เขียนโดยยอห์น 7:1-52

7  หลัง​จาก​นั้น พระ​เยซู​เดิน​ทาง​ไป​ทั่ว​แคว้น​กาลิลี ท่าน​ไม่​อยาก​ไป​ที่​แคว้น​ยูเดีย​เพราะ​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​กำลัง​จ้อง​จะ​ฆ่า​ท่าน+ 2  พอ​ใกล้​จะ​ถึง​เทศกาล​อยู่​เพิง​ของ​ชาว​ยิว+ 3  พวก​น้อง​ชาย​ของ​ท่าน+ก็​บอก​ว่า “พี่​น่า​จะ​ไป​แคว้น​ยูเดีย​นะ พวก​สาวก​ของ​พี่​จะ​ได้​เห็น​สิ่ง​ที่​พี่​ทำ 4  คน​ที่​อยาก​มี​ชื่อเสียง เขา​จะ​ไม่​ทำ​อะไร​ลับ ๆ หรอก ใน​เมื่อ​พี่​ทำ​สิ่ง​เหล่า​นี้​ได้ ก็​ทำ​ให้​โลก​เห็น​ไป​เลย​สิ” 5  ตอน​นั้น น้อง ๆ ของ​พระ​เยซู​ไม่​มี​ความ​เชื่อ​ใน​ตัว​ท่าน+ 6  พระ​เยซู​จึง​พูด​กับ​พวก​เขา​ว่า “ตอน​นี้​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ของ​พี่+ แต่​ถ้า​น้อง ๆ อยาก​จะ​ไป​เมื่อไหร่​ก็​ไป​เถอะ 7  โลก​ไม่​ได้​เกลียด​น้อง​แต่​โลก​เกลียด​พี่ เพราะ​พี่​เป็น​พยาน​ยืน​ยัน​ว่า​โลก​นี้​ชั่ว+ 8  พวก​น้อง​ไป​ที่​เทศกาล​กัน​ก่อน​เถอะ พี่​ยัง​ไม่​ไป​หรอก เพราะ​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ของ​พี่”+ 9  เมื่อ​บอก​น้อง ๆ อย่าง​นั้น​แล้ว ท่าน​ก็​อยู่​ที่​แคว้น​กาลิลี​ต่อ 10  แต่​พอ​พวก​น้อง​ชาย​ของ​พระ​เยซู​ไป​ที่​เทศกาล​กัน​แล้ว ท่าน​ก็​ไป​เอง​เงียบ ๆ ไม่​ให้​ใคร​รู้ 11  ใน​เทศกาล​นั้น พวก​ยิว​คอย​มอง​หา​ท่าน และ​ถาม​กัน​ว่า “คน​นั้น​อยู่​ไหน​ล่ะ?” 12  ผู้​คน​ซุบซิบ​กัน​มาก​เกี่ยว​กับ​พระ​เยซู บาง​คน​พูด​ว่า “เขา​เป็น​คน​ดี​นะ” บาง​คน​พูด​ว่า “ไม่​หรอก เขา​เป็น​นัก​ต้ม​ตุ๋น”+ 13  แต่​ไม่​มี​ใคร​กล้า​พูด​เกี่ยว​กับ​ท่าน​อย่าง​เปิด​เผย เพราะ​กลัว​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว+ 14  เมื่อ​เทศกาล​ผ่าน​ไป​ครึ่ง​หนึ่ง​แล้ว พระ​เยซู​ก็​เข้า​ไป​สอน​ใน​วิหาร 15  ผู้​นำ​ชาว​ยิว​รู้สึก​แปลก​ใจ​และ​พูด​กัน​ว่า “คน​นี้​มี​ความ​รู้​เรื่อง​พระ​คัมภีร์+มาก​ขนาด​นี้​ได้​ยัง​ไง เขา​ไม่​เคย​เรียน​ใน​โรง​เรียน​สอน​ศาสนา​ที่​ไหน​เลย​นี่?”+ 16  พระ​เยซู​บอก​พวก​เขา​ว่า “ผม​ไม่​ได้​สอน​คำ​สอน​ของ​ผม​เอง แต่​เป็น​ของ​พระองค์​ที่​ใช้​ผม​มา+ 17  คน​ที่​อยาก​ทำ​ตาม​ความ​ประสงค์​ของ​พระองค์​จะ​รู้​ว่า​สิ่ง​ที่​ผม​สอน​มา​จาก​พระเจ้า+หรือ​ผม​คิด​ขึ้น​มา​เอง 18  คน​ที่​พูด​ตาม​ความ​คิด​ของ​ตัว​เอง​ก็​พยายาม​ทำ​ให้​ตัว​เอง​มี​ชื่อเสียง แต่​คน​ที่​พยายาม​ทำ​ให้​พระองค์​ผู้​ใช้​เขา​มา+ได้​รับ​คำ​สรรเสริญ​ก็​เป็น​คน​จริง​ใจ* และ​ไม่​หลอก​ลวง​ใคร 19  โมเสส​ให้​กฎหมาย​ไว้​กับ​พวก​คุณ+ไม่​ใช่​หรือ? แต่​พวก​คุณ​ไม่​มี​ใคร​ทำ​ตาม​สัก​คน แล้ว​ทำไม​พวก​คุณ​ถึง​พยายาม​จะ​ฆ่า​ผม?”+ 20  ประชาชน​พูด​ว่า “คุณ​โดน​ปีศาจ​สิง​หรือ​เปล่า+ ใคร​กัน​พยายาม​จะ​ฆ่า​คุณ?” 21  พระ​เยซู​บอก​พวก​เขา​ว่า “ผม​เคย​ทำ​การ​อัศจรรย์​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​ให้​พวก​คุณ​ตกตะลึง 22  ลอง​คิด​ดู​สิ โมเสส​ให้​พวก​คุณ​เข้า​สุหนัต+ (ความ​จริง​แล้ว การ​เข้า​สุหนัต​ไม่​ได้​เริ่ม​จาก​โมเสส แต่​มี​มา​ตั้ง​แต่​สมัย​บรรพบุรุษ)+ และ​พวก​คุณ​ก็​ให้​เด็ก​ผู้​ชาย​เข้า​สุหนัต​ใน​วัน​สะบาโต 23  ถ้า​คุณ​ให้​คน​เข้า​สุหนัต​ใน​วัน​สะบาโต​เพื่อ​จะ​ไม่​ทำ​ผิด​กฎหมาย​ของ​โมเสส แล้ว​ทำไม​พวก​คุณ​ถึง​โกรธ​แค้น ที่​ผม​รักษา​คน​ป่วย​ใน​วัน​สะบาโต?+ 24  เลิก​ตัดสิน​ตาม​ที่​เห็น​ภาย​นอก​เถอะ แต่​ให้​ตัดสิน​อย่าง​ยุติธรรม”+ 25  คน​เยรูซาเล็ม​บาง​คน​พูด​กัน​ว่า “คน​นี้​เป็น​คน​ที่​พวก​นั้น​พยายาม​จะ​ฆ่า​ไม่​ใช่​หรือ?+ 26  แต่​ดู​สิ เขา​กำลัง​พูด​อยู่​กลาง​ฝูง​ชน​อย่าง​นั้น และ​ไม่​เห็น​พวก​ผู้​นำ​จะ​ว่า​อะไร​เขา พวก​เขา​เชื่อ​แล้ว​หรือ​ว่า​คน​นี้​เป็น​พระ​คริสต์? 