แหล่งอ้างอิงสำหรับ “ชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม”
แหล่งอ้างอิงสำหรับชีวิตและงานรับใช้—คู่มือประชุม
© 2024 Watch Tower Bible and Tract Society of Pennsylvania
วันที่ 2-8 กันยายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สดุดี 79-81
แสดงให้เห็นว่าเรารักชื่อที่ยิ่งใหญ่ของพระยะโฮวา
ห17.02 น. 9 ว. 5
ค่าไถ่ของขวัญที่สมบูรณ์แบบจากพระเจ้าผู้เป็นพ่อ
5 เราจะแสดงอย่างไรว่าเรารักชื่อพระยะโฮวา? โดยการกระทำของเรา พระยะโฮวาอยากให้เราเป็นคนบริสุทธิ์ (อ่าน 1 เปโตร 1:15, 16) นี่หมายความว่าเราต้องนมัสการพระยะโฮวาเท่านั้นและเชื่อฟังพระองค์สุดหัวใจ ถึงแม้เราอาจถูกข่มเหง แต่เราจะพยายามทุกวิถีทางที่จะใช้ชีวิตตามที่พระยะโฮวาสอนเรา เมื่อเราใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระองค์แบบนี้ เราก็กำลังทำให้ชื่อของพระองค์ได้รับการยกย่องสรรเสริญ (มธ. 5:14-16) เราพิสูจน์ว่ากฎหมายของพระยะโฮวายอดเยี่ยมและซาตานเป็นตัวโกหก แต่เนื่องจากเราไม่สมบูรณ์แบบ เราจึงทำผิดพลาดหลายครั้ง และเมื่อไรที่เราพลาดทำผิด เราก็ต้องกลับใจและพยายามไม่ทำอะไรให้พระยะโฮวาเสียชื่ออีก—สด. 79:9
วซพอบ บทความ 3 ว. 4-5
โรม 10:13—“ร้องออกพระนามขององค์พระผู้เป็นเจ้า”
ในคัมภีร์ไบเบิล คำพูดที่ว่า “อ้อนวอนโดยออกชื่อของพระยะโฮวา” ไม่ได้หมายถึงแค่รู้จักชื่อพระเจ้าและใช้ชื่อนี้ในการนมัสการเท่านั้น (สดุดี 116:12-14) แต่หมายถึงการไว้ใจพระเจ้าและขอความช่วยเหลือจากพระองค์—สดุดี 20:7; 99:6
ชื่อพระเจ้าสำคัญกับพระเยซูมาก เราเห็นเรื่องนี้ได้จากคำอธิษฐานที่พระเยซูให้ตัวอย่างไว้ ที่ว่า “พระเจ้า พ่อของพวกเราในสวรรค์ ขอให้ชื่อของพระองค์เป็นที่เคารพนับถืออยู่เสมอ” หรือทำให้บริสุทธิ์ (มัทธิว 6:9) พระเยซูยังบอกว่าเราต้องรู้จัก เชื่อฟัง และรักพระยะโฮวาถ้าเราอยากได้ชีวิตตลอดไป—ยอห์น 17:3, 6, 26
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-2-E น. 111
โยเซฟ
ชื่อของโยเซฟสำคัญมาก โยเซฟเป็นคนสำคัญมากในพวกลูกชายของยาโคบ จึงเหมาะมากที่บางครั้งคัมภีร์ไบเบิลจะใช้ชื่อเขาเมื่อเรียกชาวอิสราเอลทุกตระกูล (สด 80:1) หรือเมื่อพูดถึงสิบตระกูลทางเหนือ (สด 78:67; อมส 5:6, 15; 6:6) มีการใช้ชื่อของโยเซฟในคำพยากรณ์ในคัมภีร์ไบเบิลด้วย เช่น ในนิมิตที่เอเสเคียลเห็น โยเซฟได้รับมรดกสองเท่า (อสค 47:13) และในเมืองที่ชื่อว่า “พระยะโฮวาอยู่ที่นั่น” ก็มีประตูหนึ่งที่ถูกเรียกว่าประตูโยเซฟ (อสค 48:32, 35) และเมื่อพูดถึงการรวบรวมประชาชนของพระยะโฮวาให้เป็นหนึ่งเดียว ก็มีการพูดถึงโยเซฟว่าเป็นหัวหน้าของของชาวอิสราเอลส่วนหนึ่งและพูดถึงยูดาห์ว่าเป็นหัวหน้าของอีกส่วนหนึ่ง (อสค 37:15-26) นอกจากนั้น โอบาดีห์พยากรณ์ไว้ว่า “พวกโยเซฟ” จะมีส่วนร่วมในการทำลาย “พวกเอซาว” (อบด 18) และเศคาริยาห์ก็พยากรณ์ด้วยว่าพระยะโฮวาจะช่วย “พวกโยเซฟ” ให้รอดชีวิต (ศคย 10:6) ที่วิวรณ์ 7:8 เรียกหนึ่งในตระกูลของอิสราเอลของพระเจ้าว่าตระกูลโยเซฟแทนที่จะเรียกว่าตระกูลเอฟราอิม
วันที่ 9-15 กันยายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สดุดี 82-84
เห็นค่าสิทธิพิเศษที่คุณมี
หส16.6 น. 8 ว. 2-3
เรียนรู้จากนกในท้องฟ้า
ชาวกรุงเยรูซาเล็มรู้จักนกนางแอ่นดี นกชนิดนี้ชอบทำรังใต้ชายคาบ้าน บางตัวทำรังที่วิหารของโซโลมอน นกนางแอ่นทำรังบริเวณวิหารทุกปีเพราะเป็นที่ที่ปลอดภัยซึ่งมันจะสามารถเลี้ยงลูกได้โดยไม่ถูกรบกวน
ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นลูกหลานของโคราห์ซึ่งแต่งเพลงสดุดีบท 84 ได้รับใช้ที่วิหาร 1 สัปดาห์ในทุก ๆ 6 เดือน เขาสังเกตเห็นรังนกนางแอ่นบริเวณวิหาร เขาอยากเป็นเหมือนนกนางแอ่นที่ได้อยู่ในบ้านของพระยะโฮวาตลอดเวลา เขาร้องเพลงว่า “พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ ผมรักเต็นท์ศักดิ์สิทธิ์ที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์มากเหลือเกิน ผมคิดถึงลานวิหารของพระยะโฮวาจริง ๆ ผมโหยหาที่นั่นจนหมดแรง . . . แม้แต่นกก็ยังอยู่ที่นั่น นกนางแอ่นทำรังและดูแลลูกของมันที่นั่น ใกล้กับแท่นบูชาที่สง่างามของพระองค์ พระยะโฮวาผู้เป็นจอมทัพ ผู้เป็นกษัตริย์และเป็นพระเจ้าของผม” (สดุดี 84:1-3) พวกเราและลูก ๆ อยากเป็นเหมือนผู้แต่งเพลงสดุดีคนนี้ที่เห็นค่าการอยู่กับประชาชนของพระเจ้าในประชาคมเป็นประจำไหม?—สดุดี 26:8, 12
ห08 15/7 น. 30 ว. 3-4
จงคาดหมายอย่างสมเหตุผลและชื่นชมยินดี
อายุที่มากขึ้นหรือสุขภาพที่เสื่อมทรุดอาจทำให้เรารับใช้พระยะโฮวาได้ไม่มาก. ถ้าคุณเป็นบิดามารดา คุณอาจรู้สึกว่าคุณได้ประโยชน์น้อยมากจากการศึกษาส่วนตัวหรือการประชุมคริสเตียน เนื่องจากเวลาและพลังส่วนใหญ่ของคุณถูกใช้ไปกับลูกน้อย. อย่างไรก็ตาม อาจเป็นได้ไหมว่าบางครั้งการมัวแต่เพ่งเล็งที่ข้อจำกัดทำให้คุณมองไม่เห็นสิ่งต่าง ๆ ที่คุณยังคงทำได้?
เมื่อหลายพันปีที่แล้ว มีชาวเลวีคนหนึ่งแสดงความปรารถนาในเรื่องที่เขาไม่มีทางทำได้. เขาได้รับสิทธิพิเศษรับใช้ที่พระวิหารเป็นเวลาสองสัปดาห์ในทุก ๆ ปี. แต่เขาแสดงความปรารถนาที่น่ายกย่องว่าอยากจะอยู่ใกล้ ๆ แท่นบูชาเป็นการถาวร. (เพลง. 84:1-3) อะไรช่วยให้ชายผู้ซื่อสัตย์คนนี้อิ่มใจพอใจ? เขาตระหนักว่าเพียงแค่วันเดียวที่ลานพระวิหารก็นับเป็นสิทธิพิเศษอย่างยิ่งอยู่แล้ว. (เพลง. 84:4, 5, 10) คล้ายกัน แทนที่จะหมกมุ่นครุ่นคิดถึงแต่ข้อจำกัดของเรา เราควรพยายามมองให้ออกว่าอะไรที่เราทำได้และหยั่งรู้ค่าสิ่งเหล่านั้น
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-1-E น. 816
ลูกกำพร้าพ่อ
เป็นเรื่องง่ายมากที่จะไม่สนใจลูกกำพร้าพ่อซึ่งปกป้องตัวเองไม่ได้ พระยะโฮวาเลยใช้คำว่า “ลูกกำพร้าพ่อ” เพื่อบอกว่า ชาวอิสราเอลกำลังทำตามมาตรฐานของพระองค์มากแค่ไหน ถ้าชาวอิสราเอลมีความเชื่อเข้มแข็งและมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับพระยะโฮวา ลูกกำพร้าพ่อก็จะได้รับการดูแลอย่างดี แต่เมื่อไหร่ที่พวกเขาไม่สนใจเรื่องความยุติธรรม ลูกกำพร้าพ่อก็จะถูกละเลย และนี่เป็นสัญญาณที่บอกให้รู้ว่าสภาพของชาตินี้กำลังตกต่ำ (สด 82:3; 94:6; อสย 1:17, 23; ยรม 7:5-7; 22:3; อสค 22:7; ศคย 7:9-11; มลค 3:5) พระยะโฮวาจะสาปแช่งคนที่เอาเปรียบลูกกำพร้า (ฉธบ 27:19; อสย 10:1, 2) นอกจากนั้น พระยะโฮวาบอกว่าพระองค์เป็นผู้ไถ่ (สภษ 23:10, 11) เป็นผู้ช่วยเหลือ (สด 10:14) และเป็นพ่อของลูกกำพร้า (สด 68:5) พระองค์จะให้ความเป็นธรรมกับพวกเขา (ฉธบ 10:17, 18) แสดงความเมตตากับพวกเขา (ฮชย 14:3) คอยดูแลพวกเขา (สด 146:9) และช่วยให้พวกเขารอดชีวิต—ยรม 49:11
สิ่งหนึ่งที่ช่วยให้รู้ว่าใครเป็นคริสเตียนแท้ก็คือ คนที่เป็นคริสเตียนแท้ต้องดูแลแม่ม่ายและลูกกำพร้า ยากอบเขียนถึงคริสเตียนว่า “การนมัสการแบบที่สะอาดและไม่แปดเปื้อนตามทัศนะของพระเจ้าผู้เป็นพ่อของเราคือ การดูแลลูกกำพร้ากับแม่ม่ายที่มีความทุกข์ยาก และรักษาตัวไม่ให้มีด่างพร้อยจากโลกนี้”—ยก 1:27
วันที่ 16-22 กันยายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สดุดี 85-87
การอธิษฐานช่วยให้เราอดทนได้
ห12 15/5 น. 25 ว. 10
คุณกำลังสะท้อนพระรัศมีของพระยะโฮวาไหม?
