เขียนโดยลูกา 12:1-59
-
เชื้อของพวกฟาริสี (1-3)
-
กลัวพระเจ้า อย่ากลัวคน (4-7)
-
ยอมรับว่าเป็นสาวกของพระคริสต์ (8-12)
-
ตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องเศรษฐีโง่ (13-21)
-
เลิกกังวล (22-34)
-
แกะฝูงเล็ก (32)
-
-
เตรียมพร้อม (35-40)
-
คนรับใช้ที่ซื่อสัตย์และที่ไม่ซื่อสัตย์ (41-48)
-
ไม่ได้มาทำให้สงบสุข แต่มาทำให้แตกแยก (49-53)
-
สังเกตความหมายของเหตุการณ์ (54-56)
-
การตกลงกันเมื่อเกิดความขัดแย้ง (57-59)
12 ระหว่างนั้น เมื่อมีหลายพันคนมาชุมนุมกันจนแน่นขนัด พระเยซูเริ่มพูดกับพวกสาวกก่อนว่า “ระวังเชื้อของพวกฟาริสีให้ดี ระวังความหลอกลวงของพวกเขา+
2 แต่ทุกสิ่งที่ปกปิดไว้อย่างมิดชิดจะต้องถูกเปิดโปง และความลับทุกเรื่องจะถูกเปิดเผย+
3 ดังนั้น เรื่องที่คุณพูดในที่มืดจะได้ยินในที่สว่าง และเรื่องที่คุณกระซิบในห้องส่วนตัวจะได้รับการป่าวประกาศจากดาดฟ้า
4 เพื่อนรัก+ ผมจะบอกให้นะว่า อย่ากลัวคนที่ฆ่าคุณได้ในตอนนี้ แต่ทำอะไรคุณมากกว่านั้นไม่ได้+
5 แต่ให้คุณกลัวพระเจ้า เพราะพระองค์มีอำนาจที่จะฆ่าคุณ แล้วทิ้งคุณในเกเฮนนา*+ได้ ผมจะบอกให้รู้ว่า พระองค์ผู้นี้แหละที่คุณควรกลัว+
6 นกกระจอก 5 ตัวเขาขายกันแค่ไม่กี่บาท*ไม่ใช่หรือ? แต่ไม่มีสักตัวเดียวที่พระเจ้าจะลืม*+
7 แม้แต่ผมบนหัวของคุณ พระองค์ก็นับไว้แล้วทุกเส้น+ อย่ากลัวเลย เพราะคุณมีค่ามากกว่านกกระจอกหลายตัวรวมกันด้วยซ้ำ+
8 “ผมจะบอกให้รู้ว่า ถ้าใครยอมรับว่าเป็นสาวกของผมต่อหน้าคนอื่น+ ‘ลูกมนุษย์’ ก็จะยอมรับเขาเป็นสาวกต่อหน้าทูตสวรรค์ของพระเจ้าด้วย+
9 แต่ถ้าใครปฏิเสธผมต่อหน้าคนอื่น ผมก็จะปฏิเสธเขาต่อหน้าทูตสวรรค์ของพระเจ้าเหมือนกัน+
10 และถ้าใครพูดจาดูหมิ่น ‘ลูกมนุษย์’ พระเจ้าจะให้อภัยเขาได้ แต่ใครที่ลบหลู่ดูหมิ่นพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้า พระองค์จะไม่ให้อภัยเขาเลย+
11 เมื่อคุณถูกนำตัวไปสอบสวนในที่ประชุม* หรือยืนอยู่ต่อหน้าผู้ปกครองบ้านเมืองและผู้มีอำนาจ ไม่ต้องกังวลว่าจะตอบอย่างไรหรือจะพูดอะไร+
12 เพราะตอนนั้น พลังบริสุทธิ์ของพระเจ้าจะทำให้คุณรู้ว่าต้องพูดอะไร”+
13 จากนั้น มีคนหนึ่งในกลุ่มผู้ฟังพูดกับพระเยซูว่า “อาจารย์ครับ ขอบอกพี่ชายผมให้แบ่งมรดกให้ผมบ้าง”
14 ท่านบอกเขาว่า “ใครตั้งผมเป็นผู้พิพากษาหรือผู้ไกล่เกลี่ยให้พวกคุณ?”
