอน​ต่าง ๆ ใน​พระ​คัมภีร์​ที่​พระองค์​สอน และ​ทรง​รัก​ผู้​คน​ที่​พระองค์​สอน. นอก​จาก​นี้ พระองค์​ทรง​เชี่ยวชาญ​จริง ๆ ใน​เรื่อง​วิธี​สอน. ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​วิธี​ที่​บังเกิด​ผล​สาม​ประการ​ที่​พระองค์​ใช้​และ​ดู​ว่า​เรา​จะ​เลียน​แบบ​วิธี​ดัง​กล่าว​ได้​อย่าง​ไร.

ใช้​วิธี​สอน​ที่​เรียบ​ง่าย

3, 4. (ก) ทำไม​พระ​เยซู​ใช้​ภาษา​ง่าย ๆ ใน​การ​สอน​ของ​พระองค์? (ข) คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​เป็น​ตัว​อย่าง​เช่น​ไร​ที่​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​สอน​อย่าง​เรียบ​ง่าย?

3 คุณ​นึก​ภาพ​คำ​ศัพท์​จำนวน​มาก​มาย​ที่​พระ​เยซู​อาจ​ใช้​ได้​ไหม? กระนั้น เมื่อ​พระองค์​สอน พระองค์​ไม่​เคย​ตรัส​สิ่ง​ที่​ยาก​เกิน​ไป​จน​ผู้​ฟัง​ไม่​เข้าใจ พวก​เขา​หลาย​คน “ขาด​การ​ศึกษา​และ​เป็น​คน​สามัญ.” (กิจการ 4:13, ฉบับ​แปล​ใหม่) พระองค์​ทรง​คำนึง​ถึง​ขีด​จำกัด​ของ​พวก​เขา ไม่​เคย​ให้​ข้อมูล​แก่​พวก​เขา​มาก​เกิน​ไป. (โยฮัน 16:12) คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​เรียบ​ง่าย แต่​ก็​ถ่ายทอด​ความ​จริง​ที่​ลึกซึ้ง.

4 ยก​ตัว​อย่าง คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​ตาม​ที่​บันทึก​ใน​มัดธาย 5:3–7:27. พระ​เยซู​ทรง​ให้​คำ​แนะ​นำ​ใน​คำ​เทศน์​นี้​อย่าง​ที่​กระตุ้น​ความ​คิด เข้า​ถึง​แก่น​ของ​ปัญหา. ไม่​มี​แนว​คิด​หรือ​วลี​ที่​ซับซ้อน. ที่​จริง แทบ​จะ​ไม่​มี​สัก​คำ​เดียว​ที่​แม้​แต่​เด็ก​เล็ก ๆ จะ​เข้าใจ​ได้​ยาก! ฉะนั้น ไม่​น่า​แปลก​ใจ​เมื่อ​พระ​เยซู​จบ​คำ​เทศน์​ของ​พระองค์ ฝูง​ชน​ซึ่ง​ดู​เหมือน​จะ​รวม​ไป​ถึง​ชาว​นา, คน​เลี้ยง​แกะ, และ​ชาว​ประมง​ต่าง “ก็​อัศจรรย์​ใจ​ใน​วิธี​สอน​ของ​พระองค์.”—มัดธาย 7:28, ล.ม.

5. จง​ยก​ตัว​อย่าง​ถ้อย​คำ​ที่​พระ​เยซู​ตรัส​ที่​เรียบ​ง่าย​แต่​มี​ความ​หมาย​ลึกซึ้ง.

5 ใน​การ​สอน บ่อย​ครั้ง​พระ​เยซู​ใช้​วลี​สั้น ๆ ที่​ง่าย​และ​คำ​พูด​ที่​มี​ความ​หมาย​จริง ๆ. ใน​ยุค​ที่​การ​ฟัง​เป็น​วิธี​หลัก​ใน​การ​รับ​ความ​รู้ วิธี​สอน​ของ​พระองค์​จึง​ทำ​ให้​ความ​รู้​ประทับ​อยู่​ใน​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​ผู้​ฟัง​อย่าง​ไม่​มี​วัน​ลืม. ขอ​พิจารณา​ตัว​อย่าง​บาง​วลี เช่น “อย่า​กล่าว​โทษ​เขา, เพื่อ​เขา​จะ​ไม่​กล่าว​โทษ​ท่าน.” “คน​ปกติ​ไม่​ต้องการ​หมอ, แต่​คน​เจ็บ​ต้องการ​หมอ.” “จิตต์​ใจ​พร้อม​แล้ว​ก็​จริง, แต่​เนื้อหนัง​ยัง​อ่อน​กำลัง.” “ของ​ของ​กายะซา​จง​ถวาย​แก่​กายะซา, และ​ของ​ของ​พระเจ้า จง​ถวาย​แก่​พระเจ้า.” “การ​ให้​เป็น​เหตุ​ให้​มี​ความ​สุข​ยิ่ง​กว่า​การ​รับ.” * (มัดธาย 7:1; 9:12; 26:41; มาระโก 12:17; กิจการ 20:35) เกือบ 2,000 ปี​หลัง​จาก​ที่​มี​การ​กล่าว​ถ้อย​คำ​เหล่า​นี้​เป็น​ครั้ง​แรก ถ้อย​คำ​ดัง​กล่าว​ก็​ยัง​คง​เป็น​ที่​น่า​จด​จำ​อยู่.

