บทความศึกษา 22
เห็นค่าของขวัญที่มองไม่เห็นจากพระเจ้า
“มุ่งสนใจสิ่งที่มองไม่เห็น . . . เพราะสิ่งที่มองเห็นนั้นอยู่แค่ชั่วคราว แต่สิ่งที่มองไม่เห็นคงอยู่ตลอดไป”—2 คร. 4:18
เพลง 45 สิ่งที่ใจฉันคิดใคร่ครวญ
ใจความสำคัญ *
1. พระเยซูพูดอย่างไรเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติในสวรรค์?
ไม่ใช่ของขวัญและสิ่งมีค่าทุกอย่างจะมองเห็นได้ ที่จริงของขวัญและสิ่งมีค่าที่สุดเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น ในคำบรรยายบนภูเขา พระเยซูบอกว่าทรัพย์สมบัติในสวรรค์มีค่ามากกว่าทรัพย์สินเงินทอง ท่านยังบอกด้วยว่า “ทรัพย์สมบัติของคุณอยู่ที่ไหน ใจของคุณก็อยู่ที่นั่นด้วย” (มธ. 6:19-21) ถ้าเรามองว่าสิ่งไหนมีค่าเราก็จะพยายามคว้ามาให้ได้ เราสะสม “ทรัพย์สมบัติไว้ในสวรรค์” ได้โดยสร้างชื่อเสียงที่ดีกับพระเจ้า พระเยซูบอกว่าทรัพย์สมบัตินั้นจะไม่มีวันถูกทำลายและไม่มีใครมาขโมยได้
2. (ก) จาก 2 โครินธ์ 4:17, 18 เปาโลบอกให้เราสนใจอะไร? (ข) เราจะคุยอะไรกันในบทความนี้?
2 อัครสาวกเปาโลบอกเราให้ “มุ่งสนใจสิ่งที่มองไม่เห็น” (อ่าน 2 โครินธ์ 4:17, 18) สิ่งมีค่าที่มองไม่เห็นหมายถึงสิ่งดี ๆ ที่จะได้รับในโลกใหม่ของพระเจ้า แต่บทความนี้จะพูดถึงสิ่งมีค่าหรือของขวัญที่มองไม่เห็น 4 อย่างที่เรามีได้ในตอนนี้ด้วยคือ การเป็นเพื่อนกับพระเจ้า สิทธิพิเศษในการอธิษฐาน ความช่วยเหลือจากพลังบริสุทธิ์ และความช่วยเหลือที่มาจากพระยะโฮวา พระเยซู และทูตสวรรค์ และจะดูว่าเราจะแสดงว่าเห็นค่าของขวัญที่มองไม่เห็นเหล่านี้ได้อย่างไร
การเป็นเพื่อนกับพระยะโฮวา
3. ของขวัญที่มองไม่เห็นที่มีค่ามากที่สุดคืออะไร? และเป็นไปได้อย่างไรที่มนุษย์ได้รับของขวัญนี้?
3 ของขวัญที่มองไม่เห็นที่มีค่ามากที่สุดคือการได้เป็นเพื่อนกับพระยะโฮวาพระเจ้า (สด. 25:14) แต่พระเจ้าที่บริสุทธิ์จะเป็นเพื่อนกับมนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบได้อย่างไร? พระองค์เป็นเพื่อนกับเราได้เพราะค่าไถ่ของพระเยซู “รับบาปของโลกไป” (ยน. 1:29) พระยะโฮวารู้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าพระเยซูจะรักษาความซื่อสัตย์จนตายเพื่อช่วยให้มนุษย์รอด นี่เป็นเหตุผลที่พระองค์สามารถเป็นเพื่อนกับคนที่มีชีวิตก่อนที่พระเยซูจะตาย—รม. 3:25
4. ขอยกตัวอย่างของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ก่อนสมัยพระเยซูที่เป็นเพื่อนกับพระเจ้า
