ข้ามไปยังเนื้อหา

ข้ามไปยังสารบัญ

บท 5

“คลังทรัพย์ทั้งปวงแห่งสติปัญญา”

“คลังทรัพย์ทั้งปวงแห่งสติปัญญา”

1-3. สภาพ​แวด​ล้อม​เป็น​เช่น​ไร​ตอน​ที่​พระ​เยซู​ให้​คำ​เทศน์​ใน​วัน​หนึ่ง​ของ​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี ส.ศ. 31 และ​ทำไม​ผู้​ฟัง​พระองค์​รู้สึก​อัศจรรย์​ใจ?

 วัน​หนึ่ง​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี ส.ศ. 31 พระ​เยซู​คริสต์​ทรง​อยู่​ใกล้​เมือง​คาเปอร์นาอุม (กัปเรนาอูม) ที่​จอแจ​ซึ่ง​ตั้ง​อยู่​บน​ชายฝั่ง​ทาง​ตะวัน​ตก​เฉียง​เหนือ​ของ​ทะเล​แกลิลี. บน​ภูเขา​ที่​อยู่​ใน​บริเวณ​ใกล้​เคียง พระ​เยซู​ได้​ทรง​อธิษฐาน​อยู่​ใน​ที่​สงัด​ตลอด​คืน​ยัง​รุ่ง. ครั้น​รุ่ง​เช้า พระองค์​ทรง​เรียก​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​มา แล้ว​ทรง​เลือก 12 คน​จาก​ท่ามกลาง​พวก​เขา​ซึ่ง​พระองค์​ตั้ง​เป็น​อัครสาวก. ระหว่าง​นั้น ฝูง​ชน​จำนวน​มาก​มาย บาง​คน​มา​จาก​ที่​ห่าง​ไกล ได้​ติด​ตาม​พระ​เยซู​มา​ยัง​บริเวณ​นี้​และ​ชุมนุม​กัน​อยู่ ณ ที่​ราบ​บน​ภูเขา. พวก​เขา​กระตือรือร้น​ที่​จะ​ฟัง​สิ่ง​ที่​พระองค์​ตรัส​และ​อยาก​ได้​รับ​การ​รักษา​ให้​หาย​ป่วย. พระ​เยซู​มิ​ได้​ทำ​ให้​พวก​เขา​ผิด​หวัง.—ลูกา 6:12-19.

2 พระ​เยซู​เสด็จ​เข้า​ไป​หา​ฝูง​ชน​แล้ว​ทรง​รักษา​ทุก​คน​ที่​เจ็บ​ป่วย. ใน​ที่​สุด เมื่อ​ไม่​มี​สัก​คน​เดียว​ท่ามกลาง​พวก​เขา​รู้สึก​เจ็บ​ปวด​เนื่อง​จาก​ความ​เจ็บ​ป่วย​ร้ายแรง พระองค์​จึง​ทรง​นั่ง​และ​เริ่ม​ต้น​สั่ง​สอน. * ถ้อย​คำ​ที่​พระองค์​ตรัส​วัน​นั้น​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ที่​อากาศ​สดชื่น​คง​ต้อง​ทำ​ให้​ผู้​ฟัง​ประหลาด​ใจ. ที่​จริง พวก​เขา​ไม่​เคย​ได้​ยิน​ใคร​สอน​อย่าง​พระองค์. เพื่อ​ให้​คำ​สอน​ของ​พระองค์​มี​น้ำหนัก​มาก​ขึ้น พระองค์​มิ​ได้​อ้าง​ถึง​ประเพณี​สืบ​ปาก​หรือ​คำ​พูด​ของ​พวก​รับบี​ชาว​ยิว​ที่​มี​ชื่อเสียง. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น หลาย​ครั้ง​พระองค์​อ้าง​ถึง​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ. ข่าวสาร​ของ​พระองค์​ตรง​ไป​ตรง​มา, ถ้อย​คำ​ที่​พระองค์​ใช้​ก็​เรียบ​ง่าย, และ​ความ​หมาย​ชัดเจน. เมื่อ​พระองค์​จบ​การ​สั่ง​สอน ฝูง​ชน​รู้สึก​อัศจรรย์​ใจ. ที่​จริง พวก​เขา​ก็​น่า​จะ​รู้สึก​อย่าง​นั้น. พวก​เขา​เพิ่ง​ได้​ฟัง​บุรุษ​ผู้​ชาญ​ฉลาด​ที่​สุด​เท่า​ที่​โลก​เคย​เห็น!—มัดธาย 7:28, 29.

“ฝูง​ชน​ก็​อัศจรรย์​ใจ​ใน​วิธี​สอน​ของ​พระองค์”

3 คำ​เทศน์​ดัง​กล่าว​พร้อม​กับ​อีก​หลาย​สิ่ง​ที่​พระ​เยซู​ได้​ตรัส​และ​กระทำ​ได้​รับ​การ​บันทึก​ไว้​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า. เรา​สม​ควร​จะ​ค้นคว้า​ดู​ว่า​บันทึก​ที่​มี​ขึ้น​โดย​การ​ดล​ใจ​นั้น​กล่าว​เช่น​ไร​ใน​เรื่อง​พระ​เยซู เพราะ “คลัง​ทรัพย์​ทั้ง​ปวง​แห่ง​สติ​ปัญญา” มี​อยู่​ใน​พระองค์. (โกโลซาย 2:3, ล.ม.) สติ​ปัญญา​ดัง​กล่าว ซึ่ง​ก็​คือ​ความ​สามารถ​ที่​จะ​นำ​ความ​รู้​และ​ความ​เข้าใจ​ไป​ใช้​ใน​วิธี​ที่​ได้​ผล​จริง พระองค์​ได้​รับ​จาก​ที่​ไหน? พระองค์​ทรง​สำแดง​สติ​ปัญญา​อย่าง​ไร และ​เรา​จะ​ดำเนิน​ตาม​แบบ​อย่าง​ของ​พระองค์​ได้​โดย​วิธี​ใด?