10 เพื่อจะสะท้อนพระรัศมีของพระเจ้า เราจำเป็นต้อง “หมั่นอธิษฐานอยู่เสมอ” ด้วย. (โรม 12:12) เราควรอธิษฐานขอให้พระยะโฮวาช่วยเรารับใช้พระองค์อย่างที่พระองค์ทรงยอมรับ. เพื่อจะทำเช่นนั้นได้ เราสามารถทูลขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ ขอให้มีความเชื่อมากขึ้น ขอให้มีความเข้มแข็งเพื่อจะต้านทานการล่อใจ และขอให้สามารถ “ใช้คำแห่งความจริงอย่างถูกต้อง.” (2 ติโม. 2:15; มัด. 6:13; ลูกา 11:13; 17:5) เช่นเดียวกับเด็กที่ต้องพึ่งพาพ่อ เราก็จำเป็นต้องพึ่งพระยะโฮวา พระบิดาของเราผู้อยู่ในสวรรค์. ถ้าเราขอให้พระองค์ช่วยเรารับใช้พระองค์อย่างเต็มที่ยิ่งขึ้น เราเชื่อมั่นได้เลยว่าพระองค์จะทรงทำเช่นนั้น. ขอเราอย่าคิดว่าการทำอย่างนั้นเป็นการรบกวนพระองค์! แทนที่จะคิดอย่างนั้น เมื่อเราอธิษฐานเราควรสรรเสริญพระองค์ ขอบคุณพระองค์ ขอการชี้นำจากพระองค์โดยเฉพาะเมื่อถูกทดลอง และขอพระองค์ทรงช่วยเราให้รับใช้อย่างที่จะเป็นการยกย่องสรรเสริญพระนามอันบริสุทธิ์ของพระองค์.—เพลง. 86:12; ยโก. 1:5-7
วันที่ 23-29 กันยายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สดุดี 88-89
การปกครองของพระยะโฮวาดีที่สุด
ห17.06 น. 28 ว. 5
สนับสนุนสิทธิการปกครองของพระยะโฮวา
5 อีกเหตุผลหนึ่งที่พระยะโฮวามีสิทธิ์ที่จะปกครองก็คือ พระองค์ใช้อำนาจด้วยความยุติธรรมอย่างสมบูรณ์แบบ พระเจ้าบอกว่า “เราคือยะโฮวา เป็นผู้แสดงความรักที่มั่นคง ความยุติธรรม และความถูกต้องชอบธรรมบนโลกเพราะเราพอใจอย่างนี้” (ยรม. 9:24) พระยะโฮวาไม่ต้องอาศัยกฎหมายของมนุษย์เพื่อช่วยให้พระองค์ตัดสินว่าอะไรถูกต้อง แทนที่จะเป็นอย่างนั้น พระองค์เองเป็นผู้ตั้งมาตรฐานว่าอะไรถูกอะไรผิด พระองค์ตั้งกฎหมายให้มนุษย์โดยอาศัยความยุติธรรมอย่างสมบูรณ์แบบ ผู้เขียนหนังสือสดุดีบอกไว้ว่า “ความถูกต้องชอบธรรมและความยุติธรรมเป็นฐานรากแห่งบัลลังก์ของพระองค์” ดังนั้น กฎหมายทุกข้อ หลักการทุกอย่าง และการตัดสินใจอะไรก็ตามที่มาจากพระยะโฮวานั้นถูกต้องเสมอ (สด. 89:14; 119:128) ซาตานอ้างว่าพระยะโฮวาเป็นผู้ปกครองที่ไม่ยุติธรรม แต่มันก็ไม่สามารถทำให้ทั้งโลกมีแต่ความยุติธรรมได้
ห17.06 น. 29 ว. 10-11
สนับสนุนสิทธิการปกครองของพระยะโฮวา
10 พระยะโฮวาไม่ได้ปกครองแบบโหดร้ายหรือเข้มงวดเกินไป คนที่เชื่อฟังพระองค์จึงไม่รู้สึกว่าถูกบังคับ แต่รู้สึกมีอิสระและมีความสุข (2 คร. 3:17) ดาวิดพูดเกี่ยวกับพระยะโฮวาว่า “ที่ที่พระองค์อยู่ยิ่งใหญ่และสง่างาม ในที่อาศัยของพระองค์มีพลังอำนาจและความยินดี” (1 พศ. 16:7, 27) ผู้เขียนหนังสือสดุดีที่ชื่อเอธานเขียนว่า “ชนชาติที่โห่ร้องยินดีก็มีความสุข พระยะโฮวา พวกเขาเดินอยู่ในแสงสว่างจากพระองค์ พวกเขายินดีตลอดวันเพราะชื่อของพระองค์ พวกเขาได้รับการยกย่องเพราะความยุติธรรมของพระองค์”—สด. 89:15, 16
11 ยิ่งเราได้คิดใคร่ครวญเกี่ยวกับความดีของพระยะโฮวา เราก็ยิ่งเชื่อมั่นมากขึ้นว่าพระองค์เป็นผู้ปกครองที่ดีที่สุด เรารู้สึกเหมือนผู้เขียนหนังสือสดุดีที่พูดกับพระองค์ว่า “อยู่ในลานวิหารของพระองค์วันเดียวก็ดีกว่าอยู่ที่อื่นพันวัน” (สด. 84:10) พระยะโฮวาออกแบบและสร้างเรา พระองค์รู้ดีที่สุดว่าอะไรทำให้เรามีความสุขจริง ๆ พระองค์เป็นพระเจ้าที่ใจกว้าง พระองค์ให้มากกว่าที่เราต้องการ ทุกสิ่งที่พระยะโฮวาขอให้เราทำมีแต่ดีและเป็นประโยชน์กับเราทั้งนั้น ถึงแม้ว่าเราต้องเสียสละบางอย่าง แต่เราจะมีความสุขเสมอถ้าเราเชื่อฟังพระองค์—อ่านอิสยาห์ 48:17
ห14 15/10 น. 10 ว. 14
