เขียนโดยมาระโก 10:1-52

10  แล้ว​พระ​เยซู​ก็​เดิน​ทาง​ออก​จาก​ที่​นั่น ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน และ​มา​ใกล้​เขต​แดน*​แคว้น​ยูเดีย มี​คน​มาก​มาย​พา​กัน​มา​หา​ท่าน และ​ท่าน​สอน​พวก​เขา​เหมือน​ที่​เคย​ทำ​เป็น​ประจำ+ 2  พวก​ฟาริสี​มา​ทดสอบ​พระ​เยซู พวก​เขา​ถาม​ว่า ผิด​ไหม​ถ้า​ผู้​ชาย​จะ​หย่า​กับ​ภรรยา+ 3  พระ​เยซู​ย้อน​ถาม​พวก​เขา​ว่า “โมเสส​สั่ง​ว่า​ยัง​ไง​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้?” 4  พวก​เขาบอก​ว่า “โมเสส​อนุญาต​ให้​ผู้​ชาย​ทำ​หนังสือ​หย่า​ให้​ภรรยา​แล้ว​ก็​หย่า​ได้”+ 5  พระ​เยซู​บอก​พวก​เขา​ว่า “โมเสส​เขียน​กฎ​ข้อ​นี้​ไว้+ก็​เพราะ​พวก​คุณ​เป็น​คน​ดื้อ​รั้น+ 6  แต่​ใน​ตอน​แรก​ที่​พระเจ้า​สร้าง​มนุษย์ ‘พระองค์​สร้าง​เป็น​ผู้​ชาย​และ​ผู้​หญิง+ 7  เพราะ​อย่าง​นั้น ผู้​ชาย​จะ​จาก​พ่อ​แม่​ไป+ 8  แล้ว​ผู้​ชาย​กับ​ผู้​หญิง​จะ​เป็น​หนึ่ง​เดียว’+ พวก​เขา​จึง​ไม่​เป็น​สอง​อีก​ต่อ​ไป แต่​เป็น​คน​คน​เดียว​กัน 9  ดัง​นั้น สิ่ง​ที่​พระเจ้า​ผูก​ไว้​คู่​กัน​แล้ว อย่า​ให้​มนุษย์​ทำ​ให้​แยก​จาก​กัน​เลย”+ 10  เมื่อ​อยู่​ด้วย​กัน​ตาม​ลำพัง​ใน​บ้าน พวก​สาวก​ก็​ถาม​พระ​เยซู​เกี่ยว​กับ​เรื่อง​นี้ 11  ท่าน​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “คน​ที่​หย่า​กับ​ภรรยา​แล้ว​ไป​แต่งงาน​ใหม่​ก็​ถือ​ว่า​เขา​มี​ชู้+ และ​ทำ​ผิด​ต่อ​ภรรยา​ของ​เขา 12  และ​ถ้า​ผู้​หญิง​หย่า​กับ​สามี​แล้ว​ไป​แต่งงาน​กับ​คน​อื่น ก็​ถือ​ว่า​เธอ​มี​ชู้​ด้วย”+ 13  มี​คน​พา​เด็ก ๆ มา​ให้​พระ​เยซู​วาง​มือ แต่​พวก​สาวก​ห้าม​ไว้+ 14  เมื่อ​ท่าน​เห็น​ก็​ไม่​พอ​ใจ และ​พูด​กับ​สาวก​ว่า “ให้​เด็ก ๆ เข้า​มา​หา​ผม​เถอะ อย่า​ห้าม​เลย เพราะ​รัฐบาล*ของ​พระเจ้า​เป็น​ของ​คน​แบบ​นี้​แหละ+ 15  ผม​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ถ้า​ใคร​ไม่​ยอม​รับ​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​และ​ไม่​เป็น​เหมือน​เด็ก​เล็ก ๆ เขา​จะ​เข้า​รัฐบาล​นั้น​ไม่​ได้​เลย”+ 16  แล้ว​พระ​เยซู​ก็​กอด​เด็ก ๆ และ​วาง​มือ​อวยพร​พวก​เขา+ 17  ตอน​ที่​พระ​เยซู​เดิน​ทาง​ต่อ​ไป มี​ผู้​ชาย​คน​หนึ่ง​วิ่ง​เข้า​มา​คุกเข่า​ลง​ต่อ​หน้า​ท่าน​และ​ถาม​ว่า “อาจารย์​ครับ ท่าน​เป็น​อาจารย์​ที่​ดี​จริง ๆ ผม​ต้อง​ทำ​อะไร​ถึง​จะ​ได้​ชีวิต​ตลอด​ไป?”