ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

บท 12

“นอกจากอุทาหรณ์แล้ว พระองค์ไม่ได้ตรัสสิ่งใดแก่เขา”

“นอกจากอุทาหรณ์แล้ว พระองค์ไม่ได้ตรัสสิ่งใดแก่เขา”

1-3. (ก) เหล่า​สาวก​ที่​เดิน​ทาง​ไป​กับ​พระ​เยซู​มี​โอกาส​ที่​ไม่​มี​ใด​เหมือน​เช่น​ไร และ​พระองค์​ทำ​ให้​พวก​เขา​จำ​สิ่ง​ที่​พระองค์​สอน​ได้​ง่าย​ขึ้น​โดย​วิธี​ใด? (ข) ทำไม​อุทาหรณ์​ที่​บังเกิด​ผล​จึง​จำ​ได้​ง่าย?

 เหล่า​สาวก​ที่​เดิน​ทาง​ไป​กับ​พระ​เยซู​มี​โอกาส​ที่​ไม่​มี​ใด​เหมือน. พวก​เขา​เรียน​รู้​โดย​ตรง​จาก​ครู​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่. พวก​เขา​ได้​ยิน​ด้วย​ตัว​เอง​ขณะ​ที่​พระองค์​อธิบาย​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​สอน​พวก​เขา​ถึง​ความ​จริง​ที่​น่า​ตื่นเต้น. ตอน​นี้ พวก​เขา​ต้อง​เก็บ​รักษา​คำ​ตรัส​อัน​ล้ำ​ค่า​ของ​พระองค์​ไว้​ใน​จิตใจ​และ​หัวใจ​ของ​เขา; ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ที่​จะ​เก็บ​รักษา​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​ไว้​เป็น​ลายลักษณ์​อักษร. * อย่าง​ไร​ก็​ดี พระ​เยซู​ทรง​ทำ​ให้​พวก​เขา​จำ​สิ่ง​ที่​พระองค์​สอน​ได้​ง่าย​ขึ้น. โดย​วิธี​ใด? โดย​วิธี​สอน​ของ​พระองค์ โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​การ​ใช้​อุทาหรณ์​อย่าง​ชำนิ​ชำนาญ.

2 ที่​จริง อุทาหรณ์​ที่​บังเกิด​ผล​เป็น​เรื่อง​ที่​ลืม​ยาก. นัก​ประพันธ์​คน​หนึ่ง​ให้​ข้อ​สังเกต​ว่า อุทาหรณ์ “เปลี่ยน​เสียง​ให้​เป็น​ภาพ” และ​อุทาหรณ์ “ปล่อย​ผู้​ฟัง​ให้​คิด​ด้วย​ภาพ​ที่​สร้าง​อยู่​ใน​ความ​คิด​ของ​เขา.” เนื่อง​จาก​บ่อย​ครั้ง​เรา​เข้าใจ​ได้​ดี​ที่​สุด​ถ้า​เห็น​ภาพ อุทาหรณ์​สามารถ​ทำ​ให้​แม้​แต่​แนว​คิด​ที่​เป็น​นามธรรม​เข้าใจ​ง่าย​ขึ้น. อุทาหรณ์​สามารถ​ทำ​ให้​ถ้อย​คำ​มี​ความ​หมาย​แจ่ม​ชัด​ยิ่ง​ขึ้น สอน​บทเรียน​ที่​จะ​ติด​แน่น​อยู่​ใน​ความ​ทรง​จำ​ของ​เรา.

3 ไม่​มี​ครู​คน​ใด​ใน​โลก​ชำนิ​ชำนาญ​ใน​การ​ใช้​อุทาหรณ์​มาก​ไป​กว่า​พระ​เยซู​คริสต์. จน​กระทั่ง​ทุก​วัน​นี้ อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​เป็น​เรื่อง​ที่​จำ​ได้​ง่าย. ทำไม​พระ​เยซู​มัก​ใช้​การ​สอน​วิธี​นี้? อะไร​ทำ​ให้​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​บังเกิด​ผล​อย่าง​มาก? เรา​จะ​เรียน​การ​ใช้​วิธี​สอน​เช่น​นี้​ได้​อย่าง​ไร?

เหตุ​ผล​ที่​พระ​เยซู​สอน​โดย​ใช้​อุทาหรณ์

4, 5. ทำไม​พระ​เยซู​จึง​ใช้​อุทาหรณ์?

4 คัมภีร์​ไบเบิล​ให้​เหตุ​ผล​สำคัญ​สอง​ประการ​ที่​พระ​เยซู​สอน​โดย​ใช้​อุทาหรณ์. เหตุ​ผล​ประการ​แรก โดย​การ​สอน​เช่น​นั้น​พระองค์​ทำ​ให้​คำ​พยากรณ์​สำเร็จ. เรา​อ่าน​ที่​มัดธาย 13:34, 35 (ล.ม.) ว่า “พระ​เยซู​ตรัส​แก่​ฝูง​ชน​โดย​ใช้​อุทาหรณ์. แท้​จริง นอก​จาก​อุทาหรณ์​แล้ว พระองค์​ไม่​ได้​ตรัส​สิ่ง​ใด​แก่​เขา; เพื่อ​สิ่ง​ที่​กล่าว​โดย​ทาง​ผู้​พยากรณ์​จะ​สำเร็จ​ที่​ว่า ‘เรา​จะ​ออก​ปาก​กล่าว​เป็น​อุทาหรณ์.’” ผู้​พยากรณ์​ที่​มัดธาย​กล่าว​ถึง​คือ​ผู้​เขียน​บทเพลง​สรรเสริญ 78:2. หลาย​ศตวรรษ​ก่อน​พระ​เยซู​ประสูติ พระ​วิญญาณ​ของ​พระเจ้า​ดล​ใจ​ผู้​ประพันธ์​เพลง​สรรเสริญ​ให้​เขียน​บทเพลง​นี้. ขอ​พิจารณา​ว่า​เรื่อง​นี้​หมาย​ความ​เช่น​ไร. นี่​หมาย​ความ​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ทรง​กำหนด​ไว้​หลาย​ร้อย​ปี​ล่วง​หน้า​ว่า พระ​มาซีฮา​จะ​สอน​โดย​ใช้​อุทาหรณ์. ดัง​นั้น พระ​ยะโฮวา​คง​ต้อง​เห็น​คุณค่า​ของ​การ​สอน​ด้วย​วิธี​นี้​อย่าง​แน่นอน.

