ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

บท 9

“จงไป ทำให้คน . . . เป็นสาวก”

“จงไป ทำให้คน . . . เป็นสาวก”

เกษตรกร​จะ​ทำ​ประการ​ใด​ถ้า​พืช​ผล​มี​ปริมาณ​มาก​เกิน​ไป​จน​เขา​เก็บ​เกี่ยว​คน​เดียว​ไม่​ไหว?

1-3. (ก) ชาว​นา​ทำ​เช่น​ไร​เมื่อ​พืช​ผล​มี​ปริมาณ​มาก​เกิน​ไป​จน​เขา​เก็บ​เกี่ยว​คน​เดียว​ไม่​ไหว? (ข) พระ​เยซู​เผชิญ​ปัญหา​อะไร​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี ส.ศ. 33 และ​พระองค์​ทรง​แก้​ปัญหา​นั้น​โดย​วิธี​ใด?

 ชาว​นา​เผชิญ​ปัญหา​สำคัญ​อย่าง​หนึ่ง. หลาย​เดือน​ก่อน​หน้า​นี้​เขา​ได้​ไถ​นา​แล้ว​หว่าน​เมล็ด​ข้าว. เขา​เฝ้า​ดู​ด้วย​ความ​เป็น​ห่วง​ยิ่ง​นัก​ขณะ​ที่​ใบ​ข้าว​เริ่ม​โผล่​ขึ้น​มา และ​เขา​รู้สึก​ยินดี​เมื่อ​ถึง​เวลา​ที่​ต้น​ข้าว​โต​เต็ม​ที่. ตอน​นี้​งาน​หนัก​ที่​เขา​ทำ​มา​ทั้ง​หมด​ได้​รับ​ผล​ตอบ​แทน เพราะ​เวลา​เก็บ​เกี่ยว​มา​ถึง​แล้ว. ปัญหา​ของ​เขา​ก็​คือ ข้าว​มี​ปริมาณ​มาก​เกิน​ไป​จน​เขา​เก็บ​เกี่ยว​คน​เดียว​ไม่​ไหว. เพื่อ​แก้​ปัญหา​นี้ เขา​ตัดสิน​ใจ​อย่าง​ฉลาด​ที่​จะ​ว่า​จ้าง​คน​งาน​บาง​คน​ออก​ไป​ทำ​งาน​ใน​ทุ่ง​นา​ของ​เขา. ที่​จริง​แล้ว เขา​มี​เวลา​เพียง​จำกัด​ที่​จะ​เก็บ​เกี่ยว​พืช​ผล​อัน​มี​ค่า​ของ​ตน.

2 ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี​สากล​ศักราช 33 พระ​เยซู​ผู้​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว​เผชิญ​ปัญหา​คล้าย​กัน. ระหว่าง​งาน​รับใช้​ของ​พระองค์​บน​แผ่นดิน​โลก พระองค์​ได้​ทรง​หว่าน​เมล็ด​แห่ง​ความ​จริง. ตอน​นี้​มี​ผล​ที่​จะ​ต้อง​เก็บ​เกี่ยว​อย่าง​มาก​มาย. ต้อง​รวบ​รวม​ผู้​ที่​ตอบรับ​จำนวน​มาก​เข้า​มา​เป็น​สาวก. (โยฮัน 4:35-38) พระ​เยซู​ทรง​แก้​ปัญหา​นี้​โดย​วิธี​ใด? บน​ภูเขา​ลูก​หนึ่ง​ใน​แกลิลี ไม่​นาน​ก่อน​เสด็จ​ขึ้น​สวรรค์ พระองค์​ทรง​มอบหมาย​เหล่า​สาวก​ให้​หา​คน​มา​ทำ​งาน​มาก​ขึ้น โดย​ตรัส​ว่า “ฉะนั้น จง​ไป​ทำ​ให้​คน​จาก​ทุก​ชาติ​เป็น​สาวก ให้​เขา​รับ​บัพติสมา . . . , สอน​เขา​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เรา​ได้​สั่ง​พวก​เจ้า​ไว้.”—มัดธาย 28:19, 20, ล.ม.

3 พระ​บัญชา​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​หัวใจ​สำคัญ​ของ​การ​เป็น​สาวก​แท้​ของ​พระ​คริสต์​คือ​อะไร. ดัง​นั้น ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​คำ​ถาม​สาม​ประการ. เหตุ​ใด​พระ​เยซู​ทรง​มอบหมาย​งาน​ให้​หา​คน​มา​ทำ​งาน​มาก​ขึ้น? พระองค์​ทรง​อบรม​สาวก​ของ​พระองค์​อย่าง​ไร​เพื่อ​พวก​เขา​จะ​หา​คน​งาน​เหล่า​นั้น​พบ? เรา​มี​ส่วน​เกี่ยว​ข้อง​อย่าง​ไร​ใน​งาน​มอบหมาย​นี้?

เหตุ​ผล​ที่​ต้อง​มี​คน​งาน​มาก​ขึ้น

4, 5. ทำไม​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​พระ​เยซู​จะ​ทำ​งาน​ที่​ได้​เริ่ม​ต้น​นั้น​ให้​สำเร็จ และ​ใคร​จะ​ต้อง​ทำ​งาน​นั้น​ต่อ​ไป​หลัง​จาก​พระองค์​เสด็จ​กลับ​สวรรค์​แล้ว?