มีความเชื่อที่มั่นคงในเรื่องราชอาณาจักร
14 พระยะโฮวาทำสัญญากับดาวิดกษัตริย์อิสราเอลโบราณ สัญญานี้เรียกว่า สัญญาที่ทำกับดาวิด (อ่าน 2 ซามูเอล 7:12, 16) พระยะโฮวาสัญญาว่าพระมาซีฮาจะมาจากเชื้อสายของดาวิด (ลูกา 1:30-33) พระยะโฮวาทำสัญญานี้เพื่อบอกรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเชื้อสายของพระมาซีฮา พระยะโฮวาบอกว่าจะมี “ผู้มีสิทธิโดยชอบธรรม” มาเกิดในตระกูลของดาวิด และเขาจะเป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรมาซีฮา (ยเอศ. 21:25-27, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) การปกครองของดาวิดจะไม่มีวันสิ้นสุด เพราะพระเยซูซึ่งเป็นลูกหลานของดาวิด “จะดำรงอยู่เป็นนิตย์ และพระที่นั่งของท่านจะดำรงอยู่ตรงหน้าเราเหมือนดวงอาทิตย์” (เพลง. 89:34-37) เรามั่นใจได้ว่าการปกครองของพระมาซีฮาจะไม่มีวันล่มสลาย แต่จะนำผลประโยชน์มากมายมาสู่ทุกคนที่อยู่ภายใต้การปกครองของท่านตลอดไป!
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
ขก น. 280-281 ว. 4-5
“พระองค์ผู้เดียวภักดี”
4 “ความภักดี” ตามที่ใช้ในพระคัมภีร์ภาคภาษาฮีบรู เป็นความซื่อสัตย์ที่คนหนึ่งแสดงออกกับคนที่เขารัก เขาจะคอยช่วยเหลือและสนับสนุนคนนั้นเสมอ เขาทำอย่างนั้นไม่ใช่เพราะรู้สึกว่าต้องทำ แต่ทำเพราะรักจริง ๆ ดังนั้น ความภักดีเป็นมากกว่าความซื่อสัตย์ นอกจากนั้น คำว่า “ซื่อสัตย์” อาจนำมาใช้ได้กับสิ่งที่ไม่มีชีวิตด้วย ตัวอย่างเช่น ผู้เขียนหนังสือสดุดีเรียกดวงจันทร์ว่า “พยานที่ซื่อสัตย์ในท้องฟ้า” เพราะดวงจันทร์มีอยู่ให้เห็นทุกคืน (สดุดี 89:37) แต่ไม่เคยมีการพูดถึงดวงจันทร์ว่าภักดี เพราะอะไร? เพราะความภักดีเป็นการแสดงออกถึงความรัก ซึ่งสิ่งที่ไม่มีชีวิตไม่สามารถแสดงความรักได้
5 เหมือนที่บอกในคัมภีร์ไบเบิล ความภักดียังรวมถึงความรักอย่างจริงใจ เมื่อคนหนึ่งภักดีกับอีกคนหนึ่ง นั่นก็แสดงว่าเขาเป็นห่วงคนนั้นจริง ๆ ความภักดีหรือความรักที่มั่นคงแบบนั้นจะไม่เปลี่ยนแปลง ถึงจะเจอกับปัญหามากมายหลายอย่าง แต่ความภักดีก็จะคงอยู่ตลอดไป
วันที่ 30 กันยายน–6 ตุลาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สดุดี 90-91
เพื่อเราจะมีชีวิตที่ยืนยาว เราต้องไว้วางใจพระยะโฮวา
หส19.3 น. 5 ว. 3-5
ค้นหาวิธีที่จะมีชีวิตยืนยาว
นักวิทยาศาสตร์หลายคนบอกว่า แม้จะมีวิธีต่าง ๆ ที่ช่วยชะลอวัย แต่มนุษย์ก็ไม่สามารถมีอายุยืนยาวได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ก็จริงที่ในช่วง 200 ปีที่ผ่านมา มนุษย์มีอายุขัยเพิ่มขึ้น แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะคนเรามีสุขอนามัยที่ดีขึ้น รู้วิธีจัดการกับโรคติดเชื้อต่าง ๆ และมีการใช้ยาปฏิชีวนะและวัคซีน นักพันธุศาสตร์บางคนเชื่อว่าอายุของคนเราในทุกวันนี้ยืนยาวกว่าอายุขัยปกติของมนุษย์แล้ว
ประมาณ 3,500 ปีก่อน โมเสสผู้เขียนคัมภีร์ไบเบิลคนหนึ่งยอมรับว่า “ช่วงชีวิตของพวกเรามีแค่ 70 ปี ถ้าแข็งแรงมากก็อยู่ได้ถึง 80 ปี แต่ชีวิตก็เต็มไปด้วยความลำบากและความทุกข์ ชีวิตผ่านไปเร็วมาก แล้วพวกเราก็จากไป” (สดุดี 90:10) แม้มนุษย์พยายามหาวิธียืดอายุ แต่พวกเขาก็ยังมีอายุพอ ๆ กับที่โมเสสบอกไว้
เมื่อเปรียบเทียบกับชีวิตที่แสนสั้นของมนุษย์ เราเห็นว่าสิ่งมีชีวิตบางชนิดอายุยืนมาก เช่น หอยเม่นหรือหอยกาบเปลือกหนาชนิดหนึ่งสามารถมีอายุมากกว่า 200 ปี และต้นไม้บางชนิด เช่น ต้นสนยักษ์ซีคัวยาที่มีอายุหลายพันปี นี่คงทำให้เราสงสัยว่า ‘มนุษย์ควรจะมีอายุแค่ 70 หรือ 80 ปีเท่านั้นจริง ๆ หรือ?’