6, 7. (ก) เพื่อ​จะ​สอน​อย่าง​เรียบ​ง่าย ทำไม​จึง​สำคัญ​ที่​เรา​จะ​ใช้​ภาษา​ซึ่ง​ไม่​ซับซ้อน? (ข) เรา​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​ให้​ข้อมูล​มาก​เกิน​ไป​แก่​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​ได้​อย่าง​ไร?

6 เรา​จะ​สอน​อย่าง​เรียบ​ง่าย​ได้​โดย​วิธี​ใด? ข้อ​เรียก​ร้อง​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง​คือ​การ​ที่​เรา​ใช้​ภาษา​ที่​ชัดเจน​ซึ่ง​คน​ส่วน​ใหญ่​เข้าใจ​ง่าย. คำ​สอน​พื้น​ฐาน​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ไม่​ซับซ้อน. พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​เปิด​เผย​พระ​ประสงค์​ของ​พระองค์​แก่​บรรดา​ผู้​ที่​จริง​ใจ​และ​มี​หัวใจ​ถ่อม. (1 โกรินโธ 1:26-28) คำ​พูด​ที่​ง่าย​ซึ่ง​เลือก​อย่าง​รอบคอบ​สามารถ​ถ่ายทอด​ความ​จริง​แห่ง​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ได้​อย่าง​บังเกิด​ผล.

เมื่อ​คุณ​สอน จง​ให้​เป็น​แบบ​เรียบ​ง่าย​เสมอ

7 เพื่อ​จะ​สอน​อย่าง​เรียบ​ง่าย เรา​ต้อง​ระวัง​ที่​จะ​หลีก​เลี่ยง​การ​ให้​ข้อมูล​มาก​เกิน​ไป​แก่​นัก​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล. ดัง​นั้น เมื่อ​นำ​การ​ศึกษา​พระ​คัมภีร์ เรา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​อธิบาย​ราย​ละเอียด​ทุก​อย่าง อีก​ทั้ง​เรา​ไม่​จำเป็น​ต้อง​เร่ง​รีบ​ให้​จบ​เนื้อหา​ราว​กับ​ว่า​การ​ครอบ​คลุม​เนื้อหา​ให้​ได้​มาก ๆ เป็น​สิ่ง​สำคัญ​ที่​สุด. แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น นับ​ว่า​ฉลาด​ที่​จะ​ให้​ความ​จำเป็น​และ​ความ​สามารถ​ของ​นัก​ศึกษา​เป็น​ตัว​กำหนด​อัตรา​ความ​เร็ว​ใน​การ​ศึกษา. เป้าหมาย​ของ​เรา​คือ​ช่วย​นัก​ศึกษา​ให้​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระ​คริสต์​และ​นมัสการ​พระ​ยะโฮวา. เพื่อ​บรรลุ​เป้าหมาย​ดัง​กล่าว เรา​ต้อง​ใช้​เวลา​เต็ม​ที่​ตาม​ความ​จำเป็น​เพื่อ​ให้​นัก​ศึกษา​มี​ความ​เข้าใจ​กระจ่าง​ชัด​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​เขา​กำลัง​เรียน​รู้. เฉพาะ​แต่​เมื่อ​ทำ​อย่าง​นี้ ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​จึง​จะ​เข้า​ถึง​หัวใจ​นัก​ศึกษา​และ​กระตุ้น​เขา​ให้​นำ​สิ่ง​ที่​ได้​เรียน​รู้​นั้น​ไป​ใช้.—โรม 12:2.

การ​ใช้​คำ​ถาม​ที่​เหมาะ

8, 9. (ก) ทำไม​พระ​เยซู​ใช้​คำ​ถาม? (ข) พระ​เยซู​ใช้​คำ​ถาม​อย่าง​ไร​เพื่อ​ช่วย​เปโตร​ลง​ความ​เห็น​อย่าง​ถูก​ต้อง​ใน​เรื่อง​การ​เสีย​ภาษี​บำรุง​พระ​วิหาร?