*+ 18  พระ​เยซู​พูด​กับ​เขา​ว่า “ทำไม​ถึง​ยกย่อง​ผม​ว่า​ดี? ไม่​มี​ใคร​ดี​จริง ๆ หรอก​นอก​จาก​พระเจ้า​เท่า​นั้น+ 19  คุณ​ก็​รู้​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​อยู่​แล้ว​นี่​ที่​ว่า ‘อย่า​ฆ่า​คน+ อย่า​เล่นชู้+ อย่า​ขโมย+ อย่า​เป็น​พยาน​เท็จ+ อย่า​โกง​คน​อื่น+ และ​ให้​นับถือ​พ่อ​แม่’”+ 20  ผู้​ชาย​คน​นั้น​บอก​ท่าน​ว่า “อาจารย์​ครับ ผม​ทำ​ตาม​ทุก​ข้อ​อยู่​แล้ว​ตั้ง​แต่​เด็ก ๆ” 21  พระ​เยซู​มอง​เขา​ด้วย​ความ​รัก แล้ว​บอก​เขา​ว่า “มี​อีก​อย่าง​หนึ่ง​ที่​คุณ​ยัง​ไม่​ได้​ทำ ไป​ขาย​สิ่ง​ของ​ที่​คุณ​มี​อยู่​และ​เอา​เงิน​ไป​แจก​คน​จน คุณ​จะ​มี​ทรัพย์​สมบัติ​ใน​สวรรค์ แล้ว​ตาม​ผม​มา”+ 22  แต่​พอ​เขา​ได้​ยิน​อย่าง​นั้น​ก็​เศร้า​ใจ และ​เดิน​คอ​ตก​กลับ​ไป เพราะ​เขา​มี​ทรัพย์​สมบัติ​มาก​มาย 23  พระ​เยซู​มอง​ไป​รอบ ๆ แล้ว​พูด​กับ​พวก​สาวก​ว่า “คน​มี​เงิน​จะ​เข้า​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​ก็​ยาก​จริง ๆ”+ 24  พวก​สาวก​ก็​แปลก​ใจ​กับ​คำ​พูด​ของ​ท่าน พระ​เยซู​จึง​พูด​กับ​พวก​เขา​อีก​ว่า “การ​ที่​จะ​เข้า​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​ก็​ยาก​จริง ๆ 25  ตัว​อูฐ​ลอด​รู​เข็ม​ยัง​ง่าย​กว่า​คน​รวย​จะ​เข้า​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า”+ 26  พวก​สาวก​ก็​ยิ่ง​งง​กัน​ใหญ่​และ​ถาม​ท่าน​ว่า “แล้ว​อย่าง​นี้ จะ​มี​ใคร​รอด​ได้​ล่ะ?”+ 27  พระ​เยซู​มอง​พวก​เขา​และ​พูด​ว่า “มนุษย์​ทำ​ไม่​ได้​ก็​จริง แต่​สำหรับ​พระเจ้า​แล้ว​เป็น​ไป​ได้ เพราะ​พระเจ้า​ทำ​ได้​ทุก​อย่าง”+ 28  เปโตร​ก็​บอก​ท่าน​ว่า “พวก​ผม​ยอม​ทิ้ง​ทุก​สิ่ง​ทุก​อย่าง​และ​ตาม​ท่าน​มา”+ 29  พระ​เยซู​บอก​ว่า “ผม​จะ​บอก​ให้​รู้​ว่า ทุก​คน​ที่​ยอม​สละ​บ้าน หรือ​พี่​น้อง หรือ​พ่อ​แม่ หรือ​ลูก ๆ หรือ​ไร่​นา​เพื่อ​ติด​ตาม​ผม​และ​เพื่อ​ข่าว​ดี+ 30  เขา​จะ​ได้​คืน​อีก 100 เท่า​ใน​ยุค​นี้* คือ บ้าน พี่​น้อง แม่ ลูก ๆ และ​ไร่​นา แต่​ก็​จะ​ถูก​ข่มเหง​ด้วย+ และ​ใน​ยุค​หน้า​จะ​ได้​ชีวิต​ตลอด​ไป 31  แต่​หลาย​คน​ที่​เป็น​คน​แรก​จะ​เป็น​คน​สุด​ท้าย และ​คน​สุด​ท้าย​จะ​ได้​เป็น​คน​แรก”+ 32  ระหว่าง​เดิน​ทาง​ขึ้น​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม พระ​เยซู​เดิน​นำ​หน้า ทำ​ให้​พวก​สาวก​รู้สึก​แปลก​ใจ ส่วน​คน​อื่น ๆ ที่​ตาม​มา​รู้สึก​กลัว พระ​เยซู​พา​อัครสาวก 12 คน​แยก​ออก​ไป​และ​บอก​พวก​เขา​อีก​ครั้ง​เกี่ยว​กับ​สิ่ง​ที่​จะ​ต้อง​เกิด​ขึ้น​กับ​ท่าน ท่าน​พูด​ว่า+ 33  “ตอน​นี้ พวก​เรา​กำลัง​ขึ้น​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม และ ‘ลูก​มนุษย์’ จะ​ถูก​มอบ​ไว้​ใน​มือ​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​กับ​พวก​ครู​สอน​ศาสนา พวก​เขา​จะ​ตัดสิน​ลง​โทษ​ท่าน​ถึง​ตาย และ​จะ​ส่ง​ตัว​ท่าน​ให้​คน​ต่าง​ชาติ 34  พวก​นั้น​จะ​เยาะเย้ย​ท่าน ถุย​น้ำลาย​ใส่+ เฆี่ยน​ตี และ​ฆ่า​ท่าน แต่ 3 วัน​ต่อ​มา​ท่าน​จะ​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย”+ 35  ยากอบ​กับ​ยอห์น ลูก​ชาย​ของ​เศเบดี+เข้า​ไป​หา​พระ​เยซู​และ​พูด​ว่า “อาจารย์​ครับ พวก​เรา​อยาก​ขอ​ให้​ท่าน​ทำ​บาง​อย่าง​ได้​ไหม​ครับ?”