5 เหตุ​ผล​ประการ​ที่​สอง พระ​เยซู​ทรง​อธิบาย​ว่า พระองค์​ใช้​อุทาหรณ์​เพื่อ​จะ​แยก​คน​ที่​หัวใจ “ด้าน​ชา” ออก​ไป. (มัดธาย 13:10-15, ล.ม.; ยะซายา 6:9, 10) อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​สามารถ​เปิดโปง​เจตนา​ของ​ผู้​คน​ใน​ทาง​ใด​บ้าง? ใน​บาง​กรณี พระองค์​ต้องการ​ให้​ผู้​ฟัง​ขอ​คำ​อธิบาย​เพื่อ​จะ​เข้าใจ​ความ​หมาย​แห่ง​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​อย่าง​เต็ม​ที่. คน​ที่​ถ่อม​เต็ม​ใจ​จะ​ถาม ส่วน​คน​ที่​หยิ่ง​ยโส​หรือ​ไม่​แยแส​ก็​จะ​ไม่​ถาม. (มัดธาย 13:36; มาระโก 4:34) ดัง​นั้น อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​เปิด​เผย ความ​จริง​แก่​ผู้​ที่​มี​หัวใจ​กระหาย​อยาก​รู้​ความ​จริง; ใน​ขณะ​เดียว​กัน อุทาหรณ์​ของ​พระองค์​ปิด​บัง ความ​จริง​ไว้​จาก​คน​ที่​มี​หัวใจ​หยิ่ง.

6. อุทาหรณ์​ต่าง ๆ ของ​พระ​เยซู​ส่ง​เสริม​จุด​มุ่ง​หมาย​ที่​เป็น​ประโยชน์​อะไร​บ้าง?

6 อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​ส่ง​เสริม​จุด​มุ่ง​หมาย​ที่​เป็น​ประโยชน์​อื่น ๆ อีก​หลาย​อย่าง. อุทาหรณ์​เหล่า​นั้น​เร้า​ความ​สนใจ กระตุ้น​ผู้​คน​ให้​รับ​ฟัง. อุทาหรณ์​ทำ​ให้​เกิด​มโนภาพ​ที่​เข้าใจ​ง่าย. ดัง​ที่​กล่าว​ตอน​ต้น อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​ช่วย​ผู้​ฟัง​ให้​จำ​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์. คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​ตาม​ที่​บันทึก​ใน​มัดธาย 5:3–7:27 เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​เด่น​เกี่ยว​กับ​การ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ใช้​ภาพพจน์​หรือ​อุทาหรณ์​มาก​มาย. ตาม​การ​นับ​ราย​หนึ่ง คำ​เทศน์​นี้​มี​ภาพพจน์ (คำ​พูด​ที่​เป็น​สำนวน​โวหาร​ทำ​ให้​นึก​เห็น​ภาพ) มาก​กว่า 50 อย่าง. เพื่อ​ให้​เห็น​ภาพ​ว่า​มี​การ​ใช้​บ่อย​แค่​ไหน ให้​จำ​ไว้​ว่า​เรา​สามารถ​อ่าน​ออก​เสียง​คำ​เทศน์​นี้​จบ​ใน​เวลา​ราว ๆ 20 นาที. ใน​อัตรา​ความ​เร็ว​เช่น​นั้น เฉลี่ย​แล้ว​มี​การ​กล่าว​ภาพพจน์​เกือบ​ทุก ๆ 20 วินาที! เห็น​ได้​ชัด​ว่า พระ​เยซู​ทรง​เห็น​คุณค่า​ของ​การ​ใช้​คำ​พูด​ที่​ทำ​ให้​เห็น​ภาพ!

7. ทำไม​เรา​ควร​เลียน​แบบ​การ​ใช้​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู?

7 ใน​ฐานะ​สาวก​ของ​พระ​คริสต์ เรา​ต้องการ​เลียน​แบบ​วิธี​การ​สอน​ของ​พระองค์ ซึ่ง​รวม​ไป​ถึง​การ​ที่​พระองค์​ใช้​อุทาหรณ์​ด้วย. เช่น​เดียว​กับ​เครื่อง​ปรุง​รส​ซึ่ง​ทำ​ให้​อาหาร​น่า​รับประทาน​มาก​ขึ้น อุทาหรณ์​ที่​บังเกิด​ผล​สามารถ​ทำ​ให้​การ​สอน​ของ​เรา​น่า​สนใจ​มาก​ขึ้น​สำหรับ​คน​อื่น. นอก​จาก​นั้น คำ​พูด​ที่​ทำ​ให้​เห็น​ภาพ​ที่​คิด​มา​อย่าง​รอบคอบ​ก็​ยัง​สามารถ​ทำ​ให้​ความ​จริง​ที่​สำคัญ​เข้าใจ​ง่าย​ขึ้น​ด้วย. ตอน​นี้​ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​ปัจจัย​บาง​อย่าง​ที่​ทำ​ให้​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​บังเกิด​ผล​จริง ๆ. แล้ว​เรา​ก็​จะ​สามารถ​มอง​เห็น​ว่า​เรา​จะ​ใช้​วิธี​สอน​ที่​มี​คุณค่า​เช่น​นี้​อย่าง​บังเกิด​ผล​ได้​อย่าง​ไร.