27  พวก​เรา​รู้​นี่​ว่า​คน​นี้​เป็น​ใคร​มา​จาก​ไหน+ แต่​เมื่อ​พระ​คริสต์​ตัว​จริง​มา จะ​ไม่​มี​ใคร​รู้​หรอก​ว่า​ท่าน​มา​จาก​ไหน” 28  แล้ว​พระ​เยซู​ที่​ตอน​นั้น​สอน​อยู่​ใน​วิหาร ก็​พูด​เสียง​ดัง​ว่า “พวก​คุณ​รู้​จัก​ผม​และ​รู้​ว่า​ผม​เป็น​ใคร​มา​จาก​ไหน ผม​ไม่​ได้​มา​เอง+ แต่​พระองค์​ที่​ใช้​ผม​มา​นั้น​มี​อยู่​จริง และ​พวก​คุณ​ไม่​รู้​จัก​พระองค์+ 29  แต่​ผม​รู้​จัก​พระองค์+เพราะ​ผม​เป็น​ตัว​แทน​ที่​มา​จาก​พระองค์ และ​พระองค์​ผู้​นั้น​ใช้​ผม​มา” 30  พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​ก็​พยายาม​จะ​จับ​พระ​เยซู+แต่​จับ​ไม่​ได้ เพราะ​ยัง​ไม่​ถึง​เวลา​ของ​ท่าน+ 31  แต่​มี​หลาย​คน​ใน​ฝูง​ชน​เชื่อถือ​ท่าน+ พวก​เขา​พูด​กัน​ว่า “คน​นี้​เป็น​พระ​คริสต์​แน่​เลย จะ​มี​ใคร​ทำ​การ​อัศจรรย์​ได้​มาก​กว่า​นี้​อีก​หรือ?”+ 32  เมื่อ​พวก​ฟาริสี​ได้​ยิน​คน​มาก​มาย​ซุบซิบ​กัน​ถึง​พระ​เยซู​อย่าง​นั้น พวก​เขา​กับ​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​จึง​ใช้​เจ้าหน้าที่​ไป​จับ​ท่าน 33  พระ​เยซู​พูด​อีก​ว่า “ผม​จะ​ยัง​อยู่​กับ​พวก​คุณ​อีก​สัก​พัก​หนึ่ง ก่อน​ที่​ผม​จะ​กลับ​ไป​หา​พระองค์​ที่​ใช้​ผม​มา+ 34  ตอน​นั้น พวก​คุณ​จะ​ตาม​หา​ผม​แต่​จะ​หา​ไม่​เจอ และ​ที่​ที่​ผม​อยู่​พวก​คุณ​ก็​จะ​ไป​ไม่​ได้”+ 35  พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​พูด​กัน​ว่า “คน​นี้​คิด​จะ​ไป​ไหน เขา​ถึง​บอก​ว่า​พวก​เรา​จะ​หา​ไม่​เจอ? เขา​คิด​จะ​ไป​อยู่​กับ​คน​ยิว​ที่​กระจาย​กัน​อยู่​ใน​หมู่​คน​กรีก และ​ไป​สอน​คน​กรีก​ที่​นั่น​หรือ? 36  แล้ว​เขา​หมาย​ความ​ว่า​ยัง​ไง​ที่​พูด​ว่า ‘พวก​คุณ​จะ​ตาม​หา​ผม​แต่​จะ​หา​ไม่​เจอ และ​ที่​ที่​ผม​อยู่​พวก​คุณ​ก็​จะ​ไป​ไม่​ได้’?” 37  เมื่อ​ถึง​วัน​สุด​ท้าย​ซึ่ง​เป็น​วัน​สำคัญ​ที่​สุด​ของ​เทศกาล+ พระ​เยซู​ยืน​ขึ้น​พูด​เสียง​ดัง​ว่า “ถ้า​ใคร​หิว​น้ำ ก็​ให้​มา​ดื่ม​น้ำ​จาก​ผม​ได้+ 38  คน​ที่​เชื่อ​ผม จะ​เป็น​เหมือน​ที่​พระ​คัมภีร์​บอก​ไว้​ว่า ‘สาย​น้ำ​ที่​ให้​ชีวิต​จะ​ไหล​ออก​มา​จาก​ภาย​ใน​ตัว​เขา’”+ 39  พระ​เยซู​กำลัง​พูด​ถึง​พลัง​ของ​พระเจ้า​ซึ่ง​คน​ที่​เชื่อ​ท่าน​จะ​ได้​รับ แต่​ตอน​นั้น พวก​เขา​ยัง​ไม่​ได้​รับ​พลัง​นั้น+เพราะ​พระ​เยซู​ยัง​ไม่​ได้​รับ​อำนาจ+ 40  เมื่อ​ได้​ยิน​สิ่ง​ที่​ท่าน​พูด บาง​คน​ใน​ฝูง​ชน​ก็​บอก​ว่า “ท่าน​นี้​คือ​ผู้​พยากรณ์​คน​นั้น​แน่ ๆ”+ 41  บาง​คน​พูด​ว่า “เขา​เป็น​พระ​คริสต์”+ แต่​บาง​คน​พูด​ว่า “พระ​คริสต์​จะ​มา​จาก​แคว้น​กาลิลี​ได้​หรือ?+ 42  พระ​คัมภีร์​บอก​ไว้​ว่า พระ​คริสต์​เป็น​ลูก​หลาน​ของ​ดาวิด+และ​มา​จาก​เมือง​เบธเลเฮม+ที่​เป็น​บ้าน​เกิด​ของ​ดาวิด ไม่​ใช่​หรือ?”+ 43  ฝูง​ชน​จึง​แตก​แยก​กัน​เพราะ​เรื่อง​พระ​เยซู 44  บาง​คน​ต้องการ​จะ​จับ​ท่าน​แต่​จับ​ไม่​ได้ 45  แล้ว​พวก​เจ้าหน้าที่​ก็​กลับ​ไป​หา​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่​กับ​พวก​ฟาริสี พวก​ฟาริสี​ถาม​พวก​เขา​ว่า “ทำไม​ไม่​จับ​ตัว​เขา​มา​ล่ะ?” 46  พวก​เจ้าหน้าที่​ตอบ​ว่า “พวก​เรา​ไม่​เคย​ได้​ยิน​ใคร​พูด​เหมือน​ผู้​ชาย​คน​นี้​มา​ก่อน​เลย”+ 47  พวก​ฟาริสี​จึง​พูด​ว่า “พวก​คุณ​ก็​ถูก​เขา​หลอก​ด้วย​หรือ? 48  ใน​พวก​ผู้​นำ​หรือ​ฟาริสี มี​สัก​คน​ไหม​ที่​เชื่อ​เขา?+ 49  คน​ที่​เชื่อ​เขา​ก็​มี​แต่​คน​ที่​ไม่​เข้าใจ​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า​และ​เป็น​คน​ที่​ถูก​สาป​แช่ง” 50  นิโคเดมัส​ซึ่ง​เคย​มา​หา​พระ​เยซู+และ​เป็น​ฟาริสี​คน​หนึ่ง​ก็​พูด​ขึ้น​มา​ว่า 51  “กฎหมาย​ของ​เรา​ไม่​ให้​ตัดสิน​ใคร​จน​กว่า​จะ​ได้​ฟัง​เขา​พูด​และ​รู้​ว่า​เขา​ทำ​อะไร ไม่​ใช่​หรือ?”+ 52  พวก​เขา​พูด​กับ​นิโคเดมัส​ว่า “คุณ​ก็​มา​จาก​กาลิลี​ด้วย​หรือ​ไง? ลอง​ไป​ค้น​พระ​คัมภีร์​ดู​สิ​แล้ว​จะ​รู้​ว่า ไม่​มี​ที่​ไหน​บอก​ไว้​เลย​ว่า จะ​มี​ผู้​พยากรณ์​มา​จาก​กาลิลี”+

