บท 28
“จนถึงสุดขอบโลก”
พยานพระยะโฮวาได้ทำงานประกาศต่อไป ซึ่งเป็นงานที่สาวกของพระเยซูคริสต์ได้เริ่มไว้เมื่อ 2,000 กว่าปีมาแล้ว
1. มีอะไรที่คล้ายกันระหว่างคริสเตียนในยุคแรกกับพยานพระยะโฮวาในทุกวันนี้?
พวกเขาประกาศด้วยความกระตือรือร้น พวกเขาถ่อมและยอมรับการช่วยเหลือและการชี้นำจากพลังบริสุทธิ์ และเมื่อถูกข่มเหง พวกเขาก็ไม่ได้เลิกประกาศ นี่ทำให้พระเจ้าอวยพรพวกเขาอย่างมาก เรื่องทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจริงกับคริสเตียนในยุคแรก และก็เกิดขึ้นจริงกับพยานพระยะโฮวาในทุกวันนี้ด้วยเหมือนกัน
2, 3. ทำไมหนังสือกิจการถึงเป็นหนังสือที่พิเศษ?
2 คุณจะได้กำลังใจและมีความเชื่อเข้มแข็งมากขึ้นแน่ ๆ เมื่อได้อ่านหนังสือกิจการของอัครสาวก หนังสือนี้มีบันทึกเรื่องราวและเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้นหลายเรื่อง หนังสือเล่มนี้พิเศษมาก เพราะเป็นเล่มเดียวที่พระเจ้าดลใจให้เขียนเกี่ยวกับสิ่งที่สาวกของพระเยซูในศตวรรษแรกทำหลังจากที่พระเยซูกลับไปสวรรค์แล้ว
3 หนังสือกิจการมีชื่อผู้คนถึง 95 คน พวกเขามาจาก 32 ดินแดน 54 เมือง และเกาะอีก 9 เกาะ หนังสือนี้บันทึกเรื่องราวที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับผู้คนหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา ๆ คนนับถือศาสนาเท็จและนักการเมืองที่เย่อหยิ่ง และพวกผู้ต่อต้านที่ใช้ความรุนแรง แต่บันทึกที่สำคัญที่สุดคือ เรื่องราวเกี่ยวกับพี่น้องชายหญิงของคุณที่เคยมีชีวิตอยู่ในศตวรรษแรก พี่น้องเหล่านั้นเจอปัญหาหลายอย่างในชีวิต แต่พวกเขาก็ยังประกาศข่าวดีด้วยความกระตือรือร้น
4. ทำไมเราถึงรู้สึกใกล้ชิดกับผู้คนที่เคยมีชีวิตอยู่ในสมัยก่อน เช่น อัครสาวกเปาโล ทาบิธา และพยานที่ซื่อสัตย์คนอื่น ๆ?
4 ตอนนี้ก็ผ่านมาเกือบ 2,000 ปีแล้วเมื่อคิดถึงเรื่องราวของผู้คนในหนังสือกิจการ ไม่ว่าจะเป็นอัครสาวกเปโตรกับเปาโลผู้มีความกระตือรือร้น ลูกาหมอที่พี่น้องรัก บาร์นาบัสพี่น้องที่มีน้ำใจ สเทเฟนผู้กล้าหาญ ทาบิธาพี่น้องหญิงที่ใจดี ลิเดียผู้มีน้ำใจต้อนรับแขก และอีกหลาย ๆ คนที่เป็นพยานที่ซื่อสัตย์ ถึงแม้ว่าพวกเขาเคยมีชีวิตอยู่นานมาแล้ว แต่เราก็รู้สึกใกล้ชิดกับพวกเขาได้ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น? ก็เพราะเราได้รับงานมอบหมายในการสอนคนให้เป็นสาวกเหมือนกับพวกเขา (มธ. 28:19, 20) นับว่าเป็นเกียรติมากจริง ๆ ที่เราได้มีส่วนร่วมในงานนี้
5. สาวกของพระเยซูในยุคแรกเริ่มทำงานประกาศที่ไหนบ้าง?