การ​ใช้​การ​เปรียบ​เทียบ​แบบ​ง่าย ๆ

พระ​เยซู​ทรง​ใช้​นก​และ​ดอกไม้​อย่าง​ไร​เพื่อ​เป็น​ตัว​อย่าง​แสดง​ถึง​ความ​ใฝ่​พระทัย​ที่​พระเจ้า​มี​ต่อ​เรา?

8, 9. พระ​เยซู​ใช้​การ​เปรียบ​เทียบ​ง่าย ๆ อย่าง​ไร และ​อะไร​ทำ​ให้​การ​เปรียบ​เทียบ​ของ​พระองค์​มี​พลัง​จริง ๆ?

8 ใน​การ​สอน พระ​เยซู​มัก​จะ​ใช้​การ​เปรียบ​เทียบ​ที่​ไม่​ซับซ้อน ใช้​เพียง​ไม่​กี่​คำ​เท่า​นั้น. ถึง​กระนั้น คำ​ง่าย ๆ ก็​ทำ​ให้​เห็น​ภาพ​ชัดเจน​และ​สอน​ความ​จริง​ที่​สำคัญ​ใน​เรื่อง​พระเจ้า​ได้​อย่าง​แจ่ม​แจ้ง. ตัว​อย่าง​เช่น เมื่อ​กระตุ้น​เหล่า​สาวก​มิ​ให้​กระวนกระวาย​ใน​เรื่อง​สิ่ง​จำเป็น​ประจำ​วัน พระองค์​ทรง​ชี้​ถึง “นก​ใน​อากาศ” และ “ดอกไม้​ที่​ทุ่ง​นา.” นก​มิ​ได้​หว่าน​พืช​และ​เก็บ​เกี่ยว ทั้ง​ดอกไม้​ก็​มิ​ได้​ปั่น​ด้าย​เหนื่อย. กระนั้น พระเจ้า​ใฝ่​พระทัย​นก​และ​ดอกไม้. จุด​สำคัญ​เป็น​เรื่อง​ที่​เข้าใจ​ง่าย นั่น​คือ ถ้า​พระเจ้า​เอา​พระทัย​ใส่​ดู​แล​นก​และ​ดอกไม้ ก็​แน่นอน​ว่า​พระองค์​จะ​ดู​แล​มนุษย์​ที่ “แสวง​หา​แผ่นดิน​ของ​พระเจ้า​ก่อน.”—มัดธาย 6:26, 28-33.

9 นอก​จาก​นั้น พระ​เยซู​ใช้​คำ​อุปมา​อย่าง​มาก​มาย​ด้วย ซึ่ง​เป็น​การ​เปรียบ​เทียบ​ที่​มี​พลัง​มาก. อุปมา​เป็น​การ​กล่าว​พาด​พิง​ถึง​สิ่ง​หนึ่ง​ราว​กับ​ว่า​เป็น อีก​สิ่ง​หนึ่ง. นี่​เป็น​อีก​ครั้ง​หนึ่ง​ที่​พระองค์​ทำ​ให้​การ​เปรียบ​เทียบ​เป็น​แบบ​ง่าย ๆ. ใน​โอกาส​หนึ่ง พระองค์​ทรง​บอก​เหล่า​สาวก​ว่า “ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​ความ​สว่าง​ของ​โลก.” พวก​สาวก​สามารถ​เข้าใจ​ความ​หมาย​ของ​การ​เปรียบ​เทียบ​นี้​ได้​อย่าง​ชัดเจน กล่าว​คือ โดย​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ​ของ​พวก​เขา เขา​สามารถ​ให้​แสง​แห่ง​ความ​จริง​ส่อง​ออก​ไป​และ​ช่วย​คน​อื่น​ให้​สรรเสริญ​พระเจ้า. (มัดธาย 5:14-16) ขอ​สังเกต​อุปมา​อื่น​บาง​เรื่อง​ที่​พระ​เยซู​ใช้ เช่น “ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​เกลือ​แห่ง​แผ่นดิน​โลก.” “เรา​เป็น​ต้น​องุ่น, ท่าน​ทั้ง​หลาย​เป็น​กิ่ง.” (มัดธาย 5:13; โยฮัน 15:5) ภาพพจน์​ดัง​กล่าว​มี​พลัง​ตรง​ที่​เป็น​ถ้อย​คำ​ง่าย ๆ.

10. ตัว​อย่าง​อะไร​บ้าง​ที่​แสดง​ให้​เห็น​วิธี​ที่​คุณ​สามารถ​ใช้​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ใน​การ​สอน​ของ​คุณ​ได้?