เชิงอรรถ

หรือ “พูด​ความ​จริง”

ข้อมูลสำหรับศึกษา

พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ชาว​ยิว” ใน​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​ยอห์น คำ​นี้​ถ่ายทอด​ความ​หมาย​ได้​หลาย​อย่าง​ขึ้น​อยู่​กับ​ท้อง​เรื่อง คำ​นี้​อาจ​หมาย​ถึง​คน​ยิว​ทั่ว​ไป หมาย​ถึง​คน​ที่​อยู่​ใน​ยูเดีย หรือ​คน​ที่​อยู่​ใกล้​หรือ​อยู่​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม นอก​จาก​นั้น คำ​นี้​ยัง​หมาย​ถึง​คน​ยิว​ที่​ยึด​ติด​กับ​ธรรมเนียม​ของ​มนุษย์​ที่​เกี่ยว​ข้อง​กับ​กฎหมาย​ของ​โมเสส และ​ธรรมเนียม​เหล่า​นี้​ก็​มัก​จะ​ไม่​สอดคล้อง​กับ​แนว​คิด​ใน​กฎหมาย​นั้น (มธ 15:3-6) ใน​กลุ่ม “ชาว​ยิว” เหล่า​นี้ พวก​ที่​มี​บทบาท​สำคัญ​ที่​สุด​ก็​คือ​พวก​หัวหน้า​ศาสนา​ที่​ตั้ง​ตัว​เป็น​ศัตรู​กับ​พระ​เยซู ดัง​นั้น ใน​ข้อ​นี้​และ​ใน​อีก​หลาย​ข้อ​ของ​หนังสือ​ยอห์น​บท 7 คำ​ว่า “ชาว​ยิว” จึง​หมาย​ถึง​พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ชาว​ยิว—ยน 7:13, 15, 35​ก—ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “ยิว

เทศกาล​อยู่​เพิง: ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​มี​การ​พูด​ถึง​เทศกาล​นี้​แค่​ครั้ง​เดียว​คือ​ใน​ข้อ​นี้ ท้อง​เรื่อง​นี้​พูด​ถึง​การ​ฉลอง​เทศกาล​อยู่​เพิง​ใน​ฤดู​ใบ​ไม้​ร่วง​ปี ค.ศ. 32—ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “เทศกาล​อยู่​เพิง” และภาค​ผนวก ข​15