4 ขอเราดูตัวอย่างของผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ก่อนสมัยพระเยซูที่เป็นเพื่อนกับพระเจ้า อับราฮัมเป็นคนที่มีความเชื่อเข้มแข็งมาก พันกว่าปีหลังจากอับราฮัมตาย พระยะโฮวาเรียกเขาว่าเป็น “เพื่อนของเรา” (อสย. 41:8) ถ้าใครได้เป็นเพื่อนกับพระยะโฮวาแล้ว ถึงเขาจะตายพระองค์ก็ยังมองเขาว่าเป็นเพื่อนสนิทของพระองค์ อับราฮัมยังคงมีชีวิตอยู่ในความคิดของพระยะโฮวา (ลก. 20:37, 38) อีกตัวอย่างหนึ่งก็คือโยบ ตอนที่ทูตสวรรค์ทั้งหมดประชุมกันบนสวรรค์ พระยะโฮวาพูดถึงโยบด้วยความมั่นใจ พระองค์บอกว่าเขา “ทั้งดีทั้งซื่อสัตย์ เป็นคนเกรงกลัวพระเจ้าและไม่ทำชั่ว” (โยบ 1:6-8) แล้วพระยะโฮวารู้สึกอย่างไรกับดาเนียลซึ่งรับใช้เป็นเวลา 80 ปีในแผ่นดินที่ผู้คนไม่นมัสการพระเจ้า? ทูตสวรรค์รับรองกับเขาว่าเขา “เป็นคนที่พระเจ้าถือว่ามีค่ามาก” (ดนล. 9:23; 10:11, 19) เรามั่นใจได้ว่าพระยะโฮวาอยากจะปลุกคนที่พระองค์รักที่ตายไปจริง ๆ—โยบ 14:15
5. เราต้องทำอะไรเพื่อจะเป็นเพื่อนสนิทกับพระยะโฮวา?
5 ตอนนี้มีมนุษย์ไม่สมบูรณ์แบบกี่คนที่เป็นเพื่อนสนิทกับพระยะโฮวา? มีหลายล้านคน เรารู้เรื่องนี้ได้เพราะมีผู้ชายผู้หญิงและเด็กมากมายทั่วโลกที่แสดงให้เห็นโดยการใช้ชีวิตของพวกเขาว่าอยากเป็นเพื่อนกับพระองค์ พระยะโฮวาเป็น “เพื่อนสนิทกับคนซื่อตรง” (สภษ. 3:32) พวกเขาเป็นเพื่อนสนิทกับพระองค์ได้เพราะพวกเขามีความเชื่อในค่าไถ่ของพระเยซู และเพราะค่าไถ่นี้แหละเราเลยเป็นเพื่อนกับพระยะโฮวา อุทิศตัว และรับบัพติศมาได้ เมื่อทำขั้นตอนที่สำคัญนี้แล้ว เราก็ได้มาอยู่ร่วมกันกับคริสเตียนนับล้าน ๆ คนที่อุทิศตัวและรับบัพติศมาซึ่งเป็น “เพื่อนสนิท” กับผู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอกภพ
6. เราจะแสดงอย่างไรว่าเห็นค่าการเป็นเพื่อนกับพระยะโฮวา?
6 เราจะแสดงอย่างไรว่าเห็นค่าการเป็นเพื่อนกับพระยะโฮวา? เหมือนกันกับอับราฮัมและโยบที่ซื่อสัตย์มากกว่าร้อยปี เราต้องซื่อสัตย์ต่อไปไม่ว่าจะรับใช้พระยะโฮวามานานแค่ไหนแล้วก็ตาม นอกจากนั้น เหมือนกันกับดาเนียล เราต้องคิดว่าการเป็นเพื่อนกับพระเจ้ามีค่ามากกว่าชีวิตของเราเอง (ดนล. 6:7, 10, 16, 22) โดยการช่วยเหลือจากพระยะโฮวา เราจะอดทนกับการทดสอบและปัญหาได้ ซึ่งนั่นจะทำให้เราเป็นเพื่อนกับพระองค์ได้ตลอดไป—ฟป. 4:13
สิทธิพิเศษในการอธิษฐาน
7. (ก) จากสุภาษิต 15:8 พระยะโฮวารู้สึกอย่างไรกับคำอธิษฐานของเรา? (ข) พระยะโฮวาตอบคำอธิษฐานของเราอย่างไร?