10 คุณ​จะ​ใช้​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ใน​การ​สอน​ได้​อย่าง​ไร? คุณ​ไม่​ต้อง​คิด​แต่ง​เรื่อง​ที่​ละเอียด​ยืด​ยาว. เพียง​แต่​พยายาม​คิด​ถึง​การ​เปรียบ​เทียบ​ง่าย ๆ. ลอง​นึก​ภาพ​ว่า​คุณ​กำลัง​พิจารณา​เรื่อง​การ​กลับ​เป็น​ขึ้น​จาก​ตาย​และ​คุณ​ต้องการ​ยก​ตัว​อย่าง​เพื่อ​แสดง​ว่า​การ​ปลุก​คน​ตาย​ให้​เป็น​ขึ้น​มา​ไม่​ใช่​เรื่อง​ยาก​เกิน​ไป​สำหรับ​พระ​ยะโฮวา. คุณ​คิด​ถึง​การ​เปรียบ​เทียบ​เช่น​ไร? คัมภีร์​ไบเบิล​เปรียบ​ความ​ตาย​เหมือน​กับ​การ​นอน​หลับ. คุณ​อาจ​พูด​ว่า “พระเจ้า​สามารถ​ปลุก​คน​ตาย​ให้​เป็น​ขึ้น​มา​ได้​ง่าย ๆ เหมือน​ที่​เรา​ปลุก​คน​ที่​หลับ​ให้​ตื่น​ขึ้น.” (โยฮัน 11:11-14) สมมุติ​ว่า​คุณ​ต้องการ​ยก​ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​เพื่อ​แสดง​ว่า​เด็ก​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​รัก​และ​ความ​เอ็นดู​เพื่อ​จะ​วัฒนา​ขึ้น. คุณ​จะ​ใช้​ตัว​อย่าง​อะไร? คัมภีร์​ไบเบิล​ใช้​การ​เปรียบ​เทียบ​ดัง​นี้: เด็ก​เป็น “เหมือน​หน่อ​มะกอก​เทศ.” (บทเพลง​สรรเสริญ 128:3, ฉบับ​แปล​ใหม่) คุณ​อาจ​พูด​ว่า “เด็ก​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​รัก​และ​ความ​เอ็นดู​เช่น​เดียว​กับ​ต้น​ไม้​ต้อง​ได้​รับ​แสง​แดด​และ​น้ำ.” ยิ่ง​การ​เปรียบ​เทียบ​ง่าย​เท่า​ใด ผู้​ฟัง​ก็​จะ​ยิ่ง​เข้าใจ​ง่าย​ขึ้น​เท่า​นั้น.

ใช้​อุทาหรณ์​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ชีวิต​ประจำ​วัน

11. จง​ยก​ตัว​อย่าง​ที่​แสดง​ว่า​อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​อาศัย​สิ่ง​ต่าง ๆ ที่​พระองค์​คง​ได้​สังเกต​ดู​ขณะ​เจริญ​วัย​อยู่​ใน​มณฑล​แกลิลี.

11 พระ​เยซู​มี​ความ​ชำนิ​ชำนาญ​ใน​การ​ใช้​อุทาหรณ์​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​ชีวิต​ประจำ​วัน​ของ​ผู้​คน. อุทาหรณ์​หลาย​เรื่อง​ของ​พระองค์​สะท้อน​ให้​เห็น​สภาพการณ์​ต่าง ๆ ใน​ชีวิต​ประจำ​วัน​ซึ่ง​พระองค์​คง​ได้​พบ​เห็น​ขณะ​เจริญ​วัย​ใน​มณฑล​แกลิลี. ขอ​ให้​คิด​สัก​ครู่​ถึง​ชีวิต​ใน​ช่วง​ต้น ๆ ของ​พระองค์. บ่อย​ครั้ง​สัก​เพียง​ไร​ที่​พระองค์​เห็น​มารดา​ของ​พระองค์​โม่​เมล็ด​ข้าว​ให้​เป็น​แป้ง, ใส่​เชื้อ​ลง​ใน​แป้ง, จุด​ตะเกียง, หรือ​กวาด​บ้าน? (มัดธาย 13:33; 24:41; ลูกา 15:8) บ่อย​ครั้ง​เพียง​ใด​ที่​พระองค์​เฝ้า​ดู​ชาว​ประมง​หย่อน​อวน​ลง​ใน​ทะเล​แกลิลี? (มัดธาย 13:47) บ่อย​แค่​ไหน​ที่​พระองค์​ได้​เห็น​เด็ก ๆ เล่น​กัน​กลาง​ตลาด? (มัดธาย 11:16) แน่นอน พระ​เยซู​คง​ได้​พบ​เห็น​สิ่ง​อื่น ๆ ที่​เป็น​เรื่อง​ธรรมดา​ซึ่ง​พระองค์​ได้​กล่าว​ถึง​ใน​อุทาหรณ์​หลาย​เรื่อง​ของ​พระองค์ เช่น การ​หว่าน​เมล็ด​พืช, งาน​เลี้ยง​สมรส​ที่​มี​ความ​ชื่นชม​ยินดี, และ​นา​ข้าว​สุก​เหลือง​ที่​ต้อง​แสง​ตะวัน.—มัดธาย 13:3-8; 25:1-12; มาระโก 4:26-29.

12, 13. ทำไม​จึง​มี​นัย​สำคัญ​ที่​พระ​เยซู​ใช้​ถนน ‘จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​ไป​ยัง​เมือง​ยะริโฮ’ เพื่อ​นำ​เสนอ​เรื่อง​ใน​อุทาหรณ์​เกี่ยว​กับ​เพื่อน​บ้าน​ชาว​ซะมาเรีย?