หส19.1 น. 5, กรอบ
พระเจ้าชื่ออะไร?
นี่เป็นคำถามที่หลายคนสงสัย บางทีคุณก็อาจสงสัยเรื่องนี้ด้วย เราอาจถามทำนองว่า ถ้าเอกภพหรือจักรวาลและทุกสิ่งที่อยู่ในนั้นมีจุดเริ่มต้นหรือมีผู้สร้าง แล้วใครสร้างพระเจ้า?
โดยทั่วไป นักวิทยาศาสตร์ยอมรับว่าเอกภพมีจุดเริ่มต้น ข้อแรกในคัมภีร์ไบเบิลสอดคล้องกับแนวคิดนี้ ข้อนั้นบอกว่า “ใน ตอน เริ่มต้น พระเจ้าสร้างฟ้าและโลก”—ปฐมกาล 1:1
เอกภพเกิดขึ้นเองไม่ได้ มันไม่สามารถเกิดจากความว่างเปล่า ดังนั้น ถ้าไม่มีผู้สร้างในตอนเริ่มต้น แล้วเอกภพจะเกิดขึ้นได้อย่างไร? แต่เพราะมีพระยะโฮวาพระเจ้าเป็นผู้สร้าง พระองค์เป็นผู้ที่เรามองไม่เห็นซึ่งมีพลังอำนาจไม่จำกัดและมีสติปัญญา พระองค์ได้สร้างทุกสิ่งในตอนเริ่มต้น—ยอห์น 4:24
คัมภีร์ไบเบิลบอกเกี่ยวกับพระเจ้าว่า “ก่อนภูเขาจะเกิด ก่อนพระองค์จะสร้างโลกและแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์ พระองค์เป็นพระเจ้าตั้งแต่อดีตจน ถึงตลอดกาล” (สดุดี 90:2) ดังนั้น พระเจ้ามีชีวิตอยู่เสมอมา และ “ในตอนเริ่มต้น” พระองค์เป็นผู้สร้างเอกภพ—วิวรณ์ 4:11
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
หส17.5 น. 5
คุณมีทูตสวรรค์ประจำตัวไหม?
คัมภีร์ไบเบิลไม่ได้สอนว่ามีทูตสวรรค์ที่คอยปกป้องคุ้มครองแต่ละคนเป็นส่วนตัว ก็จริงที่พระเยซูเคยบอกว่า “ระวังให้ดี อย่าดูถูกเหยียดหยามคนที่ต่ำต้อย [สาวกของพระคริสต์] เพราะผมจะบอกให้รู้ว่า ทูตสวรรค์ที่ดูแลพวกเขาก็อยู่ต่อหน้าพ่อของผมในสวรรค์ตลอดเวลา” (มัทธิว 18:10) แทนที่พระเยซูจะหมายความว่าแต่ละคนมีทูตสวรรค์ประจำตัวคอยปกป้อง ท่านหมายความว่าทูตสวรรค์กระตือรือร้นที่จะทำเพื่อประโยชน์ของสาวกของท่าน ดังนั้น ผู้นมัสการแท้จะไม่ทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายเพราะคิดว่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าจะคอยปกป้องคุ้มครอง
นั่นหมายความว่าทูตสวรรค์ของพระเจ้าไม่ช่วยมนุษย์เลยไหม? ไม่ใช่ (สดุดี 91:11) บางคนรู้สึกมั่นใจว่าพระเจ้าใช้ทูตสวรรค์ให้ปกป้องและชี้นำ เคนเนทที่เราพูดถึงในบทความแรกก็เป็นคนหนึ่งที่มั่นใจแบบนั้น ซึ่งอาจเป็นอย่างที่เขาคิดก็ได้ มีหลายครั้งที่พยานพระยะโฮวามั่นใจว่าทูตสวรรค์ช่วยเหลือพวกเขาในงานประกาศข่าวดีของพระเจ้า อย่างไรก็ตาม เรามองไม่เห็นทูตสวรรค์ เราจึงไม่สามารถรู้ได้ว่าพระเจ้าใช้ทูตสวรรค์ให้ช่วยแต่ละคนมากน้อยแค่ไหน แต่ก็คงไม่ผิดถ้าเราจะขอบคุณพระเจ้าองค์สูงสุดสำหรับการช่วยเหลืออะไรก็ตามที่เราได้รับ—โคโลสี 3:15; ยากอบ 1:17, 18
วันที่ 7-13 ตุลาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สดุดี 92-95
การใช้ชีวิตเพื่อรับใช้พระยะโฮวาเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
ห18.04 น. 26 ว. 5
เด็กและวัยรุ่น คุณมองที่เป้าหมายของคริสเตียนเสมอไหม?
5 เหตุผลสำคัญที่สุดที่ควรตั้งเป้าหมายของคริสเตียนก็คือ เพื่อขอบคุณที่พระยะโฮวารักและทำสิ่งต่าง ๆ มากมายหลายอย่างเพื่อเรา ผู้เขียนหนังสือสดุดีคนหนึ่งบอกว่า “พระยะโฮวาพระเจ้าองค์สูงสุด เป็นเรื่องดีที่จะขอบคุณพระองค์ . . . พระยะโฮวา พระองค์ทำให้ผมยินดีเพราะสิ่งที่พระองค์ทำ ผมโห่ร้องดีใจเพราะการงานของพระองค์” (สดุดี 92:1, 4) ลองนึกดูว่าคุณเป็นหนี้พระยะโฮวาขนาดไหน พระองค์ให้ชีวิตคุณ ให้คุณได้รู้จักพระองค์และเจอความจริง ให้คัมภีร์ไบเบิลกับคุณ ให้พี่น้องในประชาคม แถมยังให้ความหวังที่ยอดเยี่ยมเรื่องการมีชีวิตตลอดไปในโลกที่เป็นสวนอุทยาน ถ้าคุณตั้งเป้าหมายของคริสเตียน คุณก็ทำให้พระยะโฮวาเห็นว่าคุณเห็นค่าสิ่งต่าง ๆ นี้ซึ่งจะทำให้คุณสนิทกับพระองค์มากขึ้น
ห18.11 น. 20 ว. 8
ใครมีอิทธิพลต่อความคิดคุณ?
8 พระยะโฮวาเป็นเหมือนพ่อแม่ที่อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดีและมีความสุขมากที่สุด (อิสยาห์ 48:17, 18) พระองค์เลยสอนหลักการพื้นฐานเกี่ยวกับศีลธรรมที่ดีและสอนเราว่าควรทำกับคนอื่นอย่างไร พระองค์อยากให้เรามองแบบที่พระองค์มองและใช้ชีวิตตามมาตรฐานของพระองค์ นี่ไม่ได้จำกัดเสรีภาพเรามากเกินไป แต่มันช่วยให้เราฉลาดขึ้นและตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ ได้ดีขึ้น (สดุดี 92:5; สุภาษิต 2:1-5; อิสยาห์ 55:9) เรายังเลือกสิ่งที่ชอบได้แถมยังตัดสินใจในแบบที่จะทำให้เรามีความสุข (สดุดี 1:2, 3) เมื่อเราคิดเหมือนพระยะโฮวา เราจะได้ประโยชน์มากจริง ๆ
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
ขก น. 176 ว. 18
‘สติปัญญาของพระองค์ก็ลึกซึ้งอะไรอย่างนี้’
18 ขอสังเกตว่าอัครสาวกเปาโลพูดถึงสติปัญญาของพระยะโฮวาที่ไม่มีใครเทียบได้ว่ายังไง เขาบอกว่า “พรจากพระเจ้ามากมายจริง ๆ สติปัญญาและความรู้ของพระองค์ก็ลึกซึ้งอะไรอย่างนี้ ใครจะรู้ได้ว่าพระองค์จะตัดสินใจอย่างไร และใครจะคาดเดาได้ว่าพระองค์จะทำอะไรต่อไป” (โรม 11:33) เปาโลรู้สึกประทับใจมาก ในภาษาเดิมเขาเลือกใช้คำว่า “ลึกซึ้ง” ที่เกี่ยวข้องกับคำที่แปลว่า “ขุมลึก” คำนี้ช่วยให้เห็นภาพชัดเจนและหมายถึงที่ที่ลึกมาก ๆ และไร้ขอบเขต แม้เราจะพยายามมากแค่ไหนเพื่อเข้าใจสติปัญญาของพระยะโฮวาเราก็จะไม่สามารถเข้าใจได้อย่างเต็มที่ และเราจะไม่มีวันรู้ทุกอย่างเหมือนกับพระองค์ (สดุดี 92:5) นี่ทำให้เห็นว่าเราแทบไม่รู้อะไรเลย
วันที่ 14-20 ตุลาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สดุดี 96-99
“ประกาศข่าวดี”
ห11 1/3 น. 6 ว. 1-2
ข่าวดีคืออะไร?
คริสเตียนต้องประกาศ “ข่าวดีเรื่องราชอาณาจักร” โดยบอกคนอื่นให้รู้ว่าราชอาณาจักรคือรัฐบาลที่จะมีมาในอนาคตซึ่งจะปกครองทั่วแผ่นดินโลกด้วยความชอบธรรม. แต่ในคัมภีร์ไบเบิลมีการใช้คำว่า “ข่าวดี” ในแง่อื่น ๆ ด้วย. ตัวอย่างเช่น พระคัมภีร์พูดถึง “ข่าวดีเรื่องความรอด” (บทเพลงสรรเสริญ 96:2, ล.ม.), “ข่าวดีของพระเจ้า” (โรม 15:16), และ “ข่าวดีเกี่ยวกับพระเยซูคริสต์.”—มาระโก 1:1
พูดง่าย ๆ ข่าวดีก็คือความจริงทั้งหมดที่พระเยซูตรัสและที่สาวกของพระองค์ได้เขียนไว้. ก่อนพระเยซูเสด็จสู่สวรรค์ พระองค์บอกเหล่าสาวกว่า “ฉะนั้น จงไปสอนคนจากทุกชาติให้เป็นสาวก ให้พวกเขารับบัพติสมาในนามของพระบิดาและพระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ สอนพวกเขาให้ปฏิบัติตามทุกสิ่งที่เราสั่งพวกเจ้าไว้.” (มัดธาย 28:19, 20) ดังนั้น งานของคริสเตียนแท้ไม่ใช่แค่การประกาศเรื่องราชอาณาจักร แต่พวกเขาต้องพยายามสอนคนให้เป็นสาวกด้วย
ห12 1/9 น. 16 ว. 1
จะเกิดอะไรขึ้นในวันพิพากษา?