+ 36  ท่าน​ถาม​พวก​เขา​ว่า “จะ​ให้​ผม​ทำ​อะไร​ล่ะ?” 37  พวก​เขา​ตอบ​ว่า “เมื่อ​ท่าน​ได้​ขึ้น​ปกครอง​แล้ว ขอ​ให้​เรา​ได้​นั่ง​ข้าง​ขวา​ของ​ท่าน​คน​หนึ่ง ข้าง​ซ้าย​คน​หนึ่ง”+ 38  แต่​พระ​เยซู​บอก​พวก​เขา​ว่า “พวก​คุณ​ไม่​รู้​หรอก​ว่า​กำลัง​ขอ​อะไร​อยู่ คุณ​จะ​ดื่ม​จาก​ถ้วย​ที่​ผม​ดื่ม​อยู่ หรือ​จะ​รับ​บัพติศมา​แบบ​เดียว​กับ​ที่​ผม​รับ​อยู่​ได้​หรือ?”+ 39  พวก​เขา​ตอบ​ท่าน​ว่า “ได้​ครับ” พระ​เยซู​จึง​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “ถูก​แล้ว ถ้วย​ที่​ผม​ดื่ม​อยู่ พวก​คุณ​จะ​ได้​ดื่ม และ​บัพติศมา​ที่​ผม​รับ​อยู่​นั้น พวก​คุณ​ก็​จะ​ได้​รับ+ 40  แต่​ใคร​จะ​ได้​นั่ง​ข้าง​ขวา​หรือ​ข้าง​ซ้าย​ของ​ผม​นั้น ผม​ไม่​ใช่​ผู้​กำหนด พ่อ​ของ​ผม​ต่าง​หาก​เป็น​ผู้​กำหนด” 41  เมื่อ​อัครสาวก​อีก 10 คน​ได้​ยิน​ก็​ไม่​พอ​ใจ​ยากอบ​กับ​ยอห์น​มาก+ 42  พระ​เยซู​จึง​เรียก​อัครสาวก​ทุก​คน​มา​หา​และ​พูด​ว่า “พวก​คุณ​รู้​ว่า​คน​ที่​มี​อำนาจ​ใน​โลก​นี้*ชอบ​ทำ​ตัว​เป็น​นาย​เหนือ​ประชาชน และ​พวก​คน​ใหญ่​คน​โต​ก็​ชอบ​ใช้​อำนาจ​ข่ม​คน​อื่น+ 43  แต่​พวก​คุณ​ต้อง​ไม่​เป็น​อย่าง​นั้น ใคร​อยาก​เป็น​ใหญ่​ก็​ต้อง​รับใช้​คน​อื่น+ 44  และ​ใคร​อยาก​เป็น​คน​สำคัญ​ที่​สุด​ก็​ต้อง​เป็น​ทาส​รับใช้​คน​อื่น 45  เพราะ​แม้​แต่ ‘ลูก​มนุษย์’ ก็​ไม่​ได้​มา​ให้​คน​อื่น​รับใช้ แต่​มา​รับใช้​คน​อื่น+ และ​สละ​ชีวิต​เป็น​ค่า​ไถ่​ให้​คน​มาก​มาย”+ 46  พระ​เยซู​กับ​สาวก​เดิน​ทาง​มา​ถึง​เมือง​เยรีโค ตอน​ที่​ท่าน​กับ​สาวก​และ​คน​กลุ่ม​ใหญ่​ออก​จาก​เมือง​เยรีโค มี​ขอ​ทาน​ตา​บอด​คน​หนึ่ง​นั่ง​อยู่​ริม​ทาง เขา​ชื่อ​บาร์ทิเมอัส (ลูก​ของ​ทิเมอัส)+ 47  เมื่อ​เขา​ได้​ยิน​ว่า​พระ​เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ​กำลัง​เดิน​ผ่าน​มา​ก็​ตะโกน​เรียก​ท่าน​ว่า “ท่าน​เยซู ลูก​หลาน​ดาวิด​ครับ+ ขอ​เมตตา​ผม​ด้วย”+ 48  มี​หลาย​คน​บอก​เขา​ให้​เงียบ แต่​เขา​กลับ​ร้อง​ตะโกน​ดัง​ขึ้น​อีก​ว่า “ท่าน​ผู้​เป็น​ลูก​หลาน​ดาวิด​ครับ ขอ​เมตตา​ผม​ด้วย” 49  พระ​เยซู​จึง​หยุด​เดิน​และ​พูด​ว่า “เรียก​เขา​มา​นี่​สิ” พวก​เขา​จึง​เรียก​ผู้​ชาย​ตา​บอด​และ​บอก​เขา​ว่า “ดีใจ​ด้วย ลุก​ขึ้น​เถอะ ท่าน​เรียก​แล้ว” 50  เขา​จึง​สลัด​เสื้อ​ชั้น​นอก​ทิ้ง แล้ว​รีบ​ลุก​ไป​หา​พระ​เยซู 51  พระ​เยซู​ถาม​เขา​ว่า “มี​อะไร​ให้​ผม​ช่วย​ไหม?” ผู้​ชาย​ตา​บอด​ตอบ​ว่า “อาจารย์​ครับ+ ช่วย​ทำ​ให้​ผม​มอง​เห็น​ด้วย​เถอะ” 52  พระ​เยซู​จึง​พูด​กับ​เขา​ว่า “ไป​เถอะ ความ​เชื่อ​ของ​คุณ​ทำ​ให้​คุณ​หาย​เป็น​ปกติ​แล้ว”*+ ทันใด​นั้น เขา​ก็​มอง​เห็น​ได้+ แล้ว​เดิน​ตาม​พระ​เยซู​ไป