พวก​ยิว: ถึง​แม้​ว่า​คำ​นี้​อาจ​หมาย​ถึง​พวก​ผู้​นำ​ศาสนา​ชาว​ยิว แต่​ใน​ข้อ​นี้​น่า​จะ​หมาย​ถึง​คน​ทั่ว​ไป​ที่​มา​ร่วม​ฉลอง​เทศกาล​อยู่​เพิง​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 7:1

พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ชาว​ยิว” แต่​ใน​ข้อ​นี้​คำ​นี้​น่า​จะ​หมาย​ถึง​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว เพราะ​ในข้อ 19 พระ​เยซู​ถาม​พวก​เขา​ว่า “ทำไม​พวก​คุณ​ถึง​พยายาม​จะ​ฆ่า​ผม?”—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 7:1

พระ​คัมภีร์: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “งาน​เขียน, ตัว​หนังสือ” สำนวน “รู้ (มี​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ) หนังสือ” หมาย​ถึง “มี​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​งาน​เขียน (หนังสือ)” ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้​ดู​เหมือน​หมาย​ความ​ว่า​พระ​เยซู​มี​ความ​รู้​เกี่ยว​กับ​พระ​คัมภีร์​ที่​ได้​รับ​การ​ดล​ใจ

เขา​ไม่​เคย​เรียน​ใน​โรง​เรียน​สอน​ศาสนา​ที่​ไหน​เลย: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “เขา​ไม่​เคย​เรียน​เลย” พระ​เยซู​ไม่​ใช่​คน​ไร้​การ​ศึกษา แต่​ท่าน​ไม่​เคย​เรียน​ใน​โรง​เรียน​ของ​พวก​รับบี​ซึ่ง​เป็น​การ​เรียน​ระดับ​สูง

ผม​คิด​ขึ้น​มา​เอง: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “มา​จาก​ตัว​เอง” เนื่อง​จาก​พระ​เยซู​เป็น​ตัว​แทน​คน​สำคัญ​ของ​พระเจ้า ท่าน​จึง​ฟัง​พระ​ยะโฮวา​เสมอ​และ​พูด​ตาม​ที่​พระองค์​สั่ง​เท่า​นั้น

เข้า​สุหนัต​ใน​วัน​สะบาโต: กฎหมาย​ของ​โมเสส​กำหนด​ให้​เด็ก​ผู้​ชาย​ทุก​คน​เข้า​สุหนัต​เมื่อ​เกิด​ได้ 8 วัน (ลนต 12:2, 3) เรื่อง​นี้​สำคัญ​มาก​เพราะ​ถึง​แม้​วัน​ที่ 8 จะ​ตรง​กับ​วัน​สะบาโต พวก​เขา​ก็​ต้อง​ให้​เด็ก​เข้า​สุหนัต—ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “สุหนัต

พวก​ผู้​นำ: ใน​ข้อ​นี้​หมาย​ถึง​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว ตอน​ที่​พระ​เยซู​รับใช้​อยู่​บน​โลก​ชาว​อิสราเอล​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​จักรวรรดิ​โรมัน​และ​ใต้​อำนาจ​ของ​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​ด้วย กลุ่ม​ผู้​นำ​หลัก​ที่​มี​อำนาจ​ใน​หมู่​ชาว​ยิว​คือ​สมาชิก 71 คน​ของ​ศาล​แซนเฮดริน​ซึ่ง​รวม​ถึง​มหา​ปุโรหิต​ด้วย พวก​ผู้​นำ​กลุ่ม​นี้​ได้​รับ​อำนาจ​จาก​รัฐบาล​โรม​ใน​ระดับ​หนึ่ง​เพื่อ​ดู​แล​ชาว​ยิว—ดู​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “แซนเฮดริน

ผม​เป็น​ตัว​แทน​ที่​มา​จาก​พระองค์: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ผม​อยู่​ข้าง​พระองค์” การ​ใช้​คำ​บุพบท พารา (แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ข้าง”) ไม่​ได้​เน้น​แค่​ว่า​พระ​เยซู “มา​จาก” พระเจ้า​เท่า​นั้น แต่​ท่าน​ใกล้​ชิด​และ​สนิท​กับ​พระ​ยะโฮวา​มาก​ ๆ พระ​เยซู​จึง​เป็น “ตัว​แทน” ที่​มา​จาก​พระเจ้า​ใน​ความ​หมาย​นี้

เจ้าหน้าที่: คือ​ยาม​ประจำ​วิหาร​ที่​อยู่​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม ดู​เหมือน​ว่า​พวก​เขา​เป็น​คน​ของ​ศาล​แซนเฮดริน​และ​อยู่​ใต้​อำนาจ​ของ​พวก​ปุโรหิต​ใหญ่ พวก​เขา​ทำ​หน้า​ที่​เหมือน​ตำรวจ

พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว: แปล​ตรง​ตัว​ว่า “ชาว​ยิว” ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้​มี​การ​พูด​ถึง​ปุโรหิต​ใหญ่​และ​ฟาริสี (ยน 7:32, 45) ดัง​นั้น ใน​ข้อ​นี้​จึง​แปล​ว่า “ผู้​นำ​ชาว​ยิว”—ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 7:1

คน​ยิว​ที่​กระจาย​กัน​อยู่: ใน​ท้อง​เรื่อง​นี้ คำ​กรีก เดียสพอรา หมาย​ถึง​ชาว​ยิว​ที่​อาศัย​อยู่​นอก​ประเทศ​อิสราเอล พวก​ยิว​กระจัด​กระจาย​ไป​ตอน​ที่​พวก​เขา​ถูก​ชาติ​อื่น​พิชิต​และ​ถูก​เนรเทศ​ออก​จาก​บ้าน​เกิด ครั้ง​แรก​คือ​ตอน​ที่​ชาว​อัสซีเรีย​มา​พิชิต​ใน​ศตวรรษ​ที่ 8 ก่อน ค.ศ. ต่อ​มา​คือ​ตอน​ที่​ชาว​บาบิโลน​มา​พิชิต​ใน​ศตวรรษ​ที่ 7 ก่อน ค.ศ. (2พก 17:22, 23; 24:12-17; ยรม 52:28-30) มี​ชาว​ยิว​จำนวน​หนึ่ง​ได้​กลับ​มา​ที่​ประเทศ​อิสราเอล และ​มี​บาง​ส่วน​กระจัด​กระจาย​ไป​ใน​ที่​ต่าง​ ๆ (อสย 10:21, 22) พอ​ถึง​ศตวรรษ​ที่ 5 ก่อน ค.ศ. ดู​เหมือน​มี​ชุมชน​ชาว​ยิว​อยู่​ใน 127 รัฐ​ของ​จักรวรรดิ​เปอร์เซีย (อสธ 1:1; 3:8) สำนวน “คน​ยิว​ที่​กระจาย​กัน​อยู่” ใน ยน 7:35 หมาย​ถึง​ชาว​ยิว​ที่​กระจัด​กระจาย​ใน​หมู่​คน​กรีก ใน​สมัย​ศตวรรษ​แรก​มี​คน​ยิว​อาศัย​อยู่​ใน​ชุมชน​ที่​พูด​ภาษา​กรีก​นอก​ประเทศ​อิสราเอล เช่น ใน​ซีเรีย เอเชีย​ไมเนอร์ อียิปต์ และ​ใน​ยุโรป​ส่วน​ที่​อยู่​ภาย​ใต้​การ​ปกครอง​ของ​จักรวรรดิ​โรมัน​ซึ่ง​รวม​ถึง​กรีซ​และ​โรม​ด้วย เนื่อง​จาก​ชาว​ยิว​พยายาม​ชักชวน​คน​อื่น​ให้​มา​นับถือ​ศาสนา​ยิว ทำ​ให้​ใน​เวลา​ต่อ​มา​มี​ผู้​คน​มาก​มาย​ได้​ยิน​เรื่อง​พระ​ยะโฮวา​และ​รู้​จัก​กฎหมาย​ของ​โมเสส​บ้าง (มธ 23:15) ใน​ปี ค.ศ. 33 มี​ชาว​ยิว​และ​คน​ที่​เปลี่ยน​มา​นับถือ​ศาสนา​ยิว​จาก​หลาย​ประเทศ​มา​ที่​กรุง​เยรูซาเล็ม​เพื่อ​ฉลอง​เทศกาล​เพ็นเทคอสต์​และ​พวก​เขา​ก็​ได้​ยิน​ข่าว​ดี​เรื่อง​พระ​เยซู ดัง​นั้น ชาว​ยิว​ที่​กระจัด​กระจาย​อยู่​ทั่ว​จักรวรรดิ​โรมัน​ได้​ทำ​ให้​ศาสนา​คริสเตียน​แพร่​ออก​ไป​อย่าง​รวด​เร็ว

วัน​สุด​ท้าย: หมาย​ถึง​วัน​ที่ 7 ของ​เทศกาล​อยู่​เพิง คือ​วัน​ที่ 21 เดือน​ทิชรี ซึ่ง​เรียก​ว่า “วัน​สำคัญ​ที่​สุด​ของ​เทศกาล”—ฉธบ 16:13; ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 7:2 และ​ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “เทศกาล​อยู่​เพิง” และภาค​ผนวก ข​15

เหมือน​ที่​พระ​คัมภีร์​บอก​ไว้: ดู​เหมือน​พระ​เยซู​ไม่​ได้​ยก​ข้อ​คัมภีร์​ข้อ​ใด​มา​โดย​เฉพาะ แต่​ท่าน​อ้าง​ถึง​ข้อ​คัมภีร์​บาง​ข้อ เช่น อสย 44:3; 58:11 และ ศคย 14:8 มาก​กว่า 2 ปี​ก่อน​หน้า​นี้​ตอน​พระ​เยซู​พูด​กับ​ผู้​หญิง​ชาว​สะมาเรีย​เรื่อง​น้ำ​ที่​ให้​ชีวิต ท่าน​เน้น​ว่า​คน​ที่​ดื่ม​น้ำ​นั้น​จะ​ได้​ประโยชน์​อะไร (ยน 4:10, 14) แต่​ใน​ข้อ​นี้ พระ​เยซู​บอก​ว่า “น้ำ​ที่​ให้​ชีวิต” จะ​ไหล​ออก​มา​จาก​สาวก​ที่​เชื่อ​ใน​ตัว​ท่าน​ตอน​ที่​พวก​เขา​แบ่ง​ปัน​น้ำ​นี้​ให้​กับ​คน​อื่น (ยน 7:37-39) ใน​พระ​คัมภีร์​คริสเตียน​ภาค​ภาษา​กรีก​ให้​หลักฐาน​มาก​มาย​ที่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า ตั้ง​แต่​สาวก​ของ​พระ​เยซู​ได้​รับ​พลัง​บริสุทธิ์​ใน​วัน​เพ็นเทคอสต์​ปี ค.ศ. 33 พวก​เขา​ก็​แบ่ง​ปัน​น้ำ​ที่​ให้​ชีวิต​กับ​ทุก​คน​ที่​สนใจ​ฟัง—กจ 5:28; คส 1:23