‘คน​นี้​ได้​สติ​ปัญญา​นี้​มา​จาก​ไหน?’

4. ผู้​ฟัง​พระ​เยซู​ใน​เมือง​นาซาเรท​ได้​ยก​คำ​ถาม​อะไร​ขึ้น​มา และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

4 ระหว่าง​การ​เดิน​ทาง​ไป​ประกาศ​คราว​หนึ่ง พระ​เยซู​ได้​ไป​เยือน​เมือง​นาซาเรท เมือง​ที่​พระองค์​ได้​รับ​การ​เลี้ยง​ดู​มา และ​เริ่ม​ต้น​สอน​ใน​ธรรมศาลา​ของ​เมือง​นั้น. ผู้​ฟัง​พระองค์​หลาย​คน​รู้สึก​ประหลาด​ใจ​และ​สงสัย​ว่า ‘คน​นี้​ได้​สติ​ปัญญา​นี้​มา​จาก​ไหน?’ พวก​เขา​รู้​จัก​ครอบครัว​ของ​พระองค์—บิดา​มารดา​และ​น้อง ๆ ของ​พระองค์—และ​รู้​ว่า​พระองค์​มา​จาก​ครอบครัว​ที่​มี​ฐานะ​ยาก​จน. (มัดธาย 13:54-56, ฉบับ​แปล 2002; มาระโก 6:1-3) ไม่​ต้อง​สงสัย พวก​เขา​รู้​ด้วย​ว่า​ช่าง​ไม้​ที่​พูด​ได้​จับ​ใจ​คน​นี้​ไม่​เคย​เข้า​โรง​เรียน​รับบี​ใด ๆ ที่​มี​ชื่อเสียง. (โยฮัน 7:15) ดัง​นั้น คำ​ถาม​ของ​พวก​เขา​จึง​ดู​เหมือน​ว่า​มี​เหตุ​ผล.

5. พระ​เยซู​ทรง​เปิด​เผย​ว่า​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​มา​จาก​แหล่ง​ไหน?

5 สติ​ปัญญา​ที่​พระ​เยซู​ได้​สำแดง​ออก​มา​ใช่​ว่า​เป็น​ผล​จาก​ความ​คิด​ที่​สมบูรณ์​พร้อม​ของ​พระองค์​เอง​เท่า​นั้น. ต่อ​มา​ใน​งาน​เผยแพร่​ของ​พระองค์ ขณะ​สั่ง​สอน​อย่าง​เปิด​เผย​อยู่​ใน​พระ​วิหาร พระ​เยซู​ทรง​แจ้ง​ให้​ทราบ​ว่า​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​มา​จาก​แหล่ง​ที่​สูง​กว่า​มาก​นัก. พระองค์​ตรัส​ว่า “คำ​สอน​ของ​เรา​ไม่​เป็น​ของ​เรา​เอง, แต่​เป็น​ของ​พระองค์​ที่​ทรง​ใช้​เรา​มา.” (โยฮัน 7:16) ใช่​แล้ว พระ​บิดา​ผู้​ทรง​ส่ง​พระ​บุตร​มา ทรง​เป็น​แหล่ง​ที่​แท้​จริง​แห่ง​สติ​ปัญญา​ของ​พระ​เยซู. (โยฮัน 12:49) แต่​พระ​เยซู​ได้​รับ​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​ยะโฮวา​โดย​วิธี​ใด?

6, 7. พระ​เยซู​ได้​รับ​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​ใน​ทาง​ใด​บ้าง?

6 พระ​วิญญาณ​บริสุทธิ์​ของ​พระ​ยะโฮวา​ดำเนิน​กิจ​อยู่​ใน​หัวใจ​และ​จิตใจ​ของ​พระ​เยซู. ยะซายา​ได้​บอก​ล่วง​หน้า​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​ใน​ฐานะ​พระ​มาซีฮา​ตาม​คำ​สัญญา​ว่า “พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ​ลง​มา​บน​ท่าน วิญญาณ​แห่ง​ปัญญา​และ​ความ​เข้าใจ วิญญาณ​แห่ง​คำ​แนะ​นำ​และ​ฤทธานุภาพ วิญญาณ​แห่ง​ความ​รู้​และ​ความ​เกรง​กลัว​พระ​ยะโฮวา.” (ยะซายา 11:2, ล.ม.) ใน​เมื่อ​พระ​วิญญาณ​ของ​พระ​ยะโฮวา​สถิต​อยู่​บน​พระ​เยซู​และ​ชี้​นำ​ความ​คิด​และ​การ​ตัดสิน​ใจ​ของ​พระองค์ จึง​ไม่​แปลก​เลย​ใช่​ไหม​ที่​คำ​พูด​และ​การ​กระทำ​ของ​พระองค์​สะท้อน​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​อัน​ล้ำ​เลิศ?