12 ใน​อุทาหรณ์​ของ​พระองค์ พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​ราย​ละเอียด​ต่าง ๆ ซึ่ง​ผู้​ฟัง​พระองค์​รู้​จัก​กัน​ดี. ตัว​อย่าง​เช่น พระองค์​เริ่ม​เล่า​อุทาหรณ์​เรื่อง​เพื่อน​บ้าน​ชาว​ซะมาเรีย​ว่า “มี​คน​หนึ่ง​ลง​ไป​จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​จะ​ไป​ยัง​เมือง​ยะริโฮ, และ​เขา​ถูก​พวก​โจร​ปล้น โจร​นั้น​ได้​แย่ง​ชิง​เสื้อ​ผ้า​ของ​เขา​และ​ทุบ​ตี, แล้ว​ก็​ละ​ทิ้ง​เขา​ไว้​เกือบ​จะ​ตาย.” (ลูกา 10:30) การ​ที่​พระ​เยซู​ใช้​ถนน “จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​จะ​ไป​ยัง​เมือง​ยะริโฮ” เพื่อ​นำ​เสนอ​เรื่อง​นั้น​มี​นัย​สำคัญ. ขณะ​เล่า​อุทาหรณ์​นี้ พระองค์​อยู่​ใน​มณฑล​ยูเดีย ไม่​ไกล​จาก​กรุง​เยรูซาเลม ดัง​นั้น ผู้​ที่​ฟัง​พระองค์​คง​จะ​รู้​จัก​ถนน​ที่​ว่า​นี้. เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ว่า​ถนน​สาย​นี้​อันตราย โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​ถ้า​เดิน​ทาง​ลำพัง​คน​เดียว. ถนน​สาย​นี้​ทั้ง​เปลี่ยว​และ​คดเคี้ยว​ไป​มา​ตลอด​เส้น​ทาง ทำ​ให้​พวก​โจร​มี​ที่​ซุ่ม​ซ่อน​ตัว​มาก​มาย.

13 พระ​เยซู​รวม​เอา​ราย​ละเอียด​อื่น ๆ ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ดี​ไว้​ด้วย​เกี่ยว​กับ​ถนน “จาก​กรุง​ยะรูซาเลม​จะ​ไป​ยัง​เมือง​ยะริโฮ.” ตาม​ที่​เล่า​ใน​อุทาหรณ์ ที​แรก​ปุโรหิต​คน​หนึ่ง​และ​ต่อ​มา​ก็​ชาว​เลวี​อีก​คน​หนึ่ง​ต่าง​ก็​เดิน​ผ่าน​ถนน​สาย​นั้น แต่​ไม่​มี​ใคร​หยุด​เพื่อ​ช่วย​ชาย​ที่​ถูก​ทำ​ร้าย​นั้น. (ลูกา 10:31, 32) พวก​ปุโรหิต​รับใช้​ที่​พระ​วิหาร​ใน​กรุง​เยรูซาเลม และ​ชาว​เลวี​เป็น​ผู้​ช่วย​ของ​เขา. ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี​หลาย​คน​พัก​อาศัย​ใน​เมือง​เยริโค (ยะริโฮ) เมื่อ​พวก​เขา​ไม่​ได้​ทำ​งาน​ที่​พระ​วิหาร เมือง​เยริโค​อยู่​ห่าง​จาก​กรุง​เยรูซาเลม​เพียง 23 กิโลเมตร. ดัง​นั้น จึง​พบ​เห็น​พวก​เขา​ได้​บน​ถนน​สาย​นี้. ขอ​ให้​สังเกต​ด้วย​ว่า​พระ​เยซู​ตรัส​ถึง​คน​ที่​เดิน​ทาง​ว่า “ลง​ไป​จาก​กรุง​ยะรูซาเลม.” ผู้​ฟัง​พระองค์​เข้าใจ​เรื่อง​นี้​ได้. กรุง​เยรูซาเลม​อยู่​สูง​กว่า​เมือง​เยริโค. ดัง​นั้น เมื่อ​เดิน​ทาง “จาก​กรุง​ยะรูซาเลม” ผู้​ที่​เดิน​ทาง​คง​จะ “ลง​ไป​จาก” กรุง​นั้น​จริง ๆ. * พระ​เยซู​ทรง​คำนึง​ถึง​ผู้​ฟัง​พระองค์​อย่าง​เห็น​ได้​ชัด.

14. เมื่อ​ใช้​อุทาหรณ์ เรา​จะ​คำนึง​ถึง​ผู้​ฟัง​ของ​เรา​ได้​อย่าง​ไร?

14 เมื่อ​เรา​ใช้​อุทาหรณ์ เรา​ต้อง​คำนึง​ถึง​ผู้​ฟัง​ด้วย​เช่น​กัน. มี​อะไร​บ้าง​เกี่ยว​กับ​ผู้​ฟัง​ที่​อาจ​มี​ผล​ต่อ​การ​เลือก​อุทาหรณ์​ของ​เรา? บาง​ที​อาจ​ต้อง​พิจารณา​ปัจจัย​ต่าง ๆ เช่น อายุ, ภูมิหลัง​ทาง​วัฒนธรรม​หรือ​ทาง​ครอบครัว, และ​อาชีพ. ตัว​อย่าง​เช่น อุทาหรณ์​ที่​กล่าว​ถึง​ราย​ละเอียด​เกี่ยว​กับ​การ​ทำ​ไร่​ไถ​นา​อาจ​เป็น​เรื่อง​ที่​เข้าใจ​ได้​ง่าย​ใน​เขต​ที่​มี​การ​ทำ​เกษตรกรรม​มาก​กว่า​ใน​เมือง​ใหญ่. ชีวิต​และ​กิจกรรม​ประจำ​วัน​ของ​ผู้​ฟัง ลูก ๆ ของ​เขา, บ้าน​เรือน, งาน​อดิเรก, อาหาร​การ​กิน​ของ​พวก​เขา อาจ​ใช้​เป็น​พื้น​ฐาน​สำหรับ​อุทาหรณ์​ที่​เหมาะ​ได้​ด้วย.

นำ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​มา​ใช้​ใน​อุทาหรณ์

15. เพราะ​เหตุ​ใด​จึง​ไม่​น่า​ประหลาด​ใจ​ที่​พระ​เยซู​มี​ความ​รู้​อย่าง​ละเอียด​ลออ​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ทรง​สร้าง?