สาย​น้ำ​ที่​ให้​ชีวิต​จะ​ไหล​ออก​มา: ใน​ข้อ​นี้​พระ​เยซู​อาจ​อ้าง​ถึง​ธรรมเนียม​อย่าง​หนึ่ง​ที่​ทำ​กัน​ใน​ช่วง​เทศกาล​อยู่​เพิง คือ​การ​เอา​เหยือก​ทองคำ​ไป​ตัก​น้ำ​จาก​สระ​สิโลอัม และ​เอา​มา​เท​พร้อม​กับ​เหล้า​องุ่น​ลง​บน​แท่น​บูชา​ตอน​ที่​มี​การ​ถวาย​เครื่อง​บูชา​ใน​ตอน​เช้า (ดูข้อมูล​สำหรับ​ศึกษา​ที่ ยน 7:2; ส่วน​อธิบาย​ศัพท์​คำ​ว่า “เทศกาล​อยู่​เพิง” และภาค​ผนวก ข​15) แม้​ใน​พระ​คัมภีร์​ภาค​ภาษา​ฮีบรู​ไม่​ได้​พูด​ถึง​ธรรมเนียม​นี้ แต่​ก็​เป็น​ธรรมเนียม​ที่​ชาว​ยิว​ทำ​กัน​ใน​เวลา​ต่อ​มา และ​ผู้​เชี่ยวชาญ​ด้าน​พระ​คัมภีร์​ส่วน​ใหญ่​บอก​ว่า​ธรรมเนียม​นี้​จะ​ทำ​ทั้ง​หมด 7 วัน​แต่​ไม่​ทำ​ใน​วัน​ที่​แปด และ​เนื่อง​จาก​วัน​แรก​ของ​เทศกาล​อยู่​เพิง​ตรง​กับ​วัน​สะบาโต ปุโรหิต​คน​หนึ่ง​จะ​เอา​น้ำ​ใน​เหยือก​ซึ่ง​ตัก​มา​จาก​สระ​สิโลอัม 1 วัน​ก่อน​หน้า​นั้น​มา​เท​บน​แท่น ส่วน​วัน​ต่อ​ ๆ ​มา ปุโรหิต​จะ​เอา​เหยือก​ทองคำ​ไป​ตัก​น้ำ​ที่​สระ​สิโลอัม และ​จะ​กะ​เวลา​กลับ​มา​ที่​วิหาร​ให้​ตรง​กับ​ตอน​ที่​ปุโรหิต​คน​อื่น​ ๆ ​กำลัง​เอา​เครื่อง​บูชา​มา​วาง​บน​แท่น พอ​เขา​เดิน​ผ่าน​ประตู​น้ำ​เข้า​มา​ที่​ลาน​สำหรับ​ปุโรหิต จะ​มี​การ​เป่า​แตร 3 ครั้ง​เพื่อ​บอก​ว่า​เขา​มา​ถึง​แล้ว จาก​นั้น​เขา​จะ​เท​น้ำ​ใน​เหยือก​ลง​บน​อ่าง​ใบ​หนึ่ง​ที่​ไหล​ไป​ถึง​ฐาน​ของ​แท่น​บูชา และ​ใน​เวลา​เดียว​กัน​ก็​เท​เหล้า​องุ่น​ลง​บน​อ่าง​อีก​ใบ​หนึ่ง จาก​นั้น​จะ​มี​การ​เล่น​ดนตรี​ใน​วิหาร​พร้อม​กับ​ร้อง​เพลง​ฮัลเลล (สด 113-118) ผู้​นมัสการ​ที่​อยู่​นอก​วิหาร​จะ​โบก​ใบ​ปาล์ม​ไป​ทาง​แท่น​บูชา ธรรมเนียม​นี้​อาจ​ทำ​ให้​ผู้​ที่​เฉลิม​ฉลอง​อย่าง​มี​ความ​สุข​นึก​ถึง​คำ​พยากรณ์​ของ​อิสยาห์​ที่​บอก​ว่า “พวก​คุณ​จะ​ตัก​น้ำ​ด้วย​ความ​ยินดี เป็น​น้ำ​จาก​น้ำพุ​ที่​ช่วย​ชีวิต​ให้​รอด”—อสย 12:3

ยัง​ไม่​ได้​รับ​พลัง​นั้น: คำ​ว่า “พลัง” มา​จาก​คำ​กรีก พะนือมา ซึ่ง​มี​การ​ใช้ 2 ครั้ง​ใน​ข้อ​นี้​เพื่อ​หมาย​ถึง​พลัง​บริสุทธิ์​ของ​พระเจ้า พระ​เยซู​และ​คน​ที่​ฟัง​ท่าน​รู้​ว่า​พระเจ้า​ใช้​พลัง​บริสุทธิ์​นี้​มา​นาน​แล้ว (ปฐก 1:2, เชิงอรรถ; 2​ซม 23:2; กจ 28:25) และ​พระองค์​ก็​ให้​พลัง​นี้​กับ​ผู้​รับใช้​ที่​ซื่อ​สัตย์​หลาย​คน​เพื่อ​ทำ​สิ่ง​ต่าง​ ๆ เช่น พระองค์​ให้​พลัง​กับ​โอทนีเอล เยฟธาห์ และ​แซมสัน (วนฉ 3:9, 10; 11:29; 15:14) ดัง​นั้น เห็น​ได้​ชัด​ว่า​ใน​ข้อ​นี้​ยอห์น​กำลัง​พูด​ถึง​วิธี​ใหม่​ที่​พระเจ้า​ใช้​พลัง​บริสุทธิ์​กับ​มนุษย์​ที่​ไม่​สมบูรณ์ ก่อน​หน้า​นั้น​พระเจ้า​ยัง​ไม่​เคย​ใช้​พลัง​บริสุทธิ์​เพื่อ​เลือก​ผู้​รับใช้​คน​ไหน​ให้​ไป​สวรรค์ แต่​ใน​วัน​เพ็นเทคอสต์​ปี ค.ศ. 33 หลัง​จาก​พระ​เยซู​ฟื้น​ขึ้น​จาก​ตาย​และ​กลับ​ไป​สวรรค์​แล้ว ท่าน​ก็​ให้​พลัง​บริสุทธิ์​ที่​ได้​รับ​จาก​พระ​ยะโฮวา​กับ​พวก​สาวก (กจ 2:4, 33) นี่​เป็น​ครั้ง​แรก​ที่​มนุษย์​ไม่​สมบูรณ์​มี​ความ​หวัง​จะ​ไป​อยู่​บน​สวรรค์ และ​หลัง​จาก​ถูก​เจิม​ด้วย​พลัง​บริสุทธิ์​แล้ว คริสเตียน​ก็​สามารถ​เข้าใจ​หลาย​เรื่อง​ที่​พวก​เขา​ไม่​เคย​เข้าใจ​มา​ก่อน