5 ขอนึกถึงงานที่พระเยซูได้มอบหมายให้พวกสาวก ท่านบอกว่า “พวกคุณจะได้รับพลังจากพระเจ้า พลังบริสุทธิ์นั้นจะอยู่กับพวกคุณ และพวกคุณจะเป็นพยานของผมในกรุงเยรูซาเล็ม และทั่วแคว้นยูเดียกับแคว้นสะมาเรีย และจนถึงสุดขอบโลก” (กจ. 1:8) ตอนแรก พลังบริสุทธิ์ให้กำลังกับเหล่าสาวกเพื่อจะประกาศ “ในกรุงเยรูซาเล็ม” (กจ. 1:1–8:3) ต่อจากนั้น ด้วยการชี้นำของพลังบริสุทธิ์ พวกเขาประกาศ “ทั่วแคว้นยูเดียกับแคว้นสะมาเรีย” (กจ. 8:4–13:3) และต่อมา พวกเขาก็เริ่มประกาศข่าวดีไป “จนถึงสุดขอบโลก”—กจ. 13:4–28:31
6, 7. ตอนที่ทำงานประกาศ เรามีอะไรบ้างที่พวกพี่น้องในศตวรรษแรกไม่มี?
6 พี่น้องของคุณในศตวรรษแรกไม่มีคัมภีร์ไบเบิลครบชุดเพื่อใช้ในงานประกาศ กว่าจะมีหนังสือข่าวดีที่เขียนโดยมัทธิวก็ต้องรอจนถึงประมาณปี ค.ศ. 41 หรือหลังจากนั้น ถึงแม้จดหมายของเปาโลบางฉบับเขียนก่อนที่หนังสือกิจการจะเขียนเสร็จในช่วงประมาณปี ค.ศ. 61 แต่คริสเตียนในยุคแรกไม่มีทั้งคัมภีร์ไบเบิลครบชุดสำหรับใช้ส่วนตัว และไม่มีสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ที่จะให้กับคนที่สนใจ ก่อนเข้ามาเป็นสาวกของพระเยซู คริสเตียนชาวยิวหลายคนได้ฟังการอ่านพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรูในที่ประชุมของชาวยิว (2 คร. 3:14-16) แต่ถึงแม้พวกเขาจะได้ฟังการอ่านพระคัมภีร์ พวกเขาก็ยังต้องขยันศึกษาพระคัมภีร์ เพราะตอนที่ไปประกาศ พวกเขาต้องจำข้อคัมภีร์ไว้เพื่อจะบอกกับคนอื่น
7 ในปัจจุบัน พวกเราส่วนใหญ่มีคัมภีร์ไบเบิลสำหรับใช้ส่วนตัว และยังมีสิ่งพิมพ์มากมายที่อธิบายความรู้ในคัมภีร์ไบเบิล และพวกเรากำลังสอนคนให้เป็นสาวกโดยการประกาศข่าวดีหลายภาษาใน 240 ดินแดน
ได้รับพลังจากพลังบริสุทธิ์
8, 9. (ก) พลังบริสุทธิ์ช่วยเหล่าสาวกของพระเยซูให้ทำอะไรได้? (ข) ทาสที่ซื่อสัตย์ได้ผลิตอะไรโดยความช่วยเหลือจากพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้า?