8 พระ​เยซู​ทรง​โดด​เด่น​ใน​เรื่อง​การ​ใช้​คำ​ถาม แม้​บาง​ครั้ง​การ​บอก​จุด​สำคัญ​ให้​ผู้​ฟัง​ทราบ​ไป​เลย​จะ​เสีย​เวลา​น้อย​กว่า​ก็​ตาม. ถ้า​เช่น​นั้น ทำไม​พระองค์​จึง​ใช้​คำ​ถาม? บาง​ครั้ง พระองค์​ใช้​คำ​ถาม​ที่​เจาะ​ลึก​เพื่อ​เปิดโปง​เจตนา​ที่​ผิด​ของ​ผู้​ต่อ​ต้าน​พระองค์ โดย​วิธี​นี้​ทำ​ให้​พวก​เขา​เงียบ​เสียง​ลง. (มัดธาย 21:23-27; 22:41-46) อย่าง​ไร​ก็​ดี ใน​หลาย​กรณี พระองค์​ทรง​ใช้​คำ​ถาม​เพื่อ​ทำ​ให้​เหล่า​สาวก​เปิด​เผย​สิ่ง​ที่​อยู่​ใน​ใจ​ของ​เขา​รวม​ทั้ง​เพื่อ​กระตุ้น​และ​ฝึก​ความ​คิด​ของ​พวก​เขา. ดัง​นั้น พระองค์​จึง​ใช้​คำ​ถาม​ต่าง ๆ เช่น “ท่าน​ทั้ง​หลาย​คิด​เห็น​อย่าง​ไร?” และ “เจ้า​เชื่อ​ข้อ​นี้​หรือ?” (มัดธาย 18:12; โยฮัน 11:26) โดย​การ​ใช้​คำ​ถาม​ต่าง ๆ พระ​เยซู​ทรง​เข้า​ถึง​หัวใจ​ของ​เหล่า​สาวก​และ​ทำ​ให้​พวก​เขา​ซาบซึ้ง​ตรึง​ใจ. ขอ​พิจารณา​ตัว​อย่าง​หนึ่ง.

9 ใน​โอกาส​หนึ่ง คน​เก็บ​ภาษี​ประจำ​พระ​วิหาร​ถาม​เปโตร​ว่า พระ​เยซู​เสีย​ภาษี​บำรุง​พระ​วิหาร​หรือ​ไม่. * เปโตร​ตอบ​ทันที​ว่า “เสีย.” ต่อ​มา พระ​เยซู​ทรง​หา​เหตุ​ผล​กับ​เขา​ว่า “ซีโมน​เอ๋ย, ท่าน​เห็น​อย่าง​ไร? กษัตริย์​เคย​เก็บ​ส่วย​และ​ภาษี​จาก​ผู้​ใด, จาก​โอรส​หรือ​จาก​ผู้​อื่น?” เปโตร​ทูล​ตอบ​ว่า “เคย​เก็บ​จาก​ผู้​อื่น.” พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ถ้า​เช่น​นั้น​โอรส​ก็​ไม่​ต้อง​เสีย.” (มัดธาย 17:24-27) จุด​สำคัญ​ของ​คำ​ถาม​ดัง​กล่าว​กระจ่าง​ชัด​สำหรับ​เปโตร​อย่าง​ไม่​ต้อง​สงสัย เพราะ​เป็น​ที่​รู้​กัน​ว่า​บรรดา​ผู้​ที่​เป็น​เชื้อ​พระ​วงศ์​ของ​กษัตริย์​ไม่​ต้อง​เสีย​ภาษี. ฉะนั้น ใน​ฐานะ​พระ​บุตร​ผู้​ได้​รับ​กำเนิด​องค์​เดียว​ของ​พระ​มหา​กษัตริย์​ทาง​ภาค​สวรรค์​ซึ่ง​ได้​รับ​การ​นมัสการ ณ พระ​วิหาร พระ​เยซู​จึง​ไม่​มี​พันธะ​ต้อง​เสีย​ภาษี. สังเกต​ว่า แทน​ที่​จะ​เพียง​แต่​บอก​คำ​ตอบ​ที่​ถูก​ต้อง​แก่​เปโตร พระ​เยซู​ทรง​ใช้​คำ​ถาม​อย่าง​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา​เพื่อ​ช่วย​เปโตร​ลง​ความ​เห็น​อย่าง​ถูก​ต้อง​และ​บาง​ที​ให้​เขา​เห็น​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​คิด​อย่าง​รอบคอบ​มาก​ขึ้น​ก่อน​ที่​จะ​ตอบ​คำ​ถาม​ใน​วัน​ข้าง​หน้า.

ใช้​คำ​ถาม​ที่​ปรับ​ให้​เข้า​กับ​ความ​สนใจ​ของ​เจ้า​ของ​บ้าน

10. เรา​จะ​ใช้​คำ​ถาม​อย่าง​บังเกิด​ผล​ได้​โดย​วิธี​ใด​เมื่อ​ประกาศ​ตาม​บ้าน?