ดังที่เห็นในภาพด้านขวา หลายคนคิดว่าในวันพิพากษาผู้คนหลายพันล้านคนจะถูกนำตัวมาอยู่ต่อหน้าบัลลังก์ของพระเจ้าเพื่อรับการพิพากษาตามการกระทำของพวกเขาในอดีต. บางคนจะได้รับบำเหน็จชีวิตในสวรรค์ ส่วนคนอื่น ๆ จะถูกทรมานในนรก. แต่คัมภีร์ไบเบิลบอกให้รู้ว่าวันพิพากษาเป็นการช่วยมนุษย์ให้รอดจากความอยุติธรรม. (บทเพลงสรรเสริญ 96:13) พระเจ้าได้แต่งตั้งพระเยซูเป็นผู้พิพากษาเพื่อทำให้สังคมมนุษย์มีความยุติธรรมอีกครั้งหนึ่ง.—อ่านยะซายา 11:1-5; กิจการ 17:31
ห12 15/9 น. 12 ว. 18-19
สันติสุขตลอดหนึ่งพันปี—และตลอดไป!
18 สายสัมพันธ์ที่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันดังกล่าวขาดตอนไปช่วงหนึ่งเมื่อมนุษย์ถูกซาตานชักนำให้ขืนอำนาจการปกครองของพระยะโฮวา. อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ปี 1914 เป็นต้นมา ราชอาณาจักรมาซีฮาได้ดำเนินการเป็นขั้น ๆ เพื่อฟื้นฟูเอกภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน. (เอเฟ. 1:9, 10) ในช่วงรัชสมัยพันปี สิ่งต่าง ๆ ที่น่าพิศวงซึ่งยัง “มองไม่เห็น” ในเวลานี้จะเป็นจริง. เมื่อสิ้นสุดรัชสมัยพันปีของพระคริสต์จะเกิดอะไรขึ้น? แม้ว่าพระคริสต์ได้รับมอบ “อำนาจทั้งสิ้นในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก” แต่พระองค์ไม่ทรงทะเยอทะยาน. พระองค์ไม่เคยคิดจะแย่งชิงตำแหน่งของพระยะโฮวา. พระองค์ทรงถ่อมพระทัย “มอบราชอาณาจักรแด่พระเจ้า ผู้เป็นพระเจ้าและพระบิดาของพระองค์.” พระองค์จะทรงใช้ตำแหน่งและอำนาจพิเศษของพระองค์ “เพื่อยกย่องพระเจ้า.”—มัด. 28:18; ฟิลิป. 2:9-11
19 เมื่อถึงตอนนั้น ราษฎรของราชอาณาจักรที่อยู่บนแผ่นดินโลกจะบรรลุความสมบูรณ์. พวกเขาจะทำตามแบบอย่างของพระเยซูและยอมรับอำนาจการปกครองของพระยะโฮวาอย่างถ่อมใจและเต็มใจ. พวกเขาจะมีโอกาสแสดงให้เห็นว่าพวกเขาปรารถนาจะทำอย่างนั้นด้วยการพยายามผ่านการทดสอบครั้งสุดท้ายให้ได้. (วิ. 20:7-10) หลังจากนั้น ผู้ขืนอำนาจทั้งหมด ทั้งมนุษย์และกายวิญญาณ จะถูกทำลายตลอดกาล. นั่นจะเป็นช่วงเวลาแห่งความปีติยินดีอย่างแท้จริง! สมาชิกทั้งหมดในครอบครัวของพระยะโฮวา ทั้งในสวรรค์และบนแผ่นดินโลก จะสรรเสริญพระองค์. และพระยะโฮวาจะทรงเป็น “ทุกสิ่งแก่ทุกคน.”—อ่าน บทเพลงสรรเสริญ 99:1-3
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
it-2-E น. 994
เพลง
หนังสือสดุดีไม่ใช่ที่เดียวที่มีคำว่า “เพลงใหม่” แต่หนังสืออิสยาห์และยอห์นก็พูดถึงคำนี้ด้วย (สด 33:3; 40:3; 96:1; 98:1; 144:9; 149:1; อสย 42:10; วว 5:9; 14:3) ถ้าดูจากข้อคัมภีร์ทั้งหมดที่มีการพูดถึง “เพลงใหม่” ท้องเรื่องของข้อคัมภีร์ส่วนใหญ่ทำให้เรารู้ว่า มีการร้องเพลงนี้เพราะเกิดเหตุการณ์ใหม่ที่สำคัญมากซึ่งเกี่ยวข้องกับการที่พระยะโฮวาใช้อำนาจปกครองสูงสุดของพระองค์ ตัวอย่างเช่น สดุดี 96:10 บอกว่า “พระยะโฮวาเป็นกษัตริย์แล้ว” และดูเหมือนว่าเนื้อหาของ “เพลงใหม่” จะเกี่ยวกับเหตุการณ์สำคัญที่พระยะโฮวาใช้อำนาจปกครองสูงสุดซึ่งจะส่งผลกระทบต่อโลกและสวรรค์—สด 96:11-13; 98:9; อสย 42:10, 13
วันที่ 21-27 ตุลาคม
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สดุดี 100-102
แสดงว่าคุณเห็นค่าที่พระยะโฮวารักคุณอย่างมั่นคง
ห11 15/7 น. 16 ว. 7-8
คุณจะฟังคำเตือนที่ชัดเจนของพระยะโฮวาไหม?