7 ของขวัญที่มองไม่เห็นอีกอย่างก็คือการอธิษฐาน เราชอบเล่าความรู้สึกและความคิดให้เพื่อนสนิทฟัง การเป็นเพื่อนกับพระยะโฮวาเป็นแบบนั้นด้วยไหม? ใช่! พระยะโฮวาพูดกับเราและบอกความคิดความรู้สึกของพระองค์ให้เรารู้ผ่านทางคัมภีร์ไบเบิล เราพูดกับพระยะโฮวาโดยอธิษฐานและบอกความคิดความรู้สึกลึก ๆ ในใจของเรากับพระองค์ได้ พระยะโฮวาชอบฟังคำอธิษฐานของเรา (อ่านสุภาษิต 15:8) พระยะโฮวาเป็นเพื่อนที่รักเรา พระองค์ไม่ใช่แค่ฟังคำอธิษฐานเท่านั้นแต่พระองค์จะตอบเราด้วย บางครั้งคำตอบอาจจะมาอย่างรวดเร็ว บางครั้งเราอาจจะต้องอธิษฐานเกี่ยวกับเรื่องนั้นต่อ ๆ ไป แต่เราก็มั่นใจว่าคำตอบจะมาในเวลาที่เหมาะสมและในวิธีที่ดีที่สุด คำตอบจากพระยะโฮวาอาจจะไม่ตรงกับที่เราคิด เช่น แทนที่พระองค์จะทำให้ปัญหาของเราหมดไป พระองค์อาจให้สติปัญญาและกำลัง ‘เพื่อเราจะทนได้’—1 คร. 10:13
8. เราจะแสดงอย่างไรว่าเห็นค่าการอธิษฐาน?
8 เราจะแสดงอย่างไรว่าเห็นค่าสิทธิพิเศษในการอธิษฐาน? วิธีหนึ่งก็คือการเชื่อฟังคำแนะนำของพระยะโฮวาที่ให้ “อธิษฐานเป็นประจำ” (1 ธส. 5:17) พระยะโฮวาไม่ได้บังคับเราแต่ให้อิสระในการเลือก พระองค์อยากให้เรา “อธิษฐานบ่อย ๆ” (รม. 12:12) เราจะแสดงว่าเห็นค่าของขวัญนี้โดยการอธิษฐานวันละหลาย ๆ ครั้ง และเราไม่ควรลืมอธิษฐานขอบคุณและสรรเสริญพระองค์ด้วย—สด. 145:2, 3
9. พี่น้องชายคนหนึ่งรู้สึกอย่างไรกับการอธิษฐาน? และคุณรู้สึกอย่างไรกับการอธิษฐาน?
9 ยิ่งเรารับใช้พระยะโฮวามานานและเห็นวิธีที่พระองค์ตอบคำอธิษฐานของเรา เราน่าจะยิ่งเห็นค่าการอธิษฐานมากขึ้น คริสที่รับใช้เต็มเวลามา 47 ปีบอกว่า “ผมมีความสุขมากที่ได้ตื่นตั้งแต่เช้าตรู่เพื่ออธิษฐานถึงพระยะโฮวา มันช่างยอดเยี่ยมจริง ๆ ที่ได้อธิษฐานถึงพระองค์ในตอนที่แสงอาทิตย์ยามเช้าส่องลงมากระทบหยาดน้ำค้าง ทุกอย่างช่างดูสวยงามจริง ๆ นี่ทำให้ผมอยากขอบคุณพระยะโฮวาสำหรับทุกสิ่งที่พระองค์ให้เป็นของขวัญรวมถึงสิทธิพิเศษในการอธิษฐาน พอตกกลางคืนผมก็อธิษฐานและนั่นทำให้ผมมีความสุขมากที่ได้นอนอย่างสบายใจโดยที่ไม่มีอะไรรบกวนความรู้สึกผิดชอบชั่วดี”
ความช่วยเหลือจากพลังบริสุทธิ์
10. ทำไมเราควรเห็นค่าพลังบริสุทธิ์ของพระเจ้า?
10 พลังบริสุทธิ์ของพระเจ้าเป็นของขวัญอีกอย่างหนึ่งที่มองไม่เห็น พระเยซูบอกให้เราอธิษฐานขอพลังบริสุทธิ์อยู่เรื่อย ๆ (ลก. 11:9, 13) พระยะโฮวาใช้พลังบริสุทธิ์เพื่อช่วยเราให้มี “กำลังที่มากกว่าปกติ” (2 คร. 4:7; กจ. 1:8) ความช่วยเหลือจากพลังของพระเจ้าทำให้เราสามารถอดทนกับการทดสอบและปัญหาทุกอย่างได้
11. พลังบริสุทธิ์ช่วยเราอย่างไรบ้าง?