4 เมื่อ​พระ​เยซู​เริ่ม​งาน​รับใช้​ใน​ปี ส.ศ. 29 พระองค์​ทรง​ทราบ​ว่า​ได้​เริ่ม​ต้น​งาน​ที่​จะ​ไม่​ได้​ทำ​ให้​สำเร็จ​ด้วย​พระองค์​เอง. ใน​ช่วง​สั้น ๆ ที่​พระองค์​มี​เวลา​เหลือ​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก พระองค์​ไม่​สามารถ​จะ​ทำ​งาน​ครอบ​คลุม​ทุก​พื้น​ที่​และ​นำ​ข่าวสาร​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ไป​ถึง​ผู้​คน​ได้​ทั้ง​หมด. จริง​อยู่ พระองค์​จำกัด​งาน​ประกาศ​ส่วน​ใหญ่​ไว้​กับ​ชาว​ยิว​และ​ผู้​เปลี่ยน​มา​ถือ​ศาสนา​ยิว “แกะ​ชาติ​ยิศราเอล​ที่​หาย​ไป​นั้น.” (มัดธาย 15:24) อย่าง​ไร​ก็​ดี “แกะ . . . ที่​หาย​ไป” เหล่า​นั้น​กระจัด​กระจาย​อยู่​ตลอด​ทั่ว​อิสราเอล แผ่นดิน​ที่​ครอบ​คลุม​พื้น​ที่​หลาย​พัน​ตาราง​กิโลเมตร. นอก​จาก​นี้ ใน​ที่​สุด​จะ​ต้อง​มี​การ​นำ​ข่าว​ดี​ไป​ถึง​ผู้​คน​ทั่ว​โลก.—มัดธาย 13:38; 24:14.

5 พระ​เยซู​ทรง​ตระหนัก​ว่า​มี​งาน​มาก​มาย​ที่​ยัง​จะ​ต้อง​ทำ​ให้​สำเร็จ​หลัง​จาก​การ​สิ้น​พระ​ชนม์​ของ​พระองค์. พระองค์​ตรัส​แก่​อัครสาวก​ที่​ซื่อ​สัตย์ 11 คน​ว่า “เรา​บอก​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ตาม​จริง​ว่า, ผู้​ที่​วางใจ​ใน​เรา กิจการ​ซึ่ง​เรา​กระทำ​นั้น​เขา​จะ​กระทำ​ด้วย​และ​เขา​จะ​กระทำ​การ​ใหญ่​กว่า​นั้น​อีก, เพราะ​เรา​ไป​ถึง​พระ​บิดา​ของ​เรา.” (โยฮัน 14:12) เนื่อง​จาก​พระ​บุตร​เสด็จ​กลับ​ไป​สวรรค์ บรรดา​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์—ไม่​เพียง​พวก​อัครสาวก​เท่า​นั้น แต่​สาวก​ทั้ง​หมด​ใน​วัน​ข้าง​หน้า​ด้วย—จะ​ต้อง​ทำ​งาน​ประกาศ​และ​งาน​สั่ง​สอน​ต่อ​ไป. (โยฮัน 17:20) พระ​เยซู​ทรง​ยอม​รับ​ด้วย​ความ​ถ่อม​ว่า​งาน​ของ​พวก​เขา “ใหญ่​กว่า” งาน​ของ​พระองค์. ใน​ทาง​ใด? ใน​สาม​ประการ.

6, 7. (ก) งาน​ที่​เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ทำ​จะ​ใหญ่​กว่า​งาน​ที่​พระองค์​ทำ​ใน​ทาง​ใด​บ้าง? (ข) เรา​จะ​แสดง​ให้​เห็น​โดย​วิธี​ใด​ว่า​การ​ที่​พระ​เยซู​มี​ความ​มั่น​ใจ​ใน​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​นั้น​ไม่​ใช่​เป็น​การ​ไว้​ใจ​ผิด​คน?

6 ประการ​แรก เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​จะ​ครอบ​คลุม​เขต​งาน​มาก​กว่า​พระองค์. ทุก​วัน​นี้ การ​ให้​คำ​พยาน​ของ​พวก​เขา​ได้​ไป​ถึง​ที่​สุด​ปลาย​ของ​แผ่นดิน​โลก ไกล​เลย​เขต​แดน​ของ​แผ่นดิน​ที่​พระ​เยซู​เอง​ได้​ประกาศ. ประการ​ที่​สอง พวก​เขา​จะ​ไป​ถึง​ผู้​คน​จำนวน​มาก​กว่า​พระองค์. สาวก​กลุ่ม​เล็ก ๆ ที่​พระ​เยซู​ทรง​ละ​ไว้​เบื้อง​หลัง​ได้​เพิ่ม​ขึ้น​อย่าง​รวด​เร็ว​เป็น​จำนวน​หลาย​พัน​คน. (กิจการ 2:41; 4:4) ขณะ​นี้​พวก​เขา​มี​จำนวน​หลาย​ล้าน​คน และ​คน​ใหม่​หลาย​แสน​คน​ได้​รับ​บัพติสมา​แต่​ละ​ปี. ประการ​ที่​สาม พวก​เขา​จะ​ประกาศ ใน​ช่วง​เวลา​ที่​นาน​กว่า​พระองค์—หลัง​จาก​การ​รับใช้​สาม​ปี​ครึ่ง​ของ​พระ​เยซู​ได้​สิ้น​สุด​ลง​จน​มา​ถึง​ทุก​วัน​นี้​ก็​เกือบ 2,000 ปี​แล้ว.

