เขียนโดยมาระโก 1:1-45

1  ต่อ​ไป​นี้​คือ​ตอน​เริ่ม​ต้น​ของ​ข่าว​ดี​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​คริสต์ ผู้​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า 2  หนังสือ​ของ​ผู้​พยากรณ์​อิสยาห์​บอก​ไว้​ว่า “(คอย​ดู​นะ เรา​จะ​ส่ง​ทูต​ของ​เรา​ไป​ก่อน​เจ้า เขา​จะ​เตรียม​ทาง​ไว้​ให้​เจ้า)+ 3  มี​คน​หนึ่ง​ส่ง​เสียง​ร้อง​อยู่​ใน​ที่​กันดาร​ว่า ‘ให้​เตรียม​ทาง​ไว้​สำหรับ​พระ​ยะโฮวา และ​ทำ​ทาง​ของ​พระองค์​ให้​ตรง’”+ 4  แล้ว​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​ก็​มา​ประกาศ​ใน​ที่​กันดาร เขา​บอก​ให้​ผู้​คน​รับ​บัพติศมา​เพื่อ​แสดง​การ​กลับ​ใจ แล้ว​พระเจ้า​จะ​ให้​อภัย​บาป​ของ​พวก​เขา+ 5  ผู้​คน​ทั่ว​แคว้น​ยูเดีย​และ​คน​จาก​กรุง​เยรูซาเล็ม​จึง​พา​กัน​ไป​หา​ยอห์น​เพื่อ​รับ​บัพติศมา​จาก​เขา​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน และ​สารภาพ​บาป​ของ​ตัว​เอง​อย่าง​เปิด​เผย+ 6  ยอห์น​ใส่​เสื้อ​ผ้า​ที่​ทำ​จาก​ขน​อูฐ​และ​คาด​เข็มขัด​หนัง+ เขา​กิน​ตั๊กแตน+​กับ​น้ำ​ผึ้ง​ป่า​เป็น​อาหาร+ 7  เขา​ประกาศ​ว่า “มี​คน​หนึ่ง​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​กว่า​ผม​กำลัง​จะ​มา​ที​หลัง​ผม ผม​เอง​ไม่​สม​ควร​จะ​ก้ม​ลง​แก้​สาย​รัด​รอง​เท้า​ให้​เขา​ด้วย​ซ้ำ+ 8  ผม​ให้​บัพติศมา​พวก​คุณ​ด้วย​น้ำ แต่​เขา​จะ​ให้​บัพติศมา​พวก​คุณ​ด้วย​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า”+ 9  ใน​ช่วง​นั้น พระ​เยซู​เดิน​ทาง​จาก​เมือง​นาซาเร็ธ​ใน​แคว้น​กาลิลี​มา​รับ​บัพติศมา​จาก​ยอห์น​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน+ 10  ทันที​ที่​ขึ้น​จาก​น้ำ พระ​เยซู​ก็​เห็น​ท้องฟ้า​แยก​ออก และ​เห็น​พลัง​ของ​พระเจ้า​รูป​ร่าง​เหมือน​นก​เขา​ลง​มา​บน​ท่าน+ 11  แล้ว​มี​เสียง​พูด​จาก​ฟ้า​ว่า “ลูก​รัก​ของ​พ่อ พ่อ​พอ​ใจ​ใน​ตัว​ลูก​มาก”+ 12  ทันที​หลัง​จาก​นั้น พลัง​ของ​พระเจ้า​ก็​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​เข้า​ไป​ใน​ที่​กันดาร 13  พระ​เยซู​อยู่​ที่​นั่น 40 วัน และ​ซาตาน​ก็​มา​ล่อ​ใจ+ ใน​ที่​กันดาร​นั้น​มี​สัตว์​ป่า​อาศัย​อยู่​ด้วย แต่​ทูตสวรรค์​คอย​ดู​แล​ท่าน​อยู่+ 14  หลัง​จาก​ยอห์น​ถูก​จับ+ พระ​เยซู​ก็​ไป​ที่​แคว้น​กาลิลี+และ​ประกาศ​ข่าว​ดี​จาก​พระเจ้า+ 15  ท่าน​ประกาศ​ว่า “ตอน​นี้​เป็น​เวลา​ที่​กำหนด​ไว้ และ​รัฐบาล*ของ​พระเจ้า​มา​ใกล้​แล้ว ดัง​นั้น กลับ​ตัว​กลับ​ใจ​เสีย​ใหม่+ และ​เชื่อ​ข่าว​ดี​จาก​พระเจ้า” 16  ตอน​ที่​พระ​เยซู​กำลัง​เดิน​อยู่​ริม​ฝั่ง​ทะเลสาบ​กาลิลี ท่าน​เห็น​สอง​พี่​น้อง​ชาว​ประมง+ ชื่อ​ซีโมน​กับ​อันดรูว์+ กำลัง​ทอด​แห​อยู่​ใน​ทะเลสาบ+ 17  พระ​เยซู​จึง​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “ตาม​ผม​มา​เถอะ ผม​จะ​ให้​พวก​คุณ​ไป​หา​คน​แทน​ที่​จะ​หา​ปลา”+ 18  ทั้ง​สอง​คน​ก็​ทิ้ง​แห​แล้ว​ตาม​ท่าน​ไป​ทันที+ 19  เมื่อ​เดิน​ต่อ​ไป​อีก​หน่อย พระ​เยซู​ก็​เห็น​ยากอบ​กับ​ยอห์น​ซึ่ง​เป็น​ลูก​ชาย​ของ​เศเบดี​กำลัง​ซ่อม​อวน​อยู่​ใน​เรือ+ 20  พระ​เยซู​เข้า​ไป​เรียก​พวก​เขา​ทันที เขา​ทั้ง​สอง​จึง​ตาม​พระ​เยซู​ไป ส่วน​เศเบดี​พ่อ​ของ​พวก​เขา​ก็​ทำ​งาน​กับ​ลูกจ้าง​ใน​เรือ​ต่อ​ไป 21  แล้ว​พระ​เยซู​กับ​สาวก​ก็​เข้า​ไป​ใน​เมือง​คาเปอร์นาอุม พอ​ถึง​วัน​สะบาโต พระ​เยซู​เข้า​ไป​สอน​ใน​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว+ 22  คน​ที่​ได้​ฟัง​ก็​รู้สึก​ทึ่ง​กับ​วิธี​สอน​ของ​พระ​เยซู เพราะ​ท่าน​ไม่​ได้​สอน​เหมือน​พวก​ครู​สอน​ศาสนา แต่​สอน​แบบ​คน​ที่​ได้​รับ​อำนาจ​จาก​พระเจ้า+ 23  ตอน​นั้น​เอง ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ที่​ถูก​ปีศาจ​สิง​ก็​ตะโกน​ขึ้น​มา​ใน​ที่​ประชุม​ว่า 24  “เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ มา​ยุ่ง​กับ​พวก​เรา​ทำไม?+ จะ​มา​ทำลาย​พวก​เรา​หรือ​ไง? เรา​รู้​นะ​ว่า​ท่าน​เป็น​ใคร ท่าน​เป็น​ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า”+ 25  แต่​พระ​เยซู​ห้าม​มัน​ว่า “เงียบ! ออก​ไป​จาก​เขา​เดี๋ยว​นี้” 26  ปีศาจ​ทำ​ให้​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ชัก​ดิ้น​ชัก​งอ​และ​ร้อง​จน​สุด​เสียง แล้ว​มัน​ก็​ออก​ไป​จาก​เขา+ 27  ประชาชน​ประหลาด​ใจ​มาก​จน​พูด​กัน​ว่า “อะไร​กัน​นี่? ไม่​เคย​เห็น​ใคร​สอน​แบบ​นี้​เลย คน​นี้​สั่ง​พวก​ปีศาจ​ได้ และ​มัน​ก็​เชื่อ​ฟัง​เขา​ด้วย” 28  ข่าว​เรื่อง​พระ​เยซู​จึง​แพร่​กระจาย​อย่าง​รวด​เร็ว​ไป​ทั่ว​แคว้น​กาลิลี 29  เมื่อ​ออก​จาก​ที่​ประชุม​แล้ว พระ​เยซู​กับ​สาวก​ก็​ไป​ที่​บ้าน​ของ​ซีโมน​กับ​อันดรูว์ ยากอบ​กับ​ยอห์น​ก็​ไป​ด้วย+ 30  ตอน​นั้น​แม่ยาย+ของ​ซีโมน​นอน​ป่วย​เป็น​ไข้​อยู่ พวก​เขา​รีบ​เล่า​อาการ​ของ​เธอ​ให้​พระ​เยซู​ฟัง 31  พระ​เยซู​เข้า​ไป​หา​เธอ จับ​มือ​พยุง​ให้​ลุก​ขึ้น แล้ว​เธอ​ก็​หาย​ไข้​และ​มา​รับใช้​พวก​เขา 32  ใน​ตอน​ค่ำ​หลัง​ดวง​อาทิตย์​ตก​แล้ว ผู้​คน​ก็​พา​ทุก​คน​ที่​ป่วย​และ​ถูก​ปีศาจ​สิง​มา​หา​พระ​เยซู+ 33  คน​ทั้ง​เมือง​มา​ออ​กัน​อยู่​ที่​หน้า​ประตู 34  พระ​เยซู​จึง​รักษา​คน​มาก​มาย​ที่​ป่วย​เป็น​โรค​ต่าง ๆ+และ​ขับ​ไล่​ปีศาจ​หลาย​ตน​ด้วย+ แต่​พระ​เยซู​ห้าม​ไม่​ให้​ปีศาจ​พูด เพราะ​พวก​มัน​รู้​ว่า​ท่าน​เป็น​พระ​คริสต์+ 35  พอ​เช้า​มืด พระ​เยซู​ก็​ตื่น​นอน ​แล้ว​ออก​จาก​บ้าน​ไป​อธิษฐาน​ใน​ที่​ห่าง​ไกล​ผู้​คน+ 36  แต่​ซีโมน​กับ​เพื่อน ๆ พา​กัน​ตาม​หา​ท่าน 37  เมื่อ​พบ​แล้ว พวก​เขา​บอก​พระ​เยซู​ว่า “ทุก​คน​ตาม​หา​ท่าน​อยู่” 38  แต่​พระ​เยซู​บอก​พวก​เขา​ว่า “พวก​เรา​ไป​ที่​อื่น​กัน​เถอะ ไป​ตาม​เมือง​ใกล้ ๆ นี้ ผม​จะ​ได้​ประกาศ​ใน​ที่​เหล่า​นั้น​ด้วย เพราะ​ที่​ผม​มา​ก็​เพื่อ​ทำ​งาน​นี้”+ 39  แล้ว​พระ​เยซู​ก็​ไป​ประกาศ​ตาม​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​ทั่ว​แคว้น​กาลิลี​และ​ขับ​ไล่​ปีศาจ+ 40  มี​คน​โรค​เรื้อน​คน​หนึ่ง​มา​หา​พระ​เยซู เขา​ถึง​กับ​คุกเข่า​ลง​อ้อน​วอน​ท่าน​ว่า “เพียง​แค่​ท่าน​อยาก​ช่วย ท่าน​ก็​จะ​รักษา​ผม​ได้”*+ 41  พระ​เยซู​รู้สึก​สงสาร​เขา+ จึง​ยื่น​มือ​ออก​สัมผัส​ตัว​เขา​และ​พูด​ว่า “ผม​อยาก​ช่วย หาย​โรค​เถอะ”+ 42  แล้ว​เขา​ก็​หาย​จาก​โรค​เรื้อน​ทันที 43  ก่อน​ที่​พระ​เยซู​จะ​บอก​ให้​เขา​ไป ท่าน​สั่ง​ว่า 44  “อย่า​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ใคร แต่​ไป​ให้​ปุโรหิต​ตรวจ​ดู แล้ว​ถวาย​สิ่ง​ของ​ตาม​ที่​กฎหมาย​ของ​โมเสส​สั่ง​ไว้​สำหรับ​คน​ที่​หาย​จาก​โรค​เรื้อน+ พวก​เขา​จะ​ได้​เห็น​หลักฐาน”+ 45  แต่​เมื่อ​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ไป​แล้ว เขา​ก็​เริ่ม​บอก​คน​อื่น​และ​แพร่​กระจาย​เรื่อง​นั้น​ไป​ทั่ว​จน​พระ​เยซู​เข้า​ไป​ใน​เมือง​อย่าง​เปิด​เผย​ไม่​ได้​อีก ท่าน​จึง​อยู่​นอก​เมือง​ใน​ที่​ห่าง​ไกล​ผู้​คน แต่​ประชาชน​จาก​ทุก​ที่​ก็​ยัง​พา​กัน​มา​หา​ท่าน​อย่าง​ไม่​ขาด​สาย+