7 พระ​เยซู​ได้​รับ​สติ​ปัญญา​จาก​พระ​บิดา​ของ​พระองค์​ใน​อีก​วิธี​หนึ่ง​ที่​ลึกซึ้ง. ดัง​เรา​ได้​เห็น​ใน​บท 2 ระหว่าง​ที่​ดำรง​อยู่​ก่อน​มา​เป็น​มนุษย์ ซึ่ง​เป็น​ช่วง​เวลา​ยาว​นาน​จน​ไม่​อาจ​นับ​ได้ พระ​เยซู​มี​โอกาส​ที่​จะ​ซึมซับ​พระ​ดำริ​ของ​พระเจ้า​ใน​เรื่อง​ต่าง ๆ. เรา​แทบ​จะ​นึก​ไม่​ออก​ถึง​สติ​ปัญญา​อัน​ล้ำ​ลึก​ที่​พระ​บุตร​ได้​รับ​ขณะ​อยู่​เคียง​ข้าง​พระ​บิดา ทำ​งาน​ฐานะ​เป็น “นาย​ช่าง” ของ​พระเจ้า​ใน​การ​สร้าง​สรรพสิ่ง​อื่น ๆ ทั้ง​ที่​มี​ชีวิต​และ​ไม่​มี​ชีวิต. ด้วย​เหตุ​ผล​ที่​ฟัง​ขึ้น พระ​บุตร​ตอน​ที่​ดำรง​อยู่​ก่อน​มา​เป็น​มนุษย์​จึง​ได้​รับ​การ​พรรณนา​ฐานะ​พระ​ปัญญา​ที่​เป็น​ประหนึ่ง​บุคคล. (สุภาษิต 8:22-31; โกโลซาย 1:15, 16) ตลอด​ช่วง​ที่​ทำ​งาน​เผยแพร่​บน​แผ่นดิน​โลก พระ​เยซู​สามารถ​ใช้​สติ​ปัญญา​ที่​ได้​รับ​ขณะ​อยู่​เคียง​ข้าง​พระ​บิดา​ใน​สวรรค์​ให้​เป็น​ประโยชน์. * (โยฮัน 8:26, 28, 38) ฉะนั้น เรา​ไม่​ควร​แปลก​ใจ​ใน​ความ​รู้​อัน​กว้างขวาง​และ​ความ​เข้าใจ​ที่​ลึกซึ้ง​ซึ่ง​สะท้อน​อยู่​ใน​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​หรือ​การ​ตัดสิน​ที่​ถูก​ต้อง​ใน​การ​กระทำ​ทุก​อย่าง​ของ​พระองค์.

8. ใน​ฐานะ​สาวก​ของ​พระ​เยซู เรา​จะ​ได้​รับ​สติ​ปัญญา​โดย​วิธี​ใด?

8 ใน​ฐานะ​สาวก​ของ​พระ​เยซู เรา​ต้อง​หมาย​พึ่ง​พระ​ยะโฮวา​ฐานะ​เป็น​แหล่ง​แห่ง​สติ​ปัญญา​ด้วย​เช่น​กัน. (สุภาษิต 2:6) แน่นอน พระ​ยะโฮวา​มิ​ได้​ประทาน​สติ​ปัญญา​ให้​พวก​เรา​อย่าง​อัศจรรย์. อย่าง​ไร​ก็​ดี พระองค์​ทรง​ตอบ​คำ​อธิษฐาน​อย่าง​จริงจัง​ของ​เรา​ที่​ขอ​สติ​ปัญญา​ที่​จำเป็น​เพื่อ​จะ​ประสบ​ผล​สำเร็จ​ใน​การ​รับมือ​กับ​ปัญหา​ต่าง ๆ ใน​ชีวิต. (ยาโกโบ 1:5) เรา​ต้อง​พยายาม​อย่าง​มาก​เพื่อ​จะ​ได้​สติ​ปัญญา​นั้น. เรา​ต้อง​แสวง​หา​สติ​ปัญญา “เหมือน​หนึ่ง​ทรัพย์​ที่​ซ่อน​อยู่​นั้น” เรื่อย​ไป. (สุภาษิต 2:1-6) ใช่​แล้ว เรา​ต้อง​ขุด​ลึก​ลง​ไป​ใน​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​ที่​มี​การ​เปิด​เผย​สติ​ปัญญา​ของ​พระองค์​นั้น​ต่อ ๆ ไป และ​ให้​ชีวิต​ของ​เรา​ประสาน​กับ​สิ่ง​ที่​เรา​เรียน​รู้. ตัว​อย่าง​ที่​พระ​บุตร​ของ​พระ​ยะโฮวา​วาง​ไว้​มี​คุณค่า​เป็น​พิเศษ​ใน​การ​ช่วย​เรา​ให้​ได้​มา​ซึ่ง​สติ​ปัญญา. ขอ​ให้​เรา​พิจารณา​ขอบ​เขต​ต่าง ๆ ที่​พระ​เยซู​ทรง​สำแดง​สติ​ปัญญา​และ​เรียน​รู้​ว่า​เรา​จะ​เลียน​แบบ​พระองค์​ได้​โดย​วิธี​ใด.

ถ้อย​คำ​แห่ง​สติ​ปัญญา

สติ​ปัญญา​ของ​พระเจ้า​มี​การ​เปิด​เผย​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล

9. อะไร​ทำ​ให้​คำ​สอน​ของ​พระ​เยซู​เต็ม​ไป​ด้วย​สติ​ปัญญา?

9 ผู้​คน​จำนวน​มาก​พา​กัน​ไป​หา​พระ​เยซู​เพียง​เพื่อ​จะ​ฟัง​พระองค์​ตรัส. (มาระโก 6:31-34; ลูกา 5:1-3) และ​นี่​ไม่​ใช่​เรื่อง​แปลก เพราะ​เมื่อ​พระ​เยซู​ตรัส ถ้อย​คำ​แห่ง​สติ​ปัญญา​อัน​เลิศ​ล้ำ​ออก​มา​จาก​พระ​โอษฐ์​ของ​พระองค์! คำ​สอน​ของ​พระองค์​สะท้อน​ให้​เห็น​ความ​รู้​อัน​ลึกซึ้ง​เกี่ยว​กับ​พระ​คำ​ของ​พระเจ้า​และ​ความ​สามารถ​อัน​หา​ที่​เปรียบ​มิ​ได้​ใน​การ​เข้า​ถึง​ต้น​เหตุ​ของ​ปัญหา. คำ​สอน​ของ​พระองค์​ดึงดูด​ใจ​ผู้​คน​ทุก​หน​แห่ง​และ​ใช้​ได้​เสมอ​ไม่​ว่า​ยุค​สมัย​ใด. ขอ​พิจารณา​บาง​ตัว​อย่าง​ของ​สติ​ปัญญา​ที่​พบ​ใน​คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู ซึ่ง​เป็น “ที่​ปรึกษา​มหัศจรรย์” ตาม​ที่​มี​การ​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า.—ยะซายา 9:6.