7 พระ​เยซู​แสดง​ความ​มั่น​ใจ​ใน​เหล่า​สาวก​เมื่อ​พระองค์​ตรัส​ว่า​พวก​เขา​จะ “กระทำ​การ​ใหญ่​กว่า​นั้น​อีก.” พระองค์​ทรง​มอบหมาย​งาน​สำคัญ​ที่​สุด​สำหรับ​พระองค์​ให้​พวก​เขา​ทำ เป็น​งาน​เกี่ยว​กับ​การ​ประกาศ​และ​การ​สอน “ข่าว​ดี​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ของ​พระเจ้า.” (ลูกา 4:43) พระองค์​ทรง​เชื่อ​มั่น​ว่า​พวก​เขา​จะ​ทำ​งาน​มอบหมาย​นั้น​อย่าง​ซื่อ​สัตย์​ต่อ​ไป. เรื่อง​นี้​มี​ความ​หมาย​เช่น​ไร​สำหรับ​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้? เมื่อ​เรา​ทำ​งาน​รับใช้​อย่าง​กระตือรือร้น​สุด​หัวใจ เรา​ก็​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​การ​ที่​พระ​เยซู​มี​ความ​มั่น​ใจ​ใน​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​นั้น​ไม่​ใช่​เป็น​การ​ไว้​ใจ​ผิด​คน. นี่​เป็น​สิทธิ​พิเศษ​อัน​ยอด​เยี่ยม​มิ​ใช่​หรือ?—ลูกา 13:24.

ได้​รับ​การ​ฝึก​อบรม​เพื่อ​ให้​คำ​พยาน

ความ​รัก​กระตุ้น​ให้​ประกาศ​ทุก​แห่ง​หน​ที่​พบ​ผู้​คน

8, 9. พระ​เยซู​ทรง​วาง​ตัว​อย่าง​เช่น​ไร​ใน​งาน​รับใช้ และ​เรา​จะ​เลียน​แบบ​พระองค์​ใน​งาน​รับใช้​ของ​เรา​ได้​โดย​วิธี​ใด?

8 พระ​เยซู​ทรง​ให้​การ​อบรม​อย่าง​ดี​ที่​สุด​เท่า​ที่​เป็น​ไป​ได้​ใน​เรื่อง​การ​รับใช้​แก่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์. ที่​สำคัญ พระองค์​ทรง​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​สมบูรณ์​ไว้​ให้​พวก​เขา. (ลูกา 6:40) ใน​บท​ก่อน เรา​ได้​พิจารณา​เจตคติ​ที่​พระองค์​มี​ต่อ​งาน​รับใช้. ขอ​พิจารณา​สัก​ครู่​ถึง​เหล่า​สาวก​ซึ่ง​ได้​เดิน​ทาง​ร่วม​กับ​พระองค์​ไป​ใน​การ​ประกาศ. พวก​เขา​ได้​สังเกต​ว่า​พระองค์​ประกาศ​ทุก​แห่ง​หน​ที่​สามารถ​พบ​ผู้​คน ไม่​ว่า​จะ​เป็น​ตาม​ชายฝั่ง​ทะเลสาบ​และ​เนิน​เขา, ใน​เมือง​และ​ตลาด, และ​ใน​บ้าน​ส่วน​ตัว. (มัดธาย 5:1, 2; ลูกา 5:1-3; 8:1; 19:5, 6) พวก​เขา​ได้​เห็น​ว่า​พระองค์​ทรง​ทำ​งาน​หนัก ลุก​ขึ้น​แต่​เช้า​ตรู่​และ​ทำ​งาน​ไป​จน​ดึก. งาน​รับใช้​ไม่​ใช่​เป็น​แค่​งาน​อดิเรก​ที่​พระองค์​ทำ​ใน​ยาม​ว่าง! (ลูกา 21:37, 38; โยฮัน 5:17) พวก​เขา​มอง​ออก​อย่าง​แน่นอน​ว่า​พระองค์​ได้​รับ​การ​กระตุ้น​จาก​ความ​รัก​อัน​ลึกซึ้ง​ที่​มี​ต่อ​ผู้​คน. บาง​ที​พวก​เขา​ได้​เห็น​พระ​พักตร์​ของ​พระองค์​สะท้อน​ความ​รู้สึก​สงสาร​ใน​พระทัย​ของ​พระองค์. (มาระโก 6:34) คุณ​คิด​ว่า​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู​มี​ผล​กระทบ​เช่น​ไร​ต่อ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์? ถ้า​คุณ​อยู่​ใน​สมัย​นั้น ตัว​อย่าง​นั้น​จะ​ส่ง​ผล​กระทบ​ตัว​คุณ อย่าง​ไร?

9 ใน​ฐานะ​สาวก​ของ​พระ​คริสต์ เรา​เลียน​แบบ​ตัว​อย่าง​ของ​พระองค์​ใน​งาน​รับใช้​ของ​เรา. ดัง​นั้น เรา​พยายาม​ทุก​วิถี​ทาง​ที่​จะ​ให้ “คำ​พยาน​อย่าง​ถี่ถ้วน.” (กิจการ 10:42, ล.ม.) เช่น​เดียว​กับ​พระ​เยซู เรา​ไป​เยี่ยม​ผู้​คน​ที่​บ้าน​ของ​เขา. (กิจการ 5:42) เรา​ปรับ​เปลี่ยน​ตาราง​เวลา​ของ​เรา​หาก​จำเป็น เพื่อ​เรา​จะ​ไป​เยี่ยม​พวก​เขา​ตอน​ที่​ดู​เหมือน​จะ​อยู่​บ้าน​มาก​กว่า. เรา​ยัง​เสาะ​หา​และ​ประกาศ​อย่าง​สุขุม​แก่​ผู้​คน​ใน​ที่​สาธารณะ เช่น ตาม​ถนน, ใน​สวน​สาธารณะ, ใน​ห้าง​ร้าน​ต่าง ๆ, และ​ใน​ที่​ทำ​งาน. เรา “ทำ​งาน​หนัก​และ​ทุ่มเท​ตัว​เอง” ใน​งาน​รับใช้​เสมอ เพราะ​เรา​ถือ​ว่า​งาน​นี้​สำคัญ. (1 ติโมเธียว 4:10, ล.ม.) ความ​รัก​อัน​ลึกซึ้ง​จริง​ใจ​ที่​มี​ต่อ​คน​อื่น​กระตุ้น​เรา​ให้​หา​โอกาส​เสมอ​ที่​จะ​ประกาศ​ทุก​แห่ง​หน​และ​เมื่อ​ไร​ก็​ตาม​ที่​จะ​พบ​ผู้​คน​ได้.—1 เธซะโลนิเก 2:8.