10 เรา​จะ​ใช้​คำ​ถาม​อย่าง​บังเกิด​ผล​ใน​งาน​เผยแพร่​ของ​เรา​ได้​โดย​วิธี​ใด? เมื่อ​ประกาศ​ตาม​บ้าน เรา​อาจ​ใช้​คำ​ถาม​เพื่อ​เร้า​ความ​สนใจ บาง​ที​เปิด​ทาง​ให้​เรา​บอก​ข่าว​ดี. ตัว​อย่าง​เช่น หาก​พบ​คน​สูง​อายุ​เรา​อาจ​ยก​คำ​ถาม​ขึ้น​มา​ถาม​ด้วย​ความ​นับถือ​ว่า “โลก​ได้​เปลี่ยน​ไป​อย่าง​ไร​ครับ​ตลอด​ช่วง​ชีวิต​ที่​ผ่าน​มา​ของ​คุณ​ลุง?” หลัง​จาก​เปิด​โอกาส​ให้​ตอบ​แล้ว เรา​อาจ​ถาม​ว่า “คุณ​ลุง​คิด​ว่า​อะไร​จำเป็น​เพื่อ​ทำ​ให้​โลก​นี้​มี​สภาพ​ดี​ขึ้น​เพื่อ​เรา​จะ​อยู่​ได้?” (มัดธาย 6:9, 10) หาก​พบ​มารดา​พร้อม​กับ​ลูก​เล็ก ๆ เรา​ก็​อาจ​ถาม​ว่า “คุณ​เคย​สงสัย​ไหม​ว่า​โลก​นี้​จะ​เป็น​อย่าง​ไร​เมื่อ​ลูก​ของ​คุณ​โต​ขึ้น?” (บทเพลง​สรรเสริญ 37:10, 11) โดย​เป็น​คน​ช่าง​สังเกต​ขณะ​ที่​เรา​เข้า​ไป​ถึง​บ้าน​หลัง​หนึ่ง เรา​อาจ​สามารถ​เลือก​คำ​ถาม​ที่​ปรับ​ให้​เข้า​กับ​ความ​สนใจ​ของ​เจ้า​ของ​บ้าน​ได้.

11. เรา​จะ​ใช้​คำ​ถาม​อย่าง​บังเกิด​ผล​ได้​โดย​วิธี​ใด​เมื่อ​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล?

11 เรา​จะ​ใช้​คำ​ถาม​อย่าง​บังเกิด​ผล​ได้​โดย​วิธี​ใด​เมื่อ​นำ​การ​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล? คำ​ถาม​ที่​ไตร่ตรอง​มา​อย่าง​รอบคอบ​อาจ​ช่วย​เรา​ให้​ดึง​ความ​รู้สึก​ออก​มา​จาก​หัวใจ​ของ​นัก​ศึกษา. (สุภาษิต 20:5) ตัว​อย่าง​เช่น สมมุติ​ว่า​เรา​กำลัง​ศึกษา​บท​ที่​มี​ชื่อ​ว่า “การ​ดำเนิน​ชีวิต​ใน​แนว​ทาง​ที่​ทำ​ให้​พระเจ้า​พอ​พระทัย” ใน​หนังสือ​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน​อะไร​จริง​ ๆ? * บท​นี้​พิจารณา​ทัศนะ​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ เช่น การ​ทำ​ผิด​ศีลธรรม​ทาง​เพศ, การ​เมา​เหล้า, และ​การ​โกหก. คำ​ตอบ​ของ​นัก​ศึกษา​อาจ​บ่ง​บอก​ว่า​เขา​เข้าใจ​สิ่ง ที่​คัมภีร์​ไบเบิล​สอน แต่​เขา​เห็น​ด้วย กับ​สิ่ง​ที่​เขา​เรียน​รู้​ไหม? เรา​อาจ​ถาม​ว่า “สำหรับ​คุณ​แล้ว ทัศนะ​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​ดัง​กล่าว​ฟัง​ดู​มี​เหตุ​ผล​ไหม?” เรา​อาจ​ถาม​ด้วย​ว่า “คุณ​จะ​นำ​ความ​รู้​นี้​ไป​ใช้​ใน​ชีวิต​ของ​คุณ​ได้​อย่าง​ไร?” แต่​จง​คำนึง​ถึง​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​ผ่อน​หนัก​ผ่อน​เบา ให้​ความ​นับถือ​อย่าง​สม​ควร​ต่อ​นัก​ศึกษา. เรา​ไม่​ต้องการ​ถาม​คำ​ถาม​ที่​ทำ​ให้​เขา​อึดอัด​ใจ​โดย​ไม่​จำเป็น.—สุภาษิต 12:18.

การ​ใช้​วิธี​หา​เหตุ​ผล​ที่​มี​พลัง

12-14. (ก) พระ​เยซู​ใช้​ความ​สามารถ​ของ​พระองค์​เพื่อ​หา​เหตุ​ผล​ใน​ทาง​ใด​บ้าง? (ข) พระ​เยซู​ใช้​เหตุ​ผล​ที่​มี​พลัง​เช่น​ไร​เมื่อ​พวก​ฟาริซาย​บอก​ว่า​ฤทธิ์​อำนาจ​ของ​พระองค์​มา​จาก​ซาตาน?

12 ด้วย​ความ​คิด​จิตใจ​อัน​ดี​เยี่ยม​อย่าง​ไม่​มี​ที่​ติ พระ​เยซู​ทรง​ชำนิ​ชำนาญ​ใน​การ​หา​เหตุ​ผล​กับ​คน​อื่น. บาง​ครั้ง พระองค์​ใช้​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​มี​พลัง​เพื่อ​หักล้าง​ข้อ​กล่าวหา​เท็จ​ของ​ผู้​ต่อ​ต้าน​พระองค์. ใน​หลาย​กรณี พระองค์​ใช้​วิธี​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​โน้ม​น้าว​ใจ​เพื่อ​สอน​บทเรียน​อัน​ทรง​คุณค่า​แก่​เหล่า​สาวก. ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​บาง​ตัว​อย่าง.