15 แล้วพระเยซูก็พูดกับประชาชนที่ฟังอยู่ว่า “ระวังตัวให้ดี อย่าเป็นคนโลภ+ เพราะถึงจะมีทรัพย์สมบัติมากมาย แต่มันก็ซื้อชีวิตไม่ได้”+
16 พระเยซูจึงยกตัวอย่างเปรียบเทียบให้พวกเขาฟังว่า “ไร่นาของเศรษฐีคนหนึ่งเกิดผลดี
17 เขาเลยคิดในใจว่า ‘ตอนนี้เราไม่มีที่จะเก็บพืชผลแล้ว เราจะทำยังไงดี?’
18 แล้วเขาก็คิดได้ว่า ‘เอาอย่างนี้+ เราจะรื้อยุ้งฉางแล้วสร้างให้ใหญ่กว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสิ่งของทั้งหมดไว้ที่นั่น
19 แล้วเราจะบอกกับตัวเองว่า “เราเก็บสะสมของดี ๆ ไว้มากมาย มีพอใช้ไปอีกหลายปี ไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว ไปกินดื่ม และมีความสุขกับชีวิตดีกว่า”’
20 แต่พระเจ้าพูดกับเขาว่า ‘คนไร้ความคิด คืนนี้จะมีคนมาเอาชีวิตเจ้า แล้วของที่เจ้าสะสมไว้จะตกเป็นของใคร?’+
21 คนที่ชอบสะสมทรัพย์สมบัติไว้ให้ตัวเอง แต่ไม่ได้ร่ำรวยในสายตาพระเจ้าก็เป็นอย่างนั้นแหละ”+
22 แล้วพระเยซูก็พูดกับพวกสาวกว่า “เพราะอย่างนี้ ผมจะบอกพวกคุณว่า เลิกกังวลได้แล้วกับเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ว่าจะมีกินไหม หรือกังวลว่าจะมีเสื้อผ้าใส่หรือเปล่า+
23 ชีวิตสำคัญกว่าอาหารและร่างกายสำคัญกว่าเสื้อผ้า
24 ดูอย่างอีกาสิ มันไม่ได้หว่านหรือเก็บเกี่ยว ไม่มีห้องเสบียงหรือยุ้งฉาง แต่พระเจ้าเลี้ยงดูพวกมันอยู่+ พวกคุณมีค่ามากกว่านกหลายเท่าไม่ใช่หรือ?+
25 พวกคุณมีใครไหมที่กังวลแล้วจะต่อชีวิตได้อีกสักนิดหนึ่ง?*
26 ถ้าพวกคุณต่อชีวิตแค่นิดเดียวยังไม่ได้ จะไปกังวลกับเรื่องอื่น ๆ ทำไมล่ะ?+
27 ดูอย่างดอกไม้ในทุ่งสิ มันงอกงามขึ้นได้อย่างไร มันไม่ต้องตรากตรำทำงานและไม่ต้องทอผ้า แต่รู้ไหมว่า แม้แต่กษัตริย์โซโลมอนตอนที่แต่งตัวเต็มยศก็ยังไม่งามเท่ากับดอกไม้ดอกหนึ่งที่อยู่ในทุ่งเลย+
28 ถ้าพระเจ้าตกแต่งดอกไม้ใบหญ้าในทุ่งซึ่งอยู่แค่วันนี้ และพรุ่งนี้ก็จะถูกเผาทิ้ง พระองค์จะยิ่งตกแต่งพวกคุณมากกว่านั้นสักแค่ไหน พวกคุณมีความเชื่อน้อยจริง ๆ
29 ดังนั้น เลิกกังวลว่าจะกินอะไรหรือจะดื่มอะไร เลิกกังวลกับเรื่องพวกนี้ได้แล้ว+
30 เพราะคนทั่วไปในโลกนี้ที่ไม่รู้จักพระเจ้ากังวลกับเรื่องพวกนี้ แต่พระเจ้าผู้เป็นพ่อของพวกคุณรู้อยู่แล้วว่าพวกคุณต้องมีของทั้งหมดนี้+
31 ดังนั้น พวกคุณต้องให้ความสำคัญกับการปกครอง*ของพระเจ้าเสมอ แล้วพระองค์จะให้พวกคุณมีสิ่งจำเป็นทั้งหมดนี้+