“สาวก​เจ็ด​สิบ​คน​นั้น​จึง​กลับ​มา​ด้วย​ความ​ยินดี”

10-12. พระ​เยซู​ทรง​สอน​บทเรียน​สำคัญ​อะไร​แก่​เหล่า​สาวก​ก่อน​ที่​จะ​ส่ง​พวก​เขา​ออก​ไป​ประกาศ?

10 อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​พระ​เยซู​ฝึก​อบรม​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​คือ ให้​คำ​สั่ง​สอน​แนะ​นำ​ที่​ละเอียด​แก่​พวก​เขา​ใน​เรื่อง​วิธี​ทำ​งาน​รับใช้. ก่อน​ส่ง​อัครสาวก 12 คน​ออก​ไป​ใน​ตอน​แรก​และ​ต่อ​มา​ก็​ส่ง​สาวก 70 คน​ไป​ประกาศ พระ​เยซู​ได้​จัด​การ​ประชุม​เพื่อ​ฝึก​อบรม​พวก​เขา​ใน​งาน​ประกาศ. (มัดธาย 10:1-15; ลูกา 10:1-12) การ​อบรม​เกิด​ผล​ดี เพราะ​ลูกา 10:17 รายงาน​ว่า “ฝ่าย​สาวก​เจ็ด​สิบ​คน​นั้น​จึง​กลับ​มา​ด้วย​ความ​ยินดี.” ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​บทเรียน​สำคัญ​สอง​เรื่อง​ที่​พระ​เยซู​ทรง​สอน โดย​จำ​ไว้​ว่า​จะ​ต้อง​เข้าใจ​คำ​ตรัส​ของ​พระองค์​โดย​คำนึง​ถึง​ภูมิหลัง​ตาม​ธรรมเนียม​ของ​ชาว​ยิว​ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล.

11 พระ​เยซู​ทรง​สอน​เหล่า​สาวก​ให้​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา. พระองค์​ตรัส​แก่​พวก​เขา​ว่า “อย่า​คิด​หา​ทองคำ, หรือ​เงิน, หรือ​ทองเหลือง​ไว้​ใน​ไถ้​ของ​ท่าน หรือ​ย่าม​ใช้​ตาม​ทาง, หรือ​เสื้อ​สอง​ตัว หรือ​รอง​เท้า หรือ​ไม้เท้า เพราะ​ว่า​ผู้​ทำ​การ​ควร​จะ​ได้​อาหาร​กิน.” (มัดธาย 10:9, 10) เป็น​ธรรมดา​ที่​นัก​เดิน​ทาง​จะ​เอา​ไถ้​ใส่​เงิน, ย่าม​ใส่​เสบียง​อาหาร​ติด​ตัว​ไป​ด้วย, รวม​ทั้ง​รอง​เท้า​สำรอง. * โดย​รับสั่ง​ว่า​สาวก​ไม่​ต้อง​เป็น​ห่วง​กังวล​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ของ​ดัง​กล่าว ที่​แท้​แล้ว​พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “จง​วางใจ​อย่าง​เต็ม​ที่​ใน​พระ​ยะโฮวา เพราะ​พระองค์​จะ​ทรง​เอา​ใจ​ใส่​ดู​แล​ความ​จำเป็น​ของ​เจ้า.” พระ​ยะโฮวา​จะ​จัด​เตรียม​ให้​พวก​เขา​โดย​กระตุ้น​คน​เหล่า​นั้น​ที่​ยอม​รับ​ข่าว​ดี​ให้​แสดง​น้ำใจ​ต้อนรับ​แขก ซึ่ง​เป็น​ธรรมเนียม​อย่าง​หนึ่ง​ใน​อิสราเอล.—ลูกา 22:35.

12 พระ​เยซู​ยัง​สอน​เหล่า​สาวก​ให้​หลีก​เลี่ยง​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เขว​ไป​โดย​ไม่​จำเป็น. พระองค์​ตรัส​ว่า “อย่า​คำนับ​ผู้​ใด​ตาม​ทาง.” (ลูกา 10:4) พระ​เยซู​ทรง​บอก​ให้​พวก​เขา​เฉยเมย​หรือ​ไม่​แยแส​ต่อ​คน​อื่น​ไหม? เปล่า​เลย. ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล บ่อย​ครั้ง​การ​ทักทาย​เกี่ยว​ข้อง​ไม่​เพียง​แค่​พูด​คำ​ว่า​สวัสดี. การ​ทักทาย​ตาม​ธรรมเนียม​รวม​ไป​ถึง​พิธี​การ​หลาย​อย่าง​และ​การ​สนทนา​ยืด​ยาว. ผู้​คง​แก่​เรียน​ด้าน​คัมภีร์​ไบเบิล​คน​หนึ่ง​กล่าว​ว่า “การ​ทักทาย​กัน​ท่ามกลาง​ชาว​ตะวัน​ออก​มิ​ได้​ประกอบ​ด้วย​การ​ก้ม​ศีรษะ​เล็ก​น้อย, หรือ​การ​ยื่น​มือ​ออก​เช่น​ที่​ทำ​กัน​ใน​ท่ามกลาง​พวก​เรา แต่​มี​การ​สวมกอด​กัน​หลาย​ครั้ง, และ​การ​ค้อม​ตัว​ลง, และ​กระทั่ง​การ​หมอบ​ตัว​ลง​บน​พื้น​ด้วย​ซ้ำ. ทั้ง​หมด​นี้​ต้อง​ใช้​เวลา มาก. โดย​สั่ง​เหล่า​สาวก​มิ​ให้​มี​ส่วน​ใน​การ​ทักทาย​ตาม​ธรรมเนียม​ดัง​กล่าว ใน​แง่​หนึ่ง พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เจ้า​ต้อง​ใช้​เวลา​ของ​เจ้า​อย่าง​บังเกิด​ผล​มาก​ที่​สุด เพราะ​ข่าวสาร​ที่​เจ้า​นำ​ไป​เป็น​เรื่อง​เร่ง​ด่วน.” *