คน​ที่​ถูก​สาป​แช่ง: ฟาริสี​และ​พวก​ผู้​นำ​ชาว​ยิว​ที่​เย่อหยิ่ง​และ​คิด​ว่า​ตัว​เอง​ดี​กว่า​คน​อื่น​ดูถูก​คน​ทั่ว​ไป​ที่​ฟัง​พระ​เยซู และ​เรียก​พวก​เขา​ว่า “คน​ที่​ถูก​สาป​แช่ง” คำ​กรีก เอะพาราทอส ที่​ใช้​ใน​ข้อ​นี้​เป็น​คำ​ที่​ใช้​ใน​เชิง​ดูถูก​และ​ใช้​เพื่อ​พูด​ถึง​คน​ที่​ถูก​พระเจ้า​สาป​แช่ง ผู้​นำ​ศาสนา​ชาว​ยิว​ยัง​ใช้​คำ​ฮีบรู อัมฮาอาเร็ตส์ ที่​แปล​ว่า “ชาว​บ้าน” เพื่อ​ดูถูก​ผู้​คน​ทั่ว​ไป​ด้วย ก่อน​หน้า​นี้​มี​การ​ใช้​คำ​นี้​ใน​แบบ​ที่​ให้​เกียรติ​เพื่อ​หมาย​ถึง​ประชาชน​ที่​อาศัย​อยู่​ใน​เขต​ใด​เขต​หนึ่ง​โดย​เฉพาะ ซึ่ง​รวม​ทั้ง​คน​จน คน​ต่ำต้อย และ​คน​สำคัญ​ ๆ ​ด้วย (ปฐก 23:7; 2พก 23:35; อสค 22:29) แต่​พอ​ถึง​สมัย​ของ​พระ​เยซู มี​การ​ใช้​คำ​นี้​เพื่อ​เรียก​คน​ที่​ไม่​รู้​กฎหมาย​ของ​โมเสส​หรือ​ไม่​ทำ​ตาม​ราย​ละเอียด​ยิบ​ย่อย​ใน​ธรรมเนียม​ของ​พวก​รับบี และ​ข้อ​เขียน​ของ​พวก​รับบี​ใน​สมัย​ต่อ​มา​ก็​ยืน​ยัน​ว่า​พวก​เขา​คิด​แบบ​นี้​จริง​ ๆ ผู้​นำ​ศาสนา​หลาย​คน​มอง​ว่า​คน​เหล่า​นี้​น่า​รังเกียจ พวก​เขา​ไม่​ยอม​กิน​ข้าว คบหา หรือ​ซื้อ​ของ​จาก​คน​เหล่า​นี้

คุณ​ก็​มา​จาก​กาลิลี​ด้วย​หรือ​ไง?: คำ​ถาม​นี้​แสดง​ถึง​ความ​รู้สึก​ดูถูก​ที่​ชาว​ยูเดีย​มี​ต่อ​ชาว​กาลิลี ตอน​ที่​นิโคเดมัส​พูด​เข้า​ข้าง​พระ​เยซู (ยน 7:51) ฟาริสี​ก็​พูด​ประโยค​นี้​ขึ้น​มา​ซึ่ง​เหมือน​กำลัง​บอก​ว่า “คุณ​ไป​ปก​ป้อง​และ​สนับสนุน​เขา​เพราะ​อยาก​ลด​ตัว​ลง​ไป​อยู่​ระดับ​เดียว​กับ​คน​กาลิลี​ที่​ล้า​หลัง​หรือ​ไง?” เนื่อง​จาก​ศาล​แซนเฮดริน​กับ​วิหาร​อยู่​ใน​กรุง​เยรูซาเล็ม พวก​ครู​สอน​กฎหมาย​ของ​โมเสส​จึง​อยู่​ที่​นั่น​กัน​เป็น​จำนวน​มาก​จน​ทำ​ให้​มี​ภาษิต​ยิว​ที่​บอก​ว่า “ถ้า​อยาก​รวย​ให้​ขึ้น​เหนือ [ไป​กาลิลี] ถ้า​อยาก​ฉลาด​ให้​ลง​ใต้ [ไป​ยูเดีย]” แต่​หลักฐาน​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​จริง​ ๆ ​แล้ว​ชาว​กาลิลี​ก็​มี​ความ​รู้​เรื่อง​กฎหมาย​ของ​พระเจ้า เพราะ​ตาม​เมือง​และ​หมู่​บ้าน​ทั่ว​แคว้น​กาลิลี​มี​ครู​สอน​กฎหมาย​และ​มี​ที่​ประชุม​ของ​ชาว​ยิว​ซึ่ง​เป็น​เหมือน​ศูนย์​การ​ศึกษา (ลก 5:17) การ​ที่​พวก​ฟาริสี​ตอบ​นิโคเดมัส​แบบ​นี้​แสดง​ว่า​พวก​เขา​ไม่​ได้​ศึกษา​จน​เข้าใจ​ว่า​เบธเลเฮม​เป็น​ที่​เกิด​ของ​พระ​เยซู (มคา 5:2; ยน 7:42) และ​พวก​เขา​ก็​ไม่​เข้าใจ​คำ​พยากรณ์​ของ​อิสยาห์​ที่​เปรียบ​การ​ประกาศ​ของ​เมสสิยาห์​ว่า​เป็น​เหมือน “แสง​สว่าง​เจิดจ้า” ที่​ส่อง​เข้า​ไป​ใน​กาลิลี—อสย 9:1, 2; มธ 4:13-17