8 ตอนที่พระเยซูมอบหมายให้พวกสาวกประกาศ ท่านบอกกับพวกเขาว่า “พวกคุณจะได้รับพลังจากพระเจ้า” พลังบริสุทธิ์หรือพลังที่พระเจ้าใช้ทำสิ่งต่าง ๆ จะช่วยสาวกของพระเยซูให้ประกาศไปทั่วโลก โดยทางพลังบริสุทธิ์ เปโตรกับเปาโลได้รักษาคนป่วยให้หาย ขับไล่ปีศาจ และถึงกับปลุกคนตายให้ฟื้น แต่ถึงอย่างนั้น พลังบริสุทธิ์ช่วยพวกเขาให้ทำบางอย่างที่สำคัญมากกว่านั้น พลังบริสุทธิ์ช่วยให้อัครสาวกและสาวกคนอื่น ๆ สามารถสอนความรู้ที่ถูกต้องซึ่งทำให้ผู้คนได้ชีวิตตลอดไป—ยน. 17:3
9 ในวันเพ็นเทคอสต์ ค.ศ. 33 เหล่าสาวกของพระเยซูได้พูด “เป็นภาษาต่าง ๆ ตามที่พลังนั้นให้พูด” ดังนั้น พวกเขาเลยสามารถประกาศความจริงเกี่ยวกับ “สิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ ของพระเจ้า” ได้ในหลายภาษา (กจ. 2:1-4, 11) ในทุกวันนี้ เราไม่ได้พูดภาษาต่าง ๆ โดยการอัศจรรย์ แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยความช่วยเหลือจากพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้า ทาสที่ซื่อสัตย์ได้ผลิตสิ่งพิมพ์เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลในหลายภาษา ตัวอย่างเช่น มีการพิมพ์หอสังเกตการณ์กับตื่นเถิด!หลายล้านเล่มทุกเดือน และในเว็บไซต์ jw.org ของเราก็มีสิ่งพิมพ์ที่เกี่ยวกับคัมภีร์ไบเบิลและวีดีโอต่าง ๆ มากกว่า 1,000 ภาษา ทั้งหมดนี้ทำให้เราสามารถประกาศ “สิ่งมหัศจรรย์ต่าง ๆ ของพระเจ้า” กับคนทุกประเทศ ทุกตระกูล และทุกภาษา—วว. 7:9
10. ตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา เกิดอะไรขึ้นเกี่ยวกับการแปลคัมภีร์ไบเบิล?
10 ตั้งแต่ปี 1989 เป็นต้นมา ทาสที่ซื่อสัตย์ได้ให้ความสำคัญเป็นพิเศษในการแปลคัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลโลกใหม่ออกไปในหลายภาษา คัมภีร์ไบเบิลฉบับนี้ได้รับการแปลไปแล้วมากกว่า 200 ภาษา และมีการพิมพ์คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลนี้ไปแล้วมากกว่า 240 ล้านเล่ม และยังมีอีกหลายเล่มที่กำลังพิมพ์อยู่ เฉพาะพระเจ้าและพลังบริสุทธิ์ของพระองค์เท่านั้นที่สามารถทำให้ความพยายามนี้ประสบความสำเร็จ
11. มีการแปลสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ของพยานพระยะโฮวายังไง?
11 มีอาสาสมัครของพยานพระยะโฮวาหลายพันคนทำงานแปลอยู่ใน 150 กว่าประเทศและดินแดน เรื่องนี้ไม่ควรทำให้เราแปลกใจ เพราะไม่มีองค์การไหนบนโลกอีกแล้วที่ได้รับการชี้นำจากพลังบริสุทธิ์ให้ประกาศอย่างละเอียดถี่ถ้วนไปทั่วโลกในเรื่องพระยะโฮวาพระเจ้า กษัตริย์เมสสิยาห์ และรัฐบาลของพระเจ้าที่ได้ปกครองแล้วในสวรรค์—กจ. 28:23
12. เปาโลกับคริสเตียนคนอื่น ๆ สามารถทำงานประกาศได้ยังไง?