เชิงอรรถ

หรือ “ชายแดน”
หรือ “ราชอาณาจักร”
แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ได้​ชีวิต​ตลอด​ไป​เป็น​มรดก?”
หรือ “ตอน​นี้”
หรือ “คน​ที่​ถือ​กัน​ว่า​เป็น​ผู้​นำ​ใน​โลก​นี้”
หรือ “รอด​แล้ว”

ข้อมูลสำหรับศึกษา

ข้าม​แม่น้ำ​จอร์แดน และ​มา​ใกล้​เขต​แดน​แคว้น​ยูเดีย: น่า​จะ​หมาย​ถึง​พีเรีย​ซึ่ง​เป็น​เขต​แดน​ทาง​ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน โดย​เฉพาะ​ส่วน​ที่​ติด​กับ​แคว้น​ยูเดีย—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 19:1 และภาค​ผนวก ก​7, แผนที่ 5

ใน​ตอน​แรก​ที่​พระเจ้า​สร้าง​มนุษย์: ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​พูด​ถึง​ตอน​ที่​พระเจ้า​สร้าง​ผู้​ชาย​กับ​ผู้​หญิง​และ​ให้​พวก​เขา​แต่งงาน​กัน ซึ่ง​เป็น​การ​เริ่ม​ต้น​ของ​สังคม​มนุษย์

พระองค์: สำเนา​พระ​คัมภีร์​เก่าแก่​บาง​ฉบับ​ใช้​คำ​ว่า “พระเจ้า”

หย่า​กับ​ภรรยา: หรือ “ให้​ภรรยา​ของ​เขา​ไป” คำ​พูด​ใน มธ 19:9 ซึ่ง​เป็น​ประโยค​ที่​ครบ​ถ้วน​กว่า​จะ​ช่วย​ให้​เข้าใจ​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ใน​ข้อ​นี้ เพราะ​ใน​มัทธิว​มี​ข้อ​ความ​เพิ่ม​เติม​ว่า “นอก​จาก​เขา​หย่า​เพราะ​ภรรยา​ทำ​ผิด​ศีลธรรม​ทาง​เพศ” (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 5:32) ดัง​นั้น คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ที่​บันทึก​ใน​หนังสือ​มาระโก​เกี่ยว​ข้อง​กับ​การ​หย่า​เพราะ​เหตุ​ผล​อื่น ๆ นอก​เหนือ​จาก​การ​หย่า​เพราะ​ฝ่าย​หนึ่ง​ทำ “ผิด​ศีลธรรม​ทาง​เพศ” (คำ​กรีก พอร์เน่อา)

มี​ชู้ และ​ทำ​ผิด​ต่อ​ภรรยา: ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​ไม่​ยอม​รับ​คำ​สอน​ที่​แพร่​หลาย​ของ​พวก​รับบี​ที่​ยอม​ให้​ผู้​ชาย​หย่า​ภรรยา​ได้ “ไม่​ว่า​จะ​ด้วย​เหตุ​ผล​อะไร​ก็​ตาม” (มธ 19:3, 9) แนว​คิด​เรื่อง​การ​ที่​สามี​มี​ชู้​และ​ทำ​ผิด​ต่อ​ภรรยา​เป็น​เรื่อง​แปลก​สำหรับ​ชาว​ยิว​ส่วน​ใหญ่ พวก​รับบี​สอน​ว่า​สามี​ไม่​มี​ทาง​มี​ชู้​และ​ทำ​ผิด​ต่อ​ภรรยา มี​แต่​ผู้​หญิง​เท่า​นั้น​ที่​จะ​มี​ชู้ คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู​ที่​แสดง​ว่า​สามี​ต้อง​อยู่​ภาย​ใต้​กฎเกณฑ์​ด้าน​ศีลธรรม​แบบ​เดียว​กับ​ภรรยา​เป็น​การ​ให้​เกียรติ​ผู้​หญิง​และ​ยก​ฐานะ​ทาง​สังคม​ของ​พวก​เธอ​ให้​สูง​ขึ้น

ถ้า​ผู้​หญิง​หย่า​กับ​สามี: จาก​คำ​พูด​นี้ พระ​เยซู​ยอม​รับ​ว่า​ผู้​หญิง​มี​สิทธิ์​หย่า​กับ​สามี​ที่​ไม่​ซื่อ​สัตย์​ซึ่ง​ดู​เหมือน​เป็น​เรื่อง​ที่​ชาว​ยิว​ใน​สมัย​ของ​ท่าน​ยอม​รับ​ไม่​ได้ แต่​พระ​เยซู​กำลัง​บอก​ว่า​สำหรับ​คริสเตียน​แล้ว​ทั้ง​ผู้​ชาย​และ​ผู้​หญิง​ต้อง​อยู่​ใต้​มาตรฐาน​เดียว​กัน

เด็ก ๆ: คำ​ว่า​เด็ก ๆ อาจ​หมาย​ถึง​เด็ก​หลาย​วัย เพราะ​คำ​กรีก​ที่​ใช้​ใน​ข้อ​นี้​ไม่​ได้​ใช้​กับ​เด็ก​ทารก​หรือ​เด็ก​ที่​เพิ่ง​เกิด​เท่า​นั้น (มธ 2:8; ลก 1:59) แต่​ใช้​กับ​ลูก​สาว​ของ​ไยรอส​ที่​อายุ 12 ปี​ด้วย (มก 5:39-42) อย่าง​ไร​ก็​ตาม ใน ลก 18:15 ซึ่ง​พูด​ถึง​เหตุ​การณ์​เดียว​กัน​เกี่ยว​กับ​เด็ก ๆ ที่​มา​หา​พระ​เยซู ลูกา​ใช้​คำ​กรีก​อีก​คำ​หนึ่ง​ที่​หมาย​ถึง​เด็ก​เล็ก ๆ หรือ​เด็ก​ทารก​เท่า​นั้น—ลก 1:41; 2:12

เหมือน​เด็ก​เล็ก ๆ: หมาย​ถึง​การ​มี​คุณลักษณะ​ที่​ดี​เหมือน​เด็ก​เล็ก ๆ เช่น ถ่อม​ตัว ไว้​ใจ​คน​อื่น ยอม​รับ​การ​สอน​และ​คำ​แนะ​นำ—มธ 18:5