ไม่​มี . . . ผู้​พยากรณ์​มา​จาก​กาลิลี: คำ​พูด​นี้​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พวก​ฟาริสี​มอง​ข้าม​คำ​พยากรณ์​ที่ อสย 9:1, 2 ซึ่ง​บอก​ล่วง​หน้า​ว่า​จะ​มี​แสง​สว่าง​ที่​เจิดจ้า​มา​จาก​แคว้น​กาลิลี ผู้​เชี่ยวชาญ​บาง​คน​ให้​ความ​เห็น​ว่า​ใน​ข้อ​นี้​พวก​ฟาริสี​กำลัง​พูด​แบบ​เหมา​รวม​ว่า​ไม่​เคย​มี​และ​ไม่​มี​วัน​ที่​จะ​มี​ผู้​พยากรณ์​มา​จาก​แคว้น​ที่​ไม่​สำคัญ​อย่าง​กาลิลี นี่​แสดง​ให้​เห็น​ว่า​พวก​เขา​มอง​ข้าม​ข้อ​เท็จ​จริง​ที่​ว่า​ผู้​พยากรณ์​โยนาห์​ก็​มา​จาก​เมือง​กัทเฮเฟอร์​ใน​แคว้น​กาลิลี​ที่​อยู่​ห่าง​ไป 4 กม. ทาง​ตะวัน​ออก​เฉียง​เหนือ​จาก​เมือง​นาซาเร็ธ ซึ่ง​เป็น​ที่​ที่​พระ​เยซู​ใช้​ชีวิต​ใน​วัย​เด็ก—2​พก 14:25

7:53

สำเนา​พระ​คัมภีร์​ที่​เก่าแก่​และ​น่า​เชื่อถือ​ที่​สุด​ไม่​มี​ข้อ​ความ​ที่ ยน 7:53 ถึง 8:11 เห็น​ได้​ชัด​ว่า​ไม่​มี​ข้อ​คัมภีร์ 12 ข้อ​นี้​อยู่​ใน​ข้อ​ความ​ต้น​ฉบับ​ของ​หนังสือ​ข่าว​ดี​ของ​ยอห์น แต่​มี​การ​เพิ่ม​เข้า​มา​ที​หลัง—ดูภาค​ผนวก ก​3

ข้อ​ความ​นี้​ใน​สำเนา​ภาษา​กรีก​บาง​ฉบับ​และ​ใน​ฉบับ​แปล​บาง​ฉบับ​มี​ความ​แตกต่าง​กัน​อยู่​บ้าง ซึ่ง​อ่าน​ว่า

53 แล้ว​พวก​เขา​ต่าง​ก็​แยก​ย้าย​กัน​กลับ​บ้าน

8 ส่วน​พระ​เยซู​เสด็จ​ไป​ยัง​ภูเขา​มะกอก 2 แต่​พอ​รุ่ง​เช้า พระองค์​เสด็จ​ไป​ที่​พระ​วิหาร​อีก และ​ผู้​คน​พา​กัน​มา​หา​พระองค์ พระองค์​จึง​ทรง​นั่ง​ลง​แล้ว​เริ่ม​สอน​พวก​เขา 3 ขณะ​นั้น​พวก​อาลักษณ์​กับ​พวก​ฟาริซาย​พา​ผู้​หญิง​มา​คน​หนึ่ง​ซึ่ง​ถูก​จับ​ได้​ตอน​มี​ชู้ เมื่อ​ให้​นาง​ยืน​อยู่​ท่ามกลาง​คน​ทั้ง​หลาย​แล้ว 4 พวก​เขา​จึง​พูด​กับ​พระองค์​ว่า “ท่าน​อาจารย์ หญิง​ผู้​นี้​ถูก​จับ​ได้​ตอน​ที่​กำลัง​มี​ชู้ 5 พระ​บัญญัติ​ที่​พระเจ้า​ทรง​ประทาน​ผ่าน​ทาง​โมเซ​สั่ง​ให้​เอา​หิน​ขว้าง​ผู้​หญิง​ประเภท​นี้​ให้​ตาย ท่าน​ล่ะ​จะ​ว่า​อย่าง​ไร?” 6 พวก​เขา​พูด​อย่าง​นี้​ก็​เพื่อ​ทดสอบ​พระองค์ และ​เพื่อ​หา​เหตุ​ฟ้อง​พระองค์ แต่​พระ​เยซู​ทรง​ก้ม​ลง​ใช้​นิ้ว​พระ​หัตถ์​เขียน​บน​พื้น 7 เมื่อ​พวก​เขา​ยัง​ถาม​พระองค์​ไม่​หยุด พระองค์​จึง​ทรง​ยืด​พระ​กาย​ขึ้น​ตรัส​กับ​พวก​เขา​ว่า “พวก​เจ้า​คน​ใด​ไม่​มี​บาป จง​เอา​หิน​ขว้าง​นาง​เป็น​คน​แรก” 8 แล้ว​พระองค์​ทรง​ก้ม​ลง​เขียน​บน​พื้น​อีก 9 คน​ที่​ได้​ยิน​พระองค์​ตรัส​จึง​ทยอย​ออก​ไป​ที​ละ​คน โดย​ที่​ผู้​เฒ่า​ผู้​แก่​ออก​ไป​ก่อน เหลือ​แต่​พระองค์​กับ​ผู้​หญิง​ที่​ยืน​อยู่​ตรง​กลาง 10 พระ​เยซู​ทรง​ยืด​พระ​กาย​ขึ้น​ตรัส​กับ​นาง​ว่า “หญิง​เอ๋ย คน​เหล่า​นั้น​ไป​ไหน? ไม่​มี​ใคร​กล่าว​โทษ​เจ้า​แล้ว​หรือ?” 11 นาง​พูด​ว่า “ท่าน​เจ้าข้า ไม่​มี​ใคร​เลย” พระ​เยซู​ตรัส​ว่า “เรา​ก็​ไม่​กล่าว​โทษ​เจ้า​เช่น​กัน ไป​เถิด ตั้ง​แต่​นี้​ไป อย่า​ทำ​บาป​อีก​เลย”

วีดีโอและรูปภาพ