13 หลัง​จาก​พระ​เยซู​ได้​รักษา​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​มี​ผี​สิง​ทั้ง​ตา​บอด​และ​เป็น​ใบ้​ให้​หาย​แล้ว พวก​ฟาริซาย​กล่าวหา​ว่า “ผู้​นี้​ขับ​ผี​ออก​ได้​ก็​เพราะ​ใช้​ฤทธิ์​เบละซะบูล [ซาตาน] นาย​ผี​ทั้ง​หลาย​นั้น.” พวก​เขา​ยอม​รับ​ว่า​ต้อง​มี​ฤทธิ์​อำนาจ​เหนือ​มนุษย์​เพื่อ​จะ​ขับ​ผี​ได้. อย่าง​ไร​ก็​ดี พวก​เขา​บอก​ว่า​ฤทธิ์​อำนาจ​ของ​พระ​เยซู​มา​จาก​ซาตาน. นี่​ไม่​เพียง​เป็น​ข้อ​กล่าวหา​ที่​ผิด​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ไม่​มี​เหตุ​ผล​ด้วย. โดย​เปิดโปง​ความ​คิด​ที่​ผิด​พลาด​ของ​พวก​เขา พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​ว่า “แผ่นดิน​ใด ๆ ซึ่ง​แตก​แยก​กัน​แล้ว​ก็​คง​พินาศ เมือง​ใด ๆ เรือน​ใด ๆ ซึ่ง​แตก​แยก​กัน​แล้ว​จะ​ยั่งยืน​อยู่​ไม่​ได้ และ​ถ้า​ซาตาน​ขับ​ซาตาน​ออก, มัน​ก็​แก่ง​แย่ง​กัน​ระหว่าง​มัน​เอง แล้ว​แผ่นดิน​ของ​มัน​จะ​ยั่งยืน​อย่าง​ไร​ได้?” (มัดธาย 12:22-26) ที่​แท้​แล้ว คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ก็​เหมือน​กับ​บอก​ว่า “ถ้า​เรา​เป็น​ตัว​แทน​ของ​ซาตาน ลบ​ล้าง​กิจการ​ที่​ซาตาน​ได้​ทำ​ไว้ ถ้า​อย่าง​นั้น ซาตาน​ก็​คง​จะ​ทำ​สิ่ง​ที่​ขัด​กับ​จุด​มุ่ง​หมาย​ของ​ตัว​เอง​และ​มัน​จะ​ล้ม​ลง​ใน​ไม่​ช้า.” พวก​เขา​จะ​หักล้าง​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​ทำ​ให้​มั่น​ใจ​เช่น​นั้น​ได้​อย่าง​ไร?

14 พระ​เยซู​ยัง​หา​เหตุ​ผล​กับ​พวก​เขา​ไม่​จบ. โดย​ทราบ​ว่า​สาวก​บาง​คน​ของ​พวก​ฟาริซาย​เอง​ได้​ขับ​ผี​ออก พระองค์​ทรง​ถาม​คำ​ถาม​ที่​ง่าย​แต่​มี​พลัง​ว่า “ถ้า​เรา​เคย​ขับ​ผี​ออก​โดย​เบละซะบูล, พวกพ้อง [หรือ​สาวก] ของ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​เคย​ขับ​มัน​ออก​โดย​ฤทธิ์​ของ​ใคร​เล่า?” (มัดธาย 12:27) ความ​หมาย​ของ​การ​อ้าง​เหตุ​ผล​ของ​พระ​เยซู​คือ ‘ถ้า​เรา​ขับ​ผี​ออก​โดย​อำนาจ​ของ​ซาตาน​แล้ว ศิษย์​ของ​ท่าน​เอง​ก็​ต้อง​ขับ​ผี​ออก​ด้วย​อำนาจ​ของ​ซาตาน​เช่น​กัน.’ พวก​ฟาริซาย​จะ​พูด​อะไร​ได้​อีก? พวก​เขา​ไม่​มี​วัน​จะ​ยอม​รับ​ว่า​พวก​ศิษย์​ของ​ตน​กระทำ​กิจ​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​ซาตาน. โดย​วิธี​นี้​พระ​เยซู​ใช้​การ​อ้าง​เหตุ​ผล​ที่​ผิด​ของ​พวก​เขา​เพื่อ​ทำ​ให้​พวก​เขา​ต้อง​ฝืน​ใจ​ลง​ความ​เห็น​ที่​ทำ​ให้​ตัว​เอง​อึดอัด​ใจ​ที​เดียว. แค่​การ​อ่าน​ถึง​วิธี​ที่​พระ​เยซู​หา​เหตุ​ผล​กับ​พวก​เขา​ก็​เป็น​เรื่อง​ที่​น่า​ตื่นเต้น​มิ​ใช่​หรือ? แต่​ขอ​ให้​คิด​ถึง​ฝูง​ชน​ที่​ได้​ยิน​พระ​เยซู​โดย​ตรง การ​ประทับ​ของ​พระองค์​ต่อ​หน้า​พวก​เขา​และ​น้ำ​เสียง​ของ​พระองค์​คง​จะ​เพิ่ม​พลัง​ให้​แก่​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​อย่าง​ไม่​ต้อง​สงสัย.