กอด​เด็ก ๆ: เฉพาะ​มาระโก​เท่า​นั้น​ที่​บันทึก​ราย​ละเอียด​นี้ คำ​กรีก​นี้​ที่​แปล​ว่า “กอด” มี​อยู่​แค่​ใน​ข้อ​นี้​และ​ที่ มก 9:36 ซึ่ง​แปล​ว่า “โอบ” พระ​เยซู​ทำ​สิ่ง​ที่​เกิน​ความ​คาด​หมาย​ของ​พวก​ผู้​ใหญ่​ที่​พา​เด็ก ๆ มา​หา​ท่าน​เพียง​เพื่อ​จะ​ให้​ท่าน “วาง​มือ” เท่า​นั้น (มก 10:13) เนื่อง​จาก​พระ​เยซู​เป็น​พี่​ชาย​คน​โต​ใน​ครอบครัว​ที่​มี​เด็ก​อย่าง​น้อย 7 คน ท่าน​จึง​เข้าใจ​ว่า​เด็ก​เล็ก ๆ ต้องการ​อะไร (มธ 13:55, 56) พระ​เยซู​ถึง​กับ​อวยพร​พวก​เขา คำ​กรีก “อวยพร” ที่​ใช้​ใน​ข้อ​นี้​อยู่​ใน​รูป​คำ​ที่​เน้น​เป็น​พิเศษ​ซึ่ง​ทำ​ให้​เข้าใจ​ได้​ว่า​ท่าน​อวยพร​เด็ก ๆ อย่าง​อ่อนโยน​และ​อบอุ่น

อาจารย์​ที่​ดี​จริง ๆ: ดู​เหมือน​ว่า​ผู้​ชาย​คน​นี้​ใช้​คำ​ว่า “อาจารย์​ที่​ดี​จริง ๆ” เพื่อ​เป็น​ตำแหน่ง​และ​เพื่อ​เอา​อก​เอา​ใจ​พระ​เยซู เพราะ​ผู้​นำ​ศาสนา​ใน​สมัย​นั้น​เรียก​ร้อง​ให้​คน​อื่น​เรียก​พวก​เขา​ด้วย​ตำแหน่ง​นี้ ถึง​แม้​พระ​เยซู​ไม่​คัดค้าน​เมื่อ​มี​คน​เรียก​ท่าน​ว่า “อาจารย์” และ “นาย” (ยน 13:13) แต่​ท่าน​ต้องการ​ให้​เกียรติ​ทั้ง​หมด​กับ​พ่อ​ของ​ท่าน

ไม่​มี​ใคร​ดี​จริง ๆ หรอก​นอก​จาก​พระเจ้า: พระ​เยซู​รู้​ว่า​สิ่ง​ที่​พระ​ยะโฮวา​ทำ​เป็น​มาตรฐาน​ความ​ดี​ที่​สูง​ส่ง​ที่​สุด พระองค์​เป็น​ผู้​ปกครอง​องค์​สูง​สุด​และ​มี​สิทธิ์​กำหนด​ว่า​อะไร​ดี​อะไร​ชั่ว การ​ที่​อาดัม​กับ​เอวา​ไม่​เชื่อ​ฟัง​โดย​ไป​กิน​ผล​จาก​ต้น​ไม้​ที่​ให้​รู้​ดี​รู้​ชั่ว​เป็น​การ​แสดง​ว่า​พวก​เขา​คิด​ว่า​ตัว​เอง​มี​สิทธิ์​กำหนด​มาตรฐาน​ดี​ชั่ว​ได้​เอง (ปฐก 2:17; 3:4-6) แต่​พระ​เยซู​ไม่​เหมือน 2 คน​นี้ ท่าน​ถ่อม​ตัว​และ​ให้​พ่อ​ของ​ท่าน​เป็น​ผู้​ตั้ง​มาตรฐาน​ใน​เรื่อง​นั้น พระเจ้า​บอก​ไว้​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​อย่าง​ชัดเจน​ว่า​อะไร​เป็น​สิ่ง​ที่​ดี—มก 10:19

ด้วย​ความ​รัก: เฉพาะ​มาระโก​เท่า​นั้น​ที่​บันทึก​ความ​รู้สึก​ที่​พระ​เยซู​มี​ต่อ​ชาย​หนุ่ม​ร่ำรวย​ซึ่ง​เป็น​หัวหน้า​ชุมชน​คน​นี้ (มธ 19:16-26; ลก 18:18-30) เปโตร​ซึ่ง​เป็น​คน​ที่​มี​อารมณ์​และ​ความ​รู้สึก​ลึกซึ้ง​อาจ​เล่า​ให้​มาระโก​ฟัง​ว่า​พระ​เยซู​รู้สึก​อย่าง​ไร—ดู “บท​นำ​ของ​หนังสือ​มาระโก

อูฐ​ลอด​รู​เข็ม​ยัง​ง่าย​กว่า: พระ​เยซู​ใช้​อติพจน์​หรือ​คำ​พูด​เกิน​จริง​เพื่อ​เน้น​จุด​หนึ่ง​ที่​ท่าน​สอน เหมือน​กับ​ที่​อูฐ​จริง ๆ ไม่​สามารถ​ลอด​รู​เข็ม​เย็บ​ผ้า​ได้ ก็​เป็น​ไป​ไม่​ได้​ที่​คน​รวย​จะ​เข้า​ใน​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​ถ้า​เขา​ยัง​ให้​ทรัพย์​สมบัติ​เป็น​สิ่ง​ที่​สำคัญ​กว่า​ความ​สัมพันธ์​ที่​เขา​มี​กับ​พระ​ยะโฮวา พระ​เยซู​ไม่​ได้​หมาย​ความ​ว่า​จะ​ไม่​มี​คน​รวย​ได้​เข้า​ใน​รัฐบาล​ของ​พระเจ้า​เลย เพราะ​ท่าน​บอก​ว่า “พระเจ้า​ทำ​ได้​ทุก​อย่าง”—มก 10:27