15 อุทาหรณ์​ของ​พระ​เยซู​หลาย​เรื่อง​เผย​ให้​เห็น​ว่า พระองค์​มี​ความ​รู้​ใน​เรื่อง​ธรรมชาติ รวม​ทั้ง​เรื่อง​พืช, สัตว์, และ​สภาพ​อากาศ. (มัดธาย 16:2, 3; ลูกา 12:24, 27) พระองค์​ได้​ความ​รู้​ดัง​กล่าว​มา​จาก​ที่​ไหน? ขณะ​ที่​เจริญ​วัย​ขึ้น​ใน​แกลิลี พระองค์​ย่อม​มี​โอกาส​มาก​มาย​ใน​การ​สังเกต​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ต่าง ๆ. สำคัญ​ยิ่ง​กว่า​นั้น พระ​เยซู​ทรง​เป็น “ผู้​แรก​ที่​บังเกิด​ก่อน​สรรพสิ่ง​ทรง​สร้าง” และ​ใน​การ​สร้าง​สรรพสิ่ง พระ​ยะโฮวา​ทรง​ใช้​พระองค์​เป็น “นาย​ช่าง.” (โกโลซาย 1:15, 16, ล.ม.; สุภาษิต 8:30, 31, ล.ม.) จึง​ไม่​น่า​ประหลาด​ใจ​มิ​ใช่​หรือ​ที่​พระ​เยซู​มี​ความ​รู้​อย่าง​ละเอียด​ลออ​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ทรง​สร้าง? ขอ​ให้​เรา​มา​ดู​วิธี​ที่​พระองค์​นำ​ความ​รู้​นี้​ไป​ใช้​อย่าง​ชำนิ​ชำนาญ.

16, 17. (ก) อะไร​บ่ง​ชี้​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​รู้​จัก​คุ้น​เคย​กับ​นิสัย​ของ​แกะ​เป็น​อย่าง​ดี? (ข) ตัว​อย่าง​อะไร​แสดง​ว่า​แกะ​ฟัง​เสียง​ของ​ผู้​เลี้ยง​อย่าง​แท้​จริง?

16 ขอ​ระลึก​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​เรียก​พระองค์​เอง​ว่า “ผู้​เลี้ยง​แกะ​ที่​ดี” และ​เรียก​เหล่า​สาวก​ว่า “แกะ.” ถ้อย​คำ​ของ​พระ​เยซู​บ่ง​ชี้​ว่า​พระองค์​ทรง​รู้​จัก​คุ้น​เคย​กับ​นิสัย​ของ​แกะ​เป็น​อย่าง​ดี. พระองค์​ทรง​ทราบ​ว่า​มี​ความ​ผูก​พัน​เป็น​พิเศษ​ระหว่าง​ผู้​เลี้ยง​แกะ​กับ​แกะ​ของ​เขา. พระองค์​สังเกต​ว่า​แกะ​พวก​นี้​ที่​ไว้​ใจ​คน พร้อม​จะ​ติด​ตาม​ผู้​นำ​ไป​ทันที​และ​พวก​มัน​ติด​ตาม​ผู้​เลี้ยง​อย่าง​ซื่อ​สัตย์. ทำไม​แกะ​จึง​ตาม​ผู้​เลี้ยง​แกะ? พระ​เยซู​ตรัส​ว่า ‘เพราะ​แกะ​รู้​จัก​เสียง​ของ​ผู้​เลี้ยง.’ (โยฮัน 10:2-4, 11, ล.ม.) แกะ​รู้​จัก​เสียง​ของ​ผู้​เลี้ยง​จริง ๆ ไหม?

17 จอร์จ เอ. สมิท เขียน​สิ่ง​ที่​เขา​ได้​พบ​เห็น​ไว้​ใน​หนังสือ​ภูมิ​ประเทศ​ทาง​ประวัติศาสตร์​ของ​ดินแดน​ศักดิ์สิทธิ์ (ภาษา​อังกฤษ) ว่า “บาง​ครั้ง เรา​พักผ่อน​ตอน​เที่ยง​ข้าง​บ่อ​น้ำ​แห่ง​หนึ่ง​ใน​ยูเดีย​ที่​มี​ผู้​เลี้ยง​แกะ​สาม​หรือ​สี่​คน​ลง​มา​ที่​นั่น​พร้อม​กับ​ฝูง​แกะ​ของ​เขา. ฝูง​แกะ​ของ​ผู้​เลี้ยง​แกะ​เหล่า​นั้น​มา​รวม​กลุ่ม​ปะปน​กัน​ที่​บ่อ​น้ำ และ​เรา​สงสัย​ว่า ผู้​เลี้ยง​แกะ​แต่​ละ​คน​จะ​รู้​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​แกะ​ตัว​ไหน​เป็น​ของ​เขา. แต่​หลัง​จาก​พวก​แกะ​ได้​น้ำ​และ​เล่น​กัน​เสร็จ​แล้ว ผู้​เลี้ยง​ก็​ทยอย​กลับ​ขึ้น​ไป​คน​ละ​ฝั่ง​ของ​หุบเขา และ​แต่​ละ​คน​ก็​ร้อง​เรียก​แกะ​ด้วย​เสียง​ที่​มี​ลักษณะ​เฉพาะ และ​แกะ​ของ​ผู้​เลี้ยง​แต่​ละ​คน​ก็​แยก​กัน​ออก​จาก​กลุ่ม​กลับ​ไป​หา​ผู้​เลี้ยง​ของ​มัน​เป็น​ฝูง​แบบ​เดิม​อย่าง​มี​ระเบียบ​เหมือน​กับ​ตอน​ที่​พวก​มัน​มา.” พระ​เยซู​คง​ไม่​อาจ​หา​ตัว​อย่าง​อะไร​ที่​ดี​ไป​กว่า​นี้​เพื่อ​แสดง​ให้​เห็น​จุด​สำคัญ​ของ​พระองค์ นั่น​คือ หาก​เรา​ยอม​รับ​และ​เชื่อ​ฟัง​คำ​สอน​อีก​ทั้ง​ติด​ตาม​การ​นำ​ของ​พระองค์ เรา​จะ​อยู่​ภาย​ใต้​การ​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​ของ “ผู้​เลี้ยง​แกะ​ที่​ดี.”

18. เรา​จะ​พบ​ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​จาก​ที่​ไหน?

18 เรา​จะ​เรียน​วิธี​นำ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​มา​ใช้​เป็น​อุทาหรณ์​ได้​อย่าง​ไร? ลักษณะ​นิสัย​ที่​โดด​เด่น​ของ​สัตว์​อาจ​ให้​พื้น​ฐาน​สำหรับ​การ​เปรียบ​เทียบ​ที่​ง่าย​ทว่า​บังเกิด​ผล. เรา​จะ​พบ​ข้อมูล​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ของ​พระ​ยะโฮวา​ได้​จาก​ที่​ไหน? คัมภีร์​ไบเบิล​เป็น​แหล่ง​ความ​รู้​อย่าง​มาก​มาย​เกี่ยว​กับ​สัตว์​นานา​ชนิด และ​บาง​ครั้ง​มี​การ​ใช้​ลักษณะ​นิสัย​ของ​สัตว์​ใน​แบบ​ที่​เป็น​อุทาหรณ์. คัมภีร์​ไบเบิล​กล่าว​พาด​พิง​ถึง​การ​เคลื่อน​ไหว​อย่าง​รวด​เร็ว​เหมือน​ละมั่ง​บน​ภูเขา​หรือ​เสือ​ดาว, ระแวด​ระวัง​เหมือน​งู, ไม่​เป็น​พิษ​เป็น​ภัย​เหมือน​นก​พิราบ. * (1 โครนิกา 12:8, ฉบับ​แปล​ใหม่; ฮะบาฆูค 1:8; มัดธาย 10:16, ล.ม.) แหล่ง​ข้อมูล​ที่​มี​คุณค่า​อื่น ๆ ได้​แก่​หอสังเกตการณ์, ตื่นเถิด!, และ​สรรพหนังสือ​อื่น ๆ ที่​พยาน​พระ​ยะโฮวา​จัด​พิมพ์​ขึ้น. คุณ​สามารถ​เรียน​รู้​ได้​มาก​จาก​การ​สังเกต​วิธี​ที่​สรรพหนังสือ​เหล่า​นี้​ใช้​การ​เปรียบ​เทียบ​ง่าย ๆ โดย​อาศัย​สิ่ง​ทรง​สร้าง​ที่​น่า​พิศวง​มาก​มาย​หลาย​อย่าง​ของ​พระ​ยะโฮวา.

นำ​ตัว​อย่าง​ที่​ผู้​ฟัง​รู้​จัก​ดี​มา​ใช้

19, 20. (ก) พระ​เยซู​ทรง​ใช้​เหตุ​การณ์​ที่​เพิ่ง​เกิด​ขึ้น​อย่าง​บังเกิด​ผล​เช่น​ไร​เพื่อ​เปิดโปง​ความ​เชื่อ​ผิด ๆ? (ข) เรา​จะ​ใช้​ตัว​อย่าง​และ​ประสบการณ์​จาก​ชีวิต​จริง​ใน​การ​สอน​ของ​เรา​ได้​อย่าง​ไร?

19 ตัว​อย่าง​เปรียบ​เทียบ​ที่​มี​พลัง​อาจ​อยู่​ใน​รูป​ของ​ตัว​อย่าง​จาก​ชีวิต​จริง. ครั้ง​หนึ่ง พระ​เยซู​ทรง​ใช้​เหตุ​การณ์​ที่​เพิ่ง​เกิด​ขึ้น​เพื่อ​เปิดโปง​ความ​เชื่อ​ผิด ๆ ที่​ว่า​เหตุ​ร้าย​อัน​น่า​เศร้า​สลด​ย่อม​เกิด​ขึ้น​กับ​คน​ที่​สม​ควร​จะ​ได้​รับ. พระองค์​ตรัส​ว่า “สิบ​แปด​คน​นั้น​ที่​หอ​รบ​ที่​ซีโลอาม​ได้​พัง​ทับ​เขา​ตาย​เสีย​นั้น, ท่าน​ทั้ง​หลาย​คิด​ว่า​เขา​เป็น​คน​บาป​ยิ่ง​กว่า​คน​ทั้ง​ปวง​ที่​อาศัย​ใน​กรุง​ยะรูซาเลม​หรือ?” (ลูกา 13:4) ที่​จริง สิบ​แปด​คน​นั้น​ไม่​ได้​ตาย​เพราะ​บาป​บาง​อย่าง​ที่​กระตุ้น​ให้​พระเจ้า​ไม่​พอ​พระทัย. แทน​ที่​จะ​เป็น​อย่าง​นั้น ความ​ตาย​อัน​น่า​เศร้า​สลด​นั้น​เป็น​ผล​จาก “วาระ​และ​เหตุ​การณ์​ที่​ไม่​ได้​คาด​ล่วง​หน้า.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 9:11, ล.ม.) โดย​วิธี​นี้ พระ​เยซู​ทรง​หักล้าง​คำ​สอน​เท็จ​โดย​ยก​เหตุ​การณ์​หนึ่ง​ที่​ผู้​ฟัง​ของ​พระองค์​รู้​จัก​ดี.