11 พลังบริสุทธิ์ช่วยเราเมื่อทำงานรับใช้พระเจ้า พลังบริสุทธิ์ช่วยเพิ่มทักษะความสามารถที่เรามีให้เก่งขึ้นได้ พลังบริสุทธิ์ช่วยเราให้ทำงานมอบหมายที่เราได้รับให้สำเร็จ เรารู้ว่าที่เราทำงานรับใช้ได้อย่างดีไม่ได้เป็นเพราะตัวเราเองแต่เพราะความช่วยเหลือจากพลังของพระเจ้า
12. จากสดุดี 139:23, 24 เราอธิษฐานขอพลังบริสุทธิ์ให้ช่วยเราในเรื่องอะไรได้?
12 อีกวิธีหนึ่งที่แสดงว่าเราเห็นค่าพลังบริสุทธิ์คืออธิษฐานขอให้เรารู้ว่าเรามีความคิดหรือความต้องการอะไรที่ไม่ดีในใจหรือไม่ (อ่านสดุดี 139:23, 24) ถ้าเราอธิษฐานขอแบบนี้ พระยะโฮวาก็จะใช้พลังบริสุทธิ์ช่วยเราให้รู้ว่าเรามีความคิดหรือความต้องการที่ไม่ดีอะไรไหม และเมื่อรู้ว่าเรามีความคิดหรือความต้องการที่ผิด ๆ อะไร เราก็ควรอธิษฐานขอพลังของพระเจ้าให้เรามีกำลังที่จะเอาชนะความคิดหรือความต้องการนั้น ถ้าเราทำอย่างนั้น เราก็แสดงให้พระยะโฮวาเห็นว่าเราไม่อยากทำอะไรก็ตามที่ทำให้พระองค์ไม่ให้พลังบริสุทธิ์กับเรา—อฟ. 4:30
13. เราจะเห็นค่าพลังบริสุทธิ์มากขึ้นได้อย่างไร?
13 เราจะยิ่งเห็นค่าพลังบริสุทธิ์มากขึ้นถ้าเราคิดใคร่ครวญว่าพลังบริสุทธิ์ทำอะไรให้สำเร็จบ้างในทุกวันนี้ ก่อนที่พระเยซูจะไปสวรรค์ ท่านบอกกับสาวกของท่านว่า “พวกคุณจะได้รับพลังจากพระเจ้า พลังบริสุทธิ์นั้นจะอยู่กับพวกคุณ และพวกคุณจะเป็นพยานของผม . . . จนถึงสุดขอบโลก” (กจ. 1:8) นี่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในปัจจุบัน ด้วยความช่วยเหลือจากพลังบริสุทธิ์ ในตอนนี้มีประมาณ 8,500,000 คนทั่วโลกที่กำลังนมัสการพระเจ้า นอกจากนั้น เรามีความสุขและได้อยู่ในสังคมพี่น้องที่เป็นหนึ่งเดียวกันเพราะพลังของพระเจ้าช่วยเราให้มีคุณลักษณะที่ยอดเยี่ยม เช่น ความรัก ความยินดี สันติสุข ความอดทนอดกลั้น ความกรุณา ความดี ความเชื่อ ความอ่อนโยน และการควบคุมตัวเอง คุณลักษณะเหล่านี้เป็นส่วนของ “ผลที่เกิดจากพลังของพระเจ้า” (กท. 5:22, 23) พลังบริสุทธิ์เป็นของขวัญที่มีค่ามากจริง ๆ
ความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา พระเยซู และทูตสวรรค์ในงานรับใช้
14. เราได้รับความช่วยเหลือที่มองไม่เห็นอย่างไรเมื่อเราทำงานรับใช้?