ถาม​ท่าน​ว่า: สำเนา​พระ​คัมภีร์​บาง​ฉบับ​ใช้​คำ​ว่า “ถาม​กัน​ว่า”

ยุค​หน้า: หรือ “ยุค​ที่​กำลัง​จะ​มา​ถึง” คำ​กรีก ไอ​โอน ที่​มัก​จะ​แปล​ว่า “ยุค” อาจ​หมาย​ถึง​สภาพการณ์​หรือ​ลักษณะ​เด่น​ของ​โลก​หรือ​บาง​ส่วน​ของ​โลก​ใน​ช่วง​เวลา​หนึ่ง​หรือ​สมัย​หนึ่ง ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​กำลัง​พูด​ถึง​ช่วง​เวลา​ใน​อนาคต​ที่​พระเจ้า​ปกครอง​ซึ่ง​ตอน​นั้น​ทุก​คน​จะ​มี​ชีวิต​ตลอด​ไป​ตาม​คำ​สัญญา​ของ​พระองค์—ลก 18:29, 30; ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “ยุค, โลก​นี้

ขึ้น​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม: เยรูซาเล็ม​อยู่​สูง​กว่า​ระดับ​น้ำ​ทะเล​ประมาณ 750 เมตร พระ​คัมภีร์​จึง​มัก​บอก​ว่า​ผู้​นมัสการ​พระเจ้า “ขึ้น​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม” (ลก 2:22; ยน 2:13; กจ 11:2) พระ​เยซู​และ​สาวก​กำลัง​เดิน​ขึ้น​จาก​หุบเขา​จอร์แดน (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มก 10:1) ซึ่ง​จุด​ต่ำ​สุด​ของ​หุบเขา​นี้​อยู่​ต่ำ​กว่า​ระดับ​น้ำ​ทะเล​ประมาณ 400 เมตร นี่​หมาย​ความ​ว่า​พวก​เขา​ต้อง​เดิน​ไต่​ระดับ​ความ​สูง​ประมาณ 1,000 เมตร​เพื่อ​ไป​ถึง​กรุง​เยรูซาเล็ม

ถุย​น้ำลาย​ใส่: การ​ถุย​น้ำลาย​ใส่​คน ๆ หนึ่ง​หรือ​ถุย​น้ำลาย​ใส่​หน้า​เขา​เป็น​การ​แสดง​ความ​ดูถูก การ​เป็น​ศัตรู หรือ​แสดง​ถึง​ความ​โกรธ​อย่าง​มาก ซึ่ง​ทำ​ให้​คน​ที่​ถูก​ถุย​น้ำลาย​ใส่​ได้​รับ​ความ​อับอาย (กดว 12:14; ฉธบ 25:9) ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​บอก​ว่า​ท่าน​จะ​ต้อง​เจอ​กับ​เรื่อง​นี้ ซึ่ง​เป็น​จริง​ตาม​คำ​พยากรณ์​เกี่ยว​กับ​เมสสิยาห์​ที่​บอก​ว่า “ผม​ไม่​ได้​หัน​หน้า​หนี​คน​ที่​มา​ดูถูก​หรือ​ถ่ม​น้ำลาย​ใส่​ผม” (อสย 50:6) พระ​เยซู​ถูก​ถุย​น้ำลาย​ใส่​ตอน​ที่​อยู่​ต่อ​หน้า​ศาล​แซนเฮดริน (มก 14:65) และ​ท่าน​ถูก​ทหาร​โรมัน​ถุย​น้ำลาย​ใส่​ตอน​ที่​โดน​ปีลาต​สอบสวน (มก 15:19)

ลูก​ชาย: สำเนา​พระ​คัมภีร์​บาง​ฉบับ​ใช้​คำ​ว่า “ลูก​ชาย 2 คน” แต่​สำเนา​พระ​คัมภีร์​ที่​เก่าแก่​ส่วน​ใหญ่​ใช้​ข้อ​ความ​ที่​สั้น​กว่า

ยากอบ​กับ​ยอห์น ลูก​ชาย​ของ​เศเบดี​เข้า​ไป​หา​พระ​เยซู: จาก​บันทึก​ของ​มัทธิว แม่​ของ​ยากอบ​กับ​ยอห์น​เป็น​คน​เข้า​ไป​ขอร้อง​พระ​เยซู แต่​ดู​เหมือน​ยากอบ​กับ​ยอห์น​เป็น​คน​ต้น​คิด ที่​ได้​ข้อ​สรุป​แบบ​นี้​เพราะ​บันทึก​ใน​มัทธิว​บอก​ว่า​เมื่อ​สาวก​อีก 10 คน​ได้​ยิน​เรื่อง​นั้น พวก​เขา​ไม่​ได้ “ไม่​พอ​ใจ” แม่ แต่​ไม่​พอ​ใจ “พี่​น้อง​สอง​คน​นั้น”—มธ 20:20-24; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 4:21; 20:20