เชิงอรรถ

หรือ “ราชอาณาจักร”
หรือ “ทำ​ให้​ผม​สะอาด​ได้”

ข้อมูลสำหรับศึกษา

มาระโก: มา​จาก​คำ​ละติน มาร์คัส (Marcus) มาระโก​เป็น​นามสกุล​โรมัน​ของ “ยอห์น” ที่​พูด​ถึง​ใน กจ 12:12 แม่​ของ​เขา​ชื่อ​มารีย์​เป็น​สาวก​รุ่น​แรก​ที่​อยู่​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม ยอห์น มาระโก​เป็น “ลูก​พี่​ลูก​น้อง​ของ​บาร์นาบัส” (คส 4:10) พวก​เขา​มัก​เดิน​ทาง​ไป​ด้วย​กัน มาระโก​ยัง​เดิน​ทาง​กับ​เปาโล​และ​มิชชันนารี​คริสเตียน​คน​อื่น ๆ ใน​ยุค​แรก​ด้วย (กจ 12:25; 13:5, 13; 2ทธ 4:11) ถึง​แม้​ไม่​มี​ที่​ไหน​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​นี้​บอก​ว่า​ใคร​เป็น​คน​เขียน แต่​พวก​นัก​เขียน​ใน​ศตวรรษ​ที่ 2 และ 3 ลง​ความ​เห็น​ว่า​มาระโก​เป็น​ผู้​เขียน​หนังสือ​เล่ม​นี้

ข่าว​ดี​ที่​เขียน​โดย​มาระโก: ไม่​มี​ผู้​เขียน​คน​ไหน​บอก​ว่า​ตัว​เขา​เป็น​คน​เขียน​และ​ดู​เหมือน​ว่า​ไม่​มี​ชื่อ​หนังสือ​อยู่​ใน​ข้อ​ความ​ต้น​ฉบับ ใน​บาง​สำเนา​ของ​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​มาระโก​ใช้​ชื่อ​หนังสือ​ว่า อืออางเกะลิออน คาธา มาร์คอน (“ข่าว​ดี [หรือ “กิตติคุณ”] ที่​เขียน​โดย​มาระโก”) แต่​ใน​บาง​สำเนา​ก็​ใช้​ชื่อ​แบบ​สั้น​ว่า คา​ธา มาร์คอน (“เขียน​โดย​มาระโก”) ไม่​มี​ใคร​รู้​ชัดเจน​ว่า​ชื่อ​หนังสือ​ถูก​เพิ่ม​เข้า​มา​เมื่อ​ไร​หรือ​เริ่ม​ใช้​ตอน​ไหน บาง​คน​คิด​ว่า​น่า​จะ​ประมาณ​ศตวรรษ​ที่ 2 เพราะ​มี​การ​พบ​ชื่อ​หนังสือ​แบบ​ยาว​ใน​สำเนา​ของ​หนังสือ​ข่าว​ดี​ที่​ทำ​ขึ้น​ช่วง​ปลาย​ศตวรรษ​ที่ 2 หรือ​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 3 นัก​วิชาการ​บาง​คน​บอก​ว่า การ​ที่​หนังสือ​เหล่า​นั้น​ถูก​เรียก​ว่า​กิตติคุณ (แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ข่าว​ดี”) อาจ​เป็น​เพราะ​มี​คำ​นี้​อยู่​ใน​ข้อ​ความ​แรก​ของ​หนังสือ​มาระโก (“ต่อ​ไป​นี้​คือ​ตอน​เริ่ม​ต้น​ของ​ข่าว​ดี​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​คริสต์ ผู้​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า”) นอก​จาก​นั้น อาจ​มี​การ​ใช้​ชื่อ​หนังสือ​ที่​ระบุ​ชื่อ​คน​เขียน​ด้วย​เหตุ​ผล​ที่​ดี​บาง​อย่าง เช่น ทำ​ให้​รู้​ชัด​ว่า​ใคร​เป็น​คน​เขียน

ข่าว​ดี: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 4:23; 24:14 และ​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์

ข่าว​ดี​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู​คริสต์: ข้อ​ความ​นี้​ใน​ภาษา​กรีก​อาจ​แปล​ได้​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ว่า “ข่าว​ดี​ของ​พระ​เยซู​คริสต์” ซึ่ง​หมาย​ถึง​ข่าว​ดี​ที่​พระ​เยซู​ประกาศ

ลูก​ของ​พระเจ้า: แม้​สำเนา​พระ​คัมภีร์​บาง​ฉบับ​ไม่​มี​ข้อ​ความ “ลูก​ของ​พระเจ้า” แต่​สำเนา​พระ​คัมภีร์​ที่​เก่าแก่​ที่​สุด​หลาย​ฉบับ​มี​ข้อ​ความ​นี้

ผู้​พยากรณ์​อิสยาห์: ข้อ​ความ​ใน​เครื่องหมาย​คำ​พูด​ต่อ​จาก​นี้​ยก​มา​จาก มลค 3:1 และ อสย 40:3 คำ​พยากรณ์​ทั้ง​สอง​ข้อ​พูด​ถึง​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา มี​การ​ใช้​วง​เล็บ​เพื่อ​แยก​ข้อ​ความ​ของ​มาลาคี​ออก​จาก​ข้อ​ความ​ของ​อิสยาห์​ในข้อ 3 ข้อ​ความ​ของ​อิสยาห์​เน้น​เนื้อหา​ของ​ข่าวสาร​ที่​ยอห์น​ประกาศ ส่วน​มาลาคี​เน้น​บทบาท​ของ​ยอห์น​ใน​ฐานะ​ทูต​หรือ​ผู้​ส่ง​ข่าว การ​บอก​ว่า​ข้อ​ความ​ใน​เครื่องหมาย​คำ​พูด​ทั้ง​หมด​มา​จาก​ผู้​พยากรณ์​อิสยาห์​อาจ​เป็น​เพราะ​เนื้อหา​ของ​อิสยาห์​เป็น​ส่วน​ที่​ต้องการ​เน้น