10. พระ​เยซู​ทรง​กระตุ้น​เรา​ให้​ปลูกฝัง​คุณลักษณะ​ที่​ดี​อะไร​บ้าง และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

10 คำ​เทศน์​บน​ภูเขา​ที่​มี​การ​กล่าว​ถึง​ใน​ตอน​ต้น เป็น​คำ​สอน​ที่​พระ​เยซู​สอน​อย่าง​ต่อ​เนื่อง​โดย​ไม่​มี​การ​ขัด​จังหวะ​ด้วย​การ​พรรณนา​เรื่อง​หรือ​คำ​พูด​ของ​คน​อื่น ๆ. ใน​คำ​เทศน์​นี้ พระ​เยซู​ไม่​เพียง​ให้​คำ​แนะ​นำ​ใน​เรื่อง​การ​พูด​และ​การ​ประพฤติ​ที่​เหมาะ​สม​เท่า​นั้น แต่​ให้​คำ​แนะ​นำ​เรื่อง​สิ่ง​ที่​กระตุ้น​ให้​เรา​พูด​หรือ​ทำ​ด้วย. เนื่อง​จาก​ทรง​ทราบ​ว่า​ความ​คิด​และ​ความ​รู้สึก​นำ​ไป​สู่​การ​พูด​และ​การ​กระทำ พระ​เยซู​จึง​กระตุ้น​เรา​ให้​ปลูกฝัง​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ใน​จิตใจ​และ​หัวใจ เช่น ความ​อ่อนโยน, ความ​หิว​กระหาย​ความ​ชอบธรรม, แนว​โน้ม​ที่​จะ​เป็น​คน​เมตตา​และ​สร้าง​สันติ, และ​ความ​รัก​ต่อ​คน​อื่น. (มัดธาย 5:5-9, 43-48) ขณะ​ที่​เรา​พัฒนา​คุณลักษณะ​ดัง​กล่าว​ใน​หัวใจ​เรา ก็​จะ​ก่อ​ผล​เป็น​คำ​พูด​และ​ความ​ประพฤติ​ที่​ดี​งาม​ซึ่ง​ไม่​เพียง​ทำ​ให้​พระ​ยะโฮวา​พอ​พระทัย​เท่า​นั้น แต่​ยัง​ส่ง​เสริม​สัมพันธภาพ​ที่​ดี​กับ​เพื่อน​มนุษย์​ด้วย.—มัดธาย 5:16.

11. เมื่อ​ให้​คำ​แนะ​นำ​เรื่อง​ความ​ประพฤติ​ที่​ผิด​บาป พระ​เยซู​ทรง​เข้า​ถึง​ต้น​เหตุ​ของ​ปัญหา​อย่าง​ไร?

11 เมื่อ​ให้​คำ​แนะ​นำ​เรื่อง​ความ​ประพฤติ​ที่​ผิด​บาป พระ​เยซู​ทรง​เข้า​ถึง​ต้น​เหตุ​ของ​ปัญหา​ที​เดียว. พระองค์​ไม่​เพียง​บอก​ให้​เรา​ละ​เว้น​จาก​การ​กระทำ​ที่​รุนแรง​เท่า​นั้น แต่​ทรง​เตือน​เรา​มิ​ให้​ปล่อย​ความ​โกรธ​คุ​กรุ่น​อยู่​ใน​หัวใจ. (มัดธาย 5:21, 22; 1 โยฮัน 3:15) พระองค์​ไม่​เพียง​ห้าม​การ​เล่นชู้. แทน​ที่​จะ​ทำ​เช่น​นั้น พระองค์​ทรง​เตือน​ถึง​ความ​กำหนัด​ที่​เริ่ม​ขึ้น​ใน​หัวใจ​และ​นำ​ไป​สู่​การ​ทรยศ​ดัง​กล่าว. พระองค์​ทรง​ตักเตือน​เรา​ไม่​ให้​ปล่อย​ตา​ของ​เรา​ปลุก​เร้า​ความ​ปรารถนา​ที่​ไม่​เหมาะ​สม​และ​กระตุ้น​ให้​เกิด​ราคะ​ตัณหา. (มัดธาย 5:27-30) พระ​เยซู​ทรง​เพ่งเล็ง​ที่​ต้น​เหตุ ไม่​ใช่​ดู​แต่​สิ่ง​ที่​ปรากฏ​ให้​เห็น​เท่า​นั้น. พระองค์​ตรัส​ถึง​เจตคติ​และ​ความ​ปรารถนา​ที่​นำ​ไป​สู่​การ​กระทำ​ที่​ผิด​บาป.—บทเพลง​สรรเสริญ 7:14.

12. เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​มอง​คำ​แนะ​นำ​ของ​พระองค์​อย่าง​ไร และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

12 คำ​ตรัส​ของ​พระ​เยซู​ประกอบ​ด้วย​สติ​ปัญญา​อย่าง​แท้​จริง! ไม่​น่า​แปลก​ที่ “ฝูง​ชน​ก็​อัศจรรย์​ใจ​ใน​วิธี​สอน​ของ​พระองค์.” (มัดธาย 7:28, ล.ม.) ใน​ฐานะ​เป็น​สาวก​ของ​พระองค์ เรา​ถือ​ว่า​คำ​แนะ​นำ​ที่​ชาญ​ฉลาด​ของ​พระองค์​เป็น​เครื่อง​ชี้​นำ​ใน​การ​ดำเนิน​ชีวิต. เรา​พยายาม​ปลูกฝัง​คุณลักษณะ​ที่​ดี​ซึ่ง​พระองค์​ทรง​แนะ​นำ รวม​ถึง​ความ​เมตตา, การ​สร้าง​สันติ, และ​ความ​รัก โดย​รู้​อยู่​ว่า​ด้วย​วิธี​นี้​เรา​จะ​วาง​รากฐาน​ไว้​สำหรับ​ความ​ประพฤติ​ที่​พระเจ้า​พอ​พระทัย. เรา​พยายาม​จะ​ขจัด​ความ​รู้สึก​และ​ความ​ปรารถนา​ที่​ไม่​ดี​ซึ่ง​พระองค์​เตือน​เรา​ให้​ระวัง​นั้น​ให้​หมด​ไป​จาก​หัวใจ​ของ​เรา เช่น ความ​โกรธ​แค้น​และ​ความ​ปรารถนา​ที่​ผิด​ศีลธรรม โดย​รู้​ว่า​การ​ทำ​เช่น​นั้น​จะ​ช่วย​เรา​หลีก​เลี่ยง​ความ​ประพฤติ​ที่​ผิด​บาป.—ยาโกโบ 1:14, 15.

แนว​ทาง​ชีวิต​ที่​ควบคุม​โดย​สติ​ปัญญา

13, 14. อะไร​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​ใช้​วิจารณญาณ​ที่​ดี​ใน​การ​เลือก​แนว​ทาง​ชีวิต​ของ​พระองค์?

13 พระ​เยซู​ทรง​สำแดง​สติ​ปัญญา​ไม่​เพียง​ใน​คำ​ตรัส​เท่า​นั้น แต่​ใน​การ​กระทำ​ด้วย. รูป​แบบ​ชีวิต​ทั้ง​สิ้น​ของ​พระองค์ ไม่​ว่า​จะ​เป็น​การ​ตัดสิน​พระทัย, ทัศนะ​ที่​พระองค์​มี​ต่อ​ตัว​เอง, และ​การ​ปฏิบัติ​ต่อ​คน​อื่น ล้วน​แสดง​ให้​เห็น​สติ​ปัญญา​ใน​หลาย​แง่​มุม​ที่​ดี​เลิศ. ขอ​พิจารณา​บาง​ตัว​อย่าง​ที่​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​ได้​รับ​การ​ควบคุม​โดย “สติ​ปัญญา​ที่​ใช้​ได้​จริง​และ​ความ​สามารถ​ใน​การ​คิด.”—สุภาษิต 3:21, ล.ม.

14 สติ​ปัญญา​รวม​ไป​ถึง​การ​ตัดสิน​ที่​ถูก​ต้อง. พระ​เยซู​ทรง​ใช้​วิจารณญาณ​ที่​ดี​ใน​การ​เลือก​แนว​ทาง​ชีวิต​ของ​พระองค์. คุณ​นึก​ภาพ​ออก​ไหม​ถึง​รูป​แบบ​ชีวิต​ที่​พระองค์​จะ​มี​ได้ เช่น บ้าน​ที่​พระองค์​อาจ​สร้าง​ขึ้น, ธุรกิจ​ที่​พระองค์​อาจ​ตั้ง​ขึ้น, หรือ​ชื่อเสียง​เด่น​ดัง​ใน​โลก​ที่​พระองค์​สามารถ​มี​ได้? พระ​เยซู​ทรง​ทราบ​ว่า​การ​ทุ่มเท​ชีวิต​ให้​กับ​การ​มุ่ง​ติด​ตาม​สิ่ง​ดัง​กล่าว “เป็น​อนิจจัง​เหมือน​วิ่ง​ไล่​ตาม​ลม​ไป.” (ท่าน​ผู้​ประกาศ 4:4; 5:10) แนว​ทาง​ชีวิต​ดัง​กล่าว​เป็น​ความ​โง่​เขลา ตรง​กัน​ข้าม​กับ​สติ​ปัญญา. พระ​เยซู​ทรง​เลือก​จะ​ดำเนิน​ชีวิต​แบบ​เรียบ​ง่าย. พระองค์​ไม่​สน​พระทัย​ใน​การ​หา​เงิน​หรือ​สะสม​ทรัพย์​สมบัติ​ฝ่าย​วัตถุ. (มัดธาย 8:20) สอดคล้อง​กับ​สิ่ง​ที่​พระองค์​สอน พระองค์​ทรง​รักษา​ตา​ให้​มุ่ง​ไป​ที่​จุด​มุ่ง​หมาย​เดียว นั่น​คือ การ​ทำ​ตาม​พระทัย​ประสงค์​ของ​พระเจ้า. (มัดธาย 6:22) พระ​เยซู​ทรง​อุทิศ​เวลา​และ​พลัง​ของ​พระองค์​อย่าง​ฉลาด​สุขุม​เพื่อ​ส่ง​เสริม​ผล​ประโยชน์​ของ​ราชอาณาจักร ซึ่ง​มี​ความ​สำคัญ​และ​ให้​ผล​ตอบ​แทน​ยิ่ง​กว่า​สิ่ง​ฝ่าย​วัตถุ​มาก​นัก. (มัดธาย 6:19-21) โดย​วิธี​นี้ พระองค์​ทรง​วาง​ตัว​อย่าง​ที่​ควร​แก่​การ​เลียน​แบบ.

15. เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​จะ​แสดง​ให้​เห็น​ได้​อย่าง​ไร​ว่า​พวก​เขา​รักษา​ตา​ให้​ปกติ และ​ทำไม​การ​ทำ​เช่น​นี้​จึง​เป็น​แนว​ทาง​แห่ง​สติ​ปัญญา?

15 เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ใน​ทุก​วัน​นี้​มอง​เห็น​ว่า​การ​มุ่ง​ไป​ที่​จุด​มุ่ง​หมาย​เดียว​เป็น​แนว​ทาง​แห่ง​สติ​ปัญญา. ฉะนั้น พวก​เขา​หลีก​เลี่ยง​การ​ทำ​ให้​ตัว​เอง​ต้อง​แบก​ภาระ​หนี้สิน​ที่​ไม่​จำเป็น​และ​การ​ติด​ตาม​สิ่ง​ต่าง ๆ ฝ่าย​โลก​ซึ่ง​ทำ​ให้​สิ้น​เปลือง​พลัง​และ​ต้อง​ให้​ความ​เอา​ใจ​ใส่​มาก​เกิน​ไป. (1 ติโมเธียว 6:9, 10) หลาย​คน​ได้​ใช้​มาตรการ​ต่าง ๆ เพื่อ​ทำ​ให้​รูป​แบบ​ชีวิต​ของ​ตน​เรียบ​ง่าย​เพื่อ​จะ​อุทิศ​เวลา​มาก​ขึ้น​ให้​กับ​งาน​เผยแพร่​แบบ​คริสเตียน บาง​ที​ถึง​กับ​รับใช้​ใน​ฐานะ​ผู้​ประกาศ​ราชอาณาจักร​เต็ม​เวลา. ไม่​มี​แนว​ทาง​อื่น​ใด​จะ​เป็น​แนว​ทาง​ที่​ฉลาด​สุขุม​ไป​กว่า​นี้​ที่​เรา​จะ​ติด​ตาม เพราะ​การ​จัด​ให้​ผล​ประโยชน์​แห่ง​ราชอาณาจักร​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ที่​เหมาะ​สม​ยัง​ผล​ให้​มี​ความ​สุข​และ​ความ​พอ​ใจ​มาก​ที่​สุด.—มัดธาย 6:33.

16, 17. (ก) พระ​เยซู​ทรง​แสดง​ให้​เห็น​ใน​ทาง​ใด​บ้าง​ว่า​ทรง​เจียม​ตัว​และ​คาด​หมาย​จาก​ตัว​เอง​ตาม​ความ​เป็น​จริง? (ข) เรา​จะ​แสดง​ได้​โดย​วิธี​ใด​ว่า​เรา​เป็น​คน​เจียม​ตัว​และ​คาด​หมาย​จาก​ตัว​เอง​ตาม​ความ​เป็น​จริง?

16 คัมภีร์​ไบเบิล​เชื่อม​โยง​สติ​ปัญญา​กับ​ความ​เจียม​ตัว ซึ่ง​หมาย​รวม​ถึง​การ​รู้​ขีด​จำกัด​ของ​เรา. (สุภาษิต 11:2) พระ​เยซู​ทรง​เจียม​ตัว​และ​คาด​หมาย​จาก​ตัว​เอง​ตาม​ความ​เป็น​จริง. พระองค์​ทรง​ทราบ​ว่า​พระองค์​ไม่​สามารถ​เปลี่ยน​ใจ​ทุก​คน​ที่​ได้​ยิน​ข่าวสาร​ของ​พระองค์​ได้. (มัดธาย 10:32-39) พระองค์​ยัง​ตระหนัก​ด้วย​ว่า พระองค์​เอง​จะ​สามารถ​ไป​ถึง​ผู้​คน​จำนวน​จำกัด. ดัง​นั้น ด้วย​ความ​ฉลาด​สุขุม​พระองค์​ทรง​มอบหมาย​งาน​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก​แก่​เหล่า​ผู้​ติด​ตาม​พระองค์. (มัดธาย 28:18-20) พระองค์​ทรง​ยอม​รับ​ด้วย​ความ​เจียม​ตัว​ว่า​พวก​เขา​จะ “กระทำ​การ​ใหญ่​กว่า” พระองค์​เอง เพราะ​พวก​เขา​จะ​ไป​ถึง​ผู้​คน​มาก​กว่า​ใน​ขอบ​เขต​ที่​ใหญ่​กว่า​และ​ใน​ช่วง​เวลา​ที่​นาน​กว่า. (โยฮัน 14:12) พระ​เยซู​ทรง​ยอม​รับ​ด้วย​ว่า​พระองค์​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ. พระองค์​ยอม​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​จาก​เหล่า​ทูตสวรรค์​ซึ่ง​มา​ปรนนิบัติ​พระองค์​ใน​ถิ่น​ทุรกันดาร​และ​จาก​ทูตสวรรค์​องค์​ที่​มา​ชู​กำลัง​พระองค์​ใน​สวน​เกทเซมาเน. ใน​ชั่ว​ขณะ​ที่​พระองค์​มี​ความ​จำเป็น​มาก​ที่​สุด พระ​บุตร​ของ​พระเจ้า​ได้​ร้อง​เสียง​ดัง​เพื่อ​ขอ​ความ​ช่วยเหลือ.—มัดธาย 4:11; ลูกา 22:43; เฮ็บราย 5:7.