15-17. จง​เล่า​ตัว​อย่าง​หนึ่ง​เกี่ยว​กับ​วิธี​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ใช้​แนว​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​ว่า “มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด” เพื่อ​สอน​แง่​มุม​ต่าง ๆ ที่​ทำ​ให้​หัวใจ​อบอุ่น​เกี่ยว​กับ​บุคลิกภาพ​แห่ง​พระ​บิดา​ของ​พระองค์.

15 พระ​เยซู​ยัง​ใช้​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​ถูก​ต้อง​และ​โน้ม​น้าว​ใจ​เพื่อ​สอน​แง่​มุม​ต่าง ๆ ที่​ดี​และ​ที่​ทำ​ให้​หัวใจ​อบอุ่น​เกี่ยว​กับ​บุคลิกภาพ​แห่ง​พระ​บิดา​ของ​พระองค์. พระองค์​ทรง​ทำ​เช่น​นั้น​บ่อย​ครั้ง​โดย​การ​ใช้​แนว​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​ว่า “มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด”—ซึ่ง​ช่วย​ผู้​ที่​ฟัง​พระองค์​ให้​ก้าว​หน้า​ขึ้น​ไป​อีก​จาก​ความ​จริง​ที่​คุ้น​เคย​แล้ว​ไป​สู่​ความ​เชื่อ​มั่น​ยิ่ง​ขึ้น. โดย​การ​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง การ​หา​เหตุ​ผล​วิธี​นี้​สามารถ​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ประทับใจ​อย่าง​ลึกซึ้ง. ขอ​เรา​พิจารณา​สัก​สอง​ตัว​อย่าง.

16 เมื่อ​ตอบ​เหล่า​สาวก​ที่​ทูล​ขอ​พระองค์​ให้​สอน​พวก​เขา​ถึง​วิธี​อธิษฐาน พระ​เยซู​ทรง​พรรณนา​ถึง​ความ​เต็ม​ใจ​ของ​บิดา​ซึ่ง​เป็น​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​ที่​จะ “ให้​ของ​ดี” แก่​บุตร​ของ​ตน. ต่อ​จาก​นั้น พระองค์​ทรง​สรุป​ว่า “เหตุ​ฉะนั้น​ถ้า​ท่าน​เอง​ผู้​เป็น​คน​บาป​ยัง​รู้​จัก​ให้​ของ​ดี​แก่​บุตร​ของ​ตน, ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด พระ​บิดา​ผู้​อยู่​ใน​สวรรค์​จะ​ประทาน​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​แก่​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​ขอ​จาก​พระองค์.” (ลูกา 11:1-13) พระ​เยซู​แสดง​ให้​เห็น​จุด​สำคัญ​โดย​การ​เทียบ​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง. หาก​บิดา​ที่​เป็น​มนุษย์​ผิด​บาป​เอา​ใจ​ใส่​ต่อ​ความ​จำเป็น​ของ​บุตร ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด​พระ​บิดา​ของ​เรา​ผู้​สถิต​ใน​สวรรค์ ซึ่ง​เป็น​องค์​สมบูรณ์​และ​ชอบธรรม​ใน​ทุก​วิถี​ทาง จะ​ประทาน​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​แก่​ผู้​นมัสการ​ที่​ภักดี​ซึ่ง​เข้า​เฝ้า​พระองค์​ด้วย​ความ​ถ่อม​ใจ​ใน​การ​อธิษฐาน!

17 พระ​เยซู​ทรง​ใช้​การ​หา​เหตุ​ผล​คล้าย​กัน​เมื่อ​ให้​คำ​แนะ​นำ​ที่​สุขุม​ใน​เรื่อง​การ​รับมือ​กับ​ความ​กระวนกระวาย. พระองค์​ตรัส​ว่า “จง​พิจารณา​ดู​ฝูง​กา. มัน​มิ​ได้​หว่าน​มิ​ได้​เกี่ยว​และ​มิ​ได้​มี​ยุ้ง​ฉาง แต่​พระเจ้า​ยัง​ทรง​เลี้ยง​มัน​ไว้. ท่าน​ทั้ง​หลาย​ประเสริฐ​กว่า​ฝูง​นก​มาก​เท่า​ใด. จง​ดู​ดอกไม้. มัน​งอก​ขึ้น​อย่าง​ไร. มัน​ไม่​ทำ​งาน มัน​ไม่​ปั่น​ด้าย​เหนื่อย . . . แม้​ว่า​พระเจ้า​ทรง​ตกแต่ง​หญ้า​ที่​ทุ่ง​นา​อย่าง​นั้น, ซึ่ง​เป็น​อยู่​วัน​นี้​และ​รุ่ง​ขึ้น​ต้อง​ทิ้ง​ใน​เตา​ไฟ โอ​ผู้​ที่​มี​ความ​เชื่อ​น้อย, พระองค์​จะ​ทรง​ตกแต่ง​พวก​ท่าน​มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด?” (ลูกา 12:24, 27, 28) หาก​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ใฝ่​พระทัย​ฝูง​นก​และ​ดอกไม้ พระองค์​จะ​ใฝ่​พระทัย​มนุษย์​ผู้​ซึ่ง​รัก​และ​นมัสการ​พระองค์​มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด! โดย​การ​หา​เหตุ​ผล​เช่น​นั้น พระ​เยซู​ทรง​เข้า​ถึง​หัวใจ​ผู้​ฟัง​อย่าง​ไม่​ต้อง​สงสัย.