คอย​ดู​นะ: คำ​กรีก อีดู่ ที่​แปล​ใน​ข้อ​นี้​ว่า “คอย​ดู​นะ” มัก​ใช้​เพื่อ​กระตุ้น​ให้​สนใจ​เรื่อง​ที่​กำลัง​จะ​พูด ให้​นึก​ภาพ​เหตุ​การณ์​หรือ​สนใจ​ราย​ละเอียด​บาง​อย่าง และ​ยัง​ใช้​เพื่อ​เน้น หรือ​ชี้​ให้​เห็น​ว่า​มี​อะไร​ใหม่​หรือ​น่า​ตื่นเต้น ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​จะ​พบ​คำ​แบบ​นี้​บ่อย​ที่​สุด​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​มัทธิว ลูกา และ​หนังสือ​วิวรณ์ ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​ก็​มัก​ใช้​คำ​คล้าย ๆ กัน​นี้​ด้วย

พระ​ยะโฮวา: ข้อ​ความ​นี้​ยก​มา​จาก อสย 40:3 ซึ่ง​ใน​ต้น​ฉบับ​ภาษา​ฮีบรู​มี​ชื่อ​ของ​พระเจ้า​เขียน​ด้วย​อักษร​ฮีบรู 4 ตัว (ตรง​กับ​เสียง​อักษร​ไทย ยฮวฮ) มาระโก​เชื่อม​โยง​คำ​พยากรณ์​นี้​กับ​สิ่ง​ที่ “ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา” (มก 1:4) ทำ​เพื่อ​เตรียม​ทาง​ไว้​สำหรับ​พระ​เยซู—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:3; ยน 1:23

ทำ​ทาง​ของ​พระองค์​ให้​ตรง: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:3

ผู้​ให้​บัพติศมา: หรือ “คน​จุ่ม” คำ​กรีก บาพทิโศ ใน​ข้อ​นี้​และ​ที่ มก 6:14, 24 อาจ​แปล​ได้​ว่า “คน​ที่​ให้​บัพติศมา” คำ​นี้​เมื่อ​อยู่​ใน​รูป​คำ​นาม​จะ​เป็น​คำ​ว่า บาพทิสเทส ซึ่ง​อยู่​ใน มก 6:25; 8:28 และ​ที่​หนังสือ​มัทธิว​กับ​ลูกา​ด้วย ถึง​แม้ 2 คำ​นี้​จะ​ต่าง​กัน​เล็ก​น้อย​แต่​ก็​มี​ความ​หมาย​เหมือน​กัน จึง​เป็น​เหตุ​ผล​ที่​ใน​ต้น​ฉบับ​ภาษา​กรีก​ที่ มก 6:24, 25 มี​การ​ใช้​ทั้ง​สอง​คำ​สลับ​กัน—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:1

ที่​กันดาร: คือ​ที่​กันดาร​ยูเดีย—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:1

รับ​บัพติศมา​เพื่อ​แสดง​การ​กลับ​ใจ: การ​บัพติศมา​ไม่​ได้​ชำระ​บาป​ให้​หมด​ไป แต่​การ​ที่​ผู้​คน​มา​รับ​บัพติศมา​จาก​ยอห์น​เป็น​การ​ยอม​รับ​อย่าง​เปิด​เผย​ว่า​พวก​เขา​ทำ​ผิด​กฎหมาย​ของ​โมเสส​และ​ตั้งใจ​เปลี่ยน​แปลง​ตัว​เอง​จริง ๆ การ​กลับ​ใจ​แบบ​นี้​ช่วย​พา​พวก​เขา​ไป​หา​พระ​คริสต์ (กท 3:24) บัพติศมา​ของ​ยอห์น​จึง​เป็น​การ​เตรียม​ผู้​คน​ให้​เห็น “การ​ช่วย​ให้​รอด” จาก​พระเจ้า—ลก 3:3-6; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:2, 8, 11 และ​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “บัพติศมา”; “กลับ​ใจ

ผู้​คน​ทั่ว​แคว้น: คำ​ว่า “ทั่ว” ใน​ข้อ​นี้​เป็น​อติพจน์​หรือ​คำ​พูด​เกิน​จริง เป็น​การ​เน้น​ว่า​มี​คน​มาก​มาย​สนใจ​เรื่อง​ที่​ยอห์น​ประกาศ แต่​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​ประชาชน​ทุก​คน​ใน​แคว้น​ยูเดีย​หรือ​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม​ออก​ไป​หา​ยอห์น​จริง ๆ

รับ​บัพติศมา: หรือ “ถูก​จุ่ม”—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:11 และ​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “บัพติศมา

สารภาพ​บาป​ของ​ตัว​เอง​อย่าง​เปิด​เผย: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:6

เสื้อ​ผ้า​ที่​ทำ​จาก​ขน​อูฐ: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:4

ตั๊กแตน: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:4

น้ำ​ผึ้ง​ป่า: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:4

ให้​บัพติศมา​พวก​คุณ: หรือ “จุ่ม​พวก​คุณ”—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:11 และ​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “บัพติศมา

ให้​บัพติศมา​พวก​คุณ​ด้วย​พลัง​บริสุทธิ์: หรือ “จุ่ม​พวก​คุณ​ใน​พลัง​บริสุทธิ์” ใน​ข้อ​นี้​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​ประกาศ​ว่า​พระ​เยซู​จะ​ให้​มี​การ​บัพติศมา​แบบ​ใหม่ คือ​การ​บัพติศมา​ด้วย​พลัง​บริสุทธิ์ คน​ที่​รับ​บัพติศมา​ด้วย​พลัง​บริสุทธิ์​จะ​กลาย​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า​ที่​ได้​รับ​การ​เจิม พวก​เขา​มี​ความ​หวัง​จะ​มี​ชีวิต​ใน​สวรรค์​และ​ได้​เป็น​กษัตริย์​ปกครอง​โลก—วว 5:9, 10

ใน​ช่วง​นั้น: บันทึก​ใน ลก 3:1-3 บอก​ให้​รู้​ว่า​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​เริ่ม​งาน​รับใช้​ของ​เขา “ใน​ปี​ที่ 15 ที่​ซีซาร์​ทิเบริอัส​ปกครอง” ซึ่ง​ก็​คือ​ใน​ช่วง​ฤดู​ใบ​ไม้​ผลิ​ปี ค.ศ. 29 (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ลก 3:1) ประมาณ 6 เดือน​หลัง​จาก​นั้น ใน​ช่วง​ฤดู​ใบ​ไม้​ร่วง​ปี ค.ศ. 29 พระ​เยซู​มา​หา​ยอห์น​เพื่อ​รับ​บัพติศมา—ดูภาค​ผนวก ก​7

ทันที: นี่​เป็น​ครั้ง​แรก​ใน​ทั้ง​หมด 11 ครั้ง​ที่​มี​การ​ใช้​คำ​กรีก อือธูส ใน​มาระโก​บท 1 (มก 1:10, 12, 18, 20, 21, 23, 28-30, 42, 43) มี​การ​แปล​คำ​กรีก​นี้​ว่า “ทันที, ตอน​นั้น​เอง, อย่าง​รวด​เร็ว, รีบ” ขึ้น​อยู่​กับ​ท้อง​เรื่อง การ​ที่​มาระโก​ใช้​คำ​นี้​มาก​กว่า 40 ครั้ง​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​เขา​ทำ​ให้​เรื่อง​ที่​เขา​บันทึก​ดู​น่า​ตื่นเต้น​และ​เร่ง​ด่วน

เห็น: จาก​บันทึก​ใน ยน 1:32, 33 ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​ก็​เห็น​เหตุ​การณ์​นี้​ด้วย แต่​ดู​เหมือน​บันทึก​ของ​มาระโก​ต้องการ​เน้น​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​คน​เห็น

ท้องฟ้า: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:16

ท้องฟ้า​แยก​ออก: ดู​เหมือน​ตอน​นี้​พระเจ้า​ทำ​ให้​พระ​เยซู​จำ​เรื่อง​ราว​ตอน​ที่​ท่าน​อยู่​บน​สวรรค์​ก่อน​มา​เป็น​มนุษย์​ได้ คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​หลัง​จาก​รับ​บัพติศมา​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​รู้​ว่า​ก่อน​มา​เป็น​มนุษย์​ท่าน​เคย​มี​ชีวิต​ใน​สวรรค์ โดย​เฉพาะ​ตอน​ที่​อธิษฐาน​ใน​คืน​วัน​ปัสกา​ปี ค.ศ. 33 ท่าน​ใช้​คำ​พูด​ที่​แสดง​ถึง​ความ​ใกล้​ชิด​กับ​พระ​ยะโฮวา​มาก คำ​อธิษฐาน​นั้น​ยัง​แสดง​ให้​เห็น​ด้วย​ว่า​พระ​เยซู​จำ​ได้​ว่า​พ่อ​ของ​ท่าน​เคย​พูด​อะไร เคย​ทำ​อะไร และ​ตัว​ท่าน​เคย​ได้​รับ​เกียรติ​อย่าง​ไร​ตอน​ที่​อยู่​ใน​สวรรค์ (ยน 6:46; 7:28, 29; 8:26, 28, 38; 14:2; 17:5) พระเจ้า​คง​ให้​ความ​ทรง​จำ​ทั้ง​หมด​นี้​กับ​พระ​เยซู​ตอน​ที่​ท่าน​รับ​บัพติศมา​และ​ได้​รับ​การ​เจิม

เหมือน​นก​เขา: นก​เขา​ถูก​ใช้​ใน​การ​นมัสการ​และ​ยัง​มี​ความ​หมาย​เชิง​สัญลักษณ์​ด้วย มี​การ​ใช้​นก​เขา​เป็น​เครื่อง​บูชา (มก 11:15; ยน 2:14-16) นก​เขา​เป็น​สัญลักษณ์​ของ​ความ​บริสุทธิ์ ไม่​มี​พิษ​มี​ภัย (มธ 10:16) นก​เขา​ที่​โนอาห์​ปล่อย​ออก​ไป​คาบ​ใบ​มะกอก​กลับ​มา​ที่​เรือ ทำ​ให้​รู้​ว่า​น้ำ​กำลัง​ลด​ลง (ปฐก 8:11) และ​เวลา​ของ​การ​หยุด​พัก​และ​ความ​สงบ​สุข​ใกล้​เข้า​มา​แล้ว (ปฐก 5:29) ดัง​นั้น ตอน​ที่​พระ​เยซู​รับ​บัพติศมา พระ​ยะโฮวา​อาจ​ใช้​นก​เขา​เพื่อ​ทำ​ให้​นึก​ถึง​บทบาท​ของ​พระ​เยซู​ลูก​ที่​บริสุทธิ์​และ​ไม่​มี​บาป​ของ​พระองค์ ซึ่ง​เป็น​เมสสิยาห์​ที่​จะ​สละ​ชีวิต​เพื่อ​มนุษย์​และ​ทำ​ให้​มนุษย์​ได้​หยุด​พัก​และ​มี​ความ​สงบ​สุข​ตอน​ที่​ท่าน​ปกครอง​เป็น​กษัตริย์ พลัง​ของ​พระเจ้า​ที่​ลง​มา​บน​พระ​เยซู​ตอน​ที่​ท่าน​รับ​บัพติศมา​อาจ​ดู​เหมือน​นก​เขา​กระพือ​ปีก​อยู่​ใกล้​ที่​เกาะ

บน: หรือ “ใน” คือ​เข้า​มา​ใน​ตัว​ท่าน

เสียง​พูด​จาก​ฟ้า: นี่​เป็น​ครั้ง​แรก​จาก​ทั้ง​หมด 3 ครั้ง​ที่​หนังสือ​ข่าว​ดี​บันทึก​ว่า​มนุษย์​ได้​ยิน​เสียง​ของ​พระ​ยะโฮวา—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มก 9:7; ยน 12:28

ลูก . . . ของ​พ่อ: ตอน​เป็น​ทูตสวรรค์ พระ​เยซู​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า (ยน 3:16) ตั้ง​แต่​ตอน​ที่​พระ​เยซู​มา​เกิด​เป็น​มนุษย์ ท่าน​ก็​เป็น “ลูก​ของ​พระเจ้า” เหมือน​กับ​อาดัม​ตอน​ที่​ยัง​เป็น​มนุษย์​ที่​สมบูรณ์​แบบ (ลก 1:35; 3:38) แต่​ดู​เหมือน​มี​เหตุ​ผล​ที่​จะ​สรุป​ว่า​คำ​พูด​ของ​พระเจ้า​ใน​ข้อ​นี้​ไม่​ได้​บอก​แค่​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ใคร แต่​การ​ที่​พระเจ้า​พูด​แบบ​นั้น​พร้อม​กับ​ให้​พลัง​บริสุทธิ์​ดู​เหมือน​เป็น​การ​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พระ​เยซู​ที่​เป็น​มนุษย์​คน​นี้​เป็น​ลูก​ของ​พระเจ้า​ที่​ได้​รับ​การ​เจิม​ด้วย​พลัง​บริสุทธิ์ ซึ่ง​เป็น​การ “เกิด​ใหม่” โดย​มี​ความ​หวัง​จะ​ได้​กลับ​ไป​สวรรค์ และ​เป็น​การ​เจิม​เพื่อ​จะ​เป็น​กษัตริย์​และ​มหา​ปุโรหิต​ที่​พระเจ้า​แต่ง​ตั้ง—ยน 3:3-6; 6:51; เทียบ​กับ ลก 1:31-33; ฮบ 2:17; 5:1, 4-10; 7:1-3

พ่อ​พอ​ใจ​ใน​ตัว​ลูก​มาก: หรือ “พ่อ​ชอบ​ลูก​มาก, พ่อ​โปรดปราน​ลูก​มาก” มี​การ​ใช้​สำนวน​คล้าย​กัน​นี้​ที่ มธ 12:18 ซึ่ง​ยก​มา​จาก อสย 42:1 ที่​พูด​ถึง​เมสสิยาห์​ที่​สัญญา​ไว้​หรือ​พระ​คริสต์ การ​ที่​พระเจ้า​พูด​แบบ​นี้​พร้อม​กับ​ให้​พลัง​บริสุทธิ์​กับ​พระ​เยซู​เป็น​การ​บอก​ชัดเจน​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​เมสสิยาห์​ที่​สัญญา​ไว้—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:17; 12:18

พลัง​ของ​พระเจ้า​ก็​กระตุ้น​พระ​เยซู​ให้​เข้า​ไป: คำ​กรีก พะนือมา ที่​แปล​ใน​ข้อ​นี้​ว่า​พลัง​ของ​พระเจ้า หมาย​ถึง​พลัง​ที่​พระเจ้า​ใช้​เพื่อ​ทำ​สิ่ง​ต่าง ๆ เช่น กระตุ้น​หรือ​ผลัก​ดัน​ให้​ใคร​คน​หนึ่ง​ทำ​สิ่ง​ที่​สอดคล้อง​กับ​ความ​ประสงค์​ของ​พระองค์—ลก 4:1; ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “พลัง

ซาตาน: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 4:10

สัตว์​ป่า: ใน​สมัย​พระ​เยซู​มี​สัตว์​ป่า​อยู่​ใน​อิสราเอล​มาก​กว่า​ที่​มี​ใน​ปัจจุบัน ที่​กันดาร​เป็น​แหล่ง​อาศัย​ของ​หมูป่า ไฮยีนา เสือ​ดาว สิงโต และ​หมา​ป่า มาระโก​เป็น​ผู้​เขียน​หนังสือ​ข่าว​ดี​คน​เดียว​ที่​บอก​ว่า​มี​สัตว์​ป่า​อยู่​ใน​บริเวณ​นั้น ดู​เหมือน​ว่า​หลัก ๆ แล้ว​เขา​เขียน​หนังสือ​ข่าว​ดี​เพื่อ​ผู้​อ่าน​ที่​ไม่​ใช่​ชาว​ยิว ซึ่ง​รวม​ถึง​ชาว​โรมัน​และ​คน​อื่น ๆ ที่​อาจ​ไม่​คุ้น​เคย​กับ​ลักษณะ​ภูมิ​ประเทศ​ของ​อิสราเอล

ตอน​นี้​เป็น​เวลา​ที่​กำหนด​ไว้: ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้ “เวลา​ที่​กำหนด​ไว้” (คำ​กรีก ไคร็อส) หมาย​ถึง​ช่วง​เวลา​ที่​บอก​ไว้​ล่วง​หน้า​ใน​พระ​คัมภีร์​ว่า​พระ​เยซู​จะ​เริ่ม​ทำ​งาน​รับใช้ ซึ่ง​เป็น​การ​เปิด​โอกาส​ให้​ทุก​คน​เชื่อ​ข่าว​ดี​จาก​พระเจ้า มี​การ​ใช้​คำ​กรีก​เดียว​กัน​นี้​เมื่อ​พูด​ถึง “สมัย” หรือ “เวลา” ที่​พระเจ้า​พิพากษา​ซึ่ง​เป็น​เวลา​เดียว​กับ​ที่​พระ​เยซู​ทำ​งาน​รับใช้ (ลก 12:56; 19:44) และ “เวลา​ที่​กำหนด​ไว้” ว่า​ท่าน​จะ​เสีย​ชีวิต—มธ 26:18

รัฐบาล​ของ​พระเจ้า: ใน​ข้อ​ความ​ต้น​ฉบับ​มี​การ​ใช้​คำ​นี้ 14 ครั้ง​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​มาระโก ส่วน​ใน​หนังสือ​มัทธิว​ใช้​คำ​นี้​แค่ 4 ครั้ง (มธ 12:28; 19:24; 21:31, 43) แต่​มัทธิว​ใช้​คำ​ที่​มี​ความ​หมาย​เหมือน​กัน​คือ “รัฐบาล​สวรรค์” ประมาณ 30 ครั้ง (เทียบ มก 10:23 กับ มธ 19:23, 24) พระ​เยซู​ให้​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​เป็น​เรื่อง​หลัก​ใน​การ​ประกาศ​ของ​ท่าน (ลก 4:43) มี​การ​พูด​ถึง​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​มาก​กว่า 100 ครั้ง​ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ทั้ง 4 เล่ม และ​คน​ที่​พูด​เรื่อง​นี้​มาก​ที่​สุด​ก็​คือ​พระ​เยซู—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 3:2; 4:17; 25:34

หา​คน​แทน​ที่​จะ​หา​ปลา: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 4:19

กับ​ลูกจ้าง: มาระโก​เป็น​คน​เดียว​ที่​บอก​ว่า​เศเบดี​กับ​ลูก​ชาย​ของ​เขา​มี “ลูกจ้าง” ที่​ช่วย​ทำ​ประมง​ด้วย อาจ​เป็น​ได้​ว่า​มาระโก​ได้​ข้อมูล​นี้​มา​จาก​เปโตร​ซึ่ง​เป็น​หุ้น​ส่วน​ธุรกิจ​ประมง​ของ​เศเบดี​และ​ได้​เห็น​เหตุ​การณ์​เกือบ​ทั้ง​หมด​ที่​มาระโก​บันทึก​ไว้ (ลก 5:5-11; ดู “บท​นำ​ของ​หนังสือ​มาระโก” ด้วย) การ​ที่​เศเบดี​กับ​ลูก​ชาย​ของ​เขา​มี​ลูกจ้าง​และ​มี​เรือ​มาก​กว่า 1 ลำ​ตาม​ที่​ลูกา​บันทึก​ไว้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​ธุรกิจ​ของ​พวก​เขา​ไป​ได้​ดี—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 4:18

คาเปอร์นาอุม: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 4:13

ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว: ดูส่วน​อธิบาย​ศัพท์

วิธี​สอน​ของ​พระ​เยซู: ข้อ​ความ​นี้​ไม่​ได้​หมาย​ถึง​วิธี​การ​สอน​ของ​พระ​เยซู​เท่า​นั้น แต่​รวม​ถึง​คำ​สอน​ของ​ท่าน​ด้วย

ไม่​ได้​สอน​เหมือน​พวก​ครู​สอน​ศาสนา: แทน​ที่​จะ​อ้าง​คำ​สอน​ของ​พวก​รับบี​ที่​ผู้​คน​นับถือ​เหมือน​ที่​ครู​สอน​ศาสนา​ชอบ​ทำ​กัน พระ​เยซู​พูด​ใน​ฐานะ​ตัว​แทน​ของ​พระ​ยะโฮวา​แบบ​คน​ที่​ได้​รับ​อำนาจ​จาก​พระเจ้า ท่าน​สอน​โดย​ใช้​พระ​คัมภีร์​เป็น​หลัก—ยน 7:16

ปีศาจ: หรือ “ทูตสวรรค์​ชั่ว” แปล​ตรง​ตัว​ว่า “วิญญาณ​ที่​ไม่​สะอาด” คำ​ว่า ‘ไม่​สะอาด’ เน้น​ให้​เห็น​ว่า​พวก​ทูตสวรรค์​ชั่ว​ไม่​สะอาด​ทาง​ด้าน​ศีลธรรม​และ​การ​นมัสการ และ​ยัง​ทำ​ให้​มนุษย์​ที่​อยู่​ใต้​อิทธิพล​ของ​พวก​มัน​ไม่​สะอาด​ด้วย

ตะโกน: ตอน​ที่​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​ตะโกน​ตาม​ที่​บันทึก​ในข้อ 24 พระ​เยซู​บอก​ให้​ปีศาจ​หยุด​พูด​เพราะ​มัน​ทำ​ให้​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ตะโกน​ขึ้น​มา—มก 1:25; ลก 4:35

มา​ยุ่ง​กับ​พวก​เรา​ทำไม?: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 8:29

พวก​เรา . . . เรา: ใน​ภาษา​เดิม​คำ​ว่า “พวก​เรา” อยู่​ใน​รูป​พหูพจน์ ส่วน​คำ​ว่า “เรา” อยู่​ใน​รูป​เอกพจน์ เนื่อง​จาก​มี​การ​พูด​ถึง​ปีศาจ​แค่​ตน​เดียวใน​ข้อ 23 ดัง​นั้น คำ​ว่า “พวก​เรา” ที่​ปีศาจ​ใช้​ใน​ข้อ​นี้​น่า​จะ​หมาย​ถึง​ตัว​มัน​กับ​เพื่อน​ปีศาจ และ​คำ​ว่า “เรา” น่า​จะ​หมาย​ถึง​ตัว​มัน​เอง

เงียบ!: ถึง​แม้​ปีศาจ​จะ​รู้​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​พระ​คริสต์​หรือ​เมสสิยาห์​และ​เรียก​ท่าน​ว่า “ผู้​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า” (ข้อ 24) แต่​พระ​เยซู​ไม่​ยอม​ให้​มัน​เป็น​พยาน​ยืน​ยัน​ว่า​ท่าน​เป็น​ใคร—มก 1:34; 3:11, 12

หลัง​ดวง​อาทิตย์​ตก​แล้ว: ดวง​อาทิตย์​ตก​เป็น​สัญญาณ​บอก​ให้​รู้​ว่า​วัน​สะบาโต​สิ้น​สุด​ลง (ลนต 23:32; มก 1:21; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 8:16; 26:20) ชาว​ยิว​ทุก​คน​เลย​สามารถ​พา​คน​ป่วย​มา​ให้​พระ​เยซู​รักษา​ได้​โดย​ไม่​ต้อง​กลัว​จะ​ถูก​ต่อ​ว่า—เทียบ​กับ มก 2:1-5; ลก 4:31-40

ป่วย​และ​ถูก​ปีศาจ​สิง: บาง​ครั้ง​ปีศาจ​ก็​ทำ​ให้​ผู้​คน​ที่​อยู่​ภาย​ใต้​อำนาจ​ของ​มัน​เจ็บ​ป่วย​ได้ (มธ 12:22; 17:15-18) แต่​คัมภีร์​ไบเบิล​แยก​ให้​เห็น​ความ​แตกต่าง​ระหว่าง​ความ​เจ็บ​ป่วย​แบบ​ปกติ​กับ​การ​ถูก​ปีศาจ​สิง และ​ไม่​ว่า​ผู้​คน​จะ​เจ็บ​ป่วย​เพราะ​อะไร พระ​เยซู​สามารถ​รักษา​พวก​เขา​ได้—มธ 4:24; 8:16; มก 1:34

คน​ทั้ง​เมือง: คล้าย​กับ​คำ​ว่า “ทั่ว” ที่​อยู่​ใน มก 1:5 การ​ใช้​คำ​ว่า “ทั้ง” ใน​ข้อ​นี้​เป็น​อติพจน์​หรือ​คำ​พูด​เกิน​จริง​ที่​เน้น​ให้​เห็น​ว่า​มี​คน​จำนวน​มาก​มา​หา​พระ​เยซู

พวก​มัน​รู้​ว่า​ท่าน​เป็น​พระ​คริสต์: สำเนา​พระ​คัมภีร์​ภาษา​กรีก​บาง​ฉบับ​บอก​ว่า “พวก​มัน​รู้​จัก​ท่าน” ซึ่ง​อาจ​แปล​ได้​ว่า “พวก​มัน​รู้​ว่า​ท่าน​เป็น​ใคร” ส่วน​ใน​บันทึก​เหตุ​การณ์​เดียว​กัน​ที่ ลก 4:41 บอก​ว่า “พวก​มัน​รู้​ว่า​ท่าน​เป็น​พระ​คริสต์”

ทุก​คน: ดู​เหมือน​เป็น​อติพจน์​หรือ​คำ​พูด​เกิน​จริง​ที่​เน้น​ว่า​มี​คน​มาก​มาย​กำลัง​ตาม​หา​พระ​เยซู

ประกาศ . . . ทั่ว​แคว้น​กาลิลี: นี่​คือ​จุด​เริ่ม​ต้น​การ​เดิน​ทาง​ประกาศ​รอบ​แรก​ของ​พระ​เยซู​ใน​แคว้น​กาลิลี ท่าน​เดิน​ทาง​ไป​พร้อม​กับ​สาวก 4 คน​ที่​เพิ่ง​ถูก​เลือก คือ เปโตร อันดรูว์ ยากอบ และ​ยอห์น—มก 1:16-20; ดูภาค​ผนวก ก​7

คน​โรค​เรื้อน: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 8:2 และ​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “โรค​เรื้อน

คุกเข่า: ในประเทศ​แถบ​ตะวัน​ออก​กลาง​สมัย​โบราณ การ​คุกเข่า​เป็น​ท่า​ทาง​ที่​แสดง​ความ​นับถือ​โดย​เฉพาะ​ตอน​ที่​กำลัง​อ้อน​วอน​คน​ที่​มี​ฐานะ​หรือ​ตำแหน่ง​สูง​กว่า มาระโก​เป็น​ผู้​เขียน​หนังสือ​ข่าว​ดี​คน​เดียว​ที่​พูด​ถึง​การ​คุกเข่า​ใน​เหตุ​การณ์​นี้

รู้สึก​สงสาร: (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 9:36) คัมภีร์​ไบเบิล​สมัย​ใหม่​บาง​ฉบับ​แปล​ประโยค​นี้​ว่า “รู้สึก​โกรธ” แต่​การ​แปล​ว่า “รู้สึก​สงสาร” พบ​ได้​ใน​สำเนา​พระ​คัมภีร์​โบราณ​ส่วน​ใหญ่ รวม​ถึง​สำเนา​ที่​เก่าแก่​และ​น่า​เชื่อถือ​ที่​สุด นอก​จาก​นั้น ท้อง​เรื่อง​ก็​สนับสนุน​แนว​คิด​ที่​ว่า​พระ​เยซู​รู้สึก​สงสาร ไม่​ใช่​โกรธ

สัมผัส​ตัว​เขา: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 8:3

ผม​อยาก​ช่วย: ดู ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 8:3

อย่า​พูด​เรื่อง​นี้​กับ​ใคร: พระ​เยซู​อาจ​ให้​คำ​สั่ง​นี้​เพราะ​ไม่​ต้องการ​ให้​ผู้​คน​มา​ยกย่อง​ชื่อเสียง​ของ​ท่าน​แทน​ที่​จะ​สนใจ​พระ​ยะโฮวา​พระเจ้า​และ​ข่าว​ดี​เรื่อง​รัฐบาล​ของ​พระองค์ การ​ทำ​แบบ​นี้​ทำ​ให้​คำ​พยากรณ์​ที่ อสย 42:1, 2 เกิด​ขึ้น​จริง​ที่​บอก​ว่า ผู้​รับใช้​ของ​พระ​ยะโฮวา​จะ “ไม่​ส่ง​เสียง​ดัง​ให้​ผู้​คน​ได้​ยิน​ตาม​ถนน” ซึ่ง​หมาย​ความ​ว่า​เขา​จะ​ไม่​ทำ​สิ่ง​ที่​เรียก​ร้อง​ความ​สนใจ (มธ 12:15-19) ความ​ถ่อม​ของ​พระ​เยซู​ทำ​ให้​ผู้​คน​สดชื่น ไม่​เหมือน​กับ​พวก​คน​เสแสร้ง​ที่​พระ​เยซู​ตำหนิ เพราะ​พวก​เขา​ชอบ​อธิษฐาน “ตาม​มุม​ถนน​ใหญ่​เพื่อ​อวด​คน​อื่น” (มธ 6:5) ดู​เหมือน​พระ​เยซู​อยาก​ให้​คน​เชื่อ​ว่า​ท่าน​เป็น​พระ​คริสต์​โดย​อาศัย​หลักฐาน​ที่​หนักแน่น ไม่​ใช่​ข่าว​ลือ​ที่​น่า​ตื่นเต้น​เรื่อง​การ​อัศจรรย์​ของ​ท่าน

ไป​ให้​ปุโรหิต​ตรวจ​ดู: ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส ปุโรหิต​ต้อง​ตรวจ​ดู​ว่า​คน​ที่​เป็น​โรค​เรื้อน​หาย​จาก​โรค​แล้ว​หรือ​ไม่ คน​ที่​หาย​โรค​ต้อง​ไป​ที่​วิหาร​เพื่อ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ตาม​ที่​กฎหมาย​ของ​โมเสส​สั่ง​ไว้​ใน ลนต 14:2-32

วีดีโอและรูปภาพ

วีดีโอ​บท​นำ​ของ​หนังสือ​มาระโก
วีดีโอ​บท​นำ​ของ​หนังสือ​มาระโก
ข่าว​ดี​ของ​มาระโก—เหตุ​การณ์​สำคัญ​บาง​อย่าง
ข่าว​ดี​ของ​มาระโก—เหตุ​การณ์​สำคัญ​บาง​อย่าง

เหตุ​การณ์​เรียง​ตาม​ลำดับ​เวลา​เท่า​ที่​เป็น​ไป​ได้

แผนที่​ของ​หนังสือ​ข่าว​ดี​แต่​ละ​เล่ม​ให้​ข้อมูล​ของ​เหตุ​การณ์​แตกต่าง​กัน

1. ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​ทำ​งาน​รับใช้​ใน​ที่​กันดาร​ใกล้​แม่น้ำ​จอร์แดน (มธ 3:1, 2; มก 1:3-5; ลก 3:2, 3)

2. พระ​เยซู​รับ​บัพติศมา​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน พระ​ยะโฮวา​บอก​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​ลูก​ของ​พระองค์ (มธ 3:13, 16, 17; มก 1:9-11; ลก 3:21, 22)

3. พระ​เยซู​เริ่ม​ทำ​งาน​ประกาศ​ใน​แคว้น​กาลิลี (มธ 4:17; มก 1:14, 15; ลก 4:14, 15)

4. บน​ชายฝั่ง​ทะเลสาบ​กาลิลี พระ​เยซู​เรียก​สาวก 4 คน​และ​ให้​พวก​เขา​ไป​หา​คน​แทน​ที่​จะ​หา​ปลา (มธ 4:18-22; มก 1:16-20)

5. พระ​เยซู​สอน​ใน​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​ใน​เมือง​คาเปอร์นาอุม (มก 1:21; ลก 4:31, 38)

6. พระ​เยซู​ขึ้น​ไป​บน​ภูเขา​ใกล้​เมือง​คาเปอร์นาอุม และ​เลือก​อัครสาวก 12 คน (มก 3:13-15; ลก 6:12, 13)

7. พระ​เยซู​สั่ง​คลื่น​ลม​ใน​ทะเลสาบ​กาลิลี​ให้​สงบ (มธ 8:23-26; มก 4:37-39; ลก 8:22-24)

8. น่า​จะ​เป็น​ที่​เมือง​คาเปอร์นาอุม​ที่​ผู้​หญิง​คน​หนึ่ง​แตะ​เสื้อ​ชั้น​นอก​ของ​พระ​เยซู​และ​หาย​โรค (มธ 9:19-22; มก 5:25-29; ลก 8:43, 44)

9. บน​ชายฝั่ง​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​ของ​ทะเลสาบ​กาลิลี พระ​เยซู​เลี้ยง​อาหาร​ผู้​ชาย​ประมาณ 5,000 คน (มธ 14:19-21; มก 6:39-42, 44; ลก 9:14, 16, 17; ยน 6:10, 11)

10. พระ​เยซู​ให้​พวก​สาวก​ลง​เรือ​ไป​ทาง​เมือง​เบธไซดา (มธ 14:22; มก 6:45)

11. พระ​เยซู​รักษา​ลูก​สาว​ของ​ผู้​หญิง​ชาว​ฟีนิเซีย​ใน​เขต​ไทระ​และ​ไซดอน (มธ 15:21, 22, 28; มก 7:24-26, 29)

12. พระ​เยซู​เดิน​ทาง​ผ่าน​เขต​เดคาโปลิส​เพื่อ​ไป​ทะเลสาบ​กาลิลี (มก 7:31)

13. พระ​เยซู​รักษา​ผู้​ชาย​ตา​บอด​ที่​เมือง​เบธไซดา (มก 8:22-25)

14. พระ​เยซู​สอน​ผู้​คน​ใน​แคว้น​พีเรีย (มธ 19:1-3; มก 10:1, 2)

15. พระ​เยซู​รักษา​ผู้​ชาย​ตา​บอด 2 คน​ใกล้​เมือง​เยรีโค (มธ 20:29, 30, 34; มก 10:46, 47, 51, 52; ลก 18:35, 40-43)

16. พระ​เยซู​กำจัด​ความ​ชั่ว​จาก​วิหาร (มธ 21:12, 13; มก 11:15-17; ลก 19:45, 46)

17. ที่​ตู้​บริจาค​ของ​วิหาร​ใน​ลาน​สำหรับ​ผู้​หญิง พระ​เยซู​เห็น​แม่​ม่าย​ยาก​จน​บริจาค​เงิน 2 เหรียญ (มก 12:42-44; ลก 21:1-4)

18. ตอน​เดิน​ทาง​จาก​วิหาร​ไป​ที่​ภูเขา​มะกอก พระ​เยซู​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​กรุง​เยรูซาเล็ม​จะ​ถูก​ทำลาย (มธ 24:1, 2; มก 13:1, 2; ลก 21:5, 6)

19. พวก​สาวก​เตรียม​ฉลอง​ปัสกา​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม (มก 14:13-16; ลก 22:10-13)

20. พระ​เยซู​ถูก​พา​ตัว​ไป​ที่​บ้าน​ของ​มหา​ปุโรหิต​เคยาฟาส (มธ 26:57-59; มก 14:60-62; ลก 22:54)

21. พระ​เยซู​อยู่​ต่อ​หน้า​สมาชิก​ศาล​แซนเฮดริน​อีก​ครั้ง และ​ใน​ครั้ง​นี้​ท่าน​ถูก​นำ​ตัว​เข้า​ไป​ใน​ศาล​แซนเฮดริน (มก 15:1; ลก 22:66-69)

ที่​กันดาร
ที่​กันดาร

ใน​คัมภีร์​ไบเบิล คำ​ภาษา​เดิม​ที่​แปล​ว่า “ที่​กันดาร” (คำ​ฮีบรู มิดห์บาร์ และ​คำ​กรีก เอะเรมอส) โดย​ทั่ว​ไป​หมาย​ถึง​พื้น​ที่​แห้ง​แล้ง​แทบ​ไม่​มี​ใคร​อยู่​อาศัย​หรือ​เพาะ​ปลูก มี​แต่​พุ่ม​ไม้ ต้น​หญ้า และ​ทุ่ง​หญ้า​ประปราย นอก​จาก​นั้น​คำ​ภาษา​เดิม​ยัง​อาจ​หมาย​ถึง​เขต​ที่​ไม่​มี​น้ำ​จน​เรียก​ได้​ว่า​เป็น​ทะเล​ทราย ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี เมื่อ​พูด​ถึง​ที่​กันดาร​ก็​มัก​หมาย​ถึง​ที่​กันดาร​ยูเดีย​ซึ่ง​ยอห์น​อาศัย​อยู่​และ​ทำ​งาน​ประกาศ และ​ยัง​เป็น​ที่​ที่​พระ​เยซู​ถูก​มาร​ล่อ​ใจ​ด้วย—มก 1:12

เสื้อ​ผ้า​และ​การ​แต่ง​ตัว​ของ​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา
เสื้อ​ผ้า​และ​การ​แต่ง​ตัว​ของ​ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา

ยอห์น​ใส่​ชุด​ที่​ทอ​จาก​ขน​อูฐ และ​คาด​เอว​ด้วย​แผ่น​หนัง​หรือ​เข็มขัด​หนัง ซึ่ง​สามารถ​เหน็บ​ของ​ชิ้น​เล็ก ๆ ไว้​ได้ ชุด​แบบ​นี้​คล้าย​กัน​กับ​ชุด​ของ​ผู้​พยากรณ์​เอลียาห์ (2พก 1:8) ผ้า​ขน​อูฐ​เป็น​ผ้า​เนื้อ​หยาบ​ที่​คน​ยาก​จน​ใส่​กัน แต่​เสื้อ​ผ้า​นุ่ม ๆ ที่​ทำ​จาก​ผ้า​ไหม​หรือ​ผ้า​ลินิน​เป็น​ผ้า​ที่​คน​รวย​ใส่ (มธ 11:7-9) เนื่อง​จาก​ยอห์น​เป็น​นาศีร์​ตั้ง​แต่​เกิด จึง​เป็น​ไป​ได้​ว่า​เขา​ไม่​เคย​ตัด​ผม​เลย เสื้อ​ผ้า​และ​การ​แต่ง​ตัว​ของ​ยอห์น​อาจ​ทำ​ให้​เห็น​ว่า​เขา​ใช้​ชีวิต​เรียบ​ง่าย​เพื่อ​ทำ​ตาม​ความ​ต้องการ​ของ​พระเจ้า​อย่าง​เต็ม​ที่

ตั๊กแตน
ตั๊กแตน

คำ​ว่า “ตั๊กแตน” ที่​ใช้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​อาจ​หมาย​ถึง​ตั๊กแตน​ชนิด​ไหน​ก็​ได้​ที่​มี​หนวด​สั้น โดย​เฉพาะ​ตั๊กแตน​ที่​อพยพ​เป็น​ฝูง​ใหญ่ จาก​ผล​วิจัย​ใน​เยรูซาเล็ม ตั๊กแตน​ทะเล​ทราย​มี​โปรตีน​สูง​ถึง 75% ใน​ประเทศ​แถบ​ตะวัน​ออก​กลาง​ทุก​วัน​นี้​คน​ที่​กิน​ตั๊กแตน​จะ​เอา​ส่วน​หัว ขา ปีก และ​ท้อง​ออก​ก่อน แล้ว​กิน​ส่วน​ลำ​ตัว​ที่​เหลือ​ดิบ ๆ หรือ​ทำ​ให้​สุก​ก่อน​ก็​ได้ ว่า​กัน​ว่า​แมลง​ชนิด​นี้​มี​รสชาติ​เหมือน​กุ้ง​หรือ​ปู และ​อุดม​ไป​ด้วย​โปรตีน

น้ำ​ผึ้ง​ป่า
น้ำ​ผึ้ง​ป่า

ใน​ภาพ​นี้​คือ​รัง​ผึ้ง​ป่า (หมาย​เลข 1) และ​รัง​ผึ้ง​ที่​เต็ม​ไป​ด้วย​น้ำ​ผึ้ง (หมาย​เลข 2) น้ำ​ผึ้ง​ที่​ยอห์น​กิน​อาจ​ได้​จาก​ผึ้ง​ป่า​สาย​พันธุ์ Apis mellifera syriaca ซึ่ง​พบ​ได้​ทั่ว​ไป​ใน​พื้น​ที่​นั้น ผึ้ง​ชนิด​นี้​ปรับ​ตัว​เข้า​กับ​สภาพ​อากาศ​ที่​ร้อน​และ​แห้ง​แล้ง​ของ​ที่​กันดาร​ยูเดีย​ได้​ดี แต่​มี​นิสัย​ดุ​ร้าย ไม่​เหมาะ​ที่​จะ​เอา​มา​เป็น​ผึ้ง​เลี้ยง ผู้​คน​ใน​อิสราเอล​เลี้ยง​ผึ้ง​ไว้​ใน​กระบอก​ดิน​เหนียว​มา​ตั้ง​แต่​ศตวรรษ​ที่ 9 ก่อน ค.ศ. แล้ว มี​การ​พบ​ซาก​กระบอก​ดิน​เหนียว​จำนวน​มาก​ใจ​กลาง​ชุมชน​นอก​เมือง​แห่ง​หนึ่ง (ปัจจุบัน​เรียก​ว่า เทล เรคอฟ) ซึ่ง​อยู่​ใน​หุบเขา​จอร์แดน น้ำ​ผึ้ง​ใน​รัง​ผึ้ง​เหล่า​นี้​ได้​จาก​ผึ้ง​สาย​พันธุ์​หนึ่ง​ซึ่ง​ดู​เหมือน​นำ​เข้า​มา​จาก​ดินแดน​ที่​ปัจจุบัน​คือ​ตุรกี

รอง​เท้า
รอง​เท้า

ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล รอง​เท้า​จะ​มี​พื้น​แบน และ​ทำ​จาก​หนัง ไม้ หรือ​ถัก​จาก​เส้นใย รอง​เท้า​จะ​รัด​ติด​กับ​เท้า​โดย​ใช้​สาย​หนัง มี​การ​ใช้​รอง​เท้า​เป็น​สัญลักษณ์​ของ​การ​ซื้อ​ขาย​ถ่าย​โอน​บาง​อย่าง​และ​ใช้​เป็น​ภาพ​เปรียบ​เทียบ ตัว​อย่าง​เช่น แม่​ม่าย​จะ​ถอด​รอง​เท้า​ของ​ผู้​ชาย​ที่​เป็น​พี่​หรือ​น้อง​ของ​สามี​ที่​เสีย​ชีวิต​ซึ่ง​ไม่​ยอม​ทำ​ตาม​กฎหมาย​ของ​โมเสส​โดย​แต่งงาน​กับ​เธอ และ​ครอบครัว​ของ​ผู้​ชาย​คน​นั้น​ก็​จะ​ถูก​ตรา​หน้า​ว่า “ครอบครัว​ของ​คน​ที่​ถูก​ถอด​รอง​เท้า​ออก” (ฉธบ 25:9, 10) การ​ให้​รอง​เท้า​ของ​ตัว​เอง​กับ​คน​อื่น​หมาย​ถึง​การ​โอน​ที่​ดิน​หรือ​โอน​สิทธิ์​ใน​การ​ไถ่​ให้​กับ​คน​นั้น (นรธ 4:7) การ​แก้​สาย​รัด​รอง​เท้า​หรือ​ถือ​รอง​เท้า​ให้​คน​อื่น​ถูก​มอง​ว่า​เป็น​งาน​ต่ำต้อย​ที่​มัก​จะ​ทำ​โดย​ทาส ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​พูด​ถึง​การ​ทำ​แบบ​นี้​เพื่อ​บ่ง​บอก​ว่า​ตัว​เขา​ต่ำต้อย​กว่า​พระ​คริสต์

แม่น้ำจอร์แดน
แม่น้ำจอร์แดน

ยอห์น​ให้​บัพติศมา​พระ​เยซู​ใน​แม่น้ำ​จอร์แดน แต่​ไม่​มี​ใคร​รู้​แน่ชัด​ว่า​พระ​เยซู​ถูก​จุ่ม​ตัว​บริเวณ​ไหน​ของ​แม่น้ำ

ภาพ​หุบเขา​ยิสเรเอล
ภาพ​หุบเขา​ยิสเรเอล

ภาพ​นี้​ถ่าย​จาก​หน้าผา​แห่ง​หนึ่ง​ใกล้​เมือง​นาซาเร็ธ​โดย​มอง​ไป​ทาง​ใต้ คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง​หุบเขา​ยิสเรเอล​ที่​อุดม​สมบูรณ์​นี้​หลาย​ครั้ง ใน​ภาพ​นี้​จะ​เห็น​ที่​ราบ​หุบเขา​ตั้ง​แต่​ด้าน​ตะวัน​ออก​ไป​จน​ถึง​ตะวัน​ตก (ยชว 17:16; วนฉ 6:33; ฮชย 1:5) ที่​เห็น​เด่น​ชัด​ทาง​ด้าน​ซ้าย​คือ​ภูเขา​โมเรห์​ซึ่ง​มี​เมือง​นาอิน​ตั้ง​อยู่​บน​ไหล่​เขา​ด้าน​หนึ่ง เมือง​นี้​เป็น​เมือง​ที่​พระ​เยซู​ปลุก​ลูก​ชาย​ของ​แม่​ม่าย​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย (วนฉ 7:1; ลก 7:11-15) ตรง​กลาง​ภาพ​จะ​เห็น​ภูเขา​กิลโบอา​อยู่​ไกล ๆ (1ซม 31:1, 8) พระ​เยซู​เติบโต​ขึ้น​ใน​เมือง​นาซาเร็ธ​ซึ่ง​อยู่​ไม่​ไกล​จาก​หุบเขา​ยิสเรเอล​แห่ง​นี้ และ​อาจ​เคย​มา​ที่​นี่​เพื่อ​ดู​สถาน​ที่​สำคัญ​ต่าง ๆ ใน​ประวัติศาสตร์​ของ​อิสราเอล—ลก 2:39, 40

ที่กันดารยูเดีย ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน
ที่กันดารยูเดีย ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำจอร์แดน

ใน​เขต​ที่​แห้ง​แล้ง​และ​แทบ​ไม่​มี​ใคร​อยู่​อาศัย​นี้ ยอห์น​ผู้​ให้​บัพติศมา​เริ่ม​งาน​รับใช้​ของ​เขา และ​พระ​เยซู​ก็​ถูก​มาร​ล่อ​ใจ​ที่​นี่​ด้วย

สัตว์​ป่า​ใน​ที่​กันดาร
สัตว์​ป่า​ใน​ที่​กันดาร

ใน​ที่​กันดาร​ที่​พระ​เยซู​ไป​อยู่​ประมาณ 40 วัน 40 คืน มี​สัตว์​หลาย​ชนิด เช่น สิงโต (หมาย​เลข 1) เสือ​ดาว (หมาย​เลข 2) และ​ไฮยีน่า​ลาย​ทาง (หมาย​เลข 3) ไม่​มี​การ​พบ​สิงโต​ใน​บริเวณ​นั้น​เป็น​เวลา​หลาย​ร้อย​ปี​มา​แล้ว แต่​ยัง​มี​เสือ​ดาว​และ​ไฮยีน่า​อาศัย​อยู่ ถึง​อย่าง​นั้น​ใน​ช่วง​ไม่​กี่​ปี​ที่​ผ่าน​มา​ก็​ไม่​ค่อย​พบ​สัตว์​เหล่า​นี้​ใน​เขต​นั้น​แล้ว

ทอด​แห
ทอด​แห

ชาว​ประมง​ใน​ทะเลสาบ​กาลิลี​ใช้​แห 2 ชนิด ชนิด​แรก​เป็น​แห​ตา​เล็ก​ใช้​เพื่อ​จับ​ปลา​ขนาด​เล็ก อีก​ชนิด​หนึ่ง​เป็น​แห​ตา​ใหญ่​ใช้​เพื่อ​จับ​ปลา​ที่​มี​ขนาด​ใหญ่​กว่า ต่าง​จาก​อวน​ที่​ต้อง​ใช้​เรือ​อย่าง​น้อย 1 ลำ​และ​ใช้​หลาย​คน​ช่วย ชาว​ประมง​คน​เดียว​ก็​เหวี่ยง​แห​ได้​โดย​ยืน​อยู่​บน​เรือ​หรือ​ยืน​ริม​ชายฝั่ง แห​อาจ​มี​เส้น​ผ่า​ศูนย์กลาง​อย่าง​น้อย 5 เมตร และ​มี​ตุ้ม​ถ่วง​น้ำหนัก​ที่​เป็น​หิน​หรือ​ตะกั่ว​อยู่​รอบ ๆ ถ้า​เหวี่ยง​อย่าง​ถูก​ต้อง แห​จะ​แผ่​เป็น​วง​กลม​เหนือ​ผิว​น้ำ ส่วน​ขอบ​ที่​หนัก​จะ​จม​ก่อน และ​ปลา​จะ​ติด​อยู่​ข้าง​ใน​ตอน​ที่​แห​จม​ลง​ใต้​น้ำ ชาว​ประมง​อาจ​ดำ​น้ำ​ลง​ไป​เอา​ปลา​ออก​จาก​แห หรือ​เขา​อาจ​ค่อย ๆ ดึง​แห​ขึ้น​ไป​บน​ฝั่ง การ​ใช้​แห​อย่าง​ชำนาญ​ต้อง​ใช้​ทักษะ​และ​ความ​พยายาม​อย่าง​มาก

ปลา​ใน​ทะเลสาบ​กาลิลี
ปลา​ใน​ทะเลสาบ​กาลิลี

คัมภีร์​ไบเบิล​พูด​ถึง​บ่อย ๆ เกี่ยว​กับ​ปลา การ​จับ​ปลา และ​ชาว​ประมง​ใน​ทะเลสาบ​กาลิลี มี​ปลา​ประมาณ 18 ชนิด​ใน​ทะเลสาบ​นี้ ซึ่ง​ใน​จำนวน​นี้​มี​ประมาณ 10 ชนิด​ที่​ชาว​ประมง​จับ​กัน และ​ใน 10 ชนิด​นี้​สามารถ​แบ่ง​ออก​มา​เป็น 3 กลุ่ม​ใหญ่ ๆ ตาม​การ​ซื้อ​ขาย กลุ่ม​แรก​คือ​ปลา​บิน​นี (binny) ซึ่ง​เป็น​ที่​รู้​จัก​กัน​ด้วย​ว่า​ปลา​บาร์เบล (barbel, Barbus longiceps) (หมาย​เลข 1) ปลา 3 ชนิด​ใน​กลุ่ม​นี้​มี​หนวด​ที่​มุม​ปาก​ทั้ง​สอง​ข้าง จึง​มี​ชื่อ​ใน​ภาษา​เซมิติก​ว่า บีนี ซึ่ง​หมาย​ถึง “ขน” ปลา​กลุ่ม​นี้​กิน​สัตว์​จำพวก​หอย หอย​ทาก และ​ปลา​เล็ก ๆ ปลา​บาร์เบล​หัว​ยาว​มี​ความ​ยาว​ประมาณ 75 ซม. และ​หนัก​มาก​กว่า 7 กก. กลุ่ม​ที่ 2 คือ​ปลา​มุชต์ (musht, Tilapia galilea) (หมาย​เลข 2) ซึ่ง​หมาย​ถึง “หวี” ใน​ภาษา​อาหรับ เพราะ​ปลา 5 ชนิด​ใน​กลุ่ม​นี้​มี​ครีบ​หลัง​ลักษณะ​คล้าย​หวี ปลา​มุชต์​ชนิด​หนึ่ง​มี​ความ​ยาว​ประมาณ 45 ซม. และ​หนัก​ประมาณ 2 กก. กลุ่ม​ที่ 3 คือ​ปลา​ซาร์ดีน​คินเนเรต (Kinneret sardine, Acanthobrama terrae sanctae) (หมาย​เลข 3) ซึ่ง​ดู​คล้าย​กับ​ปลา​เฮอร์ริง​ตัว​เล็ก ๆ ตั้ง​แต่​สมัย​โบราณ​มี​การ​เก็บ​รักษา​ปลา​ซาร์ดีน​ชนิด​นี้​ไว้​ด้วย​การ​หมัก​ดอง

ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​ใน​คาเปอร์นาอุม
ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​ใน​คาเปอร์นาอุม

กำแพง​หินปูน​สี​ขาว​ใน​ภาพ​นี้​เป็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​ที่​สร้าง​ขึ้น​ใน​ช่วง​ปลาย​ศตวรรษ​ที่ 2 ถึง​ต้น​ศตวรรษ​ที่ 5 บาง​คน​เชื่อ​ว่า​ส่วน​หนึ่ง​ของ​หิน​บะซอลต์​สี​ดำ​ตรง​ส่วน​ฐาน​ของ​กำแพง​หินปูน​เป็น​ซาก​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​ที่​หลง​เหลือ​มา​จาก​ศตวรรษ​แรก ถ้า​เป็น​อย่าง​นั้น​จริง บริเวณ​นี้​ก็​อาจ​เป็น​ที่​ที่​พระ​เยซู​เคย​สอน​ประชาชน​และ​รักษา​ผู้​ชาย​ที่​ถูก​ปีศาจ​สิง​ตาม​บันทึก​ใน มก 1:23-27 และ ลก 4:33-36