13. เรา​สามารถ​แสดง​ให้​เห็น​ใน​ทาง​ใด​ว่า​เรา​เอา​ใจ​ใส่​คำ​แนะ​นำ​ที่​พระ​เยซู​ทรง​ให้​แก่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ใน​ศตวรรษ​แรก?

13 เรา​เอา​ใจ​ใส่​คำ​แนะ​นำ​ที่​พระ​เยซู​ให้​แก่​เหล่า​สาวก​ใน​ศตวรรษ​แรก. ใน​การ​ทำ​งาน​รับใช้​ของ​เรา เรา​วางใจ​ใน​พระ​ยะโฮวา​อย่าง​เต็ม​ที่. (สุภาษิต 3:5, 6) เรา​ทราบ​ว่า​เรา​จะ​ไม่​มี​วัน​ขาด​สิ่ง​จำเป็น​ใน​ชีวิต​หาก “แสวง​หา​แผ่นดิน [“ราชอาณาจักร,” ล.ม.] ของ​พระเจ้า . . . ก่อน.” (มัดธาย 6:33) ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร​เต็ม​เวลา​ตลอด​ทั่ว​โลก​สามารถ​ยืน​ยัน​ว่า​แม้​แต่​ระหว่าง​ช่วง​เวลา​ที่​ยาก​ลำบาก พระ​ยะโฮวา​ทรง​ยื่น​มือ​ช่วยเหลือ​เสมอ. (บทเพลง​สรรเสริญ 37:25) เรา​ตระหนัก​ถึง​ความ​จำเป็น​ที่​จะ​หลีก​เลี่ยง​สิ่ง​ที่​ทำ​ให้​เขว​ไป​ด้วย. หาก​เรา​ไม่​ระวัง ระบบ​นี้​อาจ​ทำ​ให้​เรา​เขว​ไป​อย่าง​ง่าย​ดาย. (ลูกา 21:34-36) อย่าง​ไร​ก็​ดี ตอน​นี้​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​เรา​จะ​เขว​ไป. เนื่อง​จาก​ชีวิต​อยู่​ใน​ระหว่าง​เสี่ยง ข่าวสาร​ของ​เรา​จึง​เป็น​เรื่อง​เร่ง​ด่วน. (โรม 10:13-15) การ​ที่​หัวใจ​เรา​สำนึก​ถึง​ความ​เร่ง​ด่วน​อยู่​เสมอ​จะ​ป้องกัน​มิ​ให้​เรา​ปล่อย​ให้​สิ่ง​ต่าง ๆ ของ​โลก​นี้​ที่​ทำ​ให้​เขว​ไป​มา​ทำ​ให้​เสีย​เวลา​และ​พลัง​ซึ่ง​เอา​ไป​ใช้​ใน​งาน​เผยแพร่​คง​จะ​ดี​กว่า. อย่า​ลืม​ว่า​เวลา​ที่​เหลือ​อยู่​มี​น้อย​และ​การ​เก็บ​เกี่ยว​ก็​ใหญ่​นัก​หนา.—มัดธาย 9:37, 38.

งาน​มอบหมาย​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​เรา

14. อะไร​บ่ง​บอก​ว่า​งาน​มอบหมาย​ตาม​ที่​บันทึก​ใน​มัดธาย 28:18-20 เป็น​การ​มอบหมาย​สำหรับ​สาวก​ของ​พระ​คริสต์​ทุก​คน? (ดู​เชิงอรรถ​ด้วย.)

14 โดย​คำ​ตรัส​ที่​ว่า “จง​ไป​ทำ​ให้​คน . . . เป็น​สาวก” พระ​เยซู​ผู้​ได้​รับ​การ​ปลุก​ให้​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว​ทรง​มอบ​ความ​รับผิดชอบ​ที่​หนัก​ไว้​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์. พระองค์​ทรง​คำนึง​ถึง​ไม่​เพียง​แต่​เหล่า​สาวก​ซึ่ง​อยู่​บน​ภูเขา​ที่​แกลิลี​ใน​วัน​นั้น. * งาน​ที่​พระองค์​มอบหมาย​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​ไป​ถึง “คน​จาก​ทุก​ชาติ” และ​งาน​นี้​ดำเนิน​ต่อ​ไป “จน​กระทั่ง​ช่วง​อวสาน​แห่ง​ระบบ.” เห็น​ได้​ชัด​ว่า นี่​เป็น​งาน​มอบหมาย​สำหรับ​สาวก​ของ​พระ​คริสต์​ทุก​คน รวม​ทั้ง​พวก​เรา​ใน​ทุก​วัน​นี้. ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ตาม​บันทึก​ที่​มัดธาย 28:18-20 อย่าง​ละเอียด​มาก​ขึ้น.