12 ตอนที่เปาโลประกาศกับชาวยิวและคนต่างชาติที่เมืองอันทิโอกในแคว้นปิสิเดีย “ทุกคนที่เต็มใจตอบรับความจริงซึ่งทำให้ได้ชีวิตตลอดไปก็เข้ามาเป็นสาวก” (กจ. 13:48) ในตอนท้ายของหนังสือกิจการ ลูกาบันทึกว่า เปาโล “ประกาศเรื่องรัฐบาลของพระเจ้า . . . อย่างกล้าหาญและมั่นใจ โดยไม่มีใครขัดขวาง” (กจ. 28:31) อัครสาวกเปาโลประกาศที่ไหน? เปาโลประกาศที่กรุงโรมนั่นแหละซึ่งเป็นเมืองหลวงของมหาอำนาจโลก ไม่ว่าสาวกในยุคแรกของพระเยซูจะทำงานประกาศโดยการบรรยายหรือใช้วิธีอื่น แต่งานทั้งหมดที่พวกเขาทำก็ได้รับการช่วยเหลือและการชี้นำจากพลังบริสุทธิ์
พวกเราอดทนทั้ง ๆ ที่เจอการข่มเหง
13. ทำไมเราควรอธิษฐานเมื่อถูกข่มเหง?
13 ตอนที่สาวกในยุคแรกของพระเยซูถูกข่มเหง พวกเขาอ้อนวอนพระยะโฮวา ขอพระองค์ช่วยพวกเขาให้มีความกล้า ผลเป็นยังไง? พวกเขาก็เต็มไปด้วยพลังบริสุทธิ์ และได้รับกำลังเพื่อจะประกาศถ้อยคำของพระเจ้าด้วยความกล้าหาญ (กจ. 4:18-31) เราในทุกวันนี้ก็เหมือนกัน เราอธิษฐานขอสติปัญญาและกำลังเพื่อจะประกาศต่อไปทั้ง ๆ ที่มีการข่มเหง (ยก. 1:2-8) เพราะพระเจ้าช่วยเราโดยทางพลังบริสุทธิ์ของพระองค์ เราเลยสามารถประกาศต่อไปได้ ไม่มีอะไรจะทำให้เราหยุดประกาศได้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อต้านหรือการข่มเหงอย่างรุนแรง ดังนั้น เมื่อเราถูกข่มเหง เราต้องอธิษฐานขอพลังบริสุทธิ์ ขอสติปัญญา และขอให้เรามีความกล้าเพื่อจะประกาศข่าวดี—ลก. 11:13
14, 15. (ก) “การข่มเหงหลังจากที่สเทเฟนถูกฆ่า” เกิดผลยังไง? (ข) ในสมัยของเรา ผู้คนจำนวนมากในไซบีเรียได้เรียนความจริงโดยวิธีไหน?
14 สเทเฟนได้ประกาศอย่างกล้าหาญก่อนถูกพวกศัตรูฆ่า (กจ. 6:5; 7:54-60) ในตอนที่เกิด “การข่มเหง . . . อย่างรุนแรง” นั้น สาวกทั้งหมดยกเว้นพวกอัครสาวก ได้กระจัดกระจายไปทั่วแคว้นยูเดียและสะมาเรีย แต่ถึงอย่างนั้น พวกเขาก็ไม่หยุดประกาศ ตอนนั้นฟีลิปไปที่สะมาเรียเพื่อ “ประกาศเรื่องพระคริสต์” และเขาได้ช่วยหลายคนให้เข้ามาเป็นสาวก (กจ. 8:1-8, 14, 15, 25) ยิ่งกว่านั้น คัมภีร์ไบเบิลบอกเราว่า “สาวกที่กระจัดกระจายไปในช่วงที่มีการข่มเหงหลังจากที่สเทเฟนถูกฆ่า ก็เดินทางไปไกลถึงฟีนิเซีย เกาะไซปรัส และเมืองอันทิโอก พวกเขาประกาศกับคนยิวเท่านั้น แต่ในเมืองอันทิโอกนั้น มีสาวกบางคนในกลุ่มนั้นได้เริ่มพูดคุยกับผู้คนที่พูดภาษากรีกและประกาศข่าวดีเรื่องพระเยซูผู้เป็นนาย สาวกพวกนี้มาจากเกาะไซปรัสและเมืองไซรีน” (กจ. 11:19, 20) ในตอนนั้น การข่มเหงกลับช่วยให้ข่าวเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าแพร่ไปทั่ว
15 ในสมัยของเราก็มีเหตุการณ์คล้ายกันเกิดขึ้นในอดีตสหภาพโซเวียต โดยเฉพาะในช่วงทศวรรษ 1950 พยานพระยะโฮวาหลายพันคนได้ถูกเนรเทศไปไซบีเรีย นี่ทำให้พวกเขากระจัดกระจายไปอยู่ตามชุมชนต่าง ๆ และพวกเขาก็ประกาศข่าวดีไปเรื่อย ๆ ในดินแดนที่กว้างใหญ่นี้ มันเป็นไปไม่ได้เลยที่พยานฯ จำนวนมากขนาดนั้นจะมีเงินมากพอเพื่อจะเดินทางไกลถึง 10,000 กิโลเมตรไปประกาศข่าวดี แต่รัฐบาลเองที่เป็นคนส่งพวกเขาข้ามประเทศไป เหมือนกับที่พี่น้องชายคนหนึ่งบอกไว้ว่า “พวกผู้มีอำนาจกลายเป็นผู้ทำให้คนที่จริงใจหลายพันคนในไซบีเรียได้มารู้จักความจริง”
พระยะโฮวาอวยพรพวกเราอย่างมาก
16, 17. หนังสือกิจการให้หลักฐานอะไรบ้างที่แสดงว่าพระยะโฮวาอวยพรงานประกาศ?
16 เห็นได้ชัดว่าพระยะโฮวาอวยพรคริสเตียนในศตวรรษแรก เปาโลกับคนอื่น ๆ ปลูกและรดน้ำ “แต่พระเจ้าทำให้เติบโต” (1 คร. 3:5, 6) บันทึกในหนังสือกิจการทำให้เราเห็นว่ามีคนมากมายเข้ามาเป็นผู้รับใช้ของพระยะโฮวา ซึ่งนี่เป็นหลักฐานว่าพระยะโฮวาอวยพรงานประกาศ ตัวอย่างเช่น คัมภีร์ไบเบิลบอกว่า “คำสอนของพระเจ้าแพร่ออกไป พวกสาวกก็เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ในกรุงเยรูซาเล็ม” (กจ. 6:7) เนื่องจากสาวกประกาศมากขึ้นเรื่อย ๆ ในหลายที่ นี่ทำให้ “ประชาคมทั่วแคว้นยูเดีย กาลิลี และสะมาเรีย จึงมีช่วงเวลาที่สงบสุขช่วงหนึ่ง และประชาคมก็เข้มแข็งขึ้น พวกเขาใช้ชีวิตตามแนวทางของพระยะโฮวา และได้รับกำลังใจจากพลังบริสุทธิ์ ทำให้ประชาคมมีคนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ”—กจ. 9:31
17 ในเมืองอันทิโอกของซีเรีย ทั้งชาวยิวกับคนที่พูดภาษากรีกได้ยินความจริงจากพวกพยานที่กล้าหาญ บันทึกเรื่องราวบอกว่า “พระยะโฮวาอยู่กับพวกเขา ทำให้คนมากมายเข้ามาเชื่อและเป็นสาวกของผู้เป็นนาย” (กจ. 11:21) หนังสือกิจการยังบอกต่ออีกว่า ในเมืองนั้น “คำสอนของพระยะโฮวาแพร่ออกไป” (กจ. 12:24) และโดยการที่เปาโลกับคนอื่น ๆ ประกาศอย่างถี่ถ้วนกับคนต่างชาติ นี่เลยทำให้ “คำสอนของพระยะโฮวาแพร่ออกไปอย่างน่าทึ่งและไม่มีอะไรขัดขวางได้”—กจ. 19:20
18, 19. (ก) ทำไมเราถึงรู้ว่าพระยะโฮวาอยู่กับเรา? (ข) ขอยกตัวอย่างที่แสดงว่าพระยะโฮวาช่วยเหลือประชาชนของพระองค์
18 เรามั่นใจว่าพระยะโฮวาก็อยู่กับพวกเราด้วยเหมือนกัน นี่เป็นเหตุผลที่ในทุกวันนี้มีหลายคนเข้ามาเชื่อ อุทิศตัวและรับบัพติศมา ยิ่งกว่านั้น เพราะพระยะโฮวาช่วยเรา เราถึงสามารถอดทนกับการต่อต้านอย่างหนัก การข่มเหงที่รุนแรง และยังประกาศต่อ ๆ ไปได้เหมือนกับที่เปาโลและคริสเตียนในยุคแรกได้ทำ (กจ. 14:19-21) พระยะโฮวาพระเจ้าจะช่วยเราเสมอ พระองค์จะใช้ “แขนอันมั่นคงนิรันดร์” ของพระองค์ช่วยเหลือเราอย่างแน่นอนตอนที่เราเจอการทดสอบ (ฉธบ. 33:27) ขอเราจำไว้ว่า “พระยะโฮวาจะไม่ทิ้งประชาชนของพระองค์ เพราะเห็นแก่ชื่ออันยิ่งใหญ่ของพระองค์”—1 ซม. 12:22; สด. 94:14
19 ให้เรามาดูตัวอย่างหนึ่งด้วยกันที่แสดงให้เห็นว่าพระยะโฮวาคอยช่วยเหลือผู้รับใช้ของพระองค์ เนื่องจากพี่น้องฮารัลด์ แอบต์ได้ทำงานประกาศต่อ ๆ ไป พวกนาซีจึงส่งเขาไปที่ค่ายกักกันซัคเซนเฮาเซนระหว่างช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และในเดือนพฤษภาคม 1942 พวกเกสตาโป ไปที่บ้านของเอลซา ภรรยาของเขา และเอาลูกสาวตัวน้อยไปจากเธอแล้วก็จับเอลซาไป จากนั้น เธอถูกส่งตัวไปค่ายต่าง ๆ หลายค่าย พี่น้องเอลซาเล่าว่า “การที่ต้องอยู่ในค่ายกักกันของเยอรมนีหลายปีสอนบทเรียนที่ยอดเยี่ยมกับฉัน บทเรียนก็คือ พลังบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาสามารถช่วยคุณให้มีกำลังเข้มแข็งในตอนที่คุณต้องเจอกับการทดสอบที่หนักมาก ก่อนที่ฉันจะถูกจับ ฉันได้อ่านจดหมายของพี่น้องหญิงคนหนึ่งที่บอกว่า ตอนที่ถูกทดสอบอย่างหนัก พลังบริสุทธิ์ของพระยะโฮวาจะทำให้เรามีความสงบใจ ตอนนั้นฉันคิดว่าเธอคงต้องพูดเกินจริงไปบ้าง แต่เมื่อฉันเจอเรื่องนี้กับตัวเอง ฉันก็ได้มารู้ว่าเธอพูดถูก มันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ คุณอาจจะไม่เข้าใจเต็มที่ถ้าคุณยังไม่เจอกับเหตุการณ์แบบนี้ แต่สำหรับฉันมันเป็นอย่างนั้นจริง ๆ”
ประกาศอย่างละเอียดถี่ถ้วนต่อ ๆ ไป!
20. เปาโลทำอะไรตอนที่ถูกกักตัวให้อยู่แต่ในบ้าน และเรื่องนี้อาจให้กำลังใจพี่น้องชายหญิงของเราบางคนยังไง?
20 หนังสือกิจการจบลงด้วยข้อความที่บอกว่า เปาโล “ประกาศเรื่องรัฐบาลของพระเจ้า” ด้วยความกระตือรือร้น (กจ. 28:31) เนื่องจากเปาโลถูกกักตัวให้อยู่แต่ในบ้าน เขาจึงไม่มีอิสระที่จะไปประกาศตามบ้านในกรุงโรม แต่ถึงอย่างนั้น เปาโลก็ได้ประกาศต่อ ๆ ไปกับทุกคนที่มาหาเขา ในทุกวันนี้ พี่น้องชายหญิงที่รักของเราบางคนก็ต้องอยู่แต่ในบ้าน บางคนอาจต้องนอนติดเตียง หรืออยู่ในสถานพยาบาลเนื่องจากอายุมาก เจ็บป่วย หรือทุพพลภาพ แต่ความรักที่พวกเขามีต่อพระยะโฮวาและต่องานประกาศก็ไม่ได้น้อยลงเลย ขอเราอธิษฐานเพื่อพี่น้องเหล่านี้ ขอพระยะโฮวาช่วยให้พี่น้องของเราได้เจอกับคนที่อยากเรียนรู้เรื่องพระยะโฮวาและความประสงค์ที่ยอดเยี่ยมของพระองค์
21. ทำไมเราควรประกาศโดยนึกถึงความเร่งด่วนอยู่เสมอ?
21 พวกเราส่วนใหญ่สามารถไปประกาศตามบ้านและทำงานสอนคนให้เป็นสาวกในรูปแบบอื่น ๆ ได้ ดังนั้น ขอให้เราแต่ละคนทำทุกสิ่งเท่าที่จะทำได้เพื่อทำหน้าที่ของเราในฐานะผู้ประกาศเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าให้สำเร็จ และขอให้เรามีส่วนร่วมในการประกาศไป “จนสุดขอบโลก” เรารู้ดีว่างานนี้เป็นงานเร่งด่วนที่เราต้องทำในตอนนี้ เพราะเราเห็น “สัญญาณ” ชัดเจนว่าเรากำลังอยู่ในสมัยสุดท้ายจริง ๆ (มธ. 24:3-14) ขอให้คุณใช้เวลาที่มีอย่างคุ้มค่าเพราะงานประกาศเป็นเรื่องเร่งด่วน และเรามี “งานของผู้เป็นนายที่มีให้ทำมากมาย”—1 คร. 15:58
22. เราควรตั้งใจที่จะทำอะไรตอนที่กำลังคอยวันของพระยะโฮวา?
22 ตอนที่กำลังคอยให้ “วันอันยิ่งใหญ่และน่ากลัวของพระยะโฮวา . . . มาถึง” ขอให้เราตั้งใจประกาศต่อไปอย่างซื่อสัตย์และกล้าหาญ (ยอล. 2:31) เรายังมีโอกาสได้เจอหลายคนที่เป็นเหมือนชาวเมืองเบโรอาที่ “เต็มใจยอมรับคำสอนของพระเจ้าและอยากเรียนรู้” (กจ. 17:10, 11) ดังนั้น ขอให้เราประกาศต่อ ๆ ไป ทำงานนี้ให้สำเร็จ และเราจะเหมือนกับได้ยินคำพูดของพระเยซูที่บอกว่า “ดีมาก คุณเป็นทาสที่ดีและซื่อสัตย์” (มธ. 25:23) ถ้าเราทำงานสอนคนให้เป็นสาวกในทุกวันนี้ต่อ ๆ ไปด้วยความกระตือรือร้นและซื่อสัตย์ต่อพระยะโฮวา เราก็มั่นใจได้เลยว่า เราจะมีความสุขตลอดไปที่ได้มีสิทธิพิเศษในการประกาศเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าอย่างละเอียดถี่ถ้วน