17 เรา​ต้อง​เจียม​ตัว​และ​คาด​หมาย​จาก​ตัว​เรา​เอง​ตาม​ความ​เป็น​จริง​ด้วย​เช่น​กัน. แน่นอน เรา​ต้องการ​ทำ​งาน​อย่าง​สุด​ชีวิต​และ​ทุ่มเท​ตัว​อย่าง​แข็งขัน​ใน​งาน​ประกาศ​และ​การ​ทำ​ให้​คน​เป็น​สาวก. (ลูกา 13:24; โกโลซาย 3:23) ใน​เวลา​เดียว​กัน เรา​ต้อง​จำ​ไว้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ไม่​ได้​เปรียบ​เทียบ​เรา​กับ​คน​อื่น และ​เรา​ก็​ไม่​ควร​ทำ​เช่น​นั้น​ด้วย. (ฆะลาเตีย 6:4) สติ​ปัญญา​ที่​ใช้​ได้​จริง​จะ​ช่วย​เรา​ตั้ง​เป้า​ที่​ทำ​ได้​จริง​อย่าง​ที่​สอดคล้อง​กับ​ความ​สามารถ​และ​สภาพการณ์​ของ​เรา. นอก​จาก​นี้ สติ​ปัญญา​จะ​ชี้​นำ​คน​เหล่า​นั้น​ที่​อยู่​ใน​ตำแหน่ง​ซึ่ง​มี​ความ​รับผิดชอบ​ให้​ยอม​รับ​ว่า​พวก​เขา​มี​ขีด​จำกัด​และ​จำเป็น​ต้อง​ได้​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​และ​การ​สนับสนุน​เป็น​ครั้ง​คราว. ความ​เจียม​ตัว​จะ​ทำ​ให้​คน​เช่น​นั้น​ยอม​รับ​ความ​ช่วยเหลือ​ด้วย​ความ​ขอบคุณ โดย​สำนึก​ว่า​พระ​ยะโฮวา​อาจ​ใช้​เพื่อน​ร่วม​ความ​เชื่อ​ให้​มา​เป็น “ผู้​ช่วย​เสริม​กำลัง” เขา.—โกโลซาย 4:11, ล.ม.

18, 19. (ก) อะไร​แสดง​ว่า​พระ​เยซู​ทรง​มี​เหตุ​ผล​และ​มอง​ใน​แง่​ดี​ใน​การ​ปฏิบัติ​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์? (ข) ทำไม​เรา​จึง​มี​เหตุ​ผล​ที่​ดี​ที่​จะ​มอง​ใน​แง่​ดี​และ​ปฏิบัติ​ต่อ​กัน​และ​กัน​อย่าง​มี​เหตุ​ผล และ​เรา​จะ​ทำ​เช่น​นี้​ได้​อย่าง​ไร?

18 ยาโกโบ 3:17 (ล.ม.) กล่าว​ว่า “สติ​ปัญญา​จาก​เบื้อง​บน​นั้น . . . มี​เหตุ​ผล.” พระ​เยซู​ทรง​มี​เหตุ​ผล​และ​มอง​ใน​แง่​ดี​ใน​การ​ปฏิบัติ​กับ​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์. พระองค์​ทรง​ทราบ​ดี​ถึง​ข้อ​บกพร่อง​ของ​พวก​เขา กระนั้น พระองค์​ทรง​มอง​หา​ส่วน​ดี​ใน​ตัว​พวก​เขา. (โยฮัน 1:47) พระองค์​ทรง​ทราบ​ว่า​พวก​เขา​จะ​ละ​ทิ้ง​พระองค์​ใน​คืน​ที่​ถูก​จับ​กุม แต่​พระองค์​ไม่​ได้​สงสัย​ความ​ภักดี​ของ​พวก​เขา. (มัดธาย 26:31-35; ลูกา 22:28-30) เปโตร​ปฏิเสธ​ถึง​สาม​ครั้ง​ว่า​ไม่​รู้​จัก​พระ​เยซู​เลย. กระนั้น พระ​เยซู​ทรง​อธิษฐาน​วิงวอน​เผื่อ​เปโตร​และ​แสดง​ความ​มั่น​ใจ​ใน​ความ​ซื่อ​สัตย์​ของ​ท่าน. (ลูกา 22:31-34) คืน​สุด​ท้าย​ที่​พระองค์​ทรง​มี​ชีวิต​อยู่​บน​แผ่นดิน​โลก ใน​คำ​อธิษฐาน​ถึง​พระ​บิดา พระ​เยซู​มิ​ได้​เพ่งเล็ง​ใน​ความ​ผิด​พลาด​ที่​เหล่า​สาวก​ของ​พระองค์​ได้​ทำ. แทน​ที่​จะ​เป็น​เช่น​นั้น พระองค์​ตรัส​ใน​แง่​ดี​เกี่ยว​กับ​แนว​ทาง​ของ​พวก​เขา​จน​กระทั่ง​คืน​นั้น​ว่า “เขา​ได้​ปฏิบัติ​ตาม​คำ​ของ​พระองค์.” (โยฮัน 17:6) ทั้ง ๆ ที่​พวก​เขา​ไม่​สมบูรณ์ พระองค์​ก็​ยัง​มอบ​หมาย​ให้​พวก​เขา​ทำ​งาน​ประกาศ​เรื่อง​ราชอาณาจักร​และ​สอน​คน​ให้​เป็น​สาวก. (มัดธาย 25:14, 15; ลูกา 12:42-44) การ​ที่​พระองค์​มี​ความ​มั่น​ใจ​และ​ความ​เชื่อ​ใน​ตัว​พวก​เขา​คง​ได้​เสริม​กำลัง​พวก​เขา​ให้​ทำ​งาน​ที่​พระองค์​ทรง​บัญชา​นั้น​จน​สำเร็จ​อย่าง​ไม่​ต้อง​สงสัย.