18, 19. เรา​อาจ​หา​เหตุ​ผล​อย่าง​ไร​กับ​คน​ที่​บอก​ว่า​เขา​ไม่​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​ที่​เขา​มอง​ไม่​เห็น?

18 ใน​งาน​เผยแพร่​ของ​เรา เรา​ต้องการ​ใช้​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​ถูก​ต้อง​เพื่อ​หักล้าง​ความ​เชื่อ​ที่​ผิด. เรา​ต้องการ​ที่​จะ​ใช้​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​โน้ม​น้าว​ใจ​ด้วย​เพื่อ​สอน​ความ​จริง​ใน​แง่​บวก​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา. (กิจการ 19:8; 28:23, 24) เรา​ต้อง​เรียน​ที่​จะ​ใช้​การ​หา​เหตุ​ผล​แบบ​ซับซ้อน​ไหม? ไม่​เลย. บทเรียน​ที่​เรา​เรียน​จาก​พระ​เยซู​คือ การ​อ้าง​เหตุ​ผล​ที่​สม​เหตุ​สม​ผล​ซึ่ง​เสนอ​ใน​วิธี​ง่าย ๆ นั้น​บังเกิด​ผล​มาก​ที่​สุด.

19 ตัว​อย่าง​เช่น เรา​จะ​ตอบ​อย่าง​ไร​ถ้า​มี​คน​บอก​ว่า​เขา​ไม่​เชื่อ​ใน​พระเจ้า​ที่​เขา​มอง​ไม่​เห็น? เรา​อาจ​หา​เหตุ​ผล​โดย​อาศัย​กฎ​ธรรมชาติ​ว่า​ด้วย​เหตุ​และ​ผล. เมื่อ​เรา​สังเกต​เห็น​ผล​อย่าง​หนึ่ง เรา​รู้​ว่า​ต้อง​มี​เหตุ. เรา​อาจ​พูด​ว่า “ถ้า​คุณ​อยู่​ใน​ที่​ห่าง​ไกล​จาก​ผู้​คน​และ​บังเอิญ​พบ​บ้าน​หลัง​หนึ่ง​ที่​สร้าง​ไว้​อย่าง​ดี​พร้อม​ทั้ง​มี​อาหาร​เก็บ​ไว้ (ผล) คุณ​คง​ยอม​รับ​ทันที​มิ​ใช่​หรือ​ว่า​มี​คน (เหตุ) ที่​สร้าง​บ้าน​นั้น​ขึ้น​มา? ดัง​นั้น เมื่อ​เรา​เห็น​การ​ออก​แบบ​ที่​ชัด​แจ้ง​ซึ่ง​ถูก​สร้าง​ไว้​ใน​ธรรมชาติ​และ​อาหาร​ที่​มี​อยู่​อย่าง​อุดม​ใน ‘ตู้​เก็บ​อาหาร’ ของ​แผ่นดิน​โลก (ผล) ก็​สม​เหตุ​สม​ผล​มิ​ใช่​หรือ​ที่​จะ​ลง​ความ​เห็น​ว่า​มี​ผู้​หนึ่ง (เหตุ) ได้​ทำ​ให้​สิ่ง​เหล่า​นี้​เกิด​ขึ้น​เช่น​กัน? คัมภีร์​ไบเบิล​เอง​หา​เหตุ​ผล​ทำนอง​นี้: ‘ตึก​ทุก​หลัง​คง​มี​ผู้​สร้าง แต่​ว่า​ผู้​ทรง​สร้าง​สรรพสิ่ง​ทั้ง​ปวง​ก็​คือ​พระเจ้า.’” (เฮ็บราย 3:4) แน่นอน ไม่​ว่า​การ​หา​เหตุ​ผล​ของ​เรา​น่า​เชื่อถือ​เพียง​ไร ก็​ใช่​ว่า​ทุก​คน​จะ​เชื่อ.—2 เธซะโลนิเก 3:2.

จง​ใช้​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​จะ​เข้า​ถึง​หัวใจ​คน

20, 21. (ก) เรา​จะ​ใช้​แนว​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​ว่า “มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด” เพื่อ​เน้น​คุณลักษณะ​และ​แนว​ทาง​ต่าง ๆ ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​โดย​วิธี​ใด? (ข) เรา​จะ​พิจารณา​อะไร​ใน​บท​ถัด​ไป?