นั่ง​ข้าง​ขวา​ของ​ท่าน​คน​หนึ่ง ข้าง​ซ้าย​คน​หนึ่ง: ใน​ข้อ​นี้​ทั้ง​ข้าง​ขวา​และ​ซ้าย​หมาย​ถึง​ตำแหน่ง​ที่​มี​เกียรติ​และ​อำนาจ แต่​ที่​ที่​มี​เกียรติ​ที่​สุด​จะ​อยู่​ข้าง​ขวา​เสมอ—สด 110:1; กจ 7:55, 56; รม 8:34; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 25:33

ดื่ม​จาก​ถ้วย: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 20:22

รับ​บัพติศมา​แบบ​เดียว​กับ​ที่​ผม​รับ​อยู่: หรือ “ถูก​จุ่ม​แบบ​ที่​ผม​ถูก​จุ่ม​อยู่” ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​เทียบเคียง​การ “รับ​บัพติศมา” กับ​การ​ดื่ม​จาก “ถ้วย” (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 20:22) พระ​เยซู​เริ่ม​รับ​บัพติศมา​เข้า​สู่​ความ​ตาย​ตอน​ที่​ท่าน​เริ่ม​ทำ​งาน​รับใช้ การ​รับ​บัพติศมา​หรือ​การ​จุ่ม​ตัว​แบบ​นี้​จะ​เกิด​ขึ้น​ใน​ความ​หมาย​ที่​ครบ​ถ้วน​ตอน​ที่​ท่าน​ถูก​ประหาร​บน​เสา​ทรมาน​ใน​วัน​ที่ 14 เดือน​นิสาน ค.ศ. 33 และ​การ​รับ​บัพติศมา​นี้​จะ​เสร็จ​สิ้น​อย่าง​สมบูรณ์​ตอน​ที่​ท่าน​ถูก​ปลุก​ให้​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย (รม 6:3, 4) เห็น​ได้​ชัด​ว่า​การ​รับ​บัพติศมา​เข้า​สู่​ความ​ตาย​ของ​พระ​เยซู​ต่าง​จาก​การ​รับ​บัพติศมา​ใน​น้ำ เพราะ​การ​รับ​บัพติศมา​ใน​น้ำ​เสร็จ​สิ้น​อย่าง​สมบูรณ์​แล้ว​ตอน​ที่​ท่าน​เริ่ม​งาน​รับใช้ แต่​การ​รับ​บัพติศมา​เข้า​สู่​ความ​ตาย​เพิ่ง​เริ่ม​ต้น​ตอน​นั้น

ทำ​ตัว​เป็น​นาย: หรือ “ครอบ​งำ” มี​การ​ใช้​คำ​กรีก​นี้​แค่ 4 ครั้ง​ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก (มธ 20:25; มก 10:42; 1ปต 5:3; และ​ที่ กจ 19:16 ซึ่ง​แปล​คำ​นี้​ว่า “ทำ​ร้าย”) คำ​แนะ​นำ​ของ​พระ​เยซู​ทำ​ให้​ผู้​ฟัง​คิด​ถึง​การ​กดขี่​ของ​พวก​โรมัน​ที่​ชาว​ยิว​เกลียด​ชัง​และ​การ​ปกครอง​ที่​โหด​เหี้ยม​ของ​ราชวงศ์​เฮโรด (มธ 2:16; ยน 11:48) ดู​เหมือน​ว่า​เปโตร​เข้าใจ​คำ​พูด​ของ​พระ​เยซู เพราะ​หลัง​จาก​นั้น​เขา​กระตุ้น​ผู้​ดู​แล​คริสเตียน​ให้​นำ​หน้า​โดย​เป็น​ตัว​อย่าง​ที่​ดี ไม่​ใช่​โดย​ทำ​ตัว​เป็น​นาย (1ปต 5:3) มี​การ​ใช้​คำ​กริยา​กรีก​อีก​คำ​หนึ่ง​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กัน​ใน ลก 22:25 ตอน​ที่​พระ​เยซู​สอน​เรื่อง​คล้าย ๆ กัน​นี้ และ​ที่ 2คร 1:24 ก็​มี​การ​ใช้​คำ​กริยา​นี้​ตอน​ที่​เปาโล​บอก​ว่า​คริสเตียน​ต้อง​ไม่​เป็น “นาย​ที่​คอย​ควบคุม” ความ​เชื่อ​ของ​เพื่อน​คริสเตียน

เยรีโค: ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 20:29

ขอ​ทาน​ตา​บอด: เรื่อง​ราว​ใน​มัทธิว (20:30) บอก​ว่า​มี​ผู้​ชาย​ตา​บอด 2 คน แต่​มาระโก​กับ​ลูกา (18:35) พูด​ถึง​แค่​คน​เดียว โดย​ดู​เหมือน​เน้น​ที่​บาร์ทิเมอัส และ​มี​เฉพาะ​มาระโก​เท่า​นั้น​ที่​บันทึก​ชื่อ​ของ​เขา​ไว้