20 เรา​จะ​ใช้​ตัว​อย่าง​และ​ประสบการณ์​จาก​ชีวิต​จริง​ใน​การ​สอน​ของ​เรา​ได้​อย่าง​ไร? สมมุติ​ว่า​คุณ​กำลัง​พิจารณา​ความ​สำเร็จ​เป็น​จริง​ของ​คำ​พยากรณ์​ของ​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​สัญลักษณ์​แห่ง​การ​ประทับ​ของ​พระองค์. (มัดธาย 24:3-14) คุณ​อาจ​อ้าง​ถึง​ข่าว​ที่​เกิด​ขึ้น​ไม่​นาน​มา​นี้​เกี่ยว​กับ​สงคราม, การ​กันดาร​อาหาร, หรือ​แผ่นดิน​ไหว​เพื่อ​แสดง​ว่า​ลักษณะ​เด่น​เฉพาะ​อย่าง​ของ​สัญลักษณ์​นี้​กำลัง​สำเร็จ​เป็น​จริง. หรือ​สมมุติ​ว่า​คุณ​ต้องการ​ใช้​ประสบการณ์​หนึ่ง​เพื่อ​แสดง​ให้​เห็น​การ​เปลี่ยน​แปลง​ที่​เกิด​ขึ้น​เนื่อง​จาก​การ​สวม​ใส่​บุคลิกภาพ​ใหม่. (เอเฟโซ 4:20-24) คุณ​จะ​พบ​ประสบการณ์​ดัง​กล่าว​ได้​ที่​ไหน? คุณ​อาจ​คิด​ถึง​ภูมิหลัง​ที่​หลาก​หลาย​ของ​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ หรือ​คุณ​อาจ​ใช้​ประสบการณ์​ที่​พิมพ์​ใน​หนังสือ​เล่ม​หนึ่ง​ของ​พยาน​พระ​ยะโฮวา.

21. การ​เป็น​ครู​สอน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​อย่าง​บังเกิด​ผล​มี​ผล​ตอบ​แทน​อะไร​บ้าง?

21 พระ​เยซู​ทรง​เป็น​ครู​ที่​ชำนิ​ชำนาญ​อย่าง​แท้​จริง! ดัง​ที่​เรา​ได้​เห็น​ใน​ตอน 2 นี้ ‘การ​สอน . . . และ​การ​ประกาศ​ข่าว​ดี’ เป็น​งาน​ประจำ​ชีวิต​ของ​พระองค์. (มัดธาย 4:23, ล.ม.) งาน​นี้​เป็น​งาน​ประจำ​ชีวิต​ของ​เรา​ด้วย. การ​เป็น​ครู​ที่​บังเกิด​ผล​มี​ผล​ตอบ​แทน​มาก​มาย. เมื่อ​เรา​สอน เรา​กำลัง​ให้​บาง​สิ่ง​แก่​คน​อื่น และ​การ​ให้​ดัง​กล่าว​ทำ​ให้​มี​ความ​สุข. (กิจการ 20:35) ความ​สุข​เช่น​นั้น​เป็น​ความ​ยินดี​เนื่อง​จาก​รู้​ว่า​เรา​กำลัง​บอก​สิ่ง​ที่​มี​คุณค่า​แท้​จริง​และ​ถาวร นั่น​คือ​ความ​จริง​เกี่ยว​กับ​พระ​ยะโฮวา. เรา​ยัง​มี​ความ​อิ่ม​ใจ​พอ​ใจ​เพราะ​รู้​ว่า​เรา​กำลัง​ติด​ตาม​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู ครู​ผู้​ยิ่ง​ใหญ่​ที่​สุด​เท่า​ที่​เคย​มี​มา​บน​แผ่นดิน​โลก.

^ วรรค 1 บันทึก​แรก​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​ของ​พระ​เยซู​บน​แผ่นดิน​โลก​ดู​เหมือน​จะ​เป็น​กิตติคุณ​ของ​มัดธาย ซึ่ง​เขียน​หลัง​จาก​พระ​เยซู​สิ้น​พระ​ชนม์​ราว ๆ แปด​ปี.

^ วรรค 13 พระ​เยซู​ยัง​ตรัส​ด้วย​ว่า​ปุโรหิต​และ​ชาว​เลวี​มา “จาก กรุง​ยะรูซาเลม” ด้วย​เหตุ​นี้ พวก​เขา​จึง​มา​จาก​พระ​วิหาร. ดัง​นั้น จึง​ไม่​อาจ​จะ​อ้าง​เหตุ​ผล​ที่​ฟัง​ขึ้น​ได้​เลย​สำหรับ​ความ​เฉยเมย​ของ​พวก​เขา​โดย​อ้าง​ว่า​ที่​พวก​เขา​หลีก​เลี่ยง​ไม่​ได้​ช่วย​ชาย​ที่​ดู​เหมือน​ว่า​ตาย​แล้ว​นั้น​เพราะ​ไม่​ต้องการ​กลาย​เป็น​คน​ขาด​คุณสมบัติ​ชั่ว​คราว​สำหรับ​การ​ปฏิบัติ​หน้า​ที่​ที่​พระ​วิหาร.—เลวีติโก 21:1; อาฤธโม 19:16.

^ วรรค 18 สำหรับ​การ​ใช้​ลักษณะ​นิสัย​ของ​สัตว์​ใน​เชิง​อุปมา​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ซึ่ง​มี​รายการ​ที่​ละเอียด​กว่า ขอ​ดู​หนังสือ​การ​หยั่ง​เห็น​เข้าใจ​พระ​คัมภีร์ (ภาษา​อังกฤษ) เล่ม 1 หน้า 268, 270-271.