15. ทำไม​นับ​ว่า​ฉลาด​สุขุม​ที่​เรา​เชื่อ​ฟัง​พระ​บัญชา​ของ​พระ​เยซู​ที่​ให้​ทำ​คน​เป็น​สาวก?

15 ก่อน​มอบหมาย​งาน​นี้ พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “ฤทธานุภาพ​ทั้ง​สิ้น​ใน​สวรรค์​ก็​ดี, ใน​แผ่นดิน​โลก​ก็​ดี ทรง​มอบ​ไว้​แก่​เรา​แล้ว.” (ข้อ 18) พระ​เยซู​มี​ฤทธานุภาพ​อัน​ไพศาล​เช่น​นั้น​ไหม? ใช่ พระองค์​มี​อำนาจ​อย่าง​แท้​จริง! พระองค์​เป็น​อัครทูตสวรรค์ ทรง​บัญชา​การ​ทูตสวรรค์​จำนวน​มหาศาล. (1 เธซะโลนิเก 4:16; วิวรณ์ 12:7) ใน​ฐานะ “ประมุข​ของ​ประชาคม” พระองค์​มี​อำนาจ​เหนือ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​บน​แผ่นดิน​โลก. (เอเฟโซ 5:23, ล.ม.) ตั้ง​แต่​ปี 1914 เป็น​ต้น​มา พระองค์​ทรง​ปกครอง​ฐานะ​พระ​มหา​กษัตริย์​มาซีฮา​ใน​สวรรค์. (วิวรณ์ 11:15) พระองค์​ถึง​กับ​มี​อำนาจ​ที่​จะ​ปลุก​คน​ตาย​ให้​เป็น​ขึ้น​มา​ด้วย​ซ้ำ. (โยฮัน 5:26-28) โดย​ประกาศ​ถึง​ฤทธานุภาพ​อัน​กว้าง​ไกล​ของ​พระองค์​ก่อน พระ​เยซู​ทรง​บ่ง​ชี้​ว่า​คำ​ตรัส​ต่อ​จาก​นั้น (ใน​ข้อ 19 และ 20) ไม่​ใช่​เป็น​ข้อ​เสนอ​แนะ แต่​เป็น​พระ​บัญชา. นับ​ว่า​ฉลาด​สุขุม​ที่​เรา​เชื่อ​ฟัง​พระ​บัญชา​นี้ เพราะ​อำนาจ​ของ​พระองค์​ใช่​ว่า​เป็น​การ​ทึกทัก​เอา​เอง แต่​เป็น​อำนาจ​ที่​ได้​รับ​จาก​พระเจ้า.—1 โกรินโธ 15:27.

16. โดย​ตรัส​แก่​เรา​ว่า “จง​ไป” พระ​เยซู​ทรง​เรียก​ร้อง​ให้​เรา​ทำ​อะไร และ​เรา​ทำ​ให้​แง่​มุม​นี้​ของ​งาน​มอบหมาย​นั้น​สำเร็จ​โดย​วิธี​ใด?

16 ตอน​นี้​พระ​เยซู​ทรง​ชี้​แจง​งาน​มอบหมาย​นั้น ซึ่ง​เริ่ม​ต้น​ด้วย​วลี​สั้น ๆ ที่​ว่า “จง​ไป.” (ข้อ 19) โดย​วิธี​นี้ พระองค์​ทรง​บัญชา​ให้​เรา​ริเริ่ม​ที่​จะ​นำ​ข่าวสาร​เรื่อง​ราชอาณาจักร​ไป​ยัง​คน​อื่น ๆ. ใน​การ​ทำ​ให้​แง่​มุม​นี้​ของ​งาน​มอบหมาย​สำเร็จ เรา​สามารถ​ใช้​หลาก​หลาย​วิธี. การ​ประกาศ​ตาม​บ้าน​เป็น​วิธี​บังเกิด​ผล​มาก​ที่​สุด​เพื่อ​จะ​พบ​ปะ​ผู้​คน​เป็น​ส่วน​ตัว. (กิจการ 20:20) เรา​ยัง​มอง​หา​โอกาส​ที่​จะ​ให้​คำ​พยาน​แบบ​ไม่​เป็น​ทาง​การ​ด้วย; เรา​กระตือรือร้น​ที่​จะ​ริเริ่ม​การ​สนทนา​เรื่อง​ข่าว​ดี​ไม่​ว่า​ที่​ไหน​ที่​เหมาะ​สม​ระหว่าง​ชีวิต​ประจำ​วัน​ของ​เรา. วิธี​ประกาศ​ของ​เรา​อาจ​แตกต่าง​กัน โดย​ปรับ​ให้​เข้า​กับ​ความ​จำเป็น​และ​สภาพการณ์​ใน​ท้องถิ่น. แต่​สิ่ง​หนึ่ง​ที่​ยัง​เหมือน​กัน​อยู่​คือ เรา “ไป” เสาะ​หา​คน​ที่​เหมาะ​สม.—มัดธาย 10:11, ฉบับ​แปล​ใหม่.

17. เรา ‘ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก’ โดย​วิธี​ใด?