32 “พวกคุณที่เป็นแกะฝูงเล็ก+ อย่ากลัวเลย เพราะพระเจ้าผู้เป็นพ่อของพวกคุณตั้งใจแล้วว่าจะให้รัฐบาลของพระองค์กับพวกคุณ+
33 ไปขายทรัพย์สมบัติของคุณแล้วเอาเงินไปแจกให้คนจน*+ ให้คุณใช้ถุงเงินที่ไม่มีวันขาด ทรัพย์ของคุณในสวรรค์จะได้ไม่สูญหาย+ เพราะที่นั่นไม่มีใครไปขโมยได้และไม่มีมอดไปกิน
34 ทรัพย์สมบัติของคุณอยู่ที่ไหน ใจของคุณก็อยู่ที่นั่นด้วย
35 “ให้คุณแต่งตัวและเตรียมพร้อมไว้+ จุดตะเกียงให้ส่องสว่างอยู่เสมอ+
36 ทำตัวเหมือนพวกทาสที่กำลังคอยนายกลับ+จากงานแต่งงาน+ เมื่อนายมาและเคาะประตู จะได้เปิดให้นายได้ทันที
37 เมื่อนายมาเห็นพวกทาสกำลังเฝ้าคอยอยู่ พวกทาสก็มีความสุข เพราะผมจะบอกให้รู้ว่า นายจะใส่ชุดทำงานและให้พวกทาสนั่งเอนตัวที่โต๊ะอาหาร แล้วนายจะคอยรับใช้พวกเขาอยู่ข้าง ๆ
38 ถ้านายมาในยาม 2* หรือแม้แต่ในยาม 3* และเห็นพวกทาสเตรียมพร้อม พวกทาสก็มีความสุข
39 อย่าลืมว่า ถ้าเจ้าของบ้านรู้ว่าขโมยจะขึ้นบ้านเวลาไหน เขาจะไม่ปล่อยให้ขโมยงัดเข้ามาในบ้านแน่ ๆ+
40 คุณเองก็ต้องเตรียมพร้อมอย่างนั้นด้วย เพราะ ‘ลูกมนุษย์’ จะมาในเวลาที่คุณคิดไม่ถึง”+
41 เปโตรพูดขึ้นมาว่า “อาจารย์ครับ ที่ท่านยกตัวอย่างเปรียบเทียบเรื่องนี้ขึ้นมา ท่านหมายถึงเฉพาะพวกเรา หรือท่านหมายถึงทุกคน?”
42 พระเยซูตอบว่า “จริง ๆ แล้ว ใครเป็นคนรับใช้*ที่ซื่อสัตย์และสุขุม*ที่นายจะตั้งไว้ให้ดูแลพวกคนรับใช้ และแจกจ่ายอาหารให้พวกเขาอย่างเพียงพอตามเวลาที่เหมาะสม?+
43 เมื่อนายมาและเห็นทาสกำลังทำงานนั้นอย่างดี ทาสคนนั้นจะมีความสุข
44 ผมจะบอกให้รู้ว่า นายจะตั้งเขาให้ดูแลทรัพย์สมบัติทั้งหมดของนาย
45 แต่ถ้าทาสคนนั้นคิดในใจว่า ‘นายเรายังไม่มาหรอก’ แล้วเริ่มตีคนรับใช้ชายหญิงคนอื่น ๆ และกินดื่มจนเมามาย+
46 นายของเขาจะมาในวันที่เขาคาดไม่ถึงและในเวลาที่เขาไม่รู้ตัว และจะลงโทษเขาอย่างหนักที่สุด แล้วไล่ให้ไปอยู่กับคนที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า
47 ทาสที่รู้ว่านายต้องการอะไร แต่ไม่ได้เตรียมพร้อมหรือทำตามที่นายสั่งจะถูกเฆี่ยนอย่างหนัก+
48 แต่ทาสที่ทำผิดเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์จะถูกเฆี่ยนน้อย ที่จริง ทุกคนที่ได้รับหน้าที่รับผิดชอบมากจะถูกคาดหมายมาก และคนที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลหลายอย่างจะถูกคาดหมายมากเป็นพิเศษ+
49 “ผมมาจุดไฟบนโลก ตอนนี้ไฟก็ติดแล้ว ผมยังจะต้องการอะไรอีกล่ะ?