20 ใน​การ​สอน​ของ​เรา ไม่​ว่า​ใน​การ​เผยแพร่​ตาม​บ้าน​หรือ​ใน​ประชาคม เรา​ยัง​สามารถ​ใช้​แนว​การ​หา​เหตุ​ผล​ที่​ว่า “มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด” เพื่อ​เน้น​คุณลักษณะ​และ​แนว​ทาง​ของ​พระ​ยะโฮวา. ตัว​อย่าง​เช่น เพื่อ​แสดง​ว่า​หลัก​คำ​สอน​เรื่อง​การ​ทรมาน​ตลอด​กาล​ใน​ไฟ​นรก​เป็น​การ​หลู่​พระ​เกียรติ​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​แท้​จริง เรา​อาจ​พูด​ว่า “มี​บิดา​ผู้​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก​คน​ใด​หรือ​จะ​ลง​โทษ​ลูก​ของ​ตน​โดย​การ​จับ​มือ​ลูก​แหย่​ไฟ? แนว​คิด​เรื่อง​ไฟ​นรก​คง​ต้อง​เป็น​ที่​น่า​รังเกียจ​มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด​สำหรับ​พระ​บิดา​ทาง​ภาค​สวรรค์​ของ​เรา​องค์​เปี่ยม​ด้วย​ความ​รัก! (ยิระมะยา 7:31) เพื่อ​ทำ​ให้​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ที่​ซึมเศร้า​มั่น​ใจ​ใน​ความ​รัก​ที่​พระ​ยะโฮวา​มี​ต่อ​เขา เรา​อาจ​พูด​ว่า “หาก​พระ​ยะโฮวา​ทรง​ถือ​ว่า​แม้​แต่​นก​กระจอก​กระจ้อยร่อย​ตัว​เดียว​มี​ค่า พระองค์​คง​ต้อง​ใฝ่​พระทัย​และ​รัก​ผู้​นมัสการ​พระองค์​แต่​ละ​คน​บน​แผ่นดิน​โลก รวม​ทั้ง​ตัว​คุณ​ด้วย​มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ใด!” (มัดธาย 10:29-31) การ​หา​เหตุ​ผล​เช่น​นั้น​สามารถ​ช่วย​เรา​ให้​เข้า​ถึง​หัวใจ​คน​อื่น​ได้.

21 หลัง​จาก​พิจารณา​วิธี​สอน​เพียง​สาม​ประการ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ใช้​แล้ว เรา​จึง​เข้าใจ​ได้​ง่าย ๆ ว่า เจ้าหน้าที่​ซึ่ง​ไม่​ได้​จับ​พระองค์​ไป​นั้น​มิ​ได้​พูด​เกิน​ความ​จริง​เมื่อ​พวก​เขา​บอก​ว่า “ไม่​เคย​มี​ผู้​ใด​พูด​เหมือน​คน​นั้น.” ใน​บท​ถัด​ไป เรา​จะ​พิจารณา​วิธี​สอน​ซึ่ง​บาง​ที​ทำ​ให้​พระ​เยซู​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ดี​ที่​สุด นั่น​คือ​การ​ใช้​อุทาหรณ์.

^ วรรค 1 พวก​เจ้าหน้าที่​ดู​เหมือน​จะ​เป็น​ตัว​แทน​ของ​ศาล​ซันเฮดริน​และ​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่.

^ วรรค 5 ถ้อย​คำ​สุด​ท้าย​นี้​ที่​พบ​ใน​กิจการ 20:35 ยก​ขึ้น​มา​กล่าว​โดย​อัครสาวก​เปาโล​เท่า​นั้น. ท่าน​อาจ​ได้​รับ​ถ้อย​คำ​ดัง​กล่าว​โดย​ทาง​วาจา (ถ้า​ไม่​ใช่​จาก​คน​ที่​ได้​ยิน​พระ​เยซู​ตรัส ก็​จาก​พระ​เยซู​ผู้​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว) หรือ​โดย​การ​เปิด​เผย​จาก​พระเจ้า.

^ วรรค 9 มี​ข้อ​เรียก​ร้อง​ให้​ชาว​ยิว​จ่าย​ภาษี​บำรุง​พระ​วิหาร​ประจำ​ปี​เป็น​จำนวน​สอง​แดร็กมา ประมาณ​ค่า​จ้าง​แรงงาน​สอง​วัน. แหล่ง​อ้างอิง​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “ภาษี​นี้​ส่วน​ใหญ่​ใช้​เป็น​ค่า​ใช้​จ่าย​สำหรับ​เครื่อง​บูชา​เผา​ประจำ​วัน​และ​เครื่อง​บูชา​ทั้ง​หมด​โดย​ทั่ว​ไป​ที่​ทำ​เพื่อ​ผล​ประโยชน์​ของ​ประชาชน.”

^ วรรค 11 จัด​พิมพ์​โดย​พยาน​พระ​ยะโฮวา.”