17 ต่อ​จาก​นั้น​พระ​เยซู​ทรง​อธิบาย​วัตถุ​ประสงค์​ของ​งาน​มอบหมาย​นั้น นั่น​คือ “ทำ​ให้​คน จาก​ทุก​ชาติ​เป็น​สาวก.” (ข้อ 19) เรา ‘ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก’ โดย​วิธี​ใด? โดย​พื้น​ฐาน​แล้ว สาวก​คือ​ผู้​เรียน​รู้ ผู้​ได้​รับ​การ​สอน. อย่าง​ไร​ก็​ดี การ​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก​ไม่​ใช่​เป็น​เพียง​เรื่อง​ของ​การ​ถ่ายทอด​ความ​รู้​แก่​คน​อื่น. เมื่อ​เรา​ศึกษา​คัมภีร์​ไบเบิล​กับ​ผู้​สนใจ เป้าหมาย​ของ​เรา​คือ​เพื่อ​ช่วย​เขา​เข้า​มา​เป็น​สาวก​ของ​พระ​คริสต์. เมื่อ​ไร​ก็​ตาม​ที่​เป็น​ไป​ได้ เรา​เน้น​ตัว​อย่าง​ของ​พระ​เยซู​เพื่อ​ที่​นัก​ศึกษา​ของ​เรา​จะ​เรียน​รู้​ที่​จะ​หมาย​พึ่ง​พระองค์​ฐานะ​เป็น​ครู​และ​แบบ​อย่าง​ของ​เขา โดย​ดำเนิน​ชีวิต​ตาม​แบบ​ที่​พระองค์​ดำเนิน และ​ทำ​งาน​อย่าง​ที่​พระองค์​ทรง​ทำ.—โยฮัน 13:15.

18. ทำไม​การ​รับ​บัพติสมา​จึง​เป็น​เหตุ​การณ์​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​ของ​สาวก?

18 มี​การ​แสดง​ให้​เห็น​ส่วน​หนึ่ง​ที่​สำคัญ​ของ​งาน​มอบหมาย​นี้​ด้วย​ถ้อย​คำ​ที่​ว่า “ให้​เขา​รับ​บัพติสมา​ใน​นาม​แห่ง​พระ​บิดา​และ​พระ​บุตร​และ​พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์.” (ข้อ 19) การ​รับ​บัพติสมา​เป็น​เหตุ​การณ์​สำคัญ​ที่​สุด​ใน​ชีวิต​ของ​สาวก เพราะ​นั่น​เป็น​สัญลักษณ์​ที่​เหมาะ​สม​ของ​การ​ที่​เขา​อุทิศ​ตัว​แด่​พระเจ้า​อย่าง​สุด​หัวใจ. ดัง​นั้น การ​อุทิศ​ตัว​จึง​เป็น​สิ่ง​จำเป็น​เพื่อ​ความ​รอด. (1 เปโตร 3:21) ใช่​แล้ว โดย​การ​ทำ​สุด​ความ​สามารถ​ต่อ​ไป​ใน​การ​รับใช้​พระ​ยะโฮวา สาวก​ที่​ได้​รับ​บัพติสมา​แล้ว​สามารถ​คอย​ท่า​พระ​พร​ที่​ไม่​สิ้น​สุด​ใน​โลก​ใหม่​ที่​กำลัง​จะ​มา​ถึง. คุณ​ได้​ช่วย​ใคร​สัก​คน​ให้​เข้า​มา​เป็น​สาวก​ที่​รับ​บัพติสมา​แล้ว​ของ​พระ​คริสต์​ไหม? ใน​งาน​รับใช้​ของ​คริสเตียน ไม่​มี​เหตุ​อัน​ใด​ที่​จะ​ทำ​ให้​เกิด​ความ​ยินดี​ยิ่ง​ไป​กว่า​นี้.—3 โยฮัน 4.

19. เรา​สอน​อะไร​แก่​คน​ใหม่ และ​ทำไม​การ​สอน​อาจ​ดำเนิน​ต่อ​ไป​หลัง​จาก​เขา​รับ​บัพติสมา​แล้ว?

19 พระ​เยซู​ทรง​อธิบาย​ส่วน​ต่อ​ไป​ของ​งาน​มอบหมาย​นั้น​ว่า “สอน เขา​ให้​ถือ​รักษา​สิ่ง​สารพัด​ซึ่ง​เรา​ได้​สั่ง​พวก​เจ้า​ไว้.” (ข้อ 20) เรา​สอน​คน​ใหม่​ให้​เอา​ใจ​ใส่​พระ​บัญชา​ของ​พระ​เยซู รวม​ทั้ง​พระ​บัญชา​ที่​ให้​รัก​พระเจ้า, รัก​เพื่อน​บ้าน, และ​เป็น​ผู้​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก​ด้วย. (มัดธาย 22:37-39) เรา​สอน​พวก​เขา​ที​ละ​ขั้น​ให้​อธิบาย​ความ​จริง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​และ​ปก​ป้อง​ความ​เชื่อ​ที่​เขา​มี​มาก​ขึ้น. เมื่อ​เขา​มี​คุณวุฒิ​ที่​จะ​มี​ส่วน​ร่วม​ใน​งาน​เผยแพร่​แก่​สาธารณชน เรา​ทำ​งาน​ร่วม​กับ​เขา สอน​เขา​ถึง​วิธี​ที่​จะ​ทำ​งาน​นี้​อย่าง​บังเกิด​ผล​โดย​คำ​พูด​และ​ตัว​อย่าง​ของ​เรา. ผู้​ที่​รับ​บัพติสมา​ใหม่​อาจ​ต้อง​ได้​รับ​การ​สั่ง​สอน​เพิ่ม​อีก​เพื่อ​ช่วย​เขา​แก้​ปัญหา​อัน​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​เป็น​สาวก​ของ​พระ​คริสต์.—ลูกา 9:23, 24.

“เรา​อยู่​กับ​พวก​เจ้า​เสมอ”

20, 21. (ก) ใน​การ​ทำ​งาน​ที่​ได้​รับ​มอบหมาย​จาก​พระ​เยซู ทำไม​เรา​ไม่​มี​สาเหตุ​ที่​จะ​กลัว? (ข) เหตุ​ใด​ตอน​นี้​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​จะ​ช้า​ลง และ​เรา​ควร​มี​ความ​ตั้งใจ​เช่น​ไร?