ชาว​นาซาเร็ธ: เป็น​ฉายา​เรียก​พระ​เยซู และ​ต่อ​มา​ก็​ใช้​เรียก​สาวก​ของ​ท่าน​ด้วย (กจ 24:5) เนื่อง​จาก​ชาว​ยิว​หลาย​คน​มี​ชื่อ​ว่า​เยซู จึง​เป็น​เรื่อง​ปกติ​ที่​จะ​เพิ่ม​คำ​เพื่อ​ระบุ​ตัว​ตน ซึ่ง​ตาม​ธรรมเนียม​ใน​สมัย​คัมภีร์​ไบเบิล คำ​ที่​เพิ่ม​เข้า​ไป​ก็​มัก​จะ​เป็น​ถิ่น​เดิม​หรือ​บ้าน​เกิด​ของ​คน​นั้น (2ซม 3:2, 3; 17:27; 23:25-39; นฮม 1:1; กจ 13:1; 21:29) ตอน​พระ​เยซู​เป็น​เด็ก​ท่าน​ใช้​ชีวิต​ส่วน​ใหญ่​ที่​เมือง​นาซาเร็ธ​แคว้น​กาลิลี จึง​เป็น​เรื่อง​ปกติ​ที่​จะ​ใช้​คำ​นี้​ต่อ​ท้าย​ชื่อ​ของ​ท่าน พระ​เยซู​ถูก​เรียก​ว่า “ชาว​นาซาเร็ธ” ใน​หลาย​โอกาส และ​มี​หลาย​คน​เรียก​ท่าน​แบบ​นี้ (มก 1:23, 24; 10:46, 47; 14:66-69; 16:5, 6; ลก 24:13-19; ยน 18:1-7) พระ​เยซู​ก็​ยอม​รับ​ชื่อ​นี้​และ​เรียก​ตัว​เอง​แบบ​นี้​ด้วย (ยน 18:5-8; กจ 22:6-8) บน​ป้าย​ที่​ปีลาต​ให้​ติด​ไว้​บน​เสา​ทรมาน​ของ​พระ​เยซู เขา​เขียน​ใน​ภาษา​ฮีบรู ละติน และ​กรีก​ว่า “เยซู​ชาว​นาซาเร็ธ กษัตริย์​ของ​ชาว​ยิว” (ยน 19:19, 20) ตั้ง​แต่​วัน​เพ็นเทคอสต์​ปี ค.ศ. 33 พวก​อัครสาวก​และ​คน​อื่น ๆ ก็​มัก​พูด​ถึง​พระ​เยซู​ว่า​เป็น​ชาว​นาซาเร็ธ​ด้วย—กจ 2:22; 3:6; 4:10; 6:14; 10:38; 26:9; ดู​ข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 2:23 ด้วย

ลูก​หลาน​ดาวิด: การ​ที่​คน​ตา​บอด​ชื่อ​บาร์ทิเมอัส​เรียก​พระ​เยซู​ว่า “ลูก​หลาน​ดาวิด” แสดง​ว่า​เขา​ยอม​รับ​อย่าง​เปิด​เผย​ว่า​พระ​เยซู​เป็น​เมสสิยาห์—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ มธ 1:1, 6; 15:25

อาจารย์​ครับ: หรือ “รับโบนี” ซึ่ง​เป็น​คำ​ภาษา​ฮีบรู​ที่​แปล​ว่า “ครู​ของ​ฉัน” อาจ​เป็น​ได้​ว่า​ตอน​แรก​คำ​ว่า “รับโบนี” แสดง​ถึง​ความ​เคารพ​มาก​กว่า​หรือ​ถ่ายทอด​ความ​รู้สึก​ที่​อบอุ่น​กว่า​คำ​ว่า “รับบี” ซึ่ง​เป็น​ตำแหน่ง​ที่​แปล​ว่า “อาจารย์” (ยน 1:38) แต่​ตอน​ที่​ยอห์น​เขียน​พระ​คัมภีร์ เป็น​ไป​ได้​ว่า​คำ​ที่​ต่อ​ท้าย​คำ​นี้ (ซึ่ง​มี​ความ​หมาย​ว่า “ของ​ฉัน”) ไม่​มี​ความ​หมาย​พิเศษ​เหมือน​แต่​ก่อน เลย​ทำ​ให้​ยอห์น​แปล​คำ​นี้​ว่า “อาจารย์”—ยน 20:16

วีดีโอและรูปภาพ

ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน—พีเรีย
ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน—พีเรีย

ภาพ​ถ่าย​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ส่วน​หนึ่ง​ของ​บริเวณ​ที่​เรียก​ว่า​พีเรีย แคว้น​พีเรีย​อยู่​ทาง​ตะวัน​ออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน ทาง​เหนือ​สุด​ของ​แคว้น​นี้​อยู่​ติด​กับ​เมือง​เพลลา​และ​ทาง​ใต้​สุด​ติด​กับ​ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​ทะเล​เดดซี ใน​คัมภีร์​ไบเบิล​ไม่​มี​คำ​ว่า “พีเรีย” แต่​คำ​นี้​มา​จาก​คำ​กรีก​ที่​หมาย​ถึง “อีก​ฝั่ง​หนึ่ง, ฝั่ง​ตรง​ข้าม, เลย​ไป” มี​การ​ใช้​คำ​กรีก​นี้​หลาย​ครั้ง​ใน​คัมภีร์​ไบเบิล และ​บาง​ครั้ง​ก็​ใช้​หมาย​ถึง​แคว้น​พีเรีย (มธ 4:25; มก 3:8) บาง​ครั้ง​ผู้​คน​จาก​แคว้น​กาลิลี​จะ​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม​โดย​ผ่าน​พีเรีย ช่วง​ท้าย ๆ ที่​พระ​เยซู​ทำ​งาน​รับใช้ ท่าน​ใช้​เวลา​ช่วง​หนึ่ง​สอน​ผู้​คน​ที่​พีเรีย (ลก 13:22) ต่อ​มา ตอน​ที่​ท่าน​เดิน​ทาง​ไป​กรุง​เยรูซาเล็ม ท่าน​ก็​ผ่าน​พีเรีย​อีก​ครั้ง—มธ 19:1; 20:17-19; มก 10:1, 32, 46

(1) แม่น้ำ​จอร์แดน

(2) ที่​ราบ​ฝั่ง​ตะวัน​ออก​ของ​แม่น้ำ​จอร์แดน

(3) เขต​ภูเขา​ของ​กิเลอาด