14 ของขวัญที่มองไม่เห็นอีกอย่างหนึ่งก็คือการได้เป็น “เพื่อนร่วมงาน” กับพระยะโฮวา พระเยซู และทูตสวรรค์ (2 คร. 6:1) เราได้ทำอย่างนั้นเมื่อเราทำงานสอนคนให้เป็นสาวก เปาโลพูดถึงเขาเองและคนที่ทำงานนี้ว่า “เราเป็นเพื่อนร่วมงานของพระเจ้า” (1 คร. 3:9) เราเป็นเพื่อนร่วมงานกับพระเยซูด้วยเมื่อเราทำงานรับใช้ของคริสเตียน ให้เราคิดถึงตอนที่พระเยซูสั่งคนที่ติดตามท่านให้ “ไปสอนคนทุกชาติให้เป็นสาวก” หลังจากนั้นท่านบอกว่า “ผมจะอยู่กับพวกคุณ” (มธ. 28:19, 20) แล้วเราเป็นเพื่อนร่วมงานกับทูตสวรรค์อย่างไร? เรารู้สึกขอบคุณจริง ๆ ที่มีทูตสวรรค์ชี้นำตอนที่เราประกาศ “ข่าวดีที่จะคงอยู่ตลอดไป . . . กับทุกคนบนโลก”—วว. 14:6
15. ขอยกตัวอย่างจากคัมภีร์ไบเบิลที่ทำให้เห็นว่าพระยะโฮวาเป็นส่วนสำคัญในงานรับใช้ของเรา
15 ความช่วยเหลือจากสวรรค์ช่วยเราให้ทำงานรับใช้สำเร็จอย่างไร? เมื่อเราหว่านเมล็ดที่เป็นข่าวสารเรื่องรัฐบาลของพระเจ้า อาจมีบางเมล็ดตกบนหัวใจที่ตอบรับความจริงและเติบโต (มธ. 13:18, 23) ใครทำให้เมล็ดเหล่านั้นเติบโตและเกิดดอกออกผล? พระเยซูบอกว่าไม่มีใครเข้ามาเป็นสาวกของท่านได้นอกจาก “พระเจ้าผู้เป็นพ่อ . . . ชักนำเขา” (ยน. 6:44) คัมภีร์ไบเบิลมีตัวอย่างในเรื่องนี้ ตอนที่เปาโลประกาศกับผู้หญิงกลุ่มหนึ่งนอกเมืองฟีลิปปี คัมภีร์ไบเบิลบอกให้เรารู้บางอย่างเกี่ยวกับผู้หญิงที่ชื่อลิเดียว่า “พระยะโฮวาเปิดใจเธอให้สนใจฟังเรื่องที่เปาโลพูด” (กจ. 16:13-15) เหมือนลิเดีย มีอีกหลายล้านคนที่พระยะโฮวาชักนำให้เข้ามาหาพระองค์
16. ใครควรได้รับการยกย่องเมื่อเราทำได้ดีในงานรับใช้?
16 เมื่อเราเกิดผลดีในงานรับใช้ ใครควรได้รับการยกย่อง? ตอนที่เปาโลเขียนจดหมายถึงประชาคมโครินธ์ เขาบอกว่า “ผมปลูก อปอลโลรดน้ำ แต่พระเจ้าทำให้เติบโต คนที่ปลูกกับคนที่รดน้ำจึงไม่สำคัญอะไร พระเจ้าผู้ทำให้เติบโตนั้นต่างหากที่สำคัญ” (1 คร. 3:6, 7) เหมือนกับเปาโล เราควรยกย่องพระยะโฮวาเสมอเมื่อเราทำได้ดีในงานรับใช้
17. เราจะแสดงอย่างไรว่าเห็นค่าที่ได้เป็น “เพื่อนร่วมงาน” ของพระเจ้า พระคริสต์ และทูตสวรรค์?
17 เราจะแสดงอย่างไรว่าเห็นค่าสิทธิพิเศษที่ได้เป็น “เพื่อนร่วมงาน” ของพระเจ้า พระคริสต์ และทูตสวรรค์? เราทำได้โดยใช้ทุกโอกาสประกาศข่าวดีอย่างกระตือรือร้น เราอาจทำอย่างนั้นได้ในหลายวิธี เช่น ประกาศทั้งในที่ “สาธารณะและตามบ้าน” (กจ. 20:20) นอกจากนั้น หลายคนมีโอกาสประกาศแบบไม่เป็นทางการด้วย เมื่อพวกเขาเจอคนแปลกหน้า พวกเขาจะพยายามทักทายอย่างเป็นกันเองและพูดคุยกับคนนั้น ถ้าเจอคนที่เต็มใจคุยด้วย พวกเขาก็จะหาวิธีพูดเกี่ยวกับเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าในแบบที่คนนั้นสนใจ