20 ถ้อย​คำ​ตอน​ท้าย​เกี่ยว​กับ​งาน​มอบหมาย​จาก​พระ​เยซู​เป็น​การ​ให้​กำลังใจ​มาก​จริง ๆ ที่​ว่า “นี่​แน่ะ! เรา​อยู่​กับ​พวก​เจ้า​เสมอ​จน​กระทั่ง​ช่วง​อวสาน​แห่ง​ระบบ.” (มัดธาย 28:20, ล.ม.) พระ​เยซู​ทรง​ตระหนัก​ว่า​งาน​มอบหมาย​นี้​เป็น​สิ่ง​สำคัญ. พระองค์​ทรง​ทราบ​ด้วย​ว่า​การ​ทำ​งาน​นี้​ให้​สำเร็จ​จะ​ก่อ​ให้​เกิด​ปฏิกิริยา​ที่​เป็น​ปรปักษ์​จาก​ผู้​ต่อ​ต้าน​ใน​บาง​ครั้ง. (ลูกา 21:12) อย่าง​ไร​ก็​ดี ไม่​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​กลัว. ผู้​นำ​ของ​เรา​มิ​ได้​คาด​หมาย​ให้​เรา​ทำ​งาน​มอบหมาย​นี้​โดย​ไม่​มี​การ​ช่วยเหลือ​หรือ​ให้​เรา​ทำ​ตาม​ลำพัง. เป็น​การ​ปลอบ​ใจ​มิ​ใช่​หรือ​ที่​รู้​ว่า​พระองค์​ผู้​ซึ่ง​มี “อำนาจ​ทั้ง​สิ้น . . . ทั้ง​ใน​สวรรค์​และ​บน​แผ่นดิน​โลก” ทรง​อยู่​กับ​เรา​เพื่อ​เกื้อ​หนุน​เรา​ใน​การ​ทำ​งาน​มอบหมาย​นี้?

21 พระ​เยซู​ทรง​รับรอง​กับ​เหล่า​สาวก​ว่า​พระองค์​จะ​อยู่​กับ​พวก​เขา​ใน​การ​ทำ​งาน​รับใช้​ตลอด​หลาย​ศตวรรษ​จน​กระทั่ง “ช่วง​อวสาน​แห่ง​ระบบ.” เรา​ต้อง​ทำ​งาน​ที่​พระ​เยซู​ทรง​มอบหมาย​ให้​เรา​ทำ​ต่อ ๆ ไป​จน​กว่า​อวสาน​จะ​มา​ถึง. ตอน​นี้​ไม่​ใช่​เวลา​ที่​เรา​จะ​ช้า​ลง. การ​เก็บ​เกี่ยว​ฝ่าย​วิญญาณ​อย่าง​อุดม​บริบูรณ์​กำลัง​ดำเนิน​อยู่! ผู้​ที่​ตอบรับ​จำนวน​มาก​มาย​กำลัง​ถูก​รวบ​รวม. ใน​ฐานะ​สาวก​ของ​พระ​คริสต์ ให้​เรา​ตั้งใจ​แน่วแน่​ที่​จะ​ทำ​งาน​สำคัญ​ที่​มอบหมาย​ไว้​ให้​เรา​จน​สำเร็จ. ให้​เรา​ตั้งใจ​ที่​จะ​อุทิศ​เวลา, กำลัง, และ​ทรัพยากร​ของ​เรา​เพื่อ​ทำ​ตาม​พระ​บัญชา​ของ​พระ​คริสต์​ที่​ว่า “จง​ไป​ทำ​ให้​คน . . . เป็น​สาวก.”

^ วรรค 11 ไถ้​อาจ​จะ​เป็น​ถุง​ใช้​สำหรับ​ใส่​เงิน​เหรียญ​ที่​ติด​อยู่​กับ​เข็มขัด​คาด​เอว. ย่าม​เป็น​ถุง​ขนาด​ใหญ่​กว่า ปกติ​ทำ​ด้วย​หนัง สะพาย​ไว้​ที่​บ่า ใช้​ใส่​อาหาร​หรือ​สิ่ง​จำเป็น​อื่น ๆ.

^ วรรค 12 ผู้​พยากรณ์​อะลีซา​เคย​ให้​คำ​สั่ง​คล้าย​กัน​แก่​เฆฮะซี คน​รับใช้​ของ​ท่าน. เมื่อ​ส่ง​เขา​ไป​ที่​บ้าน​ของ​หญิง​คน​หนึ่ง​ที่​บุตร​ชาย​ของ​เธอ​เสีย​ชีวิต อะลีซา​บอก​ว่า “ถ้า​พบ​ผู้​ใด, อย่า​คำนับ.” (2 กษัตริย์ 4:29) งาน​มอบหมาย​นั้น​เร่ง​ด่วน ดัง​นั้น ต้อง​ไม่​ให้​เสีย​เวลา​ไป​โดย​ไม่​จำเป็น.

^ วรรค 14 เนื่อง​จาก​สาวก​ของ​พระองค์​ส่วน​ใหญ่​อยู่​ใน​แกลิลี อาจ​เป็น​ช่วง​เวลา​ที่​พรรณนา​ไว้​ใน​มัดธาย 28:16-20 ที่​ว่า พระ​เยซู​ผู้​คืน​พระ​ชนม์​แล้ว​ได้​ทรง​ปรากฏ​แก่ “พวก​พี่​น้อง​กว่า​ห้า​ร้อย​คน.” (1 โกรินโธ 15:6) ดัง​นั้น อาจ​มี​หลาย​ร้อย​คน​อยู่​ด้วย​ตอน​ที่​พระ​เยซู​มอบหมาย​งาน​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก.