บท 20
งานรับใช้เพื่อบรรเทาทุกข์
1, 2. (ก) คริสเตียนในแคว้นยูเดียเจอปัญหาอะไร? (ข) คริสเตียนในแคว้นยูเดียรู้สึกซาบซึ้งในเรื่องอะไร?
ประมาณปี ค.ศ. 46 เกิดกันดารอาหารอย่างหนักในแคว้นยูเดีย อาหารมีน้อยและราคาก็สูงลิ่วจนสาวกของพระคริสต์ที่เป็นชาวยิวในแคว้นนี้ไม่มีเงินจะซื้อ พวกจึงหิวและต้องทนกับความอดอยาก แต่แล้วพระยะโฮวาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยและปกป้องพวกเขาในแบบที่สาวกคนอื่น ๆ ไม่เคยได้รับมาก่อน ให้เรามาดูว่าเกิดอะไรขึ้นในตอนนั้น
2 เมื่อรู้ว่าคริสเตียนชาวยิวในกรุงเยรูซาเลมและในแคว้นยูเดียกำลังเดือดร้อนอย่างหนัก คริสเตียนทั้งชาวยิวและชาวต่างชาติในเมืองอันทิโอกแคว้นซีเรียได้รวบรวมเงินเพื่อช่วยเพื่อนคริสเตียน จากนั้น พวกเขาเลือกพี่น้องที่มีความรับผิดชอบสองคนคือบาร์นาบัสกับเซาโล ให้นำสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปมอบให้พวกผู้ปกครองประชาคมในกรุงเยรูซาเลม (อ่านกิจการ 11:27-30; 12:25) ลองนึกดูสิว่า พี่น้องในยูเดียจะรู้สึกซาบซึ้งขนาดไหนเมื่อเห็นพี่น้องในอันทิโอกทำสิ่งที่สะท้อนถึงความรักจากใจของพวกเขา!
3. (ก) ประชาชนของพระเจ้าในสมัยปัจจุบันยังทำตามแบบอย่างของคริสเตียนรุ่นแรกในเมืองอันทิโอกอย่างไร? (ดูกรอบ “ งานบรรเทาทุกข์ครั้งใหญ่ครั้งแรกที่เราทำในสมัยปัจจุบัน”) (ข) มีคำถามอะไรที่เราจะพิจารณาด้วยกันในบทนี้?
3 ย้อนไปในศตวรรษแรก นี่เป็นเหตุการณ์แรกที่มีบันทึกไว้ในคัมภีร์ไบเบิลเกี่ยวกับการส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ไปช่วยเพื่อนคริสเตียนที่อยู่ต่างแดน พวกเราในทุกวันนี้ก็ทำตามแบบอย่างของพี่น้องในเมืองอันทิโอกด้วย เมื่อเรารู้ว่าพี่น้องในที่อื่น ๆ ประสบภัยพิบัติหรือเผชิญการทดสอบความเชื่อ เราก็พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ a เพื่อจะเข้าใจว่างานบรรเทาทุกข์เกี่ยวข้องกับงานรับใช้แบบอื่น ๆ อย่างไร ให้เรามาดูคำถาม 3 ข้อที่เกี่ยวกับงานนี้คือ ทำไมเรามองว่างานบรรเทาทุกข์เป็นงานรับใช้อย่างหนึ่ง? จุดมุ่งหมายของงานบรรเทาทุกข์คืออะไร? ตัวเราเองจะได้รับประโยชน์อย่างไรจากงานรับใช้เพื่อบรรเทาทุกข์?
ทำไมงานบรรเทาทุกข์จึงถือว่าเป็น “การรับใช้อันศักดิ์สิทธิ์”
4. เปาโลบอกอะไรกับพี่น้องในเมืองโครินท์เกี่ยวกับงานรับใช้ของคริสเตียน?