19 เหล่า​สาวก​ของ​พระ​เยซู​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​เลียน​แบบ​ตัว​อย่าง​ของ​พระองค์​ใน​เรื่อง​นี้. หาก​พระ​บุตร​ที่​สมบูรณ์​ของ​พระเจ้า​ทรง​อด​ทน​ใน​การ​ปฏิบัติ​กับ​เหล่า​สาวก​ที่​ไม่​สมบูรณ์​ของ​พระองค์ มาก​ยิ่ง​กว่า​นั้น​สัก​เท่า​ไร​ที่​เรา​ซึ่ง​เป็น​มนุษย์​ผิด​บาป​ควร​เป็น​คน​มี​เหตุ​ผล​ใน​การ​ปฏิบัติ​ต่อ​กัน​และ​กัน! (ฟิลิปปอย 4:5, ล.ม.) แทน​ที่​จะ​เพ่งเล็ง​ใน​ข้อ​บกพร่อง​ของ​เพื่อน​ร่วม​นมัสการ เรา​ควร​มอง​หา​ส่วน​ดี​ใน​ตัว​เขา. นับ​ว่า​ฉลาด​ที่​เรา​พึง​จำ​ไว้​ว่า​พระ​ยะโฮวา​ได้​ทรง​ชัก​นำ​พวก​เขา​มา. (โยฮัน 6:44) ถ้า​เช่น​นั้น แน่นอน​ว่า​พระองค์​คง​ต้อง​เห็น​ความ​ดี​ใน​ตัว​เขา​อยู่​บ้าง ดัง​นั้น เรา​ก็​น่า​จะ​เห็น​ความ​ดี​ใน​ตัว​เขา​เช่น​กัน. เจตคติ​ดัง​กล่าว​จะ​ช่วย​เรา​ไม่​เพียง​แต่ “มอง​ข้าม​การ​ล่วง​ละเมิด” แต่​มอง​หา​ส่วน​ดี​ของ​คน​อื่น​ที่​เรา​จะ​ชมเชย​ได้. (สุภาษิต 19:11, ล.ม.) เมื่อ​เรา​แสดง​ความ​มั่น​ใจ​ใน​ตัว​พี่​น้อง​ชาย​หญิง​คริสเตียน​ของ​เรา เรา​ช่วย​พวก​เขา​ให้​รับใช้​พระ​ยะโฮวา​สุด​ความ​สามารถ​และ​พบ​ความ​ยินดี​ใน​งาน​นั้น.—1 เธซะโลนิเก 5:11.

20. เรา​ควร​ทำ​ประการ​ใด​กับ​คลัง​ทรัพย์​อัน​ล้ำ​ค่า​แห่ง​สติ​ปัญญา​ที่​พบ​ใน​เรื่อง​ราว​ของ​พระ​ธรรม​กิตติคุณ และ​เพราะ​เหตุ​ใด?

20 เรื่อง​ราว​ใน​พระ​ธรรม​กิตติคุณ​ทั้ง​สี่​เกี่ยว​กับ​ชีวิต​และ​งาน​รับใช้​ของ​พระ​เยซู​เป็น​คลัง​ทรัพย์​อัน​ล้ำ​ค่า​แห่ง​สติ​ปัญญา​จริง ๆ! เรา​ควร​ทำ​ประการ​ใด​กับ​ของ​ประทาน​อัน​ประเมิน​ค่า​มิ​ได้​นี้? ใน​ตอน​สรุป​ของ​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา พระ​เยซู​ทรง​กระตุ้น​เตือน​เหล่า​ผู้​ฟัง​ที่​จะ​ไม่​เพียง​แต่​ได้​ยิน คำ​ตรัส​ที่​ฉลาด​สุขุม​ของ​พระองค์​เท่า​นั้น แต่​ให้​ประพฤติ​ตาม หรือ​นำ​คำ​เหล่า​นั้น​ไป​ใช้​ด้วย. (มัดธาย 7:24-27) การ​ให้​คำ​ตรัส​และ​การ​กระทำ​ที่​ฉลาด​สุขุม​ของ​พระ​เยซู​นวด​ปั้น​ความ​คิด, แรง​กระตุ้น, และ​การ​กระทำ​ของ​เรา​จะ​ช่วย​เรา​ให้​พบ​ชีวิต​ที่​ดี​ที่​สุด​เท่า​ที่​เป็น​ไป​ได้​ใน​ขณะ​นี้​และ​ช่วย​เรา​ให้​อยู่​บน​ทาง​สู่​ชีวิต​นิรันดร์. (มัดธาย 7:13, 14) แน่นอน​ไม่​มี​แนว​ทาง​ใด​ที่​เรา​ปฏิบัติ​ได้​ซึ่ง​จะ​ดี​หรือ​ฉลาด​สุขุม​ไป​กว่า​นี้!

^ วรรค 2 คำ​บรรยาย​ของ​พระ​เยซู​ใน​วัน​นั้น​ได้​มา​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ว่า​คำ​เทศน์​บน​ภูเขา. ดัง​ที่​บันทึก​ใน​มัดธาย 5:3–7:27 คำ​เทศน์​นี้​มี 107 ข้อ​และ​คง​จะ​ใช้​เวลา​ราว ๆ 20 นาที​ใน​การ​บรรยาย.

^ วรรค 7 ดู​เหมือน​ว่า เมื่อ ‘ท้องฟ้า​แหวก​ออก’ ตอน​ที่​พระ​เยซู​รับ​บัพติสมา​นั้น ความ​ทรง​จำ​ของ​พระองค์​เกี่ยว​กับ​การ​ดำรง​อยู่​ก่อน​มา​เป็น​มนุษย์​ได้​กลับ​คืน​มา​สู่​พระองค์.—มัดธาย 3:13-17.