7 การหลีกเลี่ยงผู้สอนเท็จเกี่ยวข้องกับอะไร? เราไม่ต้อนรับพวกเขาให้เข้ามาในบ้านของเราหรือทักทายพวกเขา. นอกจากนั้น เราไม่อ่านหนังสือของพวกเขา ไม่ดูรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวข้องกับพวกเขา ไม่ดูเว็บไซต์ของพวกเขา หรือไม่แสดงความคิดเห็นในบล็อกของพวกเขา. เหตุใดเราจึงยึดมั่นในจุดยืนเช่นนั้น? เพราะความรัก. เรารัก “พระเจ้าแห่งความสัตย์จริง” ดังนั้น เราจึงไม่สนใจคำสอนบิดเบือนที่ขัดแย้งกับพระคำแห่งความจริงของพระองค์. (เพลง. 31:5; โย. 17:17) นอกจากนั้น เรารักองค์การของพระยะโฮวาที่สอนให้เรารู้ความจริงที่น่าตื่นเต้น รวมถึงพระนามพระยะโฮวาและความหมายของพระนามนี้ พระประสงค์ของพระเจ้าสำหรับแผ่นดินโลก สภาพของคนตาย และความหวังเรื่องการกลับเป็นขึ้นจากตาย. คุณจำได้ไหมว่าคุณรู้สึกอย่างไรที่ได้เรียนรู้เรื่องเหล่านี้และความจริงอันล้ำค่าอื่น ๆ เป็นครั้งแรก? ถ้าอย่างนั้น ทำไมคุณจึงจะปล่อยให้คนที่ตำหนิองค์การที่สอนความจริงเหล่านั้นแก่คุณมาเปลี่ยนทัศนะที่คุณมีต่อองค์การล่ะ?—โย. 6:66-69
8 ไม่ว่าผู้สอนเท็จอาจพูดอย่างไร เราจะไม่ติดตามพวกเขา! ทำไมจึงจะไปหาบ่อที่ไม่มีน้ำเพียงเพื่อจะถูกหลอกและผิดหวังล่ะ? แทนที่จะทำอย่างนั้น ให้เราตั้งใจแน่วแน่ว่าจะภักดีต่อพระยะโฮวาและองค์การที่มีประวัติยาวนานในการดับความกระหายของเราด้วยน้ำแห่งความจริงอันบริสุทธิ์และให้ความสดชื่นซึ่งมาจากพระคำที่มีขึ้นโดยการดลใจจากพระเจ้า.—ยซา. 55:1-3; มัด. 24:45-47
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
ห14 15/03 น. 16 ว. 20
เราจะคิดบวกอยู่เสมอได้อย่างไร?
ถึงแม้ว่าจะทุกข์ใจแต่ผู้เขียนเพลงสรรเสริญก็ยังสรรเสริญพระยะโฮวาต่อไปได้ (อ่านบทเพลงสรรเสริญ 102:19-21) ในเพลงสรรเสริญบท 102 แสดงให้เห็นว่าแม้แต่คนที่ความเชื่อเข้มแข็งก็อาจทุกข์ใจและคิดถึงแต่ปัญหาของตัวเอง ผู้เขียนเพลงสรรเสริญรู้สึกโดดเดี่ยวเหมือน “นกเดียวดายบนหลังคา” เพราะดูเหมือนว่าเขากำลังต่อสู้กับปัญหาเพียงลำพัง (เพลง. 102:7, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) ถ้าคุณเคยรู้สึกอย่างนี้ ขอให้ระบายความในใจกับพระยะโฮวาเหมือนผู้เขียนเพลงสรรเสริญ เพราะการอธิษฐานจะช่วยคุณต่อสู้กับความคิดในแง่ลบ พระยะโฮวาสัญญาว่า “พระองค์จะทรงตอบคำอธิษฐานของคนสิ้นไร้ไม้ตอก พระองค์จะไม่ทรงดูแคลนคำทูลวิงวอนของพวกเขาเลย” (เพลง. 102:17, ฉบับอมตธรรมร่วมสมัย) และคำสัญญาของพระองค์เชื่อถือได้
วันที่ 28 ตุลาคม–3 พฤศจิกายน
ความรู้ที่มีค่าจากคัมภีร์ไบเบิล สดุดี 103-104
ค้นหาความรู้ที่มีค่าของพระเจ้า
ขก น. 55 ว. 18
อำนาจในการสร้างของ “ผู้สร้างฟ้าและโลก”
18 เราเรียนรู้อะไรจากวิธีที่พระยะโฮวาใช้อำนาจในการสร้าง? เรารู้สึกประทับใจเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตมากมายที่พระยะโฮวาสร้าง ผู้เขียนสดุดีคนหนึ่งบอกว่า “พระยะโฮวา ผลงานของพระองค์มีมากมายจริง ๆ. . . โลกเต็มไปด้วยสิ่งที่พระองค์สร้างไว้” (สดุดี 104:24) นี่เป็นความจริง นักชีววิทยาพบว่าบนโลกของเรามีสิ่งมีชีวิตมากกว่าหนึ่งล้านชนิด แต่บางคนก็คิดว่าอาจมีมากกว่านั้นอีกหลายล้านชนิด บางครั้งจิตรกรคนหนึ่งอาจไม่มีความคิดสร้างสรรค์ที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ แต่เห็นได้ชัดว่าพลังในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ของพระยะโฮวานั้นไม่มีวันหมดไป