50 แต่ผมต้องรับบัพติศมาแบบหนึ่ง และผมทุกข์ใจจริง ๆ กว่าเรื่องนั้นจะสำเร็จ+
51 คุณคิดว่าผมมาทำให้โลกสงบสุขหรือ? ไม่ใช่หรอก ผมมาทำให้แตกแยกกันต่างหาก+
52 ต่อไปนี้ ห้าคนในบ้านหลังหนึ่งจะแตกแยกกันเป็นสามต่อสองและสองต่อสาม
53 จะเกิดการแตกแยกกัน ระหว่างพ่อกับลูกชายและลูกชายกับพ่อ แม่กับลูกสาวและลูกสาวกับแม่ แม่ผัวกับลูกสะใภ้และลูกสะใภ้กับแม่ผัว”+
54 แล้วพระเยซูก็หันไปพูดกับประชาชนว่า “เมื่อคุณเห็นเมฆหนาทึบลอยมาจากทิศตะวันตก คุณก็พูดว่า ‘จะมีพายุฝน’ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง
55 เมื่อคุณเห็นว่ามีลมพัดมาจากทิศใต้ คุณก็พูดว่า ‘อากาศจะร้อนจัด’ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริง
56 พวกคนเสแสร้ง พวกคุณสังเกตดินฟ้าอากาศได้ แต่ทำไมดูไม่ออกว่าเหตุการณ์สมัยนี้หมายความว่าอย่างไร?+
57 ทำไมพวกคุณตัดสินเองไม่ได้ว่าอะไรที่ถูกต้องและควรทำ?
58 เช่น เมื่อคุณไปหาเจ้าหน้าที่พร้อมกับคนที่ฟ้องร้องคุณ ให้รีบตกลงกับเขาระหว่างทาง ไม่อย่างนั้นเขาจะส่งตัวคุณให้ผู้พิพากษาตัดสิน และผู้พิพากษาจะส่งคุณให้ผู้คุม แล้วผู้คุมจะจับคุณเข้าคุก+
59 ผมจะบอกให้รู้ว่า คุณจะไม่ได้ออกจากคุกแน่ ๆ จนกว่าคุณจะใช้หนี้ให้หมดทุกบาททุกสตางค์”*
เชิงอรรถ
^ แปลตรงตัวว่า “2 อัสซาริอัน” ดูภาคผนวก ข14
^ หรือ “มองข้าม”
^ หรืออาจแปลได้ว่า “ในที่ประชุมของชาวยิว”
^ แปลตรงตัวว่า “ศอกหนึ่ง” ดูภาคผนวก ข14
^ หรือ “รัฐบาล” “ราชอาณาจักร”
^ หรือ “แล้วให้ทาน”
^ ช่วงเที่ยงคืนถึงตี 3
^ ช่วง 3 ทุ่มถึงเที่ยงคืน
^ หรือ “ผู้ดูแลบ้าน”
^ หรือ “ฉลาด”
^ แปลตรงตัวว่า “จ่ายเงินจนเหรียญเลฟตันสุดท้าย” เลฟตันคือ เงินเหรียญที่มีค่าน้อยมาก ดูภาคผนวก ข14