18-19. (ก) เราจะรดน้ำเมล็ดความจริงได้อย่างไร? (ข) ขอยกตัวอย่างว่าพระยะโฮวาช่วยนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลคนหนึ่งอย่างไร
18 ถ้าเราเป็น “เพื่อนร่วมงานของพระเจ้า” เราจะไม่เอาแต่หว่านเมล็ดความจริงเท่านั้นแต่เราจะรดน้ำด้วย ถ้าเราเจอคนที่สนใจ เราจะพยายามเต็มที่เพื่อกลับไปเยี่ยมเขาหรืออาจขอให้คนอื่นช่วยกลับไปเยี่ยมเพื่อเริ่มศึกษา เมื่อเราเห็นนักศึกษาคัมภีร์ไบเบิลก้าวหน้า เราก็มีความสุขที่เห็นว่าพระยะโฮวาช่วยเขาให้เปลี่ยนความคิดและความรู้สึกของเขา
19 ขอให้คิดถึงประสบการณ์ของราฟาลาลาเนที่เป็นหมอผีในแอฟริกาใต้ เขาชอบสิ่งที่เรียนจากคัมภีร์ไบเบิล แต่เขาเจอปัญหาใหญ่เมื่อรู้ว่าคัมภีร์ไบเบิลพูดอย่างไรเกี่ยวกับการติดต่อพูดคุยกับคนตาย (ฉธบ. 18:10-12) ต่อมาเขาก็ค่อย ๆ ยอมให้พระเจ้าเปลี่ยนความคิดของเขา ในที่สุดเขาเลิกเป็นหมอผีซึ่งหมายความว่าเขาต้องเลิกอาชีพที่เขาทำเพื่อหาเลี้ยงตัวเอง ราฟาลาลาเนซึ่งตอนนี้อายุ 60 แล้วบอกว่า “ผมขอบคุณพยานพระยะโฮวาที่ช่วยผมเยอะมาก พวกเขาช่วยผมหางานใหม่ และสำคัญที่สุด ผมขอบคุณพระยะโฮวาที่ช่วยผมให้เปลี่ยนชีวิต จนตอนนี้ผมไปประกาศตามบ้านและรับบัพติศมาเป็นพยานพระยะโฮวาแล้ว”
20. คุณตั้งใจจะทำอะไร?
20 บทความนี้พูดถึงของขวัญ 4 อย่างที่เรามองไม่เห็น ของขวัญยอดเยี่ยมที่สุดคือสิทธิพิเศษที่มีพระยะโฮวาเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของเรา นี่ช่วยให้เราได้รับประโยชน์จากของขวัญที่มองไม่เห็นอย่างอื่นด้วย ซึ่งก็คือการอธิษฐานถึงพระเจ้า ความช่วยเหลือจากพลังบริสุทธิ์ และความช่วยเหลือจากพระยะโฮวา พระเยซู และทูตสวรรค์ในงานรับใช้ ขอให้เราตั้งใจที่จะแสดงว่าเราเห็นค่าของขวัญที่มีค่าเหล่านี้มากขึ้น และขอให้เราขอบคุณพระยะโฮวาเสมอที่พระองค์เป็นเพื่อนที่ยอดเยี่ยมของเรา
เพลง 145 คำสัญญาของพระเจ้าเรื่องอุทยาน
^ วรรค 5 บทความที่แล้วเราได้คุยกันถึงของขวัญและสิ่งมีค่าหลายอย่างจากพระยะโฮวาที่มองเห็นได้ บทความนี้เราจะมาคุยกันถึงของขวัญและสิ่งมีค่าที่มองไม่เห็น และดูว่าเราจะแสดงว่าเห็นค่าของขวัญและสิ่งมีค่าที่พระยะโฮวาให้เราได้อย่างไร นี่จะช่วยเราให้เห็นค่าพระองค์มากขึ้นที่ให้สิ่งมีค่านี้กับเรา
^ วรรค 58 คำอธิบายภาพ (1) พี่น้องหญิงคิดใคร่ครวญเกี่ยวกับการได้เป็นเพื่อนกับพระยะโฮวาตอนที่ดูสิ่งที่พระองค์สร้าง
^ วรรค 60 คำอธิบายภาพ (2) เธออธิษฐานขอกำลังจากพระยะโฮวาเพื่อจะประกาศ
^ วรรค 62 คำอธิบายภาพ (3) พลังบริสุทธิ์ช่วยเธอให้กล้าประกาศเรื่องรัฐบาลของพระเจ้าแบบไม่เป็นทางการ
^ วรรค 64 คำอธิบายภาพ (4) เธอศึกษาคัมภีร์ไบเบิลกับคนที่เธอประกาศแบบไม่เป็นทางการ ทูตสวรรค์ช่วยพี่น้องหญิงคนนี้ให้ประกาศและสอนคนให้เป็นสาวก
หอสังเกตการณ์ (ฉบับศึกษา)