4 ในจดหมายฉบับที่ 2 ที่เปาโลเขียนถึงประชาคมโครินท์ เขาอธิบายว่าคริสเตียนมีงานรับใช้สองอย่าง แม้เปาโลจะเขียนถึงคริสเตียนผู้ถูกเจิมโดยตรง แต่คำแนะนำของเขาก็ใช้กับ “แกะอื่น” ของพระคริสต์ในสมัยนี้ได้ด้วย (โย. 10:16) งานรับใช้อย่างหนึ่งของเราคือ “งานรับใช้เกี่ยวกับการคืนดี” ซึ่งก็คืองานประกาศและงานสอน (2 โค. 5:18-20; 1 ติโม. 2:3-6) ส่วนงานรับใช้อีกอย่างหนึ่งที่เปาโลพูดถึงก็เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราทำเพื่อพี่น้อง โดยเฉพาะ “การช่วยเหลือเหล่าผู้บริสุทธิ์” หรืองานรับใช้เพื่อบรรเทาทุกข์ (2 โค. 8:4) ในวลีที่ ว่า “งานรับใช้ เกี่ยวกับการคืนดี” และ “การช่วยเหลือ เหล่าผู้บริสุทธิ์” คำว่า “งานรับใช้” และ “การช่วยเหลือ” แปลมาจากคำว่าดีอาโคนีอา ในภาษากรีก ให้เรามาดูว่าทำไมเรื่องนี้สำคัญ
5. ทำไมเปาโลถือว่างานบรรเทาทุกข์เป็นงานรับใช้ที่สำคัญ?
5 การใช้คำภาษากรีกคำเดียวกันสำหรับงานรับใช้ทั้งสองอย่างนี้ เท่ากับว่าเปาโลได้รวมงานบรรเทาทุกข์ไว้กับงานรับใช้แบบอื่น ๆ ในประชาคมคริสเตียน เปาโลได้กล่าวในตอนต้นว่า “การรับใช้มีหลายอย่าง แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าองค์เดียวกัน การดำเนินงานมีหลายอย่าง แต่ . . . พระวิญญาณเดียวกัน นั้นแหละที่ดำเนินงานทั้งหมดนี้” (1 โค. 12:4-6, 11) ที่จริง เปาโลพูดถึงงานรับใช้ต่าง ๆ ในประชาคมคริสเตียนว่าเป็นงาน “ศักดิ์สิทธิ์” b (โรม 12:1, 6-8) ไม่แปลกที่เปาโลรู้สึกว่าการใช้เวลาส่วนหนึ่งเพื่อ “ช่วยเหลือเหล่าผู้บริสุทธิ์” เป็นสิ่งที่ควรทำ!—โรม 15:25, 26
6. (ก) ตามที่เปาโลอธิบาย ทำไมงานบรรเทาทุกข์จึงถือว่าเป็นส่วนของการนมัสการพระเจ้า? (ข) งานบรรเทาทุกข์ที่เราทำกันอยู่ทั่วโลกในสมัยนี้เป็นอย่างไร? ขอให้อธิบาย (ดูกรอบ “ เมื่อเกิดภัยพิบัติ!”)
6 เปาโลช่วยพี่น้องในเมืองโครินท์ให้เห็นว่าทำไมงานบรรเทาทุกข์ถือเป็นส่วนของงานรับใช้และเป็นการนมัสการพระยะโฮวา เขาให้เหตุผลว่า คริสเตียนช่วยบรรเทาทุกข์เพราะพวกเขา “ยอมเชื่อฟังข่าวดีเรื่องพระคริสต์” (2 โค. 9:13) ความต้องการที่จะทำตามคำสอนของพระคริสต์จึงเป็นแรงกระตุ้นให้คริสเตียนช่วยเหลือกัน เปาโลบอกว่า ความกรุณาที่พี่น้องแสดงต่อกัน จริง ๆ แล้วก็เป็นการแสดง ‘ความกรุณาอันใหญ่หลวงที่ได้รับจากพระเจ้าอย่างล้นเหลือ’ (2 โค. 9:14; 1 เป. 4:10) เมื่อพูดถึงการรับใช้พี่น้องที่ต้องการความช่วยเหลือ ซึ่งรวมถึงงานบรรเทาทุกข์ด้วย หอสังเกตการณ์ 1 ธันวาคม 1975 บอกว่า “เราควรเชื่อมั่นว่าพระยะโฮวาพระเจ้าและพระเยซูคริสต์ลูกของพระองค์จะให้ความสำคัญกับงานรับใช้แบบนี้จริง ๆ” ใช่แล้ว งานบรรเทาทุกข์เป็นงานรับใช้ศักดิ์สิทธิ์แบบหนึ่งด้วย—โรม 12:1, 7; 2 โค. 8:7; ฮีบรู 13:16
งานบรรเทาทุกข์ที่มีวัตถุประสงค์ชัดเจน
7, 8. วัตถุประสงค์ข้อแรกของงานบรรเทาทุกข์คืออะไร? ขอให้อธิบาย
7 งานบรรเทาทุกข์ของเรามีวัตถุประสงค์อะไร? เปาโลพูดถึงคำถามนี้ในจดหมายฉบับที่ 2 ที่เขาเขียนไปถึงพี่น้องในเมืองโครินท์ (อ่าน 2 โครินท์ 9:11-15) ในข้อคัมภีร์นี้ เปาโลเน้นว่าการมีส่วนร่วมใน “งานรับใช้เพื่อประโยชน์ของผู้อื่น” หรืองานบรรเทาทุกข์ ทำให้เราบรรลุวัตถุประสงค์สำคัญ 3 ข้อ ตอนนี้ให้เรามาดูว่าวัตถุประสงค์เหล่านั้นมีอะไรบ้าง
8 ข้อแรก เมื่อเราทำงานรับใช้เพื่อบรรเทาทุกข์ พระยะโฮวาก็ได้รับคำสรรเสริญ สังเกตว่าใน 2 โครินท์ บท 9 เปาโลชวนพี่น้องให้คิดถึงพระยะโฮวาพระเจ้าบ่อยแค่ไหน อัครสาวกคนนี้พูดถึงความสำคัญของการ “ขอบพระคุณพระเจ้า” และการ “ขอบพระคุณพระเจ้าอย่างมากมาย” (ข้อ 11, 12) เปาโลยังพูดว่างานบรรเทาทุกข์ของคริสเตียนเป็นการ “สรรเสริญพระเจ้า” และเป็นการยกย่อง ‘พระกรุณาอันใหญ่หลวงที่ได้รับจากพระองค์อย่างล้น เหลือ’ (ข้อ 13, 14) เมื่อเปาโลพูดเรื่องงานรับใช้เพื่อบรรเทาทุกข์จบแล้ว เขาก็ปิดท้ายด้วยการ ‘ขอบคุณพระเจ้า’—ข้อ 15; 1 เป. 4:11
9. งานบรรเทาทุกข์อาจทำให้บางคนเปลี่ยนความคิดอย่างไร? ขอให้ยกตัวอย่าง
9 ผู้รับใช้ของพระเจ้าในทุกวันนี้ก็คิดแบบเดียวกับเปาโล พวกเขามองว่าการทำงานบรรเทาทุกข์เป็นโอกาสที่จะทำให้พระยะโฮวาได้รับคำสรรเสริญและทำให้คำสอนของพระองค์สวยงาม (1 โค. 10:31; ทิทุส 2:10) ที่จริง งานนี้มักจะมีส่วนช่วยแก้ไขความคิดผิด ๆ ที่บางคนมีต่อพระยะโฮวาและพยานของพระองค์ อย่างเช่น ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ในเขตที่ถูกพายุเฮอร์ริเคนถล่ม เคยเขียนข้อความติดไว้ที่หน้าประตูว่า “บ้านนี้ไม่ต้อนรับพยานพระยะโฮวา” แล้ววันหนึ่งเธอก็เห็นหน่วยบรรเทาทุกข์มาช่วยกันซ่อมแซมบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านเธอ ผู้หญิงคนนี้เฝ้าดูอยู่หลายวัน เธอเห็นคนงานเหล่านั้นทำงานกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย แล้วเธอก็อดใจไม่ได้จนต้องไปถามให้รู้ว่าคนเหล่านั้นเป็นใคร พอรู้ว่าอาสาสมัครเหล่านั้นเป็นพยานพระยะโฮวา เธอประทับใจมากจนถึงกับพูดว่า “ฉันมองพวกคุณผิดไปจริง ๆ ค่ะ” แล้วเธอก็เอาข้อความที่ติดไว้บนประตูออก
10, 11. (ก) มีตัวอย่างอะไรที่แสดงว่าเราบรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่สองของงานบรรเทาทุกข์? (ข) จุลสารอะไรที่เป็นเครื่องมือของคนที่ทำงานบรรเทาทุกข์? (ดูกรอบ “ เครื่องมืออีกอย่างสำหรับงานบรรเทาทุกข์”)
10 ข้อสอง เรา “จัดหาสิ่งของมากมาย” เพื่อเพื่อนร่วมความเชื่อที่ขัดสน (2 โค. 9:12ก) เรายินดีและพร้อมที่จะช่วยเหลือพี่น้องเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของพวกเขา ทำไมล่ะ? เพราะสมาชิกของประชาคมคริสเตียนก็คืออวัยวะต่าง ๆ ของ “ร่างกายเดียว” และ “ถ้าอวัยวะหนึ่งทุกข์ อวัยวะทั้งหมดก็ทุกข์ด้วย” (1 โค. 12:20, 26) ความรักและความห่วงใยจึงเป็นแรงผลักดันให้พี่น้องชายหญิงหลายคนในทุกวันนี้ทิ้งสิ่งที่ตัวเองกำลังทำอยู่ทันทีที่รู้ว่าเกิดภัยพิบัติ เก็บเครื่องไม้เครื่องมือใส่กระเป๋า แล้วมุ่งหน้าไปยังเขตที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยพี่น้องที่กำลังเดือดร้อน (ยโก. 2:15, 16) ตัวอย่างเช่น หลังจากสึนามิถล่มญี่ปุ่นจนยับเยินในปี 2011 สำนักงานสาขาในสหรัฐได้เขียนจดหมายถามคณะกรรมการก่อสร้างภูมิภาคในสหรัฐว่า พอจะมี “พี่น้องที่มีคุณสมบัติบางคน” ที่พร้อมจะไปช่วยก่อสร้างและซ่อมแซมหอประชุมที่นั่นไหม? ผลเป็นอย่างไร? ภายในไม่กี่สัปดาห์มีอาสาสมัครเกือบ 600 คนกรอกใบสมัครเพื่อบินไปช่วยงานที่ญี่ปุ่นโดยออกค่าใช้จ่ายเอง! สำนักงานสาขาในสหรัฐบอกว่า “เราได้รับใบสมัครเยอะมาก” เมื่อพี่น้องในญี่ปุ่นถามคนที่บินข้ามน้ำข้ามทะเลมาช่วยงานบรรเทาทุกข์ว่าทำไมเขาถึงมาช่วย พี่น้องคนนั้นตอบว่า “พี่น้องในญี่ปุ่นก็เป็นอวัยวะหนึ่งใน ‘ร่างกายของเรา’ เมื่อพี่น้องเจ็บเราก็รู้สึกเจ็บด้วย” และเพราะมีความรักและน้ำใจเสียสละเป็นแรงผลักดัน บางครั้งคนที่ไปช่วยบรรเทาทุกข์ถึงกับยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อช่วยเหลือเพื่อนร่วมความเชื่อ c—1 โย. 3:16
11 คนที่ไม่ได้เป็นพยานพระยะโฮวาก็เห็นคุณค่างานบรรเทาทุกข์ของเราด้วย อย่างเช่น ในปี 2013 หลังจากมีภัยพิบัติเกิดขึ้นที่รัฐอาร์คันซอ สหรัฐอเมริกา หนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งได้รายงานข่าวเกี่ยวกับอาสาสมัครพยานฯที่ให้ ความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วว่า “พยานพระยะโฮวาจัดระบบงานบรรเทาทุกข์ได้ดีเยี่ยมถึงขนาดที่สามารถส่งอาสาสมัครไปช่วยทันทีที่เกิดภัยพิบัติ” จริง ๆ แล้วก็เหมือนกับที่เปาโลบอก เรา “จัดหาสิ่งของมากมาย” เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้พี่น้องที่ต้องการความช่วยเหลือ
12-14. (ก) ทำไมการบรรลุวัตถุประสงค์ข้อที่สามของงานบรรเทาทุกข์จึงสำคัญมากจริง ๆ? (ข) ตัวอย่างต่าง ๆ ที่ยกมานี้เน้นว่าการร่วมกิจกรรมของคริสเตียนอย่างต่อเนื่องมีความสำคัญอย่างไร?
12 ข้อสาม เราช่วยคนที่ประสบภัยให้กลับมาทำกิจกรรมคริสเตียนได้ตามปกติ ทำไมเรื่องนี้สำคัญ? เปาโลบอกว่า เมื่อคนที่กำลังเดือดร้อนได้รับความช่วยเหลือ เขาก็อยาก ‘ขอบคุณพระเจ้าอย่างมากมาย’ (2 โค. 9:12ข) วิธีไหนล่ะที่จะขอบคุณพระยะโฮวาได้ดีที่สุด? ก็คือการกลับมาทำกิจกรรมคริสเตียนให้เร็วที่สุดเท่าที่เป็นไปได้อย่างที่เคยทำเป็นประจำ (ฟิลิป. 1:10) หอสังเกตการณ์ ปี 1945 กล่าวว่า “เปาโลเห็นด้วยกับ . . . การเก็บรวบรวมเงินบริจาค เพราะนั่นเป็นการช่วย . . . พี่น้องคริสเตียนที่ขัดสนให้มีสิ่งจำเป็นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พวกเขาจึงไม่ต้องเป็นห่วงอะไรมากนักและมีเรี่ยวแรงมากขึ้นที่จะเข้าร่วมในงานประกาศ” ทุกวันนี้วัตถุประสงค์ของเราก็ยังเหมือนเดิม เมื่อพี่น้องสามารถกลับมาประกาศได้อีกครั้ง พวกเขาไม่เพียงแต่ให้กำลังใจเพื่อนบ้านที่ประสบภัย แต่ตัวเองก็มีกำลังใจขึ้นด้วย—อ่าน 2 โครินท์ 1:3, 4
13 ลองมาฟังความเห็นของบางคนที่ได้รับความช่วยเหลือจากงานบรรเทาทุกข์ ทำให้พวกเขาสามารถกลับมาประกาศได้อีกและทำให้เขาได้รับกำลังใจขึ้นด้วย พี่น้องชายคนหนึ่งพูดว่า “ดีจริง ๆ ที่ครอบครัวของเราได้ออกไปประกาศ เพราะตอนที่เราพยายามปลอบโยนคนอื่น ๆ เราก็หยุดกังวลเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ของตัวเอง” พี่น้องหญิงคนหนึ่งพูดว่า “พอคิดถึงแต่เรื่องงานรับใช้พระเจ้า ฉันก็ลืมไปเลยว่ามีซากอาคารบ้านเรือนอยู่รอบ ๆ ตัวฉัน ฉันรู้สึกมั่นคงปลอดภัยจริง ๆ” พี่น้องหญิงอีกคนหนึ่งบอกว่า “แม้ว่ามีหลายอย่างที่เราควบคุมไม่ได้ แต่งานรับใช้ช่วยให้ครอบครัวฉันรู้ว่าจะมุ่งหน้าไปทางไหน ยิ่งได้พูดคุยกับคนอื่น ๆ เกี่ยวกับความหวังเรื่องโลกใหม่ เราก็ยิ่งมั่นใจว่าทุกสิ่งจะต้องถูกสร้างขึ้นใหม่”
14 พี่น้องที่ประสบภัยยังต้องกลับมาเข้าร่วมประชุมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะนี่เป็นกิจกรรมที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของคริสเตียน ให้เรามาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับพี่น้องหญิงวัย 60 ปีคนหนึ่งชื่อคิโยโกะ หลังจากที่ทรัพย์สินทุกอย่างถูกกวาดไปพร้อมกับสึนามิ เธอก็ไม่เหลืออะไรเลย นอกจากเสื้อผ้าติดตัวกับรองเท้าแตะที่ใส่อยู่ เธอนึกไม่ออกว่าจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างไร แล้วผู้ปกครองคนหนึ่งก็พูดกับเธอว่า เขาจะจัดการประชุมคริสเตียนประจำสัปดาห์ในรถของเขา คิโยโกะบอกว่า “ในรถคันนั้นมีผู้ปกครอง ภรรยาของเขา พี่น้องหญิงอีกคนหนึ่ง และฉันนั่งอยู่ด้วยกัน การประชุมเป็นแบบง่าย ๆ แต่ก็ทำให้ฉันลืมเรื่องสึนามิไปเลย แล้วใจฉันก็สงบจริง ๆ การประชุมนั้นช่วยให้ฉันเห็นพลัง ของการคบหาสมาคมแบบคริสเตียน” พี่น้องหญิงอีกคนหนึ่งพูดถึงการประชุมต่าง ๆ ที่เธอได้เข้าร่วมหลังเกิดภัยพิบัติครั้งนั้นว่า “การประชุมเหล่านั้นเป็นเหมือนเชือกชูชีพของฉัน!”—โรม 1:11, 12; 12:12
ผลประโยชน์ที่ยั่งยืนจากงานบรรเทาทุกข์
15, 16. (ก) คริสเตียนในเมืองโครินท์และที่อื่น ๆ ได้รับประโยชน์อะไรจากงานบรรเทาทุกข์? (ข) พวกเราได้รับประโยชน์คล้าย ๆ กันจากงานบรรเทาทุกข์ในสมัยนี้อย่างไร?
15 เมื่อพูดถึงงานรับใช้เพื่อบรรเทาทุกข์ เปาโลยังอธิบายกับพี่น้องในเมืองโครินท์ถึงประโยชน์ที่พวกเขาและคริสเตียนคนอื่น ๆ จะได้รับจากการมีส่วนร่วมในงานนี้ เปาโลบอกว่า คริสเตียนชาวยิวในกรุงเยรูซาเลมที่ได้รับความช่วยเหลือ “จะคิดถึงท่านทั้งหลาย และทูลวิงวอนเพื่อพวกท่าน เนื่องด้วยพระกรุณาอันใหญ่หลวงที่พวกท่านได้รับจากพระเจ้าอย่างล้นเหลือ” (2 โค. 9:14) ใช่แล้ว น้ำใจของพี่น้องในเมืองโครินท์จะกระตุ้นคริสเตียนชาวยิวให้อธิษฐานเพื่อพี่น้องที่โครินท์ทั้งชาวยิวและชาวต่างชาติด้วย และทำให้พวกเขามีความรักและผูกพันกันมากขึ้น
16 หอสังเกตการณ์ 1 ธันวาคม 1945 ได้พูดถึงการทำตามคำแนะนำที่เป็นประโยชน์ของเปาโลเกี่ยวกับงานบรรเทาทุกข์ในสมัยของเราว่า “เมื่อประชาชนของพระเจ้ากลุ่มหนึ่งช่วยเหลือพี่น้องอีกกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดือดร้อน ลองคิดดูสิว่าพวกเขาจะรักใคร่กลมเกลียวกันขนาดไหน!” คนที่ทำงานบรรเทาทุกข์ในเวลานี้ก็รู้สึกอย่างนั้นด้วย ผู้ปกครองคนหนึ่งซึ่งไปช่วยงานนี้ตอนที่มีน้ำท่วมเล่าว่า “งานบรรเทาทุกข์ช่วยให้ผมสนิทกับพี่น้องมากกว่าแต่ก่อน” พี่น้องหญิงที่รู้สึกซาบซึ้งเพราะได้รับความช่วยเหลือ พูดด้วยความรู้สึกขอบคุณว่า “แม้ตอน นี้เราจะยังไม่มีอุทยานบนแผ่นดินโลก แต่เราก็มีสังคมพี่น้องที่พอจะเทียบกับอุทยานนั้นได้”—อ่านสุภาษิต 17:17
17. (ก) คำสัญญาของพระยะโฮวาในยะซายา 41:13 เป็นจริงกับงานบรรเทาทุกข์อย่างไร? (ข) ขอให้ยกตัวอย่างงานบรรเทาทุกข์ที่ทำให้พระยะโฮวาได้รับคำสรรเสริญและทำให้พี่น้องรักใคร่กลมเกลียวกันมากขึ้น (ดูกรอบ “ อาสาสมัครทั่วโลกช่วยงานบรรเทาทุกข์”)
17 เมื่อพี่น้องที่ทำงานบรรเทาทุกข์ไปถึงพื้นที่ประสบภัย พี่น้องที่กำลังเดือดร้อนก็ได้เห็นคำสัญญาของพระยะโฮวาเป็นจริงที่ว่า “เรายะโฮวาพระเจ้าของเจ้า กำลังยึดมือข้างขวาของเจ้าอยู่ กำลังกล่าวแก่เจ้าว่า ‘อย่ากลัวเลย เราจะช่วยเจ้า’” (ยซา. 41:13) พี่น้องหญิงคนหนึ่งที่รอดชีวิตจากภัยพิบัติพูดว่า “ความพินาศย่อยยับที่เห็น ทำให้ฉันรู้สึกสิ้นหวัง แต่พระยะโฮวาก็ยื่นมือเข้ามาช่วย น้ำใจที่ได้รับจากพี่น้องมันมากมายเหลือเกิน” หลังจากเกิดภัยพิบัติอย่างรุนแรงในเขตหนึ่ง ผู้ปกครอง 2 คนได้เขียนสิ่งที่แทนความรู้สึกของพี่น้องในประชาคมต่าง ๆ ว่า “แผ่นดินไหวทำให้พวกเราลำบากไปตาม ๆ กัน แต่เราก็ได้รับความช่วยเหลือจากพระยะโฮวาที่ผ่านมาทางพี่น้องของเรา เมื่อก่อนเราเคยอ่านเกี่ยวกับงานบรรเทาทุกข์ แต่ตอนนี้เราได้เห็นกับตาตัวเอง”
คุณจะมีส่วนร่วมในงานนี้ได้อย่างไร?
18. คุณจะทำอะไรได้บ้างถ้าคุณอยากช่วยงานบรรเทาทุกข์? (ดูกรอบ “ จุดเปลี่ยนชีวิตผม”)
18 คุณอยากสัมผัสรสชาติของความสุขที่ได้จากการทำงานบรรเทาทุกข์ไหม? ส่วนใหญ่แล้วมีการเลือกคนที่จะไปช่วยงานนี้จากคนที่เคยอยู่ในโครงการก่อสร้างหอประชุม ถ้าคุณอยากไป คุณก็อาจบอกผู้ปกครองในประชาคมของคุณ และขอกรอกใบสมัครได้ ผู้ปกครองคนหนึ่งที่เคยช่วยงานบรรเทาทุกข์หลายครั้งให้ข้อคิดไว้ว่า “คุณจะเดินทางไปช่วยงานบรรเทาทุกข์ได้ก็ต่อเมื่อคุณได้รับจดหมายเชิญจากคณะกรรมการบรรเทาทุกข์แล้วเท่านั้น” วิธีนี้ทำให้งานบรรเทาทุกข์ของเราเป็นไปอย่างมีระเบียบ
19. พี่น้องที่ทำงานบรรเทาทุกข์แสดงให้เห็นอย่างไรว่าเราเป็นสาวกแท้ของพระคริสต์?
19 งานบรรเทาทุกข์เป็นวิธีที่โดดเด่นจริง ๆ ซึ่งทำให้เราสามารถทำตามคำสั่งของพระคริสต์ที่ให้เรา “รักกัน” เมื่อเราแสดงความรักแบบนี้ ผู้คนก็เห็นว่าเราเป็นสาวกแท้ของพระคริสต์ (โย. 13:34, 35) พวกเราในทุกวันนี้ได้รับประโยชน์มากจริง ๆ ที่มีอาสาสมัครมากมายช่วยงานบรรเทาทุกข์ พวกเขาทำให้พระยะโฮวาได้รับคำสรรเสริญเมื่อเขาให้ความช่วยเหลือที่จำเป็นแก่คนที่สนับสนุนราชอาณาจักรของพระเจ้าอย่างซื่อสัตย์!
a ในบทนี้ เราจะมาดูเรื่องความช่วยเหลือต่าง ๆ ที่เราพยายามทำเพื่อช่วยเพื่อนร่วมความเชื่อ แต่หลายครั้ง คนที่ไม่ได้เป็นพยานพระยะโฮวาก็ได้รับประโยชน์จากงานบรรเทาทุกข์ของเราด้วย—กลา. 6:10
b เปาโลใช้คำดีอาโคโนส (ผู้รับใช้) ในรูปพหูพจน์ เพื่อหมายถึง “ผู้ช่วยงานรับใช้”—1 ติโม. 3:12
c ดูบทความ “การสงเคราะห์ครอบครัวแห่งความเชื่อของเราในบอสเนีย” ในหอสังเกตการณ์ 1 พฤศจิกายน 1994 หน้า 23-27